เพื่อนร่วมทาง

ทีมนักแกะสลักหิมะไทยพาผลงาน ‘World Water Festival’ คว้ารางวัลที่ 2 จากการแข่งขัน International Snow Sculpture ครั้งที่ 49 ณ เมืองซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น

ทีมนักแกะสลักหิมะไทยพาผลงาน ‘World Water Festival’ รูป ‘ช้างแม่-ลูก’ เล่นน้ำในเทศกาลสงกรานต์ คว้ารางวัลที่ 2 จากการแข่งขัน International Snow Sculpture ครั้งที่ 49 ณ เมืองซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น ผลักดันเสน่ห์ไทยด้านเฟสติวัลสู่สายตาชาวโลก 🥈🇹🇭 นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า “การเข้าร่วมงานดังกล่าว เป็นโอกาสอันดีที่ประเทศไทยได้นำเสนอเทศกาลสงกรานต์ ให้เป็นที่รู้จักระดับนานาชาติ ในวาระปี 2568 ประเทศไทยได้ประกาศให้เป็นปีแห่งการท่องเที่ยว ‘Amazing Thailand Grand Tourism Year 2025’ เทศกาลสงกรานต์นับว่าเป็นเทศกาลที่เป็น Signature ของประเทศไทยและอีกหนึ่งอีเว้นท์ไฮไลท์ใน Grand Festivities ที่จะเป็นหมุดหมายดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้เดินทางมายังประเทศไทยเพื่อร่วมสนุกในเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้” 💦 ทีมตัวแทนประเทศไทยที่ ททท. สนับสนุนให้เข้าแข่งขันในปีนี้ คือทีมที่ได้สร้างชื่อเสียงมาแล้วหลายครั้ง ประกอบด้วย นายกุศล บุญกอบส่งเสริม จากโรงแรมแชง-กรีล่า, นายอำนวยศักดิ์ ศรีสุข นักแกะสลักอิสระ และนายกฤษณะ วงศ์เทศ นักแกะสลักอิสระ 👏 ขอขอบคุณ บริษัท ซี อาร์ ซี สปอร์ต จำกัด ผู้บริหารร้านซูเปอร์สปอร์ต ในเครือเซ็นทรัลรีเทล บริษัทตัวแทนจัดจำหน่ายแบรนด์ Columbia ซึ่งสนับสนุนเสื้อผ้าและอุปกรณ์กันหนาวให้แก่ทีมประเทศไทยพร้อมพิชิตภารกิจท้าความหนาวในครั้งนี้ ✨

ทีมนักแกะสลักหิมะไทยพาผลงาน ‘World Water Festival’ คว้ารางวัลที่ 2 จากการแข่งขัน International Snow Sculpture ครั้งที่ 49 ณ เมืองซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น อ่านเพิ่มเติม

ท่าพิพิธภัณฑ์ (Museum Pier) พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งใหม่ ใจกลางพระนคร

ต้นปีนี้ ใครกำลังมองหาที่เที่ยวแบบเดินทางง่าย ๆ ในกรุงเทพฯ แบบที่ไม่ต้องขับรถไปไหนไกล บัดดี้ขอนำเสนอพิพิธภัณฑ์เปิดใหม่ ที่ตั้งอยู่กลางพระนคร เดินทางง่าย และรอบ ๆ ยังมีสถานที่อื่นให้เที่ยวต่อได้ไม่ยากเลย “ท่าพิพิธภัณฑ์ (Museum Pier)” พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งใหม่ ตั้งอยู่ในโครงการท่าช้าง วังหลวง ติดกับท่าเรือท่าช้าง เป็นอาคาร 3 ชั้น ที่รวบรวมศิลปะของไทยในรูปแบบต่าง ๆ มาจัดแสดงไว้ให้นักท่องเที่ยวเข้าชม โดยช่วงนี้จัดแสดงนิทรรศการแรกของการเปิดพิพิธภัณฑ์ คือ นิทรรศการ “200 Years Journal through Thai Modern Art History” ที่จัดแสดงชิ้นงานสะสมส่วนตัวของ คุณกรกมล และคุณพิริยะ วัชจิตพันธ์ กว่า 100 ชิ้น มีทั้งภาพจิตรกรรมฝาผนังตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 ภาพวาดอิทธิพลตะวันตกในสมัยรัชกาลที่ 6 งานประติมากรรม นิทรรศการแสดงตัวอย่างผลงานของศาสตราจารย์ศิลป พีระศรี ผลงานของอาจารย์ศิลปะที่มีชื่อเสียงในไทย อาทิ อาจารย์ถวัลย์ ดัชนี อาจารย์จักรพันธุ์ โปษยกฤต อาจารย์เขียน ยิ้มศิริ และอาจารย์ทวี นันทขว้าง รวมไปถึงผลงานศิลปะร่วมสมัยจากศิลปินที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน อาทิ Cry Baby ของ มอลลี่-นิสา ศรีคำดี Mushkin ของ แอนดี้-วรกันต์ จงธนพิพัฒน์ โดยนิทรรศการนี้จะจัดตั้งแต่ วันนี้ – 30 มิถุนายน 2568 นอกจากนี้ยังมีสินค้าทำมือ โปสการ์ด เทียนหอม และของที่ระลึกดีไซน์สวย ๆ ฝีมือคนไทยจัดจำหน่ายที่ชั้น 1 ใกล้กับเคาน์เตอร์ขายบัตรเข้าชม เพื่อน ๆ สามารถเลือกซื้อติดไม้ติดมือกลับไปกันได้ ⏰ เปิดทุกวัน เวลา 09.00 – 17.00 น.🎟️ ค่าบัตรเข้าชม ชาวไทย 100 บาท ชาวต่างชาติ 300 บาท☎️ สอบถามข้อมูล 08 2896 1929, Facebook: Museum Pier ท่าพิพิธภัณฑ์ 🚗 การเดินทาง– เรือด่วนเจ้าพระยา ลงที่ท่าเรือท่าช้าง จะเชื่อมต่อกับทางเข้าพิพิธภัณฑ์ตรวจสอบเส้นทางและเวลาเดินเรือ ได้ที่ https://www.chaophrayaexpressboat.com/chaophrayaexpressboat– MRT สนามไชย ทางออก 5 สามารถเดินทางจากถนนมหาราชจนถึงพิพิธภัณฑ์ หรือใช้บริการรถตุ๊กตุ๊ก MuvMi หรือมอเตอร์ไซค์รับจ้างมายังพิพิธภัณฑ์ได้ พิกัดสถานที่เที่ยวใกล้เคียง📌 ท่ามหาราช / Tha Maharajhttps://maps.app.goo.gl/uEoHQWQWYkreu1Lo7📌 ท่าเตียน / Tha Tienhttps://maps.app.goo.gl/jUytiKP6Hm7TwGrQA📌 วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) / Wat Phra Kaew (The Temple of the Emerald Buddha)https://maps.app.goo.gl/5HgpgTzqymMZgqKfA📌 วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) / Wat Pho (The Temple of the Reclining Buddha)https://maps.app.goo.gl/DabE9RtfN4dW3RTy7📌 มิวเซียมสยาม / Museum Siamhttps://maps.app.goo.gl/JYBHJpvfrKHguZt99📌 ปากคลองตลาด / Pak Klong Talat (Flower Market)https://maps.app.goo.gl/UXme6U6CYSnrWBBe8📌 ตลาดวังหลัง / Wang Lang Markethttps://maps.app.goo.gl/6MZQBbJbc3XJBrwr9

ท่าพิพิธภัณฑ์ (Museum Pier) พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งใหม่ ใจกลางพระนคร อ่านเพิ่มเติม

“ม่อนจอง” ต้องลองไป

เส้นทางศึกษาธรรมชาติดอยม่อนจอง ระยะทางเดินเท้า 4-5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเฉลี่ยประมาณ 3-5 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสมรรถภาพร่างกายแต่ละคน เป็นเส้นทางเดินป่าระดับง่าย เหมาะกับผู้เริ่มต้นหัดเดินป่า เพราะเส้นทางเดินเท้าค่อนข้างชัดเจน ทางเดินจะชันมากในช่วงเนินแรกและเนินสุดท้ายก่อนถึงทุ่งหญ้าโล่งบนสันเขา ดอยม่อนจองต้องพักค้างแรมที่จุดกางเต็นท์ยอดดอย 1 คืน นักท่องเที่ยวต้องนำอุปกรณ์กางเต็นท์และค้างแรมมาเอง รวมทั้งเสบียงอาหาร สามารถประกอบอาหารบริเวณจุดกางเต็นท์ได้ มีลูกหาบเป็นชาวบ้านในพื้นที่ให้บริการช่วยขนสัมภาระและดูแลตลอดการเดินทางไปกลับ บริเวณจุดลงทะเบียนยืนยันตัวตน จุดเริ่มต้นเดินเท้า จุดกางเต็นท์บนดอย และจุดสูงสุดยอดดอยที่ผาหัวสิงห์ มีเจ้าหน้าเขตฯ คอยดูแลให้ความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวเช่นกัน วิธีเดินทางไปยังยอดดอยม่อนจอง1. ลงทะเบียนขออนุญาตและจองสิทธิ์เดินป่าล่วงหน้าก่อนเดินทางอย่างน้อย 3 วัน2. ยืนยันตัวตนในวันเดินป่า ณ ที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย (ปางตึง)3. นั่งรถโฟร์วีลไปยังจุดเริ่มเดินเท้า ประมาณ 45 นาที4. เดินเท้าไปจุดกางเต็นท์บนสันดอย ประมาณ 4 กิโลเมตร5. เดินเท้าจากจุดกางเต็นท์ไปยอดดอยบริเวณผาหัวสิงห์ ประมาณ 1 กิโลเมตร ที่ตั้ง: เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่พิกัด: https://maps.app.goo.gl/wThQ4JDtoWFKdbop8ช่วงฤดูกาลเปิดเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ: เดือนพฤศจิกายน – กลางเดือนกุมภาพันธ์ ของทุกปี ดอยม่อนจอง ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ ประมาณ 240 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปยังที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย (ปางตึง) ประมาณ 4-5 ชั่วโมง เพื่อทำเรื่องรายงานตัวตอน 08.00 น. เป็นต้นไป ดังนั้นนักท่องเที่ยวควรแวะพักค้างคืนยังที่พักเอกชนในพื้นที่ใกล้เคียง หรือออกเดินทางจากจุดเริ่มต้น ไม่ว่าจากไหนก็ตาม เพื่อกะเวลามาให้ถึงเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ ในช่วงเช้าตรู่ เพื่อลงทะเบียนยืนยันตัวตนและชำระค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ติดตามและอัปเดตข้อมูลการเดินขึ้นม่อนจองได้ที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย (ป่าตึง) Facebook page: เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย – Omkoi Wildlife Sanctuary สอบถามข้อมูลเรื่องการอนุญาตและการจองสิทธิ์ได้ตามช่องทางดังนี้โทร. 08 3482 1983Line id: omk1983 การเดินทางไปยังที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย (ปางตึง):จากถนนสายหลัก ทางหลวงหมายเลข 108 (ฮอด-แม่สะเรียง) วิ่งมาจนถึงตำบลบ่อหลวง อำเภอฮอด เลี้ยวซ้ายเข้าใช้ทางหลวงหมายเลข 1099 ระยะทางประมาณ 115 กิโลเมตร ถึงที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย (ปางตึง) พิกัดที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย (ปางตึง)https://maps.app.goo.gl/1gknr3GgG1P3dMCU8 เมื่อลงทะเบียนยืนยันตัวตนและชำระค่าธรรมเนียมต่าง ๆ แล้ว จากนั้นขนสัมภาระเปลี่ยนไปนั่งรถโฟร์วีลของชาวบ้านที่จองไว้ พร้อมลูกหาบ เข้าป่าไปอีกประมาณ 45 นาที ไปยังจุดเริ่มต้นเดินเท้า ซึ่งนักท่องเที่ยวต้องไปถึงจุดเริ่มต้นเดินเท้าก่อน 12.00 น. ไม่เช่นนั้นเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ อาจไม่ให้ขึ้นดอย เพราะเกรงว่าจะมืดค่ำระหว่างทาง สอบถามและติดต่อเรื่องรถโฟร์วีลและลูกหาบได้ที่Facebook page: ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวดอยม่อนจอง – บ้านมูเซอโทร. 09 3731 0626 เมื่อถึงจุดเริ่มเดินเท้า แต่ละคนต้องแยกสัมภาระที่จะต้องแบกด้วยตัวเอง เช่น ของมีค่าส่วนตัว น้ำดื่ม ยารักษาโรคประจำตัว เสบียงอาหารหรือขนมเติมพลังระหว่างทาง เป็นต้น และสัมภาระส่วนกลางที่จะให้ลูกหาบแบกให้ เช่น อุปกรณ์เต็นท์และเครื่องนอน อุปกรณ์ประกอบอาหาร น้ำดื่มแบบขวด เป็นต้น เมื่อเตรียมตัวพร้อมแล้ว ก็เริ่มออกเดินเท้าขึ้นยอดดอยม่อนจอง เส้นทางเดินเท้าระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร จากจุดเริ่มเดินเท้า-จุดกางเต็นท์บนสันดอย ลักษณะเส้นทางเดิน ช่วงที่ 1 เปรียบเหมือนช่วงวัดใจ เดินข้ามเขาลูกแรก มีความชันค่อนข้างมาก อาจรู้สึกเหนื่อยหอบได้ง่าย เพราะร่างกายอาจยังปรับสภาพไม่ทัน แต่ระยะทางช่วงไม่ไกล มีเส้นทางเดินชัดเจน ผ่านป่าสนลมเย็นสบาย มีจุดให้แวะนั่งพักระหว่างทาง ช่วงที่ 2 เริ่มเดินเข้าป่าทึบ มีต้นไม้ใหญ่ร่มครึ้มและมีไม้ล้มลุกขึ้นตามพื้นดิน เป็นทางค่อนข้างราบ ไม่ค่อยมีทางชัน ช่วงที่ 3 เริ่มเดินขึ้นสันเขาอีกลูก ทางโล่งมีลมพัดเย็น แต่แสงแดดก็แรงเช่นกัน เห็นทิวทัศน์สันเขาตลอดทาง มีจุดไฮไลต์ คือ ลานหินช่อ ลักษณะเป็นก้อนหินสูงซ้อนกัน สามารถปีนขึ้นไปชมทิวทัศน์และถ่ายรูปได้ เมื่อเดินมาถึงจุดนี้แสดงว่าเดินมาได้ครึ่งทางแล้ว และบริเวณใกล้กับลานหินช่อ มีแนวร่มไม้ใหญ่บนสันเขาให้นั่งพักผ่อน เป็นจุดที่นักเดินป่าและลูกหาบนิยมแวะพักทานมื้อเที่ยงกัน ช่วงที่ 4 เริ่มเดินเข้าป่าทึบอีกครั้ง สลับเดินขึ้นลงเนินอีกเล็กน้อย ไม่ชันมาก และระยะทางไม่ไกล เดินจนพ้นชายป่า จะพบทางเดินขึ้นสันเขาโล่งกว้าง จุดนี้เรียกว่า ดอยหมาหอบ ลักษณะเป็นทางเดินขึ้นสันเขาที่มีความชันมากที่สุดในเส้นทางเดินขึ้นม่อนจอง ระยะทางไม่ไกล ประมาณ 200 เมตร เท่านั้น แต่อากาศร้อนมาก เพราะเป็นทุ่งหญ้าโล่ง ไม่มีต้นไม้ใหญ่เลย นักเดินป่าส่วนใหญ่จะต้องได้นั่งพักหอบแฮกกลางทุ่งหญ้าระหว่างทาง อย่างน้อยคนละ 1 ครั้ง ก่อนจะฝืนใจดันตัวเองเดินขึ้นสู่สันเขา เมื่อเดินขึ้นมาถึงสันเขา และมองกลับไปยังทางที่ขึ้นมาของดอยหมาหอบ หลังผ่านดอยหมาหอบ ก็จะเป็นทางเดินบนสันเขาและทุ่งหญ้า ช่วงที่ 5 เป็นทางเดินไปตามสันเขาที่เป็นทุ่งหญ้าโล่ง ระยะทางประมาณ 500 เมตร จะพบทางเดินตัดลงไปในหุบเขาทางซ้ายมือ ซึ่งเป็นจุดกางเต็นท์บนดอยม่อนจอง เดินตัดจากทุ่งหญ้าสันเขาลงมาเพียง 100 เมตร ถึงจุดกางเต็นท์ บริเวณจุดกางเต็นท์จะอยู่ชายป่า มีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา มีห้องน้ำให้บริการ และมีสำนักงานชั่วคราวของเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ คอยดูแลความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวตลอดเวลา ปกติหากเริ่มเดินเท้าจากจุดเริ่มเดินช่วงประมาณ 10.00 น. ส่วนมากจะเดินมาถึงจุดกางเต็นท์กันไม่เกิน 15.00 น. เมื่อจัดการกางเต็นท์ เก็บสัมภาระ และพักผ่อนกันแล้ว นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเดินไปชมทิวทัศน์และแสงยามเย็นของพระอาทิตย์ตก ณ จุดสูงสุดยอดดอย ที่เรียกว่า “ผาหัวสิงห์” ซึ่งห่างจากจุดกางเต็นท์ประมาณ 1-1.5 กิโลเมตร ไฮไลต์ของม่อนจองอยู่ที่บรรยากาศแสงยามเย็น เพราะแสงอาทิตย์ยามสาดสะท้อนภูเขาหญ้าสีทองนั้น ให้ความรู้สึกสวยสะกดสายตาอย่างมาก ฉะนั้นแนะนำให้พยายามทำเวลา เริ่มเดินขึ้นดอยอย่าสายจนเกินไป จะได้มาถึงจุดกางเต็นท์เร็ว ๆ และมีเวลาเดินเล่นเก็บบรรยากาศยามเย็น ผาหัวสิงห์

“ม่อนจอง” ต้องลองไป อ่านเพิ่มเติม

ร่วมส่งแรงเชียร์ทีมแกะสลักหิมะจากประเทศไทย ชิงชัยในการแข่งขัน International Snow Sculpture Contest ครั้งที่ 49 ในงานเทศกาลหิมะ Sapporo Snow Festival 2025

มาช่วยกันส่งแรงเชียร์ทีมแกะสลักหิมะจากประเทศไทยร่วมชิงชัยในการแข่งขัน International Snow Sculpture Contest ครั้งที่ 49 ในงานเทศกาลหิมะ Sapporo Snow Festival 2025 ณ สวน Odori 11 – chome International Square ณ เมืองซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่นระหว่างวันที่ 3-7 กุมภาพันธ์ 2568 ❄️ และขอขอบคุณ บริษัท ซี อาร์ ซี สปอร์ต จำกัด ผู้บริหารร้านซูเปอร์สปอร์ต ในเครือเซ็นทรัลรีเทล บริษัทตัวแทนจัดจำหน่ายแบรนด์ Columbia สนับสนุนชุดและอุปกรณ์กันหนาวเพื่อเสริมความมั่นใจลุยภารกิจท้าความหนาวเต็มที่ 💪

ร่วมส่งแรงเชียร์ทีมแกะสลักหิมะจากประเทศไทย ชิงชัยในการแข่งขัน International Snow Sculpture Contest ครั้งที่ 49 ในงานเทศกาลหิมะ Sapporo Snow Festival 2025 อ่านเพิ่มเติม

ชวนเช็กอินถ่ายรูปสวย ๆ ที่ ทุ่งบัวแดงบึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์

ต้นปีนี้! ชวนเพื่อนไปเช็กอินถ่ายรูปสวย ๆ ท่ามกลางดอกบัวแดงที่กำลังบานสะพรั่งนับพันไร่ ที่ บึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งมีเพียงปีละครั้งเท่านั้น บึงบอระเพ็ดเป็นบึงน้ำจืดขนาดใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่อำเภอเมืองนครสวรรค์ อำเภอท่าตะโก และอำเภอชุมแสง มีสัตว์และพันธุ์พืชน้ำอยู่มากมาย ช่วงเดือนพฤศจิกายน-เดือนมีนาคมของทุกปี จะมีนกเป็ดน้ำอพยพหนีความหนาวมาอาศัยอยู่ที่นี่ โดยมีนกประจำถิ่นที่เราสามารถมองเห็นได้ตามธรรมชาติรอบ ๆ บึงก็คือ นกเป็ดน้ำ นกอีโก้ง นกอีแจว นกปากห่าง วันนี้! บัดดี้ขอนำภาพบรรยากาศทุ่งบัวแดงยามเช้าท่ามกลางแสงอาทิตย์อ่อน ๆ เมื่อต้นเดือนธันวาคม มาฝากเพื่อน ๆ กัน ซึ่งนอกจากจะได้ชมทุ่งบัวแดงสวย ๆ แล้ว การชมนกอพยพบินอวดโฉมไปมาบนท้องฟ้าก็ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมไฮไลต์ของที่นี่เลย เพื่อน ๆ มาเที่ยวช่วงนี้ถือว่าคุ้มค่ากับการมาเยือนมาก ๆ  ตามมาชมความสวยงามของทุ่งบัวแดงกันเลย! 🌸📸 ช่วงเวลาที่ดีในการชมดอกบัว: 06.00 – 10.00 น. (ดอกบัวจะบานช่วงเช้า)🌸📸 วันนี้ – 14 กุมภาพันธ์ 2568 จุดบริการล่องเรือชมบัวแดง1. ชุมชนบ้านรางบัว (ใกล้จุดชมบัวมากที่สุด)ค่าบริการ ท่านละ 100 บาทคุณสายรุ้ง 📞 08 6401 1433พิกัด https://goo.gl/maps/3V2YYn3xYrg9Tq8K8 2. อุทยานนกน้ำ (ล่องเรือดูนก ชมบัว ใช้เวลา ประมาณ 2 ชั่วโมง)ค่าบริการเหมาลำ 8-10 ท่าน ราคา 1,200 บาทคุณพนม 📞 08 1786 4330พิกัด https://goo.gl/maps/9KygyhNaeNKCqdni7 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม– เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ด 📞 06 4451 4980– ททท. นครสวรรค์ 📞 0 5622 1811-2

ชวนเช็กอินถ่ายรูปสวย ๆ ที่ ทุ่งบัวแดงบึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์ อ่านเพิ่มเติม

One Day Trip ทุ่งทานตะวัน จังหวัดลพบุรี

เมื่อลมหนาวมาเยือน เป็นสัญญาณแห่งการผลิบานของมวลหมู่ดอกไม้นานาชนิด หนึ่งในนั้นซึ่งเป็นที่นิยมชมชอบของนักท่องเที่ยวและนักถ่ายภาพ คือ ดอกทานตะวัน ในประเทศไทย จังหวัดที่มีการปลูกทานตะวันมากที่สุด คือ จังหวัดลพบุรี โดยมักปลูกกันมากในพื้นที่บริเวณเขาจีนแล อำเภอเมืองลพบุรี อำเภอพัฒนานิคม และอำเภอหนองม่วง ทุ่งทานตะวันในพื้นที่จังหวัดลพบุรี จะบานในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน – เดือนธันวาคมของทุกปี แต่ก็อาจจะมีบางแปลงที่บานช้า มีให้ได้ชมกันถึงช่วงหลังปีใหม่ ช่วงเวลาที่เหมาะสม ในการชมและถ่ายภาพกับทุ่งทานตะวัน คือ – ช่วงแสงเช้า เวลา 08.00-10.00 น. – ช่วงแสงเย็น คือ เวลา 15.00-17.00 น. บัดดี้จะพาไปเที่ยวทุ่งทานตะวันจังหวัดลพบุรี แบบเช้าไปเย็นกลับ (One Day Trip) ซึ่งบัดดี้ได้เดินทางไปเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา เพื่อรวบรวมข้อมูลและภาพถ่ายบรรยากาศสวย ๆ มาอัปเดตให้กับเพื่อน ๆ ที่กำลังเตรียมตัวไปเที่ยวกันค่ะ ทุ่งทานตะวัน โซนเขาจีนแล อำเภอเมืองลพบุรี การเดินทางไปทุ่งทานตะวัน (โซนเขาจีนแล) อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรีจากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) ผ่านตัวเมืองสระบุรี และอำเภอพระพุทธบาท จนถึงสี่แยกนิคมสร้างตนเอง อำเภอเมืองลพบุรี ให้เลี้ยวขวาเข้าใช้ทางหลวงหมายเลข 3017 ตรงไปประมาณ 8.5 กิโลเมตร จะพบซอยทางซ้ายมืออยู่ถัดจากร้านกะเพรา & Coffee ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยดังกล่าว ตามป้ายบอกทางไปวัดเวฬุวัน (เขาจีนแล) ตรงเข้าไปประมาณ 2 กิโลเมตร ตลอดสองข้างทางจะเริ่มเป็นพื้นที่ทุ่งทานตะวัน (ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม) จากทางหลวงหมายเลข 3017 หากไม่เลี้ยวซ้ายเข้าซอยข้างร้านกะเพรา & Coffee ก็ให้ตรงต่อไปตามทางหลวงหมายเลข 3017 อีกประมาณ 1.5 กิโลเมตร จะพบแยกให้เลี้ยวซ้ายเข้าชุมชนบ้านนิคมหมู่ 6 สามัคคี จากนั้นตรงเข้าไปอีก 1.5 กิโลเมตร จะเริ่มเข้าสู่พื้นที่ปลูกทานตะวัน ทุ่งทานตะวันในพื้นที่เขาจีนแล อำเภอเมืองลพบุรี1. ไร่วิชาญ โทร. 08 9615 25632. ไร่ไสวรถยก โทร. 06 2357 93883. ไร่เปรมปรี โทร. 08 4775 79424. ไร่จำรัส โทร. 08 9813 53615. ไร่แม่ไหมพ่อไก่ โทร. 09 9449 71646. ไร่แป้งหอม โทร. 08 1286 42807. ไร่ฟ้าใส โทร. 08 9089 24268. สนามโดดร่ม โทร. 09 3582 173510. ไร่ลุงนอง โทร. 08 9413 439211. ไร่ป้าจ้อย โทร. 09 4419 128512.ไร่ลุงหลวง โทร. 06 1545 643213. ไร่ลุงวิรัช โทร. 06 1642 766414. ไร่วานร ลพบุรี โทร. 08 3798 799215. ไร่นวล-พยอม (ทุ่งคอสมอส) โทร. 08 6130 8584 *แนะนำก่อนเดินทางไปเที่ยว อาจโทรไปสอบถามหรือติดตามช่องทางโซเชียลมีเดียของทุ่งทานตะวัน เพื่ออัปเดตสถานการณ์ดอกทานตะวันบาน จะได้กำหนดวันเดินทางไปชมทุ่งทานตะวันสวย ๆ ได้ทันเวลา ก่อนที่ดอกจะโรยรา ขอบคุณข้อมูลจาก : สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองลพบุรี ร้านคาเฟ่จากนั้นแวะมานั่งพักและกินไอติมชิลล์ๆ กันที่ Flower House Cafe & Bistro คาเฟ่ตกแต่งน่ารักในโซนเขาจีนแล ตรงข้ามถนน คือ ทุ่งทานตะวัน ไร่ฟ้าใส ภายในร้านจำหน่ายเครื่องดื่มและขนมเค้ก รวมทั้งมีไอติมรูปดอกทานตะวันและเขาจีนแลให้ได้ชิมและถ่ายรูปเก๋ ๆ ด้วย ซึ่งในวันที่เดินทางไป คือ วันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 ดอกทานตะวันของไร่นี่ก็บานแล้วเช่นกัน Flower House Cafe & Bistro📌 18/4 หมู่ที่ 7 (ตรงข้ามวัดถ้ำมงคลนิมิตร) ตำบลนิคมสร้างตนเอง อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรีhttps://maps.app.goo.gl/o8mDrSa4uax2UEQz5โทร. 06 4235 9449Facebook: Flower House Cafe & Bistro ร้านอาหารกลางวันมาทานมื้อกลางวันแบบจัดเต็มจนแน่นท้องกันที่ร้านอาหารใกล้กับเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่งบริเวณทางเข้าเขื่อนจะมีร้านอาหารที่ขึ้นชื่อเรื่องเมนูปลาเผา กุ้งเผา และปลาจากเขื่อนให้บริการอยู่หลายร้าน พวกเราเลือกฝากท้องไว้ที่ ร้านครัวกุ้งหลวง อยู่ห่างจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เพียง 2 กิโลเมตร และห่างจากทุ่งทานตะวัน “ไร่คุณรำยอง” ประมาณ 7 กิโลเมตร อาหารที่ร้านนี้สด อร่อย ให้เยอะ และราคาสมเหตุสมผล เพื่อน ๆ สามารถแวะมาฝากท้องลองชิมด้วยตัวเองได้ ทุ่งทานตะวัน โซนอำเภอพัฒนานิคมปิดท้ายกันที่ทุ่งทานตะวัน “ไร่คุณรำยอง” ซึ่งกำลังเป็นกระแสและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวล้นหลาม ไฮไลต์เด่นของไร่คุณรำยอง คือ บันไดสีขาวเอนชี้ขึ้นฟ้า ให้นักท่องเที่ยวได้เดินขึ้นไปถ่ายภาพสวยเก๋ ตัดกับสีเหลืองสดใสของทุ่งทานตะวัน เรียกได้ว่าจะถ่ายมุมไหนก็สวยแหละ *มีรถบริการพาชมรอบไร่ คนละ 10

One Day Trip ทุ่งทานตะวัน จังหวัดลพบุรี อ่านเพิ่มเติม

เอาใจสายแอดแวนเจอร์ ที่ อุโมงค์เหมืองแร่ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี

วันนี้บัดดี้ขอพาเพื่อน ๆ มาทำความรู้จักกับเส้นทางท่องเที่ยวเอาใจสายแอดแวนเจอร์ สายเอ็กซ์ตรีม ท้าลมหนาว กับสถานที่ท่องเที่ยวไม่ใกล้ไม่ไกล สามารถเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปถึงได้ภายใน 2-3 ชั่วโมง หรือจะไปแบบ One Day Trip ก็ทำได้ เพราะที่ที่บัดดี้จะพาเพื่อน ๆ ไปก็คือ จ.กาญจนบุรี หนึ่งในจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวอันหลากหลายนั่นเอง เรามาเริ่มออกเดินทางกันเลย จากกรุงเทพฯ เพื่อน ๆ สามารถไปได้ทั้งทางรถยนต์ส่วนตัว รถไฟ หรือรถสาธารณะก็ได้ จุดหมายปลายทางคือ จ.กาญจนบุรี เมื่อถึงตัวเมืองกาญจนบุรี ให้เดินทางต่อไปยัง อ.ทองผาภูมิ ซึ่งตรงจุดนี้อาจใช้บริการรถตู้โดยสาร หรือเช่าเหมารถสองแถวก็ได้เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง จากนั้นเดินทางเข้าไปยังอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ อันเป็นที่ตั้งของจุดชมวิวเนินสวรรค์ สถานที่ชมพระอาทิตย์ตกดินบนยอดเขา ที่นี่นักท่องเที่ยวสามารถกางเต็นท์บริเวณลานกางเต็นท์ที่ทางอุทยานฯ จัดไว้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพียงแต่ต้องปฏิบัติตาม ระเบียบของอุทยานฯ อย่างเคร่งครัด จากจุดนี้เพื่อน ๆ สามารถเช่ารถ 4 Wheels (นั่งได้ 6-8 คน) จากเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เพื่อพาเข้าชมความอลังการของอุโมงค์ 3 มิติ หนึ่งใน Unseen New Charpter ได้ อุโมงค์ 3 มิติ เป็นอุโมงค์เหมืองแร่เก่า บรรยากาศภายในอุโมงค์มีความน่าตื่นตาตื่นใจ สภาพแวดล้อมเต็มไปด้วยป่าเขาที่เป็นธรรมชาติ อุโมงค์เหมืองแร่ 3 มิติ อยู่ในพื้นที่ป่าชุมชนเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ 4 อุโมงค์ อุโมงค์แรก – มีความลึกประมาณ 100 เมตร เส้นทางเป็นเส้นทางขึ้นเขาทั้งในและนอกอุโมงค์  อุโมงค์ที่ 2 – เป็นอุโมงค์เหมืองแร่ที่มีความลึกประมาณ 300 เมตร ห่างจากอุโมงค์แรกราว 1 กม. ภายในอากาศเย็น มีความชื้นบาง ๆ เข้าไปแล้วจะรู้สึกเย็นสบาย ไม่อึดอัด จากจุดนี้ขึ้นไป 500 เมตร จะขึ้นสู่ “เขาเอเวอร์เรสต์”  ซึ่งเป็นอุโมงค์ที่ 3 อุโมงค์ที่ 3 – มีความลึกราว 300 เมตร ความพิเศษของอุโมงค์ที่ 3 คืออุโมงค์มีความแคบ ชัน และเพดานเตี้ยนักท่องเที่ยวจะต้องก้มศีรษะให้ต่ำขณะกำลังลอดอุโมงค์ นอกจากนี้ยังมีความงดงามของหินงอกหินย้อยที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติให้ชื่นชม ระหว่างทางภายในอุโมงค์อีกด้วย เมื่อพ้นอุโมงค์ที่ 3 ออกมา จะพบว่าเรายืนอยู่บนยอดเขาแล้ว อากาศโปร่ง โล่ง ทัศนียภาพสวยงาม มองจากเขาลงไปเป็นแนวป่าครึ้ม เขียวขจี ตัดกับท้องฟ้าสีฟ้าสด และยังมีเส้นทางเดินต่อไปในถ้ำ ชื่นชมความงามของภาพสะท้อนแสงเงาที่เกิดขึ้นจากแอ่งน้ำตามธรรมชาติในถ้ำได้อย่างจุใจ หลังจากนั้น บัดดี้กลับมาเดินทางต่อด้วยรถ 4 Wheels อีกครั้งเพื่อเข้าอุโมงค์สุดท้าย อุโมงค์ที่ 4 – หรืออุโมงค์ ดร.ผล กลีบบัว เป็นอุโมงค์ที่มีความลึกมากที่สุดใน 4 อุโมงค์นี้ มีความลึกประมาณ 2.3 กิโลเมตร ภายในอุโมงค์มีความคดเคี้ยว มีตาน้ำไหลซึมออกมาแรงบ้างเบาบ้างตามทางในอุโมงค์ เป็นทางน้ำที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติไหลลงมาจากเขาด้านบนของอุโมงค์ นับเป็นอุโมงค์ที่ได้ผจญภัยด้วยความสนุกสนาน ตื่นตาตื่นใจตลอดทั้งเส้นทาง เมื่อเดินทางพ้นจากอุโมงค์ที่ 4 จะพบกับเส้นทางออกจากเขา ซึ่งเป็นเส้นทางเดียวกับเส้นทางที่ใช้เข้ามาตั้งแต่ต้น ทั้งนี้ไม่อนุญาตให้นำรถยนต์ส่วนตัวเข้าไปภายในอุโมงค์ เนื่องจากเส้นทางมีความซับซ้อน นักท่องเที่ยวอาจเกิดอันตรายได้ บัดดี้คิดว่าความมหัศจรรย์ทั้งทางธรรมชาติและที่มนุษย์ทำขึ้นแบบไม่ได้ตั้งใจนี้ กลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวสุดเอ็กซ์ตรีมที่เพื่อน ๆ น่าจะได้ไปลิ้มลองรสชาติของการผจญภัยแบบ Indianna Jones เมืองไทยซักครั้งในชีวิต 🔴 ไม่มีเงื่อนไขในการเข้าชม ยกเว้นเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือผู้ที่กลัวที่มืด และแคบ💸 ค่าเช่ารถ 4 Wheels ประมาณ 1,300 บาท (8-10 คน) ใช้เวลาเดินทางทั้งหมดราว 2 ชม.📍 ต.หินดาด อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี📞 สนใจเข้าเยี่ยมชม ติดต่อ ททท. สำนักงานกาญจนบุรี โทร. 0 3451 1200🌐 https://maps.app.goo.gl/xisWqWEHSAxZepJf6

เอาใจสายแอดแวนเจอร์ ที่ อุโมงค์เหมืองแร่ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี อ่านเพิ่มเติม

ชวนไปเดิน Skywalk ชมวิวแม่น้ำโขง ที่ วัดผาตากเสื้อ จ.หนองคาย

วัดผาตากเสื้อ ตั้งอยู่ใน อ.สังคม จ.หนองคาย เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนยอดเขา โดยเราสามารถมองเห็นวิวของแม่น้ำโขง ที่กั้นกลางระหว่างประเทศไทยและลาว จากบริเวณวัดได้ ซึ่งทางวัดได้จัดทำ Skywalk ริมหน้าผาเป็นทางเดินกระจกใสรูปครึ่งวงกลมไว้เป็นจุดชมวิวโดยเฉพาะ *สำหรับการเดินบนกระจกจะต้องใส่ถุงคลุมรองเท้าเพื่อป้องกันการเสียดสีของรองเท้ากับกระจกจนอาจทำให้เกิดรอยได้ มีค่าใช้จ่ายคนละ 20 บาท หากใครที่กำลังวางแผนว่าจะเดินทางมาช่วงนี้ แนะนำให้มาช่วงเช้าเพราะจะมีโอกาสได้เห็นหมอกลอยเหนือแม่น้ำโขงซึ่งสวยมากๆ นอกจากนี้ภายในวัดยังมีโบสถ์ซึ่งภายในประดิษฐานองค์พระประธานของวัด เราสามารถเดินขึ้นไปกราบไหว้ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลได้ 📍 ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย⏰ เปิดทุกวันเวลา 06.00-18.00 น.🌐 https://maps.app.goo.gl/YhVU3VS9po5Y2URk6

ชวนไปเดิน Skywalk ชมวิวแม่น้ำโขง ที่ วัดผาตากเสื้อ จ.หนองคาย อ่านเพิ่มเติม

Check-in พิกัดเที่ยวสระแก้ว

จังหวัดที่มีพื้นที่มากที่สุดในภาคตะวันออก หนึ่งในจังหวัดที่มีพรมแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน มีทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าทึ่งและวิถีชุมชนที่น่าสนใจ ลองตามบัดดี้มาดูกัน ว่าคอนเทนต์นี้บัดดี้จะนำเสนออะไรของ จ.สระแก้ว ให้เพื่อน ๆ ได้รู้จักกันบ้าง จุดหมายแรกของทริปนี้ บัดดี้ไปที่ อ.เขาฉกรรจ์ เพื่อไปที่ ชุมชนบ้านหนองโกวิทย์ ชุมชนท่องเที่ยวที่มีกิจกรรมมากมายคอยต้อนรับผู้มาเยือน ทั้งการชมหมู่บ้าน ชมการทอผ้าจากด้ายคอปกเสื้อและการทำอาหารพื้นถิ่น  บัดดี้เลือกกิจกรรมทำอาหารผ่านการติดต่อล่วงหน้ากับทางผู้ใหญ่บ้านสุวรรณะ อย่างที่เห็นในภาพนี้ก็คือ “หลามหน่อไม้” ที่มีลักษณะคล้ายซุปหน่อไม้ แต่นำไปใส่กระบอกไม้ไผ่และนำไปนึ่งแทน ส่วนอาหารอื่น ๆ อย่างหมกหน่อไม้ หมกหัวปลี ไก่อบโอ่ง ขนมจีน ก็รสชาติอร่อย บัดดี้กินอิ่มจนแทบไม่อยากทำอะไรต่อเลยล่ะ สำหรับสิ่งที่น่าสนใจของหมู่บ้านนี้ คือพื้นที่นาจิตอาสา ที่ชาวบ้านจะมาช่วยกันปลูกข้าว เมื่อเก็บเกี่ยวแล้วจะนำผลผลิตไปขัดสีที่โรงสีข้าวชุมชนก่อนนำไปเก็บไว้ที่ธนาคารข้าวของหมู่บ้าน หากมีงานเลี้ยงในหมู่บ้านหรือชาวบ้านคนไหนมีปัญหาเกี่ยวกับข้าว ก็สามารถนำข้าวจากธนาคารข้าวนี้ไปใช้ได้เลย 📍 หมู่ที่ 7 ต.เขาสามสิบ อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว⏰ เปิดบริการทุกวันเวลา 08.00-18.00 น.📞 08 1921 8791 (ผู้ใหญ่สุวรรณะ)🌐 https://maps.app.goo.gl/SUxN8WtxA1vKgTNt8 จากนั้นบัดดี้เดินทางไปที่ ชุมชนบ้านพรสวรรค์ สถานที่มีผลิตภัณฑ์ผ้าขาวม้าที่ถือเป็น Must Buy ของ จ.สระแก้ว ซึ่งอยู่ห่างจากชุมชนบ้านหนองโกวิทย์ไม่ถึง 2 กิโลเมตร เมื่อมาถึง พี่ปู ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านก็พาบัดดี้ชมวิทีการทอผ้ารวมถึงแนะนำผ้าแบบต่าง ๆ ให้บัดดี้รู้จัก ที่นี่เป็นหมู่บ้านทอผ้าที่มีลาย “เขาฉกรรจ์” ลายผ้าเอกลักษณ์ที่มีลวดลายของเขาฉกรรจ์และค้างคาว เอกลักษณ์ของอำเภอนี้ บ้านแต่ละหลังของที่นี่ จะทอผ้ากันเองที่บ้านก่อนจะนำมารวมกันที่ร้านค้าของหมู่บ้าน ซึ่งนอกจากผ้าทอที่สวยงามแล้ว ผ้า Eco-print ของหมู่บ้านพรสวรรค์ก็สวยโดดเด่น นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อล่วงหน้าเพื่อทำกิจกรรมนี้ได้ 📍หมู่ที่ 8 ต.เขาฉกรรจ์ อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว⏰ เปิดบริการทุกวันเวลา 09.00-18.00 น.📞 09 1230 6862 (ผู้ใหญ่ใหม่), 06 6102 8129 (ผู้ช่วยปู)🌐 https://maps.app.goo.gl/dU3EGsWouFK7fp6Y8📱 https://www.facebook.com/Baanpornsawan2561 อีกหนึ่งสถานที่ที่ถือเป็นผู้เริ่มทำให้ผ้าทอจากด้ายคอปกเสื้อเป็นที่รู้จักจนกลายเป็นอีกหนึ่ง Must Buy ก็คือ กลุ่มทอผ้าบ้านไทรงาม ที่ปัจจุบันมีการทำงานร่วมกับหลายมหาวิทยาลัยและผ้าทอของที่นี่ก็กลายเป็นสินค้าส่งออกไปต่างประเทศแล้ว พี่นวล หัวหน้ากลุ่มที่นี่บอกบัดดี้ว่า ปัจจุบันทั้งหมู่บ้านหนองโกวิทย์ ชุมชนบ้านพรสวรรค์และกลุ่มทอผ้าบ้านไทรงามได้ทำงานร่วมกัน ทั้งเพื่อช่วยเพิ่มรายได้ของชาวบ้าน ช่วยลดผ้าเหลือใช้ของอุตสาหกรรมการผลิตผ้าและช่วยเพิ่มมูลค่าสินค้า เสื้อผ้า ให้กับบริษัทเอกชนผ่านการนำผ้าเหล่านี้ไปใช้ ด้วยพื้นที่กว่า 30 ไร่ นอกจากจะเป็นศูนย์ผลิตผ้าทอแล้ว พี่นวลยังพาบัดดี้เดินชมสวนที่มีทั้งต้นยางและผลไม้หลากหลายชนิด หากนักท่องเที่ยวสนใจก็สามารถมากางเต็นท์เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศการนอนได้ 📍 135 หมู่ที่ 10 อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว⏰ เปิดบริการทุกวันเวลา 09.00-17.00 น.📞 08 6956 6285 (พี่นวล)🌐 https://maps.app.goo.gl/tEZ3GpNFy3DXU7eDA สถานที่ต่อไปคือ วัดถ้ำเขาฉกรรจ์  ภายในวัดมีพระอุโบสถที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2433 มีภูเขาหินปูนขนาดใหญ่สามลูกที่ตั้งเรียงตัวติดกัน ยอดเขามีจุดชมวิวภายในถ้ำที่ชื่อว่า ถ้ำเขาทะลุ ที่ต้องเดินขึ้นบันไดประมาณ 300 ขั้น เพื่อขึ้นไปยังยอดเขา ระหว่างทางมีลิง หากใครจะขึ้นต้องเตรียมตัวให้พร้อม อย่าพกของพะรุงพะรังระหว่างเดินขึ้นไป 📍 ต.เขาฉกรรจ์ อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว⏰ เปิดบริการทุกวันเวลา 07.00-18.00 น. 📞 08 9868 3092 🌐 https://maps.app.goo.gl/PqxNVtKt5NTU1eCq8 หนึ่งใน Must Seek ของ จ.สระแก้ว คือการชมค้างคาวเขาฉกรรจ์ บัดดี้เดินทางไปที่  ร้าน Wood House เขาฉกรรจ์ ซึ่งอยู่ห่างจากวัดถ้ำเขาฉกรรจ์ เกือบ ๆ 3 กิโลเมตร ที่นี่ถือเป็นอีกจุดที่หลายคนแนะนำให้มาชมค้างคาว Wood House เขาฉกรรจ์  เป็นคาเฟกึ่งร้านอาหารที่ปลูกดอกดาวกระจายสีเหลืองสดใส ในช่วงเย็นจะมีค้างคาวออกจากเขาฉกรรจ์มาให้ชมทุกวัน เวลาประมาณ 17.00-19.00 น. แล้วแต่สภาพอากาศ 📍ต.เขาฉกรรจ์ อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว⏰ เปิดบริการทุกวันเวลา 08.00-18.00 น. 📞 08 2881 3788🌐 https://maps.app.goo.gl/U1mZzndhRaovhCwW6 จาก อ.เขาฉกรรจ์ บัดดี้มุ่งหน้ามาที่ อ.อรัญประเทศ สถานที่ตั้งของ ร้านยายต๊าม ร้านอาหารเวียดนามเจ้าแรกใน อ.อรัญประเทศ ซึ่งอาหารเวียดนามถือเป็น Must Taste ของ จ.สระแก้ว ด้วยนะ  บัดดี้สั่งแหนมเนือง ปอเปี๊ยะกุ้งสด ปอเปี๊ยะทอด ปากหม้อและกาแฟเวียดนามมาลอง ส่วนของหวานเป็นปอเปี๊ยะกล้วยหอมชีส&ไอศกรีม รสชาติอร่อย กินเพลินเลยล่ะ ใครชอบหรืออยากลองอาหารเวียดนามน่าจะถูกใจ 📍87 ถนนมิตรสัมพันธ์ ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว⏰ เปิดบริการทุกวันเวลา 07.30-19.00 น. 📞 08 1559 8664🌐 https://maps.app.goo.gl/VSGwdrow36oCRmRg9 หลังจากท้องอิ่ม บัดดี้มุ่งหน้าไปที่ อุทยานแห่งชาติตาพระยา เพื่อไปชมจุดชมวิวผาแดง 1 ใน Must Seek ของ จ.สระแก้ว และยังเป็น 1 ใน 12 Dark sky Thailand ซึ่งจากลานจอดรถสามารถเดินไปถึงจุดชมวิวได้ในระยะไม่ถึง 100 เมตร ที่นี่เป็นเป็นเทือกเขาสูงตามแนวของเทือกเขาบรรทัดไปจนถึงเทือกเขาพนมดงรัก มีพื้นที่ครอบคลุม 2 จังหวัด คือ จ.สระแก้ว และ จ.บุรีรัมย์ ปัจจุบันอุทยานแห่งชาติตาพระยาได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติโดย UNESCO 📍อุทยานแห่งชาติตาพระยา

Check-in พิกัดเที่ยวสระแก้ว อ่านเพิ่มเติม

วัดห้วยปลากั้ง จ.เชียงราย วัดสวยที่ผสมผสานระหว่างล้านนาและจีน

วัดห้วยปลากั้ง ถือเป็นอีกวัดที่มีชื่อเสียงใน จ.เชียงราย แต่เดิมเป็นสำนักสงฆ์ ที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2544 ต่อมาสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ประกาศแต่งตั้งขึ้นเป็นวัด โดยใช้ชื่อว่า “วัดห้วยปลากั้ง” เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 โดยมีพระอธิการพบโชค ติสฺสวํโส เป็นเจ้าอาวาสรูปแรกจนถึงปัจจุบัน วัดแห่งนี้มีสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างล้านนาและจีน ทั้ง “พบโชคธรรมเจดีย์” เจดีย์ทรงเหลี่ยม 9 ชั้น สีเหลืองตัดสลับกับหลังคาสีแดง แต่ละชั้นจะประดิษฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์แตกต่างกัน เช่นเจ้าแม่กวนอิมแกะสลักจากไม้จันหอม หลวงปู่โต หลวงปู่ทวด พระสังกัจจายน์ พระอุโบสถสีขาว ที่ทางขึ้นเป็นบันไดนาคสวยงาม ประดับด้วยลวดลายปูนปั้นทั้งหลัง ภายในประดิษฐานองค์พระพุทธรูปสีขาวองค์ใหญ่ รูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิม ถือเป็นองค์เจ้าแม่กวนอิมขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีความสูงประมาณ 79 เมตร  ภายในองค์เจ้าแม่กวนอิมสามารถขึ้นลิฟต์เพื่อชมวิวจากมุมสูงได้ ผนังด้านในเป็นลวดลายปูนปั้นสวยงาม *ภายในวัดมีบริการรถรางฟรี สามารถนั่งเพื่อไปยังจุดต่าง ๆ ได้ 📍หมู่ 3 ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ⏰ เปิดทุกวันเวลา 07.00-21.00 น. / ลิฟต์เปิดให้บริการเวลา 07.00-18.00 น.📞  0 5315 0274, 08 6620 0647🌐 https://maps.app.goo.gl/pop4CxxrUWdFGwho8📱 https://www.facebook.com/wathuayplakang/

วัดห้วยปลากั้ง จ.เชียงราย วัดสวยที่ผสมผสานระหว่างล้านนาและจีน อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top