ปราจีนบุรี

ปราจีนบุรี

เขาใหญ่ ปราจีนบุรี เส้นทางนี้ธรรมชาติดี๊ดี 🌿

จังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดปราจีนบุรี นับว่าเป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ทั้งป่าเขา น้ำตกที่เป็นธรรมชาติค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ และมีสถานที่ทางประวัติศาสตร์น่าชมอีกด้วย เส้นทางวันนี้หากเพื่อน ๆ มีเวลา 2-3 วัน บัดดี้ว่ากำลังดีที่เราจะได้หาวันพักผ่อนชิล ๆ จะมีที่ไหนบ้าง ไปชมกันเลย ใครเคยไปเที่ยวกันมาแล้ว อย่าลืมเอารูปภาพสวย ๆ มาอวดบัดดี้บ้างนะคะ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่  หนึ่งในพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติ (World Heritage Site) ครอบคลุมพื้นที่ 4 จังหวัด เป็นพื้นที่อนุรักษ์ที่มีสัตว์ป่าชุกชุมมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย แถมยังมีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปีและในช่วงฤดูฝนที่ใกล้จะมาถึงนี้ เพื่อน ๆ จะได้สัมผัสความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าเขาใหญ่และได้สูดอากาศบริสุทธิ์เต็มปอดเลยล่ะ  อุทยานฯ มีกิจกรรมให้ทำมากมาย อย่างภาพนี้เป็นกิจกรรมขึ้นหอดูสัตว์หนองผักชี หอดูสัตว์จะสร้างใกล้ ๆ โป่ง เนื่องจากสัตว์จะลงมากินดินโป่ง ส่วนใหญ่จะได้เห็นกวาง ช้างป่า หากโชคดีจะได้เห็นกระทิงลงมากินดินโป่งด้วยนะ ซึ่งหาชมได้ยากมาก อุทยานฯ มีบริการที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว สามารถจองที่พักได้ด้วยตนเองที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว (กรณีห้องพักไม่เต็มจำนวนการจอง) หรือ ลงทะเบียนจองบ้านพักล่วงหน้าผ่านระบบออนไลน์ได้ที่ https://nps.dnp.go.th//reservation.php?option=home/ หากใครเป็นสายลุย อุทยานฯ มีเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติทั้งระยะใกล้-ไกล หรือประเภทค้างแรมในป่าก็มี ผู้สนใจสามารถติดต่อเดินป่าได้ที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติใกล้เคียงและที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่โดยตรงค่ะ นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมส่องนก ซึ่งมีนกหลากหลายชนิด สามารถถ่ายรูปเป็นที่ระลึกสำหรับนักดูนก เพียงมีกล้องส่องทางไกลหรือเลนส์กล้องระยะซูมไกล ๆ นอกจากความเพลิดเพลินแล้วยังได้มีโอกาสชมนกสวย ๆ และหาดูได้ยากในปัจจุบัน สำหรับใครที่เข้าไปเที่ยว อย่าลืมปฏิบัติตามระเบียบของอุทยานฯ อย่างเคร่งครัดและช่วยกันรักษาไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมนะคะ  ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ตู้ปณ. 9 ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เปิดทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น. โทร. 08 6092 6527, 08 6092 6529 เว็บไซต์ https://www.khaoyainationalpark.com/contact-ushttps://goo.gl/maps/dcTRLwZSHneUtm2S6 ไร่องุ่น PB Valley  ที่นี่มีพื้นที่ปลูกองุ่นกว่า 500 ไร่ ถือเป็นโรงงานผลิตไวน์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เรียกว่าเป็นสวรรค์ของคนรักไวน์เลยก็ว่าได้ ภายในมีกิจกรรมต่าง ๆ ให้ทำมากมายอีกด้วยกิจกรรมไวน์ทัวร์ ราคาคนละ 350 บาทนั่งรถรางชมไร่ รับฟังการบรรยายเรื่องการปลูกองุ่น กระบวนการผลิตไวน์จากผู้เชี่ยวชาญ พร้อมชิมไวน์แบบสด ๆกิจกรรมตัดองุ่น ราคาคนละ 400 บาทนั่งรถรางชมไร่ พร้อมกิจกรรมตัดองุ่น ซึ่งเราจะได้องุ่นกลับบ้านไปได้เลย นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีร้านอาหาร ที่พัก จักรยานให้เช่า และร้านขายของที่ระลึก จำหน่ายผลิตภัณฑ์จากองุ่นหลายอย่าง เช่น ไวน์ องุ่นสด แยม และขนมต่าง ๆ เป็นต้น  เปิดทุกวัน เวลา 07.30-16.30 น. โทร. 081 733 8783, 085 481 1741https://goo.gl/maps/fR1bLxNGqfcDCyQL8  พิพิธภัณฑ์การแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร  ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร อาคารสีเหลืองสดใสสไตล์บาร็อกริมแม่น้ำปราจีนบุรีแห่งนี้ ตั้งอยู่ภายในโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เป็นตึกที่เจ้าพระยาอภัยภูเบศรสร้างขึ้นด้วยทรัพย์สินส่วนตัว เคยใช้เป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งเสด็จฯ เยือนมณฑลปราจีน และเคยใช้เป็นตึกอำนวยการรักษาผู้ป่วย หลังจากตึกอำนวยการหลังใหม่สร้างเสร็จ กรมศิลปากรก็ได้ขึ้นทะเบียนตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศรเป็นโบราณสถาน พ.ศ. 2539 ภายในตึกได้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์การแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร จัดแสดงประวัติความเป็นมาของตึก รวบรวมและอนุรักษ์ตำรายาไทย การแพทย์แผนไทย และการแพทย์พื้นบ้านของจังหวัดปราจีนบุรี นอกจากนี้ยังมีสินค้าสมุนไพรของอภัยภูเบศรจำหน่ายด้วย ใครชอบผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร อย่าลืมแวะซื้อกันได้นะคะ อภัยภูเบศร เดย์ สปา นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมสปา สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการนวดผ่อนคลาย หรือมีปัญหาปวดเมื่อยเนื้อตัว ที่นี่มีการนวดหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นการกดจุด นวดด้วยสารสกัดจากสมุนไพรเข้มข้นหลากหลายชนิด ให้รู้สึกผ่อนคลาย สบายตัวจากอภัยภูเบศร เดย์ สปา ต้องลองมากันค่ะ 32/7 หมู่ที่ 12 ตำบลท่างาม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี เปิดทุกวัน เวลา 08.30 – 16.30 น. 0 3721 7127, 0 3721 1088 ต่อ 3123, 2149, 2133https://goo.gl/maps/f741531vS9v3pTQH9

เขาใหญ่ ปราจีนบุรี เส้นทางนี้ธรรมชาติดี๊ดี 🌿 อ่านเพิ่มเติม

“บ้านเล่าเรื่อง เมืองสมุนไพร”

บ้านเล่าเรื่อง เมืองสมุนไพร.บ้านที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของสมุนไพรหลังนี้ เดิมเป็นของครอบครัวเปี่ยมสมบูรณ์ ซึ่งเป็นตระกูลขุนนางและพ่อค้าเก่าแก่ของปราจีนบุรี ดร.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ได้มอบบ้านหลังนี้ให้แก่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรเพื่อใช้ประโยชน์ จึงเกิดเป็นบ้านเล่าเรื่อง ที่เป็นทั้งร้านอาหารเพื่อสุขภาพและพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อม ที่นำเสนอเรื่องราวของสมุนไพรผ่านนิทรรศการที่จัดแสดงภายในร้านด้วย เมื่อเดินเข้าไปในร้าน ห้องแรกที่เราจะได้พบก็คือห้องรับแขก ซึ่งมีหนังสือเกี่ยวกับสมุนไพร ประวัติความเป็นมาของบ้านหลังนี้ รวมทั้งเมนูอาหารของร้าน ซึ่งล้วนเป็นเมนูที่ทำจากสมุนไพร วางเรียงรายเอาไว้ให้ชมด้วย ระหว่างทางเดินไปยังห้องอาหาร จะผ่านโถงที่จัดแสดงนิทรรศการบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ ที่เคยเสด็จฯ มาเยือนจังหวัดปราจีนบุรี ได้แก่ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นต้น และแล้วเราก็เข้ามาถึงภายในห้องอาหาร ซึ่งตกแต่งอย่างสวยงาม พร้อมทั้งยังแทรกเรื่องราวของสมุนไพรเอาไว้ตามส่วนต่างๆ ของห้อง ทำให้รู้สึกว่าสมุนไพรนั้นน่าสนใจและไม่ได้อยู่ไกลตัวเราเลย มาดูเมนูอาหารกันบ้าง เริ่มที่ “ปลากะพงผัดขึ้นฉ่าย” รสชาติกลมกล่อม เหมาะสำหรับคนไม่ทานเผ็ด แค่จานแรกก็บอกเลยว่าดีค่ะ เสิร์ฟตามมาติดๆ กับ “แกงเลียง” เมนูสุขภาพ รสชาติเข้มข้น “ไก่ทอดขมิ้น” ทอดมาร้อนๆ กรอบๆ ทานคู่กับสลัด ยกนิ้วให้เลยค่ะ ชุดน้ำพริกกะปิ” พร้อมผักต้มหลากหลายชนิด กะปิรสนัวมากขอบอก ยิ่งทานกับผักต้มและข้าวไรซ์เบอร์รีเพื่อสุขภาพ ยิ่งแซ่บมากจ้า มาถึงเครื่องดื่มที่พลาดไม่ได้เมื่อมาถึงที่นี่ก็คือ “อัญชันโซดา” เสิร์ฟมาเป็นชุดให้ปรุงเองเลย ใครชอบหวานมากหวานน้อย ก็เติมได้ตามใจชอบเลยค่า ดื่มแล้วชื่นใจหายเหนื่อย ด้านหน้าร้านปลูกสมุนไพรหลากหลายชนิด และยังมีป้ายให้ความรู้เกี่ยวกับสรรพคุณของสมุนไพรแต่ละอย่างด้วย ถ้าใครมาเที่ยวปราจีนบุรี แอดแนะนำเลยว่าต้องมาที่นี่ บรรยากาศดี อาหารอร่อย แถมได้ความรู้เรื่องสมุนไพรด้วย ครบเลยค่ะ.บ้านเล่าเรื่อง เมืองสมุนไพร ปราจีนบุรีที่ตั้ง 51 ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรีเปิดทุกวัน เวลา 10.00-20.00 น.โทร. 097 021 1037  เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 17 กรกฎาคม 2562

“บ้านเล่าเรื่อง เมืองสมุนไพร” อ่านเพิ่มเติม

เรือนหมอพลอย @ ภูมิภูเบศร

“เรือนหมอพลอย” เป็นเรือนไม้หลังใหญ่ที่นายแพทย์ไพโรจน์ นิงสานนท์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงหมื่นชำนาญแพทยา (พลอย แพทยานนท์) หมอหลวงในสมัยรัชกาลที่ 5 – รัชกาลที่ 6 ซึ่งเป็นคุณตาของท่าน และต่อมาท่านได้มอบเรือนหลังนี้ให้แก่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เพื่อใช้เป็นพิพิธภัณฑ์การแพทย์แผนไทยค่ะ เรือนหมอพลอยเป็นเรือนไม้ใต้ถุนสูง ภายในจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับการแพทย์แผนไทย โดยชั้นล่างจัดเป็น “โซนยาย้อนยุค” มีโถสมุนไพรต่างๆ วางเรียงรายอยู่ ซึ่งเราสามารถเลือกสมุนไพรกลิ่นที่ชอบมาผสมเป็นยาดมได้เองเลย แก้วิงเวียนได้ดีมากๆ นอกจากนี้ยังมีร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพรและของฝากเก๋ๆ ให้เลือกซื้อกลับไปฝากคนที่บ้านได้ด้วยนะคะ ทุกวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ บริเวณชั้นล่างนี้จะมีกิจกรรม Workshop สาธิตการทำยา และกิจกรรมสุขภาพต่างๆ เช่น การทำแป้งร่ำ การทำธูปหอมด้วยสมุนไพร ฯลฯ ซึ่งกิจกรรมจะแตกต่างกันไปในแต่ละเดือน ผู้สนใจสามารถร่วมกิจกรรมได้โดยไม่จำกัดจำนวนคนและไม่เสียค่าใช้จ่ายค่ะ โดยกิจกรรมจะมีวันละ 2 รอบ เวลา 10.00 น. และ 14.00 น. หลังจากทดลองทำยากันไปแล้ว เราก็ขึ้นมาชมนิทรรศการที่ชั้นบนกันบ้าง ซึ่งข้างบนนี้แบ่งการจัดแสดงออกเป็น 3 ห้องด้วยกัน.ห้องแรกคือ “ย้อนรอยหมอหลวง ชื่อหมอพลอย” เป็นห้องที่บอกเล่าถึงชีวประวัติของหมอพลอย และความเป็นมาของเรือนหลังนี้ มีข้าวของเครื่องใช้ของหมอพลอย และเครื่องมือเครื่องใช้ทางการแพทย์ในอดีตไว้ให้ชมมากมายเลย ห้องถัดมา “หมอไทยนั้นเป็นฉันใด” ในห้องนี้เราจะได้เรียนรู้เรื่องราวของการแพทย์ในแบบต่างๆ ทั้งการแพทย์เชิงระบบ การแพทย์เหนือธรรมชาติ และการแพทย์พื้นบ้าน ซึ่งได้นำมาประยุกต์ใช้ในการแพทย์แผนปัจจุบัน ส่วนห้องสุดท้ายคือ “หั่น สับ จับมาเป็นยา” ภายในห้องนี้เราสามารถหยิบจับเครื่องไม้เครื่องมือ และลองทำยาด้วยตัวเองได้ด้วย เห็นแล้วนึกถึงละครเรื่อง ทองเอก หมอยาท่าโฉลง เลยค่ะ  นับว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย เที่ยวได้ทั้งครอบครัวจริงๆ ถ้าเพื่อนๆ มีเวลาว่างก็อย่าลืมมาเที่ยวกันนะคะ ภูมิภูเบศร ศูนย์การเรียนรู้สมุนไพรและภูมิปัญญาสุขภาพ บางเดชะ (เรือนหมอพลอย)ที่ตั้ง ตําบลบางเดชะ อําเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรีโทร 097 098 3582Facebook : ภูมิภูเบศร ศูนย์การเรียนรู้สมุนไพรและภูมิปัญญาสุขภาพ บางเดชะเปิดทุกวัน เวลา 08.30-16.30 น. เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 9 มิถุนายน 2562

เรือนหมอพลอย @ ภูมิภูเบศร อ่านเพิ่มเติม

เส้นทางท่องเที่ยวนครนายก-ปราจีนบุรี 2 วัน 1 คืน

เส้นทางท่องเที่ยวนครนายก-ปราจีนบุรี 2 วัน 1 คืน ถึงนครนายกและปราจีนบุรีจะเป็นจังหวัดเล็ก ๆ แต่ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไปหลายแห่ง เรียกว่าครบทั้งที่เที่ยวทางธรรมชาติ ร้านอาหาร คาเฟ่สุดชิค และแหล่งเรียนรู้ บอกเลยว่าทริปนี้ได้ทั้งความชิลและความรู้ไปแบบเต็ม ๆ.ทริปนี้แอดจะพาไปเที่ยวที่ไหนบ้าง ตามมาดูเลยค่ะ จังหวัดนครนายก– Montreux Café & Farm– วัดจุฬาภรณ์วนาราม– อุทยานพระพิฆเณศ– สะพานทุ่งนามุ้ย จังหวัดปราจีนบุรี– พิพิธภัณฑ์การแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร– บ้านเล่าเรื่อง…เมืองสมุนไพร– ภูมิภูเบศร ศูนย์การเรียนรู้สมุนไพรและภูมิปัญญาสุขภาพ บางเดชะ– Café Kantary 304 ร้าน Montreux Café & Farm เริ่มต้นที่แรกด้วยร้าน Montreux Café and Farm (มองเทรอส์ คาเฟ่ แอนด์ ฟาร์ม) คาเฟ่บรรยากาศดี มีฟาร์มเล็ก ๆ ให้เดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจ.ภายในร้านแบ่งออกเป็นสองส่วน คือ ส่วนของคาเฟ่ และฟาร์ม คาเฟ่ให้บริการอาหาร น้ำดื่ม และขนม ใครหิวมาฝากท้องได้ที่นี่เลยค่ะ อร่อยทุกอย่าง .ที่ตั้ง : ตำบลบึงศาล อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายกโทร. 087 979 7341เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 09.00-19.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)พิกัด : https://goo.gl/maps/i31f3oMceZJ6nbzp8 ส่วนฟาร์มจะอยู่ด้านหลังร้าน บรรยากาศสไตล์บ้านทุ่ง มีนาข้าวและสระน้ำเล็ก ๆ ให้พายเรือเล่น หรือจะนั่งให้อาหารปลาชิล ๆ ริมสระก็ได้นะ นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมทำไข่เค็มดินสอพอง ครอบครัวไหนที่มีน้อง ๆ หนู ๆ มาด้วย สามารถมาทำกิจกรรมนี้กันได้ค่ะ  วัดจุฬาภรณ์วนาราม ไปเที่ยวต่อกันที่วัดจุฬาภรณ์วนาราม วัดนี้สร้างขึ้นในโอกาสที่สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงเจริญพระชนมายุ 50 พรรษา เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 ซึ่งพระองค์ได้พระราชทานนามวัดว่า “วัดจุฬาภรณ์วนาราม” พร้อมทั้งพระราชทานตราสัญลักษณ์ จภ เป็นตราประจำวัด เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550.ที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินยอดนิยมของจังหวัดนครนายก ไฮไลท์ที่โดดเด่นคือซุ้มต้นไผ่ที่อยู่บริเวณทางเดินเข้าวัด แอดบอกเลยว่าสวยมาก ร่มรื่นสุด ๆ ถ่ายรูปกันได้อย่างเพลิดเพลินเลยค่ะ.ที่ตั้ง : ตำบลบ้านพริก อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายกเปิดทุกวัน เวลา 07.00-18.00 น.โทร. 080 011 3791พิกัด https://goo.gl/maps/jCpXxNQCw9hGRenE9 หลังจากถ่ายรูปกับซุ้มต้นไผ่แล้ว อย่าลืมเข้าไปไหว้พระด้านในวัดเพื่อเสริมสิริมงคลกันด้วยนะคะ อุทยานพระพิฆเณศ อุทยานแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นศูนย์ปฏิบัติธรรม ภายในมีพระพิฆเณศปางประทานพรและปางเสวยสุของค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และยังจัดแสดงพระพิฆเณศ 108 ปางอีกด้วย . ที่ตั้ง : 24/4 หมู่ที่ 11 ตำบลสาริกา อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายกเปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.โทร. 088 914 1987พิกัด https://goo.gl/maps/b6SXgaqDk9jHeJvs6 สะพานทุ่งนามุ้ย ปิดท้ายการท่องเที่ยวจังหวัดนครนายกกันที่สะพานทุ่งนามุ้ย ซึ่งเป็นสะพานไม้ไผ่รูปตัว s มีความยาวประมาณ 150 เมตร ทอดยาวคดโค้งผ่านทุ่งนา เนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ บริเวณนี้มีร้านกาแฟและร้านขายผลผลิตทางการเกษตรของชาวบ้านให้เราไปอุดหนุนกันด้วย.เพื่อน ๆ สามารถเดินทางไปเที่ยวสะพานทุ่งนามุ้ยได้ตลอดทั้งปี แต่ถ้าใครอยากเห็นทุ่งนาสีเขียวแบบนี้ต้องไปช่วงปลายปีนะคะ.ที่ตั้ง : 88 หมู่ที่ 11 ตำบลสาริกา อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายกเปิดทุกวัน เวลา 06.00-19.00 น.โทร. 094 493 4321พิกัด https://goo.gl/maps/JDr7ZsK8zbC5Q3dY6 ไปต่อที่จังหวัดปราจีนบุรีกันเลยค่ะ ที่แรกที่เราจะไปคือ พิพิธภัณฑ์การแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร .ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร อาคารสีเหลืองสดใสสไตล์บาร็อกริมแม่น้ำปราจีนบุรีแห่งนี้ ตั้งอยู่ภายในโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เป็นตึกที่เจ้าพระยาอภัยภูเบศรสร้างขึ้นด้วยทรัพย์สินส่วนตัว เคยใช้เป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งเสด็จฯ เยือนมณฑลปราจีน และเคยใช้เป็นตึกอำนวยการรักษาผู้ป่วย.ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศรได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อ พ.ศ. 2539.ที่ตั้ง : 32/7 หมู่ที่ 12 ตำบลท่างาม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรีเปิดทุกวัน เวลา 08.30 – 16.00 น.โทร. 037 211 289, 037 211 088 ต่อ 2149, 2133 พิกัด https://goo.gl/maps/f741531vS9v3pTQH9 ภายในจัดแสดงประวัติความเป็นมาของตึก รวบรวมและอนุรักษ์ตำรายาไทย การแพทย์แผนไทย และการแพทย์พื้นบ้านของจังหวัดปราจีนบุรี.นอกจากนี้ยังมีสินค้าสมุนไพรของอภัยภูเบศรจำหน่ายด้วย ใครชอบผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร อย่าลืมแวะซื้อกันนะคะ บ้านเล่าเรื่อง…เมืองสมุนไพร ไปหาของอร่อยทานกันต่อที่บ้านเล่าเรื่อง…เมืองสมุนไพร.บ้านที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของสมุนไพรหลังนี้ เดิมเป็นของครอบครัวเปี่ยมสมบูรณ์ ซึ่งเป็นตระกูลขุนนางและพ่อค้าเก่าแก่ของจังหวัดปราจีนบุรี ดร. ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ได้มอบบ้านหลังนี้ให้แก่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรเพื่อใช้ประโยชน์ จึงเป็นที่มาของบ้านเล่าเรื่อง ซึ่งเป็นทั้งร้านอาหารเพื่อสุขภาพและพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อม ที่นำเสนอเรื่องราวของสมุนไพรผ่านนิทรรศการที่จัดแสดงภายในร้าน.ที่ตั้ง : 51 ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรีเปิดทุกวัน เวลา 10.00-19.00 น.โทร. 097 021 1037พิกัด https://goo.gl/maps/khv48AnwC3dKuvhf8 ภายในห้องอาหารมีการจัดแสดงความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรไว้ตามส่วนต่าง ๆ ทำให้เห็นว่าสมุนไพรนั้นน่าสนใจและอยู่ไม่ไกลตัวเราเลย.อาหารแต่ละเมนูก็น่ากินและมีประโยชน์ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ ยำทะเลดอกอัญชัน น้ำมะนาวอัญชัน แอดลองชิมแล้ว อร่อยจนต้องยกนิ้วให้เลยค่ะ  เรายังวนเวียนอยู่กับเรื่องสมุนไพรค่ะ ที่ต่อไปที่จะไปเที่ยวกันนั้นก็คือ เรือนหมอพลอย ซึ่งอยู่ภายในภูมิภูเบศร ศูนย์การเรียนรู้สมุนไพรและภูมิปัญญาสุขภาพ บางเดชะ.“เรือนหมอพลอย” เป็นเรือนไม้หลังใหญ่ที่นายแพทย์ไพโรจน์ นิงสานนท์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงหมื่นชำนาญแพทยา (พลอย แพทยานนท์) หมอหลวงในสมัยรัชกาลที่

เส้นทางท่องเที่ยวนครนายก-ปราจีนบุรี 2 วัน 1 คืน อ่านเพิ่มเติม

เที่ยวชิคๆ @ปราจีนบุรี

หากคิดถึงที่เที่ยวที่ไม่ไกลจากกรุงเทพนัก จังหวัดปราจีนบุรีก็เป็นจังหวัดหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับการเดินทางไปพักผ่อน จะไปแบบ One day Trip เช้าไปเย็นกลับ หรือจะพักสักคืน ให้ได้บรรยากาศชิลๆ ก็ได้หมด ถ้าสดชื่น วันนี้แอดมีที่เที่ยวแบบชิคๆ ของจังหวัดปราจีนบุรีมาแนะนำ พร้อมแล้วก็ไปกันเลยจ้า… ก่อนจะไปเที่ยวก็ขอเติมพลังสักหน่อยกับ “Cafe’ Kantary 304” ร้านกาแฟสุดชิคของจังหวัดปราจีนบุรี ภายในแบ่งเป็น 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นเคาน์เตอร์สั่งเครื่องดื่มและอาหาร มีโต๊ะให้นั่งทั้งด้านในและด้านนอก และมีมุมขายของที่ระลึกของทางร้าน พอเดินขึ้นมาชั้นสองจะเป็นโซนที่นั่งสไตล์ชิลๆ ขึ้นมาอีกนิด บนผนังภายในร้านตกแต่งด้วยงานศิลปะกราฟฟิตี้ของเจ้า “มาร์ดี (Mardi)” ที่ทำให้ไม่ว่ามุมไหนๆ ก็น่าถ่ายรูปไปหมด อยากจะบอกว่านอกจากที่นี่จะเป็นคาเฟ่สุดน่ารักแล้ว ก็ยังครบในเรื่องกินอีกด้วย มีทั้งเครื่องดื่ม เค้ก เครป แพนเค้ก อาหารฟิวชัน คือดีย์ ชมบรรยากาศร้านไปแล้วก็มาลองชิมเครื่องดื่มกันบ้าง กับ Chocolate Cream Frappé (ราคา 100 บาท) รสชาติเข้มข้น หวานกำลังดี ท็อปด้วยวิปครีมจุกๆ และเอาใจคนรักชาเขียว อย่าง Iced Milk Green Tea (ราคา 100 บาท) ชาเขียวเข้มข้นมากขอบอกเลยค่า ร้านคาเฟ่ แคนทารี สาขา 304 ปราจีนบุรีที่อยู่ : 689 หมู่ 10 ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรีเปิดทุกวัน เวลา 07.00-22.00 น.โทร. 037 239 777 มาต่อกันที่ “กลุ่มจักสานใบลานบ้านทับลาน” ที่นำเอาใบลานมาแปรรูป สร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์สุดเก๋ไก๋ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า หมวก โคมไฟ หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ตามความต้องการของลูกค้า ราคาเริ่มต้นที่ 25 บาท ไปจนถึง 4,500 บาท ถือเป็นอะไรที่ว้าวมากสำหรับแอด ที่ผลิตภัณฑ์จากใบลานสามารถสร้างมูลค่าได้มากขนาดนี้ ยังไม่พอนะ ทุกวันนี้ยังมีหน่วยงานต่างๆ ให้ความสนใจมาศึกษาดูงานอีกเป็นจำนวนมากเลยด้วย . กลุ่มจักสานใบลานบ้านทับลานที่อยู่ : 525 หมู่ที่ 1 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรีโทร. 089 831 3369 เอาใจคนรักบอนไซกับ “สวนลุงประเสริฐ” ที่ขึ้นชื่อในเรื่องการจัดบอนไซและสวนถาดมะสัง ที่หมู่บ้านดงบัง แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรขึ้นชื่อของปราจีนบุรี เข้ามาในสวนก็เห็นคุณลุงกำลังนั่งตกแต่งบอนไซและต้นมะสัง แถมยังสาธิตวิธีการดัดกิ่งบอนไซให้เราดูด้วย ที่นี่มีต้นบอนไซหลากหลายชนิด ซึ่งกว่าจะได้ออกมาเป็นต้นบอนไซแต่ละต้นใช้เวลาเป็นปีเลยนะคะ นับว่าต้องอาศัยทั้งความรักและความอดทนมากทีเดียวค่ะ สุดยอดมากๆ เลย. สวนบอนไซลุงประเสริฐ กลุ่มไม้ดอก-ไม้ประดับที่อยู่ : บ้านดงบัง ต.ดงขี้เหล็ก อ.เมือง จ.ปราจีนบุรีโทร. 096 925 6250 เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่อยากจะแนะนำให้ไปจริงๆ ค่ะ สำหรับ “อ่างเก็บน้ำนฤบดินทรจินดา” อ่างเก็บขนาดใหญ่ที่มองเห็นวิวสวยสุดลูกหูลูกตา และที่สำคัญเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรด้วย บรรยากาศดี น่าไปสัมผัสมากๆ เลยค่ะ ใครที่ชอบถ่ายรูปจะต้องฟินแน่ๆ เพราะทิวทัศน์ริมเขื่อนสวยมากทีเดียวค่ะ. อ่างเก็บน้ำนฤบดินทรจินดาที่อยู่ : ต.แก่งดินสอ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรีโทร. 037 629 277 “วัดรัตนเนตตาราม (วัดล้านหอย)” ทำไมถึงต้องล้านหอย? พอมาถึงวัดก็ต้องร้องอ๋ออออ…แบบลากเสียงยาวเลยทีเดียว เพราะสถาปัตยกรรมต่างๆ ภายในวัดนั้นล้วนตกแต่งด้วยเปลือกหอยสีสันต่างๆ นั่นเอง สวยงามแปลกตามากๆ เลย ซึ่งการนำเปลือกหอยนานาชนิดมาประดับตกแต่งสิ่งก่อสร้างต่างๆ ภายในวัดนั้น ก็เป็นไอเดียของเจ้าอาวาสที่ต้องการให้คนเข้าวัดกันมากขึ้น ซึ่งนับว่าได้ผลมากทีเดียว เพราะในแต่ละวันมีประชาชนมาเยี่ยมเยือนวัดนี้กันอย่างไม่ขาดสาย เรียกว่ามาที่เดียวได้ทั้งเที่ยวและยังได้บุญด้วย. วัดรัตนเนตตาราม (วัดล้านหอย)ที่อยู่ : ซ.เทศบาลตำบลนาดี 30 ต.สำพันตา อ.นาดี จ.ปราจีนบุรีโทร. 089 963 9323 มาเที่ยวปราจีนฯ ทั้งที เราก็มีที่พักชิคๆ มาแนะนำ อย่าง “Serenity Hotel & Spa Onsen Kabinburi” ที่พักพร้อมออนเซ็นในสไตล์ญี่ปุ่น สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ครบมาก แถมเดินทางสะดวก เพราะอยู่ติดถนนสายหลักกบินทร์บุรีเลย ภายในตกแต่งคุมโทนด้วยสีพาสเทลอบอุ่นสบายตา ให้ความรู้สึกผ่อนคลายในวันพักผ่อนจริงๆ ค่ะ ยิ่งได้แช่ออนเซ็นหลังจากเที่ยวเหนื่อยมาทั้งวันแบบนี้ หลับสบายสุดๆ.สำหรับใครที่ไม่ได้มาพัก ก็สามารถมาใช้บริการออนเซ็นได้นะคะ คิดค่าบริการ วันจันทร์-ศุกร์ ราคาคนละ 250 บาท และวันเสาร์-อาทิตย์ ราคาคนละ 300 บาท. เซเรนิตี้ โฮเทล แอนด์ สปา กบินทร์บุรีที่อยู่ : 222 หมู่ที่ 9 ถ.สุวรรณศร ต.เมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรีโทร. 063 216 3668, 037 625 444, 037 625 445

เที่ยวชิคๆ @ปราจีนบุรี อ่านเพิ่มเติม

ปราจีนบุรี

ปราจีนบุรี เมืองมรดกโลก ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ แหล่งโบราณสถานเมืองทวารวดี วัดแก้วพิจิตร (พระอารามหลวง) ตั้งอยู่ถนนแก้วพิจิตร อำเภอเมือง เป็นวัดเก่าแก่ริมแม่น้ำ ปราจีนบุรี อายุร้อยกว่าปี อยู่ริมแม่น้ำปราจีนบุรีหรือแม่น้ำบางปะกง ความโดดเด่นชองวัดอยู่ที่พระอุโบสถหลังที่เจ้าพระยาอภัยภูเบศรสร้างทดแทนหลังเก่าที่ชำรุด โดยนำสถาปัตยกรรมของ ไทย จีน เขมร และยุโรป มาผสมผสานให้กลมกลืนกัน และที่เด่นสุดคือ พระอภัยวงศ์ พระประธานภายในอุโบสถเป็นพระพุทธรูปประทับขัดสมาธิเพชร ยกพระหัตถ์ทั้งสองข้างระดับบั้นพระองค์ (ปางประทานอภัย) โดยเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้รับพระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวว่า หลวงพ่ออภัยวงศ์ หรือ หลวงพ่ออภัย เพื่อเป็นเกียรติแก่ท่านเจ้าพระยาอภัยภูเบศรผู้สร้าง ด้วยพระอัฉริยภาพของเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ท่านได้สร้างปริศนาธรรมแทรกไว้ตามที่ต่าง ๆ เช่น นาฬิกาที่ไม่ยอมเที่ยงอยู่ที่ซุ้มประตูเรือนแก้ว สร้างปริศนาด้านการปกครอง เช่น รูปสิงห์โตตัวผู้เพียงตัวเดียวไว้ที่บานหน้าต่าง ด้านหน้าพระอุโบสถมี อาคารเรียนหนังสือไทย นักธรรมบาลีเป็นอาคารคอนกรีต รูปสถูปโดม ศิลปะกรีกหรือโรมันอยู่หลังหนึ่ง นอกจากนั้นภายในวัดแก้วพิจิตรยังมีหอพระไตรปิฎกและศาลาตรีมุข ก่อนเดินทางไปชื่นชมธรรมชาติ แวะชมเรื่องราวประวัติศาสตร์ในอดีตต่อที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี ตั้งอยู่บริเวณด้านหลังของศาลากลางจังหวัดปราจีนบุรี ก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นศูนย์รวมของโบราณวัตถุในภูมิภาคตะวันออกและจังหวัดใกล้เคียง อาทิ ปราจีนบุรี สระแก้ว นครนายก ฉะเชิงเทรา ชลบุรี จันทบุรี ตราดและระยอง เน้นการจัดแสดงเมืองศรีมโหสถเป็นสำคัญ ภายในแบ่งออกเป็น ๒ ชั้น ชั้นล่าง จัดแสดงประวัติศาสตร์โบราณคดีเมืองปราจีนบุรี โบราณคดีเมืองนครนายกและนิทรรศการพิเศษ ชั้นบน จัดแสดงศิลปะโบราณคดีในประเทศไทย โบราณคดีก่อนประวัติศาสตร์ในภาคตะวันออก โบราณคดีใต้น้ำรวมทั้งเครื่องถ้วยสังคโลกที่พบใต้ทะเลจากบริเวณเกาะคราม จังหวัดชลบุรี และนิทรรศการชั่วคราว โบราณวัตถุส่วนใหญ่ของที่นี่ได้มาจากเมืองโบราณสมัยทวารวดี อาทิ พระพุทธรูป เทวรูปเคารพในศาสนาฮินดู ศิวลึงค์ ทับหลัง เครื่องใช้สำริด จัดแสดงศิลปะสมัยต่าง ๆ ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ต่อเนื่องจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ช่วงสมัยรัชกาลที่ ๕ เพื่อประโยชน์ในการศึกษาเปรียบเทียบ นอกจากนั้นยังจัดสถานที่ส่วนหนึ่งสำหรับนิทรรศการชั่วคราวในโอกาสต่าง ๆ ด้วย หากใครเคยชมละครย้อนยุคเรื่องวนิดา ต้องไม่พลาดแวะเที่ยวชม ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เป็นตึกสองชั้นสถาปัตยกรรมแบบยุโรป สมัยเรอเนสซองส์ อยู่ภายในพื้นที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ถนนปราจีนอนุสรณ์ ไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข ๓๐๖๙ ห่างจากตัวเมืองประมาณ ๒.๕ กิโลเมตร ปัจจุบันเป็น พิพิธภัณฑ์การแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร เป็นที่รวบรวมจัดแสดงตำราไทย สมุดข่อย หนังสือและตำรายา หินบดยาในอดีตสมัยทวารวดี สมุนไพรไทย การแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้านของจังหวัดปราจีนบุรี อีกทั้งยังเป็นแหล่งการศึกษา ค้นคว้า วิจัยและเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตของคนท้องถิ่น ที่เกี่ยวข้องกับสมุนไพรและการแพทย์ของท้องถิ่น ประวัติตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ตำนานหมอหลวง การแพทย์แผนไทย แพทย์พื้นบ้านและตัวอย่างเครื่องมือเครื่องใช้ทางการแพทย์แผนไทย เช่น ตู้ยา หินฝนยา หินชนวน มีดหมอ สำหรับ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ซึ่งอยู่ใกล้เคียงเป็นโรงพยาบาลนำร่องเรื่องการแพทย์แผนไทย ผลงาน “โครงการทัวร์สุขภาพโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร” ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวครั้งที่ ๔ ประจำปี ๒๕๔๖ รางวัลดีเด่นประเภทโครงการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยว โดยใช้สมุนไพรบำบัดยารักษาโรค มีการนวด อบ ประคบและฝังเข็ม แปรรูปสมุนไพรไทยเป็นเวชภัณฑ์และเครื่องสำอาง และยังมีร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรในราคาย่อมเยาชั้นล่างของโรงพยาบาล เปิดทุกวัน ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.abhaiherb.com หลังจากไหว้พระ ชมศิลปวัฒนธรรมแล้ว ก็ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่อุทยานแห่งชาติทับลาน ตั้งอยู่ในอำเภอนาดี อุทยานนี้ เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีเนื้อที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ และมีพื้นที่ครอบคลุม 2 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมาและปราจีนบุรี บริเวณที่ทำการอุทยานฯ เป็นป่าลานที่ขึ้นเองตามธรรมชาติแห่งสุดท้ายของประเทศไทย มีต้นตาลเป็นพันธุ์ไม้ดึกดำบรรพ์ใบใหญ่เป็นรูปพัดคล้ายใบลาน จะออกดอกเมื่อต้นมีอายุ ๒๐ ปีขึ้นไป ช่วงฤดูออกดอกในราวเดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายน ดอกมีสีเหลืองสดสวยงามมาก หลังออกดอกแล้วต้นลานนั้นจะตายไป อุทยานแห่งชาติทับลานมีน้ำตกต่างๆ ให้แวะชม เช่น น้ำตกทับลานหรือน้ำตกเหวนกกก อยู่ห่างจากบ้านทับลานประมาณ ๗ กิโลเมตร เดินเท้าอีกประมาณ ๑ กิโลเมตร จึงจะถึงตัวน้ำตก เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่สวยงาม มีความสูง ๒๐ เมตร มีน้ำไหลเฉพาะในช่วงฤดูฝนเท่านั้น หรือจะแวะอ่างเก็บน้ำทับลาน อยู่ห่างจากบ้านทับลานประมาณ ๑ กิโลเมตร เป็นอ่างเก็บน้ำที่สวยงามล้อมรอบไปด้วยภูเขา อากาศเย็นสบายเหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจในวันสบายๆ

ปราจีนบุรี อ่านเพิ่มเติม

ประจัน(หน้า)ฝน เที่ยวน้ำตกที่ประจันตคาม

แอดขอแนะนำน้ำตกที่ไปไม่ยาก ไว้ให้เป็นตัวเลือกในการท่องเที่ยวช่วงหน้าฝนที่จะถึงนี้ค่ะ…

ประจัน(หน้า)ฝน เที่ยวน้ำตกที่ประจันตคาม อ่านเพิ่มเติม

Let’s take a break at De’Ya Cafe.

Let’s take a break at De’Ya Cafe. อาหารของทางร้านมีทั้งไทยและเทศ แอบสังเกตเห็นว่าหลายๆ เมนูจะมีการใส่ผลไม้ลงไปเป็นส่วนผสม ซึ่งเข้ากันได้ดี และถือเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของร้าน…

Let’s take a break at De’Ya Cafe. อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top