ราชบุรี

ราชบุรี

เที่ยวตลาดน้ำ…ชมวิถีไทย

วันนี้บัดดี้ขอแนะนำ 6 ตลาดน้ำ เพื่อเป็นตัวเลือกให้เพื่อน ๆ ได้ตามรอยบ้าง ออกไปสัมผัสวิถีชีวิต กินอาหารชุมชน พูดคุยกับพ่อค้าแม่ค้าที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวได้ทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ วางแผนแล้วไปกัน อย่าลืม ร่วมเป็นเจ้าบ้านที่ดี ยิ้มแยมทักทาย ช่วยกันเป็นหูเป็นตา ไม่เอาเปรียบนักท่องเที่ยวนะคะ ตลาดน้ำดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี ตลาดน้ำยอดฮิตสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ ประมาณ 2.30 ชั่วโมง พ่อค้า แม่ค้าขายสินค้าทั้งบนเรือและบนฝั่ง เริ่มค้าขายตั้งแต่เวลา 07.00 น. ไปจนถึงช่วงประมาณ 13.00 น. มีสินค้าให้เลือกมากมาย ทั้งอาหาร ขนมหวาน มีบริการล่องเรือไปยังแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงทั้งแบบเรือพาย นั่งไม่เกิน 5 ท่านและเรือยนต์ นั่งไม่เกิน 6 ท่าน เปิดบริการ ทุกวัน เวลา 08.00-15.00 น. สอบถามข้อมูล– ท่าเรือยุวันดา โทร. 08 5222 7470– ท่าเรือหญิงกอล์ฟ โทร. 08 0237 5199– ท่าเรือแป๊ะ โทร. 08 7111 1624– ท่าเรือประเมศฐ์ โทร. 08 5186 3361https://maps.app.goo.gl/NtruRwaxrbdrjK7r8 ตลาดน้ำอัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ตลาดน้ำที่นี่ ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ ประมาณ 2 ชั่วโมง เป็นตลาดยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวต่างเข้ามาสัมผัส ด้วยเสน่ห์ของเรือนแถวไม้ริมน้ำกับการสัญจรทางน้ำ และการค้าขายด้วยเรือจนเป็นภาพชินตา เลือกซื้อสินค้าที่หลากหลาย ทั้งบนบกและบนเรือ ช่วงค่ำนั่งเรือชมหิ่งห้อย นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อเรือท่องเที่ยวได้ที่ตลาดน้ำอัมพวา หรือติดต่อผ่านที่พักและโฮมสเตย์ โดยเรือจะล่องไปตามลำน้ำแม่กลองหรือคลองย่อยต่าง ๆ เปิดบริการทุกวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00-20.30 น. สอบถามข้อมูล โทร. 08 3433 5613https://maps.app.goo.gl/RHs6vynSbKVi9tSJ8 ตลาดน้ำดอนหวาย จังหวัดนครปฐม ตลาดน้ำใกล้กรุงอีกแห่งที่แนะนำ ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ ประมาณ 1 ชั่วโมง ที่มีของกินมากมาย อร่อยทุกร้าน และเป็นอาหารพื้นบ้านดั้งเดิมอีกด้วย เช่น เป็ดพะโล้ ต้มเค็มปลาทู ต้มเค็มปลาตะเพียน ขนมจีนน้ำยากะทิ น้ำยาป่า ห่อหมกปลาช่อน ทอดมันปลากรายแท้ และขนมไทยโบราณ เรียกว่าเป็นสวรรค์ของนักกินโดยแท้ ยังมีผักและผลไม้ที่ส่งตรงมาจากสวนชาวบ้านให้เลือกซื้อกันอีก บรรยากาศก็โดนใจกับกลิ่นอายย้อนยุค ที่มีร้านค้าเรียงรายอยู่ตามแพและเรือนริมน้ำ สามารถล่องเรือแม่น้ำท่าจีนชมวิวสองฝั่ง วิถีบ้านริมน้ำได้ ตลาดเปิดบริการทุกวันเวลา 08.00-17.00 น. เรือศรีสวัสดิ์ย้อนยุค โทร. 08 1448 8876, 08 1659 5805https://maps.app.goo.gl/gRwg4c4WwTqSUwUf6 ตลาดน้ำขวัญเรียม รามคำแหง กรุงเทพฯ ตลาดน้ำในกรุงเทพฯ ที่เดินทางได้ง่าย ที่นี่เป็นตลาดน้ำกลางกรุงที่จำลองวิถีชีวิตริมน้ำผ่านกิจกรรมที่น่าสนใจต่าง ๆ ได้แก่ การตักบาตรทางเรือ และงานทอดผ้าป่าทางน้ำ พร้อมเลือกชิมอาหารคาวและขนมหวานจากทั่วทุกภาคของประเทศไทย นักท่องเที่ยวสามารถเลือกรับประทานได้ทั้งบนฝั่งและนั่งเรือ เปิดบริการทุกวันเสาร์-วันอาทิตย์ เวลา 07.00-17.00 น. สอบถามข้อมูล โทร. 08 1357 1545https://maps.app.goo.gl/cNq5sH4mEJVGqwDj8 ตลาดน้ำคลองลัดมะยม ตลิ่งชัน กรุงเทพฯ เป็นตลาดน้ำยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร จำหน่ายอาหารและขนมไทยหลายชนิด อีกทั้งของตกแต่งบ้าน ของใช้ประเภทต่าง ๆ เสื้อผ้า และเครื่องปั้นดินเผา และมีกิจกรรมล่องเรือคลองบางระมาด เพื่อสัมผัสวิถีชีวิตชุมชนโดยรอบตลาดน้ำ และล่องเรือไปบ้านขนมไทยที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มลองความอร่อย และเลือกซื้อเป็นของฝาก เปิดบริการทุกวันเสาร์-วันอาทิตย์ เวลา 08.00-17.00 น. สอบถามข้อมูล โทร. 0 2422 4270https://maps.app.goo.gl/eR7cGmLfNgXtfyZt6 ตลาดน้ำคลองบางหลวง ภาษีเจริญ กรุงเทพฯ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม มีการนำเสนอเอกลักษณ์วิถีชุมชน ซึ่งยังสะท้อนภาพชุมชนดั้งเดิมได้จากเรือนแถวไม้ค้าขายสินค้าสองฟากถนนและเรือนแถวไม้จำหน่ายสินค้าต่าง ๆ แก่ผู้ที่มาท่องเที่ยวชื่นชมบรรยากาศริมน้ำ นอกจากนี้ยังมีบ้านศิลปินคลองบางหลวง บ้านไม้ทรงมะนิลา ตัวเรือนลักษณะเป็นรูปตัวแอล มีเจดีย์เก่าแก่อยู่ภายในพื้นที่บ้าน สันนิษฐานว่าเป็นเจดีย์กำหนดหนึ่งในสี่ทิศของวัดกำแพงบางจาก บ้านศิลปินเป็นแหล่งรวบรวมงานศิลปะมากมาย ชั้นบนเป็นแกลเลอรี จัดแสดงภาพวาด ภาพถ่าย ชั้นล่างจำหน่ายของที่ระลึก โปสการ์ดแนวศิลปะต่าง ๆ และมีกิจกรรมงานฝีมือให้บริการแก่นักท่องเที่ยวที่สนใจ บ้านศิลปินเปิดทุกวัน ตลาดเปิดบริการทุกวันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00-18.00 น. สอบถามข้อมูล โทร. 09 8097 0468https://maps.app.goo.gl/cBS8HZEZov2U4euP7

เที่ยวตลาดน้ำ…ชมวิถีไทย อ่านเพิ่มเติม

มัดรวมฟาร์มสเตย์ 🐓ท่องเที่ยวแนวใหม่ใกล้ชิดธรรมชาติ 🏨

หากใครกำลังเล็งหาสถานที่ท่องเที่ยวแนวรักษ์โลก บัดดี้อยากให้ลองเปิดประสบการณ์ใหม่ เที่ยว ฟาร์มสเตย์ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมกิจกรรมที่ได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด 🍃 บัดดี้ขอชี้พิกัด 6 ฟาร์มสเตย์ น่าเที่ยวทั่วไทย หัวใจสีเขียว📌 บ้านเกอลิโกล จ.เชียงใหม่📌 บ้านโคกไคร จ.พังงา📌บ้านสวนเส จ.ชัยภูมิ📌 ไออุ่นขุนเขา จ.ราชบุรี📌 Bamboo Pink House บ้านผาหมอน จ.เชียงใหม่📌 MEKIN FARM จ.ขอนแก่น การไปเที่ยวสัมผัสธรรมชาติ นอนโฮมสเตย์ ไม่น่าเบื่ออย่างที่คิด เพราะมีกิจกรรมดี ๆ น่าทำแตกต่างกันไปในแต่ละที่ รวมถึงมีข้อดี ที่ดีต่อใจมาก ๆ อีกด้วย เช่น 📌 บ้านเกอลิโกล จ.เชียงใหม่ – ชวนสัมผัสอากาศหนาวกับบ้านไม้ไผ่กลางหุบเขา โอบล้อมไปด้วยบรรยากาศที่อบอุ่น ทานอาหารพื้นบ้านแสนอร่อย พอตกเย็นอากาศหนาวหมอกลง ชวนนั่งปิกนิกข้างกองไฟ ในยามเช้านั่งชมบรรยากาศสดชื่นของธรรมชาติ ที่หน้าระเบียงบ้าน 📌 บ้านโคกไคร จ.พังงา – หมู่บ้านริมทะเลที่ใช้ทรัพยากรธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน ชิมอาหารทะเลที่ชาวประมงหามาเอง เช่น ปลาตัวใหญ่ ๆ นำมาปรุงอาหารอร่อย ๆ ให้เราได้ชิม มีกิจกรรมสปาโคลนแสนผ่อนคลายกับน้ำทะเลอุ่น ทรายร้อน บรรยากาศเงียบสงบ มองออกไปไกล ๆ ขอบทะเลมีภูเขาลูกเล็ก ๆ มากมายเรียงรายสลับกันอยู่ 📌บ้านสวนเส จ.ชัยภูมิ – ฟาร์มสเตย์สวนผักแบบผสมผสาน สนุกกับกิจกรรมปั่นจักรยานชมสวน เก็บไข่ในเล้ามาทำอาหาร ลงนาปลูกข้าว ใช้ชีวิตแบบพอเพียง 📌 ไออุ่นขุนเขา จ.ราชบุรี – มาสร้างสุขภาพดีที่ฟาร์มออร์แกนิก มีผักแทบทุกชนิดไม่ต้องซื้อ สามารถเก็บในสวนมาทำกินได้เลย บรรยากาศเงียบสงบ จำลองการเป็นชาวสวนย่อม ๆ ปลูกผัก เก็บไข่ และได้รับออกซิเจนจากภูเขารอบข้าง 📌 Bamboo Pink House บ้านผาหมอน จ.เชียงใหม่ – ขึ้นดอยชมนาขั้นบันไดสีเขียว เต็มไปด้วยความงามของต้นกล้า เรียนรู้วิถีชาวบ้าน แนะนำให้นอนโฮมสเตย์บนดอย เปิดหน้าต่างรับแสงอาทิตย์หลังเขาสุดโรแมนติก 📌 MEKIN FARM จ.ขอนแก่น – สวนเล็กแสนธรรมดากับความสุขในการทำเกษตรอินทรีย์ ลองนอนกระท่อมปลายนา ท่ามกลางธรรมชาติที่น่าพักผ่อน ชิมอาหารพื้นบ้านที่อร่อยอย่าบอกใคร

มัดรวมฟาร์มสเตย์ 🐓ท่องเที่ยวแนวใหม่ใกล้ชิดธรรมชาติ 🏨 อ่านเพิ่มเติม

✨ รวม 10 วัดหลากสีสัน ✨

สวัสดีทุกคน วันนี้บัดดี้จะมาแนะนำวัดจากหลายจังหวัด ที่มีสีสันสวยโดดเด่นสะดุดตา จนกลายเป็นทั้งสถานที่ทำบุญและสถานที่ท่องเที่ยว แถมบางวัดยังกลายเป็น Land Mark สำคัญของจังหวัดไปเลยด้วย ลองตามมาอ่านกันดู ว่าวันนี้บัดดี้มีวัดไหนมานำเสนอบ้าง สีขาว 1. วัดร่องขุ่น จ.เชียงราย วัดร่องขุ่น ออกแบบและสร้างโดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินชื่อดังของไทย ที่สร้างขึ้นจากปณิธานและแรงศรัทธา ด้วยงานศิลปะงดงามสีขาว ทั้งลวดลายปูนปั้น การประดับกระจกและจิตรกรรรมปูนปั้นหลายจุด แรงบันดาลใจในการสร้างวัดของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ คือการอยากจะสร้างวัดให้เหมือนเมืองสวรรค์ ที่มนุษย์สามารถเดินทางไปสัมผัสได้ ซึ่งหลายจุดในวัด มีการสร้างเป็นสื่อสัญลักษณ์ต่าง ๆ ในพุทธศาสนา อย่างทางเข้าด้านหน้าจะมีสระน้ำขนาดใหญ่ ที่มีสะพานเป็นทางเดินเข้าสู่ตัววัด หมายถึง การเดินข้ามวัฏสงสารมุ่งสู่พุทธภูมิ ครึ่งวงกลมเล็กหมายถึงโลกมนุษย์ วงใหญ่ที่มีเขี้ยวเป็นปากของพญามารหรือพระราหู เปรียบเหมือนกิเลสในใจ ผู้ที่จะเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าในพุทธภูมิต้องตั้งจิตปลดปล่อยกิเลสตัณหาของตนเองลงไปในปากพญามาร เพื่อเป็นการชำระจิตให้ผ่องใสก่อนที่จะเดินผ่านเข้าไปนั่นเอง ปัจจุบัน วัดร่องขุ่นเปิดจุดเช็กอินแห่งใหม่ที่ใช้เวลาสร้างกว่า 6 ปี นั่นก็คือ “ถ้ำศิลป์วัดร่องขุ่น” เป็นผลงานประติมากรรมของอาจารย์เฉลิมชัย ภายในถ้ำ มีรูปทรงหินงอกหินย้อย พระพุทธรูปทุกขภูมิ ขุมนรกและประตูพระนิพพาน มีเพลงบรรเลงประกอบแสงสีเสียงตลอดเส้นทาง โดยมีค่าเข้าชม 50 บาท/คน มีเวลาประมาณ 10-15 นาที ต่อรอบ รายละเอียด ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จ.เชียงราย เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 6.30 – 18.00 น.ห้องแสดงภาพ : เปิดให้เข้าชมวันจันทร์–ศุกร์ เวลา 8.00 – 17.30 น.วันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดราชการ เวลา 8.00 – 18.00 น. วัดร่องขุ่น 0 5367 3579, ททท.สำนักงานเชียงราย 0 5371 7433, ศูนย์บริหารจัดการการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย 0 5371 5690https://goo.gl/maps/sQZ7Q2qq9cyRJhs79เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/วัดร่องขุ่น 2. วัดข่อย จ.เพชรบุรี ตั้งอยู่ติดกับอุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลาย มีการใช้รูปแบบของยันต์ฉิมพลีมาประกอบสถาปัตยกรรมการสร้างเป็นทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ตัวอาคาร มี 3 ชั้นประกอบด้วยชั้นที่ 1 ประดิษฐานพระพุทธรูป 3 องค์ คือพระพุทธเศรษฐีมิ่งมงคล พระพุทธเศรษฐีนวโกฏิ และพระสิวลีมหาลาภชั้นที่ 2 ผนังด้านนอกเป็นลายอักขระยันต์ฉิมพลี มีฉัตรทองเหลืองดุนลาย 9 ยอด 4 ทิศ ด้านในเป็นไม้สักแกะสลักลวดลายยันต์โภคทรัพย์ชั้นที่ 3 เป็นซุ้มเรือนยอดประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุในบุษบก 5 ยอดลงรักปิดทอง ยอดฉัตรทำด้วยทองคำ  ถ.คีรีรัถยา ต.คลองกระแชง อ.เมือง จ.เพชรบุรี เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 06.00-17.00 น. 06 1061 7868, 08 9052 7874https://goo.gl/maps/NQSr5AkQEyy9pvQE7เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/พระธาตุฉิมพลีพระเศรษฐีนวโกฏิ-วัดข่อย สีน้ำเงิน 3. วัดร่องเสือเต้น จ.เชียงราย วัดแห่งนี้ในอดีตราว ๆ 80-100 ปีก่อน เคยเป็นวัดร้าง มีสัตว์ป่ามาอาศัย โดยเฉพาะเสือที่มีอยู่มาก และชอบกระโดดข้ามร่องน้ำไปมา ชาวบ้านจึงเรียกบริเวณนี้ว่า ร่องเสือเต้น ภายหลังชาวบ้านได้ร่วมกันบูรณะวัดขึ้นมา จึงเรียกชื่อวัดว่า “วัดร่องเสือเต้น” เพื่อใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาในวันสำคัญต่าง ๆ และเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้าน  สิ่งก่อสร้างโดดเด่นที่สุดในวัดนี้ คือ วิหารสีน้ำเงิน ที่สร้างโดย “สล่านก” หรือ นายพุทธา กาบแก้ว ศิลปินท้องถิ่นชาวเชียงราย ลูกศิษย์ของ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ โดยเริ่มก่อสร้างเมื่อ พ.ศ. 2548 แล้วเสร็จ พ.ศ. 2559 รวมระยะเวลาถึง 11 ปี ภายในวิหารประดิษฐาน “พระพุทธรัชมงคลบดีตรีโลกนาถ” พระประธานสีขาวปางมารวิชัย ศิลปะเชียงแสน ซึ่งภายในพระเศียรบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เป็นผู้ประทานให้  ด้านหลังวิหารเป็นที่ตั้งของเจดีย์ทรงระฆัง สูง 20 เมตร นามว่า “พระธาตุเกศแก้วจุฬามณีห้าพระองค์” บนยอดเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ได้รับประทานจาก สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก  ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย 08 2026 9038 เปิดทุกวันเวลา 07.00-17.00 น.https://goo.gl/maps/ne1JD21wNp12 4. วัดปากน้ำแขมหนู จ.จันทบุรี วัดแห่งนี้มีความโดดเด่นที่ “โบสถ์เซรามิกสีน้ำเงิน” ซึ่งมีที่มาจาก โบสถ์หลังเก่าที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2489 เริ่มชำรุดทรุดโทรม มีการผุกร่อนมาก เนื่องจากวัดตั้งอยู่ติดกับทะเล ทางวัดและชาวบ้านจึงร่วมกันรื้อโบสถ์หลังเก่าและสร้างโบสถ์ใหม่ขึ้นในปี พ.ศ. 2534 ประตูโบสถ์ด้านในทั้ง 4 บาน มีการแกะสลักภาพนูนต่ำ เกี่ยวกับประวัติพระพุทธเจ้า ด้านนอกบานประตูและหน้าต่างมีการลงลายมุข ภาพเทพทวารบาล พื้นผนังด้านในพระอุโบสถมีการประดับภาพลงสีในพื้นเซรามิกเกี่ยวกับวรรณคดีชาดกและพระมหาชนก ภายในโบสถ์ประดิษฐานพระพุทธชินราชองค์จำลอง เป็นที่สักการบูชาของชาวบ้านและนักท่องเที่ยว  ต.ตะกาดเง้า อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี เปิดให้เข้าชมทุกวันเวลา 08.00-16.00 น.https://goo.gl/maps/imZW46D6sfUbZFDN9 สีเหลือง 5. วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร จ.อยุธยา วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร ตั้งอยู่บนเกาะลอย เกาะกลางแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นวัดที่ในหลวงรัชกาลที่ 5 โปรดฯ ให้สร้างขึ้น เพื่อทรงใช้เป็นสถานที่สำหรับบำเพ็ญพระราชกุศล เมื่อครั้งเสด็จฯ แปรพระราชฐานมาประทับที่พระราชวังบางปะอิน โดยมีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิก เลียนแบบโบสถ์ของศาสนาคริสต์ ด้านหน้าบริเวณทางเข้าของพระอุโบสถ จะมีมุขเป็นแบบสามเหลี่ยมหน้าจั่วซ้อนกัน 2 ชั้น รอบผนังพระอุโบสถเจาะช่องหน้าต่าง เป็นลักษณะปลายแหลมแบบโกธิก ด้านหลังพระอุโบสถเป็นหอระฆังยอดโดม

✨ รวม 10 วัดหลากสีสัน ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ สัมผัสธรรมชาติ และเสน่ห์ท้องถิ่นใกล้กรุงฯ ที่ “ราชบุรี” ✨

ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ อากาศยังคงเย็นสบายอย่างต่อเนื่อง ใครที่กำลังมองหาไอเดียในการวางแผนเดินทางท่องเที่ยวก่อนถึงสุดสัปดาห์นี้ ตามมาดูเส้นทางท่องเที่ยวใน #ราชบุรี กัน เส้นทางในการเดินทางท่องเที่ยวครั้งนี้ เพื่อน ๆ จะได้อินไปกับบรรยากาศของธรรมชาติและเสน่ห์ของคนในท้องถิ่นใน จังหวัดราชบุรี สามารถเที่ยวได้ในเวลา 2 วัน 1 คืน หรือหากใครมีเวลามากกว่านี้ จะเลือกเที่ยวแบบชิล ๆ 3 วัน 2 คืนเหมือนกับเส้นทางนี้เลยก็ได้เช่นกัน 😉  เส้นทางของทริปนี้ เดินทางไปทั้งหมด 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองราชบุรี อำเภอบ้านคา และอำเภอสวนผึ้ง การเดินทาง แนะนำให้เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวหรือเช่ารถขับ จะสะดวกต่อการเดินทางท่องเที่ยว  หากเพื่อน ๆ ไม่มีรถยนต์ส่วนตัวหรือไม่สะดวกขับรถไปเอง สามารถใช้บริการรถตู้และรถมินิบัส จากกรุงเทพฯ (ขึ้นได้ที่สถานีขนส่งหมอชิต และสายใต้ใหม่) หรือสายอื่น ๆ ที่ไปลงอำเภอเมืองราชบุรี จากนั้นไปขึ้นรถตู้ที่เดินทางภายในจังหวัดราชบุรี ท่ารถตั้งอยู่ใกล้กับธนาคารออมสิน สาขาราชบุรี (ตรงข้ามกับแม่น้ำแม่กลอง) เส้นทางราชบุรี – โป่งกระทิง (ผ่านอำเภอบ้านคา) เส้นทางราชบุรี – สวนผึ้ง มีรถให้บริการทุกวันตั้งแต่ 06.00-18.00 น.  นอกจากนี้ในอำเภอสวนผึ้ง ยังมีรถนำเที่ยวโดยรถโฟร์วีล สามารถติดต่อให้นำเที่ยวภายในอำเภอได้ ราคา 1,800 บาท/วัน (เวลา 08.30-17.30 น.) สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เบอร์08 2197 9265 (ช่างยุทธ) เริ่มต้นทริปในอำเภอเมืองราชบุรี ที่ “อุทยานหินเขางู”  ในอดีตเป็นแหล่งระเบิดหินและย่อยหินที่สำคัญของไทย แต่หลังจากมีการยกเลิกสัมปทาน ได้มีการพัฒนาและปรับปรุงภูมิทัศน์ ให้กลายเป็นสวนสาธารณะที่สวยงามและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของราชบุรี มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมากันอย่างไม่ขาดสาย ไฮไลต์ที่นี่คือ สะพานแขวน มุมถ่ายรูปสุดฮิตที่ต้องมีรูปไว้เช็กอินกัน กิจกรรมอย่างหนึ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวอุทยานหินเขางู คือการปั่นเรือถีบนั่นเอง ถึงแม้ว่าจะอยู่กลางแจ้ง แต่ภายในก็มีลมพัดเย็นสบายตลอดเวลา  ภายในอุทยานฯ ยังมีทางเดินรอบบึงให้เพื่อน ๆ ได้เดินเล่นรอบ ๆ เลาะไปตามแนวเขาหินปูนของเขางู หรือจะถ่ายรูปเก๋ ๆ ซึ่งมุมนี้ก็เป็นอีกมุมที่หากใครมาก็ต้องแวะถ่ายรูปกัน  ภายในอุทยานหินเขางู ยังมีเขตพุทธสถานบนภูเขา และมีถ้ำอยู่หลายแห่ง สามารถไปชมกันได้ หากเข้ามาทางฝั่งสวนสาธารณะเขางู เพื่อน ๆ จะได้ชมพระพุทธรูปปางลีลาแบบนูนต่ำขนาดใหญ่ ที่สร้างโดยการยิงแสงเลเซอร์บนหน้าผาหินด้วย  ที่นี่ยังมีลิงอาศัยอยู่บริเวณถ้ำด้วย แนะนำให้ระมัดระวังกันด้วยนะ  พิกัดอุทยานหินเขางู  ตำบลเกาะพลับพลา อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรีเปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น. 0 3239 1308https://goo.gl/maps/uL1NhZdsCFQf3Jt67 พามาเสพบรรยากาศแบบสไตล์ยุโรปที่ “อ่างเก็บน้ำห้วยท่าเคย”  เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ในอำเภอบ้านคา อ่างเก็บน้ำแห่งนี้ มีฉากประกอบเป็นวิวภูเขา ลานหญ้า และป่าสนอยู่รอบ ๆ เป็นภาพที่สวยงามราวกับหลุดมาจากภาพโปสเตอร์เลยทีเดียว บริเวณฝั่งทิศตะวันออกของอ่างเก็บน้ำห้วยท่าเคย ยังเป็นที่ตั้งของที่พักและลานกางเต็นท์หลายแห่ง หากใครยังไม่แน่ใจว่ามาที่นี่แล้วจะพักที่ไหน ขอแนะนำ 4 แห่ง ได้แก่ Phupha Coffee Camp ภูผา คอฟฟี่ แค้มป์ บ้านคา ราชบุรี 06 2538 1899https://goo.gl/maps/QrZnpeSAeiaURSYD7 มะหาด-ไทธารา โฮมสเตย์ Mahad-Thaitara Home Stay 09 9979 1914https://goo.gl/maps/mB9AsH5SgxrmPzMw7 ฟูจิ เมาท์เท่น แคมป์ Fuji mountain camp 09 9165 6489https://goo.gl/maps/eLVESYMSa45zjARt7 The Palm Hill Camping (เดอะ ปาล์ม ฮิลล์ แคมป์ปิ้ง) 08 7669 6038https://goo.gl/maps/2b6aVGKJ2J9KsM2g6 นอกจากจะได้พักผ่อนหย่อนใจแล้ว เพื่อน ๆ ยังสามารถลงเล่นน้ำ ตกปลา พายเรือคายัก และซับบอร์ดในอ่างเก็บน้ำห้วยท่าเคยได้อีกด้วย ค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับทางที่พัก   เด็ก ๆ ควรอยู่ในความดูแลของผู้ปกครองอย่างใกล้ชิด พระอาทิตย์ลับฟ้าแล้ว ถึงเวลาเพลิดเพลินและสนุกสนานหน้าแคมป์ที่ตกแต่งให้พิเศษสำหรับเพื่อน ๆ เติมแต่งด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบครัน  พิกัดอ่างเก็บน้ำห้วยท่าเคย  ตำบลบ้านบึง อำเภอบ้านคา จังหวัดราชบุรีhttps://goo.gl/maps/3rg6GTmPRWrK88c17 วันที่ 2 ของทริป ออกจากอำเภอบ้านคา เดินทางไปที่อำเภอสวนผึ้งในตอนเช้าตรู่ ใช้เวลาประมาณ 45 นาที เพื่อไปทำกิจกรรมไฮไลต์ภายในตลาดน่ารัก ๆ ที่ “โอ๊ะป่อย” ตลาดโอ๊ะป่อย  เป็นตลาดยามเช้า ตั้งอยู่ริมแม่น้ำภาชี มีชื่อเรียกตามภาษาของคนในท้องถิ่น ซึ่งเป็นคนไทยเชื้อสายกะเหรี่ยง มีความหมายว่า “พักผ่อน” ภายในตลาดมีร้านค้ามากมายที่ชาวบ้านนำมาขาย เตรียมเปิดร้านกันตั้งแต่เช้ามืด แต่ก่อนที่จะเริ่มจับ จ่าย ชอปปิงนั้น มีกิจกรรมที่จะพาเพื่อน ๆ ไปทำกันค่ะ  ไฮไลต์ที่ว่านี้คือ “การใส่บาตร” ซึ่งพระจะล่องแพไม้ไผ่มาตามแม่น้ำภาชี ให้ผู้คนได้ใส่บาตรบริเวณริมแม่น้ำ  เพื่อน ๆ ที่ต้องการมาให้ทันใส่บาตร แนะนำว่าให้มาถึงก่อนเวลา 07.30 น. เพื่อที่จะได้มีเวลาซื้อของใส่บาตร และจับจองพื้นที่นั่งรอสำหรับใส่บาตร  อิ่มบุญแล้วอย่าลืมอิ่มกาย เพราะในตลาดโอ๊ะป่อย มีของกินให้เลือกเยอะมาก ทั้งของคาวหวาน อาหารยามเช้า ตลาดแห่งนี้มีความน่ารักอีกอย่างคือ ภาชนะต่าง ๆ สำหรับใส่อาหาร ล้วนเป็นวัสดุจากธรรมชาติ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม  จะเห็นได้ว่า ภายในตลาดโอ๊ะป่อย มีบรรยากาศที่ร่มรื่น แถมยังมีที่นั่งให้เพื่อน ๆ สามารถรับประทานอาหารได้อย่างสะดวก ไม่แออัด  ตรงข้ามวัดป่าท่ามะขาม ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี เปิดวันเสาร์-อาทิตย์ และ วันหยุดนักขัตฤกษ์ที่ต่อเนื่องจากวันเสาร์อาทิตย์เท่านั้น ตั้งแต่เวลา 07.00-14.00 น. 09 2371 7799https://goo.gl/maps/BYa4k9y9q5xbzWVD6โอ๊ะป่อย ตลาดเช้าริมธาร ออกเดินทางจากตลาด มาที่ “อัลปาก้า ฮิลล์”  ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที อัลปาก้า ฮิลล์

✨ สัมผัสธรรมชาติ และเสน่ห์ท้องถิ่นใกล้กรุงฯ ที่ “ราชบุรี” ✨ อ่านเพิ่มเติม

#เขาทะลุมิติ จ.ราชบุรี วิวอลังการ ถ่ายรูปสวยปัง~ 🙌

เขาทะลุมิติหรือถ้ำเขาทะลุ #แลนด์มาร์คน้องใหม่ประจำจังหวัดราชบุรี 1 ใน 25 UNSEEN New Series ปี 2564 ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เหมาะสำหรับสายลุยเบา ๆ ชอบผจญภัย ปีนป่ายไต่เขาแบบไม่ลำบากมาก ต้องใช้แรงในการปีนขึ้นเขาเล็กน้อย และมีเชือกให้เกาะระหว่างทาง ใช้เวลาประมาณ 10 – 15 นาทีเท่านั้นก็ถึงด้านบนแล้ว ด้านบนของเขาทะลุมิติเป็นถ้ำค้างคาว ลักษณะเป็นโพรงถ้ำคล้ายซุ้มประตูโค้งขนาดใหญ่ มีรูเพดานกว้าง 2 ช่อง มองลงมาจะเห็นวิวธรรมชาติ ท้องทุ่งนาเขียวขจี ยิ่งใกล้ ๆ พระอาทิตย์ตกคือสวยมาก เพราะแสงลอดเข้ามาพอดิบพอดีเลยล่ะ แต่ต้องระวังเป็นพิเศษด้วยนะ เพราะไม่มีเจ้าหน้าที่ ทางขึ้นค่อนข้างชัน มีหินก้อนกลมเล็ก ๆ เป็นส่วนใหญ่ ทำให้ลื่น แอดแนะนำให้ใส่ถุงมือและขึ้นตอนกลางวันดีกว่าจ้า 🌾 พิกัด : เขาทะลุมิติ ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี 70150 https://goo.gl/maps/yk1R8u447iSCBUrF9

#เขาทะลุมิติ จ.ราชบุรี วิวอลังการ ถ่ายรูปสวยปัง~ 🙌 อ่านเพิ่มเติม

ราชบุรี : เที่ยวตลาด – ไหว้พระ – ชมโอ่ง

#ราชบุรี…นับเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจมากมายแถมไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ วัฒนธรรม และสินค้าขึ้นชื่อของจังหวัดอย่างโอ่งมังกร วันนี้แอดมีเส้นทางท่องเที่ยวจังหวัดราชบุรีง่าย ๆ มาแนะนำ ใครที่กำลังหาสถานที่ไปพักผ่อนชิลล์ ๆ ตามแอดมาได้เลย  วันที่ 1 จุดที่ 1 ตลาดน้ำดำเนินสะดวก : ช้อป ชิม ชิลล์ ณ ตลาดน้ำดำเนินสะดวก จุดที่ 2 วัดโพธิ์รัตนาราม : ชมโบสถ์สแตนเลสแห่งที่ 2 ของประเทศไทย จุดที่ 3 รัตนโกสินทร์ ๑ : ชมการผลิตโอ่งทำมือที่มีชื่อเสียง OTOP 5 ดาว  วันที่ 2 จุดที่ 4 ตลาดโอ๊ะป่อย : ตักบาตรพระริมน้ำยามเช้า การเดินทาง รถประจำทาง จากสถานีขนส่งกรุงเทพฯ (สายใต้ใหม่) ไปจังหวัดราชบุรีทุกวัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง รถตู้ จากสถานีขนส่งกรุงเทพฯ (สายใต้ใหม่) จากสถานีขนส่งกรุงเทพฯ (หมอชิต) รถไฟ มีบริการรถไฟจากสถานีรถไฟหัวลำโพง และสถานีรถไฟธนบุรี (บางกอกน้อย) ลงที่สถานีรถไฟราชบุรี เริ่มต้นกันที่ #ตลาดน้ำดำเนินสะดวก ตลาดน้ำที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก โดยคลองดำเนินสะดวกนี้เป็นคลองที่เชื่อมระหว่างแม่น้ำแม่กลองและแม่น้ำท่าจีน โดยปกติตลาดน้ำแห่งนี้จะคึกคักมาก แต่ในช่วงสถานการณ์โรคระบาดที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวลดการเดินทาง ทำให้เงียบเหงาไปมาก ถือโอกาสที่แอดมีโอกาสไปเที่ยวชม เลยขอเก็บบรรยากาศมาฝากให้หายคิดถึงกัน ตอนนี้พ่อค้าแม่ค้าที่ขายของกันในเรือหางยาวเริ่มกลับมาคึกคักกันแล้วนะ ร้านรวงก็กลับมาเปิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านของฝาก ใครที่อยากนั่งเรือชมตลาด ที่นี่มีบริการเรือนำเที่ยวอยู่หลายเจ้า ราคาเริ่มต้นที่ 400 บาท เป็นเรือพาย นั่งได้ 4-5 คน ตลาดน้ำดำเนินสะดวก  51 ตำบลดำเนินสะดวก อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี  เปิดทุกวัน เวลา 08.00-13.00 น.  โทร. 0 3291 9176 ททท. สำนักงานราชบุรี https://goo.gl/maps/MfcsCXp6bqQ8u4Gj8 #วัดโพธิ์รัตนาราม (วัดโพธิ์คู่) ต่อไป เราจะไปที่วัดโพธิ์รัตนาราม อำเภอบ้านโป่ง ซึ่งอยู่ห่างจากอำเภอเมืองประมาณ 40 กิโลเมตร วัดโพธิ์รัตนาราม หรือที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า วัดโพธิ์คู่ เพราะเมื่อก่อนมีต้นโพธิ์ขึ้นคู่กันอยู่หลายคู่ ไฮไลท์ที่ต้องห้ามพลาดคือ อุโบสถสแตนเลส นั่นเอง เดิมอุโบสถสร้างด้วยอิฐและปูน เมื่อบูรณปฏิสังขรณ์ใหม่ มีการหุ้มสแตนเลสครอบหลังเดิมทั้งหลัง โดยด้านในเป็นไม้สักทำให้อากาศไม่ร้อน แถมเย็นสบาย มีพระพุทธชินราชเป็นพระประธานให้เข้าไปกราบสักการะ  หมู่ที่ 5 ตำบลปากแรต อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี  เปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.  โทร. 08 7085 4404 https://goo.gl/maps/G9CT6UNQtAAYMNCYA #รัตนโกสินทร์๑ ถัดมาเราจะมาแวะชมโรงโอ่งรัตนโกสินทร์ ๑ โรงโอ่งมังกรที่ขึ้นชื่อของราชบุรี ที่นี่เป็นที่แรกและที่เดียวที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมวิธีการทำได้ทุกขั้นตอน เริ่มจากการหมักดินสูตรพิเศษ การขึ้นรูป การเผา การวาดลาย สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของโรงโอ่งนี้ก็คือการใช้ฝีมือของช่างนั่นเอง กว่าจะได้โอ่งแต่ละใบ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยค่ะ ต้องผ่านกระบวนการหลายขั้นตอน ทั้งต้องอาศัยความชำนาญและประสบการณ์ของช่างด้วย ซึ่งโอ่งแต่ละขนาดก็จะใช้เวลาการทำไม่เท่ากัน ถ้าถูกใจสินค้าชิ้นไหนก็สามารถช้อปเป็นของฝากกลับบ้านกันได้ มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบเลยล่ะ โรงโอ่งรัตนโกสินทร์ ๑  124 หมู่ 4 ถนนเพชรเกษม ตำบลโคกหม้อ อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี  เปิดทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.  โทร. 0 3233 4664 https://goo.gl/maps/TWokxNbDFCJCFKwS8 #ตลาดโอ๊ะป่อย จากอำเภอเมืองไปอำเภอสวนผึ้ง ระยะทางประมาณ 63 กิโลเมตร เราจะไปกันที่ตลาดโอ๊ะป่อย เป็นตลาดเช้าริมลำน้ำภาชี สำหรับคนที่อยากจะตื่นเช้ามาใส่บาตร แอดแนะนำให้หาที่พักในอำเภอสวนผึ้งค่ะ “โอ๊ะป่อย” เป็นภาษากะเหรี่ยง มีความหมายว่า “พักผ่อน” ตลาดแห่งนี้เกิดจากความร่วมมือของผู้ประกอบการสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวสวนผึ้ง ชุมชน และภาครัฐท้องถิ่น เพื่อสร้างความยั่งยืนให้แก่ชุมชน และให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ บรรยากาศในตลาดน่ารักมาก ร้านค้าสร้างด้วยไม้ไผ่ ดูกลมกลืนกับธรรมชาติ มีพ่อค้าแม่ค้านำสินค้ามาขายกันมากมาย ทั้งของคาว ของหวาน เครื่องดื่ม ของที่ระลึก บอกเลยว่าหลากหลายจริง ๆ สิ่งที่ไม่อยากให้พลาดเมื่อมาที่ตลาดโอ๊ะป่อยก็คือ การตักบาตรพระสงฆ์บนแพไม้ไผ่ยามเช้านั่นเอง โดยพระสงฆ์จะล่องแพมาบิณฑบาตประมาณ 07.30 – 08.00 น. หากใครอยากจะมารอใส่บาตร แนะนำให้มาก่อนเวลาสักครึ่งชั่วโมง  ตรงข้ามวัดป่าท่ามะขาม ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี  เปิดวันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 07.00 – 14.00 น.  09 2371 7799 https://goo.gl/maps/BYa4k9y9q5xbzWVD6

ราชบุรี : เที่ยวตลาด – ไหว้พระ – ชมโอ่ง อ่านเพิ่มเติม

หมู่บ้านมอญห้วยน้ำใส

วันนี้แอดจะชวนเพื่อน ๆ ไปเที่ยวหมู่บ้านเล็ก ๆ กลางหุบเขาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์จากธรรมชาติ และอบอุ่นด้วยวัฒนธรรมชาวบ้านของชาวมอญ หมู่บ้านนี้ก็คือ หมู่บ้านมอญห้วยน้ำใส ที่จังหวัดราชบุรี หมู่บ้านมอญห้วยน้ำใสเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ชายแดนตะวันตกของอำเภอสวนผึ้ง มีอากาศเย็นและชื้นตลอดทั้งปีเนื่องจากอยู่ติดกับเทือกเขาตะนาวศรี เรียกได้ว่าเป็นหมู่บ้านท่ามกลางหุบเขา ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นชาวไทยเชื้อสายมอญ เอกลักษณ์ของที่นี่คือ วัฒนธรรมการตักบาตรของชาวมอญ เรียกว่า “จู๊ดเปอป๊าด” แปลว่าตักบาตร จัดขึ้นทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เริ่มประมาณ 08.00 น. โดยขบวนแถวของพระสงฆ์จะทะยอยเดินออกมารับบิณฑบาตจากญาติโยมและนักท่องเที่ยว  ตามด้วยขบวนสาว ๆ ชาวมอญเทินสิ่งของต่าง ๆ บนหัว แอดว่าเป็นประเพณีของชาวมอญที่น่ารักมาก ๆ เลยค่ะ ความน่ารักของเด็ก ๆ ที่แต่งชุดพื้นเมือง ในหมู่บ้านจะมีตลาดหมู่บ้านมอญให้นักท่องเที่ยวได้มาช้อป มาชิมกันอย่างสนุกสนาน มีสินค้าพื้นบ้าน ขนมพื้นเมือง ชุดชาวมอญ รวมทั้งอาหารและเครื่องดื่มอื่น ๆ ในหมู่บ้าน มีจุดถ่ายภาพสวย ๆ หลากหลายมุม ที่ฮ็อตฮิตที่สุดเห็นจะเป็นกำแพงรั้วไม้ไผ่สองข้างทางในถนนกลางหมู่บ้าน : ) ในการเดินทางมาที่นี่ เมื่อจอดรถที่ลานจอดแล้ว เพื่อน ๆ ต้องเดินมายังหมู่บ้าน ระยะทางประมาณ 500 เมตร คนที่ไม่ค่อยได้เดินอาจเหนื่อยนิดหน่อย เพราะเป็นทางขึ้นเขา แต่ถ้าไม่อยากเดิน สามารถขึ้นรถสองแถวรับ-ส่ง ไปยังตลาดของหมู่บ้านได้ ราคาคนละ 10 บาท  ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี เปิดวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 07.00-16.00 น.https://goo.gl/maps/nsunQTsi7hNWBj9V9

หมู่บ้านมอญห้วยน้ำใส อ่านเพิ่มเติม

พิพิธภัณฑ์ศตวรรษสยาม : ราชบุรี

สวัสดีวันศุกร์จ้า… วันหยุดเสาร์-อาทิตย์นี้ เพื่อนๆ มีแพลนไปเที่ยวที่ไหนกันรึยัง ถ้ายัง แอดมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจและอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มาแนะนำ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบย้อนเวลาไปหาอดีต นั่นก็คือ “พิพิธภัณฑ์ศตวรรษสยาม” พิพิธภัณฑ์ศตวรรษสยาม เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จำลองบรรยากาศร้านรวงเก่าๆ ในยุคอดีตประมาณ พ.ศ. 2500 เป็นต้นมา เช่น ร้านขายของชำ ร้านขายยา ร้านตัดผม ห้องเสื้อ ร้านหนังสือ ร้านของเด็กเล่น นักท่องเที่ยวที่อายุ 40 ปีขึ้นไป เมื่อได้ชมแล้ว จะทำให้ย้อนนึกถึงความหลัง ครั้งวัยเยาว์ ของใช้บางอย่างที่นำมาจัดแสดง ก็เคยใช้มาก่อนแล้วทั้งนั้น นอกจากนี้ บริเวณพิพิธภัณฑ์ ยังมีเรือนไทยตันยุวรรธนะ อายุ 100 กว่าปี ให้เราได้เยี่ยมชมและถ่ายรูปสวยๆ อีกด้วย พิพิธภัณฑ์ศตวรรษสยาม 245 หมู่ 6 ตำบลตาหลวง อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี เปิดให้บริการวันอังคาร – วันอาทิตย์ เวลา 10.00 – 18.00 น. ผู้ใหญ่ 200 บาท/คน ผู้สูงอายุ 150 บาท/คน นักเรียน นักศึกษา 75 บาท/คน และเด็ก 50 บาท/คน https://goo.gl/maps/81k4kfp467r

พิพิธภัณฑ์ศตวรรษสยาม : ราชบุรี อ่านเพิ่มเติม

ภูมิปัญญาไทยในการทำ “น้ำตาลปึก”

เมื่อร่างกายต้องการความหวาน จะมี “น้ำตาล” ชนิดไหนบ้างมาช่วยเติมความอร่อยลงในอาหารแต่ละมื้อของเรา ในบ้านเรามีกระบวนการนำน้ำหวานจากธรรมชาติมาทำเป็นวัตถุดิบเพื่อใช้ปรุงอาหารในรูปแบบต่าง ๆ หนึ่งในนั้นก็คือ “น้ำตาลปึก” เป็นการนำน้ำหวานจากธรรมชาติมาเคี่ยวให้เหนียวและข้นจนเป็นสีเหลือง-น้ำตาลอ่อน ๆ จับให้เป็นก้อน แล้วพักไว้ให้เย็น เป็นภูมิปัญญาเรื่องอาหารที่ส่งทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ปัจจุบันก็ยังมีการใช้น้ำตาลปึกในการปรุงอาหาร นอกจากนี้ ยังมีการส่งเสริมการทำน้ำตาลปึกให้มีคุณภาพเพื่อจำหน่าย และช่วยให้เกิดอาชีพในชุมชน น้ำตาลจากภูมิปัญญาในแต่ละท้องถิ่นจะผลิตจากวัตถุดิบใดบ้าง ไปดูกัน อ้อย พืชเศรษฐกิจหลักที่สร้างรายได้ให้ชุมชน สามารถนำไปผลิตเป็นน้ำตาลได้หลายรูปแบบ รวมถึงน้ำตาลปึก โดยคั้นเอาน้ำจากลำตัน นำไปเคี่ยวจนเหนียวหนึบ แล้วนำมาหยอดเป็นก้อนกลม ปัจจุบันมีเหลือเพียงไม่กี่ที่ที่ยังผลิตน้ำตาลอ้อยแบบโบราณกันอยู่ หาซื้อได้ที่ นครสวรรค์ และกาญจนบุรี เป็นต้น วิสาหกิจชุมชนเกษตรกรสรรพสิ่งบ้านนากลาง ตำบลนากลาง อำเภอโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค์ 086 351 2633 วิสาหกิจชุมชนน้ำตาลทรายแดง บ้านวังหิน หมู่ที่ 1 ตำบลเลาขวัญ อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี 081 008 3965 มะพร้าว พืชตระกูลเดียวกับปาล์ม สามารถเก็บน้ำตาลได้จากช่อดอกมะพร้าว โดยการตัดปลายช่อออก แล้วนำกระบอกมารองน้ำตาลที่จะไหลออกมา ทิ้งไว้ข้ามคืน ก็จะได้น้ำตาลจากมะพร้าวเต็มกระบอก เพื่อน ๆ สามารถหาชมการทำน้ำตาลปึกจากมะพร้าวได้ในบริเวณจังหวัดราชบุรี สมุทรสงคราม เป็นต้น กลุ่มน้ำตาลมะพร้าวตาหลวง หมู่ 6 ตำบลตาหลวง อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี 081 014 8345, 083 026 3005, 090 437 8831, 085 393 9499 บ้านเตาไทยเดิม หมู่ 4 ตำบลบางกระบือ อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม 087 321 1288, 089 770 7541 ตาลโตนด การเก็บน้ำหวานจากตาลโตนด มีวิธีการคล้ายกับการเก็บน้ำตาลมะพร้าว แต่จะนิยมเก็บน้ำตาลจากต้นตัวผู้ เนื่องจากทำง่ายกว่า ใช้ “ไม้คาบ” อุปกรณ์สำหรับการนวดจั่นตาล (งวงดอกตาล) นวดวันละ 1 ครั้งไป 3-4 วัน จากนั้นตัดปลายจั่นแล้วเอากระบอกรองเก็บน้ำตาล ก็จะได้น้ำตาลจากตาลโตนด สามารถกินเป็นน้ำตาลสด หรือเอาไปทำน้ำตาลปึกได้ ตาลโตนดที่ขึ้นชื่ออยู่ที่เพชรบุรี นอกจากนี้ก็ยังมีที่อื่น ๆ ได้แก่ นครสวรรค์ สุโขทัย พิษณุโลก เป็นต้น สวนตาลลุงถนอม ตำบลถ้ำรงค์ อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี 087 800 7716 วิสาหกิจชุมชนบ้านปากคลองเกยไชย ตำบลเกยไชย อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ 084 657 7227, 098 549 9974 ต้นจาก อีกหนึ่งภูมิปัญญาที่เกือบสูญหาย คือการทำน้ำตาลจากต้นจาก พืชตระกูลปาล์มอีกหนึ่งชนิดที่สามารถนำไปทำน้ำตาลปึกได้ การเก็บน้ำตาล ทำโดยการตัดเอาจาก “งวงจาก” คือส่วนก้านของผลจากที่มี 30 ผลขึ้นไป ลอกกาบออก ตัดปลายงวงที่มีทะลายจากออก ทำซ้ำเป็นเวลา 3 วัน แล้ววันที่ 4 จึงสามารถเก็บเกี่ยวน้ำหวานได้ นำกระบอกที่เจาะรูด้านข้างไว้เพื่อเสียบงวงจากได้ ทิ้งไว้ 1 คืนก็จะได้น้ำตาล ส่วนมากทำกันในแถบภาคใต้ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีการปลูกต้นจากจำนวนมาก ได้แก่ นครศรีธรรมราช ตรัง เป็นต้น วิสาหกิจแปรรูปน้ำตาลจาก “ขนาบนาก” หมู่ 5 ตำบลขนาบนาก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช 095 682 4343 วิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่จากอำเภอกันตัง หมู่ที่ 4 ตำบลบางหมาก อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง 083 088 4978

ภูมิปัญญาไทยในการทำ “น้ำตาลปึก” อ่านเพิ่มเติม

🍇 เทศกาลเก็บเกี่ยว ฤดูเก็บองุ่น 🍇

เพื่อน ๆ รู้ไหม ในเมืองไทยก็มีเทศกาลเฉลิมฉลองเก็บองุ่นนะ แอดเลยอยากจะชวนเพื่อน ๆ ไปสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ กัน ไร่องุ่นในไทยมีอยู่หลายแห่งกระจายตัวอยู่ในหลายภูมิภาค แม้ว่าจะเป็นสายพันธุ์ที่นำเข้ามาจากเขตหนาว แต่ก็สามารถเติบโต และพัฒนาสายพันธุ์ให้งอกงามออกผลที่มีคุณภาพ รสหวาน หอม อร่อย สามารถแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะ “ไวน์” จนปัจจุบันมีไวน์แบรนด์ไทย ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักหลายแบรนด์เลยทีเดียว องุ่น สามารถตัดแต่งให้มีผลผลิตได้ตลอดทั้งปี แต่ในพื้นที่สูงมักจะนิยมบังคับองุ่นให้มีผลผลิตในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม และเดือนมีนาคม-พฤษภาคม เพื่อให้ได้องุ่นที่มีคุณภาพสูง พวงสวย รสชาติดี โดยจะเก็บเกี่ยวภายใน 1-2 เดือนหลังออกผลเต็มที่ และสิ่งที่น่าสนใจในช่วงที่กำลังจะสิ้นสุดฤดูกาลเก็บเกี่ยวองุ่น ก็คือ “เทศกาลฉลองฤดูกาลเก็บเกี่ยวองุ่น” ในเทศกาลฉลองฤดูกาลเก็บเกี่ยวองุ่น จะมีกิจกรรมสนุก ๆ มากมาย เช่น การเก็บองุ่นด้วยตัวเอง การเตรียมองุ่นเพื่อนำไปหมักบ่มทำไวน์ ไร่องุ่นในไทยก็มีการจัดงานเทศกาลฉลองการเก็บเกี่ยวองุ่นอยู่หลายที่ด้วยกัน เตรียมชุดและพร็อพให้พร้อม แล้วออกไปเที่ยวชมถ่ายรูปสวย ๆ ให้เข้ากับบรรยากาศในไร่องุ่นกัน เพื่อน ๆ สะดวกที่ไหนก็ไปตามพิกัดเหล่านี้กันได้เลยจ้า ไร่องุ่นไวน์กราน-มอนเต้ (ตลอดเดือนกุมภาพันธ์) 52 หมู่ 9 ตำบลพญาเย็น อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เปิดทุกวัน เวลา 07.30-20.00 น. 092 806 7755 https://goo.gl/maps/E44juedJhHZLxW2r6 รายละเอียดกิจกรรม https://www.facebook.com/granmonte/posts/10158316627176156 ไร่องุ่นพีบี วัลเล่ย์ เขาใหญ่ (ประมาณเดือนมีนาคม/เมษายน) 102 หมู่ 5 ตำบลพญาเย็น อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา วันอาทิตย์-พฤหัสบดี เวลา 09.00-19.00 น. วันศุกร์-เสาร์ เวลา 09.00-21.00 น. 081 733 8783, 085 481 1741 https://goo.gl/maps/nwXMKGQAU4HxUMHF7 ไร่องุ่นคุณหวาน (ประมาณเดือนมีนาคม-พฤษภาคม) ตำบลโป่งตาลอง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 10.00-16.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.30-16.00 น. 081 808 8745 https://goo.gl/maps/nwXMKGQAU4HxUMHF7 ไร่องุ่นภูผา สวนผึ้ง (ประมาณเดือนเมษายน) ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี เปิดทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น. 081 007 0668 https://goo.gl/maps/yaTcy4XY5tEfFcXB6 (ไร่องุ่นปัญญาสวรรค์)

🍇 เทศกาลเก็บเกี่ยว ฤดูเก็บองุ่น 🍇 อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top