ชัยภูมิ

ชัยภูมิ

เที่ยวหน้าฝน สัมผัสธรรมชาติ ให้ชื่นฉ่ำหัวใจ

หน้าฝนปีนี้ เพื่อน ๆ เตรียมตัวออกไปเที่ยวที่ไหนบ้างคะ หลายคนอาจจะคิดว่าฝนตกแบบนี้เที่ยวไหนไม่ได้ แต่รู้หรือไม่ว่า หน้าฝนบ้านเรา มีเสน่ห์ไม่แพ้หน้าร้อนเลยนะ ธรรมชาติจะเขียวขจี อากาศเย็นสบาย น้ำตกไหลแรง ดอกไม้ป่าบานสะพรั่ง เหมาะแก่การไปพักผ่อนหย่อนใจ ชมวิว ถ่ายรูป และสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ วันนี้บัดดี้มีภาพสวย ๆ จากแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ เพื่อเป็นไอเดียวางแผนการเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ออกไปเที่ยวธรรมชาติ สัมผัสความสดชื่นกันค่ะ 1. ชมนาขั้นบันไดป่าบงเปียง จังหวัดเชียงใหม่ 2. ชมไร่ชาบนดอยแม่สลอง จังหวัดเชียงราย 3. นอนฟังเสียงฝน ตื่นมาชมผาช้างน้อย จังหวัดพะเยา 4. ถ่ายรูปกับถนนลอยฟ้า จังหวัดน่าน 5. ล่องแก่งลำน้ำเข็ก ที่ จังหวัดพิษณุโลก 6. เที่ยวป่าเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา 7. ชมทุ่งดอกกระเจียว จังหวัดชัยภูมิ 8. ค้นหาหินโลมา ที่ ถ้ำนาคา จังหวัดบึงกาฬ 9. ชมวิวภูป่าเปาะ จังหวัดเลย 10. เล่นน้ำตกแสงจันทร์ จังหวัดอุบลราชธานี 11. เดินป่าระยะทางสั้น ๆ ที่ เขาช่องลม จังหวัดนครนายก 12. ล่องแก่งหินเพิง จังหวัดปราจีนบุรี 13. แช่น้ำเย็น ที่ น้ำตกพลิ้ว จังหวัดจันทบุรี 14. สวนพฤกษศาสตร์ จังหวัดระยอง 15. เที่ยวใกล้กรุง ที่ บางกะเจ้า จังหวัดสมุทรปราการ  16. ชมวาฬบรูดา ได้ที่ 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสงคราม และจังหวัดเพชรบุรี 17. เที่ยวหมู่บ้านอีต่อง จังหวัดกาญจนบุรี 18. เช็กอินชมวิวสวย ที่ ดงตาลสามโคก จังหวัดปทุมธานี 19. ชมวิวอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี 20. พายซัพบอร์ด ที่ อ่างเก็บน้ำท่าเคย จังหวัดราชบุรี 21. แช่น้ำร้อน ผ่อนคลาย ที่ จังหวัดระนอง 22. สัมผัสวิถีชุมชนบ้านน้ำราบ จังหวัดตรัง 23. ชมวิวเสม็ดนางชี จังหวัดพังงา 24. หลีกหนีความวุ่นวาย ไปเขื่อนเชี่ยวหลาน จังหวัดสุราษฎร์ธานี 25. ล่องแก่งหนานมดแดง ที่ จังหวัดพัทลุง ข้อแนะนำเพิ่มเติม*ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทาง*เตรียมเสื้อผ้า ร่ม รองเท้า ให้เหมาะสมกับการเที่ยวหน้าฝน*พกยาประจำตัว ยากันยุง*เลือกที่พักที่ปลอดภัย สะดวกสบาย*เที่ยวอย่างมีสติ ปฏิบัติตามกฎระเบียบ

เที่ยวหน้าฝน สัมผัสธรรมชาติ ให้ชื่นฉ่ำหัวใจ อ่านเพิ่มเติม

✨ วัดพระพุทธบาทภูแฝด จังหวัดชัยภูมิ ✨

สวัสดีเพื่อน ๆ วันนี้บัดดี้จะพาเพื่อน ๆ มาเที่ยววัดสวยแสนสงบที่มีธรรมชาติล้อมรอบ สร้างจากแรงกายแรงศรัทธาของคนในชุมชน ทั้งยังเป็นแหล่งปฏิบัติธรรมของผู้คนหลายเพศหลากวัยจากคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวสายธรรมจากต่างแดน วัดพระพุทธบาทภูแฝด อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 23 กิโลเมตร เป็นเนินเขาเตี้ย ๆ ที่มีรอยพระพุทธบาทในก้อนหินบนภูเขา ภายในวัดมีต้นไม้ร่มรื่น สถาปัตยกรรมสีสันสวยงามและมีความสงบที่หากใครกำลังอยากหนีความวุ่นวายอยู่ รับรองมาที่นี่ไม่ผิดหวัง หากใครสนใจอยากเที่ยววัดที่มีบรรยากาศเงียบสงบ สวยงาม และสามารถปฏิบัติธรรมได้ บัดดี้ขอฝากวัดนี้ให้เป็นอีกหนึ่งสถานที่แนะนำในแถบภาคอีสาน ที่หากมีโอกาสอยากให้ลองมากันดู 📍 ตำบลนาเสียว อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ⏱ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น.📞 0 4421 3666 (ททท.สำนักงานนครราชสีมา), 06 2782 5308 (ตาหนู มัคนายกวัด)🌐 https://maps.app.goo.gl/Xm32grVRKUCJYyoa8

✨ วัดพระพุทธบาทภูแฝด จังหวัดชัยภูมิ ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ เที่ยวชัยภูมิ ดูชุมชน ชมประวัติศาสตร์ 3 วัน 2 คืน ✨

สวัสดีเพื่อน ๆ จากคราวก่อนที่บัดดี้นำเสนอคอนเทนต์ “หม่ำ…ของฝากชัยภูมิ” ไป วันนี้บัดดี้จะมานำเสนอเส้นทางท่องเที่ยว จ.ชัยภูมิ ที่บัดดี้มีโอกาสไปเที่ยวมา จะมีที่ไหนบ้าง ตามไปดูกันเลย 1. บ๊วยโภชนาเขาว่ากันว่า กองทัพต้องเดินด้วยท้อง เพราะฉะนั้นบัดดี้เลยขอเริ่มทริปที่ร้าน “บ๊วยโภชนา” ร้านอาหารที่เปิดมานานกว่า 45 ปี ตัวร้านเป็นอาคารพานิชย์ 2 ชั้นเล็ก ๆ ที่สร้างจากไม้ ดูสวยคลาสสิกเคล้ากลิ่นอายความเก่าแบบเก๋า ๆ บ่งบอกถึงความเป็นร้านเด็ดประจำชัยภูมิได้เป็นอย่างดี ร้านนี้จะขายข้าวขาหมู ข้าวมันไก่ ข้าวหมูแดง ข้าวหมูกรอบ ข้าวหน้าเป็ดและติ่มซำ ซึ่งทุกจานทุกเมนูรสชาติอร่อยทานง่าย ไม่แปลกใจเลยที่จะมีลูกค้าเข้ามาไม่ขาดสายทั้งคนวัยทำงาน ข้าราชการ เด็กนักเรียนไปจนถึงคนเก่าคนแก่ที่น่าจะแวะเวียนมาอุดหนุนร้านนี้อยู่เป็นประจำ แม้แต่ละจานหน้าตาอาจดูไม่ได้หวือหวามากนัก แต่รสชาติอร่อยจริง ๆ นะ เพื่อน ๆ คนไหนอยากลิ้มชิมรสร้านเก่าแก่อีกร้านหนึ่งของชัยภูมิ ก็มาลองกันได้  ถ.หฤทัย ต.ในเมือง อ.เมืองชัยภูมิ จ.ชัยภูมิ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น. 09 5618 0360https://maps.app.goo.gl/iYZZALbjMaA44ymF8 2. พระปรางค์กู่สถานที่ถัดมาคือ “พระปรางค์กู่” เป็นโบราณสถานที่ตั้งอยู่ในตัวเมืองชัยภูมิ ห่างจากร้านบ๊วยโภชนาประมาณ 2 กิโลเมตรเท่านั้น พระปรางค์กู่สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1724–1761 หรือ พุทธศตวรรษที่ 18 โดย “พระไภษชัยคุรุไวฑูรย์ประภา” สมัยอาณาจักรขอม ในรัชกาลพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 โบราณสถานแห่งนี้มีฐานสี่เหลี่ยม สร้างด้วยศิลาแลงทั้งหลัง วางซ้อนกันจากฐานถึงยอด มีกำแพงรูปสี่เหลี่ยมล้อมรอบ เชื่อกันว่าที่นี่เป็นอโรคยาศาล (โรงพยาบาล) ในอดีต ภายในพระปรางค์กู่ มีพระพุทธรูปปางมารวิชัยประดิษฐานอยู่ ทับหลังที่กรอบประตูสลักเป็นรูปไตรรัตนมหายาน มีความหมายถึงพระพุทธเจ้าทรงมีความรู้การแพทย์ ทำให้ประชาชนมีความสุขและไม่มีโรค นอกจากนี้ พระปรางค์กู่ยังมีบ่อน้ำ บรรณาลัย หน้าบันแกะสลัก ที่ยังมีสภาพสมบูรณ์มาก ๆ ให้ได้ชม แถมบริเวณสนามหญ้าโดยรอบยังเป็นสวนสาธารณะ มีร่มเงาไม้ได้หลบแดด รับลมได้ทั้งวัน เป็นอีกที่ที่เที่ยวได้ง่าย ๆ เลยล่ะ  ต.ในเมือง อ.เมืองชัยภูมิ จ.ชัยภูมิhttps://maps.app.goo.gl/RJFZKvkSLKXV24AF 3. หอศิลป์คลังจัตุรัสสถานที่ต่อมา บัดดี้จะพาเพื่อน ๆ มาหาแรงบันดาลใจจากภาพวาดที่ “หอศิลป์คลังจตุรัส” หอศิลป์ที่เกิดจากแรงบันดาลใจของ อ.สมาน คลังจัตุรัส ศิลปินชาวชัยภูมิ ที่ได้สร้างหอศิลป์คลังจัตุรัสขึ้น จากสำนึกรักบ้านเกิด และมุ่งหวังให้คนรุ่นหลังใช้เป็นแหล่งเรียนรู้และสืบสานงานศิลป์ให้คงอยู่ต่อไป ซึ่งบัดดี้ใช้เวลาอยู่ที่ตลอดช่วงบ่ายเลย บัดดี้นัดกับพี่นุช ทายาทของ อ.สมาน และผู้จัดการของหอศิลป์คลังจตุรัสไว้ ซึ่งพี่นุชได้พาบัดดี้เยี่ยมชมหลายส่วนของหอศิลป์แห่งนี้ เริ่มจากหอศิลป์เป็นที่แรก ซึ่งภายในมีภาพวาดที่ อ.สมาน วาดอยู่หลายภาพ ที่สำคัญมีภาพพระบรมสาทิสลักษณ์ของในหลวง ร.9 และสมเด็จพระราชินีบนธนบัตรเนื่องในวโรกาสเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา ซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดธนบัตรจากประเทศเยอรมันตอนปี พ.ศ.2547 ด้วยนะ ถัดมาคืออาคารห้องสมุดที่ตั้งอยู่ติดกันกับอาคารหอศิลป์ ซึ่งเปิดให้ทั้งคนที่มาเยี่ยมชมหรือเด็ก ๆ ที่มาวาดภาพเข้ามาอ่านหนังสือได้เลยฟรี ๆ อาคารนี้มีชื่อว่าเรือนยอดมณี มีภาพวาดดอกไม้ของ อ.สมาน สมัยไปต่างประเทศ มีห้องวาดภาพของเด็ก ๆ ที่มาที่นี่ ชั้น 2 ของอาคารจัดแสดงงานหลากหลายประเภทจากศูนย์ศิลปาชีพบางไทร อีกอาคารเด่นของที่นี่คือ หอศิลป์คลังจตุรัสใหญ่ ที่มีภาพวาดขนาดใหญ่ที่สุดของ อ.สมาน เท่าที่เคยวาดมาอยู่บนชั้น 2 รวมไปถึงภาพพระเกจิอาจารย์อีกหลายภาพ เพื่อน ๆ สามารถแวะมาดูได้ ส่วนกิจกรรมที่บัดดี้เลือกทำ คือการระบายสีกระเป๋าดอกกระเจียว ค่ากิจกรรมจะอยู่ที่ 100 บาท บัดดี้มานั่งวาดที่ลานกลางหอศิลป์คลังจตุรัส ใกล้ ๆ กันมีร้านกาแฟ Ozone coffee ให้เพื่อน ๆ นั่งพักสบาย ๆ ซึ่งที่ลานแห่งนี้มีทั้งดอกแก้ว ดอกโมก ส่งกลิ่นหอมตลอดเวลาที่วาด หากใครกลัวการระบายสีว่าจะออกมาไม่ดีก็ไม่ต้องกลัวไป เพราะพี่นุชบอกบัดดี้ว่า งานศิลปะไม่มีถูกผิด มีแต่สวยและสวยมากเท่านั้น แถมยังคอยสอนและช่วยอธิบายการระบายสีแบบเข้าใจง่าย ๆ ให้ด้วย ใครมาอย่าพลาดล่ะ  38 บ้านคลองเรียง ต.ในเมือง อ.เมืองชัยภูมิ จ.ชัยภูมิ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-18.00 น. 08 1772 2250https://maps.app.goo.gl/JSp6GjSsxVWpX6569 4. เราเอมโอชเริ่มต้นเช้าวันใหม่ บัดดี้มาที่ร้าน “เราเอมโอช” ร้านอาหารเช้ากลางเมือง ตัวร้านเป็นตึกแถวห้องเดียว เป็นร้านที่มีทั้งคนในท้องที่และนักท่องเที่ยวแวะมาไม่ขาดสาย เมนูเด่นคือไข่กระทะ อเมริกัน เบรคฟาสและขนมปังเวียดนาม แถมมีกาแฟสดด้วย ใครอยากกินมื้อเช้าสบาย ๆ ที่นี่ก็เป็นอีกตัวเลือกที่บัดดี้อยากแนะนำ  357/1 สามแยกวัดชัยประสิทธิ์ ถ.บูรพา ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.00-13.30 น. 0 4483 0075, 08 1999 8680https://maps.app.goo.gl/wnGdaKVfD1jfWMnf7 5. เฮือนคำมุหลังจากอาหารเช้า บัดดี้มาที่ “เฮือนคำมุ” ที่ที่เป็นทั้งพิพิธภัณฑ์ผ้าไทยโบราณและร้านกาแฟรสชาติดีที่มีเบเกอรีรสอร่อย คอยต้อนรับแขกที่มีเยี่ยมเยียน เฮือนคำมุ จำลองบรรยากาศบ้านคหบดีล้านช้างในอดีต ด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบล้านช้าง ยุ้งข้าวและมีการจำลองวัดเชียงทองจากหลวงพระบางมาใช้ในบางส่วนของตัวอาคาร ก่อนมาที่นี่ บัดดี้ได้ติดต่อ พี่เอ๋-อาจารย์คมกฤช ฤทธิ์ขจร ศิลปินร่วมสมัยแห่งชาติสายเลือดพระยาแล ผู้ก่อตั้งเฮือนคำมุแห่งนี้ เพื่อให้เป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของชัยภูมิ โดยจุดแรกที่บัดดี้ได้ชมก็คืออาคาร “พิพิธภัณฑ์ผ้าโบราณชัยภูมิ KOMGRISH” ที่ภายในจะบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของเฮือนคำมุ เรื่องราวของผ้าทอโบราณ ไปจนถึงเรื่องราวและข้าวของเครื่องใช้ของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อครั้งที่เสด็จมา จ.ชัยภูมิ หลังจากเดินดูภายในพร้อมกับฟังพี่เอ๋บรรยายเรื่องราวของหลายเรื่องไปด้วย ทั้งที่มาและประวัติศาสตร์ของชัยภูมิ เรื่องราวของผ้าลายต่าง ๆ

✨ เที่ยวชัยภูมิ ดูชุมชน ชมประวัติศาสตร์ 3 วัน 2 คืน ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ หม่ำ ของฝากชัยภูมิ ✨

ช่วงที่ผ่านมา บัดดี้มีโอกาสได้ไปเที่ยว จ.ชัยภูมิ ซึ่งหนึ่งสิ่งที่หลายคนบอกห้ามพลาดหากมาจังหวัดนี้คือการลองชิม “หม่ำ” อาหารพื้นเมืองของชาวชัยภูมิ “หม่ำชัยภูมิ” ที่ได้ชื่อว่ามาจากตำนานรัก โดยมีตำนานเล่าว่า มีพรานป่าออกไปล่าสัตว์บนภูเขียว-ภูคิ้ง ซึ่งต้องใช้เวลานานในการเดินทางไป-กลับกว่า 1-3 เดือน หลังจากล่าสัตว์ได้ เขาก็คิดหาวิธีถนอมอาหารให้เนื้อสัตว์ไม่เน่าเสีย เพื่อจะนำกลับมาฝากลูก-เมีย ที่บ้าน โดยการสับเนื้อ ผสมตับ คลุกข้าวเหนียวและเกลือที่พกติดตัวไป แล้วนำมายัดใส่ในกระเพาะและลำไส้ของสัตว์ที่ล่าได้ พอกลับถึงบ้านนำมาชิม ปรากฏว่ามีรสชาติอร่อยถูกใจภรรยา กลายเป็นอาหารพื้นบ้านที่นิยมกินสืบมาจนถึงปัจจุบัน หม่ำ จะทำจากเนื้อสัตว์ 2 ชนิดด้วยกัน คือ หม่ำเนื้อ (เนื้อวัว) และหม่ำหมู (เนื้อหมู) โดยการนำเนื้อวัวหรือเนื้อหมูที่ไร้มันมาบดและสับ ก่อนนำมาผสมกับตับ ข้าวเหนียว กระเทียม เกลือ และนำมายัดใส่ในกระเพาะสัตว์ ซึ่งมีอยู่ 2 แบบ คือ แบบที่เป็นลูกกลม ๆ เกิดจากการยัดใส่กระเพาะอาหารหรือกระเพาะปัสสาวะของวัวแทนไส้ และแบบเป็นแท่งยาว ๆ คล้ายไส้กรอกอีสาน โดยการยัดใส่ลำไส้ ก่อนนำมาผึ่งลมสัก 1 วันก็สามารถนำไปกินได้แล้ว หม่ำที่ผึ่งลมไว้ภายในบริเวณร้าน ร้านที่บัดดี้มีโอกาสแวะไป ชื่อร้าน หม่ำแม่คำตัน ที่เปิดกิจการมานานกว่า 10 ปีแล้ว นอกจากที่นี่จะมีหม่ำทั้ง 2 แบบที่บัดดี้แนะนำไปแล้ว ที่นี่ยังมีอาหารแปรรูปชนิดต่าง ๆ อย่างเช่น หมูยอ กุนเชียง ไส้กรอกอีสาน รวมไปถึงสินค้า OTOP จากร้านค้าและชุมชนใกล้เคียงขายอีกด้วย การกินหม่ำ “พี่เชษฐ์” ผู้ดูแลกิจการร้านหม่ำแม่คำตันได้บอกบัดดี้ว่า สามารถกินได้ทั้งแบบดิบ ๆ หรือนำไปทำให้สุกโดยการย่าง อบ ทอด ได้เลย แต่อย่านานเกินไปล่ะ เพราะเนื้อจะแห้งเกิน หากชอบรสเปรี้ยว สามารถรออีก 2-3 วัน ก่อนนำมากิน ก็ได้รสเปรี้ยวเพิ่มขึ้นแล้ว หากเพื่อน ๆ อยากลิ้มรสหม่ำแบบดั้งเดิม บัดดี้แนะนำว่าให้เลือกแบบที่เป็นลูกกลม ๆ เพราะเนื้อสัมผัสจะเหนียวนุ่มกว่าแบบลำไส้ ซึ่งปัจจุบัน บัดดี้เห็นร้านอาหารหลายร้าน นำหม่ำไปประกอบอาหารอื่น ๆ อีกหลายเมนูเลย ทั้งผัดกะเพรา ผัดพริกแกง ไข่เจียว หรือแม้แต่นำไปใส่แกงก็มีนะ และแล้วก็ถึงเวลากิน บัดดี้เลือกทั้งหม่ำหมูและหม่ำเนื้อมาลอง โดยรสชาติหม่ำจะเปรี้ยวนำเค็มตาม เนื้อสัมผัสเหมือนไส้กรอกลีน ๆ ไร้ความมัน มีเนื้อให้เคี้ยวสนุกปาก กินคู่กับพริก กระเทียม ขิงดอง อร่อยเข้ากันมาก หากเพื่อน ๆ สนใจสามารถแวะมาลองกินแบบบัดดี้ หรือสั่งออนไลน์ที่เพจของทางร้านได้เลย  283 หมู่ที่ 2 ต.ผักปัง อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 น. – 17.00 น. 0 4486 2353, 08 9426 1395https://maps.app.goo.gl/GGthSnLRM4ZkcKnFAhttps://www.facebook.com/profile.php?id=100063922455643

✨ หม่ำ ของฝากชัยภูมิ ✨ อ่านเพิ่มเติม

มัดรวมฟาร์มสเตย์ 🐓ท่องเที่ยวแนวใหม่ใกล้ชิดธรรมชาติ 🏨

หากใครกำลังเล็งหาสถานที่ท่องเที่ยวแนวรักษ์โลก บัดดี้อยากให้ลองเปิดประสบการณ์ใหม่ เที่ยว ฟาร์มสเตย์ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมกิจกรรมที่ได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด 🍃 บัดดี้ขอชี้พิกัด 6 ฟาร์มสเตย์ น่าเที่ยวทั่วไทย หัวใจสีเขียว📌 บ้านเกอลิโกล จ.เชียงใหม่📌 บ้านโคกไคร จ.พังงา📌บ้านสวนเส จ.ชัยภูมิ📌 ไออุ่นขุนเขา จ.ราชบุรี📌 Bamboo Pink House บ้านผาหมอน จ.เชียงใหม่📌 MEKIN FARM จ.ขอนแก่น การไปเที่ยวสัมผัสธรรมชาติ นอนโฮมสเตย์ ไม่น่าเบื่ออย่างที่คิด เพราะมีกิจกรรมดี ๆ น่าทำแตกต่างกันไปในแต่ละที่ รวมถึงมีข้อดี ที่ดีต่อใจมาก ๆ อีกด้วย เช่น 📌 บ้านเกอลิโกล จ.เชียงใหม่ – ชวนสัมผัสอากาศหนาวกับบ้านไม้ไผ่กลางหุบเขา โอบล้อมไปด้วยบรรยากาศที่อบอุ่น ทานอาหารพื้นบ้านแสนอร่อย พอตกเย็นอากาศหนาวหมอกลง ชวนนั่งปิกนิกข้างกองไฟ ในยามเช้านั่งชมบรรยากาศสดชื่นของธรรมชาติ ที่หน้าระเบียงบ้าน 📌 บ้านโคกไคร จ.พังงา – หมู่บ้านริมทะเลที่ใช้ทรัพยากรธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน ชิมอาหารทะเลที่ชาวประมงหามาเอง เช่น ปลาตัวใหญ่ ๆ นำมาปรุงอาหารอร่อย ๆ ให้เราได้ชิม มีกิจกรรมสปาโคลนแสนผ่อนคลายกับน้ำทะเลอุ่น ทรายร้อน บรรยากาศเงียบสงบ มองออกไปไกล ๆ ขอบทะเลมีภูเขาลูกเล็ก ๆ มากมายเรียงรายสลับกันอยู่ 📌บ้านสวนเส จ.ชัยภูมิ – ฟาร์มสเตย์สวนผักแบบผสมผสาน สนุกกับกิจกรรมปั่นจักรยานชมสวน เก็บไข่ในเล้ามาทำอาหาร ลงนาปลูกข้าว ใช้ชีวิตแบบพอเพียง 📌 ไออุ่นขุนเขา จ.ราชบุรี – มาสร้างสุขภาพดีที่ฟาร์มออร์แกนิก มีผักแทบทุกชนิดไม่ต้องซื้อ สามารถเก็บในสวนมาทำกินได้เลย บรรยากาศเงียบสงบ จำลองการเป็นชาวสวนย่อม ๆ ปลูกผัก เก็บไข่ และได้รับออกซิเจนจากภูเขารอบข้าง 📌 Bamboo Pink House บ้านผาหมอน จ.เชียงใหม่ – ขึ้นดอยชมนาขั้นบันไดสีเขียว เต็มไปด้วยความงามของต้นกล้า เรียนรู้วิถีชาวบ้าน แนะนำให้นอนโฮมสเตย์บนดอย เปิดหน้าต่างรับแสงอาทิตย์หลังเขาสุดโรแมนติก 📌 MEKIN FARM จ.ขอนแก่น – สวนเล็กแสนธรรมดากับความสุขในการทำเกษตรอินทรีย์ ลองนอนกระท่อมปลายนา ท่ามกลางธรรมชาติที่น่าพักผ่อน ชิมอาหารพื้นบ้านที่อร่อยอย่าบอกใคร

มัดรวมฟาร์มสเตย์ 🐓ท่องเที่ยวแนวใหม่ใกล้ชิดธรรมชาติ 🏨 อ่านเพิ่มเติม

✨เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืด ✨

ในอดีต ดวงดาวมีความสำคัญมาก เพราะใช้เพื่อการหาทิศทาง บอกฤดูกาล บอกเวลา หรือแม้แต่มองหาความงดงามในยามค่ำคืน แต่จากวิวัฒนาการของโลกปัจจุบันที่ทำให้มีแสงสว่างในยามค่ำคืนมากขึ้น จนทำให้มองเห็นดาวยากขึ้นกว่าในอดีต จนหลายคนลืมเลือนความสำคัญของดวงดาวและท้องฟ้ายามค่ำคืน วันนี้แอดเลยอยากจะมาแนะนำ “เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืด” สถานที่ท่องเที่ยวที่รณรงค์ให้สังคมตระหนักถึงผลกระทบจากการใช้แสงสว่าง และเป็นที่เรียนรู้ด้านดาราศาสตร์ มาให้เพื่อน ๆ ได้รู้จัก ใครเป็นสายดูดาวลองตามมาอ่านกัน โครงการ Amazing Dark Sky In Thailand เกิดจากการร่วมมือของ ททท. และสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ที่ต้องการเสนอแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถให้ประสบการณ์การเรียนรู้ทางด้านดาราศาสตร์ (Dark Sky Tourism) ซึ่งสถานที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียน จะต้องมีการบริหารจัดการแสงสว่างที่ดี มีความมืดของท้องฟ้าที่เหมาะสม มีพื้นที่เปิดโล่งมองเห็นวัตถุท้องฟ้าเด่น ๆ ได้ด้วยตาเปล่า มีบุคลากรในพื้นที่ที่สามารถให้ความรู้ทางดาราศาสตร์เบื้องต้น และมีสิ่งอำนวยความสะดวกตั้งแต่เส้นทางคมนาคม ห้องน้ำ ที่พัก ไปจนถึงร้านอาหาร ให้ผู้มาใช้บริการด้วย เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในประเทศไทย แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ 1. อุทยานท้องฟ้ามืด Dark Sky Park เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ที่จะจำกัดการใช้แสงสว่างยามค่ำคืนเพื่อรักษาความมืดบนท้องฟ้าให้มีความเหมาะสมต่อการชมท้องฟ้า มีการรักษาสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมต่อการอยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตและระบบนิเวศในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ โดยปัจจุบันมีสถานที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนดังนี้ 1.อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง จ.เชียงใหม่ 2.อุทยานแห่งชาติผาแต้ม จ.อุบลราชบุรี 3.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว-ทุ่งกระมัง จ.ชัยภูมิ 4.อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จ.ชัยภูมิ 5.อุทยานแห่งชาติภูแลนคา จ.ชัยภูมิ *สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://darksky.narit.or.th/darkskyreserve/dsp/ 2. ชุมชนอนุรักษ์ท้องฟ้ามืด Dark Sky Communities เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืด ในพื้นที่ชุมชน ที่ได้รับการร่วมมือและสนับสนุนจากประชาชนในพื้นที่ในการรักษาและสงวนท้องฟ้าในเวลากลางคืนให้มีความมืดที่เหมาะสม ปัจจุบันมี 1 ชุมชนคือ ชุมชนออนใต้ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ *สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://darksky.narit.or.th/darkskyreserve/communities/ 3. เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดส่วนบุคคล Dark Sky Properties เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในพื้นที่ส่วนบุคคล เช่น รีสอร์ท ฟาร์ม หรือ ศูนย์การเรียนรู้ต่าง ๆ ที่นอกจากจะมีการอนุรักษ์ท้องฟ้าให้มืดจากการใช้แสงสว่างตอนค่ำอย่างระมัดระวังแล้ว สถานที่ต้องมีความปลอดภัย เดินทางสะดวก มีสิ่งอำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่สนใจ มีกิจกรรมที่สร้างความตระหนักถึงผลกระทบของมลภาวะทางแสงและมองเห็นดวงดาวในท้องฟ้ายามค่ำคืนได้ด้วยตาเปล่า ปัจจุบันมีสถานที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียน คือ 1.ไร่องุ่นไวน์ อัลซิตินี่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา 2.โรงแรมเรนทรี เรซิเดนซ์ เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา 3.สนามมวกเหล็ก เอทีวี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา 4.บ้านไร่ยายพลู อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี 5.เดอะเปียโน รีสอร์ท อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา 6.ไร่องุ่นไวน์กราน-มอนเต้ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา *สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://darksky.narit.or.th/darkskyreserve/private 4. เขตอนุรักษ์ท้องฟ้าในพื้นที่ชานเมือง Dark Sky Suburbs เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืด ในพื้นที่ชานเมือง มีลักษณะเป็นลานโล่ง สามารถจัดกิจกรรมการสังเกตการณ์ท้องฟ้าได้โดยรอบ มีการใช้แสงสว่างอย่างเหมาะสมต่อการใช้งาน มีความปลอดภัยและสิ่งอำนวย ความสะดวกแก่ผู้ที่มาใช้บริการ ปัจจุบันมีพื้นที่ในเขตชานเมืองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนคือ 1.อุทยานดาราศาสตร์สิรินธร จ.เชียงใหม่ 2.หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติฯ จ.นครราชสีมา 3.หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติฯ จ.ฉะเชิงเทรา 4.หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติฯ จ.สงขลา *สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://darksky.narit.or.th/darkskyreserve/suburbs นอกจากนี้ แอดอยากแนะนำคู่มือท่องเที่ยว “ชวนเธอ ไปชมดาว” ที่มีการอ้างอิงข้อมูลเชิงดาราศาสตร์มากำหนดเส้นทางท่องเที่ยว ให้เพื่อน ๆ ที่สนใจเรื่องการดูดาวได้ศึกษาและใช้เป็นข้อมูล โดยสามารถดาวน์โหลดหนังสือคู่มือการท่องเที่ยวดูดาวในรูปแบบ e-book ได้ที่ : https://www.madamscreator.com/ebook/Amazing-Dark-Sky/ สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.NARIT.or.th หรือ โทร. 08 1885 4353

✨เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืด ✨ อ่านเพิ่มเติม

มหัศจรรย์ #มอหินขาว จ.ชัยภูมิ 🌅

🌳 “มอหินขาว” สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมช่วงหน้าฝน ฤดูแห่งความชุ่มฉ่ำ เต็มไปด้วยหมอก ซึ่งที่นี่ถูกเรียกว่าเป็น #สโตนเฮนจ์เมืองไทย เพราะมีลักษณะคล้ายกับ #สโตนเฮนจ์ ในประเทศอังกฤษ เกิดจากการเคลื่อนไหวของเปลือกโลก จึงกลายเป็นสวนหินธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยวเช็กอินถ่ายรูปสวยของจังหวัดชัยภูมิที่ฮอตฮิตมาจนถึงปัจจุบัน และตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป #อุทยานแห่งชาติภูแลนคา เปิดการท่องเที่ยวและพักแรมในอุทยานแห่งชาติประจำปี 2565 ทุกคนสามารถมาปักหมุดที่เที่ยวทางธรรมชาติสวย ๆ กางเต้นท์อยู่ท่ามกลางหมอกหนา ๆ กันได้เลย 💗✨ ไฮไลท์ห้ามพลาดเมื่อมาเช็กอินมอหินขาว คือ เสาหิน 5 ต้น ซึ่งต้นที่ขนาดใหญ่ที่สุดสูงประมาณ 12 เมตร กว้างประมาณ 22 คนโอบ และเสาหินทั้ง 5 ต้นยังมีการชื่อตั้งตามความเชื่อเมื่อมากราบไหว้จะได้รับพรดังนี้ต้นที่ 1 #ขุนศรีวิชัย ด้านชัยชนะต้นที่ 2 #หลวงปู่ฤาษี ด้านโชคลาภและปราศจากโรคภัยต้นที่ 3 #หลวงสมชาย ด้านสง่าราศีต้นที่ 4 #หลวงจันทร์ ด้านยศฐาบรรดาศักดิ์ต้นที่ 5 #หมื่นสิงขร ด้านการงาน 🌷 ที่ตั้ง : มอหินขาว อุทยานแห่งชาติภูแลนคา บ้านวังคำแคน ตำบลท่าหินโงม อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิFacebook : อุทยานแห่งชาติภูแลนคาสอบถามเพิ่มเติม โทร. 09 3093 9193 💦🌈 นอกจากนี้ใครที่อยากมาเล่นน้ำฉ่ำ ๆ ด้วย ใช้เส้นทางเดิมกลับไป #น้ำตกตาดโตน อุทยานแห่งชาติตาดโตนได้เลย ด้านบนเป็นลานหิน กว้างประมาณ 50 เมตร และยาวไปตามลำน้ำ ประมาณ 300 เมตร ธารน้ำจะไหลมาตามแอ่งหิน สวยงามตลอดทั้งปีเลย แต่จะสวยเป็นพิเศษช่วงหน้าฝนนี้ ห้ามพลาดเด็ดขาด! 🌧 🌷 ที่ตั้ง : น้ำตกตาดโตน อุทยานแห่งชาติตาดโตน ตำบลนาฝาย อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิFacebook : อุทยานแห่งชาติตาดโตน – Tatton National Parkสอบถามเพิ่มเติม โทร. 0 4410 4002

มหัศจรรย์ #มอหินขาว จ.ชัยภูมิ 🌅 อ่านเพิ่มเติม

🌷 ฤดูกาลชมดอกกระเจียว : ชัยภูมิ 🌷

🌿 ฝนฉ่ำๆ แบบนี้ พาร่างกายตัวเองมาสัมผัสหมอก ชมดอกกระเจียวเบ่งบาน ความสวยงามอลังการรับหน้าฝนกัน ☔ ซึ่งในช่วงเดือนพฤษภาคม – สิงหาคมของทุกปี ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ และอุทยานแห่งชาติไทรทอง อำเภอหนองบัวระเหว จังหวัดชัยภูมิ จะเริ่มมีดอกกระเจียวบานสีชมพูสีขาวเต็มพื้นที่อุทยานไปหมด สีสันสดใส ถ่ายรูปสวยมาก ๆ ใครชอบท่องเที่ยวทางธรรมชาติ พักผ่อนชมบรรยากาศชิลล์ ๆ ชุ่มฉ่ำรับหน้าฝน อยู่ใกล้ชิดป่าเขาห้ามพลาดเลย แนะนำให้ทุกคนมาตอนเช้าน๊าา หมอกกำลังหนา ๆ ปังมาก ฟีลดีที่สุด 🍃 🌷 พิกัด : ทุ่งดอกกระเจียว อุทยานแห่งชาติไทรทอง อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ https://goo.gl/maps/R5CcfW7F92jQ7dqu5 🌷 Facebook : อุทยานแห่งชาติไทรทอง Sai Thong National Park 🌷 สอบถามเพิ่มเติม ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติไทรทอง โทร. 08 9282 3437 🌷 พิกัด : ทุ่งดอกกระเจียว อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อยู่ในพื้นที่ อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ https://goo.gl/maps/nBMWZRbcZAEUrqPs6🌷 Facebook : อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม Pa Hin Ngam National Park🌷 สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0 4405 6141 💡 ภาพถ่ายนี้เป็นเทคนิคการถ่ายมุมภาพกดให้ต่ำลงเพื่อเน้นบรรยากาศทุ่งดอกกระเจียว จึงทำให้มองไม่เห็นทางเดิน ทางช่างภาพไม่ได้ลงไปในบริเวณที่มีป้ายเตือนว่าห้ามลง แต่ถ่ายอยู่บนทางเดินที่ทางอุทยานฯ ได้กำหนดไว้

🌷 ฤดูกาลชมดอกกระเจียว : ชัยภูมิ 🌷 อ่านเพิ่มเติม

🌳 กอดป่า @ ชัยภูมิ 🌳

ลมหนาวเริ่มพัดเข้ามาแล้ว คงจะดีทีเดียวถ้าได้ออกเดินทางไปกอดธรรมชาติให้ชื่นใจ สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังหาจุดปักหมุดเพื่อท่องธรรมชาติ แอดมินมีเส้นทางท่องเที่ยวจังหวัดชัยภูมิ 2 วัน 1 คืนมาฝาก ได้ไปสักครั้ง จะพบว่าชัยภูมิเป็นเมืองรองที่มีธรรมชาติที่สมบูรณ์และสวยงาม น่าประทับใจไม่แพ้ที่ไหนเลย การเดินทาง  สามารถเดินทางได้ทั้งรถยนต์ส่วนตัว รถโดยสารบริษัทขนส่งจำกัด รถโดยสารบริษัทเอกชน และเครื่องบิน สอบถามการเดินทาง รอบรถ และข้อมูลเพิ่มเติม บริษัท แอร์ชัยภูมิ จำกัด โทร. 02 936 0039, 044 811 556, บริษัท แอร์เมืองเลย จำกัด โทร. 095 336 6225, 089 626 2448 เดินทางโดยเครื่องบิน ลงท่าอากาศยานนานาชาติขอนแก่น ไม่มีรถจากสนามบินขอนแก่นไปชัยภูมิโดยตรง แต่สามารถนั่งรถไปลงที่ บขส. 3 จังหวัดขอนแก่น โดย ซิตี้บัส หรือแท็กซี่ เพื่อไปขึ้นรถโดยสารเดินทางไปยังจังหวัดชัยภูมิ แท็กซี่ขอนแก่น โทร. 043 465 777 ศูนย์แท็กซี่สนามบิน โทร. 094 386 8555 เส้นทางท่องเที่ยวชัยภูมิ 2 วัน 1 คืน  วันที่ 1 1. ชมพระมหาธาตุเจดีย์สิริชัยภูมิ ท่ามกลางขุนเขา ที่ วัดอรุณธรรมสถาน 2. ช้อปของที่ระลึก ผ้าขิดทอมือบ้านโนนเสลา 3. กางเต็นท์ค้างแรม ชมดาว ที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว (ทุ่งกระมัง)  วันที่ 2 ส่องป่า ชมละมั่งและเนื้อทรายแบบใกล้ชิด ที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว 4 Paipresso Café คาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่นกลางสวน  วันที่ 1 วัดอรุณธรรมสถาน (พระธาตุชัยภูมิ) เริ่มต้นทริปด้วยการไปสักการะพุทธสถาน พร้อมกับชมวิวมุมกว้างของชัยภูมิกัน พระมหาธาตุเจดีย์สิริชัยภูมิ หรือ พระธาตุชัยภูมิ ประดิษฐานอยู่ภายในวัดอรุณธรรมสถาน ซึ่งอยู่บนเนินสูงภูแลนคา วัดแห่งนี้ มีการออกแบบอย่างสวยงามและมีเอกลักษณ์ ตั้งแต่องค์พระธาตุ ซุ้มประตู ไปจนบันไดนาคสีขาว โดยพระธาตุชัยภูมินั้นสร้างขึ้นตามอย่างการสร้างเจดีย์ในสมัยโบราณ มีเค้าโครงจากการผสมผสานของศิลปะล้านช้างและล้านนา ด้านในพระธาตุ นอกจากจะเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง เล่าเรื่องราวพุทธประวัติ และวิถีความเป็นอยู่ของคนในท้องถิ่น รวมทั้งมีบุษบกที่ประดับประดาอย่างประณีตงดงาม  อีกหนึ่งจุดที่แอดไม่อยากให้พลาดก็คือ “หอพระบางชัยภูมิ”ตัวอาคารหอพระเป็นสีชมพูสดใส โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ผนังภายนอกงดงามด้วยประติมากรรมกระจกสี บอกเล่าเรื่องราวของวิถีชีวิต ประเพณีต่าง ๆ ของพื้นถิ่นอีสานอย่างน่าประทับใจ หอพระบางชัยภูมิ สร้างเสร็จเมื่อปี 2563 โดยจะใช้เป็นหอประดิษฐาน “พระบางชัยภูมิ” ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงดำเนินการหล่อพระพุทธรูป  ขอบคุณรูปภาพสวย ๆ จากเพจ พระธาตุชัยภูมิ สำหรับผู้ที่ไม่ได้ไปสักการะพระยาภักดีชุมพล (พญาแล) เจ้าเมืองชัยภูมิคนแรก ที่อยู่บริเวณวงเวียนศูนย์ราชการจังหวัดในตัวเมืองชัยภูมิ ก็สามารถมาสักการะอนุสาวรีย์ของท่าน ซึ่งอยู่ภายในบริเวณวัดแห่งนี้ได้ วัดอรุณธรรมสถานยังเป็นสถานที่ที่เหล่าพุทธศาสนิกชนเข้ามาใช้ปฏิบัติธรรม เกิดขึ้นจากดำริของพระธรรมสิริชัย เจ้าอาวาสวัดอรุณราชวรารามรูปที่ 13 ซึ่งได้มีการดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2550 โดยปกติแล้ว ผู้สนใจปฏิบัติธรรมสามารถเข้ามาปฏิบัติธรรมได้โดยติดต่อทางวัดล่วงหน้า แต่ในช่วงสถานการณ์โควิดนี้ ทางวัดแจ้งงดการปฏิบัติธรรม จะเปิดเฉพาะในส่วนของการเข้าชมวัดเพียงเท่านั้น  ตำบลเก่าย่าดี อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ  063 638 7769, 091 808 5083 https://goo.gl/maps/rtEBcWDqs5T9Xr88A ผ้าขิดทอมือบ้านโนนเสลา  บ้านโนนเสลา เป็นแหล่งทอผ้าขิดที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดชัยภูมิ โดยรวมตัวจัดตั้งเป็นกลุ่มทอผ้าตามแบบภูมิปัญญาดั้งเดิม ซึ่งทางชุมชนทอผ้าใช้เองมาแต่รุ่นปู่ย่าตายายอยู่แล้ว จนกลายเป็นสินค้าชุมชนที่มีชื่อเสียง ใครที่ชื่นชอบผ้าทอไม่ควรพลาด ผ้าขิดบ้านโนนเสลาเน้นความเป็นธรรมชาติ ตั้งแต่เส้นใย และสีที่ใช้ย้อมผ้า โดยลายที่เป็นเอกลักษณ์ของชุมชนก็คือ “ลายนาคโหด” ซึ่งมีที่มาจากประเพณีการอุปสมบทหมู่แห่นาคโหดของจังหวัดชัยภูมินั่นเอง  ขอบคุณรูปภาพสวย ๆ จากเพจ Sukhumcraft สินค้าจากผ้าขิด ไม่ได้มีเพียงแค่เสื้อผ้าสวย ๆ เท่านั้น แต่ยังมีสินค้าอื่นให้เราได้ช้อปอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ผ้าพันคอ กระเป๋า ผ้าปูโต๊ะ และสินค้าหัตถกรรมอื่น ๆ อุดหนุนกันได้น้า  หมู่ 6 ตำบลหนองตูม อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ  084 642 6736 https://goo.gl/maps/qHBG9kp4BWQrCbhk9 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว-ทุ่งกะมัง  ไฮไลต์ทริปนี้ของแอดก็คือที่นี่นี่เอง เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติที่แอดชอบมาก ประกอบกับช่วงนี้ อากาศเริ่มเย็นแล้ว เหมาะแก่การรับลมหนาว นอนเก็บดาวกลางป่า แอดเลยจะพาเพื่อน ๆ มากางเต็นท์ค้างแรมในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียวกัน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว ตั้งอยู่ท่ามกลางผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ครอบคลุม 3 อำเภอ ในเขตจังหวัดชัยภูมิ เป็นแหล่งอนุรักษ์และดูแลสัตว์ป่า เพื่อให้สัตว์ป่าได้ใช้ชีวิตตามธรรมชาติ และมีโอกาสขยายพันธุ์เองตามธรรมชาติ ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ามีการจัดทำเส้นทางศึกษาธรรมชาติสำหรับผู้สนใจได้ศึกษาธรรมชาติอย่างใกล้ชิดอีกด้วย เนื่องจากที่นี่เป็นพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จึงมีมาตรการที่เข้มงวด โดยปกติแล้วหากต้องการไปเที่ยวหรือค้างแรม ควรติดต่อไปยังที่ทำการล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน เพื่อรับทราบระเบียบการเข้าชมหรือค้างแรม  ในช่วงนี้เปิดให้เข้าชมแบบไปเช้า – เย็นกลับเท่านั้น เอาใจคนชอบดูดาวด้วยบรรยากาศท้องฟ้ายามกลางคืนของที่นี่ มองเห็นดาวชัดมาก ๆ นอนดูดาวเพลิน ๆ ชวนหลับฝันดีเลยล่ะ  สำหรับเพื่อน ๆ มือใหม่หัดดูดาว แอดก็มีเกร็ดความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ ของการดูดาวมาฝากด้วยนะ https://www.facebook.com/TATContactcenter/posts/4714655261939850  วันที่ 2ต้อนรับเช้าอันสดใสด้วยบรรยากาศธรรมชาติสีเขียวยามที่น้ำค้างเกาะตามใบ รู้สึกสดชื่นจริง ๆ  อีกหนึ่งไฮไลต์ของการมาที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียวนี้ ก็คือการมาชมเหล่าเนื้อทรายน่ารัก ๆ ที่อาศัยอยู่ในผืนป่านี้ ซึ่งเจ้าเนื้อทรายค่อนข้างเชื่องและไม่ค่อยกลัวคน ทำให้เราสามารถชมได้อย่างใกล้ชิด แต่ข้อควรระวังคืออย่าให้อาหารหรือทำร้ายน้อง ๆ กันนะ จุดต่อไปเราจะไปที่ทุ่งกะมัง จากที่ทำการ

🌳 กอดป่า @ ชัยภูมิ 🌳 อ่านเพิ่มเติม

มอหินขาว อุทยานแห่งชาติภูแลนคา จ.ชัยภูมิ

มอหินขาว ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูแลนคา ตำบลท่าหินโงม อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ที่มาของชื่อมอหินขาวนั้น คำว่า “มอ” มาจากภาษาอีสาน แปลว่า เนิน เขา หรือที่สูง ส่วน “หินขาว” มาจากเรื่องเล่าของชาวบ้านที่ว่า ในสมัยก่อนทุกคืนวันพระจะมีแสงสีขาวส่องมาจากก้อนหิน จึงเรียกกันว่าหินขาว ซึ่งจากการตรวจสอบของกรมทรัพยากรธรณีพบว่ามอหินขาวมีอายุราว 195 – 197 ปี ส่วนใหญ่เป็นหินทรายขาวค่ะ มาถึงไฮไลท์ของมอหินขาวนั่นก็คือ เสาหิน 5 ต้น ที่มีขนาดแตกต่างกัน ขนาดใหญ่ที่สุดสูงราว 12 เมตร กว้างประมาณ 22 คนโอบทีเดียว ซึ่งเสาหินทั้ง 5 ต้นนี้ก็มีชื่อที่ตั้งขึ้นตามความเชื่อดังนี้ เสาหินต้นที่ 1 ชื่อว่า “ขุนศรีวิชัย” เชื่อว่าถ้าได้มากราบไหว้จะได้รับพรให้มีชัยชนะเสาหินต้นที่ 2 ชื่อว่า “หลวงปู่ฤาษี” เชื่อว่าถ้าได้มากราบไหว้จะได้รับพรด้านโชคลาภและหายจากอาการเจ็บป่วยเสาหินต้นที่ 3 ชื่อว่า “หลวงสมชาย” เชื่อว่าถ้าได้มากราบไหว้จะได้รับพรด้านความมีสง่าราศีเสาหินต้นที่ 4 ชื่อว่า “หลวงจันทร์” เชื่อว่าถ้าได้มากราบไหว้จะได้รับพรให้มียศฐาบรรดาศักดิ์เสาหินต้นที่ 5 ชื่อว่า “หมื่นสิงขร” เชื่อว่าถ้าได้มากราบไหว้จะได้รับพรให้ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน นอกจากเสาหิน 5 ต้นที่เป็นไฮไลท์แล้ว ที่นี่ก็ยังมีหินกลุ่มอื่นๆ อีก อย่างในภาพนี้จะเป็นหินเจดีย์และหินโขลงช้างค่ะ การเดินทาง : จากตัวเมืองชัยภูมิใช้ทางหลวงหมายเลข 2051 (ชัยภูมิ-ตาดโตน) (ทางไปน้ำตกตาดโตน) ขับไปเรื่อยๆ ประมาณ 10 กิโลเมตร ถึงทางเข้าอุทยานแห่งชาติตาดโตนให้เลี้ยวซ้าย ถึงตรงนี้จะมีป้ายบอกชัดเจน ขับตามป้ายบอกทางไปได้เลยนะคะ สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจกางเต็นท์นอนดูดาว ทางอุทยานฯ ก็ได้จัดลานกางเต็นท์ไว้บริการด้วยค่ะสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 093 093 9193, 097 280 5434 เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 13 มกราคม 2562

มอหินขาว อุทยานแห่งชาติภูแลนคา จ.ชัยภูมิ อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top