สุโขทัย

สุโขทัย

✨ วันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ✨

แอดมีเกร็ดความรู้เล็ก ๆ มาเล่าให้ฟัง เพื่อน ๆ ทราบไหมว่า วันที่ 17 มกราคมนี้เป็นวันสำคัญวันหนึ่งของไทย นั่นคือเป็นวันน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช พระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 3 แห่งราชวงศ์พระร่วง ในสมัยสุโขทัย ผู้ทรงพระปรีชาสามารถ และได้รับการยกย่องให้เป็นพระราชบิดาแห่งอักษรไทย เนื่องจากทรงเป็นผู้ประดิษฐ์ลายสือไทย ตัวอักษรแรกเริ่มก่อนจะเปลี่ยนแปลงมาเรื่อย ๆ จนเป็นตัวอักษรไทยในปัจจุบัน หากใครที่กำลังท่องเที่ยวในสุโขทัยกันอยู่ ก็สามารถไปกราบไหว้สักการะกันได้ที่ “พระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช ณ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย” 📍 ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย ⏰ เปิดทุกวัน เวลา 06.30-19.30 น. 📞 055 697 527 🌐 https://goo.gl/maps/Uhz2pyk3fEchZWZd7

✨ วันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ✨ อ่านเพิ่มเติม

งานเทศกาลสงกรานต์จังหวัดสุโขทัย

วันนี้แอดได้รวบรวมงานเทศกาลสงกรานต์จังหวัดสุโขทัยมาให้ได้ดูกัน หากเพื่อน ๆ สนใจงานไหน ก็วางแผนเดินทางท่องเที่ยวได้เลย 1. งานประเพณีแห่ช้างบวชนาคไทยพวน บ้านหาดเสี้ยวจัดวันที่ 6-7 เมษายน 2564สถานที่จัดงาน ณ วัดหาดเสี้ยว อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัยพิกัด : https://goo.gl/maps/EWrcCujGYH5Drhc69 2. งานประเพณีสรงน้ำโอยทาน สงกรานต์ศรีสัชนาลัยจัดวันที่วันที่ 8-11 เมษายน 2564สถานที่จัดงาน ณ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์พระยาลิไทและอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัยพิกัด : https://goo.gl/maps/sy9NNpqaM7bpMoJt6 3. งานย้อนอดีตมหาสงกรานต์กรุงสุโขทัยจัดวันที่วันที่ 13-15 เมษายน 2564สถานที่จัดงาน ณ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัยพิกัด : https://goo.gl/maps/PM3nVRWnXCSx1BYX8 4. งานประเพณีสงกรานต์เสื้อลายดอก ถนนข้าวตอกสุโขทัยจัดวันที่วันที่ 13-15 เมษายน 2564สถานที่จัดงาน ณ บริเวณเมืองสุโขทัยและสวนสาธารณะริมแม่น้ำยม อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัยพิกัด : https://goo.gl/maps/xzxYjfuVGsgFeRtR9 5. งานประเพณีแห่น้ำขึ้นโฮง สรงน้ำเจ้าหมื่นด้งจัดวันที่ 18-20 เมษายน 2564สถานที่จัดงาน ณ บริเวณอนุสาวรีย์เจ้าหมื่นด้ง อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัยพิกัด : https://goo.gl/maps/cv7CKNr7o9sVbvMM8 6. งานบ้านบ้านโขทัย สุโขทัย คราฟต์แอนด์โฟล์คอาร์ตจัดวันที่ 10-14 เมษายน 2564 เวลา 17.00-22.00 น.สถานที่จัดงาน ณ บริเวณสวนน้ำเปรมสุข อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัยพิกัด : https://goo.gl/maps/2Rxjowp9F4m88K5XA

งานเทศกาลสงกรานต์จังหวัดสุโขทัย อ่านเพิ่มเติม

พระธาตุจอมเจดีย์ ๘ องค์ เสริมสิริมงคล

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงคัดเลือกพระบรมธาตุเจดีย์เพื่อเป็นปูชนียสถานที่สำคัญในแต่ละภาค และเฉลิมนามว่า “จอมเจดีย์” ทรงกล่าวถึงความสำคัญของจอมเจดีย์แต่ละแห่ง ซึ่งเสมือนบอกเล่าเรื่องราวความเชื่อมโยงสัมพันธ์ของพุทธศาสนา โบราณสถาน และประวัติศาสตร์ มีหลักฐานที่กล่าวถึงพระธาตุจอมเจดีย์ คือภาพเขียนจอมเจดีย์ ๘ องค์ ในซุ้มคูหาผนัง ๘ ห้อง ณ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร กรุงเทพมหานคร การกำหนดพระธาตุจอมเจดีย์ให้กระจายในหลายพื้นที่ทำให้เกิดการเดินทางไปสู่หลากหลายภูมิภาคยิ่งขึ้น รวมทั้งแต่ละสถานที่มีตำนานและประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ ๑. พระปฐมเจดีย์ วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร ตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม พระปฐมเจดีย์ ได้รับการคัดเลือกเป็นจอมเจดีย์ เนื่องจาก “สร้างขึ้นเมื่อแรกที่พุทธศาสนามาสู่สยามประเทศ” ในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ทรงส่งสมณทูตเดินทางมาเผยแผ่พุทธศาสนา ณ ดินแดนสุวรรณภูมิ และประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุพระพุทธเจ้าไว้ภายในองค์เจดีย์ องค์พระปฐมเจดีย์มีรูปทรงเป็นรูประฆังคว่ำ มีการจัด “งานเทศกาลนมัสการพระปฐมเจดีย์” ในวันขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๑๒ ถึงวันแรม ๕ ค่ำ เดือน ๑๒ (ประมาณช่วงเดือนตุลาคมหรือพฤศจิกายน) รวม ๙ วัน ๙ คืน การเดินทาง รถยนต์: จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข ๔ (ถนนเพชรเกษม) ผ่านอ้อมน้อย อ้อมใหญ่ สามพราน สู่จังหวัดนครปฐม หรือใช้ถนนบรมราชชนนี ผ่านพุทธมณฑล นครชัยศรี ถึงจังหวัดนครปฐม รถไฟ: จากกรุงเทพฯ มีบริการรถไฟไปนครปฐมวันละหลายเที่ยว ลงสถานีนครปฐม สอบถามข้อมูล โทร. ๑๖๙๐ www.railway.co.th รถโดยสารประจำทาง: มีทั้งรถบัสและรถตู้ จากสถานีขนส่งกรุงเทพฯ (สายใต้ใหม่) ถนนบรมราชชนนี สอบถามข้อมูลได้ที่ บริษัท ขนส่ง จำกัด โทร. ๑๔๙๐ www.transport.co.th  ๒. พระปรางค์พระศรีมหาธาตุละโว้ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ตำบลท่าหิน อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี พระปรางค์พระศรีมหาธาตุละโว้ ได้รับการคัดเลือกเป็นจอมเจดีย์ด้วยเป็น “สถูปเจดีย์องค์แรกที่ประดิษฐานพุทธศาสนาฝ่ายมหายานในสยามประเทศ” องค์ปรางค์เป็นศิลปะเขมรแบบบายน สร้างด้วยศิลาแลงประดับลวดลายปูนปั้น และเป็นแบบอย่างเจดีย์ทรงปรางค์ในสมัยอยุธยาตอนต้น ได้มีการขุดค้นพบว่าภายในองค์พระปรางค์เป็นที่ประดิษฐานพระพิมพ์จำนวนมาก ซึ่งต่อมาเป็นพระพิมพ์ที่ขึ้นชื่อของจังหวัดลพบุรี เปิดให้เข้าชมทุกวันพุธ-วันอาทิตย์ เวลา ๐๗.๐๐-๑๗.๐๐ น. การเดินทาง พระปรางค์ตั้งอยู่ในตัวเมืองลพบุรี ตรงข้ามสถานีรถไฟลพบุรี ห่างจากพระปรางค์สามยอดและศาลพระกาฬ ๑ กิโลเมตร และห่างจากพระนารายณ์ราชนิเวศน์ ๕๐๐ เมตร จากสถานีขนส่งผู้โดยสารมีรถสองแถววิ่งผ่าน หรือนั่งจักรยานยนต์รับจ้างระยะทาง ๒.๕ กิโลเมตร  ๓. พระธาตุหริภุญชัย วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน พระธาตุหริภุญชัย ได้รับเลือกเป็นพระธาตุจอมเจดีย์ ด้วยเป็น “เจดีย์ที่สร้างก่อนเจดีย์องค์อื่นในล้านนา” สร้างในสมัยพระเจ้าอาทิตยราช ราวพุทธศตวรรษที่ ๑๗ สถาปัตยกรรมทรงเจดีย์แบบล้านนา ฐานเจดีย์ประกอบด้วยฐานปัทม์เป็นลูกบัวแก้ว ย่อเก็จ องค์เจดีย์ทรงระฆังกลม และตำนานกล่าวว่าประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุหลายส่วน ได้แก่ พระบรมธาตุส่วนกระหม่อม พระอุรังคธาตุ (กระดูกส่วนอก) พระบรมธาตุส่วนนิ้วพระหัตถ์ และพระบรมสารีริกธาตุส่วนย่อยเต็มหนึ่งบาตร มีการจัด “งานประเพณีแปดเป็ง สรงน้ำพระธาตุหริภุญชัย” ในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ (เดือน ๘ เหนือ จึงเรียก “แปดเป็ง”) โดยนำน้ำจากบ่อน้ำทิพย์จากยอดดอยขะม้อ ตำบลมะเขือแจ้ อำเภอเมืองลำพูน มาเป็นน้ำสรงพระธาตุ ซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติมาแต่โบราณ การเดินทาง ตัวเมืองลำพูน มาตามถนนเจริญราษฎร์ ๒ กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้าถนนรอบเมืองนอก ๒๐๐ เมตร ถึงวงเวียน เข้าซอยสันป่ายาง ๔๕ เมตร เลี้ยวซ้ายเข้าถนนรอบเมืองใน ๔๕๐ เมตร ผ่านประตูเมืองท่านาง เลี้ยวขวา ๒๐ เมตร ห่างจากศาลากลางจังหวัดประมาณ ๑๕๐ เมตร  ๔. พระธาตุพนม วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ถนนชยางกูร ตำบลธาตุพนม อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม พระธาตุพนม ได้รับเลือกให้เป็นจอมเจดีย์ เนื่องจากเป็น “เจดีย์ที่สร้างก่อนเจดีย์องค์อื่นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” สร้างสมัยอาณาจักรศรีโคตรบูรณ์ ในราวปี พ.ศ. ๘ โดยกษัตริย์ ๕ พระองค์ เป็นพระบรมธาตุเจดีย์ซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาอย่างยิ่งของชาวอีสานและชาวลาว เป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนสองฝั่งแม่น้ำโขง ตามตำนานกล่าวว่าเป็นที่ประดิษฐาน พระอุรังคธาตุ หรือกระดูกส่วนหน้าอกของพระพุทธเจ้า มีการจัด “งานนมัสการพระธาตุพนม” ในวันขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๓ ถึงวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๓ (ประมาณเดือนกุมภาพันธ์หรือมีนาคม) กล่าวกันว่าผู้ที่ได้มาสักการะพระธาตุพนมครบ ๗ ครั้ง ถือเป็น “ลูกพระธาตุ” การเดินทาง รถยนต์: จากตัวเมืองนครพนม ใช้ทางหลวงหมายเลข ๒๑๒ (นครพนม-มุกดาหาร) ประมาณ ๕๐ กิโลเมตร จะพบวัดตั้งอยู่ทางขวามือในตัวอำเภอธาตุพนม รถโดยสารประจำทาง: มีรถตู้โดยสารสายนครพนม-มุกดาหาร วิ่งผ่านหน้าวัด ต้นทางสามารถขึ้นได้จากสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดนครพนมและมุกดาหาร  ๕. วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ เชลียง อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย พระธาตุศรีรัตนมหาธาตุ เชลียง หรือ “วัดพระบรมธาตุเมืองเชลียง” เป็นโบราณสถานในอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย สร้างประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๗-๑๘ มีโบราณสถานที่สำคัญของวัด คือ “ปรางค์ประธาน” ก่อด้วยศิลาแลงฉาบปูน เรือนธาตุด้านหน้าเป็นซุ้มโถง มีสถูปรูปดอกบัวตูมขนาดเล็ก ชาวบ้านเรียกว่า

พระธาตุจอมเจดีย์ ๘ องค์ เสริมสิริมงคล อ่านเพิ่มเติม

พิษณุโลก-สุโขทัย 3 วัน 2 คืน

พิษณุโลก-สุโขทัย 3 วัน 2 คืน วันที่ 1กรุงเทพมหานคร – จ.พิษณุโลก– บ้านมุง อ.เนินมะปราง.วันที่ 2จ.พิษณุโลก- จ.สุโขทัย– บ้านพระพิมพ์ลักษมณศิลป์– อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย.วันที่ 3จ.สุโขทัย – จ.พิษณุโลก – กรุงเทพมหานคร– อุษาสังคโลก วันที่ 1 ทริปนี้ แอดเดินทางด้วยรถไฟ เพราะอยากรู้ว่าการเดินทางด้วยรถไฟในแบบ New Normal จะเป็นยังไง บอกได้เลยว่า แทบไม่มีอะไรที่เพื่อน ๆ ต้องกังวลเลย ผู้โดยสารและเจ้าหน้าที่ต่างดูแลตัวเอง ด้วยการใส่หน้ากากอนามัยและพกเจลแอลกอฮอล์กันแทบทุกคนเลย ที่สำคัญระหว่างเดินทาง วิวสวยมากเลยทีเดียว รถไฟออกจากสถานีหัวลำโพงตอน 07.00 น. ถึงสถานีพิษณุโลกประมาณ 15.30 น. ล่าช้ากว่ากำหนดนิดหน่อย จุดหมายแรกของแอดคือ ตำบลบ้านมุง อำเภอเนินมะปราง ใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองไปประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง หมู่บ้านนี้ ล้อมรอบไปด้วยภูเขาหินขนาดใหญ่ อายุ 300 ล้านปี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง. แอดนัดกับคุณตุ่น แอดมินกลุ่มคนรักเนินมะปรางซึ่งจะมาเป็นไกด์นำเที่ยวไว้บริเวณ “ถนนแลนด์มาร์ค” ของบ้านมุงไว้เวลา 16.30 น. โดยการนั่งรถอีแต๊กชมหมู่บ้านจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง เพื่อน ๆ คนไหนอยากนั่งรถชมหมู่บ้านตอนเย็นแบบแอด อย่าลืมดูเวลาดี ๆ นะ เพราะตอนเย็นจะมีไฮไลท์คือ การชมฝูงค้างคาวออกหากินด้วย.ค่าบริการรถนำเที่ยว 800 บาท นั่งได้ 10-12 คนต่อ 1 คัน.บ้านมุงเหนือ หมู่ 1 ตำบลบ้านมุง อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลกโทร 085 400 1727 (คุณตุ่น แอดมินเพจ คนรักเนินมะปราง)เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-17.00 น. หลังจากขึ้นรถอีแต๊กแล้ว คุณตุ่นก็พาแอดไปเที่ยวตามถ้ำต่าง ๆ เช่น ถ้ำวัดหลวงพ่อบุญมี ถ้ำค้างคาว ถ้ำเดือนถ้ำดาว ซึ่งส่วนมากจะมีค้างคาวอาศัยอยู่ ไฮไลท์ของที่นี่คือ ถ้ำนางสิบสอง ซึ่งนักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่า ถ้ำนี้เคยเป็นทะเลเมื่อ 300 ล้านกว่าปีก่อน นอกจากนี้ยังมีความเชื่อตามตำนานพื้นบ้านของไทยว่า เป็นที่ ๆ นางทั้งสิบสองถูกยักษ์นำมาขังไว้และควักลูกตาออก จากนั้น คุณตุ่นก็พาแอดนั่งรถอีแต๊กไปชมแคมป์หมาบ้าใจดี ที่พักที่นำรายได้ไปช่วยเหลือสุนัขจรจัด และไปชมเส้นทางภูเขาหินรอบเนินมะปราง ซึ่งมีภูเขาหินเรียงกันเป็นระยะทางราว ๆ 13.5 กิโลเมตร ใครที่สนใจกิจกรรมเเนวเเอดเวนเจอร์ อย่างการพิชิตยอดเขาหินปูน สามารถสอบถามข้อมูลและจองล่วงหน้าที่คุณตุ่นได้เลย โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง เส้นทางเป็นดินเเดงและร่องหิน ต้องเดินด้วยความระมัดระวัง ปิดท้ายด้วยการกลับมาตรงถนนแลนด์มาร์คเพื่อชมค้างคาว ทุกเย็นจะมีค้างคาวมากกว่าล้านตัวออกมาหากินประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนวันที่แอดไป ค้างคาวออกมาหากินประมาณ 6 โมงเย็น โดยใน 15-20 นาทีแรกจะเห็นค้างคาวบินออกมาเยอะ จนแอดอดไม่ได้ที่จะเอากล้องออกมาถ่ายรูปเก็บไว้รัว ๆ เลยล่ะ.การเดินทางไปบ้านมุงที่แอดแนะนำคือ การเช่ารถ หรือถ้าเพื่อน ๆ เป็นสายลุย ก็สามารถนั่งรถโดยสารสายพิษณุโลก – เนินมะปราง จากสถานี บขส.เก่ามาได้ ค่ารถ 70 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงเวลาเดินรถมีดังนี้ พิษณุโลก-เนินมะปราง06.45 / 07.45 / 10.15 / 12.15 / 13.40 / 15.50 / 17.20 น.เนินมะปราง-พิษณุโลก05.45 / 06.50 / 09.00 / 11.00 / 13.30 / 15.40 / 17.00 น. วันที่ 2แอดเดินทางมาเที่ยวต่อที่จังหวัดสุโขทัย ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงในการเดินทาง หากเพื่อน ๆ ไม่มีรถส่วนตัว สามารถขึ้นรถตู้ หรือรถทัวร์จากจังหวัดพิษณุโลกมาลงที่ตัวเมืองสุโขทัยได้ ในตัวเมืองสุโขทัยมีรถสองแถวให้บริการทั้งวัน.สถานที่ต่อไป แอดจะพาเพื่อน ๆ ไปที่บ้านพระพิมพ์ลักษมณศิลป์ ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2550 โดยบ้านพระพิมพ์ลักษมณศิลป์เป็นผู้ประกอบการที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน SHA (Amazing Thailand Safety & Health Administration) เพราะฉะนั้น เที่ยวที่นี่ได้อย่างปลอดภัย หายห่วงแน่นอน.ค่ากิจกรรมทำพระพิมพ์ คนละ 250 บาท.ที่ตั้ง 51/7 ม.8 บ้านเชตุพน ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.สุโขทัยเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น.โทร. 089 643 6219, 081 197 0535 เมื่อแอดเดินเข้ามาด้านใน ก็เจอกับพี่กบ ผู้ก่อตั้งบ้านพระพิมพ์และเป็นผู้สอนการทำพระพิมพ์ แอดขอบอกเลยว่า พี่กบคุยสนุกมาก มีการให้เกร็ดความรู้ต่าง ๆ ด้านพุทธศิลป์และประวัติศาสตร์ที่สนุกสนาน แอดฟังเพลินจนเกือบลืมเวลาทำพระพิมพ์ไปเลย ก่อนทำ Workshop อย่าลืมชิมน้ำใบเตยหอม ๆ และขนมสอดไส้ฝีมือคนท้องถิ่นที่พี่กบเตรียมไว้ให้นะ อร่อยมาก ๆ ซึ่งเมนูของว่างที่เตรียมไว้ จะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตามฤดูกาล ได้เวลาทำ workshop กันแล้ว

พิษณุโลก-สุโขทัย 3 วัน 2 คืน อ่านเพิ่มเติม

10 จุดชมความงาม ยามอาทิตย์อัสดง

1. วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ วัดอรุณราชวราราม เป็นวัดเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ในช่วงสมัยรัชกาลที่ 2 และรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ จุดเด่นของวัดแห่งนี้คือ “พระปรางค์” ซึ่งมีลักษณะทางสถาปัตยกรรมที่สวยงามโดดเด่นที่สุดวัดหนึ่งของไทย หากมองจากฝั่งพระนครไปยังวัดอรุณฯ ในช่วงพลบค่ำ ก็จะเห็นภาพดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่ด้านหลังของพระปรางค์พอดิบพอดี องค์ประกอบต่างๆ ล้วนทำให้เกิดเป็นภาพที่สวยงามลงตัวอย่างน่าอัศจรรย์ วัดอรุณราชวรารามวรมหาวิหารที่ตั้ง : ถ.วังเดิม แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานครเปิดทุกวัน เวลา 8.30-17.30 น. 2. วัดไชยวัฒนาราม จ.พระนครศรีอยุธยา ในช่วงปีที่ผ่านมา วัดไชยวัฒนารามเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิต เนื่องจากเป็นฉากหนึ่งในละครเรื่องบุพเพสันนิวาสทีโด่งดังไปทั่ว ทำให้มีผู้คนเดินทางมาตามรอยละครกันมากมาย วัดไชยวัฒนาราม เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างในสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง โดยจำลองรูปแบบการก่อสร้างมาจากปราสาทนครวัด มีพระปรางค์องค์ใหญ่เป็นประธานของวัด และมีปรางค์บริวารอยู่ที่มุมทั้ง 4 รอบพระปรางค์ล้อมรอบด้วยระเบียงคด ซึ่งมีเมรุทิศ เมรุราย อยู่ที่มุมและด้านของระเบียงคด นับเป็นโบราณสถานที่สวยงามตระการตาอีกแห่งหนึ่ง ในยามเย็นช่วงพระอาทิตย์ตกดิน แสงที่สาดส่องมายังโบราณสถาน ทำให้เกิดมุมมองที่แปลกตา สวยงามไม่แพ้กลางวันเลย วัดไชยวัฒนารามที่ตั้ง : อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยาเปิดทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น. 3. ปราสาทหินพนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์ หลายๆ คนอาจจะตั้งตารอชมปรากฏการณ์ที่ดวงอาทิตย์ขึ้นตรง 15 ช่องประตู ซึ่งใน 1 ปีจะเกิดขึ้นเพียง 4 ครั้งเท่านั้น แต่วันนี้แอดอยากจะบอกว่า ไม่ต้องรอให้ถึงช่วงเวลานั้น เราก็มีรูปสวยๆ ไปอวดเพื่อนๆ ได้เหมือนกัน ยามดวงอาทิตย์คล้อยลงต่ำ เตรียมจะลาลับขอบฟ้า เงาของปราสาทจะบดบังดวงอาทิตย์ ทำให้ปราสาทดูลึกลับและเต็มไปด้วยมนต์ขลังมากยิ่งขึ้น ปราสาทหินพนมรุ้งที่ตั้ง : ต.ตาเป๊ก อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์เปิดทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น. 4. สะพานแขวนสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี จ.ตาก สะพานแห่งนี้ถือเป็นจุดชมวิวแม่น้ำปิงที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของ จ.ตาก เลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะช่วงที่ดวงอาทิตย์ขึ้นและตก เราจะเห็นดวงอาทิตย์อยู่ตรงกับแนวสะพานพอดี เป็นภาพที่สวยงามมากๆ นอกจากนี้ ในช่วงเทศกาลลอยกระทงของทุกปี บริเวณสะพานแห่งนี้ยังใช้เป็นสถานที่จัดงานประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีปพันดวง ซึ่งเป็นประเพณีท้องถิ่นของจังหวัดที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครอีกด้วย สะพานแขวนสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปีที่ตั้ง : อ.เมือง จ.ตาก 5. อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จ.สุโขทัย อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย มรดกโลกที่สำคัญของไทย ร่องรอยความเจริญรุ่งเรืองของอาณาจักรสุโขทัยเมื่อกว่า 700 ปีก่อน ภายในอุทยานฯ เต็มไปด้วยโบราณสถานมากมายที่แม้จะปรักหักพังแต่ก็เต็มไปด้วยคุณค่าทั้งทางประวัติศาสตร์และทางจิตใจ ในช่วงเวลาโพล้เพล้ บริเวณสระน้ำหน้าวัดมหาธาตุนี่แหละคือสถานที่ยอดนิยมสำหรับนักถ่ายภาพ ภาพความยิ่งใหญ่ของโบราณสถานยามอาทิตย์อัสดงที่สะท้อนลงบนผิวน้ำนั้น งดงามเกินบรรยายจริงๆ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยที่ตั้ง : ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.สุโขทัยเปิดทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น. 6. กว๊านพะเยา จ.พะเยา กว๊านพะเยาเป็นบึงน้ำที่เกิดจากการรวมตัวของลำห้วยต่างๆ ถึง 18 สาย เป็นบึงที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ และใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศไทย นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลากว่า 50 ชนิดด้วย คำว่า “กว๊าน” หมายถึง หนองน้ำ หรือบึงน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นคำที่ใช้เฉพาะที่จังหวัดพะเยาแห่งเดียวเท่านั้น ทัศนียภาพรอบกว๊านร่มรื่น มองเห็นแนวทิวเขาสลับซับซ้อนสวยงาม บริเวณริมกว๊านมีร้านอาหารและสวนสาธารณะ ซึ่งสามารถมาเดินเล่น หรือชมพระอาทิตย์ตกดินได้ มีบริการนั่งเรือพายชมทัศนียภาพกว๊านพะเยาด้วย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท กว๊านพะเยาที่ตั้ง : ต.เวียง อ.เมือง จ.พะเยา 7. ประภาคาร จ.ระนอง ประภาคารแห่งนี้ ตั้งอยู่บริเวณท่าเทียบเรือด่านศุลกากรระนอง เป็นอาคารแปดเหลี่ยม สูง 50 เมตร ถือว่าเป็นประภาคารที่สูงที่สุดในประเทศไทย ประภาคารมีทั้งหมด 9 ชั้น โดยชั้นที่ 9 เป็นจุดชมวิวที่สามารถชมสวยงามของปากน้ำระนอง ก่อนไหลออกสู่ทะเลอันดามัน โดยอีกฟากฝั่งของแม่น้ำก็คือประเทศเมียนมานั่นเอง ใกล้มากๆ ในช่วงเย็น สถานที่แห่งนี้ยังเป็นสถานที่ที่เราสามารถมาเดินเล่น พักผ่อนหย่อนใจ รับลมเย็นๆ และถ่ายรูปเล่นได้อีกด้วย บอกเลยว่าภาพประภาคารที่มีภูเขาและดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าเป็นฉากหลังนั้น สวยงามไม่แพ้ที่ไหนๆ เลย ประภาคาร จ.ระนองที่ตั้ง : บ้านเขานางหงส์ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนองเปิดทุกวัน เวลา 8.00-20.00 น. 8. สะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.พัทลุง รู้หรือไม่..สะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.พัทลุง เป็นสะพานที่ยาวที่สุดของประเทศไทยในขณะนี้ สะพานแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเชื่อมเส้นทางระหว่าง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง และ อ.ระโนด จ.สงขลา เข้าด้วยกัน โดยทอดยาวผ่านทะเลน้อยอันกว้างใหญ่ ทัศนียภาพโดยรอบสะพานเป็นเวิ้งน้ำกว้างไกล สามารถมองเห็นทะเลบัวแดงในช่วงเช้า ส่วนช่วงสายก็จะพบกับนกน้ำที่ออกหากิน และถ้าโชคดีก็อาจได้พบควายน้ำด้วย ไฮไลท์อีกอย่างของที่นี่คือ ในช่วงเย็นเส้นทางนี้ยังได้ชื่อว่าเป็นจุดถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งอีกด้วย สะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาที่ตั้ง : ต.พนางตุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง 9. เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี เกาะเต่า จุดดำน้ำที่มีชื่อเสียงระดับโลก เนื่องจากมีแนวปะการังทั้งน้ำตื้นและน้ำลึกที่มีความสวยงามและสมบูรณ์ อีกทั้งยังเป็นที่อยู่อาศัยของปลาหลากหลายชนิด เกาะเต่ามีหาดทรายขาวละเอียดและสะอาดสวยงาม นอกจากนี้ยังเป็นเกาะที่เงียบสงบ ผู้คนไม่พลุกพล่าน เกาะเต่าจึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่ต้องการการพักผ่อนอย่างแท้จริง ถึงแม้เกาะเต่าจะตั้งอยู่ในเขต จ.สุราษฎร์ธานี แต่เนื่องจากอยู่ใกล้ฝั่งของ จ.ชุมพรมากกว่า นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเกาะเต่าจึงนิยมขึ้นเรือจากชุมพรเป็นส่วนใหญ่ เกาะเต่าที่ตั้ง : อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี 10.

10 จุดชมความงาม ยามอาทิตย์อัสดง อ่านเพิ่มเติม

5 พิกัดชมทะเลหมอกสุดปัง

5 พิกัดชมทะเลหมอกสุดปัง . ลมหนาวใกล้เข้ามาแล้ว กิจกรรมสุดฮิตในช่วงฤดูหนาวแบบนี้คงหนีไม่พ้นการไปดื่มด่ำธรรมชาติบนยอดดอย ชมทะเลหมอก และเฝ้ารอพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าอย่างใจจดใจจ่อ . วันนี้แอดมี 5 พิกัดชมหมอกยามเช้ามาแนะนำ เอาไว้เป็นไอเดียสำหรับการวางแผนท่องเที่ยวในช่วงหยุดยาวที่จะถึงนี้ค่ะ 1. จุดชมทะเลหมอกอัยเยอร์เวง จังหวัดยะลา2. จุดชมวิวดอยกิ่วลม จังหวัดเชียงใหม่3. เขาหลวง จังหวัดสุโขทัย4. สวนยาหลวง บ้านสันเจริญ จังหวัดน่าน5. ภูห้วยอีสัน จังหวัดหนองคาย จุดชมทะเลหมอกอัยเยอร์เวง จังหวัดยะลา เป็นจุดชมวิวยอดฮิตของอำเภอเบตง อยู่ในพื้นที่ของเขาไมโครเวฟ ที่นี่สามารถมองเห็นทะเลหมอกได้ตลอดทั้งปี เพราะถูกโอบล้อมด้วยภูเขาสลับซับซ้อน มีป่าที่อุดมสมบูรณ์ และมีแม่น้ำปัตตานีไหลผ่าน นอกจากทะเลหมอกแล้ว เราจะได้เห็นทิวทัศน์อันสวยงามของเขาไมโครเวฟด้วย จุดชมวิวทะเลหมอกมี 2 จุด ได้แก่ จุดชมวิว กม. 32 เป็นจุดที่มองเห็นทะเลหมอกได้ชัดที่สุด ถ้าเพื่อน ๆ จะขึ้นมาชมทะเลหมอกที่จุดนี้ ต้องจอดรถไว้ที่ลานจอดรถ แล้วเดินขึ้นมาประมาณ 500 เมตร ถ้าเดินไม่ไหว สามารถนั่งรถมอเตอร์ไซต์ขึ้นมาได้ ค่ารถคนละ 20 บาท ตอนนี้มีสกายวอล์คเปิดให้บริการแล้ว ใครอยากสัมผัสหมอกกันแบบใกล้ชิด ต้องห้ามพลาดจุดนี้เลยค่ะ.จุดชมวิวอีกจุดหนึ่งอยู่ถัดลงมาจากจุดแรก อยู่ใกล้โซนร้านอาหาร เป็นลานระเบียงกว้างขวาง จุดนี้นักท่องเที่ยวสามารถนำรถมาจอดได้.ที่ตั้ง: ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลาพิกัด: https://goo.gl/maps/Ljk4R7YUKT5v8xTQ7  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ องค์การบริหารส่วนตำบลอัยเยอร์เวง 0 7328 5111 จุดชมวิวดอยกิ่วลม จังหวัดเชียงใหม่ จุดชมวิวดอยกิ่วลมตั้งอยู่บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง นักท่องเที่ยวสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกท่ามกลางภูเขาที่สลับซับซ้อนสวยงาม รวมทั้งยังสามารถมองเห็นดอยหลวงเชียงดาว ยอดเขาที่สูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศไทยได้อีกด้วย นับเป็นจุดชมวิวที่สวยงามมากแห่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาด.ภายในอุทยานฯ มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น จุดชมวิวดอยช้าง สวนดอกไม้หลากสี น้ำพุร้อนโป่งเดือด เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีบ้านพักและลานกางเต็นท์ให้บริการ โดยเปิดให้กางเต็นท์ค้างแรมในเดือนตุลาคม-เมษายน ของทุกปี .อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังต.กึ๊ดช้าง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่พิกัด: https://goo.gl/maps/rm3K7hn6samaCMVb8โทร. 0 5324 8491, 08 4908 1531 เขาหลวง จังหวัดสุโขทัย เขาหลวง ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติรามคำแหง มีความสูงจากระดับทะเลปานกลาง 1,200 เมตร บนยอดเขามีทิวทัศน์ที่สวยงามและปกคลุมด้วยทุ่งหญ้าธรรมชาติ อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี บนยอดเขาสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก และทะเลหมอกได้ เพื่อน ๆ สามารถเดินเท้าขึ้นไปพิชิตยอดเขาหลวงได้ ระยะทางประมาณ 3.7 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินขึ้นไปบนยอดเขาราว 4 ชั่วโมง ดังนั้น ถ้าใครอยากพิชิตยอดเขาหลวง เตรียมร่างกาย เตรียมน้ำและเสบียงไปให้พร้อมนะคะ.อุทยานแห่งชาติรามคำแหง ต.นาเชิงคีรี อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัยพิกัด: https://goo.gl/maps/KNJeNQWvwQ5XcaFE6โทร. 09 8883 9297 สวนยาหลวง บ้านสันเจริญ จังหวัดน่าน หมู่บ้านสันเจริญเคยเป็นพื้นที่ปลูกฝิ่นของชาวเขาเผ่าเมี่ยน ก่อนจะเปลี่ยนมาปลูกกาแฟเป็นอาชีพหลัก จนปัจจุบันกลายเป็นแหล่งปลูกกาแฟที่มีชื่อเสียงของจังหวัดน่าน จากบ้านสันเจริญ เราสามารถขึ้นไปชมทะเลหมอก พระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตกได้บนยอดดอยสวนยาหลวง ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่มีลักษณะเป็นเนินภูเขาหญ้า สามารถมองเห็นทัศนียภาพของภูเขาได้สุดสายตา 360 องศา นอกจากนี้ดอยสวนยาหลวงยังเป็นแนวสันเขาที่เป็นรอยต่อระหว่างอำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน กับอำเภอปง จังหวัดพะเยา เรียกว่ามาที่เดียวได้ชมวิว 2 จังหวัดเลยค่ะ การขึ้นไปชมวิวบนยอดดอยสวนยาหลวง ต้องนั่งรถขับเคลื่อนสี่ล้อจากหมู่บ้านสันเจริญขึ้นไป เส้นทางเป็นถนนลูกรังและค่อนข้างชัน ตลอดเส้นทางจะได้เห็นความสวยงามของไร่กาแฟที่ปลูกกระจายอยู่ทั่วหุบเขา ยิ่งในช่วงเช้า บรรยากาศจะยิ่งสวยงามแปลกตา เพราะจะมีสายหมอกจาง ๆ ปกคลุมไร่กาแฟ ระหว่างทางจากบ้านสันเจริญไปยังยอดดอยสวนยาหลวงมีที่พักรองรับนักท่องเที่ยว เรียกว่า coffee farm stay เป็นที่พักเรียบง่ายกลางไร่กาแฟ ใครอยากตื่นมาจิบกาแฟพร้อมชมวิวไร่กาแฟยามเช้า ต้องไปพักที่นี่เลยค่ะ.ที่ตั้ง : ต.ผาทอง อ.ท่าวังผา จ.น่านพิกัด https://goo.gl/maps/Ljk4R7YUKT5v8xTQ7กลุ่มท่องเที่ยวชุมชนเชิงอนุรักษ์ดอยสวนยาหลวง บ้านสันเจริญ โทร. 08 6390 7737 ภูห้วยอีสัน จังหวัดหนองคาย เป็นจุดชมวิวบนเขาสูง สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นกลางลำน้ำโขงและแนวเขาสลับซับซ้อนในเขตประเทศลาวได้ ถ้าอยากเห็นหมอกแบบแน่น ๆ แอดแนะนำให้มาชมในช่วงฤดูหนาวค่ะ การเดินทางขึ้นไปที่ภูห้วยอีสันไม่สามารถใช้รถยนต์ส่วนตัวขึ้นไปได้ เพราะว่าทางขึ้นสูงและชันมาก เพื่อน ๆ สามารถใช้บริการรถอีแต๊กได้ โดยจุดบริการรถอีแต๊กจะอยู่ที่อบต.บ้านม่วง ค่าบริการคนละ 60 บาท (ไป-กลับ) ในการชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอก แนะนำให้มาขึ้นรถอีแต๊กเวลาประมาณ 05.00 น. เพราะระยะทางจากจุดขึ้นรถไปถึงภูห้วยอีสัน ใช้เวลาประมาณ 45-50 นาที.ที่ตั้ง: ตำบลบ้านม่วง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคายพิกัด: https://goo.gl/maps/JvNbFTfrWd8nK2pp8เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 04.00 น.โทร. 0 4241 4871, 09 6068 2362, 08 7219 5500 เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 4 ธันวาคม 2563

5 พิกัดชมทะเลหมอกสุดปัง อ่านเพิ่มเติม

2 วัน 1 คืน เที่ยวสุขใจที่สุโขทัย

2 วัน 1 คืน เที่ยวสุขใจที่สุโขทัย.จังหวัดสุโขทัย จังหวัดเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 700 ปี คำว่า “สุโขทัย” แปลว่า รุ่งอรุณแห่งความสุข ดังนั้นทริป 2 วัน 1 คืน ของเราในครั้งนี้ ต้องแฮปปี้อย่างแน่นอน.ทริปนี้แอดจะพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวสุโขทัยแบบผสมผสานหลากหลายสไตล์ ไปชมกันทั้งป็อบคัลเจอร์สตรีทอาร์ทกลางเมืองสวรรคโลก ต่อด้วยความยิ่งใหญ่งดงามของอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยที่ได้รับการยกให้เป็นมรดกโลกจาก UNESCO และแน่นอนว่า ถ้าไปสุโขทัยในช่วงนี้ ห้ามพลาดงานเผาเทียน เล่นไฟ เทศกาลลอยกระทงที่มีชื่อเสียงระดับโลกของสุโขทัยเป็นอันขาด.พร้อมแล้ว ตามแอดมาเลยค่ะ  วันที่ 1อำเภอสวรรคโลก– Street Art สวรรคโลก– โรงพักเรือนทรงปั้นหยา– จงกลคาเฟ่ อำเภอเมือง– อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย วันที่ 2– วัดศรีชุม– พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติรามคำแหง– ชุมชนเครื่องปั้นสังคโลก– ร้านไม้กลางกรุง เริ่มต้นทริปกันที่อำเภอสวรรคโลก อำเภอเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของจังหวัดสุโขทัย จุดแรกที่แอดจะพาไปคือ สตรีทอาร์ทสวรรคโลก.ศิลปะสตรีทอาร์ทนี้อยู่บนถนนพิศาลสุนทรกิจ ย่านการค้าเก่าแก่กลางเมืองสวรรคโลก สร้างสรรค์โดยศิลปินแนวสตรีทอาร์ทชื่อดังชาวไทยและชาวต่างชาติ ทั้งสิงคโปร์ มาเลเซีย และกัมพูชา บอกเล่าวิถีชีวิต ศิลปะ และวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของสุโขทัยและสวรรคโลก ภาพวาดมีทั้งหมด 6 จุด แทรกตัวไปกับอาคารบ้านเก่าบนถนนพิศาลสุนทรกิจได้อย่างมีเสน่ห์ ที่นี่ถือเป็นจุดเช็คอินและจุดถ่ายรูปสุดชิคที่ห้ามพลาดเลยก็ว่าได้ ที่ตั้ง : ถ.พิศาลสุนทรกิจ อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัยพิกัด : https://goo.gl/maps/auWCAze211jcXAaV9 โรงพักเรือนทรงปั้นหยา.เลยจากถนนพิศาลสุนทรกิจเล็กน้อย จะพบกับโรงพักสวรรคโลก เป็นโรงพักเก่าสมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 อายุกว่า 80 ปี ปัจจุบันบูรณะไว้เป็นมรดกทางประวัติศาสตร์ โรงพักแห่งนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2482 ซึ่งเป็นปีที่จังหวัดสวรรคโลกเปลี่ยนชื่อเป็นจังหวัดสุโขทัยอีกด้วย ลักษณะอาคารเป็นเรือนทรงปั้นหยา ด้านในอาคารเป็นโถงโล่ง จัดแสดงเรื่องราวประวัติศาสตร์ของโรงพัก รวมถึงเครื่องมือเครื่องใช้ในอดีต เช่น เครื่องใช้สำนักงาน เครื่องแบบตำรวจ ฯลฯ.ด้วยความสวยงามสมบูรณ์ของอาคาร ทำให้โรงพักเรือนทรงปั้นหยาแห่งนี้ได้รับรางวัลอนุรักษ์ศิลปกรรมสถาปัตยกรรมดีเด่น ประจำปี 2559 ประเภท อาคารสถาบันและอาคารสาธารณะ จากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์.ที่ตั้ง : ถ.หน้าเมือง อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัยพิกัด : https://goo.gl/maps/Cx8rJm9SqrysDCNh7 เดินเที่ยวมาเหนื่อย ๆ ไปแวะนั่งพัก จิบกาแฟและหาอะไรหวาน ๆ กินที่ร้านจงกล คาเฟ่ ร้านกาแฟสุดชิคที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสนามบินสุโขทัย บรรยากาศสบายสไตล์มินิมอล ร้านประดับประดาด้วยต้นไม้นานาชนิด ให้ความรู้สึกร่มรื่นสบายตา ที่นี่มีเครื่องดื่มให้เลือกหลากหลาย ที่สำคัญเค้กอร่อยมาก ถ้าใครไม่รู้จะสั่งอะไร แอดขอแนะนำ เค้กหน้าไหม้และเครปเค้กสตรอว์เบอร์รี.ที่ตั้ง : 107/4 ต.บ้านคลองกระจง อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัยเปิดทุกวัน เวลา 09.00 – 16.00 น.โทร. 064 220 1017พิกัด : https://goo.gl/maps/zueobSZsbhTN6iue9  จากสวรรคโลก เดินทางประมาณ 45 นาที เราก็จะมาถึงอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่เต็มไปด้วยร่องรอยอดีตและความงดงามของโบราณสถานแห่งสุโขทัย อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยเป็นมรดกทางประวัติศาสตร์สมัยเริ่มสร้างอาณาจักรของไทยที่ยังหลงเหลืออยู่ ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกเมื่อ ปี พ.ศ. 2534.ที่ตั้ง : ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.สุโขทัยเปิดทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น.พิกัด : https://goo.gl/maps/gXY72BkyneK2 โบราณสถานสำคัญที่อยู่ในอุทยานฯ ชั้นในมีอยู่หลายแห่ง แต่แอดจะพาไปชมจุดหลัก ๆ ที่ต้องห้ามพลาดกันค่ะ.วัดมหาธาตุ สร้างขึ้นสมัยสุโขทัยตอนต้น ตั้งอยู่บริเวณกลางเมืองสุโขทัย จุดเด่นอยู่ที่เจดีย์มหาธาตุทรงดอกบัวตูม ซึ่งเป็นเจดีย์ประธานของวัด รายรอบด้วยเจดีย์ 8 องค์ ใกล้กับเจดีย์ประธานมีวิหารขนาดใหญ่ก่อด้วยศิลาแลง มีแท่นซึ่งเคยเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย คือ พระศรีศากยมุนี ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ในโบสถ์วัดสุทัศน์เทพวราราม กรุงเทพฯ ด้านเหนือและด้านใต้ของเจดีย์มหาธาตุ มีพระพุทธรูปยืนขนาดใหญ่อยู่ภายในซุ้ม เรียกว่า “พระอัฎฐารส” วัดสระศรี เป็นโบราณสถานสำคัญซึ่งตั้งอยู่บนเกาะกลางน้ำขนาดใหญ่ ที่เรียกว่า ตระพังตระกวน สิ่งที่น่าชมในวัดนี้คือ เจดีย์ประธานทรงลังกา ด้านหน้าเจดีย์มีวิหารขนาดใหญ่ประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย ทางทิศใต้ของเจดีย์ประธาน มีเจดีย์ศิลปะศรีวิชัยผสมลังกาขนาดเล็ก มีซุ้มพระพุทธรูป 4 ทิศ ส่วนด้านหน้าของวิหารเป็นเกาะกลางน้ำขนาดย่อมซึ่งเป็นที่ตั้งของพระอุโบสถขนาดเล็ก ถือว่าเป็นวัดที่มีจุดชมทัศนียภาพสวยงามมากแห่งหนึ่ง ถ้าใครไปเที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยช่วงนี้ อย่าลืมเตรียมตัวแต่งชุดไทยไปลอยกระทงกันที่งานประเพณี “ลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ” กันนะคะ ปีนี้งานจัดตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน 2563ภายในงานมีกิจกรรมมากมาย เช่น ตลาดย้อนยุค กิจกรรมข้าวขวัญวันเล่นไฟ การแสดงมวยคาดเชือก การแสดงพลุ การประกวดนางนพมาศ และการแสดงแสง สี เสียง สุดอลังการในวันที่ 27 ตุลาคม – 31 ตุลาคม ถ้าใครไปเที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยช่วงนี้ อย่าลืมเตรียมตัวแต่งชุดไทยไปลอยกระทงกันที่งานประเพณี “ลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ” กันนะคะ ปีนี้งานจัดตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน 2563ภายในงานมีกิจกรรมมากมาย เช่น ตลาดย้อนยุค กิจกรรมข้าวขวัญวันเล่นไฟ การแสดงมวยคาดเชือก การแสดงพลุ การประกวดนางนพมาศ และการแสดงแสง สี เสียง สุดอลังการในวันที่ 27 ตุลาคม – 31 ตุลาคม ภายในมณฑป ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่งดงาม ศิลปะสุโขทัย นามว่า “พระอจนะ” ด้วยความที่พระอจนะเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่ประดิษฐานอยู่ในมณฑปขนาดเล็ก ทำให้การถ่ายภาพที่นี่ถือเป็นเรื่องท้าทายอย่างยิ่งว่าจะถ่ายภาพอย่างไรให้สวย.คำว่า “อจนะ” มาจากคำในภาษาบาลีว่า “อจละ” ซึ่งแปลว่า “ผู้ไม่หวั่นไหว มั่นคง” หรือ “ผู้ที่ควรแก่การเคารพกราบไหว้”.พระอจนะ คือที่มาของตำนานพระพูดได้แห่งเมืองพระร่วง สาเหตุที่เชื่อว่าพระอจนะพูดได้นั้น

2 วัน 1 คืน เที่ยวสุขใจที่สุโขทัย อ่านเพิ่มเติม

ตักบาตรรับอรุณที่วัดตระพังทอง จังหวัดสุโขทัย

วัดตระพังทอง ตั้งอยู่ที่ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมืองสุโขทัย คำว่า ตระพัง มีรากศัพท์มาจากภาษาเขมรว่า “ตรฺพำง” (อ่านว่า ตรอ-เปียง) แปลว่า บ่อหรือสระน้ำที่ขุดขึ้น และเป็นที่มาของชื่อวัดแห่งนี้ คติการสร้างวัดบนเกาะกลางน้ำ เชื่อว่าได้รับอิทธิพลมาจากการเผยแผ่พุทธศาสนาลัทธิลังกาวงศ์ ซึ่งแพร่หลายในสมัยสุโขทัยเป็นราชธานี สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด.เจดีย์ประธาน.เป็นเจดีย์ทรงลังกาหรือทรงระฆัง มีลักษณะเฉพาะหรือที่เรียกว่าเจดีย์ทรงระฆังสมัยสุโขทัย สังเกตได้จาก ฐานบัวคว่ำ-บัวหงายที่ไม่สูงมาก มีบัวถลา 3 ฐานรองรับองค์ระฆัง และมีบัลลังก์อยู่ในผังสี่เหลี่ยม ไม่มีก้านฉัตรรองรับปล้องไฉน ซึ่งเจดีย์ลักษณะนี้เป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมและพบได้มากในบริเวณอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย.ในปี พ.ศ. 2444 สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ได้เสด็จเยือนวัดแห่งนี้ และในปี พ.ศ. 2450 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (ขณะทรงดำรงพระราชอิสริยยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร) ได้เสด็จ ฯ เยือนเมืองสุโขทัย พบซากปรักหักพังของเจดีย์รายจำนวน 8 องค์ แต่ในปัจจุบันไม่พบร่องรอยของเจดีย์รายเหล่านั้นแล้ว พระอุโบสถ.ตั้งอยู่ด้านหลังของเจดีย์ประธาน ซึ่งพระอุโบสถหลังนี้สร้างบนฐานพระอุโบสถหลังเก่าสมัยสุโขทัย สร้างขึ้นจากแรงศรัทธาและเงินบริจาคของชาวบ้าน ภายใต้การนำของ พระยารณไชยชาญยุทธ (ครุธ หงสนันทน์) อดีตจางวางกำกับราชการเมืองสุโขทัยในสมัยนั้น.ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นสีขาวปางมารวิชัย นามว่า หลวงพ่อขาว เป็นพระประธานภายในพระอุโบสถ รอยพระพุทธบาทเบื้องขวา.ประดิษฐานอยู่ภายในมณฑปจัตุรมุขด้านหน้าเจดีย์ประธาน ซึ่งรอยพระพุทธบาทนั้น สร้างขึ้นในสมัยพระมหาธรรมราชาลิไท ราวปี พ.ศ. 1902 จำหลักหินสีเทาดำเป็นลายมงคลหนึ่งร้อยแปด โดยจำลองแบบจากศรีลังกา.เดิมประดิษฐานอยู่ ณ ภูเขาทางทิศตะวันตกของเมืองสุโขทัย เรียกว่า เขาสุมนกูฎ ชื่อเดียวกับภูเขาที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทในลังกาทวีป ปัจจุบันเรียกเขาลูกนี้ว่า เขาพระบาทใหญ่ ต่อมาได้อัญเชิญมาประดิษฐาน ณ วัดตระพังทองแห่งนี้ อนุสรณ์ตำนานพระร่วง ขอมดำดิน.พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เคยเสด็จ ฯ เยือนเมืองสุโขทัย และทรงพระราชนิพนธ์เรื่อง “เที่ยวเมืองพระร่วง” ความตอนหนึ่งได้กล่าวถึงตำนานพระร่วงไว้ว่า.“…วัดมหาธาตุนี้ราษฎรนับถือกันว่าเป็นที่สำคัญนัก เพราะกล่าวว่าเป็นที่พระร่วง (นายส่วยน้ำ) ได้มาทรงผนวชอยู่ ยังมีสิ่งที่ชี้เป็นพยานกันอยู่ คือขอมดำดิน ซึ่งตามนิทานว่าดำดินมาแต่นครธม มาโผล่ขึ้นในลานวัดกลางเมืองสุโขทัยเพียงแค่อก เห็นพระร่วงซึ่งผนวชเป็นภิกษุกวาดลานวัดอยู่ ขอมไม่รู้จักจึงถามหาพระร่วง พระร่วงก็บอกว่าให้ขอมคอยอยู่ก่อน จะไปตามพระร่วงมาให้ กายขุนขอมก็เลยกลายเป็นศิลาติดอยู่ที่ลานวัดนั้นเอง…” (ที่มา : Facebook มูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์ ร.6 ).ในอดีต พบก้อนศิลาแลง ที่เชื่อกันว่าเป็นร่างของขอมซึ่งถูกพระร่วงสาปบริเวณวัดมหาธาตุ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นหินศักดิ์สิทธิ์และช่วยรักษาโรค จึงมักจะต่อยออกเป็นชิ้น ๆ เพื่อนำไปทำยา ทำให้หินมีขนาดเล็กลงเรื่อย ๆ.ปัจจุบัน ศิลาแลงก้อนดังกล่าวถูกนำมาเก็บรักษาและจัดแสดงที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ รามคำแหง จังหวัดสุโขทัย  นอกจากนั้น ช่วงเช้าของทุกวันยังมี “กิจกรรมตักบาตรวิถีไทย รับรุ่งอรุณแห่งความสุข” ที่วัดตระพังทองแห่งนี้ สถานที่จัดก็คือสะพานไม้หน้าวัดนั่นเอง.สามารถทำบุญได้ทุกวัน แอดแนะนำให้ไปถึงบริเวณสะพานประมาณ 06.00 น.  หากใครไม่ได้เตรียมของสำหรับใส่บาตรมา ฝั่งตรงข้ามวัดมีตลาดสด สามารถเลือกซื้ออาหารมาทำบุญตักบาตรก็ได้เหมือนกัน .วัดตระพังทองที่ตั้ง ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัยเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 06.00-18.00 น.สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 085 052 3797

ตักบาตรรับอรุณที่วัดตระพังทอง จังหวัดสุโขทัย อ่านเพิ่มเติม

อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย

อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย ตั้งอยู่ในอำเภอศรีสัชนาลัย ซึ่งเดิมคือ “เมืองเชลียง” มีศูนย์กลางอยู่ที่บริเวณวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ เชลียง ต่อมาได้มีการขยายเมืองไปทางทิศตะวันตก และเปลี่ยนชื่อเป็น “ศรีสัชนาลัย” อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยได้รับการประกาศให้เป็น “มรดกโลก” ร่วมกับอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย และอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร จากองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2534 อุทยานฯ มีบริการรถรางนำชมโบราณสถานทั่วบริเวณ โดยรถจะจอดแวะ 3 จุดด้วยกันคือ วัดช้างล้อม วัดเจดีย์เจ็ดแถว และวัดนางพญา โดยคนขับรถจะเป็นวิทยากรคอยบรรยายให้ความรู้กับเราตลอดเส้นทาง ค่าบริการ : ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างประเทศ 30 บาทหรือเหมาคันละ 250 บาท เริ่มกันที่ วัดช้างล้อม เป็นวัดสำคัญที่ตั้งอยู่เกือบกึ่งกลางเมือง สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยพญาลิไท โบราณสถานที่สำคัญคือ เจดีย์ประธานทรงระฆัง ที่ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดใหญ่ซ้อนกันหลายฐาน ด้านหน้าเจดีย์มีบันไดขึ้นสู่ชั้นบนซึ่งเป็นลานประทักษิณ เหนือลานประทักษิณเป็นฐานสี่เหลี่ยมที่มีซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยด้านละ 5 ซุ้ม ที่ผนังด้านหลังพระพุทธรูปมีลวดลายปูนปั้นรูปต้นโพธิ์ประดับอยู่ด้วย ที่ฐานเจดีย์มีช้างปูนปั้นประดับโดยรอบ รวมทั้งหมด 39 เชือก ซึ่งลักษณะเด่นของช้างล้อมที่นี่คือ ช้างจะยืนเต็มตัวแยกออกจากผนัง และมีขนาดสูงใหญ่กว่าช้างจริง ต่างจากช้างล้อมที่อื่นๆ ที่ช้างจะโผล่พ้นผนังออกมาเพียงครึ่งตัวเท่านั้น นอกจากนี้ช้างที่มุมทั้ง 4 ยังมีขนาดใหญ่กว่าช้างที่ประดับที่ด้าน และเป็นช้างทรงเครื่อง คือมีการประดับลวดลายปูนปั้นที่คอ ต้นขา และข้อเท้า อย่างวิจิตรงดงาม ถัดมาคือ วัดเจดีย์เจ็ดแถว วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ด้านหน้าวัดช้างล้อม เป็นวัดที่โดดเด่นอีกแห่งหนึ่งของอุทยานฯ เพราะมีเจดีย์หลากหลายรูปแบบเรียงรายกันถึง 33 องค์ โบราณสถานที่สำคัญคือ เจดีย์ประธานทรงยอดดอกบัวตูม หรือทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ ซึ่งเป็นเจดีย์ที่เป็นเอกลักษณ์ของสุโขทัย  ด้านหลังเจดีย์ประธานมีเจดีย์รายองค์หนึ่งที่น่าสนใจคือ เป็นมณฑปยอดเจดีย์ หรือเจดีย์ทรงปราสาทยอด ที่มีทางเข้าด้านหน้า ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปยืนปูนปั้น และมีจิตรกรรมเป็นภาพอดีตพระพุทธเจ้า ซึ่งปัจจุบันลบเลือนมากแล้ว ส่วนด้านหลังของเจดีย์ในส่วนเรือนธาตุทำเป็นซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูปนาคปรกที่สวยงาม สาเหตุที่วัดนี้ได้ชื่อว่าวัดเจดีย์เจ็ดแถวนั้น ก็เนื่องจากภายในวัดมีเจดีย์จำนวนมากเรียงรายกันหลายแถว สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงสันนิษฐานว่าเจดีย์รายเหล่านี้เป็นที่ประดิษฐานพระอัฐิของพระราชวงศ์สุโขทัย ปิดท้ายกันที่ วัดนางพญา วัดแห่งนี้โดดเด่นที่ลวดลายปูนปั้นประดับผนังด้านนอกของวิหาร ซึ่งปัจจุบันเหลืออยู่เพียงด้านเดียว จึงมีการสร้างหลังคาคลุมเพื่อป้องกันแดดฝน วิหารหลังนี้ไม่มีหน้าต่าง แต่ใช้เทคนิคการเจาะผนังเป็นช่อง เพื่อให้แสงลอดเข้าไปภายใน แบบที่นิยมกันในสมัยอยุธยาตอนต้น ลวดลายปูนปั้นที่ยังคงหลงเหลืออยู่ได้แก่ รูปกึ่งมนุษย์กึ่งวานรกำลังวิ่ง รูปเทพนม และลายพันธุ์พฤกษาต่างๆ เจดีย์ประธานของวัดเป็นเจดีย์ทรงระฆังฐานสูง ด้านหน้ามีบันไดขึ้นไปยังซุ้ม ซึ่งภายในเป็นคูหาที่มีแกนอยู่ตรงกลาง แกนดังกล่าวมีร่องรอยว่าเคยเป็นซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูป 4 ด้าน นอกจากทั้ง 3 จุดที่แอดแนะนำไปแล้วนั้น ภายในอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย ก็ยังมีโบราณสถานที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง เช่น วัดเขาสุวรรณคีรี วัดเขาพนมเพลิง ฯลฯ รวมทั้งโบราณสถานที่อยู่นอกกำแพงเมืองศรีสัชนาลัย หรือในเขตเมืองเชลียง อย่างวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ เชลียง และวัดชมชื่น เป็นต้น อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยอัตราค่าเข้าชม ชาวไทย 20 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาทที่ตั้ง อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัยโทร 055 950 714, 061 268 6383เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 08.00-17.00 น.พิกัด https://goo.gl/maps/QdbJ9pW2FP42

อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย อ่านเพิ่มเติม

วัดมหาธาตุ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย

วัดมหาธาตุ ตั้งอยู่กลางเมืองสุโขทัย เป็นสถานที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ถือเป็นวัดที่สำคัญที่สุดในเมืองสุโขทัย และในอดีตยังใช้เป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีต่างๆ อีกด้วย วัดมหาธาตุเป็นวัดสำคัญ จึงได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์และสร้างเพิ่มเติมอยู่เสมอ ทำให้ภายในวัดประกอบด้วยสิ่งก่อสร้างหลายยุคหลายสมัย ไม่ว่าจะเป็นเจดีย์ประธาน วิหารหลวง อุโบสถ มณฑป และเจดีย์รายกว่า 200 องค์ เป็นต้น ในศิลาจารึกหลักที่ 1 ตอนหนึ่งระบุว่า “…กลางเมืองสุโขทัยนี้ มีพิหาร มีพระพุทธรูปทอง มีพระอัฎฐารศ มีพระพุทธรูปอันใหญ่ มีพระพุทธรูปอันราม…” วิหารกลางเมืองสุโขทัยที่กล่าวถึงนั้น สันนิษฐานว่าคือวิหารหลวงวัดมหาธาตุแห่งนี้ ดังนั้นจึงเชื่อกันว่าพระพุทธรูปทองก็คือพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่ประดิษฐานอยู่ภายในวิหารหลวง ซึ่งพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญไปประดิษฐานที่วิหารหลวงวัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพมหานคร ซึ่งต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานนามว่า “พระศรีศากยมุนี”  ส่วนพระอัฎฐารส ซึ่งหมายถึงพระพุทธรูปยืนสูง 18 ศอก ก็คือพระพุทธรูปยืนขนาดใหญ่ที่ประดิษฐานอยู่ภายในมณฑปทั้งสองข้างของเจดีย์ประธานนั่นเอง เจดีย์ประธาน เป็นเจดีย์ทรงยอดดอกบัวตูม หรือทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ ซึ่งเป็นเจดีย์ที่เป็นเอกลักษณ์ของสุโขทัย สันนิษฐานว่าเจดีย์รูปแบบนี้พัฒนามาจากศิลปะขอม ล้านนา พุกาม และลังกา แต่ได้ดัดแปลงให้มีรูปลักษณ์ที่สูงชะลูดยิ่งขึ้น รอบๆ เจดีย์ประธานบนฐานไพทีเดียวกัน มีเจดีย์ประจำทิศเป็นเจดีย์ทรงปราสาท และเจดีย์ประจำมุมเป็นเจดีย์ทรงปราสาทห้ายอด รวมทั้งหมด 8 องค์ ที่ฐานไพทีของกลุ่มเจดีย์ประธาน ยังประดับประติมากรรมปูนปั้นรูปพระสาวกพนมมือเดินประทักษิณรอบองค์พระธาตุอีกด้วย วัดแห่งนี้มีคูน้ำล้อมอยู่ 3 ด้าน ส่วนด้านหน้าวัดมีสระน้ำหรือที่เรียกว่าตระพัง ซึ่งสามารถชมภาพของเจดีย์ที่สะท้อนบนผิวน้ำได้อย่างสวยงาม  ในช่วงเวลาโพล้เพล้ บริเวณสระน้ำหน้าวัดมหาธาตุนี่แหละคือสถานที่ยอดนิยมสำหรับนักถ่ายภาพ ถือเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกจุดหนึ่งเลย วัดมหาธาตุ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยที่ตั้ง ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.สุโขทัยเปิดทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น.**วันเสาร์จะมีการเปิดไฟส่องโบราณสถาน ระหว่างเวลา 18.30-21.00 น.** (จำหน่ายบัตรเข้าชมถึงเวลา 18.00 น.)ค่าเข้าชม ชาวไทย 20 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาทพิกัด https://goo.gl/maps/gXY72BkyneK2

วัดมหาธาตุ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top