เชียงราย

เชียงราย

Summer นี้ ที่ Chiang Rai

สวัสดีทุกคน หน้าร้อนแบบนี้ เพื่อน ๆ คงอยากจะไปเที่ยวทะเลกันใช่ไหมล่ะ เเต่! วันนี้แอดมิน มีที่ทางทางเหนือสุดชิคมานำเสนอ นั่นก็คือจังหวัดเชียงรายนั่นเอง ขอบอกเลยว่าเชียงรายไม่จำเป็นต้องเที่ยวหน้าหนาวเสมอไป ว่าเเต่แอดมินจะพาไปตะลอนเที่ยวที่ไหนบ้าง ตามมากันเลย! เริ่ม! วัดห้วยทรายขาว ตั้งอยู่ที่ อ.พาน เป็นวัดที่มีความสวยงาม อลังการตื่นตาตื่นใจมาก Feel like a Disneyland เลยก็ว่าได้ มีการผสมผสานสถาปัตยกรรมของ ไทย อินเดีย เเละเมียนมาไว้ด้วยกัน สีสันสดใส หามุมถ่ายรูปแบบปัง ๆ ได้เยอะมาก ไม่ได้เว่อนะ พูดจริง พิกัด: https://goo.gl/maps/kWfXgWbSAksiRuaR8 วัดหมื่นพุทธเมตตาคุณาราม ตั้งอยู่ที่ อ.แม่จัน เป็นวัดที่มีการสร้างเป็นศิลปะแบบจีน อลังการงานสร้างมาก ๆ ภายในมีพระศรีอารยเมตไตรย์โพธิสัตว์ องค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประดิษฐาน เเละยังมีการแกะสลักบันไดเป็นลวดลายต่าง ๆ ที่สวยงามเป็นอย่างมาก พิกัด: https://goo.gl/maps/vTyLcwEw6opgbDHm7 Street Art ดอยแม่สลอง บนดอยเขาก็มีงานอาร์ตให้ชมกันนะ นำเสนอเรื่องราวของชาวจีนแม่สลอง วิถีชีวิต และสถานที่สำคัญ โดย Street Art เหล่านี้จะอยู่บริเวณถนนวัฒนธรรมสินค้าท้องถิ่นของกินพื้นบ้านและตลอดถนนเส้นหลัก ดอยแม่สลอง หากเพื่อนคนไหนมาเที่ยวดอยแม่สลอง ต้องห้ามพลาดมาถ่ายรูปสุดคูลกับ Street Art กันนะ รับรองว่ามีรูปลง IG ไปอีก 1 ปี พิกัด: https://goo.gl/maps/X98VbfXW8CWWcZBR7 เพื่อน ๆ สามารถเริ่มเดินชมได้ตั้งเเต่หน้าเซเว่น ดอยแม่สลอง เดินมาเรื่อย ๆ จนถึงภัตตาคารวังพุดตาลได้เลย Riri Teahouse คาเฟ่ขนมหวานสไตล์ญี่ปุ่น ถูกโอบล้อมด้วยภูเขาเเละต้นไม้ มีลำธารไหลผ่าน ตกแต่งร้านในรูปแบบมินิมอล เรียบง่าย นั่งห้อยขาจิบชาเขียวได้อย่างสบายใจ หรือสายถ่ายรูปก็สามารถแต่งตัวสไตล์คาวาอี้ มาถ่ายรูปกันได้นะขอบอกเลยว่ามุมถ่ายรูปก็เยอะมากเช่นเดียวกัน ปังเหมียวกรุบ สำหรับที่นี่เราให้ 10 คะแนนเต็มเลย พิกัด: https://goo.gl/maps/TE4bqdrpkVxDWh3K8 ในส่วนของขนม ทางร้านมีเมนูให้เลือกมากมาย ทั้งมาเดอลีน, ดังโงะ 3 สี, วาราบิโมจิ และคากิโกริ เสิร์ฟพร้อมชาเขียวร้อน ๆ รับรองว่าดีสุด ๆ ไปเลย Sup Chiang Rai กิจกรรมสุดคูลสำหรับคนอย่างเรา สำหรับ Sup Chiang Rai จะมีการเล่นบริเวณลำน้ำกก เพื่อน ๆ สามารถเช่า SUP Board มาฝึกการ Self Balance หรือยืนพายชมวิวลำนำ้กกในยามเย็นได้ ยิ่งช่วงพระอาทิตย์ตกดิน ยิ่งสวยเข้าไปอีก ติดต่อเช่า SUP Board ได้ที่โทร 064 636 1554 พิกัด: https://goo.gl/maps/8ZSnn2iVXf2Vhm6t6 สวนคุณปู่ Life Museum ร้านกาแฟสุดชิลบนดอยผาหมี เหมาะกับการมา Workation มาก ๆ ให้บรรยากาศจิบกาแฟไป ทำงานไป มองวิวภูเขาที่สบายตา บริเวณร้านยังมีบ่อน้ำและทุ่งดอกไม้ เพื่อน ๆ สามารถหามุมถ่ายรูปแบบปังเหมียวกรุบกันได้เลย ห้ามพลาดนะ พิกัด: https://goo.gl/maps/o54HXZDTxEQroHhE9 ดอยช้างมูบ จุดชมวิวแบบพาโนรามาที่สามารถเห็นภูเขาสลับซับซ้อนกันเป็นชั้น ๆ บรรยากาศดีมาก ๆ เเละเพื่อน ๆ สามารถเห็นวิวของประเทศเมียนมาได้อีกด้วย สวยจริง ว่าไม่ได้ พิกัด: https://goo.gl/maps/MJTnK3ARCCRspd7FA เมืองโบราณเชียงแสน จุดเช็คอินสำหรับสายประวัติศาสตร์ บริเวณเมืองโบราณจะเป็นที่ตั้งของวัดในสมัยอาณาจักรล้านนาที่ยังคงความสมบูรณ์เเละสวยงาม เช่น วัดป่าสักวัดเจดีย์หลวง เป็นต้น พิกัด: https://goo.gl/maps/tBSSVkbuPPazwcJz8 วัดร่องขุ่น หากใครมาเชียงราย เเล้วไม่ได้มาวัดร่องขุ่นถือว่ามาไม่ถึงนะ วัดนี้ออกแบบและสร้างโดยอาจารย์ เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ มีการใช้วัฒนธรรมล้านนาผสมผสานกับการออกแบบที่วิจิตรเป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งมีการใช้สีขาวในการออกแบบพระอุโบสถ สวยงามและแปลกตาเป็นอย่างมาก บริเวณวัดยังมีประติมากรรมและสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ที่สวยงาม เพื่อน ๆ สามารถหามุมถ่ายรูปสุดคูลได้เลย ปังจริง ว่าไม่ได้ พิกัด: https://goo.gl/maps/JRfV8AwVpfKs5Pg76 จุดชมวิวเขื่อนแม่สรวย จุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดินสุดโรแมนติก ท้องฟ้า สายน้ำ เเละภูเขา เข้ากันได้ดีเลยทีเดียว อยู่ระหว่างทางขึ้นไปดอยช้าง เพื่อน ๆ สามารถเเวะจอดรถเพื่อมาชมวิวพระอาทิตย์ตกดินกันได้เลย มันดีต่อใจจริง ๆ นะ พิกัด: https://goo.gl/maps/PvXMbekTXCaR1aka7

Summer นี้ ที่ Chiang Rai อ่านเพิ่มเติม

เครื่องปั้นดินเผา ดอยดินแดง จังหวัดเชียงราย

วันนี้เอาใจเพื่อน ๆ สายอาร์ต พาไปเสพงานศิลป์ที่ ✨ เครื่องปั้นดินเผา ดอยดินแดง จังหวัดเชียงราย ✨ ใครที่ชอบเครื่องปั้นเซรามิก ไม่ควรพลาด เพราะนอกจากจะได้โอกาสซื้อหาเครื่องปั้นดินเผางานแฮนด์เมดแล้ว ยังสามารถเรียนรู้วิธีการปั้นเครื่องปั้นดินเผาจากที่นี่อีกด้วย 🥣 เครื่องปั้นดินเผา ดอยดินแดง เป็นทั้งสตูดิโอแสดงผลงาน แกลเลอรี่ ร้านจำหน่าย และโรงงานผลิตเครื่องปั้นดินเผา สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2534 โดยอาจารย์สมลักษณ์ ปันติบุญ ศิลปินเซรามิกชาวเชียงราย ที่มีฝีมือเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ อาจารย์สมลักษณ์มีโอกาสไปศึกษาการปั้นเครื่องปั้นดินเผากับ มาสเตอร์นากาซาโตะ ทารุเอมอน ที่เมือง Karatsu เกาะคิวชู ประเทศญี่ปุ่น แหล่งที่มีชื่อเสียงด้านเครื่องปั้นมานานกว่า 400 ปี ก่อนจะกลับมาก่อตั้ง “เครื่องปั้นดินเผา ดอยดินแดง” ชื่อดอยดินแดง มาจากลักษณะดินในพื้นที่ซึ่งมีสีแดง และมีสภาพเหมาะกับการใช้ทำเซรามิก นอกจากนี้ เครื่องปั้นดินเผาดอยดินแดงยังใช้ไม้ แกลบ ใบไม้ ขี้เถ้าฟาง ขี้เถ้าไม้ไผ่มาเป็นวัตถุดิบในการทำน้ำเคลือบผิวให้เกิดสีสันต่าง ๆ ซึ่งวัตถุดิบทั้งหมดนี้ล้วนเป็นวัตถุดิบที่มีอยู่ในชุมชน เครื่องปั้นดินเผาดอยดินแดง เป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะดั้งเดิมกับศิลปะแบบวิถีเซนของญี่ปุ่น คอนเซ็ปต์หลัก คือการใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติในท้องถิ่น โดยคำนึงถึงความปลอดภัยและประโยชน์การใช้งาน รวมทั้งยังเน้นลักษณะสีและพื้นผิวที่มีความโดดเด่น เป็นศิลปะร่วมสมัยที่สามารถนำไปใช้งานได้จริงและตกแต่งบ้านได้อย่างกลมกลืน  วิธีการปั้นเป็นแบบขึ้นรูปบนแป้นหมุน แล้วปั้นด้วยมือซึ่งเป็นวิธีแบบดั้งเดิมเพื่อให้ได้แบบที่ต้องการตามความชำนาญของช่างปั้น  จากนั้นจึงวาดลายลงบนเครื่องปั้นแต่ละชิ้น ด้วยสีจากวัสดุธรรมชาติที่หาได้ในท้องถิ่น แล้วเคลือบผิวให้เงางามด้วยน้ำขี้เถ้า หรือที่เรียกกันว่าน้ำเคลือบ โดยไม่ใช้สารเคมีใด ๆ นอกจากห้องสตูดิโอที่ใช้แสดงผลงาน แกลเลอรี่ และร้านจำหน่ายเครื่องปั้นดินเผาแล้ว เรายังสามารถเข้าไปชมการปั้นเครื่องปั้นดินเผาในโรงงานผลิตได้ด้วย โดยช่างปั้นที่นี่ล้วนเป็นช่างในท้องถิ่นทั้งสิ้น  เครื่องปั้นดินเผาดอยดินแดง   49 หมู่ 6 บ้านป่าอ้อ ถนนพหลโยธิน ตำบลนางแล อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย  เปิดวันจันทร์-เสาร์ เวลา 08.00-17.00 น. (ปิดวันอาทิตย์)  053 705 291 https://goo.gl/maps/ZXVCubbku8VBpPTg9 เว็บไซต์ www.dddpottery.com  การเดินทาง : จากตัวเมืองเชียงรายออกไปราว 14 กิโลเมตร เมื่อผ่านสามแยกสนามบิน ตรงไปอีกประมาณ 6 กิโลเมตร ให้เลี้ยวขวาไปตามป้ายบอกทางสู่ดอยดินแดง

เครื่องปั้นดินเผา ดอยดินแดง จังหวัดเชียงราย อ่านเพิ่มเติม

เที่ยวเชียงราย…ให้คลายร้อน

หยุดยาวคราวนี้ คนที่วางแผนไว้ว่าจะไปเล่นน้ำสงกรานต์ในภาคเหนือ แต่ยังนึกไม่ออกว่าหลังจากเล่นน้ำแล้วจะไปเที่ยวไหนต่อ วันนี้แอดจะมาแนะนำที่เที่ยวคลายร้อนในจังหวัดเชียงราย เผื่อเป็นไอเดียให้คนที่กำลังวางแผนการเดินทางอยู่ ไปดูกันว่า ที่ไหนบ้างที่ยังคงมีบรรยากาศเย็นสบาย แม้ในช่วงหน้าร้อน 1. วนอุทยานถ้ำหลวง – ขุนน้ำนางนอน – สถานที่ประวัติศาสตร์ใน“ปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยเยาวชนและโค้ชทีมฟุตบอลหมูป่าอคาเดมี่” ที่โลกต้องจารึก 2. อุทยานศิลปะวัฒนธรรมแม่ฟ้าหลวง (ไร่แม่ฟ้าหลวง) – แหล่งรวบรวมสถาปัตยกรรม งานพุทธศิลป์ ศิลปวัตถุของล้านนา 3. น้ำตกขุนกรณ์ – เล่นน้ำตก ชมธรรมชาติที่ร่มรื่นเย็นสบายแม้ในฤดูร้อน  วนอุทยานถ้ำหลวง – ขุนน้ำนางนอน  ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2561 คงแทบไม่มีใครไม่รู้จักถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน กับปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยเยาวชนและโค้ชทีมฟุตบอลหมูป่าอคาเดมี่ 13 ชีวิต ปฏิบัติการนี้ไม่เพียงได้รับความสนใจจากคนทั่วโลก แต่ยังทำให้ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกด้วยเช่นกัน วันนี้แอดจะพาไปเที่ยวชม วนอุทยานถ้ำหลวง – ขุนน้ำนางนอน ที่ขณะนี้ได้รับการปรับปรุงภูมิทัศน์เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก วนอุทยานถ้ำหลวง – ขุนน้ำนางนอน ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดอยนางนอน ตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาหินปูนขนาดใหญ่หลายลูกทอดตัวต่อกันในแนวเหนือ-ใต้ โดยลาดชันมาทางทิศตะวันออก มีลักษณะคล้ายกับผู้หญิงนอน จึงเรียกกันโดยทั่วไปว่า “ดอยนางนอน” ในส่วนของถ้ำหลวงมีความยาวถึง 10.3 กิโลเมตร ก่อนหน้าปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย ฯ นี้ ถ้ำหลวงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คนท้องถิ่นนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อนกันอยู่แล้ว เพราะภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยที่งดงาม บริเวณด้านหน้าถ้ำหลวง เป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์ นาวาตรี สมาน กุนัน หรือจ่าแซม อดีตทหารประจำหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ หนึ่งในทีมค้นหา- กู้ภัย นักฟุตบอลเยาวชนทีมหมูป่าอคาเดมี่ ที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ บริเวณปากถ้ำ มีการจัดแสดงสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ที่ใช้ในการปฏิบัติการจริงช่วงสถานการณ์ช่วยเหลือทีมหมูป่า รวมไปจนถึงของใช้ เช่น เสื้อผ้า รองเท้า รถจักรยาน ที่ทีมหมูป่าทิ้งไว้หน้าถ้ำก่อนเข้าไปในถ้ำ เดินเข้าถ้ำไปประมาณ 50 เมตร จะเป็นโถงที่ 1 ซึ่งเป็นเพียงส่วนเดียวที่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ มีความยาว เกือบ 200 เมตร ใช้เป็นศูนย์บัญชาการของ นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร อดีตผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ในการค้นหา-กู้ภัยทีมหมูป่าอคาเดมี่ มีการติดตั้งไฟนำทางเดินตั้งแต่ปากโถง ไปจนถึงส่วนท้ายของโถง ภายในโถงที่ 1 นักท่องเที่ยวสามารถชื่นชมความงามของหินงอกหินย้อย ที่ปรากฏอยู่ทั่วโถง มีการจัดไฟส่องให้เห็นความงามกันชัด ๆ หินงอกหินย้อยภายในถ้ำหลวงเป็นหินปูนที่จะมีน้ำไหลหยดตลอดเวลาในช่วงฤดูฝน ทางเดินตั้งแต่ปากโถงที่ 1 ไปจนถึงส่วนปลายโถง บางจุดจะแคบและชัน จึงมีการสร้างราวจับ รวมถึงจัดไฟส่องนำทางให้ เนื่องจากแนวโถงถ้ำมีเส้นทางคดเคี้ยว บางช่วงเข้าถึงง่าย บางช่วงมีเพดานต่ำ โดยเฉพาะในส่วนโถงถ้ำที่ลึกเข้าไป จะยิ่งเข้าถึงได้ยากมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนท้ายสุดของโถงที่ 1 จัดแสดงโต๊ะเก้าอี้ของทีมแพทย์และทีมบัญชาการกู้ภัย จุดนี้มีการจัดแสดงแผนที่ส่วนต่างๆภายในถ้ำหลวงพร้อมภาพประกอบ ตั้งแต่โถง 1 ไปจนถึงเนินนมสาว จุดที่พบตัวทีมหมูป่าทั้ง 13 คน ซึ่งอยู่ห่างจากปากถ้ำราว 2.3 กิโลเมตร ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยวถ้ำหลวงคือระหว่าง เดือนพฤศจิกายน ถึง เมษายน ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมถ้ำหลวงได้ถึงบริเวณโถงที่ 1 โดยจะปิดถ้ำห้ามเข้าชมในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงกันยายนของทุกปี เนื่องจากมักมีน้ำหลากเข้าไปในตัวถ้ำ ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายได้  ไม่เก็บค่าเข้าชม เพราะอยู่ระหว่างการเตรียมการ ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ  ตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เปิดทุกวันเวลา 8.30 – 16.30 น. 09 4603 3511 https://goo.gl/maps/i1k12N1Wx8hnkxfE6 อุทยานศิลปะวัฒนธรรมแม่ฟ้าหลวง (ไร่แม่ฟ้าหลวง) ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 150 ไร่ จุดประสงค์เมื่อแรกก่อตั้งไร่แม่ฟ้าหลวง คือ เพื่อเป็นที่พักสำหรับเยาวชนชาวเขาในพื้นที่ห่างไกลที่ได้รับทุนพระราชทานจากสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีให้มาศึกษาต่อในเมือง ต่อมาได้รับการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรม เป็นสถานที่ที่รวบรวมสถาปัตยกรรม งานพุทธศิลป์ และศิลปวัตถุของล้านนาหลากหลายสมัย มีพรรณไม้พื้นถิ่นปลูกไว้หลายชนิด ทั้งยังได้รับรางวัล Thailand Tourism Award 2006 ประเภท รางวัลดีเด่นด้านแหล่งท่องเที่ยวทางศิลปวัฒนธรรม ที่นี่มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี เพราะมีต้นไม้ใหญ่ร่มรื่นปลูกไว้ทั่วทั้งบริเวณ ภายในอุทยานฯประดิษฐาน พระรูปปั้นสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี สร้างจากสัมฤทธิ์ ขนาดเท่าครึ่งของพระองค์ ผลงานของคุณมีเซียม ยิปอินซอย  หอคำ  สร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง รูปทรงอาคารสอบเข้าตามลักษณะเรือนล้านนาโบราณ สไตล์การก่อสร้างได้รับแรงบันดาลใจจากวัดปงสนุก จังหวัดลำปาง ไม้นานาชนิดที่ใช้ก่อสร้างมาจากองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ รวมกับไม้จากบ้านเก่าจำนวน 32 หลัง ชาวเชียงรายร่วมใจสร้างหอคำนี้เป็นเครื่องไหว้สาแม่ฟ้าหลวง ในโอกาสที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีทรงเจริญพระชนมายุ 84 พรรษาเมื่อปี พ.ศ. 2527 ภายในหอคำเป็นที่ประดิษฐานพระพร้าโต้ พระไม้โบราณของล้านนา รวมไปถึงจัดแสดงสัตภัณฑ์หรือเชิงเทียนบูชาไม้แกะสลักโบราณ ศิลปวัตถุและงานพุทธศิลป์ เช่น พระพุทธรูปแบบล้านนา พม่า ตุงกระด้าง และขันดอก  หอแก้ว  เป็นอาคารจัดแสดงนิทรรศการถาวรเกี่ยวกับไม้สัก และนิทรรศการหมุนเวียนอื่น ๆ ศิลปวัตถุไม้สัก ที่นำมาจัดแสดง ได้แก่ งานไม้ในสถาปัตยกรรมไทยต่างๆ เช่น ไม้แกะสลัก ไปจนถึงเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันของชาวล้านนา อันแสดงให้เห็นถึงความผูกพันที่แนบแน่นของชาวเหนือที่มีต่อไม้สักในหลายมิติ บางชิ้นเป็นศิลปกรรมของสะสมที่มีผู้มอบให้ไว้เพื่อเก็บรักษา  ศาลาแก้ว  เป็นศาลาริมน้ำทรงล้านนาที่มีเอกลักษณ์งดงาม ใช้เป็นอาคารเอนกประสงค์สำหรับกิจกรรมต่างๆ ปัจจุบันอุทยานศิลปะวัฒนธรรมแม่ฟ้าหลวง อยู่ภายใต้การบริหารงานของมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์  ชาวไทย 100 บ. ชาวต่างชาติ 200 บ.  133 หมู่ 7 บ้านป่างิ้ว ตำบลรอบเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย เปิดให้เข้าชม วันอังคาร-วันอาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์ เวลา 08.00-17.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์)  0 5371 6605-7 www.maefahluang.org https://goo.gl/maps/tMxzYidsvZ72Xcwd8

เที่ยวเชียงราย…ให้คลายร้อน อ่านเพิ่มเติม

🌟วัดพระสิงห์ จังหวัดเชียงราย🌟

สงกรานต์ที่จะมาถึงนี้ มีใครจะไปเล่นน้ำที่เชียงรายบ้างไหม แอดมีสถานที่ท่องเที่ยวมาแนะนำค่ะ เหมาะกับเทศกาลสงกรานต์มาก นั่นคือ จะชวนไปไหว้พระที่วัดพระสิงห์ เพราะไม่เพียงจะเป็นวัดเก่าแก่ที่มีสถาปัตยกรรมงดงามแล้ว ยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์ พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของเชียงราย ที่ทางวัดจะอัญเชิญออกมาให้ประชาชนได้สรงน้ำ เพื่อความเป็นสิริมงคลในช่วงปีใหม่เมืองกันด้วย วัดพระสิงห์ เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ สันนิษฐานกันว่าน่าจะสร้างขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้ามหาพรหม เจ้าผู้ครองเมืองเชียงรายราวปี พ.ศ.1928 ซึ่งชื่อวัดพระสิงห์นั้น เชื่อกันว่า น่าจะมาจากการที่ครั้งหนึ่ง วัดนี้เคยเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์ หรือที่เรียกกันว่าพระสิงห์นั่นเอง จุดเด่นของวัดพระสิงห์คือ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์องค์จำลอง เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะแบบล้านนา สมัยพุทธศตวรรษที่ 21 หน้าตักกว้าง 37 ซ.ม. สูงทั้งฐาน 66 ซ.ม. หล่อด้วยสำริดปิดทอง โดยเจ้ามหาพรหมผู้ครองเมืองเชียงราย ซึ่งเป็นพระอนุชาของพญากือนา เจ้าผู้ครองเมืองเชียงใหม่ ได้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์องค์จริงมาจากเมืองเชียงใหม่ เพื่อใช้เป็นแบบหล่อองค์จำลองขึ้นและประดิษฐานไว้ภายในหอพระสิงห์  หอพระสิงห์  เป็นวิหารขนาดเล็ก ภายในตกแต่งด้วยศิลปกรรมหลายแขนง ทั้งงานจิตรกรรม งานฉลุ งานแกะสลัก ประดิษฐานองค์พระพุทธสิหิงค์องค์จำลองบนบุษบกงดงาม เมื่อถึงวันสงกรานต์ ทางวัดก็จะอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ออกมาให้ประชาชนได้สรงน้ำเพื่อความเป็นสิริมงคลในช่วงปีใหม่เมือง  พระอุโบสถ  สร้างด้วยไม้ทั้งหลัง ตกแต่งแบบศิลปะล้านนาเชียงแสน โครงสร้างเดิมเป็นไม้เนื้อแข็ง และได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์หลายครั้ง มีความโดดเด่นที่ บานประตูหลวง ทำด้วยไม้แกะสลักงดงาม พระประธานในพระอุโบสถ เป็นพระพุทธปฏิมาศิลปะล้านนาไทย พุทธศตวรรษที่ 21 ปางมารวิชัย ชนิดสำริดปิดทอง หน้าตักกว้าง 204 เซนติเมตร สูงทั้งฐาน 284 เซนติเมตร  ถนนท่าหลวง ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย เปิดทุกวันเวลา 06.00 – 18.30 น. โทร. 0 5371 1735 https://goo.gl/maps/exkdtQSjRe6FfYwN8

🌟วัดพระสิงห์ จังหวัดเชียงราย🌟 อ่านเพิ่มเติม

✨ ความเชื่อเรื่องชุธาตุของชาวล้านนา ✨

หลายคนอาจพอได้ยินเรื่องพระธาตุประจำปีเกิด และเคยไปสักการะพระธาตุประจำปีเกิดของตนเองมาแล้ว แต่เคยสงสัยไหมว่า พระธาตุประจำปีเกิดถูกกำหนดขึ้นอย่างไร แอดสงสัยค่ะ จึงไปหาความรู้มาฝาก ชุธาตุ หรือพระธาตุประจำปีเกิด เป็นความเชื่อของชาวล้านนาในเรื่องการบูชาพระธาตุเจดีย์องค์สำคัญในวัฒนธรรมล้านนา ชาวล้านนามีความเชื่อว่า ก่อนที่มนุษย์จะมาเกิดในครรภ์มารดา ดวงจิตได้เคยสถิตอยู่กับต้นไม้ ซึ่งมีภูตผีหรือสัตว์รักษาอยู่ แต่ด้วยความไม่เหมาะสม ที่ดวงจิตของมนุษย์จะอยู่กับอมนุษย์หรือสัตว์ทั้งหลาย ดวงจิตของมนุษย์ก่อนกำเนิด จึงได้ลาไปจากต้นไม้ดังกล่าว เพื่อไปสถิตกับพระธาตุที่ต่างกันไป ตามที่สัตว์ประจำนักษัตรพาไปพัก เพื่อรอการถือกำเนิดขึ้น ความเชื่อเหล่านี้ทำให้ชาวล้านนามีความผูกพันกับพระธาตุประจำปีนักษัตรของตน และเชื่อว่าการได้ไปสักการะจะนำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองแก่ชีวิต โดยพระธาตุประจำปีเกิดอยู่ในสถานที่ต่าง ๆ ดังนี้ 🌟 คนเกิดปีชวด สักการะ พระธาตุศรีจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ 🌟 คนเกิดปีฉลู สักการะ พระธาตุลำปางหลวง จังหวัดลำปาง 🌟 คนเกิดปีขาล สักการะ พระธาตุช่อแฮ จังหวัดแพร่ 🌟 คนเกิดปีเถาะ สักการะ พระธาตุแช่แห้ง จังหวัดน่าน 🌟 คนเกิดปีมะโรง สักการะพระธาตุวัดพระสิงห์ จังหวัดเชียงใหม่ 🌟 คนเกิดปีมะเส็ง สักการะ พระศรีมหาโพธิ์ ที่พุทธยาประเทศอินเดีย หรือ พระเจดีย์ศรีมหาโพธิพุทธคยา วัดโพธารามมหาวิหาร (วัดเจดีย์เจ็ดยอด) จังหวัดเชียงใหม่ แทน 🌟 คนเกิดปีมะเมีย สักการะ พระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง ประเทศพม่า หรือ พระบรมธาตุเจดีย์ จังหวัดตาก แทน 🌟 คนเกิดปีมะแม สักการะ พระธาตุดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่ 🌟 คนเกิดปีวอก สักการะ พระธาตุพนม จังหวัดนครพนม 🌟 คนเกิดปีระกา สักการะ พระธาตุหริภุญชัย จังหวัดลำพูน 🌟 คนเกิดปีจอ ให้ปล่อยโคมเพื่อสักการะพระธาตุเกตุแก้วจุฬามณีบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ หรือ สักการะพระธาตุวัดเกต จังหวัดเชียงใหม่ 🌟 คนเกิดปีกุน สักการะ พระธาตุดอยตุง จังหวัดเชียงราย สำหรับผู้ที่อยู่ห่างไกลจากพระธาตุประจำปีเกิดของตน ไม่สะดวกเดินทาง ก็สามารถหารูปภาพพระธาตุประจำปีเกิดมากราบไหว้ที่บ้านได้ และเพื่อไม่ให้เสียเที่ยว เมื่อเดินทางไปสักการะพระธาตุประจำปีเกิดเพื่อเสริมสร้างความเป็นสิริมงคลให้แก่ชีวิตกันแล้ว ก็อย่าลืมแวะท่องเที่ยวระหว่างทาง เสาะหาอาหารท้องถิ่นอร่อยๆ และซื้อของฝากติดไม้ติดมือกลับมาด้วยนะคะ

✨ ความเชื่อเรื่องชุธาตุของชาวล้านนา ✨ อ่านเพิ่มเติม

🌹 ดอกไม้แทนรัก…วันวาเลนไทน์ 💕

อีกสองวันก็จะถึงวันวาเลนไทน์แล้ว หลายคนอาจกำลังเตรียมหาซื้อดอกไม้เพื่อมอบเป็นของขวัญแด่คนพิเศษ และแน่นอนดอกไม้ที่ถูกใช้เพื่อแสดงถึงความรักมากที่สุดคือ “ดอกกุหลาบ” ที่สื่อข้อความได้ว่า”ฉันรักคุณ” กุหลาบสีต่างๆ ก็สื่อถึงความรักที่แตกต่างกันออกไป 🌹 ถ้าคุณได้รับกุหลาบสีแดงจากใครสักคน มีความหมายว่าเขาคนนั้นกำลังบอกรักคุณอยู่นะ นอกจากนี้ กุหลาบสีแดงยังเป็นตัวแทนของรักแท้ สื่อถึงความรักที่ลึกซึ้ง มั่นคง จริงจัง ไม่มีวันจืดจาง กุหลาบสีขาว สื่อถึงความรักที่บริสุทธิ์ จริงใจ รักโดยไม่หวังผลตอบแทนกุหลาบสีชมพู สื่อถึงความโรแมนติก ความรักที่นุ่มนวล อ่อนโยน กุหลาบสีเหลือง สื่อถึงความรักแบบเพื่อน หรืออีกนัยหนึ่งหมายถึงความรักที่ปรารถนาดี ความห่วงใย นอกจากนี้ยังมีดอกไม้อีกหลายชนิด ที่นิยมให้กันในวันวาเลนไทน์ เช่น ดอกลิลลี่ ดอกทิวลิป ดอกคาร์เนชั่น 🌟 ดอกลิลลี่สีขาว สื่อถึงความรักที่บริสุทธิ์ เช่นเดียวกับกุหลาบสีขาว นอกจากนั้น ยังสื่อถึงความรักที่เปี่ยมด้วยความยกย่องเทิดทูน การให้เกียรติซึ่งกันและกัน ส่วนลิลลี่สีชมพู หมายถึงความรักที่ดีที่สุด เป็นดอกไม้ที่ต้องการสื่อให้ผู้รับรู้ว่า คุณคือความรักที่ดีที่สุดในชีวิตเขา 🌟 ดอกทิวลิป เป็นดอกไม้ที่เป็นตัวแทนของความรักแบบครอบครัว มีความอบอุ่น หรือความรักที่จริงใจ จงรักภักดี ซื่อสัตย์ เป็นความรักในรูปแบบที่เสียสละไม่หวังสิ่งตอบแทน 🌟ดอกคาร์เนชั่น สื่อถึงความมีเสน่ห์ตรึงใจ ความหลงใหล ความดึงดูดใจ และการเริ่มต้นรักครั้งใหม่ จึงเหมาะสำหรับคู่รักที่กำลังเริ่มต้นความสัมพันธ์จะ มอบให้แก่กัน คราวนี้หลายคนอาจมีไอเดียเพิ่มเติมแล้วนะคะ ว่าวันเลนไทน์ปีนี้ นอกจากดอกกุหลาบแล้ว ยังมีดอกไม้อีกหลายชนิด ที่สื่อแทนความรักของคุณได้ และในช่วงเทศกาลแห่งความรักนี้ แอดมีสถานที่ชมดอกไม้สวย ๆ มาแนะนำสำหรับคู่รักค่ะ 🌹 สวนกุหลาบกลางพนา 🌹เป็นสวนปลูกกุหลาบขายทั้งต้นพันธุ์ และทั้งตัดดอก มีร้านกาแฟให้นั่งจิบชมวิวดอกกุหลาบสวยๆ นักท่องเที่ยวเข้าชมและถ่ายรูปได้โดยไม่เสียค่าบริการ📍 1670 ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา🌐 https://g.page/KlangPanaRosesGardenKhaoyai?share⏰ เปิดทุกวันเวลา 8.30 – 17.30📞 08 1811 8299 🌺 สวนรุกขชาติแม่ฟ้าหลวง 🌺ความพิเศษของที่นี่คือเป็นสถานที่รวบรวมพันธุ์ไม้ตระกูลกุหลาบพันปีไว้มากที่สุดในประเทศ มีทั้งกุหลาบพันปีของออสเตรเลีย จีน และพม่า นอกจากนี้ยังมีกล้วยไม้ป่า กล้วยไม้ดิน รองเท้านารี และพญาเสือโคร่ง และลานชมวิวต่าง ๆ📍 ตำบลแม่ฟ้าหลวง อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย🌐 https://goo.gl/maps/w21hUFtfUxkS1KuQ7ค่าเข้าชม คนละ 90 บาท⏰ เปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.📞 05 3767 0157 🌾 สวนนงนุช พัทยา 🌾เป็นสวนพฤกษศาสตร์ที่่มีเนื้อที่ราว 1,700 ไร่ รวบรวมพันธุ์ไม้เมืองร้อนไว้มากกว่า 18,000 ชนิด มีสวนดอกไม้ที่มีชื่อเสียงได้แก่สวนกล้วยไม้ สวนชวนชม มีการตกแต่งสวนในสไตล์ต่างๆมีความสวยงามแตกต่างกันกว่า 50 สวน📍 34/1 หมู่ 7 ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี🌐 : https://goo.gl/maps/XbZXtxKsEZbnrPvH9⏰ 08.00-18.00 น.📞: 08 1919 2153 และ 038 415 145

🌹 ดอกไม้แทนรัก…วันวาเลนไทน์ 💕 อ่านเพิ่มเติม

ทำความรู้จัก “ชา” ในประเทศไทย🌿

สายดื่ม มารวมกันตรงนี้! อย่าเพิ่งคิดไปไกล เพราะแอดหมายถึง สายดื่มชาต่างหาก “ชา” เป็นต้นพืชชนิดหนึ่ง ที่ใช้ส่วนของ “ใบ” มาผ่านกระบวนการที่ต่างกันจนออกมาเป็นชาต่าง ๆ โดยพันธุ์ชาที่นิยมปลูกในไทยมี 2 สายพันธุ์คือ ชาพันธุ์อัสสัมและพันธุ์ชาจีน ซึ่งชาที่ไทยนิยมปลูก สามารถนำเอามาทำเป็นชาประเภทต่าง ๆ แบ่งเป็น 4 ประเภทตามกรรมวิธีที่ใช้ผลิต เช่น ชาขาว ชาเขียว ชาอู่หลงและชาดำ ชาขาว (White Tea) เป็นชาที่เก็บยอดอ่อนของต้นชา มาผ่านกระบวนการอบไอน้ำในระยะเวลาสั้น ๆ เพื่อรักษารสชาติและกลิ่น โดยไม่ผ่านการหมักเหมือนชาชนิดอื่น ๆ ชาดำ (Black Tea) เป็นชาที่นำยอดอ่อนของใบชามานวดแล้วหมักจนได้กลิ่นที่หอม ก่อนที่จะนำไปอบแห้งอีกที ซึ่งใบชาที่ได้มานั้นจะมีสีเข้มและมีรสขมฝาดมากกว่าชาเขียว ชาเขียว (Green Tea) เป็นชาที่เก็บมาจากยอดอ่อนของชาแล้วนำไปอบแห้งทันที ไม่ผ่านการหมัก ทำให้ใบชายังมีสีเขียว รสชาติ สีและกลิ่นที่ยังใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด ชาอู่หลง (Oolong Tea) เป็นชาที่ได้จากใบชาที่ถูกทิ้งให้สลด นำมานวดและบ่มเล็กน้อย ถือว่าเป็นชาประเภทกึ่งหมัก มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว มีรสชาติเข้มข้นกว่าชาเชียวแต่ฝาดน้อยกว่าชาดำ เพื่อน ๆ ที่ชื่นชอบชาสามารถไปชิมชาที่แหล่งปลูกได้เลย ซึ่งไร่ชาส่วนใหญ่ของไทยมักจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวด้วย กระจายอยู่ตามภูเขาทางภาคเหนือ ถ้าสนใจ แอดมีลิสต์แหล่งท่องเที่ยวพร้อมไปจิบชาชิลล์ ๆ มาฝากกันด้วย จังหวัดเชียงราย ไร่ชาฉุยฟง 97 หมู่ 8 ตำบลแม่จัน อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย โทร. 0 5377 1563 GPS : https://goo.gl/maps/JEcp5znUyPNBGo7C7 สิงห์ปาร์ค (ไร่บุญรอด) 99 หมู่ 1 ตำบลแม่กรณ์ อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย โทร. 0 5316 0636-7, 06 1387 7592, 09 1576 0374 GPS : https://goo.gl/maps/dkm1RxtZAs6DWxWw8 ไร่ชาหงษ์ฝู่ 133 หมู่ 1 บ้านสันติคีรี ตำบลแม่สลองนอก อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย โทร. 08 0558 0066 GPS : https://goo.gl/maps/kqFHoxdS2ekxiPh78 ขอบคุณรูปภาพจากเพจ ชาหงษ์ฝู่ ดอยแม่สลอง ไร่ชา 101 63 หมู่ 6 ดอยแม่สลอง ตำบลแม่สลองนอก อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย โทร. 08 8805 9391, 0 5371 0029 GPS : https://goo.gl/maps/YwK1UTpq6qpXS5ad8 ขอบคุณรูปภาพจากเพจ ไร่ชา101 ดอยแม่สลอง จังหวัดแม่ฮ่องสอน หมู่บ้านรักไทย หมู่ 6 ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน GPS : https://goo.gl/maps/6ZABHshTL5RQzmuZ6 จังหวัดเชียงใหม่ ไร่ชาลุงเดช 91/1 หมู่ 2 ตำบลเมืองก๋าย อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ โทร. 08 1163 3765 GPS : https://goo.gl/maps/TFivQ3dvj9qjFGzp8 จังหวัดน่าน บ้านศรีนาป่าน บ้านศรีป่าน ตำบลเรือง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน โทร. 06 2546 3294, 08 1180 5232 GPS : https://goo.gl/maps/2TSA6Pny9hZFLYm37 ขอบคุณรูปภาพจากเพจ ศรีนาป่าน

ทำความรู้จัก “ชา” ในประเทศไทย🌿 อ่านเพิ่มเติม

⛅ Unseen 12 จุดชมหมอกเมืองไทย ⛅

อลังการความงามของธรรมชาติทั้งปี หมอกสวย วิวอลัง การเดินทางสุดมันส์ บรรยากาศเหล่านี้จะกลับมาอีกครั้ง เริ่ม !! ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปี 2565 ด้วยพิกัดเที่ยว “ตามล่าหาทะเลหมอก” ช่วงนี้อากาศกำลังเย็นสบาย เราขอแนะนำที่เที่ยว ชวนไปสัมผัสอากาศหนาวกันบ้าง พาไปชมทะเลหมอกขาว ท่ามกลางธรรมชาติ ดูแสงแรกยามเช้า รับอากาศบริสุทธิ์ ซึ่งแต่ละสถานที่นั้น สวยไม่แพ้กันเลย เอาใจสายรักหมอกมาก ๆ เพราะธรรมชาติเมืองไทย มีให้เราไปเจอได้แบบไม่สิ้นสุด แถมยังเที่ยวได้ทั้งปีอีกด้วย คุณลองหลับตา และจินตนาการถึงสายหมอก สายลมเย็นเหนือขุนเขาที่พัดผ่านผิวกาย สองเท้าย่ำไปบนผืนดิน สูดรับออกซิเจนบริสุทธิ์เข้าปอด และมองดูความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าที่เติบโตเพิ่มขึ้น แล้วความสุขของการท่องเที่ยวและพักผ่อน บรรยากาศดี ๆ เหล่านั้นจะกลับมา และช่วงเวลาแบบนี้ เราถือโอกาสบอกต่อสิ่งดี ๆ ให้คุณ สำหรับใครที่กำลังมองหาภาพปฏิทินสวย ๆ พร้อมแนะนำที่เที่ยว หรือดาวน์โหลดปฏิทิน ทำ E-Card ด้วยตัวเอง เพื่อส่งต่อความสุขให้กับคนที่เรารักและห่วงใย สามารถคลิกที่นี่ได้เลย https://tatcalendar.com/ สำหรับการทำ E-Card ด้วยตัวเองก็ง่ายมาก เราขอชวนคุณมาร่วมทำไปด้วยกัน เพียง.. คลิกเลือก E-card แบบรูปภาพหรือวิดีโอ ใช้คำอวยพรเดิมที่มีให้ หรือพิมพ์ข้อความใหม่ ความยาวไม่เกิน 30 ตัวอักษร ลงในช่องกรอกข้อความ คลิก เปลี่ยนข้อความ คลิกขวาเพื่อบันทึกรูปภาพพร้อมข้อความ สำหรับ PC หรือแตะที่รูปค้างไว้แล้วเลือก บันทึกรูปภาพ สำหรับโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต นำภาพหรือวิดีโอที่บันทึกไว้ ส่งผ่านช่องทางต่างๆ ได้แก่ Social Media, E-mail เป็นต้น นอกจากมีเว็บไซต์แล้ว ยังมีแอพพลิเคชัน TAT CALENDAR ด้วยนะ สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานกันแบบง่าย ๆ ได้แล้ววันนี้ ทั้งระบบ Android และ iOS ดาวน์โหลดผ่านระบบ Android คลิก : https://bit.ly/3oU23br ดาวน์โหลดผ่านระบบ iOS คลิก : https://apple.co/3GHsjfq ม่อนหมอกตะวันจังหวัดตาก “ม่อนหมอกตะวัน” ตั้งอยู่ที่บ้านป่าหวาย ธรรมชาติแห่งขุนเขายามเช้า ท่ามกลางสายหมอกพริ้วไหว และดอกเสี้ยนฝรั่งสีบานเย็นสลับขาวที่ผลิดอกสะพรั่งบานเต็มทั่วทิวเขา เป็นความงดงามที่เพิ่งถูกค้นพบและกลายเป็นจุดชมวิวแห่งใหม่ของจังหวัดตาก ที่นี่ มีบริการลานกางเต็นท์ บ้านพัก ให้ตื่นมาพร้อมชมพระอาทิตย์ขึ้น กับทะเลหมอก รวมทั้งดอกไม้ที่สวยงามตระการตา กับบรรยากาศที่รับรองว่าไม่เหมือนใคร ทางขึ้นของที่นี่ค่อนข้างชัน เป็นถนนแบบคอนกรีตผสมลูกรัง ขับรถระวัง ๆ กันด้วยนะ พิกัด : บ้านป่าหวาย อ.พบพระ จ. ตากGPS : https://goo.gl/maps/vqKcH9SVkRxJNrDD6 ดอยผาตั้งจังหวัดเชียงราย จุดชมวิวบนดอยผาตั้ง เป็นอีกหนึ่งสถานที่ห้ามพลาดในช่วงหน้าหนาว เพราะนอกจากอากาศที่หนาวสะท้านไปถึงกระดูกแล้ว ยังได้ไปชมพระอาทิตย์ขึ้นกลางทะเลหมอกขาวโพลนอีกด้วย บรรยากาศดีมาก ซึ่งจุดชมวิวที่เป็นไฮไลท์บนดอยแห่งนี้ มีอยู่หลายจุด ไม่ว่าจะเป็น ‘ป่าหินยูนนาน’ แนวโขดหินริมหน้าผา ไปนั่งเท่ ๆ ถ่ายภาพคู่กับวิวทะเลหมอกได้ หรือจุดชมวิว ‘ช่องเขาขาด’ เป็น landscape ที่โดดเด่น มีช่องเขาที่มองเห็นทะเลหมอกกับวิวภูเขาฝั่ง สปป.ลาวเป็น background ‘เนิน102’ อยู่ถัดจากช่องเขาขาดไปเล็กน้อย เดินขึ้นง่ายไม่เหนื่อย เป็นจุดที่มองเห็นวิวโดยรอบได้ 360 องศา ด้านหนึ่งจะเห็นยอดเขาแหลมฝั่งลาวที่สวยงามมาก นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวอื่น ๆ ใกล้เคียงอีกด้วย แต่ว่าต้องเดินไกลหน่อย รวมไปถึงมีที่พักไว้บริการด้วยนะ พิกัด : ดอยผาตั้ง อ. เวียงแก่น จ. เชียงรายGPS : ‭https://goo.gl/maps/nHvzsZDLD7z ดอยตาปังจังหวัดชุมพร “ดอยตาปัง” อยู่ในพื้นที่ของเขาทะลุ เป็นจุดชมวิวทะเลหมอก สุดฟินแห่งภาคใต้ เพราะมีหมอกตลอดทั้งปี ซึ่งที่นี่เป็นดอยที่ชาวบ้านในชุมชนช่วยกันผลักดันจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของชุมพร ที่นี่จะมองเห็นทะเลหมอกทอดผ่านแนวทิวเขาสวยงามไม่แพ้ทางเหนือ เหมาะกับการชมพระอาทิตย์ขึ้น มีลานกางเต็นท์ให้บริการ การเดินทางจะต้องใช้รถที่ขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้น เนื่องจากข้างบนเป็นพื้นที่แคบ แนะนำให้ใช้การบริการรถจากชาวบ้านซึ่งเป็นผู้ชำนาญเรื่องถนนหนทางพาขึ้นไปดีกว่านะ พิกัด : ดอยตาปัง อ.สวี จ.ชุมพรGPS : https://goo.gl/maps/21FgYFpJorMSBPhq9 และช่วงเวลาแบบนี้ เราถือโอกาสบอกต่อสิ่งดี ๆ ให้คุณด้วย สำหรับใครที่กำลังมองหาภาพปฏิทินสวย ๆ พร้อมคำแนะนำงานประเพณี กิจกรรมดีดี หรือดาวน์โหลดปฏิทิน ทำ E-Card ด้วยตัวเอง เพื่อส่งต่อความสุขให้กับคนที่เรารักและห่วงใย สามารถคลิกที่นี่ https://tatcalendar.com/ หรือสแกน QR Code ในภาพได้เลย นอกจากเว็บไซต์แล้ว ยังมีแอพพลิเคชัน TAT CALENDAR ด้วยนะ สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานกันแบบง่าย ๆ ได้แล้ววันนี้ ทั้งระบบ Android และ iOS ดาวน์โหลดผ่านระบบ Android คลิก : https://bit.ly/3oU23brดาวน์โหลดผ่านระบบ iOS คลิก : https://apple.co/3GHsjfq  และนี่ก็คือตัวอย่าง E-Card ที่เราทำ ซึ่งสามารถใช้คำอวยพรเดิมที่มีให้ หรือเปลี่ยนข้อความเป็นคำอวยพรในสไตล์ของตัวเองได้เลย สำหรับการทำ E-Card ด้วยตัวเองก็ง่ายมาก เราขอชวนคุณมาร่วมทำไปด้วยกัน เพียง..1. คลิกเลือก E-card แบบรูปภาพหรือวิดีโอ2. ใช้คำอวยพรเดิมที่มีให้ หรือพิมพ์ข้อความใหม่ ความยาวไม่เกิน 30 ตัวอักษร ลงในช่องกรอกข้อความ3. คลิก เปลี่ยนข้อความ4. คลิกขวาเพื่อบันทึกรูปภาพพร้อมข้อความ สำหรับ PC หรือแตะที่รูปค้างไว้แล้วเลือก บันทึกรูปภาพ สำหรับโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต5. นำภาพหรือวิดีโอที่บันทึกไว้ ส่งผ่านช่องทางต่าง ๆ

⛅ Unseen 12 จุดชมหมอกเมืองไทย ⛅ อ่านเพิ่มเติม

✨ แอ่วเจียงฮาย ผ่อ “ผาตั้ง” ✨

หากพูดถึงจุดชมทะเลหมอกในจังหวัดเชียงราย จุดที่แอดอยากแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้ไปสักครั้งก็คือ ดอยผาตั้ง เพราะนอกจากทะเลหมอกหนา ๆ น่าชมแล้วก็ยังมีวิวขุนเขาแบบ 360 องศา รวมทั้งวิวลำน้ำโขงที่แบ่งอาณาเขตไทย-ลาว บ้านผาตั้ง ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย 053 602 742 (องค์การบริหารส่วนตำบลปอ) https://goo.gl/maps/fTxLADxkxcZEXM8BA ดอยผาตั้ง นอกจากจะมีธรรมชาติที่สวยงามแล้ว ยังเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวจีนฮ่อ ชาวม้ง และชาวเย้า ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นชาวจีนฮ่อ โดยชาวจีนกลุ่มนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของกองพล 93 ซึ่งอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานที่นี่   ขอบคุณรูปภาพสวย ๆ จาก คุณสาธิต บัวเทศ ที่ดอยผาตั้งแห่งนี้ สามารถเดินทางมาเที่ยวได้ทั้งปี แต่ถ้าหากมาในช่วงหน้าหนาว ก็เตรียมฟินกับบรรยากาศหมอกได้เลยค่ะ  หากเพื่อน ๆ เดินทางมาเที่ยวจังหวัดเชียงรายในช่วงนี้ ไม่ควรพลาดที่นี่เลยล่ะ บนดอยผาตั้ง มีจุดท่องเที่ยวให้ไปชมหลายจุดด้วยกัน แถมยังสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งวัน แต่ละช่วงก็จะได้ชมความงดงามที่แตกต่างกันไป จะมีอะไรบ้าง ไปชมกันค่ะ “ผาบ่อง” ประตูรักแห่งขุนเขา จุดแรกคือผาบ่อง เป็นหน้าผาที่มีช่องเขาให้เดินลงไป มองเห็นทัศนียภาพของฝั่งลาวได้อย่างสวยงาม เป็นที่รู้จักกันว่า “ประตูรักแห่งขุนเขา” หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวโครงการ “เขาเล่าว่า” จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย “เขาเล่าว่า…ประตูรักแห่งขุนเขา ที่เต็มไปด้วยพลังรักอันบริสุทธิ์ ให้จับมือคนที่เรารักแล้วเดินก้าวข้ามผ่านไปด้วยกัน จะช่วยเสริมความรักให้แข็งแกร่งดั่งภูผา” เล่ากันมาแบบนี้ เห็นทีคงต้องพาหวานใจไปด้วยแล้ว  ศาลาอนุสรณ์นายพลหลี่  เป็นศาลาทรงเก๋งจีนที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแก่นายพลหลี่ อดีตผู้นำทางทหารจีนคณะชาติ แห่งกองพล 93 นับเป็นสถาปัตยกรรมเล็ก ๆ ที่โดดเด่นบนขุนเขาแห่งนี้ เดินต่อไปประมาณ 5 นาที เพื่อน ๆ ก็จะเจอ “พระพุทธมังคลานุภาพลาภสุขสันติ” ประดิษฐานอยู่บนเขาด้วยเช่นกัน ไปแวะสักการะกันได้ค่ะ 🙏 เดินมาอีกประมาณ 100 เมตร ก็จะพบกับ “ป่าหินยูนาน”  มีหินจำนวนมากกองอยู่บริเวณนี้ ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกันป่าหินในจีน มีทางเดินขึ้นมาด้านบนให้เราได้ชมวิวกว้าง ๆ พร้อมกับทะเลหมอกกันด้วยนะ  “ช่องเขาขาด”  ผาหินบริเวณนี้มีลักษณะเป็นหินที่ขาดแยกจากกัน มองทะลุไปได้ ตรงนี้เป็นอีกจุดหนึ่งที่เพื่อน ๆ จะได้ชมทัศนียภาพฝั่งลาว และเส้นแม่น้ำโขงที่ทอดตัวยาว   ขอบคุณรูปภาพสวย ๆ จาก คุณสาธิต บัวเทศ ก่อนจะไปที่จุดถัดไป แวะชมทุ่งดอกบัวตองเล็ก ๆ ที่อยู่ใกล้กับป่าหินกันก่อน ซึ่งช่วงนี้ก็บานเต็มที่แล้ว เหมาะแก่การถ่ายรูปมาก  มองจากมุมนี้ จะเห็นได้ว่า ป่าหิน ช่องเขาขาด และทุ่งดอกบัวตองตั้งเรียงลำดับกันเลย เดินใกล้มาก ๆ ทางเดินที่นี่เป็นพื้นดินค่อนข้างเรียบ เดินง่าย สลับกับทางเดินขึ้นบันไดปูน มีราวกั้นเป็นระยะ โดยเฉพาะบริเวณทางลาด สามารถเดินได้อย่างอุ่นใจ  จากนี้ ทางเดินจะเริ่มชันขึ้นเรื่อย ๆ หากเพื่อน ๆ แวะพักจนหายเหนื่อยแล้ว แอดก็จะพาไปชมต่อที่ “จุดชมวิวเนิน 102” ซึ่งห่างไปประมาณ 300 เมตร เนิน 102 เป็นจุดชมวิวแบบ 360 องศาที่เพื่อน ๆ สามารถชมทะเลหมอก  และพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าได้อย่างสวยงาม  เดินต่อไปอีกราว ๆ 300 เมตร จะเป็น “เนิน 103” ซึ่งเป็นจุดชมวิวบนเขาอีกลูกของดอยผาตั้ง ตรงจุดนี้นับว่าเป็นจุดที่สามารถชมทะเลหมอกในมุมกว้างได้สวยงามมาก  ไหน ๆ ก็มาเที่ยวแล้ว ขอเก็บให้ครบเลยแล้วกันนะ ต่อไปก็คือ “เนิน 104” ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวแห่งใหม่ เพิ่งเปิดได้ไม่นาน เป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยและกว้างที่สุดของดอยผาตั้ง  สำหรับจุดนี้ จะอยู่อีกฝั่ง เพื่อน ๆ สามารถนั่งรถโฟร์วีลไปถึงจุดชมวิว เนิน 104 ได้ มีจุดให้บริการรับ-ส่ง ราคาเหมาคันละ 500 บาท นั่งได้ไม่เกิน 8 คน แล้วเดินเท้าต่อประมาณ 380 เมตรก็จะถึงด้านบนสุด มองเห็นสันเขา ทะเลหมอก และหมู่บ้านระแวกใกล้เคียงได้กว้างขวางเลยล่ะ

✨ แอ่วเจียงฮาย ผ่อ “ผาตั้ง” ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ ประเพณีโล้ชิงช้าอาข่า จ.เชียงราย ✨

สวัสดีทุกคน วันนี้แอดมีเกร็ดความรู้เกี่ยวกับประเพณีโล้ชิงช้าอาข่า จ.เชียงราย มาฝาก ประเพณีโล้ชิงช้า เป็นงานเทศกาลปีใหม่ของชาวอาข่า จัดขึ้นเพื่อเป็นการรำลึกถึงพระคุณของเทพธิดา “อึ่มซาแยะ” ผู้ประทานความอุดมสมบูรณ์ ให้กับพืชพันธุ์ธัญญาหาร ให้มีความเจริญงอกงาม และถือเป็นการให้เกียรติสตรี ซึ่งหญิงสาวชาวอาข่าจะใช้เวลาทั้งปีตระเตรียมชุดเพื่อเทศกาลนี้โดยเฉพาะ ในงานประเพณีโล้ชิงช้า (แย้ขู่อ่าเผ่ว) จะประกอบด้วยการโล้ชิงช้าอันเป็นจุดเด่นในเทศกาล พิธีเซ่นไหว้บรรพบุรุษ การเลี้ยงฉลองและการเต้นรำ ซึ่งแต่ละชุมชนจะจัดไม่ตรงกัน ผู้นำชุมชนแต่ละชุมชนจะกำหนดวันจากความเหมาะสมของชุมชน โดยจะอยู่ในช่วงปลายเดือนสิงหาคมถึงต้นเดือนกันยายน งานจะมีทั้งหมด 4 วัน ดังนี้ วันที่ 1 ″จ่าแบ”ครอบครัวจะส่งตัวแทนซึ่งเป็นผู้หญิง แต่งกายสวยงามด้วยชุดประจำเผ่า ออกไปตักน้ำที่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ เพื่อนำมาเซ่นไหว้บรรพบุรุษที่ล่วงลับ นอกจากนี้ แต่ละครอบครัวจะตำข้าวปุ๊ก (ห่อถ่อง) เพื่อใช้ในพิธีไหว้บรรพบุรุษ ซึ่งข้าวปุ๊กนี้จะเป็นการนำข้าวเหนียวไปนึ่ง แล้วนำมาตำกับงาดำและเกลือ วันที่ 2 วันสร้างชิงช้าคนในชุมชนจะมารวมตัวกันที่บ้านของ “โจ่วมา” ผู้นำศาสนาของชุมชน โจ่วมาจะแบ่งงานให้ทุกคนช่วยกันสร้างชิงช้าใหญ่ของชุมชน วันนี้จะไม่มีการฆ่าสัตว์หรือทำพิธีใด ๆ หลังจากสร้างชิงช้าใหญ่เสร็จแล้ว จะมีการโล้ชิงช้าเปิดพิธีโดยโจ่วมา จากนั้นทุกคนก็สามารถโล้ชิงช้าได้ หลังจากนั้นทุกคนก็จะไปสร้างชิงช้าเล็กไว้หน้าบ้านเพื่อให้ลูกหลานของตนได้เล่น วันที่ 3 “ล้อดา อ่าเผ่ว”เป็นวันพิธีใหญ่ มีการเลี้ยงฉลองกันทุกครัวเรือน มีการเชิญผู้อาวุโสหรือแขกต่างหมู่บ้านมาร่วมรับประทานอาหารในบ้านของตน มีการอวยพรให้กับเจ้าบ้านจากผู้อาวุโส วันที่ 4 “จ่าส่า”จะมีการโล้ชิงช้าจนตะวันตกดิน (ประมาณ 18.00 น.) โจ่วมา จะทำการเก็บเชือกของชิงช้า โดยการมัดเชือกสำหรับโล้ชิงช้าติดกับเสา หลังอาหารค่ำจะมีการเก็บเครื่องเซ่นไหว้ต่าง ๆ ถือเป็นการเสร็จสิ้นประเพณีโล้ชิงช้า 👉 รายชื่อหมู่บ้านอาข่า บ้านศรีวิเชียร จ.เชียงราย บ้านแม่จันใต้ อ.แม่สรวย บ้านแสนใจพัฒนา อ.แม่ฟ้าหลวง บ้านอาข่าป่ากล้วย ดอยตุง อ.แม่ฟ้าหลวง บ้านผาหมี-บ้านผาฮี้ อ.แม่สาย บ้านสามแยก อ.แม่ฟ้าหลวง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม📞: 0 5371 7433, 0 5374 4674-5 (ททท.สำนักงานเชียงราย)📞: 0 5391 8415 (ศูนย์พัฒนาสังคม หน่วยที่ 12 จ. เชียงราย)📞: 0 5371 4250, 08 1952 2179 (สมาคมอาข่า)

✨ ประเพณีโล้ชิงช้าอาข่า จ.เชียงราย ✨ อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top