สระบุรี

สระบุรี

🌿พิกัด 5 น้ำตกใกล้กรุงฯ🌿

⛅ใครที่กำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวที่จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้าจากการทำงาน อยากชาร์จแบตให้กับตัวเอง วันนี้บัดดี้มี “น้ำตกใกล้กรุงฯ” มาแนะนำ รับรองเลยว่าทุกคนจะได้เพลิดเพลินไปกับความสวยงามของธรรมชาติที่เขียวขจี รู้สึกเย็นฉ่ำชุ่มชื่นหัวใจไปกับสายน้ำ และสูดอากาศบริสุทธิ์กันได้อย่างเต็มปอดเลยทีเดียว 🥰✨ 🌿พิกัด 5 น้ำตกใกล้กรุงฯ👉น้ำตกวังตะไคร้ จังหวัดนครนายก👉น้ำตกนางรอง จังหวัดนครนายก👉สวนรุกขชาติมวกเหล็ก (น้ำตกมวกเหล็ก) จังหวัดสระบุรี👉อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย จังหวัดสระบุรี👉อุทยานแห่งชาติเอราวัณ (น้ำตกเอราวัณ) จังหวัดกาญจนบุรี 🌿น้ำตกวังตะไคร้ น้ำตกวังตะไคร้เกิดจากลำธาร 2 สาย คือน้ำตกแม่ปล้องและน้ำตกเหวกฐิน ไหลมารวมกันที่วังตะไคร้ และเนื่องจากน้ำตกวังตะไคร้จะมีโขดหินน้อยใหญ่สลับกันไปตามลำธาร จึงทำให้น้ำไม่สูงมาก เหมาะสำหรับลงเล่นน้ำ นักท่องเที่ยวนำรถยนต์เข้าไปจอดบริเวณใกล้น้ำตกได้เลย ไม่ต้องเดินไกล สะดวกเป็นอย่างมากสำหรับผู้สูงอายุ และสามารถนำอาหารเข้าไปรับประทานภายในได้อีกด้วยแต่เราต้องช่วยกันดูแลเรื่องความสะอาดด้วยนะ นอกจากนี้ยังนำสัตว์เลี้ยงขนาดเล็กเข้าชมได้ด้วย แต่นักท่องเที่ยวจะต้องดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันการพลัดหลงและงดลงเล่นน้ำในลำธาร 📍 ตำบลสาริกา อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก⏰ เวลาทำการ 08.00-17.00 น.💵 ค่าเข้าชม รถยนต์โดยสารทุกประเภท คันละ 150 บ. (ผู้โดยสารไม่เกิน 8 คน) เกิน 8 คน คิดเพิ่มคนละ 10 บาท / โดยสารด้วยมอเตอร์ไซด์คนละ 50 บาท / สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินเข้าคนละ 20 บาท🌐 https://goo.gl/maps/aDRKyXdCM5ScSGpA8 🌿น้ำตกนางรอง น้ำตกนางรองเป็นน้ำตกขนาดกลางที่มีสายน้ำไหลผ่านชั้นหินลดหลั่นลงมาเป็นชั้น ๆ มีความสูงไม่มากนัก เหมาะสำหรับการมาเล่นน้ำอย่างมาก โดยนักท่องเที่ยวสามารถเลือกเล่นน้ำได้หลายจุด และยังเป็นน้ำตกที่เที่ยวได้ทุกฤดูกาล ยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าดงพงไพรที่เขียวขจี รู้สึกเย็นสบาย เรียกได้ว่าเป็นแหล่งออกซิเจนบริสุทธิ์ชั้นดีเลยทีเดียว 📍 ตำบลหินตั้ง อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก⏰ เวลาทำการ 06.00 – 18.00 น.💵 ค่าเข้าชม รถยนต์พร้อมคนขับ 50 บาท ผู้ใหญ่ 10 บาท เด็กที่สูงไม่เกิน 120 ซม. เข้าฟรี🌐 https://goo.gl/maps/8r6ULdsrCZbZVBhr6 🌿สวนรุกขชาติมวกเหล็ก (น้ำตกมวกเหล็ก) น้ำตกมวกเหล็กอยู่ในพื้นที่สวนรุกขชาติมวกเหล็ก ต้นน้ำเกิดจากป่าในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ไหลผ่านลงสู่แม่น้ำป่าสัก จนเกิดเป็นน้ำตกแห่งนี้ขึ้น น้ำตกมีลักษณะเป็นลำธารและแก่งหินลดหลั่นกันไป บรรยากาศโดยรอบร่มรื่น มีพรรณไม้นานาชนิดให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชม 📍 ตำบลมิตรภาพ อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี⏰ เวลาทำการ 08.30-17.30 น.💵 ค่าเข้าชม ฟรี🌐 https://goo.gl/maps/3ix5tBEUgmoVEsfw8 🌿อุทยานแห่งชาตินํ้าตกเจ็ดสาวน้อย น้ำตกของที่นี่มีลักษณะเป็นน้ำตกเล็ก ๆ 7 ชั้น มีสายน้ำไหลลดหลั่นตามชั้นต่าง ๆ ลงมาเป็นธารน้ำกว้างคล้ายแก่งขนาดใหญ่ ซึ่งอยู่ใกล้กับหมู่บ้านสาวน้อย ทุกคนจึงเรียกน้ำตกแห่งนี้ว่า “น้ำตกเจ็ดสาวน้อย” นั่นเอง สำหรับน้ำตกแห่งนี้มีแอ่งน้ำตื้นใสสะอาดจึงสามารถเล่นน้ำได้หลายจุด 📍 หมู่ 9 ตำบลมวกเหล็ก อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี⏰ เวลาทำการ 08.00 – 17.00 น.💵 ค่าเข้าชม คนไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท / ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท🌐 https://goo.gl/maps/dmnjnro6Bafkweih7 🌿อุทยานแห่งชาติเอราวัณ (น้ำตกเอราวัณ) น้ำตกเอราวัณ เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากและได้รับขนานนามว่า “สวรรค์ 7 ชั้น แห่งกาญจนบุรี” เนื่องจากเป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่และสวยงามมาก โดยแบ่งเป็น 7 ชั้น แต่ละชั้นมีลักษณะเป็นแอ่งสามารถเล่นน้ำได้ 📍 หมู่ที่ 4 ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี⏰ เวลาทำการ 08.00-16.00 น💵 ค่าเข้าชม คนไทย ผู้ใหญ่ 60 บาท เด็ก 30 บาท / ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 150 บาท🌐 https://goo.gl/maps/Gw7gwsqXAsoVdgeU7

🌿พิกัด 5 น้ำตกใกล้กรุงฯ🌿 อ่านเพิ่มเติม

🌳เจ็ดคด โป่งก้อนเส้า : สระบุรี 🌳

🌳ชวนมาเปลี่ยนบรรยากาศจากโต๊ะทำงานมาเป็นชมธรรมชาติกันที่เจ็ดคดโป่งก้อนเส้า ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศจังหวัดสระบุรี ใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงกว่า ๆ จากกรุงเทพมหานครก็ถึงแล้ว ที่นี่มีกิจกรรมให้ทำมากมาย เหมาะกับคนที่กำลังมองหาที่เที่ยววันหยุดสั้น ๆ หรือจะมาพักผ่อนชิล ๆ อยู่กับธรรมชาติอย่างใกล้ชิดก็ได้🌻 🌤ภายในศูนย์ฯ จะแบ่งพื้นที่ออกเป็นศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ร้านค้าสวัสดิการ ลานกางเต็นท์ บ้านพัก และพื้นที่ป่า เรียกได้ว่ามีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเลยทีเดียว ✨ไฮไลต์ห้ามพลาด✨👉น้ำตกเจ็ดคดเหนือ จะต้องเดินเท้าเข้าไปที่เส้นทางศึกษาธรรมชาติซึ่งห่างจากจุดกางเต็นท์ ประมาณ 1.5 กิโลเมตร น้ำตกเล็ก ๆ สามารถลงเล่นน้ำได้ ระหว่างทางเดินอาจมีโอกาสได้เห็น “เห็ดแชมเปญ” เห็ดรูปร่างคล้ายถ้วยสีแดงอมส้ม พบเห็นได้ในช่วงฤดูฝนหรือจุดที่มีความชื้นสูง หากใครเจอแล้วก็อย่าไปจับหรือแตะต้องนะคะ เพื่อให้น้องอยู่กับธรรมชาติไปนาน ๆ👉แคมป์ปิงริมอ่างเก็บน้ำ ที่นี่สามารถกางเต็นท์ได้ โดยเตรียมอุปกรณ์มาเองหรือใครจะมาเช่าของศูนย์ฯ ก็มีไว้บริการ และยังมีบ้านพักไว้บริการ (ต้องติดต่อจองล่วงหน้า)👉ปั่นจักรยานรอบอ่างเก็บน้ำ สายลุยต้องไม่พลาดนะ ที่นี่สามารถมาเที่ยวได้ตลอดปี แต่ละฤดูก็จะมีสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมแตกต่างกันไป เพื่อน ๆ คนไหนมีโอกาสไปเที่ยวอยากให้ช่วยกันรักษาสภาพแวดล้อม และปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เจ้าหน้าที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ธรรมชาติยังคงอยู่อีกนาน ๆ นะคะ🍀 📌หมู่ 5 ตำบลท่ามะปราง อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี⏰เปิดทุกวัน เวลา 06.00 – 20.00 น.📞โทร. 08 9237 8659, 08 0019 2762, 08 5968 3520, 08 9801 4932🌐https://goo.gl/maps/RnDbK8HHmsTNSbmV9 🚗การเดินทางจากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) มุ่งหน้าจังหวัดสระบุรี จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) มุ่งหน้าเข้าตำบลทับกวาง และกลับรถตรงสะพานเกือกม้าหน้าเทศบาลทับกวาง เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงชนบท 1003 (เจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า) ขับไปประมาณ 19 กิโลเมตร เส้นทางจะเป็นเนินขึ้นเขาสลับทางเรียบ ขับขี่กันอย่างระมัดระวังกันด้วยนะคะ

🌳เจ็ดคด โป่งก้อนเส้า : สระบุรี 🌳 อ่านเพิ่มเติม

✨เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืด ✨

ในอดีต ดวงดาวมีความสำคัญมาก เพราะใช้เพื่อการหาทิศทาง บอกฤดูกาล บอกเวลา หรือแม้แต่มองหาความงดงามในยามค่ำคืน แต่จากวิวัฒนาการของโลกปัจจุบันที่ทำให้มีแสงสว่างในยามค่ำคืนมากขึ้น จนทำให้มองเห็นดาวยากขึ้นกว่าในอดีต จนหลายคนลืมเลือนความสำคัญของดวงดาวและท้องฟ้ายามค่ำคืน วันนี้แอดเลยอยากจะมาแนะนำ “เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืด” สถานที่ท่องเที่ยวที่รณรงค์ให้สังคมตระหนักถึงผลกระทบจากการใช้แสงสว่าง และเป็นที่เรียนรู้ด้านดาราศาสตร์ มาให้เพื่อน ๆ ได้รู้จัก ใครเป็นสายดูดาวลองตามมาอ่านกัน โครงการ Amazing Dark Sky In Thailand เกิดจากการร่วมมือของ ททท. และสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ที่ต้องการเสนอแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถให้ประสบการณ์การเรียนรู้ทางด้านดาราศาสตร์ (Dark Sky Tourism) ซึ่งสถานที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียน จะต้องมีการบริหารจัดการแสงสว่างที่ดี มีความมืดของท้องฟ้าที่เหมาะสม มีพื้นที่เปิดโล่งมองเห็นวัตถุท้องฟ้าเด่น ๆ ได้ด้วยตาเปล่า มีบุคลากรในพื้นที่ที่สามารถให้ความรู้ทางดาราศาสตร์เบื้องต้น และมีสิ่งอำนวยความสะดวกตั้งแต่เส้นทางคมนาคม ห้องน้ำ ที่พัก ไปจนถึงร้านอาหาร ให้ผู้มาใช้บริการด้วย เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในประเทศไทย แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ 1. อุทยานท้องฟ้ามืด Dark Sky Park เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ที่จะจำกัดการใช้แสงสว่างยามค่ำคืนเพื่อรักษาความมืดบนท้องฟ้าให้มีความเหมาะสมต่อการชมท้องฟ้า มีการรักษาสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมต่อการอยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตและระบบนิเวศในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ โดยปัจจุบันมีสถานที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนดังนี้ 1.อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง จ.เชียงใหม่ 2.อุทยานแห่งชาติผาแต้ม จ.อุบลราชบุรี 3.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว-ทุ่งกระมัง จ.ชัยภูมิ 4.อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จ.ชัยภูมิ 5.อุทยานแห่งชาติภูแลนคา จ.ชัยภูมิ *สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://darksky.narit.or.th/darkskyreserve/dsp/ 2. ชุมชนอนุรักษ์ท้องฟ้ามืด Dark Sky Communities เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืด ในพื้นที่ชุมชน ที่ได้รับการร่วมมือและสนับสนุนจากประชาชนในพื้นที่ในการรักษาและสงวนท้องฟ้าในเวลากลางคืนให้มีความมืดที่เหมาะสม ปัจจุบันมี 1 ชุมชนคือ ชุมชนออนใต้ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ *สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://darksky.narit.or.th/darkskyreserve/communities/ 3. เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดส่วนบุคคล Dark Sky Properties เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในพื้นที่ส่วนบุคคล เช่น รีสอร์ท ฟาร์ม หรือ ศูนย์การเรียนรู้ต่าง ๆ ที่นอกจากจะมีการอนุรักษ์ท้องฟ้าให้มืดจากการใช้แสงสว่างตอนค่ำอย่างระมัดระวังแล้ว สถานที่ต้องมีความปลอดภัย เดินทางสะดวก มีสิ่งอำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่สนใจ มีกิจกรรมที่สร้างความตระหนักถึงผลกระทบของมลภาวะทางแสงและมองเห็นดวงดาวในท้องฟ้ายามค่ำคืนได้ด้วยตาเปล่า ปัจจุบันมีสถานที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียน คือ 1.ไร่องุ่นไวน์ อัลซิตินี่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา 2.โรงแรมเรนทรี เรซิเดนซ์ เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา 3.สนามมวกเหล็ก เอทีวี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา 4.บ้านไร่ยายพลู อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี 5.เดอะเปียโน รีสอร์ท อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา 6.ไร่องุ่นไวน์กราน-มอนเต้ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา *สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://darksky.narit.or.th/darkskyreserve/private 4. เขตอนุรักษ์ท้องฟ้าในพื้นที่ชานเมือง Dark Sky Suburbs เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืด ในพื้นที่ชานเมือง มีลักษณะเป็นลานโล่ง สามารถจัดกิจกรรมการสังเกตการณ์ท้องฟ้าได้โดยรอบ มีการใช้แสงสว่างอย่างเหมาะสมต่อการใช้งาน มีความปลอดภัยและสิ่งอำนวย ความสะดวกแก่ผู้ที่มาใช้บริการ ปัจจุบันมีพื้นที่ในเขตชานเมืองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนคือ 1.อุทยานดาราศาสตร์สิรินธร จ.เชียงใหม่ 2.หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติฯ จ.นครราชสีมา 3.หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติฯ จ.ฉะเชิงเทรา 4.หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติฯ จ.สงขลา *สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://darksky.narit.or.th/darkskyreserve/suburbs นอกจากนี้ แอดอยากแนะนำคู่มือท่องเที่ยว “ชวนเธอ ไปชมดาว” ที่มีการอ้างอิงข้อมูลเชิงดาราศาสตร์มากำหนดเส้นทางท่องเที่ยว ให้เพื่อน ๆ ที่สนใจเรื่องการดูดาวได้ศึกษาและใช้เป็นข้อมูล โดยสามารถดาวน์โหลดหนังสือคู่มือการท่องเที่ยวดูดาวในรูปแบบ e-book ได้ที่ : https://www.madamscreator.com/ebook/Amazing-Dark-Sky/ สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.NARIT.or.th หรือ โทร. 08 1885 4353

✨เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืด ✨ อ่านเพิ่มเติม

#พระพุทธรูปหินลาวา เป็น 1 ใน 25 Unseen New Series

พระพุทธรูปหินลาวา เป็น 1 ใน 25 Unseen New Series ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตั้งอยู่ที่วัดถ้ำกระบอก สระบุรี ใกล้ ๆ กรุงเทพฯ นี่เอง เพื่อน ๆ ที่ยังไม่เคยไป ลองมาเก็บข้อมูลเบื้องต้นกันค่ะ👇 🗿✨ที่ผ่านมา วัดถ้ำกระบอกเป็นที่รู้จักกันในฐานะสถานบำบัดผู้ติดยาเสพติด แต่ปัจจุบัน มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจขึ้นมาอีกด้วย นั่นคือ พระพุทธรูปหินลาวาขนาดใหญ่นับสิบองค์ ตั้งรายล้อมเป็นวงกลมบริเวณลานกลางแจ้ง องค์พระทั้งหมดเป็นสีเทาเข้ม ๆ ไปจนสีดำ สร้างจากหินแร่ต่าง ๆ จากภูเขาในบริเวณนี้ นำไปหลอมด้วยความร้อนเปรียบเสมือนกับลาวา ถือได้ว่าเป็นแห่งเดียวในเมืองไทยเลยก็ว่าได้ที่มีพระพุทธรูปหินลาวาแบบนี้ ช่วงกลางวัน อากาศอาจจะร้อนสักหน่อย แนะนำให้มาช่วงเช้าถึงสาย ๆ หรือช่วงเย็น บรรยากาศกำลังดีเลยค่ะ 🌤 📍 วัดถ้ำกระบอก ตำบลขุนโขลน อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี 🌐 https://goo.gl/maps/WgVRLEXeKESzPRWd8

#พระพุทธรูปหินลาวา เป็น 1 ใน 25 Unseen New Series อ่านเพิ่มเติม

📍5 พิกัดเล่นน้ำตกใกล้กรุงเทพฯ📍

หน้าร้อนแบบนี้ ต้องจัดทริปเล่นน้ำคลายร้อนกันหน่อยแล้ว วันนี้แอดมีพิกัดน้ำตกใกล้กรุงเทพฯ มาฝาก หากยังไม่แน่ใจว่าจะไปที่ไหนดี ลองเปิดลิสต์ดูเป็นไอเดียได้เลยจ้า ก่อนเดินทาง อย่าลืมลงทะเบียนเข้าชมผ่านแอป QueQ ล่วงหน้ากันด้วยนะ  น้ำตกเอราวัณ – อุทยานแห่งชาติเอราวัณ แหล่งท่องเที่ยวคลายร้อนที่มีชื่อเสียงของจังหวัดกาญจนบุรี แถมยังเป็นจุดหมายปลายทางของชาวต่างชาติด้วย เป็นน้ำตก 7 ชั้น สามารถลงเล่นน้ำได้ นอกจากนี้ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ จุดชมทิวทัศน์ และป่าผลัดใบที่สวยงาม น้ำตกแต่ละชั้นจะมีความสวยงามและพรรณไม้ที่แตกต่างกันออกไป หากเพื่อน ๆ ไปถึงชั้นที่ 7 จะสังเกตเห็นว่า ขณะน้ำตกไหลบ่าจะมีลักษณะคล้ายช้าง 3 เศียร จึงเป็นที่มาของชื่อน้ำตกแห่งนี้นั่นเอง  ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาทตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไปปรับลดค่าธรรมเนียมเป็น ผู้ใหญ่ 60 บาท เด็ก 30 บาท  ค่าจอดยานพาหนะรถจักรยานยนต์ 20 บาท รถยนต์ 30 บาท รถบัส 100 -200 บาท หมู่ที่ 4 ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี  เปิดทุกวัน เวลา 08.30-16.30 น.  034 574 222 https://goo.gl/maps/Bo2NLdVvdjxppTqH6 น้ำตกไทรโยคน้อย – อุทยานแห่งชาติน้ำตกไทรโยค น้ำตกอีกแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นึกถึงเมื่อมาเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี มีต้นกำเนิดเป็นน้ำผุดจากภูเขาแล้วไหลมาตามลำธารเล็ก ๆ ไหลตกลงที่ผาหินปูน แม้จะชื่อน้ำตกไทรโยคน้อย แต่ความสวยงามของน้ำตกแห่งนี้ไม่แผ่วเลยจริง ๆ สามารถเล่นน้ำได้ตลอดทั้งปี  ไม่มีค่าเข้าชม ตำบล ไทรโยค อำเภอไทรโยค กาญจนบุรี  เปิดทุกวัน เวลา 08.30-16.30 น.  034 686 024 https://goo.gl/maps/XkC6yfwMraxYM6PB7  น้ำตกช่องลม – เขื่อนขุนด่านปราการชล น้ำตกใกล้กรุงอีกแห่งหนึ่งที่น่าสนใจ มีทั้งน้ำตกและลำธารไหลผ่านโขดหินน้อยใหญ่ มีต้นน้ำมาจากน้ำตกเหวนรก ในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่ไหลมาเชื่อมต่อกับจุดนี้ เพื่อน ๆ สามารถมาเที่ยวที่นี่ได้ตลอดทั้งปี เดินทางโดยเรือจากเขื่อนขุนด่านปราการชล ซึ่งจะมีให้บริการช่วง 8 โมงเช้าเป็นต้นไป ใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมง หากมาในช่วงนี้ แม้น้ำจะน้อย แต่ยังสามารถเล่นได้ แถมยังได้บรรยากาศทุ่งหญ้าสีเขียวขจีในช่วงฤดูร้อน หรือช่วงตั้งแต่พฤษภาคมจนถึงเดือนตุลาคมก็จะเป็นช่วงที่มีน้ำตกมาก สามารถล่องเรือเข้าไปใกล้น้ำตกแล้วเดินต่ออีกประมาณ 100 เมตรเท่านั้น  ไม่มีค่าเข้าชม ค่าบริการเรือ 1,500 บาท/ลำ หรือ 7-8 คนขึ้นไปคนละ 200 บาท (สามารถจับกลุ่มแล้วไปรวมกันได้)  ตำบลนาหินลาด อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก  เปิดทุกวัน 06.00-17.00 น.  037 384 192-3 (เขื่อนขุนด่านปราการชล) https://goo.gl/maps/D3ZmJJTWP8MUwpSNA  น้ำตกวังก้านเหลือง – สวนรุกขชาติวังก้านเหลือง น้ำตกแห่งนี้มีจุดกำเนิดที่ต่างจากที่อื่น ๆ และไม่ค่อยได้พบเห็นกันบ่อยในบ้านเรา คือ เกิดจากตาน้ำผุดจากลำห้วยมะกอก ไหลลงมารวมกันบริเวณสันหินปูน ทำให้เกิดเป็นน้ำตกกว้างขนาด 20 เมตร และไหลลดหลั่นกันไปเป็นชั้น ๆ ด้วยจุดกำเนิดจากแหล่งน้ำผุดทางธรรมชาตินี้เอง ทำให้น้ำตกวังก้านเหลืองมีน้ำให้เล่นตลอดทั้งปี นอกจากนี้ ในบริเวณสวนรุกขชาติยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ มีที่นั่งปิกนิก ลานกางเต็นท์ และยังมีร้านค้าร้านอาหารให้บริการ เหมาะแก่การมาพักผ่อนหย่อนใจในช่วงวันหยุดได้ดีเลยล่ะ  หมู่ที่ 4 ตำบลท่าดินดำ อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี  เปิดทุกวัน เวลา 08.00-20.00 น.  092 909 1669, 080 812 1895 https://goo.gl/maps/JfEKAcA2GPyB4yCV7  อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย หนึ่งในน้ำตกขึ้นชื่อของสระบุรี มีที่มาชื่อจากหมู่บ้านสาวน้อยมารวมกับน้ำตกแห่งนี้ที่มีขนาด 7 ชั้น จึงเป็นชื่อมาของชื่อ “น้ำตกเจ็ดสาวน้อย” นั่นเอง น้ำตกแห่งนี้ตั้งอยู่กลางป่าโปร่ง และเป็นน้ำตกเตี้ย ๆ ที่มีระยะห่างกันไม่มาก ใช้เวลาเดินไม่นาน มีแอ่งน้ำตื้นให้ลงเล่นหลายจุด เป็นน้ำตกอีกแห่งหนึ่งที่เหมาะมาก ๆ หากเพื่อน ๆ จะมาเล่นน้ำคลายร้อนกัน  ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท  ค่าจอดยานพาหนะรถจักรยานยนต์ 20 บาท รถยนต์ 30 บาท  หมู่ 9 บ้านแก่งหลุ ตำบลมวกเหล็ก อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี  เปิดทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.  036 346 586 https://goo.gl/maps/wSP9ZZyM8iVfzB9t6

📍5 พิกัดเล่นน้ำตกใกล้กรุงเทพฯ📍 อ่านเพิ่มเติม

🌼 ตักบาตรดอกไม้ ถวายดอกพรรษา 🌼

วันเข้าพรรษาถือเป็นวันสำคัญวันหนึ่งในทางพุทธศาสนา ซึ่งชาวพุทธในแต่ละท้องถิ่นก็จะมีประเพณีที่แตกต่างกันออกไป อย่างเช่นจังหวัดสระบุรีที่มี “ประเพณีตักบาตรดอกไม้” และในสัปดาห์หน้าก็จะถึงวันเข้าพรรษาแล้ว แอดเลยนำเกร็ดความรู้เกี่ยวกับประเพณีตักบาตรดอกไม้มาฝากเพื่อน ๆ กันค่ะ 😊.ประเพณีตักบาตรดอกไม้ เป็นประเพณีประจำจังหวัดสระบุรีที่ยึดถือและปฏิบัติกันมานาน โดยจะถือเอาวันเข้าพรรษาของทุกปีเป็นวันตักบาตรดอกไม้ จัดขึ้นที่ “วัดพระพุทธบาท ราชวรมหาวิหาร” ช่วงเข้าพรรษานั้นตรงกับฤดูฝน พรรณไม้ต่าง ๆ กำลังงอกงามดี รวมไปถึง “ต้นหงส์เหิน” ไม้ตระกูลกระชายหรือขมิ้น ที่เติบโตได้ดีในพื้นที่ชุ่ม มีน้ำขัง ลักษณะดอกเป็นพวง มี 3 สี ได้แก่ สีขาว สีเหลือง สีม่วง แต่สีที่นิยมและหาได้ง่ายคือดอกสีขาวและสีเหลือง ชาวบ้านมักเรียกว่า “ดอกเข้าพรรษา” เพราะเป็นดอกไม้ที่บานในช่วงวันเข้าพรรษาพอดี มีการนำดอกไม้ชนิดนี้มาถวายแด่พระสงฆ์ที่กำลังจะไปพระอุโบสถเพื่อเข้าพรรษา ให้ได้มีดอกไม้ไปสักการบูชารอยพระพุทธบาท.จนเมื่อปี พ.ศ. 2544 ทางจังหวัดต้องการส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงวันเข้าพรรษา โดยเพิ่มวันตักบาตรดอกไม้เข้าพรรษาจากปกติ 1 วันเป็น 3 วัน และมีการถวายเทียนพรรษาร่วมด้วย จัดเป็นพิธีการใหญ่ มีรถแห่ของแต่ละอำเภอที่ตกแต่งกันอย่างสวยงาม ทำให้นักท่องเที่ยวสนใจมาร่วมชมประเพณีนี้กันอย่างล้นหลาม แม้ในปีนี้ สถานการณ์ยังไม่ค่อยสู้ดีนัก แต่ประเพณีไทยอันทรงคุณค่าแบบนี้จะคงอยู่ต่อไป รอโอกาสอันเหมาะสมที่จะกลับมาจัดอีกครั้ง 🥰

🌼 ตักบาตรดอกไม้ ถวายดอกพรรษา 🌼 อ่านเพิ่มเติม

ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า จังหวัดสระบุรี

เจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า เป็นศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ตั้งอยู่ที่จังหวัดสระบุรี ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงแล้ว ก่อนอื่นเลยเมื่อมาถึงแล้ว เพื่อนๆ ต้องไปลงทะเบียนที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวก่อนโดยใช้บัตรประชาชนอย่างเดียว เจ้าหน้าที่ก็จะแจ้งกฏระเบียบต่างๆ ของการตั้งแคมป์และเข้าพักในบ้านพัก (บ้านพักต้องติดต่อล่วงหน้ามาก่อนนะ) ที่นี่ไม่มีค่าเข้านะคะ แล้วแต่ว่าใครอยากให้ค่าบำรุงสถานที่เท่าไหร่ก็ได้ ภายในศูนย์ฯ จะแบ่งพื้นที่ออกเป็นศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ร้านค้าสวัสดิการ ลานกางเต็นท์ บ้านพัก ห้องน้ำและพื้นที่ป่า ติดต่อลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว เราหาทำเลกางเต็นท์ในคืนนี้ แอดบอกเลยว่าอุปกรณ์พร้อมมาก ตื่นเต้นสุดๆ ฮ่าๆ หลังจากที่เรากางเต็นท์เสร็จเรียบร้อย เราก็เริ่มเตรียมอาหารเย็น ทริปนี้แอดนำอุปกรณ์เครื่องครัวและวัตถุดิบมาเองค่ะ (เตาต้องมีฐานรองด้วยนะคะ ไม่อนุญาตให้จุดกับพื้นหญ้าโดยตรง เพื่อป้องกันไฟไหม้หญ้า) เมนูมื้อเย็นของแอดวันนี้มีผัดผัก หมูย่าง และข้าวโพดปิ้ง เห็นง่ายๆ แบบนี้อร่อยสุดๆ เลยนะ หมูย่างยั่วๆ จ้า ถ้าใครไม่ได้เตรียมหมูมาเอง ที่นี่มีหมูกระทะครบชุดจำหน่ายด้วยนะ สามารถสั่งได้ที่ร้านค้าสวัสดิการเลยค่ะ พร้อมทานแล้วค่ะ หมูย่างร้อนๆ กับน้ำจิ้มแจ่วรสเด็ด ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติ ฟินมากก บรรยากาศช่วงเย็นก็จะประมาณนี้ ชิลสุดๆ แอดแนะนำเลย ที่นี่เหมาะแก่การพักผ่อนมาก ไม่ว่าจะมากับครอบครัว ชิลเอาท์กับแก๊งค์เพื่อนหรือจะเปลี่ยนบรรยากาศเมื่อยล้าจากการนั่งโต๊ะทำงานมาเป็นตั้งแคมป์ชิลๆ แบบแอดสักครั้ง แอดบอกเลย ไม่ว่าจะไปกางเต็นท์ที่ไหนพร็อบต้องแน่นนะคะทุกคน ทั้งไฟประดับ เทียน ธงตกแต่ง จัดเต็มกันได้เลย พอเริ่มมืดอากาศก็เริ่มเย็น เพราะช่วงนี้ยังอยู่ในฤดูฝน คืนนี้เราจะนอนดูดาวกันชิลๆ รับลมเย็นๆ ก่อนนอน เช้าแล้วๆๆ เช้านี้มีหมอกบางๆ ค่ะ เนื่องจากว่าเมื่อคืนมีฝนตกเล็กน้อย เช้านี้อากาศเลยเย็นเป็นพิเศษ  มานั่งรอพระอาทิตย์ขึ้นซะหน่อย แอบเสียดายถ้าหากมีหมอกเยอะกว่านี้คงจะสวยมากๆ  หมอกจางๆ ยามเช้า เช้านี้เราดื่มโอวัลตินร้อนๆ กับบรรยากาศเย็นๆ มื้อเช้าวันใหม่ของแอด เมนูง่ายๆ ตามวัตถุดิบที่มี บอกเลยว่าอิ่มท้องอยู่นะ วันนี้ต้องใช้พลังงานเยอะหน่อยค่ะ เพราะเราจะไปเดินป่าและชมน้ำตกกัน รอบๆ เต็นท์เรามีเพื่อนใหม่ด้วยแหละ พร้อมแล้ว ลุยกันเลย! วันนี้เราจะไปน้ำตกเจ็ดคดเหนือ ห่างจากจุดกางเต็นท์ ประมาณ 1.5 กิโลเมตร นอกจากน้ำตกเจ็ดคดเหนือแล้ว ยังมีน้ำตกเจ็ดคดกลาง เจ็ดคดใต้และเจ็ดคดใหญ่ ซึ่งระยะทางจะไกลออกไปอีกค่ะ หากจะเข้าไปชมน้ำตก สามารถเดินเข้าไปได้เลยหรือจะติดต่อเจ้าหน้าที่ให้นำทางเข้าไปก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอีกหนึ่งอย่างนั่นคือ ปั่นจักรยานรอบอ่างเก็บน้ำ สายลุยต้องไม่พลาดนะ วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า เข้าป่าทีไรจะต้องมีเพลงนี้เข้ามาในหัวทุกที ระหว่างทางก็จะเขียวๆ หน่อยเพราะเรามาในช่วงฤดูฝนพอดี ฟิน แต่ระวังกิ่งไม้แหลมๆ เกี่ยวเอาด้วยนะคะ แอดได้แผลมาแล้ว เส้นทางเดินไม่ยากค่ะ เป็นทางเรียบสลับกับขึ้นเนินบ้าง ก้อนหินเยอะพอสมควร ระมัดระวังกันด้วยนะคะ สวมรองเท้าให้รัดกุม แล้วลุยค่ะ แล้วสิ่งที่แอดแอบหวังว่าจะเจอก็เจอจนได้ “เห็ดแชมเปญ” น้องน่ารักมากเลยค่ะ รูปร่างหน้าตาเหมือนถ้วยเล็กๆ คล้ายกับแก้วแชมเปญ สีแดงอมส้ม สวยๆๆ  เห็ดแชมเปญพบเห็นได้ในช่วงฤดูฝนหรือจุดที่มีความชื้นสูง หากใครเจอแล้วก็อย่าไปจับหรือแตะต้องนะคะ เพื่อให้น้องอยู่กับธรรมชาติไปนานๆ ความจริงแล้วที่นี่สามารถมาเที่ยวได้ตลอดปีเลยนะคะ แต่ละฤดูก็จะมีสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมแตกต่างกันไป  ถึงแล้วจ้า น้ำตกเจ็ดคดเหนือ ช่วงนี้พอมีน้ำบ้างแล้วค่ะ สามารถเล่นน้ำได้ แต่ต้องระมัดระวัง ดูแลตัวเองกันด้วยนะคะ บริเวณนี้จะมีโขดหินเล็กๆ น้อยๆ อยู่บ้าง อาจเกิดอันตรายและมีบาดแผลได้ นอกจากกางเต็นท์และเดินป่าแล้ว พื้นที่ป่าเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า ยังเหมาะสำหรับส่องสัตว์อีกด้วย เนื่องจากเป็นพื้นที่รอยต่อกับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่นั่นเอง มองไปทางไหนก็เขียวไปหมด แอดเป็นประเภทธรรมชาติเลิฟเวอร์ หลายๆ คนก็คงเป็นแบบแอดเหมือนกัน ใช่มั้ย? การหาเวลาพักผ่อนและเติมพลังให้ตัวเอง มันเป็นสิ่งที่ดีมากๆ เลยเนอะ แค่ได้มาอยู่กับเพื่อนๆ ธรรมชาติ และผู้คนที่ไลฟ์สไตล์เหมือนกัน แค่นี้ก็สุดยอดแล้ว  ค่าบริการ เช่าเต็นท์– เต็นท์หลังละ 300 บาท สำหรับ 2 คน– ผ้าห่ม 50 บาท– ถุงนอน 50 บาท– แผ่นรองนอน 50 บาท– หมอน 20 บาท บ้านพักราคาเริ่มต้น 800 – 1,500 บาท/หลัง เตาปิ้งย่างราคาเตาละ 50 บาท มีค่ามัดจำ 50 บาท สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร.089 801 4932, 065 342 8282 บอกเลยว่าใครไปตรงกับวันหยุด ไม่มีเหงาแน่นอนเพราะเพื่อนๆ กางเต็นท์เพียบค่ะ พูดมาซะเยอะ เตรียมแพ็คกระเป๋าแล้วออกไปลุยกันเลย!! เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 29 กรกฎาคม 2562

ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า จังหวัดสระบุรี อ่านเพิ่มเติม

สระบุรี – ลพบุรี ทริปดีๆ ไม่ไกลกรุง

วันนี้แอดมีตัวอย่างเส้นทาง “2 วัน 1 คืน สระบุรี – ลพบุรี ทริปดีๆ ไม่ไกลกรุง” มาฝาก เป็นเส้นทางท่องเที่ยวสั้นๆ เหมาะสำหรับไปกับครอบครัว ซึ่งสถานที่ที่เลือกมาส่วนใหญ่เป็นสถานที่เปิด มีพื้นที่กว้างขวาง อากาศถ่ายเทสะดวก แต่ก็ต้องอย่าลืมที่จะ social distancing เว้นระยะห่างทางสังคม ปฏิบัติตัวตามวิถี New Normal ให้ชิน เพื่อเป็นการรักษาสุขอนามัยที่ดีของตนเองและผู้อื่นด้วย วันที่ 1– วัดพระพุทธฉาย จ.สระบุรี– วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร จ.สระบุรี– ศาลพระกาฬ จ.ลพบุรี– พระปรางค์สามยอด จ.ลพบุรี– วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.ลพบุรี วันที่ 2– พระนารายณ์ราชนิเวศน์ จ.ลพบุรี– พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์ จ.ลพบุรี– บ้านเจ้าพระยาวิชาเยนทร์ จ.ลพบุรี– ร้านกระเพรา & coffee จ.ลพบุรี เริ่มกันที่ วัดพระพุทธฉาย ตั้งอยู่ที่เชิงเขาปถวี (ปฐวี) ต.หนองปลาไหล อ.เมือง จ.สระบุรี ตามประวัติไม่ปรากฏแต่ชัดว่าสร้างขึ้นเมื่อใด แต่สันนิษฐานว่าราว พ.ศ.2163-2171 ภายหลังจากที่มีการค้นพบรอยพระพุทธบาทที่ อ.พระพุทธบาท แล้ว พระเจ้าทรงธรรมก็ได้มีรับสั่งให้ค้นหารอยพระพุทธบาทตามภูเขาทุกแห่ง และได้พบพระพุทธฉาย ณ ที่แห่งนี้ ในสมัยพระเจ้าเสือมีการสร้างมณฑปครอบรอยพระพุทธฉายเอาไว้ ซึ่งได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์เรื่อยมา พระพุทธฉาย หรือรอยพระพุทธรูป มีลักษณะเป็นภาพสีแดงคล้ายพระพุทธเจ้าที่มีรัศมีรอบพระวรกาย อยู่บริเวณเชิงเขาปถวี พระมหากษัตริย์และเชื้อพระวงศ์หลายพระองค์ ตั้งแต่สมัยอยุธยาจนถึงปัจจุบัน ได้เคยเสด็จมานมัสการพระพุทธฉายแห่งนี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้เสด็จมาที่นี่ และทรงจารึกพระปรมาภิไธยย่อ จปร. ณ บริเวณผาด้านทิศตะวันตกของมณฑปพระพุทธฉาย นอกจากนี้ยังมีพระนามาภิไธยของพระบรมวงศานุวงศ์อีกหลายพระองค์ ซึ่งยังคงปรากฏชัดเจนจนถึงปัจจุบันนี้ นอกจากนั้นด้านบนยอดเขายังเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทเบื้องขวาของพระพุทธเจ้า และเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นได้ 360 องศาเลย วัดพระพุทธฉายที่ตั้ง ต.หนองปลาไหล อ.เมือง จ.สระบุรีเปิดทุกวันวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่ 08.00-17.00 น.วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่ 08.00-18.00 นพิกัด https://goo.gl/maps/fxRaGQCJEtLKNiVGA สถานที่ต่อมาคือ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ที่ ต.ขุนโขลน อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2167 หลังจากที่ได้มีการค้นพบ “รอยพระพุทธบาทบนแผ่นดินเหนือไหล่เขาสุวรรณบรรพต หรือเขาสัจจพันธคีรี” ซึ่งพระเจ้าทรงธรรมทรงเห็นว่าเป็นรอยพระพุทธบาทที่มีลวดลายมงคล 108 ประการ จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างมณฑปครอบรอยพระพุทธบาทไว้ หลังจากนั้นก็ได้เสด็จมานมัสการเรื่อยมาจนกลายเป็นประเพณี และวัดพระพุทธบาทก็ได้รับการทำนุบำรุงตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาจนถึงปัจจุบัน ตามคติโบราณกล่าวไว้ว่า หากได้มานมัสการรอยพระพุทธบาทแห่งนี้ครบ 7 ครั้ง จะได้ไปจุติยังสรวงสวรรค์ และแม้แต่ในชาติภพนี้ อานิสงส์ผลบุญก็จะส่งให้ชีวิตมีแต่ความสำเร็จสมหวังทุกประการ เทศกาลประเพณี– งานนมัสการรอยพระพุทธบาท จัดขึ้นปีละ 2 ครั้ง คือ ระหว่างวันขึ้น 8 ค่ำ – แรม 1 ค่ำ เดือน 3 และระหว่างวันขึ้น 8 ค่ำ – แรม 1 ค่ำ เดือน 4 – งานตักบาตรดอกไม้ จัดขึ้นในวันเข้าพรรษาของทุกปี ตรงกับวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหารที่ตั้ง เขาสุวรรณบรรพต อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรีเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 06.00-18.00 น.พิกัด https://goo.gl/maps/DccHGR5T2nhuNDiW7  จากนั้นก็เข้าเมืองลพบุรีกัน มาลพบุรีทั้งทีถ้าไม่แวะไปศาลพระกาฬถือว่ามาไม่ถึงถิ่น เพราะที่แห่งนี้เปรียบเสมือนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองลพบุรี ศาลพระกาฬ เป็นเทวสถานขอมเก่าแก่ที่สร้างด้วยศิลาแลง ตั้งอยู่บนฐานสูง ผู้คนจึงเรียกกันว่า “ศาลสูง” ภายในเป็นที่ประดิษฐานเจ้าพ่อพระกาฬ ซึ่งมีลักษณะเป็นเทวรูปประทับยืน ทำด้วยศิลา สันนิษฐานว่าเป็นเทวรูปพระนารายณ์ นอกจากนี้ยังมีศิลาจารึกแปดเหลี่ยมอักษรมอญโบราณอีกด้วย บริเวณโดยรอบศาลพระกาฬ เป็นที่อยู่อาศัยของเหล่าฝูงลิงน้อยใหญ่ ที่จะคอยเข้ามาทักทายและขออาหารจากนักท่องเที่ยวอยู่เป็นประจำ ศาลพระกาฬที่ตั้ง ต.ท่าหิน อ.เมือง จ.ลพบุรีเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 05.30-18.00 น.พิกัด : https://goo.gl/maps/SdxeVMFywrF2 ไปต่อกันที่ พระปรางค์สามยอด ซึ่งถือเป็นแลนด์มาร์กของจังหวัดเลยก็ว่าได้ มีลักษณะเป็นปราสาทศิลาแลงเรียงต่อกัน 3 องค์ ศิลปะขอมแบบบายน ด้านหน้าทางทิศตะวันออกมีวิหารที่สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปศิลาขนาดใหญ่ปางสมาธิ พระปรางค์สามยอดถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดลพบุรี พระปรางค์สามยอดที่ตั้ง ต.ท่าหิน อ.เมือง จ.ลพบุรีเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 08.00-18.00 น.ค่าเข้าชม ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 50 บาทพิกัด https://goo.gl/maps/TGwHQS4nrBz ปิดท้ายวันแรกกันที่ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ต.ท่าหิน อ.เมือง จ.ลพบุรี วัดนี้ไม่มีประวัติการสร้างแน่ชัด แต่นักวิชาการสันนิษฐานกันว่าสร้างขึ้นก่อนการสถาปนากรุงศรีอยุธยา สิ่งที่น่าสนใจภายในวัดคือ “ปรางค์ประธาน” ซึ่งนับเป็นปรางค์รุ่นแรกที่พัฒนามาจากปราสาทแบบขอม และยังเป็นปรางค์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในลพบุรีอีกด้วย “วิหารหลวง” สร้างในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นวิหารขนาดใหญ่ที่ผสมผสานศิลปะแบบไทยและตะวันตกเข้าด้วยกัน สังเกตได้จากหน้าต่างที่มีลักษณะโค้งแหลมแบบศิลปะโกธิค นอกจากนี้ภายในวัดยังมีเจดีย์และปรางค์หลากหลายรูปแบบซึ่งยังคงสภาพดีหลงเหลือให้ชมอยู่ ปรางค์ประธานองค์นี้ ยังได้รับการยกย่องจากสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ให้เป็น 1 ใน “8 จอมเจดีย์แห่งสยาม” อีกด้วย วัดพระศรีรัตนมหาธาตุที่ตั้ง ต.ท่าหิน อ.เมือง จ.ลพบุรีเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 08.30-16.00 น.ค่าเข้าชม ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 50 บาทพิกัด https://goo.gl/maps/yu7cFNdweaE1eb3f6 วันที่ 2 เริ่มต้นกันที่ พระนารายณ์ราชนิเวศน์ ช่วงที่ละครบุพเพสันนิวาสกำลังมาแรงนั้น มีคนเดินทางมาตามรอยละครที่นี่กันเป็นจำนวนมาก สมเด็จพระนารายณ์มหาราช โปรดเกล้าฯ

สระบุรี – ลพบุรี ทริปดีๆ ไม่ไกลกรุง อ่านเพิ่มเติม

สวนบิ๊กเต้ : Big Tae Garden

ที่มาของชื่อสวนบิ๊กเต้ ก็มาจากชื่อเจ้าของคือ คุณเต้ นั่นเอง ง่ายๆ แค่นี้ล่ะ แหม แอดก็คิดว่าเจ้าของสวนจะเป็นคุณลุงซะอีก จริงๆ แล้วคุณเต้ยังหนุ่มอยู่เลยนะ  สวนบิ๊กเต้ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ปลูกดอกเบญจมาศมานานกว่า 10 ปี แต่เพิ่งจะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเที่ยวชมเมื่อ พ.ศ.2559 ซึ่งสามารถชมได้ตลอดทั้งปีเลยค่ะ ที่นี่มีดอกเบญจมาศมากกว่า 30 สายพันธุ์ แบ่งแปลงปลูกออกเป็นแถวตอนลึก แต่ละแถวแยกเป็นดอกเบญจมาศสีสันต่างๆ อย่างสวยงาม มีทั้งขาว ชมพู เหลือง และแดง การออกดอกของเบญจมาศ ใช้ระยะเวลาประมาณ 3 เดือน ถึงจะโตเต็มที่ โดยต้องอยู่ในพื้นที่ที่แดดส่องถึง เรียกได้ว่าเป็นดอกไม้ที่ชอบแสงแดดสุดๆ และต้องรดน้ำวันละ 2 ครั้ง คือช่วงสายและเย็นค่ะ ชุ่มฉ่ำสุดๆ บอกกล่าวเผื่อใครยังไม่รู้ ที่นี่เป็นสถานที่ถ่ายทำละครเรื่อง “บัลลังก์ดอกไม้” ด้วยล่ะ แฟนคลับของมาริโอ้และเต้ย จรินทร์พร ต้องไม่พลาดมาเยี่ยมชมนะ เวลาเพื่อนๆ เดินเข้าไปถ่ายรูปในแปลงดอกไม้ ต้องใช้ความระมัดระวังอย่าไปเด็ดหรือสัมผัสดอกไม้แบบแรงๆ นะคะ เพราะดอกไม้ในสวนจะต้องตัดไปขายค่ะ เดี๋ยวเค้าขายไม่ได้ล่ะแย่เลย  บ้านไหนมีเด็กๆ ไปก็ต้องจับกันไว้ให้ดีนะ เพราะพื้นที่ในสวนค่อนข้างกว้างพอสมควร เดี๋ยวพลัดหลงกันจ้า ค่าเข้าชม คนละ 20 บาทเท่านั้น  โดยบัตร 1 ใบจะได้ส่วนลดเครื่องดื่ม 5 บาทด้วยนะ จะสั่งเครื่องดื่มก่อนเข้าไปชมสวน หรือออกมาแล้วค่อยสั่งก็ได้ ได้ส่วนลดก็ใช้สิคะ รออะไร จัดไปชาเขียว 1 แก้ว สวนบิ๊กเต้ – BigTae Garden ที่ตั้ง : 213 หมู่ 5 ตำบลหนองย่างเสือ อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี เปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 17.30 น.โทร. 081 878 4569

สวนบิ๊กเต้ : Big Tae Garden อ่านเพิ่มเติม

Cafe Dé Forest : ร้านกาแฟในป่า@บ้านไร่ใบเฟิร์น

Cafe Dé Forest : ร้านกาแฟในป่า@บ้านไร่ใบเฟิร์น จังหวัดสระบุรีบ้านไร่ใบเฟิร์น จ.สระบุรี by Yunsita & Mam ร้านกาแฟในป่า@บ้านไร่ใบเฟิร์นแห่งนี้ ตั้งอยู่ระหว่างทางไปศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า จิบกาแฟเสร็จก็สามารถไปปิกนิกหรือกางเต็นท์พักแรมต่อกันได้  การเดินทางจากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) ตรงไปจังหวัดสระบุรี ใช้ทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) มุ่งหน้าเข้าตำบลทับกวาง และกลับรถตรงสะพานเกือกม้าหน้าเทศบาลทับกวาง เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงชนบท 1003 (เจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า) เลยเขตห้ามล่าสัตว์ป่าแก่งคอยประมาณ 200 เมตร ร้านจะอยู่ทางขวามือ จากบ้านไม้หลังใหญ่ ได้รับการรีโนเวทให้กลายเป็นร้านกาแฟสุดฮิปชิค แบ่งเป็น 2 ชั้น พร้อมมุมถ่ายรูปอีกเพียบ แค่หน้าร้านก็แชะภาพได้เยอะเลยล่ะ นอกจากนี้ที่นี่เค้ายังเปิดให้มากางเต็นท์พักแรมริมลำธารได้ด้วยนะ บรรยากาศดีมากๆ เลย แอบเสียดายที่วันที่แอดไปมีฝนตก ท้องฟ้าก็เลยดูขมุกขมัวเล็กน้อย แต่ก็ทำให้อากาศเย็นสบายมากเลยค่ะ ถ้ามาในช่วงฤดูหนาวคงจะฟินน่าดู สงสัยต้องมาจัดอีกสักรอบแล้ว ชั้นล่างบริเวณใต้ถุนบ้านมีที่นั่งให้เลือกหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะเก้าอี้ไม้ โซฟา แม้แต่ชิงช้าหรือเปลญวนก็มี ภายในร้านตกแต่งแนววินเทจ มีรูปถ่าย ของกระจุกกระจิกน่ารักๆ ที่มุมนั้นมุมนี้เต็มไปหมด ดูแล้วเข้ากัน ลงตัวไปหมดทุกอย่าง ส่วนที่ชั้น 2 ก็มีระเบียงให้ชมวิวภูเขาด้านหลังร้านด้วย วิวดีมากๆ เลย  ร้านเปิดแค่วันเสาร์-อาทิตย์ จึงทำให้มีผู้มาเยือนเเน่นร้านเลยล่ะ ได้ยินเจ้าของร้านเปรยๆ ว่า เร็วๆ นี้อาจจะเปิดวันธรรมดาด้วย ยังไงก็รอติดตามกันต่อไปนะคะ ^^ ขึ้นมาชั้น 2 ของร้านกันบ้าง ใครชอบถ่ายรูปบอกเลยว่า 5 นาทีจัดไป 20-30 ภาพแน่นอน มองไปก็เห็นวิวภูเขาอยู่ตรงหน้าแล้ว พร้อมที่นั่งเก๋ๆ จิบกาแฟกันได้เพลินๆ เลย มาฝากท้องมื้อหนักที่นี่ได้ เพราะเค้ามีทั้งอาหารคาวและเครื่องดื่มให้บริการ ทุกเมนูเจ้าของร้านทำเองและยังเสิร์ฟเองอีกด้วย เป็นกันเองสุดๆ เหมือนมาเที่ยวบ้านญาติจริงๆ เลย ^^

Cafe Dé Forest : ร้านกาแฟในป่า@บ้านไร่ใบเฟิร์น อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top