สมุทรปราการ

สมุทรปราการ

ป้อมพระจุลจอมเกล้า สมุทรปราการ

ป้อมพระจุลจอมเกล้า (ป้อมพระจุล) สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เพื่อเป็นปราการด่านแรกในการปกป้องกรุงสยามจากการรุกรานทางเรือ ตั้งตระหง่านอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ณ ตำบลแหลมฟ้าผ่า อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ ความพิเศษของป้อมพระจุล คือ เป็นป้อมที่ออกแบบและก่อสร้างตามแบบตะวันตก ผสมผสานเทคโนโลยีการทหารที่ล้ำสมัย มีการติดตั้งปืนใหญ่อาร์มสตรองขนาด 152 มม. จำนวน 7 กระบอก ซึ่งนับเป็นปืนใหญ่ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในยุคนั้น และตั้งอยู่บนทำเลที่ตั้งบริเวณแหลมโค้งริมแม่น้ำเจ้าพระยา เหมาะแก่การยิงโจมตีเรือข้าศึกที่แล่นผ่าน ย้อนไป 131 ปีที่แล้ว ในวันที่ 13 กรกฎาคม 2436 เกิดวิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 ป้อมพระจุลมีบทบาทสำคัญในการต่อสู้กับฝรั่งเศส โดยยิงปืนใหญ่ถล่มเรือรบฝรั่งเศสจนได้รับความเสียหาย นำไปสู่การยุติข้อพิพาทเขตแดนริมฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงที่ยืดเยื้อมากว่าทศวรรษ ปัจจุบัน ป้อมพระจุลจอมเกล้าขึ้นตรงกับฐานทัพเรือกรุงเทพ และได้รับการบูรณะให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์  เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชม มีสถานที่น่าสนใจ ดังนี้– พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวในฉลองพระองค์ชุดจอมทัพเรืองามสง่า พระหัตถ์ทรงกระบี่ปกปักษ์แผ่นดินไทย– พิพิธภัณฑ์ จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของป้อมพระจุล เหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ และวิถีชีวิตของชาวปากน้ำ– เรือรบหลวงแม่กลอง เรือรบที่ประจำการยาวนานที่สุดในกองทัพเรือไทย– จุดชมวิว สามารถชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา และทิวทัศน์โดยรอบ– เส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ– ร้านอาหารสวัสดิการ การเดินทาง รถยนต์ส่วนตัว : ใช้เส้นทางถนนสุขสวัสดิ์ ตรงยาวไปจนถึงป้อมพระจุลจอมเกล้า รถสาธารณะ : นั่งรถ BTS มาลงที่สถานีปากน้ำ เดินไปที่ตลาดปากน้ำ นั่งเรือข้ามฟากไปฝั่งพระสมุทรเจดีย์ จากนั้นต่อรถจักรยานยนต์รับจ้างหรือแท็กซี่ไปยังป้อมพระจุลจอมเกล้าเวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าชมทุกวันเวลา 08.00-18.00 น.พิกัด : https://maps.app.goo.gl/hHYiYQNLBzf8gTk48

ป้อมพระจุลจอมเกล้า สมุทรปราการ อ่านเพิ่มเติม

เที่ยวหน้าฝน สัมผัสธรรมชาติ ให้ชื่นฉ่ำหัวใจ

หน้าฝนปีนี้ เพื่อน ๆ เตรียมตัวออกไปเที่ยวที่ไหนบ้างคะ หลายคนอาจจะคิดว่าฝนตกแบบนี้เที่ยวไหนไม่ได้ แต่รู้หรือไม่ว่า หน้าฝนบ้านเรา มีเสน่ห์ไม่แพ้หน้าร้อนเลยนะ ธรรมชาติจะเขียวขจี อากาศเย็นสบาย น้ำตกไหลแรง ดอกไม้ป่าบานสะพรั่ง เหมาะแก่การไปพักผ่อนหย่อนใจ ชมวิว ถ่ายรูป และสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ วันนี้บัดดี้มีภาพสวย ๆ จากแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ เพื่อเป็นไอเดียวางแผนการเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ออกไปเที่ยวธรรมชาติ สัมผัสความสดชื่นกันค่ะ 1. ชมนาขั้นบันไดป่าบงเปียง จังหวัดเชียงใหม่ 2. ชมไร่ชาบนดอยแม่สลอง จังหวัดเชียงราย 3. นอนฟังเสียงฝน ตื่นมาชมผาช้างน้อย จังหวัดพะเยา 4. ถ่ายรูปกับถนนลอยฟ้า จังหวัดน่าน 5. ล่องแก่งลำน้ำเข็ก ที่ จังหวัดพิษณุโลก 6. เที่ยวป่าเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา 7. ชมทุ่งดอกกระเจียว จังหวัดชัยภูมิ 8. ค้นหาหินโลมา ที่ ถ้ำนาคา จังหวัดบึงกาฬ 9. ชมวิวภูป่าเปาะ จังหวัดเลย 10. เล่นน้ำตกแสงจันทร์ จังหวัดอุบลราชธานี 11. เดินป่าระยะทางสั้น ๆ ที่ เขาช่องลม จังหวัดนครนายก 12. ล่องแก่งหินเพิง จังหวัดปราจีนบุรี 13. แช่น้ำเย็น ที่ น้ำตกพลิ้ว จังหวัดจันทบุรี 14. สวนพฤกษศาสตร์ จังหวัดระยอง 15. เที่ยวใกล้กรุง ที่ บางกะเจ้า จังหวัดสมุทรปราการ  16. ชมวาฬบรูดา ได้ที่ 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสงคราม และจังหวัดเพชรบุรี 17. เที่ยวหมู่บ้านอีต่อง จังหวัดกาญจนบุรี 18. เช็กอินชมวิวสวย ที่ ดงตาลสามโคก จังหวัดปทุมธานี 19. ชมวิวอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี 20. พายซัพบอร์ด ที่ อ่างเก็บน้ำท่าเคย จังหวัดราชบุรี 21. แช่น้ำร้อน ผ่อนคลาย ที่ จังหวัดระนอง 22. สัมผัสวิถีชุมชนบ้านน้ำราบ จังหวัดตรัง 23. ชมวิวเสม็ดนางชี จังหวัดพังงา 24. หลีกหนีความวุ่นวาย ไปเขื่อนเชี่ยวหลาน จังหวัดสุราษฎร์ธานี 25. ล่องแก่งหนานมดแดง ที่ จังหวัดพัทลุง ข้อแนะนำเพิ่มเติม*ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทาง*เตรียมเสื้อผ้า ร่ม รองเท้า ให้เหมาะสมกับการเที่ยวหน้าฝน*พกยาประจำตัว ยากันยุง*เลือกที่พักที่ปลอดภัย สะดวกสบาย*เที่ยวอย่างมีสติ ปฏิบัติตามกฎระเบียบ

เที่ยวหน้าฝน สัมผัสธรรมชาติ ให้ชื่นฉ่ำหัวใจ อ่านเพิ่มเติม

เที่ยวชุมชนบางกอบัว จ.สมุทรปราการ

เพื่อน ๆ หลายคนคงรู้จัก “บางกะเจ้า” หนึ่งในพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ที่ถูกรักษาเอาไว้ เพื่อเป็นแหล่งอากาศบริสุทธิ์ให้กับเมืองหลวงของไทยและพื้นที่ใกล้เคียง จนได้รับการขนานนามว่าเป็น “ปอดของกรุงเทพฯ” กันมาบ้างแล้ว วันนี้บัดดี้เลยขอมาแนะนำ “ชุมชนบางกอบัว” ซึ่งที่นี่เป็นหนึ่งที่ ที่สามารถตอบโจทย์แก่ผู้ที่กำลังมองหาการท่องเที่ยวที่ไม่สร้างผลกระทบในทางลบให้แก่สิ่งแวดล้อม จนได้ชื่อว่าเป็น “แหล่งท่องเที่ยวชุมชนคาร์บอนต่ำ” อันดับต้น ๆ ของเมืองไทย จนปัจจุบันที่นี่ได้รับรางวัล “อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย” (Thailand Tourism Awards) หรือรางวัลกินรี ครั้งที่ 14 ประจำปี 2566 จาก ททท. ด้วย รางวัลยอดเยี่ยม (กินรีทอง) ประเภทการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำเพื่อความยั่งยืน และรางวัลดีเด่น (กินรีเงิน) สาขาแหล่งท่องเที่ยวชุมชน มาครอบครองแล้วล่ะ กิจกรรมของที่นี่มีมากมายให้เลือกทำ ทั้งการนั่งเรือ สัมผัสวิถีชุมชนบางกอบัว ผ่านสายน้ำคลองแพ ที่เพื่อน ๆ สามารถเลือกได้ว่าจะพายเรือคายักด้วยตัวเอง หรือนั่งเรือไม้ล่องแม่น้ำ โดยจะมีฝีพายวัยเก๋าคอยพายเรือให้พร้อมกับเล่าประวัติความเป็นมาและเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของที่นี่ให้ฟังอย่างเป็นกันเอง (เรือไม้นั่งได้ 4 คน) โดยไฮไลต์สำคัญของที่นี่ คือ อุโมงค์ต้นจาก *ลงเรือแล้วอย่าลืมใส่เสื้อชูชีพกันด้วยนะ กิจกรรมต่อมาที่บัดดี้ได้ทำคือ เรียนรู้การทำลูกประคบสมุนไพรสด ที่ป้าดา วิทยากรใจดีจะมาแนะนำตั้งแต่ชื่อของสมุนไพร สรรพคุณทางยา ไปจนถึงวิธีการห่อลูกประคบสมุนไพรให้ออกมาสวยดูดี แถมถ้าทำเสร็จแล้วยังสามารถนำกลับไปนวดคอ บ่า ไหล่ หลัง ที่บ้านเองได้ด้วย ส่วนประกอบของลูกประคบมีหลายอย่าง เช่น เกลือ พิมเสน การบูร ไพล ใบมะขาม ฯลฯ ซึ่งป้าดาก็สอนอย่างเป็นกันเอง สนุกและได้ความรู้เยอะมาก อีกกิจกรรมที่สนุกไม่แพ้กันคือการทำผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติ ที่จะเปิดประสบการณ์ให้เพื่อน ๆ มัดลายย้อมผ้าได้ตามจินตนาการ สีของผ้าได้มาจากวัตถุดิบธรรมชาติที่หาได้ในชุมชนบางกอบัว เช่น ลูกจาก ขมิ้น ดาวเรือง ให้สีเหลือง, ไม้ฝาง ให้สีแดงหรือชมพู, กาบมะพร้าว ตะบูน ให้สีน้ำตาล หรือจะใช้น้ำปูนขาวหรือเกลือเติมลงไปในน้ำเพื่อให้สีเข้มขึ้นก็ได้ นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ที่น่าสนใจให้เลือกทำอีก เช่น กิจกรรม CSR เก็บขยะ/ปลูกจาก, สอนการทำพวงมะโหตร, นวดแช่เท้าด้วยน้ำสมุนไพร, เมี่ยงกลีบบัวพริกเกลือ, ปั่นจักรยาน และลองกินอาหารชุมชนจาก “กรุบมะพร้าว” หรือจะอุดหนุนผลิตภัณฑ์ชุมชนที่ชาวบางกอบัวนำมาจำหน่ายก็ได้ สำหรับเพื่อน ๆ ที่สนใจมาเที่ยว ชุมชนบางกอบัว ต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น สามารถเดินทางด้วยรถสาธารณะได้ง่าย ๆ โดยใช้รถไฟฟ้า bts มาลงที่สถานีบางนา จากนั้นนั่งรถสองแถวมาที่ท่าเรือวัดบางนานอกแล้วข้ามเรือมาที่ท่าเรือวัดบางน้ำผึ้งนอก จากนั้นติดต่อชุมชนเพื่อให้มารับ และสำหรับเพื่อน ๆ ที่สนใจมาเที่ยว ชุมชนบางกอบัว ต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น ต.บางกอบัว อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เปิดทุกวันเวลา 08.00-17.00 น. 09 0986 7987 (พี่เอนก), 0 3851 4009 ททท.สำนักงานฉะเชิงเทรา (รับผิดชอบพื้นที่ฉะเชิงเทรา,สมุทรปราการ)https://maps.app.goo.gl/KhPSAdbe6J1DKjzq9

เที่ยวชุมชนบางกอบัว จ.สมุทรปราการ อ่านเพิ่มเติม

Airport to City ลงเครื่องแล้วจะเข้าเมืองได้อย่างไร?

ช่วงนี้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาพักผ่อนที่ประเทศไทยกันค่อนข้างมาก และเราเชื่อว่าไม่ได้มีแค่นักท่องเที่ยวต่างชาติเท่านั้นที่หาข้อมูลสำหรับการเดินทางเข้าเมือง เมื่อลงเครื่องที่สนามบินในกรุงเทพมหานคร นักท่องเที่ยวชาวไทยที่อาศัยอยู่ต่างจังหวัดอีกหลายท่าน ที่มีแพลนเข้ามาท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ แล้วต้องการข้อมูลการเดินทางเข้าเมือง เซฟโพสต์นี้เก็บไว้ได้เลยค่ะ เพราะเพื่อนร่วมทาง อย่างเรา มัดรวมวิธีเดินทางเข้าเมืองไว้ให้คุณแล้ว ทั้งจากสนามบินสุวรรณภูมิเข้าเมือง และจากสนามบินดอนเมืองเข้าเมือง บอกเลยว่าทริปพักผ่อนที่กรุงเทพฯ รอบนี้ สบายใจเรื่องการเดินทางแน่นอนค่ะ จากสนามบินสุวรรณภูมิ สามารถเดินทางเข้าเมืองได้ถึง 4 วิธี1. รถไฟฟ้า Airport Rail Link >> ให้บริการระหว่างสถานีท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (A1) – พญาไท (A8) และสามารถเดินทางต่อได้เพียงเปลี่ยนสายไปยังรถไฟฟ้า BTS หรือรถเมล์ โดยรถไฟฟ้า Airport Rail Link เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 05.30-24.00 น. ของทุกวัน ค่าบริการอยู่ที่ 45 บาท (หากใครต้องเดินทางต่อโดยใช้รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT แนะนำให้ลงที่สถานีมักกะสัน (A6) แล้วเปลี่ยนสายไปยังรถไฟฟ้า MRT ได้เลยค่ะ) 2.รถตู้สาธารณะ >> เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าเมืองรอบนอก เช่น มีนบุรี, อ่อนนุช, ปากน้ำ, ดอนเมือง, ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ค่าบริการอยู่ที่ 27-60 บาท549 ทสภ.-มีนบุรี >> ให้บริการตั้งแต่ 05.00-22.00 น.552 ทสภ.-สถานีรถไฟฟ้าอ่อนนุช >> ให้บริการตั้งแต่ 05.00-22.00 น.552A ทสภ.-ปากน้ำ >> ให้บริการตั้งแต่ 05.00-22.00 น.555 ทสภ.-ดอนเมือง >> ให้บริการตั้งแต่ 05.00-22.00 น. และ 06.00-23.00 น.559 ทสภ.-ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต >> ให้บริการตั้งแต่ 06.00-23.00 น. 3. รถโดยสารสาธารณะ บขส. >> มีให้บริการทั้งเข้าเมืองในกทม. และเดินทางต่อไปยังต่างจังหวัด>> เข้าเมืองในกทม.สาย S1 สนามหลวง >> ให้บริการตั้งแต่ 06.00-17.00 น.สาย 555 รังสิต (ทางด่วนพระรามเก้า) >> ให้บริการตั้งแต่ 04.30-21.00 น.สาย 554 รังสิต (ถนนรามอินทรา) >> ให้บริการตั้งแต่ 04.30-18.40 น.สาย 558 เซ็นทรัลพระราม 2 >> ให้บริการตั้งแต่ 05.30-19.00 น.>> เดินทางไปยังต่างจังหวัด (บริเวณอาคารผู้โดยสารชั้น 1 ประตู พัทยา (จอมเทียน) >> ให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.หัวหิน >> ให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00-19.30 น.เกาะช้าง >> ให้บริการเวลา 07.00 น. และ 11.00 น.เกาะกูด >> ให้บริการเวลา 07.00 น. 4. Taxi บริเวณชั้น 1 ประตู 4 และประตู 7 จากท่าอากาศยานนดอนเมือง สามารถเดินทางเข้าเมืองได้ถึง 3 วิธี 1. รถไฟฟ้าสายสีแดง >> ให้บริการเส้นทางบางซื่อ-รังสิต เดินทางจากสถานีกลางบางซื่อ (RW01/RN01) ไปยังสถานีดอนเมือง (RN08) ค่าบริการอยู่ที่ 33 บาท เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 05.30-24.00 น. ของทุกวัน 2. รถเมล์ปรับอากาศ >> รถเมล์ปรับอากาศเข้าเมือง จากดอนเมืองไปยังจุดต่าง ๆ มีทั้งหมด 4 สาย จอดรับผู้โดยสารที่อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ชั้น 1 ประตู 6 และอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ชั้น 1 ประตู 12 ค่าบริการอยู่ที่ 30-50 บาท ตลอดสาย สาย A1 สนามบินดอนเมือง – BTS จตุจักร-สถานีขนส่งหมอชิต 2 >> ให้บริการตั้งแต่ 06.50-24.00 น.สาย A2 สนามบินดอนเมือง – BTS จตุจักร-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ >> ให้บริการตั้งแต่ 05.00-23.00 น.สาย A3 สนามบินดอนเมือง-ประตูน้ำ-ราชประสงค์-สวนลุมพินี >> ให้บริการตั้งแต่ 07.00-23.00 น.สาย A4 สนามบินดอนเมือง-อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย-ถนนข้าวสาร-สนามหลวง >> ให้บริการตั้งแต่ 07.00-23.00 น. สำหรับใครที่มีต่อเครื่อง/เปลี่ยนสายการบิน ระหว่างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ-ท่าอากาศยานดอนเมือง ก็มีบริการ Airport Shuttle Bus รับส่งระหว่างสนามบินฟรีด้วยนะคะ โดยจำเป็นจะต้องมีตั๋วเครื่องบินแสดงให้กับเจ้าหน้าที่ก่อนใช้บริการ ให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00-20.00 น. ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ให้บริการบริเวณอาคารผู้โดยสารชั้น 2 ประตู 3ท่าอากาศยานดอนเมือง ให้บริการบริเวณอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ อาคาร 1 ชั้น 1 ประตู 6

Airport to City ลงเครื่องแล้วจะเข้าเมืองได้อย่างไร? อ่านเพิ่มเติม

🐦ดูนก ณ บางปู🌿

ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา เพื่อน ๆ หลายคนคงเดินทางท่องเที่ยวทริปยาว ๆ กันอย่างเต็มที่ไปแล้ว วันนี้แอดเลยจะมาชวนเที่ยวชิลล์ ๆ กันบ้าง ด้วยการไปรับลมชมนกนางนวลริมทะเล ที่สถานตากอากาศบางปู ใกล้ ๆ กรุงเทพฯนี่เอง ช่วงนี้นกนางนวลกำลังเยอะ บรรยากาศดีสุด ๆ ลองดูภาพที่แอดเอามาฝากกันได้ “บางปู” หรือ “สถานตากอากาศบางปู” สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2480 ตามดำริของจอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ตั้งอยู่ในพื้นที่ของกรมพลาธิการทหารบก บางปูเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากตั้งแต่อดีต จนปัจจุบันก็ยังใช้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวตากอากาศ และเป็นแหล่งดูนกที่ขึ้นชื่ออย่างมาก : )  เช็คอินกันก่อนที่สะพานสุขตา สะพานคอนกรีตที่ยื่นออกไปในทะเลอ่าวไทย เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวจะมาดูนก ให้อาหารนก และชมพระอาทิตย์ตก ช่วงเดือนตุลาคม-มีนาคมของทุกปี ฝูงนกนางนวลจำนวนมากกว่า 5,000 ตัวจะอพยพหนีหนาวมาจากแถบมองโกเลีย ทิเบต ไซบีเรีย จีน มาอาศัยอยู่บริเวณบางปูแห่งนี้ ถือเป็นไฮไลท์ของที่นี่เลยก็ว่าได้  เราจะเห็นเหล่านกนางนวลบินวนไปมา บ้างก็พักลอยตัวอยู่เหนือน้ำ  เหล่านกนางนวลจะออกหาอาหารกินเองตามธรรมชาติ แต่ก็มีบ้างที่จะมากินอาหารจากนักท่องเที่ยว สำหรับคนที่อยากให้อาหารนก บริเวณสะพานสุขตาจะมีหนังไก่และกากหมูขาย เวลาให้อาหาร จะโยนขึ้นไปบนฟ้าหรือจะยื่นมือออกไปก็ได้  ช่วงเวลาแนะนำ คือช่วงเช้าตรู่ที่สามารถเดินเล่นได้จนถึงช่วงสาย แดดไม่ร้อนมาก และช่วงสี่โมงเย็นเป็นต้นไปที่ แดดร่มลมตก อากาศกำลังดีเหมาะแก่การมารอชมนก  หากรู้สึกหิว แอดแนะนำ “ศาลาสุขใจ” ร้านอาหารทะเลที่อยู่บริเวณปลายสะพาน นอกจากอาหารจะรสชาติดีแล้ว เรายังสามารถชมวิวทะเลและชมนกนางนวลโบยบินได้อีกด้วย สำหรับการเดินทาง หากไม่มีรถยนต์ส่วนตัว สามารถใช้บริการรถสาธารณะได้ค่ะ รถไฟฟ้า BTS ลงสถานีเคหะฯ จากนั้นต่อรถสองแถว จุดขึ้นรถสองแถวจะอยู่ใต้สถานีเคหะฯ สาย 36 ราคา 10 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาทีก็จะถึง จากนั้นข้ามสะพานลอยไปอีกฝั่ง ก็จะพบกับทางเข้าสถานตากอากาศบางปู สถานตากอากาศบางปู  164 ถนนสุขุมวิท ตำบลบางปูใหม่ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ  เปิดทุกวัน เวลา 10.00-20.00 น.  02 323 9911, 02 323 1213 https://goo.gl/maps/1YYQGs9mmBtZTXrD6

🐦ดูนก ณ บางปู🌿 อ่านเพิ่มเติม

บางกะเจ้า : สวนศรีนครเขื่อนขันธ์

บางกะเจ้า ตั้งอยู่ในอำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ใกล้ๆ กรุงเทพฯ นี่เอง สามารถเดินทางมาได้ง่ายๆ เลย บางกะเจ้าไม่ใช่แค่สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีต้นไม้ให้เราชมเยอะแยะเท่านั้นนะ แต่ยังมีแหล่งเรียนรู้ ร้านอาหาร ที่พัก ตลาด และชุมชนอีกด้วย ใครอยากจะเที่ยววันเดียวเก๋ๆ งบน้อยๆ ที่นี่ก็น่าสนใจอยู่นะ .ที่ตั้ง : 73 ซอย วัดราษฎร์รังสรรค์ ตำบลบางกะเจ้า อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการเปิดทุกวัน เวลา 05.00 – 19.00 น.โทร. 02 461 0972 บางกะเจ้า มีลักษณะเป็นคุ้งน้ำอยู่บริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา มีรูปร่างคล้ายกับกระเพาะหมู.ที่นี่เปรียบเสมือนปอดกลางเมืองขนาดใหญ่ ที่แวดล้อมไปด้วยพื้นที่สีเขียวของป่าชุมชน ไม่มีการสร้างอาคารหรือตึกสูง จนได้รับการยกย่องจากนิตยสาร Time Asia ว่าเป็น The Best Urban Oasis of Asia ปี 2006 เลยทีเดียว สำหรับกิจกรรมที่น่าสนใจในบางกะเจ้า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมาปั่นจักรยานท่องเที่ยวรอบเกาะ ชมวิถีชีวิตชุมชนและเก็บบรรยากาศรอบๆ สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ ซึ่งบริเวณทางเข้าสวนก็มีจักรยานให้เช่าด้วย สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ เป็นสวนสาธารณะที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นแหล่งผลิตอากาศบริสุทธิ์ สำหรับให้ผู้คนได้มาพักผ่อนและออกกำลังกาย ที่นี่เต็มไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ มองไปทางไหนก็เขียวขจีไปหมด ภายในสวนมีการจัดสภาพภูมิทัศน์อย่างสวยงาม และยังคงรักษาสภาพดั้งเดิมที่เคยเป็นสวนผลไม้เก่าเอาไว้ด้วย อย่าลืมมุมถ่ายรูปยอดฮิตนะ สะพานเขื่อนขันธ์มรรคา สะพานไม้ทอดยาวข้ามสระน้ำ กับอีกหนึ่งจุดคือ หอชมวิว สูง 7 เมตร ใครไปแล้วถ่ายรูปมาอวดแอดมั่งล่ะ นอกจากขี่จักรยานชมธรรมชาติแล้ว ที่บางกะเจ้าก็ยังมีอีกหลายกิจกรรมให้เราได้ทำ เช่น ชมพิพิธภัณฑ์ปลากัดไทยสายพันธุ์ต่างๆ ทำกิจกรรมที่บ้านธูปหอมสมุนไพร แวะชอปกันที่ตลาดบางน้ำผึ้ง ฯลฯ.สำหรับจุดเช่าจักรยานนั้นมีอยู่หลายจุด ราคาเริ่มต้นที่ 50-100 บาท สามารถเช่าเป็นรายชั่วโมงหรือเต็มวันเลยก็ได้ค่ะ การเดินทางสามารถไปได้ทั้งรถยนต์และเรือ แต่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมเดินทางโดยเรือข้ามฟาก – เรือข้ามฟาก มีท่าเรือที่ให้บริการอยู่หลายท่า ได้แก่ – ท่าเรือวัดบางนานอก ไปท่าเรือวัดบางน้ำผึ้งนอกท่าเรือตั้งอยู่ที่ถนนสรรพาวุธ เขตบางนา จากรถไฟฟ้า BTS สถานีบางนา ตรงไปทางสี่แยกบางนา แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสรรพาวุธ จากนั้นตรงไปสุดทางจะพบท่าเรือวัดบางนานอก เรือจากท่านี้เป็นเรือขนาดใหญ่ สามารถนำจักรยานและจักรยานยนต์ลงเรือไปได้– เส้นทางนี้จะใกล้กับตลาดน้ำบางน้ำผึ้งและบ้านธูปหอมสมุนไพรพิกัด : https://goo.gl/maps/a813snLyZN2rSBEw5 – ท่าเรือวัดคลองเตยนอก ไปท่าเรือบางกะเจ้า (กำนันขาว)ท่าเรือตั้งอยู่ที่ถนนเกษมราษฎร์ เขตคลองเตย เรือจากท่านี้เป็นเรือหางยาว สามารถนำจักรยานลงเรือไปได้– เส้นทางนี้จะใกล้กับพิพิธภัณฑ์ปลากัดไทยและสวนศรีนครเขื่อนขันธ์พิกัด : https://goo.gl/maps/GX6dD26AKdG77z639 – ท่าเรือสาธุประดิษฐ์ ไปท่าเรือวัดโปรดเกศเชษฐารามท่าเรือตั้งอยู่ที่ถนนพระรามที่ 3 เขตยานนาวา เรือจากท่านี้เป็นเรือขนาดใหญ่ สามารถนำจักรยานและจักรยานยนต์ลงเรือไปได้– เส้นทางนี้ค่อนข้างไกลจากแหล่งท่องเที่ยวในบางกะเจ้า โดยอยู่บริเวณสวนสุขภาพลัดโพธิ์และช่วงต้นของถนนเพชรหึงษ์ เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 13 พฤษภาคม 2562 เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 13 พฤษภาคม 2562

บางกะเจ้า : สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ อ่านเพิ่มเติม

ถานตากอากาศบางปู สมุทรปราการ

“บางปู” หรือ “สถานตากอากาศบางปู” สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2480 ตามดำริของจอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น บางปู เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนใกล้กรุงเทพฯ ที่ได้รับความนิยมอย่างมากมาตั้งแต่อดีต อีกทั้งยังเป็นแหล่งดูนกที่ขึ้นชื่อของไทย โดยเฉพาะนกนางนวลนั่นเอง มาบางปูก็ต้องถ่ายรูปกับนกนางนวล เป็นกิจกรรมที่ห้ามพลาดเลยล่ะ โดยปกตินกนางนวลจะอพยพหนีหนาวมาระหว่างเดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์ และบินกลับถิ่นฐานในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม หากใครจะมาเที่ยวแนะนำช่วงนี้เลยค่ะ  ภายในพื้นที่สถานตากอากาศบางปู มีสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษามหาราชินี เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายเลน อนุสรณ์ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นยกพลขึ้นบก และสะพานสุขตา เป็นต้น ใครมาถึงก็ต้องมาเช็คอินกันที่ “สะพานสุขตา” ซึ่งเป็นสะพานปูนยื่นยาวออกไปในทะเล เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาดูนกและชมพระอาทิตย์ตก บริเวณปลายสะพานมี “ศาลาสุขใจ” ซึ่งเป็นร้านอาหารที่สามารถชมวิวทะเลและนกนางนวลโบยบินได้อย่างสวยงาม ที่ตั้ง 162 หมู่ 2 ถนนสุขุมวิท ตำบลบางปูใหม่ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการเปิดทุกวัน เวลา 10.00-20.00 น.โทร 02 323 9911, 02 323 1213

ถานตากอากาศบางปู สมุทรปราการ อ่านเพิ่มเติม

4 ที่ขี่ม้าวิวธรรมชาติ ใกล้เมืองกรุง

ฟาร์มหมอปอ จ.นครราชสีมา ฟาร์มม้าในอำเภอปากช่องแห่งนี้ เป็นสถานที่รวบรวมม้าสวยงามหลายหลายสายพันธุ์ รวมทั้งสายพันธุ์หายากด้วย และยังเปิดสอนขี่ม้าให้แก่ผู้สนใจ โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้ขี่ม้าชมบรรยากาศโดยรอบฟาร์ม ซึ่งเต็มไปด้วยป่าไม้และทิวเขาร่มรื่น  นอกจากม้าแล้ว ที่นี่ก็ยังมีสัตว์อื่นๆ เช่น กระต่าย แพะ ฯลฯ ซึ่งเราสามารถให้อาหารได้ รวมทั้งยังมีแม่ไก่ให้เราเก็บไข่ไก่สดๆ จากเล้าได้อีก และสำหรับผู้ที่เหนื่อยล้าจากการทำกิจกรรมและอยากพักผ่อนสบายๆ ที่นี่เค้าก็มีที่พักไว้บริการด้วยนะ  บ้านคอกม้าบางพลี จ.สมุทรปราการ ฟาร์มม้าแห่งนี้เป็นสถานที่สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการขี่ม้า เปิดสอนขี่ม้าสำหรับทุกเพศทุกวัย และเนื่องจากที่นี่มีสนามซ้อมทั้งแบบกลางแจ้งและในร่ม จึงสามารถฝึกได้ในทุกสภาพอากาศ สำหรับผู้ที่อยากขี่ม้าแบบใกล้ชิดธรรมชาติ ทางฟาร์มก็มีบริการขี่ม้าไปชมทุ่งหญ้าเขียวขจีและบ่อปลา ซึ่งอยู่ใกล้กับฟาร์ม และยังสามารถชมวิถีชีวิตชนบทของชาวบางพลีได้ด้วย  นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอาชาบำบัด ซึ่งเป็นกิจกรรมเพื่อพัฒนาเด็กพิเศษที่มีปัญหาต่างๆ ทั้งสมาธิสั้น ออทิสติก ฯลฯ และยังมีบริการอื่นๆ เกี่ยวกับม้า ไม่ว่าจะเป็น จำหน่ายอุปกรณ์ขี่ม้า รับฝากเลี้ยงม้า หรือเพาะพันธุ์ม้าสายพันธุ์ดีด้วย วัลลภาฟาร์มสเตย์ จ.ลพบุรี ห่างจากตัวเมืองลพบุรีไป 15 กิโลเมตร ใกล้สถานีรถไฟโคกมะขาม ยังมีฟาร์มเลี้ยงม้าและสวนเกษตรอินทรีย์ที่น่าสนใจ นั่นก็คือ วัลลภาฟาร์ม กิจกรรมหลักของที่นี่คือการสอนขี่ม้าให้ผู้ที่สนใจตั้งแต่ขั้นเริ่มต้น และยังมีบริการขี่ม้าชมธรรมชาติของฟาร์มที่แวดล้อมไปด้วยทุ่งนา ลำคลอง และภูเขา  นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ได้แก่ นั่งรถม้าไปไหว้หลวงพ่อสัมฤทธิ์ประทานพรกาญจนาภิเษก สำนักบวรบรรพต (วัดศาลาแดง) หรือนั่งรถอีแต๋นชมสวนเกษตรอินทรีย์และควายทุ่งที่เชื่องมากๆ รวมทั้งทดลองทำการเกษตร เช่น ทำนาปลูกข้าว เลี้ยงสัตว์ เก็บไข่เป็ดไข่ไก่ในฟาร์ม ทำไข่เค็มดินสอพอง และทำของที่ระลึกจากดินเผา นอกจากนี้ยังมีที่พักไว้ให้บริการสำหรับผู้ที่อยากพักค้างแรมด้วย ฟาร์มเชาวณัฎ จ.กาญจนบุรี  ฟาร์มม้าชานเมืองกาญจนบุรี กับบรรยากาศธรรมชาติที่ห้อมล้อมไปด้วยภูเขาและแม่น้ำ ที่นี่เปิดสอนขี่ม้าให้กับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ มีกิจกรรมป้อนอาหารม้า ขี่ม้าชมธรรมชาติ นั่งรถม้าชมรอบๆ ฟาร์ม และยังมีกิจกรรมอื่นๆ เช่น ขี่เจ็ทสกี ขับรถเอทีวี และดำนาปลูกข้าวตามฤดูกาล นอกจากนี้ยังมีที่พักและร้านกาแฟไว้ให้บริการด้วย

4 ที่ขี่ม้าวิวธรรมชาติ ใกล้เมืองกรุง อ่านเพิ่มเติม

สิงหาพาแม่เที่ยว…ย้อนวัยหวาน เส้นทางสมุทรปราการ – ฉะเชิงเทรา

สิงหาพาแม่เที่ยว…ย้อนวัยหวาน เส้นทางสมุทรปราการ – ฉะเชิงเทรา วันหยุดยาวในช่วงวันแม่แห่งชาตินี้ ถ้าใครอยากพาคุณแม่ไปเที่ยวย้อนวัยหวาน ให้เหมือนสมัยยังสาวอีกครั้ง เส้นทางสมุทรปราการและฉะเชิงเทรา ก็เป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่น่าสนใจ มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งที่จะสร้างความสุขให้กับเหล่าแม่ๆ ของพวกเราได้อย่างแน่นอน… ว่าแล้ว ก็ชวนคุณแม่ใส่กระโปรงบาน แต่งชุดลายดอก แล้วออกไปเที่ยวด้วยกัน !!     . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . วันที่ 1  พาคุณแม่ไปลัลลาที่บางกะเจ้า จังหวัดสมุทรปราการ บางกะเจ้า เป็นพื้นที่ที่มีรูปร่างคล้ายกระเพาะหมู ตั้งอยู่บริเวณโค้งน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยา มีพื้นที่ครอบคลุม 6 ตำบลของ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ได้แก่ ต.บางกะเจ้า บางน้ำผึ้ง บางกอบัว บางกระสอบ บางยอ และ ทรงคะนอง โดยบางกะเจ้าได้รับการขนานนามว่าเป็น ปอดกลางเมืองที่ดีที่สุดในเอเชีย ช่วงสายๆ พาคุณแม่ไปปั่นจักรยาน สูดโอโซนที่สวนสาธารณะศรีนครเขื่อนขันธ์ ที่นี่บรรยากาศร่มรื่นมากเพราะแวดล้อมไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ หลังจากปั่นจักรยานเสร็จ ก็น่าจะหิวกันแล้ว ช่วงเที่ยงพาคุณแม่ไปเดินเล่นพร้อมหาของอร่อยทานที่ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง ที่อยู่ไม่ไกลจากสวนสาธารณะฯ ที่ตลาดน้ำมีทั้งของกิน ของเล่น สินค้าโอทอปให้เลือกเต็มไปหมด ต้องถูกใจคุณแม่สายชอปอย่างแน่นอน แถมมีร้านอาหาร ร้านกาแฟที่มีบรรยากาศแนววินเทจให้คุณแม่ไปถ่ายรูปสไตล์ย้อนยุคได้ด้วย สวนสาธารณะศรีนครเขื่อนขันธ์ เปิดทุกวัน 06.00 – 19.00 น. ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง เปิดบริการเฉพาะวันเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ที่ติดกับวันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 08.00 – 16.00 น. โทร. 092 229 3594 การเดินทาง รถยนต์ส่วนตัว ใช้ทางด่วนบางนา-ดาวคะนอง ลงที่ถนนสุขสวัสดิ์(พระประแดง) ขับมาจนถึงสามแยกพระประแดง-สุขสวัสดิ์ (ขวามือเป็นโรงหนังเมเจอร์ฮอลิวูด ซ้ายมือเป็นบริษัทกิฟฟารีน) เลี้ยวซ้ายมาทางที่ว่าการอำเภอพระประแดงมาเกือบสุดทางบังคับเข้าสู่ถนนเพชรหึงษ์ ตรงไปตามทางประมาณ 5 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาเข้าซอยเพชรหึงษ์ 26 (มีป้ายบอกทางเข้าตลาดน้ำ) เข้าไปประมาณ 700 เมตร จะเจอวัดบางน้ำผึ้งใน ตลาดน้ำบางน้ำผึ้งจะอยู่บริเวณเดียวกับวัด สามารถจอดรถได้ที่ อบต.บางน้ำผึ้ง หรือสถานีอนามัยบางนา . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .  อยากพาคุณแม่ไปเที่ยวต่างจังหวัดไกลๆ แต่เวลาไม่เอื้ออำนวย ไม่ใช่ปัญหา แค่มาที่เมืองโบราณก็เหมือนได้ไปเที่ยวทั่วประเทศแล้วค่ะ เพราะที่นี่จำลองสถาปัตยกรรมทั้งวัด วัง อันงดงามไว้ในที่เดียว ที่ตั้ง : 296/1 หมุ่ 7 ต.บางปูใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ พิกัด : https://goo.gl/maps/wN5MdFfy4kL2 เปิดทุกวัน เวลา 09.00 -19.00 น. โทร 02 323 4094 อัตราค่าเข้าชม สำหรับคนไทย ตั้งแต่เวลา 09.00 – 16.00 น.  ผู้ใหญ่ ราคา 350 บาท เด็ก 6 – 14 ปี ราคา 175 บาท ตั้งแต่เวลา 16.00 น. เป็นต้นไปลด 50% (ราคานี้รวมรถรางและ ปั่นจักรยาน) การเดินทาง จากตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง ใช้ถนนเพชรหึงษ์ไปออกถนนวงแหวนอุตสาหกรรม กลับรถเพื่อข้ามสะพานภูมิพล 2 ลงจากสะพาน เลี้ยวซ้ายเข้าถนนปู่เจ้าสมิงพราย ตรงไปเรื่อยๆ จะเจอถนนสุขุมวิท ให้เลี้ยวขวา แล้ววิ่งเส้นถนนสุขุมวิทไปเรื่อยๆ ระยะทางประมาณ 13

สิงหาพาแม่เที่ยว…ย้อนวัยหวาน เส้นทางสมุทรปราการ – ฉะเชิงเทรา อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top