เชียงใหม่

เชียงใหม่

🌟น้ำพุร้อนสันกำแพง เชียงใหม่🌟

หากวันนี้รู้สึกเหนื่อยล้า รู้สึกเครียด อยากหาที่พัก ผ่อนคลาย ให้สบายใจ บัดดี้ขอแนะนำให้ทุกท่านมาบำบัดอาการเหล่านั้นด้วยการแช่น้ำแร่ดูค่ะ เพราะจะทำให้ผ่อนคลาย บรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ โลหิตไหลเวียนสะดวก อาการฟกช้ำหายเร็วขึ้น รักษาโรคผิวหนังบางชนิดได้ สุขภาพผิวก็ยังดีขึ้นได้ด้วยเช่นกัน😍 🌿น้ำพุร้อนสันกำแพง เชียงใหม่ ก็เป็นหนึ่งในสถานที่ที่นักท่องเที่ยวเข้ามาผ่อนคลาย ที่นี่เป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุหลายชนิด แคลเซียม แมกนีเซียม ช่วยรักษาโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดดำ การอักเสบในหลอดลม อาการปวดตามข้อ และยังช่วยทำให้กระดูกมีความแข็งแรง ส่วนโซเดียม โพแทสเซียม และคลอรีน ช่วยรักษาสมดุลของน้ำภายในและภายนอกเซลล์ให้อยู่ในภาวะที่สมดุล สำหรับซัลเฟอร์หรือกำมะถัน สามารถชะลอการเสื่อมของข้อต่อ ซ่อมแซมกระดูกอ่อน ผิวหนังและฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของกระดูกสันหลังได้😊 ✨บริเวณบ่อน้ำแร่อบอวลด้วยไอน้ำร้อนและกลิ่นกำมะถัน ซึ่งมีประโยชน์ต่อระบบหายใจ และเห็นรุ้งกินน้ำได้บ่อย ๆ เพราะน้ำร้อนที่พุ่งจากพื้นดินที่มีความสูงกว่า 10 เมตร เกิดละอองน้ำและการหักเหของแสงอยู่ตลอด เด็ก ๆ ชอบนักเชียว💦 ✨บริเวณบ่อน้ำแร่อบอวลด้วยไอน้ำร้อนและกลิ่นกำมะถัน ซึ่งมีประโยชน์ต่อระบบหายใจ และเห็นรุ้งกินน้ำได้บ่อย ๆ เพราะน้ำร้อนที่พุ่งจากพื้นดินที่มีความสูงกว่า 10 เมตร เกิดละอองน้ำและการหักเหของแสงอยู่ตลอด เด็ก ๆ ชอบนักเชียว💦 พื้นที่สำหรับแช่น้ำแร่ แบ่งเป็นสัดส่วนแยกชาย-หญิง มีทั้งแบบตักอาบและลงแช่ มีสระน้ำขนาดใหญ่แยกชาย-หญิงและเด็ก พร้อมทั้งจัดพื้นที่สำหรับแช่เท้าแยกต่างหาก ช่วงนี้มีโปรโมชันสุดคุ้ม มีส่วนลดถึงเดือนกันยายนไปเลย นอกจากได้มาแช่น้ำแร่ผ่อนคลายแล้ว ยังมีอีกหลายหลายกิจกรรมที่น่าสนใจ คือ การต้มไข่ในน้ำแร่ การันตีได้เลยว่าอร่อยกว่าไข่ต้มธรรมดาแน่นอน เพราะได้อุณหภูมิที่เหมาะสม แถมได้กลิ่มหอมจากธรรมชาติด้วย วิธีลวกไข่ นำใส่ในชะลอม ต้องการความสุกแบบไข่ลวก ใช้เวลา 3-5 นาที แบบไข่ต้มยางมะตูม ใช้เวลา 6-8 นาที หรือแบบไข่ต้มสุก ใช้เวลา 10-15 นาที🌻 ✨อีกกิจกรรมที่พลาดไม่ได้เลย คือ งานวิจิตร@เชียงใหม่ สีสันแห่งเส้นแสง น้ำพุร้อนสันกำแพง โครงการตามพระราชดำริ ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 24-30 กรกฎาคม 2566 ชมการแสดงเลเซอร์ผ่านม่านน้ำพุร้อนที่บอกเล่าเรื่องราววิถีชีวิตจากอดีต สู่ปัจจุบัน ของกิจการน้ำพุร้อนสันกำแพงภายใต้คอนเซปต์ “Springs of Life น้ำพุแห่งชีวิต” นำเสนอสีสันแห่งเส้นแสงพร้อมกันทั้ง 10 จุด ในช่วงเวลา 17.00-22.00 น. มีบริการรถรับ-ส่ง ฟรีจากบิ๊กซี ดอนจั่น–น้ำพุร้อนสันกำแพง👉รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก https://thai.tourismthailand.org/Arti…/vijitr-chiangmai-th นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีบริการที่พักแบบเต็นท์ บ้านพัก และเรือนหลังใหญ่ มีห้องประชุม ร้านอาหาร เครื่องดื่ม และบริการด้านสุขภาพอื่น ๆ พร้อมกับจำหน่ายสินค้าที่ระลึกด้วย😊 💵ค่าธรรมเนียมคนไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาทชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท ⏰เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-18.00 น.📞สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม น้ำพุร้อนสันกำแพง เชียงใหม่ โทร. 08 7659 1791📲https://www.facebook.com/skponsen/🌐https://goo.gl/maps/DBoS5tSt9eoD3KYH7

🌟น้ำพุร้อนสันกำแพง เชียงใหม่🌟 อ่านเพิ่มเติม

✨ รวม 10 วัดหลากสีสัน ✨

สวัสดีทุกคน วันนี้บัดดี้จะมาแนะนำวัดจากหลายจังหวัด ที่มีสีสันสวยโดดเด่นสะดุดตา จนกลายเป็นทั้งสถานที่ทำบุญและสถานที่ท่องเที่ยว แถมบางวัดยังกลายเป็น Land Mark สำคัญของจังหวัดไปเลยด้วย ลองตามมาอ่านกันดู ว่าวันนี้บัดดี้มีวัดไหนมานำเสนอบ้าง สีขาว 1. วัดร่องขุ่น จ.เชียงราย วัดร่องขุ่น ออกแบบและสร้างโดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินชื่อดังของไทย ที่สร้างขึ้นจากปณิธานและแรงศรัทธา ด้วยงานศิลปะงดงามสีขาว ทั้งลวดลายปูนปั้น การประดับกระจกและจิตรกรรรมปูนปั้นหลายจุด แรงบันดาลใจในการสร้างวัดของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ คือการอยากจะสร้างวัดให้เหมือนเมืองสวรรค์ ที่มนุษย์สามารถเดินทางไปสัมผัสได้ ซึ่งหลายจุดในวัด มีการสร้างเป็นสื่อสัญลักษณ์ต่าง ๆ ในพุทธศาสนา อย่างทางเข้าด้านหน้าจะมีสระน้ำขนาดใหญ่ ที่มีสะพานเป็นทางเดินเข้าสู่ตัววัด หมายถึง การเดินข้ามวัฏสงสารมุ่งสู่พุทธภูมิ ครึ่งวงกลมเล็กหมายถึงโลกมนุษย์ วงใหญ่ที่มีเขี้ยวเป็นปากของพญามารหรือพระราหู เปรียบเหมือนกิเลสในใจ ผู้ที่จะเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าในพุทธภูมิต้องตั้งจิตปลดปล่อยกิเลสตัณหาของตนเองลงไปในปากพญามาร เพื่อเป็นการชำระจิตให้ผ่องใสก่อนที่จะเดินผ่านเข้าไปนั่นเอง ปัจจุบัน วัดร่องขุ่นเปิดจุดเช็กอินแห่งใหม่ที่ใช้เวลาสร้างกว่า 6 ปี นั่นก็คือ “ถ้ำศิลป์วัดร่องขุ่น” เป็นผลงานประติมากรรมของอาจารย์เฉลิมชัย ภายในถ้ำ มีรูปทรงหินงอกหินย้อย พระพุทธรูปทุกขภูมิ ขุมนรกและประตูพระนิพพาน มีเพลงบรรเลงประกอบแสงสีเสียงตลอดเส้นทาง โดยมีค่าเข้าชม 50 บาท/คน มีเวลาประมาณ 10-15 นาที ต่อรอบ รายละเอียด ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จ.เชียงราย เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 6.30 – 18.00 น.ห้องแสดงภาพ : เปิดให้เข้าชมวันจันทร์–ศุกร์ เวลา 8.00 – 17.30 น.วันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดราชการ เวลา 8.00 – 18.00 น. วัดร่องขุ่น 0 5367 3579, ททท.สำนักงานเชียงราย 0 5371 7433, ศูนย์บริหารจัดการการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย 0 5371 5690https://goo.gl/maps/sQZ7Q2qq9cyRJhs79เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/วัดร่องขุ่น 2. วัดข่อย จ.เพชรบุรี ตั้งอยู่ติดกับอุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลาย มีการใช้รูปแบบของยันต์ฉิมพลีมาประกอบสถาปัตยกรรมการสร้างเป็นทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ตัวอาคาร มี 3 ชั้นประกอบด้วยชั้นที่ 1 ประดิษฐานพระพุทธรูป 3 องค์ คือพระพุทธเศรษฐีมิ่งมงคล พระพุทธเศรษฐีนวโกฏิ และพระสิวลีมหาลาภชั้นที่ 2 ผนังด้านนอกเป็นลายอักขระยันต์ฉิมพลี มีฉัตรทองเหลืองดุนลาย 9 ยอด 4 ทิศ ด้านในเป็นไม้สักแกะสลักลวดลายยันต์โภคทรัพย์ชั้นที่ 3 เป็นซุ้มเรือนยอดประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุในบุษบก 5 ยอดลงรักปิดทอง ยอดฉัตรทำด้วยทองคำ  ถ.คีรีรัถยา ต.คลองกระแชง อ.เมือง จ.เพชรบุรี เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 06.00-17.00 น. 06 1061 7868, 08 9052 7874https://goo.gl/maps/NQSr5AkQEyy9pvQE7เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/พระธาตุฉิมพลีพระเศรษฐีนวโกฏิ-วัดข่อย สีน้ำเงิน 3. วัดร่องเสือเต้น จ.เชียงราย วัดแห่งนี้ในอดีตราว ๆ 80-100 ปีก่อน เคยเป็นวัดร้าง มีสัตว์ป่ามาอาศัย โดยเฉพาะเสือที่มีอยู่มาก และชอบกระโดดข้ามร่องน้ำไปมา ชาวบ้านจึงเรียกบริเวณนี้ว่า ร่องเสือเต้น ภายหลังชาวบ้านได้ร่วมกันบูรณะวัดขึ้นมา จึงเรียกชื่อวัดว่า “วัดร่องเสือเต้น” เพื่อใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาในวันสำคัญต่าง ๆ และเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้าน  สิ่งก่อสร้างโดดเด่นที่สุดในวัดนี้ คือ วิหารสีน้ำเงิน ที่สร้างโดย “สล่านก” หรือ นายพุทธา กาบแก้ว ศิลปินท้องถิ่นชาวเชียงราย ลูกศิษย์ของ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ โดยเริ่มก่อสร้างเมื่อ พ.ศ. 2548 แล้วเสร็จ พ.ศ. 2559 รวมระยะเวลาถึง 11 ปี ภายในวิหารประดิษฐาน “พระพุทธรัชมงคลบดีตรีโลกนาถ” พระประธานสีขาวปางมารวิชัย ศิลปะเชียงแสน ซึ่งภายในพระเศียรบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เป็นผู้ประทานให้  ด้านหลังวิหารเป็นที่ตั้งของเจดีย์ทรงระฆัง สูง 20 เมตร นามว่า “พระธาตุเกศแก้วจุฬามณีห้าพระองค์” บนยอดเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ได้รับประทานจาก สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก  ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย 08 2026 9038 เปิดทุกวันเวลา 07.00-17.00 น.https://goo.gl/maps/ne1JD21wNp12 4. วัดปากน้ำแขมหนู จ.จันทบุรี วัดแห่งนี้มีความโดดเด่นที่ “โบสถ์เซรามิกสีน้ำเงิน” ซึ่งมีที่มาจาก โบสถ์หลังเก่าที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2489 เริ่มชำรุดทรุดโทรม มีการผุกร่อนมาก เนื่องจากวัดตั้งอยู่ติดกับทะเล ทางวัดและชาวบ้านจึงร่วมกันรื้อโบสถ์หลังเก่าและสร้างโบสถ์ใหม่ขึ้นในปี พ.ศ. 2534 ประตูโบสถ์ด้านในทั้ง 4 บาน มีการแกะสลักภาพนูนต่ำ เกี่ยวกับประวัติพระพุทธเจ้า ด้านนอกบานประตูและหน้าต่างมีการลงลายมุข ภาพเทพทวารบาล พื้นผนังด้านในพระอุโบสถมีการประดับภาพลงสีในพื้นเซรามิกเกี่ยวกับวรรณคดีชาดกและพระมหาชนก ภายในโบสถ์ประดิษฐานพระพุทธชินราชองค์จำลอง เป็นที่สักการบูชาของชาวบ้านและนักท่องเที่ยว  ต.ตะกาดเง้า อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี เปิดให้เข้าชมทุกวันเวลา 08.00-16.00 น.https://goo.gl/maps/imZW46D6sfUbZFDN9 สีเหลือง 5. วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร จ.อยุธยา วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร ตั้งอยู่บนเกาะลอย เกาะกลางแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นวัดที่ในหลวงรัชกาลที่ 5 โปรดฯ ให้สร้างขึ้น เพื่อทรงใช้เป็นสถานที่สำหรับบำเพ็ญพระราชกุศล เมื่อครั้งเสด็จฯ แปรพระราชฐานมาประทับที่พระราชวังบางปะอิน โดยมีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิก เลียนแบบโบสถ์ของศาสนาคริสต์ ด้านหน้าบริเวณทางเข้าของพระอุโบสถ จะมีมุขเป็นแบบสามเหลี่ยมหน้าจั่วซ้อนกัน 2 ชั้น รอบผนังพระอุโบสถเจาะช่องหน้าต่าง เป็นลักษณะปลายแหลมแบบโกธิก ด้านหลังพระอุโบสถเป็นหอระฆังยอดโดม

✨ รวม 10 วัดหลากสีสัน ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ แอ่วม่วน กิ๋นลำ ณ เวียงเชียงใหม่ ✨

วันนี้บัดดี้จะพาเพื่อน ๆ ขึ้นเหนือมาแอ่วเวียงเจียงใหม่ พร้อมแนะนำร้านอาหารเหนือและสถานที่เที่ยวในตัวเมืองที่มีกลิ่นอายของวัฒนธรรมล้านนามานำเสนอ ที่พิเศษสุด ๆ คือในเส้นทางท่องเที่ยววันนี้ บัดดี้จะไปชมความน่ารักของช้างด้วย ลองมาตามอ่านคอนเทนต์วันนี้ดู รับรองว่าต้องถูกใจ แอ่วม่วน กิ๋นลำ ณ เวียงเชียงใหม่🥰 ตลาดจริงใจ ตลาดจริงใจ เป็นตลาดขายผักปลอดสารและเกษตรอินทรีย์แห่งแรกของกลุ่มเซ็นทรัล ที่จัดจำหน่ายพืชผักผลไม้ปลอดสารเคมีจากเกษตรกรถึงผู้บริโภคโดยตรง เพื่อสนับสนุนการสร้างรายได้ของเกษตรกรและส่งเสริมการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ ตลาดจริงใจ เป็นตลาดเช้าที่ขายเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ แบ่งออกเป็น 3 โซน คือ1. จริงใจ Farmers Market (ทุกวันเสาร์ – อาทิตย์ 6.00-13.00 น.)โซนแผงขายผักผลไม้ ที่เกษตรกรผู้ปลูกนำมาขายด้วยตัวเอง โดยพืชผักผลไม้ที่นำมาขาย ในโซนนี้จะมีอาหารเหนือปรุงสุกขายด้วย2. Pure Organic Hall หรือ หออินทรีย์ (ทุกวันอาทิตย์ 6.00-13.00 น.)ศาลาไม้หลังสวยที่ด้านในขายผัก ผลไม้ ทั้งแบบของสดและของที่สุกพร้อมทาน สินค้าที่ขายภายในจะเป็นสินค้า Organic 100% ไม่มีการใช้สารเคมีในการปลูก3. Hobby market/Rustic market (ทุกวันเสาร์ – อาทิตย์ 7.00-13.00 น.)ไฮไลต์ของตลาดจริงใจ มีสินค้าน่าซื้อหลายอย่าง มีนักดนตรีร้องเพลงให้ฟังบนเวที บรรยากาศ คึกคักบัดดี้แนะนำให้มาตลาดนี้ไม่เกิน 8 โมงเช้า เพราะอากาศกำลังดี แดดไม่ร้อนมาก เดินดูเดินชมได้สบาย ตลาดจริงใจมีบริการส่งของจากไปรษณีย์ไทย ณ ซุ้มประชาสัมพันธ์ บริเวณทางเข้าถึง 12.00 น.  ตำบลป่าตัน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เปิดวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 06.00-13.00 น. 06 3525 8028https://goo.gl/maps/gyh8DFnhoVjjCWaR7 ข้าวซอยลุงประกิจกาดก้อม มาเชียงใหม่ทั้งที คงจะพลาดข้าวซอยไม่ได้ บัดดี้แนะนำร้านข้าวซอยเล็ก ๆ ร้านหนึ่งที่เปิดมานานกว่า 40 ปี ปัจจุบันเป็นที่รู้จักในชื่อ “ข้าวซอย Netflix” ซึ่งเกิดจากที่ “เชฟเอียน” เชฟชื่อดังและเป็นกรรมการในรายการ MasterChef Thailand ได้พา “ฟิล โรเชนธาล” ผู้กำกับชาวอเมริกันมาลองกินข้าวซอยร้านนี้ และถ่ายข้าวซอยร้านนี้ใส่เข้าไปใน “Somebody Feed Phil” ซีรีส์กึ่งสารคดีที่ฉายอยู่ใน Netflix ทำให้ปัจจุบันร้านนี้มีทั้งนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติตามมาทานข้าวซอยร้านนี้กันไม่ขาดสาย เมนูแนะนำร้านนี้คือ ข้าวซอยไก่และข้าวซอยเนื้อ น้ำข้าวซอยรสจัด เข้มข้น โรยด้วยเส้นข้าวซอยทอดกรอบ เสิร์ฟพร้อม ผักกาดดอง หอมแดงและน้ำพริกเผา อร่อยสมคำร่ำลือ ไม่แปลกใจที่ปัจจุบัน ร้านนี้เป็นร้านที่ได้รางวัล Michelin Bib Gourmand ใน Michelin Guide 2022  53 ถนน สุริยวงศ์ 5 เชียงใหม่ (ติดร้านตือคาโคกาดก้อม) เปิดทุกวันเวลาเปิด-ปิด 09.30-16.30 น. 08 3209 9441 https://goo.gl/maps/BrNNQhxAfe1AM7Fh7 ปางช้างภัทร ปางช้างภัทร อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 30 กิโลเมตร ตั้งขึ้นเพื่อเพิ่มจำนวนช้างในประเทศไทย รวมทั้งสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการดำรงชีวิตของช้าง เป็นสถานที่ที่จะพาเพื่อน ๆ มาสัมผัสกับประสบการณ์การเป็นเจ้าของช้าง 1 วัน โดยที่นี่จะจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามา และจะมีช้างให้ทุกคนได้ดูแลคนละ 1 เชือก  กิจกรรมดูแลช้างของที่นี่ เป็นโปรแกรมพิเศษที่จะมอบประสบการณ์ให้คนที่มาได้เรียนรู้และมีปฏิสัมพันธ์กับช้างอย่างที่เจ้าของช้างทำ ทั้งการฝึกเข้าใกล้ช้าง การรู้จักอารมณ์ของช้าง การให้อาหารและตรวจสุขภาพของช้าง นอกจากนี้ ยังมีการอาบน้ำและแปรงขนช้างในแม่น้ำ การขี่คอและการสื่อสารผ่านคำสั่งเสียงต่าง ๆ รวมไปถึงการขี่ช้างหลังเปล่าไปชมป่า น้ำตกและวัดในท้องถิ่น อีกด้วย  เหตุผลที่บัดดี้อยากเชิญชวนให้ทุกคนลองมาที่นี่ เพราะนอกจากจะได้ชมธรรมชาติรอบตัวและได้เล่นกับช้างแล้ว ที่นี่จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มอบความรู้เกี่ยวกับช้างให้คนที่มามากกว่าที่เคยรู้มาก่อนแน่นอน สามารถดูรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/pataraelephantfarmchiangmai/?locale=th_TH  ตำบลบ้านปง อำเภอหางดง เชียงใหม่ 50230เปิดทุกวันเวลา 08.00-18.00 น.09 8549 3644https://goo.gl/maps/2EN5NMqjfrEGuYKLA เหตุผลที่บัดดี้อยากเชิญชวนให้ทุกคนลองมาที่นี่ เพราะนอกจากจะได้ชมธรรมชาติรอบตัวและได้เล่นกับช้างแล้ว ที่นี่จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มอบความรู้เกี่ยวกับช้างให้คนที่มามากกว่าที่เคยรู้มาก่อนแน่นอน สามารถดูรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/pataraelephantfarmchiangmai/?locale=th_TH  ตำบลบ้านปง อำเภอหางดง เชียงใหม่ 50230เปิดทุกวันเวลา 08.00-18.00 น.09 8549 3644https://goo.gl/maps/2EN5NMqjfrEGuYKLA Kalm Village คือพื้นที่แบ่งปันความรู้และแรงบันดาลใจผ่านงานศิลปะ หัตถกรรมและวัฒนธรรม ที่อยากเชิญชวนให้ทุกคนที่ย่างเท้าเข้ามาที่นี่ สามารถชื่นชมและได้ใช้เวลาไปกับงานศิลปะแบบเต็มที่ หมู่บ้านคราฟต์สีครามแห่งนี้จึงถูกออกแบบมาให้มีความรู้สึกคล้ายกับ Community ที่มี Casual Space ที่รอบด้านแฝงด้วยงานศิลปะ ให้ผู้คนค่อย ๆ ซึมซับไปแบบไม่รู้ตัวนั่นเอง  Kalm Village ประกอบด้วยอาคาร 8 หลัง เชื่อมโยงกันด้วยลานส่วนกลาง ตึกแต่ละหลังมีรูปแบบสถาปัตยกรรมเหมือนบ้านไทยโบราณ ซึ่งอาคารแต่ละหลังมีการให้บริการต่างกัน อย่างเช่น Kalm Kitchen ที่ให้บริการอาหารไทยที่เป็นสูตรของคุณยายของเจ้าของโครงการ ชั้นบนมีกิจกรรมเวิร์กชอปทำอาหาร Kalm Coffee House ให้บริการกาแฟและชา รวมถึงจำหน่ายสินค้าท้องถิ่นจากหลายจังหวัด ชั้นบนเป็นห้องสมุด สามารถนั่งทำงานพร้อมกับจิบเครื่องดื่มไปด้วย Kalm Gallery จัดแสดงงานศิลปะหมุนเวียน ออกแบบหลังคาด้วยโครงสร้างไม้ โดยใช้ภูมิปัญญาการเข้าไม้แบบโบราณ   14 ซอย 4 ถนนพระปกเกล้า อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50200 09.30-18.30 น. หยุดทุกวันพุธ 02 115 2956, 062 445 4276 Website : www.kalmvillage.com Facebook : kalmvillagechiangmai Instagram: kalm_village Email: info@kalmvillage.com 5. วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ตั้งอยู่บนดอยสุเทพ เป็นวัดที่มีความสำคัญมากที่สุดแห่งหนึ่งของเชียงใหม่ สร้างขึ้นเมื่อต้นพุทธศตวรรษที่ 19 ในสมัยพระเจ้ากือนาธรรมิกราช

✨ แอ่วม่วน กิ๋นลำ ณ เวียงเชียงใหม่ ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ รวม 8 วัด เส้นทางสายมู พิกัดรอบคูเมืองเชียงใหม่ ✨

ทุกครั้งที่เราได้มาเยือน #เชียงใหม่ สิ่งที่ชวนสะดุดตาและเป็นที่โดดเด่น คือความงดงามของศิลปะและวัฒนธรรมที่แสดงผ่านวิถีชีวิต ศาสนสถาน วัดวาอารามต่าง ๆ ที่กระจายตัวท่ามกลางชุมชน บริเวณคูเมืองใจกลางเชียงใหม่ เป็นอีกหนึ่งโลเคชันที่มีวัดอยู่มาก มองไปทางไหนก็เห็นวัดที่สง่างามเต็มไปหมด แถมอยู่ใกล้ ๆ กันด้วย น้องบัดดี้จะมาแจกพิกัดไหว้พระทั่วคูเมืองให้เพื่อน ๆ ได้ไปสักการะ มีที่ไหนน่าสนใจบ้าง ไปชมกัน 🚗 เพื่อน ๆ สามารถเดินทางในรูปแบบที่ตัวเองสะดวกได้เลย ไม่ว่าจะเป็นการเดินเที่ยว ก็สามารถเดินเรียงตามลำดับของบัดดี้ได้ ไม่ไกลกัน หรือจะเดินทางโดยรถส่วนตัวหรือเช่ารถขับก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ก็ยังสามารถเหมารถแดงเที่ยวได้นะ ราคาขึ้นอยู่กับการตกลงกับคนขับ  วัดโลกโมฬี เริ่มทริปจากบริเวณตอนเหนือของคูเมือง มาที่วัดโลกโมฬี วัดสวยเต็มไปด้วยศิลปะแบบล้านนา แม้จะไม่ปรากฏหลักฐานการสร้างวัดที่แน่ชัด และเคยถูกทิ้งร้างไปหลังจากเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่สอง แต่วัดแห่งนี้ก็ได้ขึ้นทะเบียนโดยกรมศิลปากร เป็นโบราณสถานแห่งชาติ เมื่อเดินเข้ามาภายในวัด มองเห็นพระวิหารไม้ที่บูรณะขึ้นใหม่ ลวดลายงามวิจิตร หน้าบันประดับกระจกสีระยิบระยับ ภายในประดิษฐาน “พระพุทธสันติจิรบรมโลกนาถ” และมีการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ที่เศียร ด้านหลังพระวิหาร มีพระเจดีย์ทรงปราสาทองค์ใหญ่อายุกว่า 500 ปี วัดแห่งนี้ยังมีรูปเคารพของ “พระนางจิรประภามหาเทวี” กษัตริย์องค์ที่ 14 แห่งราชวงศ์มังราย ที่ขึ้นชื่อในเรื่องการขอพรด้านความรักอีกด้วย  ห่างจากประตูช้างเผือกระยะทาง 450 เมตร  ถนนมณีนพรัตน์ ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่https://goo.gl/maps/H4Jmahve1y8pWsd89  วัดเชียงยืน สักการะวัดสำคัญประจำทิศเหนือ ณ วัดเชียงยืน สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยพญามังราย เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองแห่งที่ 2 ต่อจากวัดเชียงมั่น มีความหมายว่า “ยั่งยืน” เมื่อเข้ามาด้านในวัดจะเห็นพระพุทธรูป “พระเจ้าทันใจ” องค์ใหญ่สีเหลืองทอง ตั้งเด่นอยู่บนชั้นสองของอาคาร และเดินเข้าไปอีกนิดจะเห็น “องค์พระมหาธาตุเจดีย์” ทรงแปดเหลี่ยม สีขาว ประดับลายสีทอง ฝั่งทิศตะวันออก จะมีศาลาเล็ก ๆ ประดิษฐานพระพุทธรูปพระเจ้าทันใจองค์เล็ก ด้านหน้าศาลามีเสา “ตุงกระด้าง” ถือเป็นเครื่องสักการะทางศาสนา และเป็นเอกลักษณ์แบบชาวล้านนา  วัดนี้อยู่ห่างจากวัดโลกโมฬีระยะทาง 700 เมตร และห่างจากประตูช้างเผือกเพียง 350 เมตร  ถนนมณีนพรัตน์ ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่https://goo.gl/maps/RBAwh5EWnxgjtwDi6  วัดเชียงมั่น มาต่อกันที่ “วัดเชียงมั่น” วัดคู่บ้านคู่เมืองแห่งแรกที่สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยพญามังราย วัดนี้ถือว่าเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในเขตกำแพงเมืองเชียงใหม่ จารึกที่พบภายในวัดได้กล่าวถึงพญามังราย โปรดเกล้าฯ ให้สร้างเจดีย์ขึ้นในที่ประทับและสถาปนาเป็นวัด เรียกว่าวัดเชียงมั่น นับเป็นพระอารามหลวงแห่งแรกของเมืองเชียงใหม่ มีการสร้างปูชนียสถานขึ้นมากมายในช่วงที่พม่าปกครองเชียงใหม่ จนมาถึงสมัยพระเจ้ากาวิละ (ช่วงปี พ.ศ. 2325-2367) ได้บูรณะถาวรสถานเหล่านี้ใหม่อีกครั้ง ภายในวัดประดิษฐาน “พระแก้วขาว” หรือ “พระเสตังคมณี” ชาวบ้านนิยมมาสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล ช่วยคุ้มครองป้องกันอันตราย ที่สำคัญ ในอดีต ยังเป็นพระพุทธรูปสำหรับบูชาประจำพระองค์ของพระนางจามเทวี ปฐมกษัตริย์ผู้ครองนครหริภุญไชย และพญามังราย ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์มังราย หากใครได้ไปสักการะที่วัดเชียงยืน ก็คงจะไม่พลาดมาสักการบูชาที่วัดนี้แน่นอน  วัดนี้สามารถเดินจากวัดเชียงยืน เข้าทางประตูช้างเผือกได้ ระยะทางโดยรวม 800 เมตร  ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่https://goo.gl/maps/eZRN9rmjefqGs6U77  วัดอินทขีลสะดือเมือง วัดแห่งนี้ตั้งอยู่กลางเกาะเมือง ในอดีตเคยเป็นที่ประดิษฐานเสาอินทขิล หรือ เสาหลักเมือง ที่สร้างในสมัยพญามังราย เมื่อปี พ.ศ. 1839 เนื่องจากวัดนี้ ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ผู้คนจึงเรียกกันว่า “วัดสะดือเมือง” และเป็นที่มาของชื่อวัดในปัจจุบัน วัดนี้ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปที่สำคัญ “หลวงพ่อขาว” เป็นศิลปะแบบล้านนา มีพระพักตร์อิมเอิบดุจพระจันทร์ ประดิษฐานในวิหารทรงล้านนาที่สร้างด้วยไม้ทั้งหลัง  ตั้งอยู่ติดกับพระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์ เดินมาจากวัดเชียงมั่นระยะทาง 700 เมตร  ถนนอินทรวโรรส ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่https://goo.gl/maps/PReSSePs6zJJrpYaA  วัดพันเตา เดิมมีชื่อว่า “วัดปันเต้า” (พันเท่า) หมายถึง การทำบุญเพียงหนึ่ง แต่จะได้รับบุญกลับมาเป็นพันเท่า แต่ภายหลังชื่อเพื้ยนเป็น “พันเตา” และยังมีที่กล่าวอีกว่า วัดนี้เคยใช้เป็นแหล่งสร้างเตาหล่อพระนับร้อยนับพันเตา ภายในวัดมี “พระวิหารหอคำหลวง” สร้างด้วยไม้สักทั้งหลังตามศิลปะแบบเชียงแสน ซุ้มประตูประดับไม้แกะสลักรูปนกยูง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเจ้านายฝ่ายเหนือ สวยสง่า หยุดสายตาผู้คนให้เชยชมก่อนที่จะเดินเข้าไปในพระวิหาร ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปตามแบบศิลปะเชียงใหม่ ด้านหลังพระวิหารหอคำหลวง มีเจดีย์องค์ประธานของวัดทรงระฆังบนฐานแปดเหลี่ยม องค์สีเหลืองทองอร่าม รายล้อมด้วยเจดีย์ราย ยามเมื่อแสงแดดตกกระทบ มองดูแล้วงดงามมาก  วัดนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากวัดอินทขีลสะดือเมือง ระยะทาง 350 เมตร  ถนนพระปกเกล้า ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่https://goo.gl/maps/MSnDmhubHapASmAg7  วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร วัดนี้เป็นวัดที่มีชื่อเสียงอย่างมาก สร้างในสมัยพระเจ้าแสนเมืองมา กษัตริย์องค์ที่ 7 แห่งราชวงศ์มังราย เพื่ออุทิศกุศลแด่พระเจ้ากือนา ผู้เป็นพระราชบิดา และอุปถัมภ์การสร้างต่อโดยพระนางติโลกจุฑาราชเทวี (พระมเหสีของพระเจ้าแสนเมืองมา) จนแล้วเสร็จ พระธาตุเจดีย์ นับเป็นพระธาตุที่สูงที่สุดในภาคเหนือ และเป็นเจดีย์ที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของเมืองเชียงใหม่ มีการอัญเชิญพระแก้วมรกตมาประดิษฐานนานถึง 80 ปี หน้าประตูทางเข้าวิหารมีบันไดนาคที่สวยงามวิจิตร โดยช่างฝีมือเก่าแก่ ปัจจุบันไม่ได้เปิดให้ขึ้นไปด้านบน ภายในวิหารหลวง ประดิษฐานพระพุทธรูปปางห้ามญาติขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังมี หออินทขิล เป็นที่ประดิษฐานเสาอินทขิลสร้างขึ้นโดยพญามังราย ที่เคยอยู่ ณ วัดอินทขีลสะดือเมือง ภายในอาคารประดับลวดลายจิตรกรรมฝาผนังที่งดงามมาก  วัดนี้จะตั้งอยู่ใกล้กับวัดพันเตามาก ระยะทางเพียง 100 เมตรเท่านั้น  ตั้งอยู่ถนนพระปกเกล้า ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่https://goo.gl/maps/izU92mMcsDZor8zN6  วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร วัดสำคัญและมีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ ภายในพระบรมธาตุเจดีย์ประดิษฐานพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า และบริเวณใกล้กันยังเป็นที่ตั้งของพระวิหารลายคำ ซึ่งภายในประดิษฐาน “พระสิงห์” (พระพุทธสิหิงค์) พระพุทธรูปคู่เมืองเชียงใหม่และแผ่นดินล้านนา พระวิหารลายคำนี้ได้รับรางวัลสถาปัตยกรรมดีเด่น เพราะมีลวดลายปิดทองล่องชาด เทคนิคการฉลุลายปรากฏบนฝาผนังหลังพระประธานและเสากลางพระวิหาร เสาระเบียงด้านหน้าพระวิหาร ตลอดถึงบางส่วนของโครงไม้ บนฝาผนังภายในมีภาพจิตรกรรมเรื่อง สังข์ทองและสุวรรณหงส์ เขียนด้วยสีฝุ่น มีความงดงามมาก ที่นี่ ยังเป็นที่กราบสักการะของคนเกิดปีนักษัตรประจำปีมะโรง (ปีงูใหญ่) ด้วยนะ

✨ รวม 8 วัด เส้นทางสายมู พิกัดรอบคูเมืองเชียงใหม่ ✨ อ่านเพิ่มเติม

พิธีอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ ออกจากวิหารลายคำขึ้นประดิษฐานบนรถบุษบก

✨ ช่วงเช้า พิธีอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ ออกจากวิหารลายคำขึ้นประดิษฐานบนรถบุษบก เพื่อเตรียมเข้าร่วมขบวนแห่สรงน้ำพระในช่วงบ่ายของวัน ✨ จากนั้นในเวลา 14.09 น. เคลื่อนขบวนแห่พระพุทธสิหิงค์ ร่วมกับพระพุทธรูปสำคัญของวัดต่าง ๆ ให้ประชาชนได้สรงน้ำพระ ✨ ช่วงเย็น อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ ขึ้นประดิษฐานบนแท่นกลางวงเวียนด้านหน้าวิหารหลวง ณ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร หลังจากเสร็จสิ้นขบวนแห่ เพื่อให้ประชาชนได้สักการะและสรงน้ำตลอดช่วงเทศกาลสงกรานต์ บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก สนุกสนาน เล่นน้ำคลายร้อนกันตลอดสาย ตั้งแต่บริเวณสี่แยกสันป่าข่อย ประตูท่าแพ จนถึงวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร 💦🎉

พิธีอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ ออกจากวิหารลายคำขึ้นประดิษฐานบนรถบุษบก อ่านเพิ่มเติม

ขบวนแห่อัญเชิญน้ำทิพย์นมัสการพระพุทธสิหิงค์ “ไหว้สาจุมสะหรีน้ำทิพย์ปี๋ใหม่เมือง ปี 2566”

ชวนชมภาพบรรยากาศขบวนแห่อัญเชิญน้ำทิพย์นมัสการพระพุทธสิหิงค์ “ไหว้สาจุมสะหรีน้ำทิพย์ปี๋ใหม่เมือง” จัดขึ้นในวันที่ 12 เมษายน 2566 เวลา 16.00 น. ที่ผ่านมา 💦✨ นับว่าเป็นกิจกรรมสุดพิเศษที่ในปีนี้มีการแห่อัญเชิญน้ำทิพย์ที่ผ่านการประกอบพิธีหุงน้ำทิพย์ปีใหม่เมือง ซึ่งเป็นน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 9 แห่ง ในจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อความเป็นสิริมงคลในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี๋ใหม่เมือง 2566 และแจกจ่ายให้ประชาชนที่เดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ วันที่ 12-16 เมษายน 2566 (หรือจนกว่าจะหมด) 🎉 สำหรับเพื่อน ๆ ที่อยู่ในพื้นที่เมืองเชียงใหม่ หรือใครที่กำลังเดินทางมาเที่ยวเชียงใหม่ในวันที่ 13 เมษายน 2566 นี้ ยังมีกิจกรรมตลอดทั้งวัน ได้แก่⏰ เวลา 08.00 น. สรงน้ำและทำพิธีอาราธนาพระพุทธสิหิงค์ ณ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร จังหวัดเชียงใหม่ ลงจากบุษบกเพื่อเตรียมสำหรับพิธีการแห่ในช่วงบ่าย⏰ เวลา 14.09 น. เคลื่อนขบวนแห่ ณ บริเวณสี่แยกสันป่าข่อย สิ้นสุดที่วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร

ขบวนแห่อัญเชิญน้ำทิพย์นมัสการพระพุทธสิหิงค์ “ไหว้สาจุมสะหรีน้ำทิพย์ปี๋ใหม่เมือง ปี 2566” อ่านเพิ่มเติม

✨ วัดหลวงขุนวิน จังหวัดเชียงใหม่ ✨

หนึ่งในวัดที่มีสถาปัตยกรรมแบบล้านนาสุดสวยใจกลางหุบเขาที่มีอายุกว่า 700 ปี หนึ่งในสถานที่ UNSEEN New Series ที่มีประวัติการสร้างไม่ชัดเจน เนื่องจากผ่านมาหลายยุคสมัยทั้งช่วงรุ่งเรืองและถูกปล่อยให้ทิ้งร้าง แต่จากการเล่าต่อกันมาจากผู้เฒ่าผู้แก่ วัดนี้ถูกสร้างโดย ขุนสาบและขุนสระเมิง ชาวลัวะผู้มีจิตเลื่อมใสในพุทธศาสนา ด้วยความที่ วัดหลวงขุนวิน เป็นวัดที่อยู่ไกลจากชุมชน ไฟฟ้าเข้าไม่ถึง ทางวัดจะใช้แค่พลังงานจากแสงอาทิตย์เท่านั้น ถนนหนทางคดเคี้ยว ขรุขระและต้องขึ้นเขา เข้าถึงตัววัดได้ยาก น้อยคนที่จะมา ทำให้ที่นี่มีบรรยากาศเงียบสงบ เหมาะสำหรับคนที่สนใจการทำสมาธิ ฝึกปฏิบัติกรรมฐาน ภาวนา ปัจจุบันนอกจากคนไทยแล้ว วัดแห่งนี้มักจะมีชาวต่างชาติแวะเข้ามาชมสิ่งปลูกสร้างในวัดอยู่เสมอ ซึ่งภายในวัดมีสิ่งปลูกสร้างดังนี้ ⭐ อุโบสถพระยืน ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปไม้ปางจงกรมแก้ว ความสูง 9 เมตร แกะสลักมาจากต้นไม้ใหญ่เพียงต้นเดียว ⭐ อุโบสถพระนอน ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปไม้แกะสลักปางปรินิพพาน รอบข้างมีงานแกะสลักไม้หลายชิ้น ⭐ บันไดพญานาค ขั้นบันไดมีลักษณะคล้ายเกล็ดของพญานาค มีมอสส์ขึ้นเกาะอยู่ตามขั้นบันได บ่งบอกถึงสภาพอากาศแวดล้อมที่มีความชื้นอยู่ตลอดเวลา สร้างความสดชื่น ร่มเย็นได้อย่างน่าประหลาดใจ ⭐ พระธาตุม่อนเปี้ยะ พระธาตุห้ายอด ภายในบรรจุพระเกศาธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 🚗 การเดินทางใช้เส้นทางเชียงใหม่-ฮอด มุ่งหน้าไปที่อำเภอแม่วาง ขับไปตามทางจนถึงกิโลเมตรที่ 26 จะเห็นป้ายทางเข้าหมู่บ้านหัตถกรรมเพื่อการท่องเที่ยวบ้านสบวินทางขวามือ เป็นเส้นทางขึ้นไปวัดหลวงขุนวิน ขับรถต่อไปอีกประมาณ 10 กิโลเมตรจะถึงตัววัด เพื่อน ๆ สามารถจอดรถไว้ที่บ้านชาวปกาเกอะญอห้วยหยวกและใช้บริการรถกระบะของชาวบ้านต่อใน 5 กิโลเมตรสุดท้าย เนื่องจากถนนจะเป็นคอนกรีตสลับกับดินลูกรังและดินแดงในบางช่วง มีความลาดชันและขรุขระ ต้องใช้รถขับเคลื่อน 4 ล้อ ในการเดินทางเท่านั้น เนื่องจากผู้ขับต้องมีความชำนาญในเส้นทางและถือเป็นการช่วยเหลือชาวบ้านในชุมชนอีกทางหนึ่ง

✨ วัดหลวงขุนวิน จังหวัดเชียงใหม่ ✨ อ่านเพิ่มเติม

🐘13 มีนาคม วันช้างไทย 🐘

ช้าง เป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองของประเทศ ตั้งแต่ในอดีตช้างเป็นราชพาหนะเคียงคู่พระบารมีพระมหากษัตริย์ไทย นอกจากนั้นช้างยังเคยเป็นสัญลักษณ์อยู่บนธงชาติไทย ปัจจุบันช้างยังเป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่นักท่องเที่ยวต่างอยากมาสัมผัสความน่ารักอย่างใกล้ชิด ผ่านกิจกรรมหลากหลาย เช่น นั่งช้าง ชมช้างอาบน้ำ การแสดงความสามารถของช้าง ฯลฯ ซึ่งกิจกรรมต่าง ๆ นี้จะต้องอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดกันนะคะ เนื่องในวันนี้เป็นวันช้างไทย ใครที่อยากไปเที่ยวกับน้องช้าง วันนี้เรามีแหล่งท่องเที่ยวมาบอกเพื่อน ๆ ด้วยนะคะ ตามไปดูกันเลยว่ามีที่ไหนบ้าง 🥰 🐘หมู่บ้านช้างบ้านตากลางและศูนย์คชศึกษา บ้านตากลาง พื้นที่หมู่บ้านเป็นที่นาและป่าละเมาะสลับกับป่าโปร่ง จึงเหมาะแก่การเลี้ยงช้าง ซึ่งชาวหมู่บ้านตากลางก็เป็นชาวกูย (ชาวกวย) ดั้งเดิม ซึ่งเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในการเลี้ยงช้าง ที่บ้านตากลางมีช้างอยู่ราว 200-300 เชือก เรียกว่าเป็นหมู่บ้านช้างเลี้ยงที่ใหญ่ที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ ภายในมีโฮมสเตย์และกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย เช่น ขี่ช้างอาบน้ำยามเย็น ล่องเรือในลำน้ำ “ศูนย์คชศึกษา” โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของ “หมู่บ้านช้างบ้านตากลาง” ภายในมีอาคารพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับช้าง เรื่องราวของช้างในอดีต การคล้องช้าง พิธีการต่าง ๆ และมีการแสดงของช้างทุกวัน โครงการคชอาณาจักร ที่นี่เป็นหน่วยงานในสังกัดองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ก่อตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือช้างเร่ร่อน แถมยังเป็นแหล่งเรียนรู้วิถีชีวิต การอยู่ร่วมกับช้าง การอนุรักษ์ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมของชุมชนชาวกูย ภายในโครงการฯ จัดให้มีการทำกิจกรรมร่วมกับช้าง ไม่ว่าจะเป็นการให้อาหารช้าง ถ่ายรูปคู่กับช้าง การอาบน้ำให้ช้างและชมโรงงานผลิตกระดาษจากมูลช้างได้อีกด้วย นอกจากนี้ ที่นี่ตั้งอยู่บริเวณลำน้ำชีถือเป็นจุดเช็คอินที่สวยงามมาก และยังเป็นลานกางเต็นท์สำหรับคนที่สนใจมาพักค้างคืนได้ด้วยค่ะ ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จังหวัดลำปาง ที่นี่เป็นศูนย์ฝึกลูกช้างแห่งแรกของประเทศไทย มีกิจกรรมที่น่าสนใจไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นนั่งช้างชมธรรมชาติ การแสดงช้างน้อยแสนรู้ การแสดงช้างอาบน้ำ รวมไปถึงการสาธิตทำกระดาษและกระถางต้นไม้จากมูลช้าง เพื่อน ๆ สามารถเลือกซื้อเป็นของที่ระลึกกลับไปได้ด้วยค่ะ  ฮักช้างเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ปางช้างที่นี่เป็น Eco Tour การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสชีวิตของช้างในธรรมชาติจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นนิสัย การกิน การนอน การเป็นอยู่ ผ่านการแนะนำของวิทยากร เรียกได้ว่าเราจะได้รู้จักช้างกันอย่างลึกซึ้งมากขึ้นเลยล่ะ สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจ ที่นี่มีกิจกรรมอีกหลายอย่าง เช่น ป้อนอาหาร อาบน้ำช้าง ทำอาหารช้าง ทำสปาช้าง ฯลฯ

🐘13 มีนาคม วันช้างไทย 🐘 อ่านเพิ่มเติม

แนะนำกิจกรรม วันมาฆบูชา

พาไปเที่ยวสัมผัสวิถีชีวิตชุมชน ส่งท้ายอากาศหนาว ที่ #บ้านป่าเหมี้ยง ใครอยากมาพักผ่อนใช้ชีวิตเรียบง่าย สโลวไลฟ์ ต้องมาที่นี่เลย เพราะที่นี่มีอากาศที่อีกไม่กี่สัปดาห์ก็จะถึงวันมาฆบูชา วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์แก่พระสงฆ์เป็นครั้งแรก และมีพระสงฆ์จำนวน 1,250 รูป มาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย เพื่อสักการะองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ปีนี้ตรงกับวันที่ 6 มีนาคม 2566 แต่ละวัดจะมีกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา ได้แก่ ทำบุญ ตักบาตร ฟังเทศน์ ส่วนช่วงเย็นก็จะมีการเวียนเทียนด้วยเช่นกัน และที่สำคัญ วัดในแต่ละพื้นที่แต่ละภูมิภาคก็จะมีกิจกรรมอื่น ๆ ตามวัฒนธรรมและประเพณีท้องถิ่นในช่วงวันมาฆบูชาอีกด้วย วันนี้ ขอแนะนำสถานที่ทำกิจกรรมในวันมาฆบูชา ให้แก่ผู้ที่สนใจได้เข้าร่วมและวางแผนล่วงหน้ากันได้ จะมีที่ไหนบ้าง ไปชมกัน  งานมาฆบูชา แห่ผ้าขึ้นธาตุ ประจำปี 2566 ณ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช  2-6 มีนาคม 2566 ประเพณีประจำปีของจังหวัดนครศรีธรรมราช เรียกได้ว่ามีการจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ ต้อนรับประชาชนทั้งคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวแสวงบุญที่เดินทางมายังวัดนี้ และมีกิจกรรมให้ทำตลอดทั้ง 5 วัน เพื่อน ๆ สามารถดูกำหนดการและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่https://www.facebook.com/TAT.NST/posts/pfbid0hcSYQT26NKZ3nrGQK3no3i4KNfKRHBxQ7MaiKkk2YUh5sWTKJJzZRrE87vkijR8Ql  เวียนเทียนทางน้ำ แห่งเดียวในโลก ณ วัดติโลกอาราม กว๊านพะเยาตำบลเวียง อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา  4-6 มีนาคม 2566 เป็นอีกแห่งที่มีกิจกรรมในวันมาฆบูชาที่มีชื่อเสียงอย่างมาก คือ กิจกรรมนั่งเรือเวียนเทียนทางน้ำรอบวัดติโลกอารามซึ่งตั้งอยู่กลางกว๊านพะเยา โดยปกติแล้ว ทุกๆ ปีจะมีการเวียนเทียน 3 ครั้ง ในวันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา และวันอาสาฬหบูชา หากเพื่อน ๆ สนใจ สามารถไปร่วมกิจกรรม พร้อมชมแสงเย็นก่อนพระอาทิตย์ตกดินกันได้ด้วย พิธีเวียนเทียน จัดขึ้นในวันที่ 6 มีนาคม เวลา 17.00 น. ขึ้นเรือได้ที่ ท่าเรือวัดติโลกอาราม ตำบลเวียง อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา เพื่อน ๆ สามารถดูกำหนดการและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/tatchiangrai/posts/pfbid02ub8DXAMETK8yUEY8nkLVxSRQQ7oMtfggrvno5MjttrT6XS86yBzLHmowxJEiaC22l  งานสรงน้ำพระธาตุ ห่มผ้าพระนอน ประจำปี 2566 วัดพระนอนแม่ปูคา หรือ วัดพระป้านตำบลแม่ปูคา อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่  6 มีนาคม 2566 ประเพณีสำคัญแห่งหนึ่งของเชียงใหม่ แม้ในปีนี้จะไม่ได้มีการจัดงานอย่างคึกคัก แต่เพื่อเป็นการสืบสานประเพณีอันดีงามที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ ทางวัดจึงมีการจัดกิจกรรมสรงน้ำพระธาตุ ห่มผ้าพระนอน และเจริญพุทธมนต์ ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไปและเวลา 19.00 น. จะมีการเวียนเทียนรอบอุโบสถ   วันมาฆบูชา สืบสานตำนานสองเจดีย์ธาตุ องค์พระธาตุเจ้าหริภุญชัยและเจดีย์ปทุมวดี ประจำปี 2566 วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหารถนนรอบเมืองใน ตำบลในเมือง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน  6 มีนาคม 2566 ร่วมงานประเพณีเดือนหกเป็ง ถวายผ้าห่มองค์พระบรมธาตุหริภุญชัยและเจดีย์ปทุมวดี ปูชนียสถานสำคัญที่อยู่คู่เมืองลำพูนมาอย่างยาวนาน กิจกรรมไฮไลต์ 18.00 น. แห่ผ้าห่มองค์พระบรมธาตุหริภุญชัยและเจดีย์ปทุมวดี 19.00 น. ชมการแสดงแสง สี เสียง เล่าขานตำนานสองเจดีย์ธาตุ  งานนมัสการพระบรมธาตุนาดูน ประจำปี 2566 พระบรมธาตุนาดูน พุทธมณฑลอีสานตำบลพระธาตุ อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม  4-12 มีนาคม 2566 นมัสการปูชนียสถานสำคัญแห่งอีสาน สถานที่ที่ค้นพบหลักฐานทางประวัติศาสตร์โบราณคดีที่แสดงให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองของนครจำปาศรี เมืองโบราณในอดีต อีกทั้งยังค้นพบสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ สันนิษฐานว่ามีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 13-15 (สมัยทวารวดี) กิจกรรมไฮไลต์ ชมพิธีเปิดสุดตระการตา การแสดงแสง สี เสียง ขบวนแห่ประเพณีสิบสองเดือน และมหรสพ เพื่อน ๆ สามารถดูกำหนดการและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/phathatnadun?locale=th_TH

แนะนำกิจกรรม วันมาฆบูชา อ่านเพิ่มเติม

🌸 ชมดอกนางพญาเสือโคร่ง ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง) จ.เชียงใหม่ 🌸

มาถึงจุดชมดอกนางพญาเสือโคร่งที่สวยงามอีกหนึ่งจุดของ จ.เชียงใหม่ “ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง)” สถานที่ทดลองและขยายพันธุ์พืชบนที่สูง เพื่อส่งเสริมและถ่ายทอดเทคโนโลยีแก่เกษตรกรชาวไทยบนที่สูง ซึ่งในช่วงนี้มีดอกนางพญาเสือโคร่งบานแล้วประมาณ 50-60% คาดการณ์ว่าภายในสิ้นเดือนจะได้ชมความงามสีชมพูของดอกนางพญาเสือโคร่งเต็มพื้นที่ แถมอากาศยังหนาวแบบฟิน ๆ ให้บรรยากาศเหมือนไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นเลยล่ะ ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง) จ.เชียงใหม่ สอบถามระยะเวลาบานของดอกนางพญาเสือโคร่ง ติดต่อที่เบอร์โทรศัพท์ 09 8111 8478 ในวันและเวลาราชการ Facebook : https://www.facebook.com/Cm.Khunwang ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม เวลาเปิด-ปิด 07.00 – 18.00 น. ของทุกวัน สำหรับเพื่อน ๆ ที่สนใจจองบ้านพักสอบถามได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 08 4217 4060 https://maps.app.goo.gl/tXWJtkyxtpzm4kDU6?g_st=ic สวนลุงเปา ขุนวาง อีกจุดเช็กอินที่ต้องแวะชมดอกนางพญาเสือโคร่ง ตั้งอยู่ระหว่างศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง) จ.เชียงใหม่และศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารี ดอยอินทนนท์ กำลังออกดอกบานเป็นสีชมพู 100 % ที่นี่ต้นนางพญาเสือโคร่งมีลำต้นไม่สูงมากนัก ออกดอกเต็มต้น จะถ่ายรูปมุมไหนก็สวย เก๋ ~ รู้กันแล้วอย่าลืมรีบไปตามมาเที่ยวกันล่ะ สวนลุงเปา ขุนวาง 08 2188 0978 ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม https://maps.app.goo.gl/qG5mQnVcFjpD5aL28

🌸 ชมดอกนางพญาเสือโคร่ง ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง) จ.เชียงใหม่ 🌸 อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top