อาหารท้องถิ่น

ชีวิตธรรมดา Coffee House, Bistro & Bar

ร้านชีวิตธรรมดา เป็นบ้านไม้ 2 ชั้นสีขาว ริมแม่น้ำกก ที่ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้นานาชนิด  ด้านในตกแต่งสไตล์วินเทจ ให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน มาร้านคอฟฟี่เฮ้าส์สไตล์อังกฤษทั้งที ก็ต้องสั่งเครื่องดื่มเก๋ๆ มาจิบชิลๆ สักหน่อย “กาแฟเย็นสูตรชีวิตธรรมดา” เมนูซิกเนเจอร์ที่นำกาแฟไปทำเป็นก้อนน้ำแข็ง เสิร์ฟมาพร้อมนมและน้ำเชื่อม ให้เราปรุงรสชาติหวานมันได้ตามชอบ เรียกว่าเป็นกิมมิคของทางร้านเลยก็ว่าได้ค่ะ9 อาหารของที่นี่เป็นแบบฟิวชั่น ที่ผสมผสานระหว่างอาหารไทยกับอาหารตะวันตก มีเมนูให้เลือกหลากหลาย เรามาประเดิมกันที่จานนี้ “ข้าวผัดสับปะรดนางแล” หนึ่งในอาหารขึ้นชื่อของทางร้านที่มาแล้วต้องลอง เพราะนอกจากจะเสิร์ฟมาอย่างอลังการในลูกสับปะรด และมีกุ้งชุบแป้งทอดตัวใหญ่โปะด้านบนแล้ว ยังมีสลัดผักแสนอร่อยให้ทานคู่กันอีกด้วย หากใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศมาทานอาหารตะวันตก แอดขอแนะนำ “Swedish Style Hash Pyttipanna” ซึ่งเป็นหนึ่งในเมนูยอดฮิตของร้าน ประกอบด้วยมันฝรั่ง เบคอน และแฮมที่หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ปรุงรสและคลุกเคล้าให้เข้ากัน ทอปด้วยไข่ดาว รสชาติจะอร่อยขนาดไหน ต้องไปลองด้วยตัวเองนะคะ  ทานของคาวแล้วก็ต้องตบท้ายด้วยของหวาน ถึงจะเรียกว่า อิ่มครบจบในที่เดียว “ชีสเค้กมะม่วง” จานนี้มีครบทุกรสชาติ ไม่ว่าจะเป็นความหวานละมุนของเนื้อเค้ก รสหวานอมเปรี้ยวของมะม่วง และรสเค็มผสมความกรุบกรอบของครัสต์ รวมกันแล้วจึงกลายเป็นความอร่อยที่ลงตัวสุดๆ เลยค่า สำหรับใครที่เป็นสายชา ทางร้านก็มีเครื่องดื่มประเภทชาให้เลือกดื่มนะคะ อย่าง “ชาเย็นโบราณ” แก้วนี้ รสชาติกลมกล่อม หวานมันกำลังดี นอกจากด้านในตัวบ้านแล้ว ภายในร้านก็ยังมีที่นั่งอีกหลายโซน ไม่ว่าจะเป็นโซนในสวน หรือริมแม่น้ำกก บรรยากาศดีมากๆ เลยค่ะ ที่ตั้ง 179 หมู่ 2 ถ.ร่องเสือเต้น ซ.3 (ริมแม่น้ำกก) ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงรายเปิดทุกวัน เวลา 08.00-21.00 น.โทร. 081 984 2925พิกัด : https://g.page/ChivitThammada?share

ชีวิตธรรมดา Coffee House, Bistro & Bar อ่านเพิ่มเติม

Kan Machi Cafe กาญจนบุรี

ถ้าพูดถึงร้านกาแฟในเมืองกาญจนบุรีตอนนี้ Kan Machi Cafe คงเรียกได้ว่าเป็นคาเฟ่น้องใหม่ที่มาแรงแซงทุกทางโค้งเลยก็ว่าได้ ด้วยสไตล์การตกแต่งแบบญี่ปุ่นที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น จึงทำให้มีผู้คนแวะเวียนกันมาเป็นจำนวนมาก Kan Machi Cafe มีที่มาจากความชอบและหลงใหลในร้านกาแฟสไตล์ญี่ปุ่นของเจ้าของร้าน จึงทำให้เกิดความคิดที่จะเปิดร้านในแนวที่ตนเองชื่นชอบนั่นเองค่ะ ที่นี่มีมุมถ่ายรูปเยอะมาก ไม่ว่าจะโซนในร้านหรือด้านนอกก็เก๋ไก๋ไปหมด อย่างกับอยู่ญี่ปุ่นเลยนะเนี่ย ขนาดบริเวณหน้าห้องน้ำก็ยังเป็นอีกจุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเลยนะจะบอกให้ ถ้าใครอยากมาทานอาหารและถ่ายรูปเช็คอินที่นี่ แอดแนะนำให้มาช่วงเย็นๆ นะคะ เพราะช่วงเที่ยงโดยเฉพาะวันหยุด คนจะเยอะมาก ที่นี่ให้บริการทั้งอาหาร ขนม และเครื่องดื่ม ซึ่งเครื่องดื่มก็จะเป็นพวกชากาแฟต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นชาเขียวมัทชะ นมเย็น ชานมไข่มุก กาแฟ โกโก้ เป็นต้น มาดูขนมหวานกันบ้าง แอดขอแนะนำนี่ “ไดฟุกุสตรอว์เบอร์รี” ลูกใหญ่มากๆ บอกเลยว่าใครได้ลองจะต้องติดใจ  ที่ตั้ง 55/55 หมู่ 2 ถนนแม่น้ำแคว ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรีเปิดวันพฤหัสบดี-อังคาร (ปิดวันพุธ) เวลา 10.00 – 19.00 น.โทร 094 592 6553พิกัด https://goo.gl/maps/TKee2trkbU6kVDPTA

Kan Machi Cafe กาญจนบุรี อ่านเพิ่มเติม

ร้าน “จันกะผัก” จังหวัดเชียงราย

ร้านจันกะผักตั้งอยู่ภายในศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ จังหวัดเชียงราย ที่นี่เป็นร้านอาหารไทย ที่มีจุดเด่นอยู่ตรงผักที่นำมาปรุงอาหารเป็นผักจากศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ รับรองได้เลยว่าสด สะอาด และปลอดภัย เมนูแนะนำที่ต้องลองชิม ได้แก่ ส้มตำ(ทานคู่กับข้าวเหนียวอัญชัน) ผักทอด แหนมเนือง ข้าวยำน้ำบูดู และสลัดผักที่มีน้ำสลัดให้เลือกถึง 4 รส ใครที่ไม่ชอบทานผักต้องเปลี่ยนใจแน่นอน เพราะผักที่นี่หวาน กรอบ อร่อยมาก หลังจากทานของคาวแล้ว ก็มาตบท้ายด้วยของหวานกันดีกว่า ที่นี่มีของหวานให้เลือกหลายเมนู เช่น โยเกิร์ตฟรุตสลัด น้ำแข็งไส เค้ก และทีเด็ดก็คือ ไอศกรีมโฮมเมดหลากรส นอกจากอาหารอร่อยๆ แล้ว ทางร้านยังจำหน่ายพืชผลทางการเกษตรและสินค้าแปรรูปจากผลผลิตของศูนย์ฯ อีกด้วย แอดขอเล่าความเป็นมาของศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริสักเล็กน้อย… ศูนย์แห่งนี้เป็นโครงการในพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้มูลนิธิชัยพัฒนาและมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงจัดตั้งขึ้น ที่นี่ปลูกพืชหลากหลายชนิดเพื่อนำเมล็ดพันธุ์ไปปรับปรุงจนได้สายพันธฺุ์ที่ดี สำหรับแจกจ่ายให้เกษตรกรนำไปเพาะปลูก มีทั้งพืชผักสวนครัว ผักพื้นบ้าน สมุนไพร พืชตระกูลแตง และผลไม้อีกหลายชนิด ถ้าเพื่อนๆ อยากชมบรรยากาศในส่วนต่างๆ ของศูนย์ฯ ที่นี่ก็มีรถรางให้บริการ แถมยังมีเจ้าหน้าที่บรรยายให้ความรู้อีกด้วย  สำหรับผู้ที่มาทานอาหารที่ร้านจันกะผัก ก็มาเดินเล่นรอบๆ ศูนย์ฯ ได้นะ ใกล้ๆ ร้านอาหารมีสระน้ำขนาดใหญ่ เพื่อนๆ สามารถไปให้อาหารปลาและเป็ด หรือนั่งเล่นเพลินๆ ได้ค่ะ ร้านจันกะผัก (ภายในศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ )ที่ตั้ง 905 ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงรายพิกัด : https://goo.gl/maps/Sz57cMbzcUqdv58k6เปิดทุกวัน เวลา 07.30-21.00 น.โทร. 053 733 734

ร้าน “จันกะผัก” จังหวัดเชียงราย อ่านเพิ่มเติม

พาเที่ยว สองวัน สองสมุทร

สมุทรสาคร-สมุทรสงคราม 2 วัน 1 คืน.วันที่ 1– หมู่บ้านเบญจรงค์ดอนไก่ดี– อุทยานประวัติศาสตร์พันท้ายนรสิงห์– สะพานแดง จุดชมวิวปลาโลมา– ตลาดน้ำคลองสนามไชย– สะพานไม้สายรุ้ง– ตลาดน้ำอัมพวา– ร้านรัญจวน.วันที่ 2– ตลาดน้ำท่าคา– อาสนวิหารแม่พระบังเกิด– ร้านคนทีริมน้ำ@ บ้านดารา– สวนมะนาวโห่ลุงศิริ หมู่บ้านเบญจรงค์ดอนไก่ดี เกิดจากการรวมกลุ่มของคนในหมู่บ้านที่เคยทำงานในโรงงานชามตราไก่ และได้นำความรู้ในการผลิตและเขียนลายมาต่อยอด จนกลายเป็นเครื่องเบญจรงค์ดอนไก่ดีมาจนถึงทุกวันนี้.หมู่บ้านเบญจรงค์ดอนไก่ดีได้รับรางวัลมากมาย ทั้งรางวัลสินค้า OTOP ระดับ 5 ดาว รางวัลชุมชนดีเด่นด้านการท่องเที่ยว ฯลฯ.ภายในหมู่บ้านมีพิพิธภัณฑ์และร้านขายเครื่องเบญจรงค์อยู่หลายร้าน ได้แก่ อุไรเบญจรงค์ แดงเบญจรงค์ และหนูเล็กเบญจรงค์ เป็นต้น.เพื่อนๆ สามารถเข้าไปชมความประณีตสวยงามของเครื่องเบญจรงค์ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายค่ะ สำหรับใครที่อยากทดลองลงมือวาดลายเครื่องเบญจรงค์ด้วยตัวเอง ที่ร้านอุไรเบญจรงค์ก็มีกิจกรรม workshop ให้ทำด้วย ค่าใช้จ่ายคนละ 400 บาท ใช้เวลาวาดประมาณ 1 ชั่วโมง.แต่ถ้ากล้วว่าจะยากเกินไป ที่นี่เค้าก็มีสาธิตให้ชมค่ะ.ที่ตั้ง หมู่ 1 ตำบลดอนไก่ดี อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาครเปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.พิกัด : https://goo.gl/maps/1Auudthas7mWph1m9โทร. 081 861 4626 (ร้านอุไรเบญจรงค์) ✨อุทยานประวัติศาสตร์พันท้ายนรสิงห์✨ สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความซื่อสัตย์และจงรักภักดีของพันท้ายนรสิงห์ โดยเมื่อครั้งที่พระเจ้าเสือแห่งกรุงศรีอยุธยาเสด็จประพาสปากน้ำเมืองสาครบุรี (สมุทรสาครในปัจจุบัน) ครั้นถึงคลองโคกขามซึ่งเป็นคลองที่คดเคี้ยวมากนั้น พันท้ายนรสิงห์ซึ่งเป็นนายท้ายเรือไม่สามารถคัดท้ายเรือได้ทัน ทำให้โขนเรือพระที่นั่งชนกับกิ่งไม้ใหญ่จนหัก พันท้ายนรสิงห์จึงกราบบังคมทูลพระเจ้าเสือให้ประหารชีวิตตนตามกฎมณเฑียรบาล เพื่อรักษากฎหมายและเพื่อไม่ให้ผู้ใดติเตียนพระองค์ได้.ภายในบริเวณอุทยานฯ มีศาลพันท้ายนรสิงห์ ศาลแม่ศรีนวล ภรรยาของท่าน รวมทั้งไม้ตะเคียนซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นหลักประหารเก่า นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินศึกษาป่าชายเลนอีกด้วย.ที่ตั้ง ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาครเปิดทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.พิกัด : https://goo.gl/maps/uixn2K7n2gz3A74c9 สะพานแดง จุดชมวิวปลาโลมา เป็นจุดชมวิวริมทะเล ที่สามารถชมป่าชายเลนและดูพระอาทิตย์ตกได้ ถ้ามาในช่วงเดือนพฤศจิกายน-มกราคม เรายังสามารถชมปลาโลมาที่อพยพมาอยู่ในบริเวณนี้ได้อีกด้วย บริเวณใกล้กันมีศาลเจ้าพ่อมัจฉาณุที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือ โดยเฉพาะผู้ที่ทำอาชีพประมง มักจะมากราบไหว้ก่อนออกเรือ.ที่ตั้ง ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาครพิกัด : https://goo.gl/maps/gpXfx3SPJp2Jkwfw7 ตลาดน้ำคลองสนามไชย ถ้าใครเริ่มหิว ก็มาแวะหาของอร่อยทานกันได้ เพราะที่นี่มีร้านค้ามากกว่า 30 ร้าน มีทั้งอาหารและของหวานให้เลือกมากมาย แอดลองชิมมาแล้ว อร่อยทุกร้านเลยล่ะ  ที่ตั้ง ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาครเปิดวันเสาร์-วันอาทิตย์ เวลา 09.00-16.00 น.พิกัด : https://goo.gl/maps/b41VN7yPn6qxNiZH6โทร. 093 505 4554 สะพานไม้สายรุ้ง เป็นสะพานไม้สีสันสดใสที่ยืนออกไปในทะเล เหมาะสำหรับชมวิวและไปถ่ายรูปเก๋ๆ.สะพานนี้ตั้งอยู่ที่ชายทะเลบ้านกาหลง ซึ่งบริเวณนี้มีสะพาน 2 แห่ง เป็นสะพานไม้และสะพานปูนตั้งอยู่ใกล้ๆ กัน มีชื่อว่า “สะพานสายรุ้ง” ทั้งคู่ โดย “สะพานไม้สายรุ้ง” นั้นตลอดพื้นทางเดินของสะพานทาด้วยสีสันที่สดใส ส่วน “สะพานสายรุ้ง” ที่เป็นสะพานปูนจะทาสีบริเวณขอบปูนริมทางเดิน.ที่ตั้ง ตำบลกาหลง อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาครพิกัด : https://goo.gl/maps/pmN5cmDEordVySk49 ตลาดน้ำอัมพวา จากสมุทรสาคร เราเดินทางต่อมาที่สมุทรสงคราม มาชอปปิ้งกันที่ตลาดน้ำอัมพวา ใกล้กับวัดอัมพวันเจติยาราม ที่นี่เป็นตลาดน้ำยามเย็นริมคลอง มีร้านค้าตั้งเรียงรายตลอดสองฟากฝั่ง ถ้าเพื่อนๆ มาที่นี่รับรองได้ของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านอย่างแน่นอน.ที่ตั้ง ตำบลอัมพวา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงครามเปิดวันศุกร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 12.00-20.00 น.พิกัด : https://g.page/amphawa?share ร้านรัญจวน ปิดท้ายวันแรกของการเดินทางกับร้านรัญจวน ร้านอาหารไทยริมแม่น้ำแม่กลองแห่งนี้ เจ้าของร้านตั้งใจนำเสนออาหารสูตรของคุณย่าที่ได้ทานมาตั้งแต่เด็ก รวมทั้งวัตถุดิบขึ้นชื่อของจังหวัดสมุทรสงคราม ทั้ง กุ้ง หอย ปู ปลา กะปิ และมะพร้าว .ที่ตั้ง ถนนวัดนางวัง ตำบลอัมพวา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงครามเปิดวันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์ ยกเว้นวันจันทร์ที่ตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์) เวลา 12.00-22.00 น.โทร. 099 242 6566 ที่นี่มีอาหารอร่อยหลายเมนู แต่ที่ห้ามพลาดเลยก็คือ เมนู “ทะเลเผา” ประกอบด้วย กุ้งแม่น้ำเผา กุ้งแชบ๊วยเผา และหมึกย่าง  ซึ่งกุ้งแม่น้ำก็เป็นกุ้งที่ชาวบ้านตกกันริมเขื่อนนี่แหละ บอกเลยว่าทั้งกุ้งและปลาหมึกเนื้อสดและเด้งมาก น้ำจิ้มก็แซ่บ ฟินสุดๆ “ชุดน้ำพริกกะปิกุ้งต้มเค็ม” พระเอกของเมนูนี้ก็คือ น้ำพริกกะปิที่ทำจากกะปิคลองโคนแท้ๆ รสชาติเข้มข้น เผ็ดจี๊ดจ๊าดถึงใจ ยิ่งทานคู่กับกุ้ง ผักสด และชะอมชุบไข่ทอด ยิ่งอร่อย ตลาดน้ำท่าคา เริ่มต้นวันที่ 2 ด้วยการไปหาของอร่อยทานที่ตลาดน้ำท่าคากันดีกว่าค่ะ ตลาดน้ำแห่งนี้ยังคงความเป็นธรรมชาติและวิถีชีวิตของชาวบ้านเอาไว้มาก โดยจะมีชาวบ้านพายเรือมาขายอาหาร และพืชผลทางการเกษตรต่างๆ อาหารจานเด็ดที่ต้องห้ามพลาดคือ หอยทอดสูตรโบราณและผัดไทยกุ้งสด.นอกจากนี้ยังมีบริการล่องเรือชมสวนมะพร้าว ค่าเรือลำละ 200 บาทด้วย.ที่ตั้ง ตำบลท่าคา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงครามเปิดวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 06.00-15.00 น.พิกัด : https://goo.gl/maps/94NDutGTWu8W3Fg87 อาสนวิหารแม่พระบังเกิด เป็นโบสถ์คริสต์ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิค สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2433 โดยบาทหลวงเปาโลซัลมอน มิชชันนารีชาวฝรั่งเศส ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 6 ปี ภายในประดับด้วยกระจกสีงดงาม มีรูปปั้น ธรรมาสน์เทศน์ และรูปแกะสลักบรรยายเกร็ดประวัติในศาสนาคริสต์.ที่ตั้ง ตำบลบางนกแขวก อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงครามเปิดวันพุธ-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์-อังคาร หรือวันที่มีพิธีกรรมในโบสถ์ **แนะนำให้ติดต่อล่วงหน้า)– วันพุธ-เสาร์ เวลา 08.00-16.00 น.– วันอาทิตย์ เวลา 10.00-16.00 น.พิกัด : https://goo.gl/maps/2WfrHPBW3jU33KfG7โทร. 034 761 346-7, 085 955 7783 ร้านคนทีริมน้ำ@ บ้านดารา ร้านอาหารไทยพื้นบ้านริมแม่น้ำแม่กลอง ถ้าใครอยากทานอาหารไทยโบราณรสชาติจัดจ้าน แนะนำให้มาที่นี่เลยค่ะ เมนูแนะนำได้แก่ มัสมั่นไก่

พาเที่ยว สองวัน สองสมุทร อ่านเพิ่มเติม

ร้านโกปี๊ฮับ : บางแสน

โกปี๊ฮับ คือร้านติ่มซำชื่อดังของบางแสน ที่มีติ่มซำให้เราเลือกทานมากกว่า 30 เมนู และต้องบอกเลยว่าแต่ละเมนูเด็ดๆ ทั้งนั้น “โกปี๊” เป็นภาษามลายู แปลว่า กาแฟ ส่วน “ฮับ” (hub) ก็คือศูนย์รวม “โกปี๊ฮับ” จึงหมายถึง สภากาแฟ ที่รวมความอร่อยเอาไว้นั่นเอง ซึ่งนอกเหนือจากความอร่อยแล้ว ที่นี่ยังตกแต่งร้านในบรรยากาศสบายๆ สไตล์ย้อนยุค ดูแล้วสะดุดตามากๆ  เมื่อเข้ามาในร้าน ทางร้านก็จะนำน้ำชาร้อนๆ มาเสิร์ฟให้ถึงโต๊ะแบบฟรีๆ และถ้าดื่มหมดแล้วก็ยังสามารถขอเติมได้อีกด้วย มาดูเมนูอาหารกันบ้าง.สำหรับเมนูขึ้นชื่อต้องยกให้จานนี้ “ก๋วยเตี๋ยวหลอด” ซึ่งอร่อยจนหลายคนยกให้เป็นนัมเบอร์วันของร้าน ต่อมาก็ต้องเป็น “กุ้งเส้นลุยสวน” มองเผินๆ อาจจะดูคล้ายกุ้งอบวุ้นเส้น แต่พอได้ลองชิมแล้วกลับไม่ใช่อย่างที่คิด เพราะรสชาติของน้ำซอสออกหวานนำ แถมยังเข้มข้นมากๆ โดยรวมแล้วแอดชอบมากเลย  “บะหมี่หยกหมูทรงเครื่อง” ก็เป็นอีกเมนูที่ไม่ควรพลาด เพราะเส้นมีความเหนียวนุ่ม หมูก็ละมุนลิ้นสุดๆ นอกจากติ่มซำแล้ว ที่นี่ก็ยังมีเมนูทานเล่นอื่นๆ อีกนะคะ อย่าง “เกี๊ยวซ่าหมู” จานนี้ บอกเลยว่าเค้าทอดออกมาได้กรอบมาก ส่วนไส้ก็แน่นเวอร์ อยากให้ลองจริงๆ ค่ะ สำหรับใครที่ไม่ชอบดื่มชาร้อน ร้านโกปี๊ฮับเค้าก็มีเครื่องดื่มเย็นๆ อย่างโอเลี้ยง กาแฟเย็น ชานมเย็น และอื่นๆ ให้เลือกด้วย ถ้าเพื่อนๆ มาเที่ยวบางแสน ก็อย่าลืมแวะทานติ่มซำที่ร้านโกปี๊ฮับนะคะ รับรองว่าจะต้องถูกใจแน่นอน ร้านโกปี๊ฮับ ที่ตั้ง 420 ถนนลงหาดบางแสน ตำบลแสนสุข อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรีเปิดทุกวัน– วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 19.30 น.– วันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 07.30 – 20.00 น.โทร. 087 893 7435พิกัด https://goo.gl/maps/BwfhgBJ3DcakVrwW7

ร้านโกปี๊ฮับ : บางแสน อ่านเพิ่มเติม

เที่ยวชิคๆ @ปราจีนบุรี

หากคิดถึงที่เที่ยวที่ไม่ไกลจากกรุงเทพนัก จังหวัดปราจีนบุรีก็เป็นจังหวัดหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับการเดินทางไปพักผ่อน จะไปแบบ One day Trip เช้าไปเย็นกลับ หรือจะพักสักคืน ให้ได้บรรยากาศชิลๆ ก็ได้หมด ถ้าสดชื่น วันนี้แอดมีที่เที่ยวแบบชิคๆ ของจังหวัดปราจีนบุรีมาแนะนำ พร้อมแล้วก็ไปกันเลยจ้า… ก่อนจะไปเที่ยวก็ขอเติมพลังสักหน่อยกับ “Cafe’ Kantary 304” ร้านกาแฟสุดชิคของจังหวัดปราจีนบุรี ภายในแบ่งเป็น 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นเคาน์เตอร์สั่งเครื่องดื่มและอาหาร มีโต๊ะให้นั่งทั้งด้านในและด้านนอก และมีมุมขายของที่ระลึกของทางร้าน พอเดินขึ้นมาชั้นสองจะเป็นโซนที่นั่งสไตล์ชิลๆ ขึ้นมาอีกนิด บนผนังภายในร้านตกแต่งด้วยงานศิลปะกราฟฟิตี้ของเจ้า “มาร์ดี (Mardi)” ที่ทำให้ไม่ว่ามุมไหนๆ ก็น่าถ่ายรูปไปหมด อยากจะบอกว่านอกจากที่นี่จะเป็นคาเฟ่สุดน่ารักแล้ว ก็ยังครบในเรื่องกินอีกด้วย มีทั้งเครื่องดื่ม เค้ก เครป แพนเค้ก อาหารฟิวชัน คือดีย์ ชมบรรยากาศร้านไปแล้วก็มาลองชิมเครื่องดื่มกันบ้าง กับ Chocolate Cream Frappé (ราคา 100 บาท) รสชาติเข้มข้น หวานกำลังดี ท็อปด้วยวิปครีมจุกๆ และเอาใจคนรักชาเขียว อย่าง Iced Milk Green Tea (ราคา 100 บาท) ชาเขียวเข้มข้นมากขอบอกเลยค่า ร้านคาเฟ่ แคนทารี สาขา 304 ปราจีนบุรีที่อยู่ : 689 หมู่ 10 ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรีเปิดทุกวัน เวลา 07.00-22.00 น.โทร. 037 239 777 มาต่อกันที่ “กลุ่มจักสานใบลานบ้านทับลาน” ที่นำเอาใบลานมาแปรรูป สร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์สุดเก๋ไก๋ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า หมวก โคมไฟ หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ตามความต้องการของลูกค้า ราคาเริ่มต้นที่ 25 บาท ไปจนถึง 4,500 บาท ถือเป็นอะไรที่ว้าวมากสำหรับแอด ที่ผลิตภัณฑ์จากใบลานสามารถสร้างมูลค่าได้มากขนาดนี้ ยังไม่พอนะ ทุกวันนี้ยังมีหน่วยงานต่างๆ ให้ความสนใจมาศึกษาดูงานอีกเป็นจำนวนมากเลยด้วย . กลุ่มจักสานใบลานบ้านทับลานที่อยู่ : 525 หมู่ที่ 1 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรีโทร. 089 831 3369 เอาใจคนรักบอนไซกับ “สวนลุงประเสริฐ” ที่ขึ้นชื่อในเรื่องการจัดบอนไซและสวนถาดมะสัง ที่หมู่บ้านดงบัง แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรขึ้นชื่อของปราจีนบุรี เข้ามาในสวนก็เห็นคุณลุงกำลังนั่งตกแต่งบอนไซและต้นมะสัง แถมยังสาธิตวิธีการดัดกิ่งบอนไซให้เราดูด้วย ที่นี่มีต้นบอนไซหลากหลายชนิด ซึ่งกว่าจะได้ออกมาเป็นต้นบอนไซแต่ละต้นใช้เวลาเป็นปีเลยนะคะ นับว่าต้องอาศัยทั้งความรักและความอดทนมากทีเดียวค่ะ สุดยอดมากๆ เลย. สวนบอนไซลุงประเสริฐ กลุ่มไม้ดอก-ไม้ประดับที่อยู่ : บ้านดงบัง ต.ดงขี้เหล็ก อ.เมือง จ.ปราจีนบุรีโทร. 096 925 6250 เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่อยากจะแนะนำให้ไปจริงๆ ค่ะ สำหรับ “อ่างเก็บน้ำนฤบดินทรจินดา” อ่างเก็บขนาดใหญ่ที่มองเห็นวิวสวยสุดลูกหูลูกตา และที่สำคัญเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรด้วย บรรยากาศดี น่าไปสัมผัสมากๆ เลยค่ะ ใครที่ชอบถ่ายรูปจะต้องฟินแน่ๆ เพราะทิวทัศน์ริมเขื่อนสวยมากทีเดียวค่ะ. อ่างเก็บน้ำนฤบดินทรจินดาที่อยู่ : ต.แก่งดินสอ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรีโทร. 037 629 277 “วัดรัตนเนตตาราม (วัดล้านหอย)” ทำไมถึงต้องล้านหอย? พอมาถึงวัดก็ต้องร้องอ๋ออออ…แบบลากเสียงยาวเลยทีเดียว เพราะสถาปัตยกรรมต่างๆ ภายในวัดนั้นล้วนตกแต่งด้วยเปลือกหอยสีสันต่างๆ นั่นเอง สวยงามแปลกตามากๆ เลย ซึ่งการนำเปลือกหอยนานาชนิดมาประดับตกแต่งสิ่งก่อสร้างต่างๆ ภายในวัดนั้น ก็เป็นไอเดียของเจ้าอาวาสที่ต้องการให้คนเข้าวัดกันมากขึ้น ซึ่งนับว่าได้ผลมากทีเดียว เพราะในแต่ละวันมีประชาชนมาเยี่ยมเยือนวัดนี้กันอย่างไม่ขาดสาย เรียกว่ามาที่เดียวได้ทั้งเที่ยวและยังได้บุญด้วย. วัดรัตนเนตตาราม (วัดล้านหอย)ที่อยู่ : ซ.เทศบาลตำบลนาดี 30 ต.สำพันตา อ.นาดี จ.ปราจีนบุรีโทร. 089 963 9323 มาเที่ยวปราจีนฯ ทั้งที เราก็มีที่พักชิคๆ มาแนะนำ อย่าง “Serenity Hotel & Spa Onsen Kabinburi” ที่พักพร้อมออนเซ็นในสไตล์ญี่ปุ่น สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ครบมาก แถมเดินทางสะดวก เพราะอยู่ติดถนนสายหลักกบินทร์บุรีเลย ภายในตกแต่งคุมโทนด้วยสีพาสเทลอบอุ่นสบายตา ให้ความรู้สึกผ่อนคลายในวันพักผ่อนจริงๆ ค่ะ ยิ่งได้แช่ออนเซ็นหลังจากเที่ยวเหนื่อยมาทั้งวันแบบนี้ หลับสบายสุดๆ.สำหรับใครที่ไม่ได้มาพัก ก็สามารถมาใช้บริการออนเซ็นได้นะคะ คิดค่าบริการ วันจันทร์-ศุกร์ ราคาคนละ 250 บาท และวันเสาร์-อาทิตย์ ราคาคนละ 300 บาท. เซเรนิตี้ โฮเทล แอนด์ สปา กบินทร์บุรีที่อยู่ : 222 หมู่ที่ 9 ถ.สุวรรณศร ต.เมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรีโทร. 063 216 3668, 037 625 444, 037 625 445

เที่ยวชิคๆ @ปราจีนบุรี อ่านเพิ่มเติม

Seafood Club Bangsaen

Seafood Club Bangsaen เป็นร้านอาหารที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการได้ไม่นาน แต่ด้วยสไตล์การตกแต่งที่สวยงามและดูมีชีวิตชีวา ก็ทำให้นักท่องเที่ยวให้ความสนใจกันเป็นจำนวนมากค่ะ สำหรับใครที่มาเพื่อถ่ายรูป แอดบอกเลยว่าที่นี่มีมุมถ่ายรูปสวยๆ เต็มไปหมด แต่อาจจะต้องรอสักนิดเพราะคนค่อนข้างเยอะ.ระหว่างนี้เราไปสั่งอาหารมาทานกันก่อนดีกว่า  สำหรับอาหารของที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นซีฟู้ด เริ่มกันที่ “ข้าวผัดกุ้ง” หลายคนอาจจะคิดว่าดูธรรมดา แต่เฮ้ย อร่อยนะเนี่ย หรือถ้าอยากหาอะไรทานเล่นเบาๆ ก็ต้องนี่เลย “เฟรนช์ฟรายส์ทอด” ส่วนใครที่คิดว่ามาทะเลทั้งทีก็ต้องทานกุ้งตัวโตๆ คำใหญ่ๆ ต้องลองเมนูนี้เลย “กุ้งอบวุ้นเส้น” ดูสิคะ กุ้งตัวใหญ่น่าทานมากๆ และขอบอกเลยว่าเมื่อได้ลองชิมจะยิ่งใจละลาย เพราะฟินมาก อร่อยเว่อร์ๆ นอกจากอาหารแล้ว เมนูเครื่องดื่มต่างๆ ของที่นี่ ก็เป็นอะไรที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง มีให้เลือกหลากหลาย น่าทานทั้งนั้นเลย อย่างที่บอกไปว่าที่นี่มีมุมถ่ายรูปเยอะมาก ยิ่งถ้ามาช่วงบ่ายๆ เย็นๆ เราจะได้เห็นแสงสีส้มของพระอาทิตย์ที่ตัดกับสีครามของน้ำทะเล ถ่ายรูปออกมาแล้วสวยสุดๆ.ปล.แอดไปตอนเที่ยง แอบเสียใจเบาๆ  นอกจากนี้ ในช่วงค่ำคืนยังมีการแสดงโชว์ควงกระบองไฟที่น่าตื่นตาตื่นใจ และดนตรีสดที่แสนจะไพเราะอีกด้วย บอกเลยว่าไม่ควรพลาดจ้า ขอบคุณรูปภาพสวยๆ จาก Seafood Club Bangsaen Seafood Club Bangsaen ที่ตั้ง 4/5 สุขุมวิทซอย 22 ตำบลแสนสุข อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรีเปิดทุกวัน เวลา 11.30 – 23.00 น.โทร. 085 678 9531

Seafood Club Bangsaen อ่านเพิ่มเติม

โกงกาง คาเฟ่ เกาะยอ

โกงกางคาเฟ่ เกาะยอ คาเฟ่ชิลๆ วิวธรรมชาติริมทะเลสาบสงขลา ตกแต่งสไตล์ลอฟท์ โทนสีเทาๆ เท่ๆ มีที่นั่งทั้งในห้องแอร์และด้านนอก ที่มาของชื่อร้านก็มาจาก ต้นโกงกาง ที่ตั้งอยู่ด้านหลังของร้านนั่นเอง เมนูของร้านมีทั้งของทานเล่น เค้ก และเครื่องดื่ม แอดปลื้มเค้กเป็นพิเศษ เพราะที่นี่มีให้เลือกเยอะมากเลยค่ะ เริ่มต้นด้วยเค้กช็อกโกแลตหน้านิ่ม ที่หวานกำลังดี กับบลูฮาวายเย็นๆ ทานแล้วสดชื่นนน เฟรนช์ฟรายส์ฟินๆ ก็มา ไปทะเลทั้งทีก็ต้องไม่พลาดเค้กมะพร้าว เค้กเนื้อนุ่ม ไม่หวานจนเกินไป ทานคู่กับช็อกโกแลตสตรอว์เบอร์รี ที่แบ่งชั้นไว้เก๋ๆ แนะนำให้คนก่อนดื่มนะ รสชาติเข้ากันได้ดีเลยล่ะ เดินมาด้านหลังร้านจะมีต้นโกงกาง เป็นมุมถ่ายรูปที่เก๋ไก๋ไม่น้อย บอกเลยอากาศดีมาก .ขอขอบคุณรูปภาพจากเพจ โกงกางคาเฟ่ เกาะยอ บริเวณนี้ติดกับทะเลสาบสงขลา เราสามารถมองเห็นกระชังเลี้ยงปลาของชาวบ้านเกาะยอได้ด้วย มาชมพระอาทิตย์ตกกัน บรรยากาศช่วงโพล้เพล้แบบนี้ก็สวยไปอีกแบบนะ ที่ตั้ง 13 บ้านสวนใหม่ ตำบลเกาะยอ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลาเปิดวันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์)วันอังคาร-ศุกร์ เวลา 11.00-18.00 น.วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-19.00 น.พิกัด https://goo.gl/maps/2KcfHd4HUkVjzeEDA

โกงกาง คาเฟ่ เกาะยอ อ่านเพิ่มเติม

D.I.Y. Do it for you ทำงานฝีมือไปฝากคนรู้ใจ

เทศกาลวาเลนไทน์ใกล้เข้ามาแล้วว หลายๆ คนคงจะเริ่มวางแผนแล้วว่า วันแห่งความรักแบบนี้จะทำอะไรให้คนรู้ใจดีนะ วันนี้แอดจึงรวบรวมสถานที่สำหรับทำ D.I.Y เผื่อใครอยากจะทำของน่ารักๆ ด้วยฝีมือตัวเองไปมอบให้เป็นของขวัญสุดพิเศษไม่ซ้ำใคร จินนาลักษณ์ miracle of saa มาดูของฝากน่ารักๆ อย่างกระดาษสากัน สามารถมอบให้กับสาวๆ หรือผู้ใหญ่ก็ยังได้ ที่นี่เป็นศูนย์การเรียนรู้การทำกระดาษสาแบบดั้งเดิม และเป็นศูนย์จำหน่ายของที่ระลึกที่ทำจากกระดาษสา มีความกิ๊บเก๋อยู่ตรงที่เราสามารถออกแบบตกแต่งกระดาษสาได้เองด้วย ค่าใช้จ่ายกิจกรรม DIY กระดาษสา มี 2 แบบ คือ– ทำกระดาษสา พร้อมใส่กรอบไม้ ราคา 500 บาท– ทำกระดาษสาอย่างเดียว ไม่ใส่กรอบ (ทางร้านจะส่งไปรษณีย์ไปให้ที่บ้าน) ราคา 190 บาท นอกจากนี้ยังมีของฝากน่ารักๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นกรอบรูป พัด หรือกล่องใส่ของ.ที่ตั้ง หมู่ 1 บ้านปางห้า ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย จ.เชียงรายเปิดทุกวัน เวลา 08.30 – 17.00 น.โทร. 064 679 7470, 081 883 9062 ครามสกล การนำผ้ามาย้อมกับสีธรรมชาติที่ได้จากพืชท้องถิ่นอย่าง “ต้นคราม” เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวจังหวัดสกลนคร ที่สืบทอดกันมาหลายต่อหลายรุ่น สำหรับใครที่อยากจะลงมือทำผ้าย้อมครามด้วยตัวเองในแบบฉบับ D.I.Y. แอดแนะนำร้านผ้าย้อมคราม @ครามสกลเลย เพราะที่นี่มีวิทยากรมาคอยสอนและสาธิตขั้นตอนการทำอย่างใกล้ชิด ซึ่งที่ร้านก็มีลวดลายเก๋ๆ ให้เลือกเยอะมาก หรือใครจะครีเอทออกมาเองให้เก๋ไก๋ไม่ซ้ำแบบใครก็ได้ สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจผลิตภัณฑ์จากผ้าคราม ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ และของใช้ต่างๆ ซึ่งปัจจุบันเค้าพัฒนาดีไซน์ได้เก๋ไก๋ เป็นที่ชื่นชอบของวัยรุ่นมากๆ สามารถเข้าไปเยี่ยมชมตัวอย่างผลิตภัณฑ์ได้ที่ Facebook : KhramSklKramsakon หรือถ้าใครสนใจอยากลองทำผ้าย้อมครามเก๋ๆ ก็สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ร้านผ้าย้อมคราม @ครามสกล-Kramsakon ที่ตั้ง บ้านพะเนาว์ ต.ห้วยยาง อ.เมือง จ.สกลนครเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น.Line id : @kramsakonโทร 080 582 6655 บ้านด่านเหนือแพรฝ้าย พูดถึงกาฬสินธุ์ หลายคนก็คงนึกถึงไดโนเสาร์และผ้าทอใช่มั้ย แอดจะพาไปทำความรู้จักกับชุมชนกลุ่มทอผ้ามัดหมี่และหมอนขิดที่บ้านด่านเหนือ ซึ่งที่นี่เป็นแหล่งผลิตและจำหน่ายผ้าฝ้ายทอมือ ผ้าขาวม้า ผ้าห่ม ผ้ามัดหมี่ และตุ๊กตาไดโนเสาร์นั่นเองค่ะ และเราก็สามารถลงมือทำกิจกรรม DIY ทำตุ๊กตาไดโนเสาร์ และพวงกุญแจได้ด้วย เราจะได้ลงมือทำทุกขั้นตอน ตั้งแต่การตัดผ้า ยัดนุ่น ไปจนถึงเย็บให้เป็นตุ๊กตา บอกเลยว่าทั้งสนุกและได้ความรู้มากมายเลย เหมาะที่จะพาคนรู้ใจไปนั่งทำกิจกรรมร่วมกันมากๆ หากเพื่อนๆคนไหนสนใจกิจกรรม DIY การทำตุ๊กตาไดโนเสาร์ หรือพวงกุญแจ ต้องติดต่อล่วงหน้านะคะ ที่ตั้ง 116/2 บ้านด่านเหนือ ต.โพนงาม อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์โทร. 081 739 1434 คุณนัฐพร มหิพันธุ์ (ผู้จัดการ) Cocoa Valley วาเลนไทน์เราจะพลาดช็อกโกแลตได้ไง สำหรับใครที่อยากจะให้ของขวัญคนที่เรารักเป็นช็อกโกแลตหวานๆ แอดแนะนำที่นี่เลย เราสามารถทำช็อกโกแลตได้ด้วยตัวเอง เริ่มตั้งแต่เก็บผลโกโก้ในสวน ไปจนถึงขั้นตอนการทำ เรียกได้ว่าเป็นฝีมือของเราจริงๆ เลยล่ะ กิจกรรมใช้เวลา 45 นาที ราคาคนละ 350 บาท ที่ตั้ง 339 หมู่ 8 ต.ปัว อ.ปัว จ.น่านเปิดทุกวัน เวลา 10.00 – 18.00 น.โทร 063 791 1619 Cocoa Valley เป็นทั้งรีสอร์ทสไตล์ลอฟท์ และยังมีโซนคาเฟ่ด้วย มีทั้งเบเกอรี และเครื่องดื่มที่ใช้ผลผลิตจากสวนโกโก้ของเค้าเองด้วยนะ เมืองไม้บาติก จังหวัดร้อยเอ็ด ผ้าบาติกของที่นี่มีเอกลักษณ์คือ นำผ้าไหมที่ขึ้นชื่อของร้อยเอ็ดมาเพนต์ลายแบบบาติก โดยใช้สีสันโทนธรรมชาติและลวดลายกราฟิกที่แปลกตา บาติกผ้าไหมมีเทคนิควิธีการทำเหมือนกับผ้าบาติกของภาคใต้ ต่างเพียงแค่สีและลวดลายเท่านั้น โดยเมืองไม้บาติกจะใช้สีโทนธรรมชาติไม่ฉูดฉาด และลวดลายจะเป็นลายธรรมชาติง่าย ๆ เช่น ปลา ใบไม้ ดอกไม้ หรือใยแมงมุม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของงานบุญผะเหวด งานบุญใหญ่ซึ่งเป็นประเพณีที่สำคัญของจังหวัดร้อยเอ็ด มีลายให้เลือกวาดเยอะมากๆ ที่สำคัญเราสามารถช่วยกันวาดได้ด้วยนะ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าไปทำกับคนรู้ใจมากๆ เลยล่ะ ใครอยากมาระบายสีผ้าบาติกแบบแอด มาได้ที่เมืองไม้บาติกเลย ที่ตั้ง 281 ต.นิเวศน์ อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ดเปิดวันจันทร์-เสาร์ เวลา 08.00 – 20.00 น. (ปิดวันอาทิตย์)โทร. คุณต่อศักดิ์ สุทธิสา 043 569 048, 081 261 4800

D.I.Y. Do it for you ทำงานฝีมือไปฝากคนรู้ใจ อ่านเพิ่มเติม

ตะลุยกินริมเจ้าพระยา…ท่าดินแดง

วันหยุดว่างๆ แอดเลยปิ๊งไอเดีย  นั่งเรือไปหาอะไรกินดีกว่าเดินทางง่าย ราคาไม่แพงด้วย .แอดเลือกไปที่ท่าดินแดง หนึ่งในย่านการค้าดั้งเดิมของกรุงเทพฯ อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งธนบุรี เป็นที่ตั้งของชุมชน มีผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ.แอดใช้บริการเรือข้ามฟากจากท่าเรือท่าราชวงศ์มาที่ท่าเรือท่าดินแดง ค่าบริการ คนละ 3.50 บาท เท่านั้น .ท่าดินแดงมีร้านไหนน่าชิม ลิ้มลอง เข้ามาอ่านได้เลย ท่าดินแดง เป็นอีกหนึ่งย่านที่น่าสนใจในเรื่องของอาหารอร่อยห้ามพลาดที่ต้องตามไปทาน ที่เดียวได้ทั้งของคาวและของหวานเลยล่ะ อิ่มท้องแถมยังประหยัดอีกด้วย การเดินทางมาที่ท่าดินแดงในครั้งนี้ แอดใช้บริการเรือด่วนเจ้าพระยามาลงที่ท่าเรือท่าราชวงศ์ จากนั้นใช้บริการเรือข้ามฟากมาที่ท่าเรือท่าดินแดง ค่าบริการ คนละ 3.50 บาท เท่านั้น ใครมาท่าดินแดงคราวนี้จะอิ่มท้องและมีของติดไม้ติดมือกลับบ้านแน่นอน เริ่มกันที่ ร้านนมสดท่าดินแดง ร้านนี้เต็มไปด้วยเมนูนมค่ะ มีหลากหลายเมนูให้เลือกทั้งร้อนและเย็น ไม่ว่าจะเป็นนมสด กาแฟ ชาไทย นมชมพู นอกจากนี้ยังมีขนมปังหน้าต่างๆ อีกด้วย ใครอยากซื้อกลับบ้านทางร้านก็มีเช่นกันทั้งขนมปัง นมสดพร้อมดื่ม สังขยาเยิ้มๆ น่าทานมากๆ เอาล่ะ เราไปดูกันเลยว่าแอดสั่งอะไรมาทานบ้าง ทางร้านแนะนำ ชุดสังขยาใบเตย มีสังขยาให้เลือก 2 รสชาติด้วยกันคือสังขยาใบเตยและสังขยาไข่ ขนมปังนุ่มๆ จิ้มกับสังขยาเยิ้มๆ ละมุนสุดๆ เลยค่ะราคาชุดเล็ก 40 บาท / ชุดใหญ่ 60 บาท ต่อด้วยเค้กนมสด ชิ้นละ 15 บาท แป้งเค้กนุ่มฟู ที่สำคัญคือหอมมาก ทานคู่กับเครื่องดื่มเข้ากันมากๆ เลยล่ะ เมนูนี้แอดอยากให้ทุกคนลองชิม แนะนำๆ  – เปิดทุกวัน เวลา 12.00-21.00 น.– โทร. 02 863 1361– พิกัด : https://goo.gl/maps/htFQEcYrVXkG3KYY6  หลังจากดื่มนมกันแล้ว เดินต่อมาอีกนิดจะเห็นซอยท่าดินแดง 11 เดินเลี้ยวขวาเข้าไปประมาณ 30 เมตรก็จะเห็นร้านตั้งอยู่ทางขวามือ ก๋วยจั๊บเจ้หลา (เจ้าเก่า) ท่าดินแดง เป็นอีกหนึ่งร้านที่เปิดขายมายาวนานกว่า 10 ปี เห็นร้านเล็กๆ แบบนี้ แต่ลูกค้าเข้ามาต่อเนื่องแบบไม่ขาดสายเลยนะจะบอกให้ ก๋วยจั๊บที่ทางร้านขายจะเป็นก๋วยจั๊บน้ำข้น ราคาเริ่มต้น 40-50 บาท หรือใครชอบทานเกาเหลาร้านนี้ก็อร่อยไม่แพ้กันเลยล่ะ แอดบอกเลยว่ารสชาติเข้มข้นมาก ไม่ต้องปรุงก็อร่อย เส้นก๋วยจั๊บเหนียวนุ่มกำลังดี หมูกรอบชิ้นใหญ่ เลือดก็นุ่มกัดไปมีความ juicy เบาๆ – เปิดทุกวัน เวลา 09.30-15.00 น.– โทร. 085 905 3552– พิกัด : https://goo.gl/maps/YjbnubJXkZBaZi5J9 จัดเต็มกันต่อด้วยร้านตี๋ หมูสะเต๊ะ เจ้าดังของย่านนี้กันเลย ตั้งอยู่ริม ถ.ท่าดินแดง เดินตรงจากท่าเรือมาเรื่อยๆ จะสังเกตเห็นเตาหมูสะเต๊ะยาวๆ กำลังย่างไฟอยู่ น่าทานซะเหลือเกิน หมูสะเต๊ะของทางร้านมีให้เลือกทั้งแบบ หมูติดมัน หมูไม่ติดมัน และยังมีตับสะเต๊ะด้วย หน้าตาของเตาย่างหมูสะเต๊ะ เรียงกันแบบนี้เลยค่ะ หอมมากกกก แอดสั่งมา 10 ไม้เบาๆ ทั้งแบบหมูติดมันและไม่ติดมันเลย บอกเลยว่าหมูนุ่มมากๆ หอมกลิ่นเครื่องเทศ น้ำจิ้มก็ดี เข้มข้นและหอมถั่วมากกกกก ซึ่งแอดโปรดปรานที่สุด ทานคู่กับอาจาดก็อร่อยเข้ากัน ตัดเลี่ยนได้ดีเลยล่ะ แตงกวาสด กรอบ แอดจัดการเรียบเลย ฮ่าๆๆ นอกจากหมูแล้วยังมีตับสะเต๊ะอีกด้วยนะ ราคาก็จะแตกต่างกันไป เริ่มต้นที่ไม้ละ 7 บาท  พร้อมแล้วลุยเลย! หมูสะเต๊ะน้ำและจิ้มยั่วๆ จ้า หากใครแวะไปแถวท่าดินแดงต้องห้ามพลาดเลยนะ.ตี๋หมูสะเต๊ะ ท่าดินแดง– เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 07.30-23.00 น.(ปิดวันจันทร์เว้นจันทร์)– โทร. 02 437 1172– พิกัด : https://goo.gl/maps/gXHMZWUgrSfzCEeK7 มาต่อกันที่ ร้านเปาะเปี๊ยะสดเฮียไช้ อยู่ฝั่งตรงข้ามกับตี๋ หมูสะเต๊ะ เป็นร้าน street food ริมถนนท่าดินแดงค่ะ ร้านนี้เปิดมานานกว่า 70 ปี เรียกได้ว่าขายมาตั้งแต่รุ่นพ่อของเฮียไช้ ปัจจุบันได้ส่งต่อให้กับรุ่นหลานและยังเป็นร้านที่ลูกค้าติดใจไม่น้อยเลยล่ะ ร้านนี้เป็นสูตรโบราณและหาทานได้ยากแล้ว แอดได้เห็นกระบวนการห่อและส่วนประกอบต่างๆ ทุกอย่างสด ใหม่ น่าทานมากๆ แอดจัดมา 1 กล่อง บอกเลยว่าไส้แน่น ครบเครื่องและแป้งนุ่มไม่เหมือนร้านอื่น น้ำราดจะออกหวานๆ ทานคู่กับพริกมีรสชาติเปรี้ยวหน่อยๆ ตัดกันได้ดีเลยค่ะ ราคากล่องละ 50 บาท เปาะเปี๊ยะสดเฮียไช้ ท่าดินแดง– เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 09.00-14.00 น. (ปิดวันจันทร์)– โทร. 098 967 3343– พิกัด : https://goo.gl/maps/jGmbMrawDgNS3QWr5  จากร้านเปาะเปี๊ยะสดเฮียไช้ ปิดท้ายกันที่ ข้าวพระรามลงสรงท่าดินแดง เดินผ่านสีแยกท่าดินแดงไปไม่ถึง 5 นาที ร้านตั้งอยู่ทางขวามือค่ะ ข้าวพระรามลงสรงเป็นเมนูอาหารจีนโบราณ ที่ปัจจุบันหากินได้ค่อนข้างยาก แต่ละร้านรสชาติของอาหารก็จะมีความโดดเด่นแตกต่างกันไป ซึ่งแอดเองก็เคยได้ยินชื่อเมนูนี้มาหลายครั้ง เพิ่งได้ลองชิมก็ที่นี่เจ้าแรกนี่แหละ  ส่วนประกอบในเมนูนี้มี ข้าวสวย ผักบุ้งลวก และเนื้อหมู ราดด้วยน้ำราดคล้ายๆ น้ำสะเต๊ะ ปิดท้ายด้วยพริกเผา ราคาจานละ 40-50 บาท รสชาติจะออกหวานนิดๆ รับประทานกับน้ำพริกเผาแล้วเข้ากันมากๆ แอดอยากให้เพื่อนๆ ได้ลองมาทาน เพราะทุกวันนี้หาทานได้ยากจริงๆ ค่ะ ถ้าจะให้อร่อยยิ่งขึ้นต้องทานคู่กับกุนเชียงสูตรเด็ดของร้าน นุ่ม หวาน อร่อยมากกก ข้าวพระรามลงสรง ท่าดินแดง– เปิดวันอาทิตย์-ศุกร์ เวลา 06.30-15.30 น. (ปิดวันเสาร์)– โทร. 02 437 4513, 081 774 4124– พิกัด :

ตะลุยกินริมเจ้าพระยา…ท่าดินแดง อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top