สงขลา

สงขลา

✨สงขลา : เที่ยว กิน เช็กอิน…ถิ่นประวัติศาสตร์✨

✨วันนี้บัดดี้พาทุกท่านมาเที่ยวจังหวัดสงขลา เมืองใหญ่สองทะเลแห่งดินแดนใต้ที่มีประวัติการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์มากว่าพันปี โดยรู้จักในนาม “เมืองสงขลา” จากการพบการตั้งเมืองในสามพื้นที่หลัก คือ เมืองสงขลาเขาแดง หรือซุนกูหน่า มีเกาะแมว เกาะหนู อยู่หน้าเมือง ราวปี พ.ศ. 2140 เป็นยุครุ่งเรืองที่มีการสร้างท่าเรือค้าขายกับชาวต่างชาติด้วยนโยบายการค้าเสรีปลอดภาษี เมืองสงขลาแหลมสน สมัยปี พ.ศ. 2242 เมืองสงขลาถูกโอนไปขึ้นกับเมืองนครศรีธรรมราช เมืองสงขลาบ่อยาง สมัยปี พ.ศ. 2379 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 3 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ย้ายเมืองสงขลามาที่ตำบลบ่อยาง และพระราชทานเสาหลักเมืองฝังไว้กลางเมืองสงขลา 🥰 🌿เมืองสงขลาจึงถูกขยาย มีความเจริญรุ่งเรืองขึ้น และมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมทั้งไทย จีน มุสลิม ด้วยความเติบโตของเมืองแต่ยังคงรักษาวัฒนธรรมและเขตเมืองเก่าไว้อย่างดีทำให้ปัจจุบัน สงขลา เป็นหมุดหมายให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ เดินทางมาท่องเที่ยว ค้นหา เรียนรู้ประวัติศาสตร์กันอย่างแพร่หลาย พร้อมกันนี้ สงขลา ยังได้รับคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ปี พ.ศ. 2568 และมีโอกาสที่จะได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกด้วย เกริ่นเรื่องจังหวัดสงขลามาพอสมควร ตอนนี้บัดดี้จะพาทุกท่านไปเที่ยว กิน เช็กอินถิ่นประวัติศาตร์ ใน 1 วัน ตามมาได้เลย😘 👉โชคดีแต่เตี้ยม บะกุ๊ดเต๋ หาดใหญ่👉สวนประวัติศาสตร์ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์👉เกาะยอ👉หาดชลาทัศน์ โชคดีแต่เตี้ยม บะกุ๊ดเต๋ หาดใหญ่ ร้านนี้เป็นร้านเก่าแก่ที่เปิดต้อนรับลูกค้ามากว่า 29 ปี ร้านที่เราไปอยู่บนสองฝั่งถนนของซอยละม้ายสงเคราะห์ ทุกเช้าจะเห็นทั้งผู้คนในพื้นที่ นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ มาทานติ่มซำเป็นมื้อเช้า รับคิวก่อนเข้าร้านด้วย มีระบบจัดการคิวที่ดี ถึงสงขลาแล้วต้องมากินให้ได้ บัดดี้สั่ง “ติ่มซำ” อาหารชิ้นเล็ก ๆ น่ารัก ๆ พอดีคำมาหลากหลายชนิด ตอนพนักงานมาเสิร์ฟนี่เพิ่งออกจากหม้อนึ่งร้อน ๆ ควันโขมง กลิ่นหอมฉุย มีทั้งขนมจีบ ฮะเก๋า สาหร่ายห่อกุ้ง ปลานึ่งซีอิ๊ว กระดูกหมูน้ำแดง ข้าวโพดอ่อนหมูเด้ง แต่เตี้ยม ฯลฯ จิ้มน้ำจิ้มสูตรเด็ดของร้าน อร่อยยยยยย ยังมีซาลาเปา ปาท่องโก๋อีก ฟินนนนน ยังไม่พอมีบะกุ๊ดแต๋ ซุปซี่โครงหมูตุ๋นยาจีน ซดน้ำร้อน ๆ คล่องคอดีนะ เปิดบริการ 2 รอบเวลา 06.00-11.30 น. และ 17.00-21.00 น. มีวันหยุดเดือนละ 2 วัน แจ้งผ่านเฟซบุ๊กโทร. 08 0525 9623 ที่ตั้ง 58/25 ซอยละม้ายสงเคราะห์ 1 อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาพิกัด https://goo.gl/maps/qvYsbTC5vYEH8LAcA สวนประวัติศาสตร์ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ สงขลา “เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน” เป็นคำพูดของ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่เป็นปณิธานที่ท่านได้นำมากล่าวถึงอยู่เสมอ ให้ชาวไทย ลูกหลานได้ตระหนักให้ทำสิ่งดีงาม ทำคุณประโยชน์ให้แผ่นดิน สวนประวัติศาสตร์นี้ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 140 ไร่ ชาวสงขลาและผู้ศรัทธาร่วมกันสร้างขึ้นเพื่อเชิดชูเกียรติแก่ท่าน ปัจจุบันเป็นแหล่งเรียนรู้ที่สะท้อนวิธีคิด สมควรนำไปเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต การกตัญญูรู้คุณบิดา มารดา ครูอาจารย์ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดสงขลา มีพื้นที่ที่น่าสนใจ 3 ส่วน ได้แก่ 1. หอประวัติ นำเสนอเรื่องราวชีวประวัติของ ฯพณฯ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ โดยวิทยากรจะเป็นผู้นำชม พร้อมตื่นตาตื่นใจไปกับนิทรรศการและสื่อผสมผสานที่ทันสมัยหลากหลายห้อง บริเวณชั้นล่าง แบ่งพื้นที่จัดแสดงเล่าเรื่องราวตั้งแต่วัยเยาว์ การเข้าเรียนในชั้นปฐมวัย โรงเรียนมหาวชิราวุธ สวนกุหลาบวิทยาลัย นักเรียนนายร้อย จนถึงการเข้ารับราชการทหาร และการเข้าสู่เส้นทางการเมือง ในส่วนของชั้นบน จัดแสดงเป็นห้องนายกรัฐมนตรี (คนที่ 16) นำเสนอภาพและสื่อวีดิทัศน์ในช่วงเวลาที่ต้องเผชิญกับปัญหาหลายด้าน แต่ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ สามารถแก้ไขปัญหาสำคัญของชาติไปได้ ไปจนถึงจุดสำคัญและสูงสุดในชีวิตคือได้รับการโปรดเกล้าฯ จากพระมหากษัตริย์ แต่งตั้งให้เป็นประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ สามารถเยี่ยมชมได้เป็นหมู่คณะเท่านั้น โดยจองผ่านเว็บไซต์ www.generalprempark.com (กรุณาจองล่วงหน้า 2 วัน) มีบริการวันละ 6 รอบ รอบแรกเวลา 09.30 น. รอบสุดท้ายเวลา 14.30 น. เปิดบริการวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09.30-16.30 น. หยุดวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 2. สวนพฤกษศาสตร์ เปิดเป็นสวนสาธารณะสำหรับทำกิจกรรมสันทนาการต่าง ๆ และพักผ่อนหย่อนใจ เป็นพื้นที่ปลูกพืชพันธุ์ไม้พื้นถิ่น พันธุ์ปาล์ม และพันธุ์ไม้หายาก เพื่อการเรียนรู้ด้านพฤกษศาสตร์และพันธุ์ไม้ทั่วไปที่ปลูกไว้เพื่อความร่มรื่นและสวยงาม มีบริการรถจักรยานให้เช่า เปิดทุกวันเวลา 06.00-20.00 น. 3. ศูนย์การเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลน เป็นพื้นที่ที่มีบึงน้ำขนาดใหญ่ เพาะเลี้ยงพันธุ์ปลา มีสะพานเดินชมธรรมชาติ สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่นำชมได้เช่นกันนอกจากนี้ยังมีบริการห้องพัก ห้องประชุม รถรางนำชมสถานที่ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมดนตรีในสวนทุกวันอาทิตย์ (สัปดาห์ที่สองของเดือน) ที่ตั้ง 888 หมู่ที่ 2 ตำบลพะวง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลาโทร. 0 7433 0268พิกัด https://goo.gl/maps/iT9S2STtM8rU74jA9 เกาะยอ เป็นเกาะที่อยู่กลางทะเลสาบสงขลา พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นไหล่เขาและที่ราบตามเชิงเขา เป็นแหล่งเลี้ยงปลาในกระชังที่มีชื่อเสียงของทะเลสาบสงขลา มีร้านอาหารที่อร่อย ๆ มากมาย พร้อมชมบรรยากาศธรรมชาติที่สวยงาม เราไปแวะกินส้มตำร้านส้มตำป้าเอียด หากมีเวลาเพิ่มขึ้นสามารถมานอนโฮมสเตย์ได้นะคะ พิกัด https://goo.gl/maps/HKqUwTsdwFQpYKpGA หาดชลาทัศน์ หาดสวยสงขลาที่บัดดี้อยากแนะนำ คือ หาดชลาทัศน์ที่ยาวต่อเนื่องมาจากหาดสมิหลา […]

✨สงขลา : เที่ยว กิน เช็กอิน…ถิ่นประวัติศาสตร์✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ เขาคอหงส์ จ.สงขลา ✨

เขาคอหงส์ เป็นทั้งเทือกเขาและผืนป่าใหญ่ของหาดใหญ่ ทอดตัวอยู่ในแนวทิศเหนือ-ใต้ ตั้งอยู่ในพื้นที่ของสวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่ ที่ดัดแปลงพื้นที่จากภูเขาทั้งลูกให้เป็นสวนสาธารณะ โดยมีเนื้อที่กว่า 900 ไร่ ภายในมีทั้งจุดชมวิวมุมสูง ร้านกาแฟ จุดกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และจุดชมธรรมชาติ ให้ทั้งคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวมาพักผ่อนได้ตามอัธยาศัย โดยเฉพาะในช่วงเย็นจะมีคนมาวิ่งออกกำลังกายขึ้นเขากันหลายคน ภายในสวนสาธารณะสามารถขับรถยนต์เข้าชมได้ตั้งแต่ข้างล่างไปจนถึงยอดเขา ระหว่างทางขึ้นเขา เพื่อน ๆ สามารถแวะสักการะ “พระโพธิสัตว์กวนอิมเขาคอหงส์” ซึ่งเป็นรูปสลักปางประทานพร สูง 9.9 เมตร แกะสลักจากหินหยกขาว จำนวน 8 ท่อนโดยช่างชาวจีน ใต้รูปสลักฐานพระโพธิสัตว์กวนอิม เป็นอาคารตำหนักทรงแปดเหลี่ยม เสากลางภายในรายล้อมด้วยรูปปั้นพระโพธิสัตว์ขนาดเล็ก ประมาณ 1,000 องค์ ไฮไลต์ของที่นี่อยู่บนยอดเขา เป็นจุดชมวิวที่สามารถชมวิวของเมืองหาดใหญ่แบบพาโนรามาได้จากมุมสูง จากจุดนี้เพื่อน ๆ จะเห็นวิวสีเขียวของผืนป่า ทะเลสาบสงขลา และผังเมืองของหาดใหญ่ได้อย่างชัดเจน รวมถึงยังเป็นที่ประดิษฐานของพระพทุธรูปประจำเมืองหาดใหญ่ “พระพุทธมงคลมหาราช” พระพุทธรูปปางห้ามญาติที่มีความสูง 19.9 เมตร ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกัน อีกหนึ่งไฮไลต์ของการมาที่นี่คือการนั่ง “หาดใหญ่เคเบิ้ลคาร์” กระเช้าลอยฟ้าแห่งแรกของประเทศไทย ที่จะพาเพื่อน ๆ นั่งจากจุดชมวิวไปยังเขาคอหงส์ มีระยะทางกว่า 525 เมตร บรรทุกผู้โดยสารได้ครั้งละ 8 คน ที่สำคัญใช้เวลาเดินทางต่อรอบไม่เกิน 3 นาที เมื่อข้ามมาแล้ว จะพบลานที่เป็นที่ประดิษฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในศาสนาฮินดู ทั้งท้าวมหาพรหม พระศิวะ พระพิฆเนศ รวมไปถึงพญาครุฑและช้างเอราวัณ เขาคอหงส์ ถือเป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวที่รวบรวมความเชื่อความศรัทธาของหลากวัฒนธรรม ทั้งของชาวไทยพุทธ ชาวไทยที่นับถือศาสนาฮินดู และชาวไทยเชื้อสายจีน ไว้ด้วยกันในแหล่งพักผ่อนหย่อนใจกลางเมืองหาดใหญ่ได้อย่างพอดิบพอดี ซึ่งหากใครมีเวลาหรือมีโอกาสได้ไปเที่ยวหาดใหญ่ ที่นี่เป็นอีกสถานที่ที่ไม่ควรพลาดชม ข้อมูลเพิ่มเติม สวนสาธารณะหาดใหญ่ ตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เปิดทำการทุกวันเวลา 06.00-20.00 น. กระเช้าลอยฟ้าเปิดให้บริการวันอังคาร-วันเสาร์ 09.00-16.00 น. 0 7420 0000 ค่าบริการ : ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท / ข้าราชการ นักเรียน นักศึกษาที่สวมเครื่องแบบ 50 บาทและชาวต่างชาติ 200 บาทhttps://goo.gl/maps/NFJj1eoZB6t91bxL9

✨ เขาคอหงส์ จ.สงขลา ✨ อ่านเพิ่มเติม

🔸ย่านเมืองเก่าสงขลา 🔸

ย่านนี้มีถนนสายสำคัญ 3 สาย คือ ถนนนครนอก ถนนนครใน และถนนนางงาม ในเขตเทศบาลนครสงขลา เป็นถนนที่เต็มไปด้วยอาคารซึ่งมีสถาปัตยกรรมงดงามและยังคงเอกลักษณ์ดั้งเดิมไว้ ทั้งตึกเก่าสไตล์ชิโน-โปรตุกีส และตึกแถวแบบจีนพาณิชย์ จุดเริ่มต้นของการเดินชมย่านเมืองเก่าสงขลา เริ่มต้นจากประตูเมืองสงขลาไปตามถนนนครนอก ซึ่งเป็นถนนเลียบริมทะเลสาบสงขลา สุดปลายถนนมีโรงสีเก่าทาสีแดงทั้งหลัง เรียกว่า “หับ โห้ หิ้น” ปัจจุบันเป็นที่จัดแสดงนิทรรศการถาวรเรื่องราวเมืองเก่าสงขลา ถัดมาคือ ถนนนครในและถนนนางงาม เป็นแหล่งรวมของร้านอาหารคาวหวานท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงหลายสิบปี ทั้งร้านขายขนมไทยที่หารับประทานได้ยาก เช่น ขี้มอด ทองเอก ข้าวฟ่างกวน ขนมกระบอก ขนมบูตู สำปันนี อีกทั้งยังมีร้านไอศกรีม ร้านข้าวสตู และร้านกาแฟโบราณ ฯลฯ นอกจากนี้สามารถเดินชมภาพวาดสตรีทอาร์ตตามผนังบ้านเรือนบนถนนเส้นต่าง ๆ โดยแต่ละภาพสะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตของคนในพื้นที่

🔸ย่านเมืองเก่าสงขลา 🔸 อ่านเพิ่มเติม

✨เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืด ✨

ในอดีต ดวงดาวมีความสำคัญมาก เพราะใช้เพื่อการหาทิศทาง บอกฤดูกาล บอกเวลา หรือแม้แต่มองหาความงดงามในยามค่ำคืน แต่จากวิวัฒนาการของโลกปัจจุบันที่ทำให้มีแสงสว่างในยามค่ำคืนมากขึ้น จนทำให้มองเห็นดาวยากขึ้นกว่าในอดีต จนหลายคนลืมเลือนความสำคัญของดวงดาวและท้องฟ้ายามค่ำคืน วันนี้แอดเลยอยากจะมาแนะนำ “เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืด” สถานที่ท่องเที่ยวที่รณรงค์ให้สังคมตระหนักถึงผลกระทบจากการใช้แสงสว่าง และเป็นที่เรียนรู้ด้านดาราศาสตร์ มาให้เพื่อน ๆ ได้รู้จัก ใครเป็นสายดูดาวลองตามมาอ่านกัน โครงการ Amazing Dark Sky In Thailand เกิดจากการร่วมมือของ ททท. และสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ที่ต้องการเสนอแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถให้ประสบการณ์การเรียนรู้ทางด้านดาราศาสตร์ (Dark Sky Tourism) ซึ่งสถานที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียน จะต้องมีการบริหารจัดการแสงสว่างที่ดี มีความมืดของท้องฟ้าที่เหมาะสม มีพื้นที่เปิดโล่งมองเห็นวัตถุท้องฟ้าเด่น ๆ ได้ด้วยตาเปล่า มีบุคลากรในพื้นที่ที่สามารถให้ความรู้ทางดาราศาสตร์เบื้องต้น และมีสิ่งอำนวยความสะดวกตั้งแต่เส้นทางคมนาคม ห้องน้ำ ที่พัก ไปจนถึงร้านอาหาร ให้ผู้มาใช้บริการด้วย เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในประเทศไทย แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ 1. อุทยานท้องฟ้ามืด Dark Sky Park เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ที่จะจำกัดการใช้แสงสว่างยามค่ำคืนเพื่อรักษาความมืดบนท้องฟ้าให้มีความเหมาะสมต่อการชมท้องฟ้า มีการรักษาสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมต่อการอยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตและระบบนิเวศในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ โดยปัจจุบันมีสถานที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนดังนี้ 1.อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง จ.เชียงใหม่ 2.อุทยานแห่งชาติผาแต้ม จ.อุบลราชบุรี 3.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว-ทุ่งกระมัง จ.ชัยภูมิ 4.อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จ.ชัยภูมิ 5.อุทยานแห่งชาติภูแลนคา จ.ชัยภูมิ *สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://darksky.narit.or.th/darkskyreserve/dsp/ 2. ชุมชนอนุรักษ์ท้องฟ้ามืด Dark Sky Communities เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืด ในพื้นที่ชุมชน ที่ได้รับการร่วมมือและสนับสนุนจากประชาชนในพื้นที่ในการรักษาและสงวนท้องฟ้าในเวลากลางคืนให้มีความมืดที่เหมาะสม ปัจจุบันมี 1 ชุมชนคือ ชุมชนออนใต้ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ *สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://darksky.narit.or.th/darkskyreserve/communities/ 3. เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดส่วนบุคคล Dark Sky Properties เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในพื้นที่ส่วนบุคคล เช่น รีสอร์ท ฟาร์ม หรือ ศูนย์การเรียนรู้ต่าง ๆ ที่นอกจากจะมีการอนุรักษ์ท้องฟ้าให้มืดจากการใช้แสงสว่างตอนค่ำอย่างระมัดระวังแล้ว สถานที่ต้องมีความปลอดภัย เดินทางสะดวก มีสิ่งอำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่สนใจ มีกิจกรรมที่สร้างความตระหนักถึงผลกระทบของมลภาวะทางแสงและมองเห็นดวงดาวในท้องฟ้ายามค่ำคืนได้ด้วยตาเปล่า ปัจจุบันมีสถานที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียน คือ 1.ไร่องุ่นไวน์ อัลซิตินี่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา 2.โรงแรมเรนทรี เรซิเดนซ์ เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา 3.สนามมวกเหล็ก เอทีวี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา 4.บ้านไร่ยายพลู อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี 5.เดอะเปียโน รีสอร์ท อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา 6.ไร่องุ่นไวน์กราน-มอนเต้ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา *สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://darksky.narit.or.th/darkskyreserve/private 4. เขตอนุรักษ์ท้องฟ้าในพื้นที่ชานเมือง Dark Sky Suburbs เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืด ในพื้นที่ชานเมือง มีลักษณะเป็นลานโล่ง สามารถจัดกิจกรรมการสังเกตการณ์ท้องฟ้าได้โดยรอบ มีการใช้แสงสว่างอย่างเหมาะสมต่อการใช้งาน มีความปลอดภัยและสิ่งอำนวย ความสะดวกแก่ผู้ที่มาใช้บริการ ปัจจุบันมีพื้นที่ในเขตชานเมืองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนคือ 1.อุทยานดาราศาสตร์สิรินธร จ.เชียงใหม่ 2.หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติฯ จ.นครราชสีมา 3.หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติฯ จ.ฉะเชิงเทรา 4.หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติฯ จ.สงขลา *สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://darksky.narit.or.th/darkskyreserve/suburbs นอกจากนี้ แอดอยากแนะนำคู่มือท่องเที่ยว “ชวนเธอ ไปชมดาว” ที่มีการอ้างอิงข้อมูลเชิงดาราศาสตร์มากำหนดเส้นทางท่องเที่ยว ให้เพื่อน ๆ ที่สนใจเรื่องการดูดาวได้ศึกษาและใช้เป็นข้อมูล โดยสามารถดาวน์โหลดหนังสือคู่มือการท่องเที่ยวดูดาวในรูปแบบ e-book ได้ที่ : https://www.madamscreator.com/ebook/Amazing-Dark-Sky/ สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.NARIT.or.th หรือ โทร. 08 1885 4353

✨เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืด ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ แนะนำมัสยิดสวยแดนใต้ ✨

มัสยิดในแดนใต้หลายแห่งขึ้นชื่อว่ามีสถาปัตยกรรมที่สวยงามอลังการมาก ๆ เท่าที่แอดได้เห็นก็ประทับใจไปหมดทุกที่ หากใครมีโอกาสแวะมาเที่ยวทางใต้ แอดก็อยากให้ลองมาตามรอยเพื่อชมของจริงด้วยตาตัวเองกัน  มัสยิดกลางสงขลา (มัสยิดกลางดิย์นุลอิสลาม) จ.สงขลา  เป็นมัสยิดที่มีลักษณะสถาปัตยกรรมคล้ายกับทัชมาฮาลที่ประเทศอินเดีย ด้านหน้ามีสระน้ำยาวกว่า 200 เมตร ภายในตกแต่งสวยงาม ประณีตอ่อนช้อย พื้นปูด้วยหินอ่อน มีความโอ่โถง เหมาะกับการทำพีธีกรรมทางศาสนาและทำจิตใจให้สงบ ในช่วงพระอาทิตย์ตก ที่นี่จะสวยเป็นพิเศษ จึงมีเหล่าช่างภาพที่ชอบถ่ายภาพสถาปัตยกรรมสวย ๆ นิยมเดินทางมาเก็บภาพกัน หากเพื่อน ๆ อยากชม “ทัชมาฮาล” แต่ยังไม่มีโอกาสได้ไปประเทศอินเดีย สามารถลองมาที่นี่ก่อนได้นะ : 352 ถนนลพบุรีราเมศวร์ ตำบลคลองแห อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา 90110 : 08.30-15.30 น. (ปิดวันศุกร์) : 0 7430 5300 : https://goo.gl/maps/AFcrko6qhkZ3XAM7A  มัสยิดกรือเซะ (มัสยิดสุลต่านมูซัฟฟาร์ชาห์) จ.ปัตตานี  เป็นมัสยิดเก่าแก่อายุกว่า 200 ปี คาดว่าน่าจะสร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 22 มัสยิดกรือเซะมีอีกชื่อว่า “มัสยิดปิตูกรือบัน” ซึ่งมาจากรูปทรงของประตูมัสยิด ที่มีลักษณะเป็นวงโค้งแหลมแบบโกธิค โดยคำว่า ปิตู แปลว่า ประตู ส่วนคำว่า กรือบัน แปลว่า ช่องประตูที่มีรูปโค้ง ส่วนที่มัสยิดสร้างไม่เสร็จนั้น จากการสำรวจของกรมศิลปากร พบว่าโครงสร้างโดมนั้นมีลักษณะไม่แข็งแรง ขาดความสมดุล จึงทำให้พังทลาย ประกอบกับช่วงนั้นผู้ปกครองเมืองได้ย้ายศูนย์กลางเมืองไปยังบานาและจะบังติกอ มัสยิดกรือเซะจึงถูกทิ้งให้ร้างไป  ในปี พ.ศ. 2478 กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานและทำการบูรณะซ่อมแซม เพื่อให้มัสยิดกรือเซะ ยังคงสภาพเป็นโบราณสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองปัตตานี และสามารถใช้เป็นที่ปฏิบัติศาสนกิจได้ต่อไป ใครสนใจอยากชมมัสยิดที่มีความสวยงามแบบดิบ ๆ หน่อย แอดแนะนำที่นี่เลย : ตลาดเก่าเทศบาลนคร ถนนสิโรรส อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา 95000 : ทุกวัน 24 ชั่วโมง : https://goo.gl/maps/PahKvFQBTbfEL4mc7  มัสยิดกลางปัตตานี จ.ปัตตานี  นอกจากจะเป็นศูนย์รวมจิตใจ และแลนด์มาร์คสำคัญของเมืองปัตตานีแล้ว ที่นี่ยังถือว่าเป็นมัสยิดที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทยอีกด้วย มัสยิดกลางปัตตานีเป็นอีกแห่งที่มีต้นแบบมาจากทัชมาฮาล ประเทศอินเดีย โดยผสมผสานกับลักษณะวิหารแบบตะวันตก ตรงกลางอาคารมียอดโดมขนาดใหญ่ มีทางเดินแยก 2 ด้านซ้ายขวา มีโดมบริวาร 4 ทิศ และมีหอคอยสูงอยู่สองข้าง บริเวณด้านหน้ามัสยิดมีสระน้ำสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ มัสยิดแห่งนี้ออกแบบโดยสถาปนิกกรมศาสนา เพื่อให้เป็นศูนย์กลางในการประกอบศาสนกิจของชาวไทยมุสลิมในภาคใต้ : ตำบลอาเนาะรู อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี 94000 : ทุกวัน 09.30-15.30 น. (ปิดวันศุกร์) : 08 9654 9496 : https://goo.gl/maps/BZRfPje7HaH9wHDv9  มัสยิดวาดีลฮูเซ็น จ.นราธิวาส  มีอีกชื่อหนึ่งว่า มัสยิดตะโละมาเนาะ (มัสยิด 300 ปี) สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2167 โดยผู้อพยพมาจากจังหวัดปัตตานี มัสยิดนี้ จะมีความต่างจากมัสยิดทั่วไปตรงที่ตัวอาคารสร้างด้วยไม้ตะเคียนทั้งหลัง รูปทรงอาคารเป็นแบบไทยพื้นเมืองผสมผสานด้วยศิลปะจีนและมลายู ก่อสร้างตามแบบภูมิปัญญาโบราณ คือใช้ไม้สลักแทนตะปู หลังคาเป็นกระเบื้องดินเผา ตัวผนังจะใช้ไม้ทั้งแผ่นแล้วเจาะหน้าต่าง มีช่องลมแกะเป็นลวดลาย ใบไม้ ดอกไม้สลับลายจีน ปัจจุบันมัสยิดแห่งนี้ยังใช้เป็นสถานประกอบศาสนกิจ หากต้องการเข้าชมภายในต้องได้รับอนุญาตจากโต๊ะอิหม่ามประจำหมู่บ้านก่อน โดยทั่วไปจะสามารถเข้าชมได้บริเวณภายนอกเท่านั้น : ตำบลลุโบะสาวอ อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส 96170 : ทุกวัน 08.00-18.00 น. : 0 7352 2411 : https://goo.gl/maps/WQwjwFwWg1FbShBs6  ข้อควรรู้เรื่องการแต่งกายก่อนเข้าชมมัสยิด  เนื่องจากมัสยิดเป็นศาสนาสถานที่สำคัญของศาสนาอิสลาม หลายที่เปิดให้เข้าชมได้แม้จะนับถือต่างศาสนา ดังนั้นควรแต่งกายให้เกียรติสถานที่ โดยแต่งกายให้สุภาพ ไม่ใส่กางเกงหรือกระโปรงสั้น เสื้อสายเดี่ยว และเสื้อรัดรูป ปัจจุบัน หลาย ๆ แห่งจะมีผ้าคลุมให้นักท่องเที่ยวใช้คลุมเพื่อเข้าชมภายใน 

✨ แนะนำมัสยิดสวยแดนใต้ ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ แจกปฏิทินเที่ยว ปี 2565 ✨

กางปฏิทินเที่ยว ปี 2565 ไปไหนดี? เรามาแจกปฏิทิน พร้อมแนะนำที่เที่ยว ทะเล ภูเขา ธรรมชาติ เที่ยวไทยไปได้ทั้งปี ใกล้จะหมดปีแล้ว คุณเป็นอย่างไรกันบ้างนะ ปี 2564 ได้ไปเที่ยวที่ไหนกันมาบ้างหรือเปล่า ถ้าใครยังไม่ได้ไปเที่ยวพักผ่อนที่ไหนในปีนี้ หรือถ้าไปแล้ว แต่อยากกลับไปอีก เพราะความคิดถึง ต้องเตรียมแพลนรับปีใหม่ 2565 กันได้แล้วนะ เพราะในปี 2565 นี้ เราอยากจะชวนคุณออกไปเที่ยวด้วยกัน หลังจากที่ไม่ได้เที่ยวแบบเต็มที่มานาน โพสต์นี้เราแนะนำที่เที่ยวสวย อันซีน มาให้แล้ว พร้อมกับแจกปฏิทิน ให้คุณได้ดาวน์โหลดแบบฟรี ๆ งานนี้ใครอยากไปเที่ยวสถานที่ไหน ช่วงเดือนอะไร ก็สามารถเตรียมแพลนล่วงหน้าไว้ได้เลย สามารถดาวน์โหลดภาพปฏิทิน และทำ E-Card ส่งต่อความสุขและความห่วงใยให้กับคนที่เรารัก ไปด้วยกัน โดยคลิกที่นี่ได้เลย >> https://tatcalendar.com/ นอกจากเว็บไซต์แล้ว ยังมีแอพพลิเคชัน TAT CALENDAR ด้วยนะ สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานกันแบบง่าย ๆ ได้แล้ววันนี้ ทั้งระบบ Android และ iOS ดาวน์โหลดผ่านระบบ Android คลิก : https://bit.ly/3oU23br ดาวน์โหลดผ่านระบบ iOS คลิก : https://apple.co/3GHsjfq พิกัดในภาพ : เจดีย์พระธาตุโบอ่อง กาญจนบุรี ม่อนหมอกตะวัน จังหวัดตาก “ม่อนหมอกตะวัน” เป็นหุบเขาที่มีหมอกตลอดทั้งวัน ตั้งอยู่ที่บ้านป่าหวาย ธรรมชาติแห่งขุนเขายามเช้า ท่ามกลางสายหมอกพริ้วไหว และดอกเสี้ยน ฝรั่งสีบานเย็นสลับขาวที่ผลิดอกสะพรั่งบานเต็มทั่วทิวเขาหากใครที่เข้าไปชมธรรมชาติและสายหมอก ขอให้ช่วยกันรักษาความสะอาดเพื่อธรรมชาติจะได้อยู่กับเราไปนาน ๆ ด้วยนะทุกคน ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องการเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น-ตก ทะเลหมอก และดอกไม้ที่สวยงามตระการตา มีบ้านพัก ลานกางเต็นท์ ร้านอาหาร และบริการหมูกระทะ ทางขึ้นของที่นี่ค่อนข้างชัน เป็นถนนแบบคอนกรีตผสมลูกรัง ด้านบนมีลานกางเต็นท์ ค่ากางเต็นท์ เริ่มต้นหลังละ 200 บาท จะนอนกี่คนก็ได้ เพราะคิดราคาต่อหลัง มีห้องน้ำ มีห้องอาบน้ำแยก พิกัด : บ้านป่าหวาย อ.พบพระ จ. ตากGPS : https://goo.gl/maps/vqKcH9SVkRxJNrDD6 ชุมชนบ้านหัวเขา จังหวัดสงขลา รับชมแสงสุดท้ายของวันทอประกายสีส้มระเรื่อลงมายังผืนน้ำอันกว้างใหญ่ เป็นภาพความงดงามในมุมสูงช่วงเวลาสนธยาของชุมชนประมงพื้นบ้านริมชายฝั่งทะเลสาบสงขลา เราสามารถไปบ้านหัวเขาได้ทั้งทางรถยนต์และทางเรือ แต่เราเลือกที่จะไปทางเรือ เพื่อไปชมพระอาทิตย์ตก ที่ชาวสงขลาบอกว่า เป็นจุดที่สวยที่สุด การนั่งเรือไปบ้านหัวเขา สามารถใช้เรือจ้างที่ดัดแปลงมาจากเรือหาปลา แต่เพิ่มเสื้อชูชีพและการจำกัดจำนวนผู้โดยสาร เพื่อความปลอดภัย เมื่อมาถึงบ้านหัวเขา จะมีรถพ่วงข้างซึ่งเป็นพาหนะท้องถิ่นมารับไปเที่ยวรอบชุมชน พิกัด : บ้านหัวเขา อ.สิงหนคร จ.สงขลาGPS : https://goo.gl/maps/TEmdirkeYi8V9dheA  ​​วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ จังหวัดมุกดาหาร ที่นี่เป็นดินแดนของ องค์พญานาคเจ้าปู่ศรีมุกดา (พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในแผ่นดินไทย ลำตัวเปล่งประกายด้วยสีน้ำเงินเข้มอมเขียว คดเคี้ยวเคียงคู่กับพระพุทธรูปปางมารวิชัยสีขาวที่สวยสง่า สะท้อนถึงพลังศรัทธาอันยิ่งใหญ่ของชาวอีสานแห่งลุ่มน้ำโขง ประดิษฐานโดดเด่นอยู่บนยอดเขามโนรมย์ และมีความเชื่อในการขอพรเกี่ยวกับด้านความโชคดี สุขภาพ ความปลอดภัย และความร่ำรวยเงินทอง บนยอดเขานั้น คุณสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของจังหวัดมุกดาหารได้ ทั้งแม่น้ำโขง และแขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของจังหวัดมุกดาหารที่ควรค่าแก่การมาเยือน พิกัด : วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ อ.เมือง จ.มุกดาหารGPS : https://goo.gl/maps/NHU38NQm1SvgHL6aA  ถ้ำคลัง จังหวัดกระบี่ “ถ้ำคลัง” ผลงานชิ้นเอกของธรรมชาติที่ใช้เวลาสร้างสรรค์กว่าพันปี ภายในโพรงถ้ำอันมืดมิด กลับเปล่งประกายด้วยสระน้ำใสสีมรกตและหินงอกหินย้อยประดับตกแต่งราวกับฉากหลังโรงละคร งดงามจนได้รับการยกย่องว่าเป็นราชาแห่งถ้ำหินปูนเมืองกระบี่ ภายในถ้ำมีโถง 13 ห้องด้วยกัน ด้านในมืดสนิทและเส้นทางซับซ้อน จำเป็นต้องมีไกด์นำทาง ซึ่งก็คือชาวบ้านที่จะคอยบริการพาเราเข้าไปชมความงดงามของหินงอกหินย้อยมากมาย ผลึกแก้วสวยงามวาววับ และสระน้ำมรกตที่มีน้ำใสดั่งกระจกถึง 2 แห่งอยู่ภายในถ้ำ การเดินสำรวจถ้ำ สิ่งจำเป็นที่ต้องเตรียมไปคือ ไฟฉาย และต้องติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางให้ด้วย พิกัด : ต.อ่าวลึกน้อย อ.อ่าวลึก จ.กระบี่GPS : https://goo.gl/maps/McxxL13JTCZXiE9M6  อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เขตรอยต่อระหว่างจังหวัดเลย พิษณุโลกและเพชรบูรณ์ สะพานหินธรรมชาติในอ้อมกอดของผืนป่า ถูกปกคลุมด้วยพรมสีเขียวของเฟิร์นและมอส แต่งแต้มสีแดงด้วยใบเมเปิลที่ผลัดใบในช่วงกลางเดือนธันวาคม ถือเป็นหนึ่งในจุดถ่ายรูปไฮไลท์ของอุทยานฯ ที่มีให้ชมเพียงปีละหนึ่งครั้ง นอกจากจุดนี้แล้ว ในอุทยานฯ ยังมีจุดท่องเที่ยวอื่นที่สวยงามอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ‘ลานหินปุ่ม’ ที่มีหินผุดขึ้นมาเป็นปุ่มเป็นปมขนาดไล่เลี่ยกัน สวยแปลกตา ‘ผาชูธง’ เป็นจุดชมทิวทัศน์ได้อย่างกว้างไกล พร้อมทั้งชมพระอาทิตย์ตก ‘น้ำตกผาลาด’ เป็นน้ำตกซึ่งไม่สูงนัก แต่มีน้ำมากตลอดปี เป็นต้น ที่อุทยานฯ ยังมีบ้านพัก เต็นท์ และร้านอาหาร ไว้บริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย พิกัด : อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า อ.ด่านซ้าย จ.เลย อ.นครไทย จ.พิษณุโลก และอ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์GPS : https://goo.gl/maps/kAHoDexZRypXpsDp6  เกาะไผ่ จังหวัดกระบี่ “เกาะไผ่” หรือเกาะไม้ไผ่ เกาะขนาดเล็กกลางทะเลกระบี่ ในวงล้อมของชายฝั่งสีเขียวมรกต หาดทรายขาวละเอียด ทางทิศใต้ของเกาะมีแนวปะการังทอดตัวเป็นวงโค้งสวยงามน่าอัศจรรย์ สมกับฉายาดงปะการังแสนไร่ สวรรค์น้อย ๆ ของคนรักกิจกรรมดำน้ำตื้น พิกัด : อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่GPS : https://goo.gl/maps/E4sj5ZZrZo6qaNju8  วังผาเมฆ จังหวัดตรัง เตรียมกายและใจให้พร้อมขึ้นไปพิชิตยอดเขา จุดชมทัศนียภาพอันกว้างไกลของผืนป่า แมกไม้ สายหมอกที่อาบไล้ด้วยแสงสีทองยามเช้า และภูเขาหินปูนที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้าของท้องทะเลจังหวัดตรัง วังผาเมฆตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าสายควนและป่าอ้ายกลิ้ง บรรยากาศตอนเช้าตรู่จะเป็นทะเลหมอกขาวสะอาดปกคลุมไปทั่วผืนป่าและเมื่อกระทบแสงอาทิตย์ยามเช้า จากหมอกขาวจะกลายเป็นสีเหลืองอร่ามอมส้ม เมื่อขึ้นมาสู่ยอดเขาจะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของผืนป่าที่กว้างใหญ่และอุดมสมบูรณ์ ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหลากหลายชนิด ในขณะที่ทางด้านทิศตะวันตก สามารถมองเห็นปากอ่าวและชายหาดรวมทั้งหมู่เกาะต่าง ๆ บนท้องทะเลอันดามัน ในจังหวัดตรังได้ บริเวณเชิงเขาจัดสร้างประติมากรรมต่าง ๆ

✨ แจกปฏิทินเที่ยว ปี 2565 ✨ อ่านเพิ่มเติม

Songkhla Street Art

Songkhla Street Art.เพื่อนๆ น่าจะเคยเห็น Street Art กันมาบ้างแล้ว แต่สำหรับวันนี้แอดจะชวนเพื่อนๆ มาเดินชม Street Art แถวย่านเมืองเก่าสงขลากัน เมืองเก่าสงขลาเป็นชุมชนเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่ยังคงเอกลักษณ์ดั้งเดิมเอาไว้ ทั้งห้องแถวไม้แบบจีนและตึกเก่าสไตล์ชิโน-โปรตุกีส (Sino-Portuguese) เดิมย่านเมืองเก่ามีถนน 2 สาย คือ “ถนนนครนอก” เป็นถนนเส้นนอกที่ติดกับทะเลสาบสงขลา และ “ถนนนครใน” เป็นถนนเส้นในที่ขนานกับถนนนครนอก ต่อมามีการตัดถนนอีกสายหนึ่งคือ “ถนนนางงาม” ซึ่งปัจจุบันเป็นแหล่งรวมร้านอาหารต่างๆ มากมาย ในอดีตย่านนี้เป็นย่านการค้าที่คึกคัก เพราะเป็นจุดจอดเรือประมงและเรือสินค้าที่เข้ามาค้าขายนั่นเอง อาคารบ้านเรือนแถบนี้มีอายุยาวนานกว่าร้อยปี มีทั้งห้องแถวไม้แบบจีนชั้นเดียวและสองชั้น บ้างก็เป็นตึกแถวก่ออิฐถือปูน นอกจากความสวยงามของสถาปัตยกรรมในย่านเมืองเก่าแล้ว เรายังสามารถเพลิดเพลินกับ Street Art ตามผนังบ้านหรืออาคารต่างๆ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตของผู้คนในพื้นที่ บอกเลยว่าเดินถ่ายรูปเพลินสุดๆ ภาพเด็ก 3 เชื้อชาติ ไทย จีน และมุสลิม เป็นตัวแทนคน 3 เชื้อชาติที่มาอยู่รวมกันที่นี่ ภาพวิถีชีวิตของชาวบ้านในสมัยก่อน  ภาพสุดคลาสสิกที่ใครมาก็ต้องห้ามพลาดชม กับภาพอาแปะเปิดประตูยื่นหมวกกันน็อค แอดบอกเลยว่าแต่ละภาพมีเสน่ห์และเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สวยงามมากๆ Street Art ย่านเมืองเก่าสงขลายังมีอีกมากมายหลายจุด ซึ่งเราสามารถเดินชมความสวยงาม ความเท่ และความฮิปกันได้เพลินๆ เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 30 ธันวาคม 2562

Songkhla Street Art อ่านเพิ่มเติม

ที่นี่…สงขลา

หาดสมิหลา และแหลมสมิหลา หาดสมิหลาตั้งอยู่ระหว่างแหลมสนอ่อนและแหลมสมิหลา เป็นหาดที่มีถนนเลียบชายหาดและทิวสนร่มรื่นตลอดแนว บริเวณปลายแหลมสมิหลามีรูปปั้นนางเงือกนั่งอยู่บนโขดหิน เรียกกันว่า “เงือกทอง” ถือเป็นสัญลักษณ์ของหาดแห่งนี้ ห่างจากรูปปั้นนางเงือกไปไม่ไกล จะมีรูปปั้นแมวและหนู ที่บอกเล่าตำนานของเกาะหนูและเกาะแมว ซึ่งเราสามารถมองเห็นเกาะทั้ง 2 ได้ชัดเจนจากหาดสมิหลา และบริเวณนี้ยังมีซุ้มประตู “เมืองสงขลา” ไว้ให้เราได้ไปถ่ายรูปเช็คอินเก๋ๆ ว่า ‘เรามาถึงสงขลาแล้วนะ’ อีกด้วย ที่ตั้ง : ตำบลบ่อยาง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา น้ำตกโตนงาช้าง ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง ที่มาของชื่อ “โตนงาช้าง” มาจากชื่อของน้ำตกชั้นที่ 3 ซึ่งเป็นชั้นที่สวยที่สุด คำว่า “โตน” ในภาษาพื้นเมืองแปลว่าน้ำตก ส่วน “งาช้าง” ก็มาจากลักษณะของน้ำตกที่มีสายน้ำไหลแยกผ่านหน้าผาหินลงมาเป็น 2 ทาง มองคล้ายกับงาช้างนั่นเอง น้ำตกโตนงาช้าง ได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกสวยที่สุดของภาคใต้ ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าที่อุดมสมบูรณ์ มีสัตว์ป่านานาชนิดอาศัยอยู่ น้ำตกแห่งนี้มีน้ำตลอดทั้งปี และยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่สามารถเดินเที่ยวชมด้วยตนเองได้อีกด้วย ค่าเข้าชมชาวไทย 20 บาท ชาวต่างชาติ 200 บาท ที่ตั้ง : ตำบลฉลุง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาเปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.โทร. 074 238 518 พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา เป็นอาคารที่มีสถาปัตยกรรมแบบจีนผสมยุโรป อายุกว่า 100 ปี เดิมเป็นบ้านพักส่วนตัวของพระยาสุนทรานุรักษ์ (เนตร ณ สงขลา) นับเป็นพิพิธภัณฑ์ที่สวยงามมากแห่งหนึ่งของไทย ภายในบอกเล่าประวัติความเป็นมาของเมืองสงขลาในยุคต่างๆ การค้าขายกับต่างประเทศ ศิลปกรรม และวิถีชีวิตของชาวสงขลา ผ่านโบราณวัตถุต่างๆ ที่น่าสนใจมากมาย นอกจากนี้ ยังจัดแสดงสิ่งของเครื่องใช้ที่เกี่ยวข้องกับตระกูล ณ สงขลา ซึ่งเป็นตระกูลเจ้าเมืองสงขลาในอดีตด้วย ค่าเข้าชมชาวไทย 30 บาท ชาวต่างชาติ 150 บาทผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป นักเรียนนักศึกษา ภิกษุสามเณร ไม่เสียค่าเช้าชม ที่ตั้ง : ถนนวิเชียรชม ตำบลบ่อยาง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลาเปิดวันพุธ-อาทิตย์ เวลา 09.00-16.00 น. (ปิดวันจันทร์-อังคาร)โทร. 074 311 728 ย่านเมืองเก่าสงขลา มีถนนสายสำคัญที่น่าเดินเที่ยว 3 สาย คือ ถนนนครนอก ถนนนครใน และถนนนางงาม เป็นย่านที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมงดงาม ไม่ว่าจะเป็นห้องแถวไม้แบบจีน และตึกเก่าสไตล์ชิโน-โปรตุกีส ที่ยังคงเอกลักษณ์ดั้งเดิมไว้ ปัจจุบันมีการแต่งเติมเพิ่มสีสันของเมืองเก่าด้วย Street Art ที่สะท้อนวิถีชีวิตของผู้คน ดูแล้วเข้ากันจริงๆ เหมาะแก่การไปเดินถ่ายรูปมากๆ  การเดินชมย่านเมืองเก่าสงขลา แอดแนะนำให้เริ่มจากประตูเมืองสงขลาไปตามถนนนครนอก ซึ่งเป็นถนนเลียบทะเลสาบสงขลา จากนั้นต่อไปยังถนนนครในและถนนนางงามตามลำดับ ที่ตั้ง : ตำบลบ่อยาง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา สถาบันทักษิณคดีศึกษา เป็นพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านที่จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ ศิลปวัฒนธรรม และวิถีชีวิตของชาวใต้ จากจุดชมวิวของสถาบันฯ สามารถมองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามของทะเลสาบสงขลาและสะพานติณสูลานนท์ด้วย ภายในแบ่งการจัดแสดงออกเป็นห้องต่างๆ เช่น ห้องประวัติศาสตร์และชาติพันธุ์ ห้องมีดและศาตราวุธ ห้องแสดงเครื่องมือเครื่องใช้ประกอบอาชีพของชาวใต้ และห้องการละเล่นพื้นบ้าน เป็นต้น ค่าเข้าชมชาวไทย ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 10 บาทชาวต่างชาติ 100 บาท สถาบันทักษิณคดีศึกษาที่ตั้ง : หมู่ที่ 1 บ้านอ่าวทราย ตำบลเกาะยอ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลาเปิดวันจันทร์ และวันพุธ-อาทิตย์ เวลา 08.30-16.30 น. (ปิดวันอังคาร) เกาะยอ เป็นเกาะที่ตั้งอยู่กลางทะเลสาบสงขลาตอนล่าง พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นไหล่เขา และเป็นแหล่งเลี้ยงปลาในกระชังที่มีชื่อเสียงของทะเลสาบสงขลา จึงทำให้มีร้านอาหารทะเลเปิดบริการอยู่หลายร้าน รวมทั้งยังมีที่พักแบบโฮมสเตย์ ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสวิถีชีวิตคนท้องถิ่นอีกด้วย ที่ตั้ง : ตำบลเกาะยอ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลาองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะยอ โทร. 074 450 540 ตลาดกิมหยง เป็นตลาดขายของฝากและของที่ระลึกแห่งใหญ่ มีชื่อเต็มว่า “ตลาดชีกิมหยง” เดิมเป็นโรงภาพยนตร์เก่า ตลาดกิมหยงเป็นอาคาร 2 ชั้น ชั้นบนเป็นร้านขายสินค้าทั่วไป ส่วนชั้นล่างเป็นตลาดขายของแห้ง ซึ่งส่วนใหญ่นำเข้าจากต่างประเทศ เช่น ถั่ว ขนม ผลไม้อบแห้ง ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีสินค้าพื้นเมืองปักษ์ใต้ เช่น ผ้าทอ ผ้าปาเต๊ะ และฮิญาบ เป็นต้น ที่ตั้ง : ถนนศุภสารรังสรรค์ ตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาเปิดทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น. เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 11 ธันวาคม 2562

ที่นี่…สงขลา อ่านเพิ่มเติม

โกงกาง คาเฟ่ เกาะยอ

โกงกางคาเฟ่ เกาะยอ คาเฟ่ชิลๆ วิวธรรมชาติริมทะเลสาบสงขลา ตกแต่งสไตล์ลอฟท์ โทนสีเทาๆ เท่ๆ มีที่นั่งทั้งในห้องแอร์และด้านนอก ที่มาของชื่อร้านก็มาจาก ต้นโกงกาง ที่ตั้งอยู่ด้านหลังของร้านนั่นเอง เมนูของร้านมีทั้งของทานเล่น เค้ก และเครื่องดื่ม แอดปลื้มเค้กเป็นพิเศษ เพราะที่นี่มีให้เลือกเยอะมากเลยค่ะ เริ่มต้นด้วยเค้กช็อกโกแลตหน้านิ่ม ที่หวานกำลังดี กับบลูฮาวายเย็นๆ ทานแล้วสดชื่นนน เฟรนช์ฟรายส์ฟินๆ ก็มา ไปทะเลทั้งทีก็ต้องไม่พลาดเค้กมะพร้าว เค้กเนื้อนุ่ม ไม่หวานจนเกินไป ทานคู่กับช็อกโกแลตสตรอว์เบอร์รี ที่แบ่งชั้นไว้เก๋ๆ แนะนำให้คนก่อนดื่มนะ รสชาติเข้ากันได้ดีเลยล่ะ เดินมาด้านหลังร้านจะมีต้นโกงกาง เป็นมุมถ่ายรูปที่เก๋ไก๋ไม่น้อย บอกเลยอากาศดีมาก .ขอขอบคุณรูปภาพจากเพจ โกงกางคาเฟ่ เกาะยอ บริเวณนี้ติดกับทะเลสาบสงขลา เราสามารถมองเห็นกระชังเลี้ยงปลาของชาวบ้านเกาะยอได้ด้วย มาชมพระอาทิตย์ตกกัน บรรยากาศช่วงโพล้เพล้แบบนี้ก็สวยไปอีกแบบนะ ที่ตั้ง 13 บ้านสวนใหม่ ตำบลเกาะยอ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลาเปิดวันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์)วันอังคาร-ศุกร์ เวลา 11.00-18.00 น.วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-19.00 น.พิกัด https://goo.gl/maps/2KcfHd4HUkVjzeEDA

โกงกาง คาเฟ่ เกาะยอ อ่านเพิ่มเติม

เขาตังกวน : สงขลา

เขาตังกวน ภูเขาที่ตั้งอยู่ในเมืองสงขลา เมื่อขึ้นไปบนยอดเขาจะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองและทะเลสาบสงขลาได้อย่างชัดเจน การขึ้นไปบนยอดเขาตังกวน มี 2 วิธี คือ1. ใช้ลิฟท์โดยสาร (เป็นลิฟท์ระบบทางลาด) ตั้งอยู่ทางด้านหน้าเขา บนถนนสุขุม ซึ่งเป็นถนนที่ตัดผ่านระหว่างเขาตังกวนและเขาน้อย ค่าบริการขึ้น-ลง (ทั้งชาวไทยและต่างชาติ) ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 20 บาท เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.30 – 18.00 น. ใช้เวลา 3 นาที 2. เดินขึ้นบันไดนาค ทางด้านหลังเขา ใกล้กับวัดแหลมทราย ระหว่างทางจะมีจุดพักและจุดชมวิวเป็นระยะ บนเขาตังกวนเป็นที่ตั้งของ “พระธาตุเจดีย์หลวง” เจดีย์เก่าแก่คู่เมืองสงขลา สันนิษฐานว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยอาณาจักรตามพรลิงค์ ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 4 โปรดเกล้าให้พระยาวิเชียรคีรี (เม่น) เจ้าเมืองสงขลา บูรณะปฏิสังขรณ์พระธาตุเจดีย์หลวงให้สูงใหญ่กว่าเดิม พ.ศ.2539 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ได้พระราชทานพระบรมสารีริกธาตุและเครื่องสักการบูชา สำหรับบรรจุไว้ในเจดีย์เพื่อให้ชาวเมืองสงขลาได้กราบไหว้ ด้านหน้าของพระธาตุเจดีย์หลวงเป็นจุดชมวิว ซึ่งมีรูปหล่อหลวงพ่อทวดประดิษฐานอยู่ และยังมีที่ให้คล้องกุญแจคู่รักอีกด้วย  ตรงนี้เราสามารถชมวิวเมืองสงขลาได้แบบ 360 องศาเลย อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ “ศาลาพระวิหารแดง” เป็นพลับพลาที่ประทับที่รัชกาลที่ 4 โปรดเกล้าให้สร้างขึ้นแต่ยังไม่แล้วเสร็จ ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้เสด็จฯ มานมัสการพระธาตุเจดีย์หลวง และมีพระราชศรัทธาให้สร้างต่อจนสำเร็จ มีลักษณะเป็นอาคารโถงชั้นเดียวก่ออิฐถือปูน ศิลปะแบบตะวันตก จากศาลาพระวิหารแดงสามารถชมวิวของทะเลสาบสงขลาได้อีกด้วย ขาตังกวนที่ตั้ง ถนนสุขุม ตำบลบ่อยาง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลาเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 08.30-18.00 น.โทร 074 316 330

เขาตังกวน : สงขลา อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top