กาญจนบุรี

กาญจนบุรี

ปักหมุด 8 น้ำตก เที่ยวพักผ่อน นอนแช่น้ำให้ชื่นใจ

ให้ธรรมชาติเยียวยา ปักหมุด 8 น้ำตก 💦 เที่ยวพักผ่อน นอนแช่น้ำให้ชื่นใจ 🍁🍃 น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลา ชุ่มฉ่ำสุด ๆ 🐟 🌲 พาตัวเองออกไปอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ปักหมุด 8 น้ำตก เที่ยวพักผ่อน นอนแช่น้ำให้ชื่นใจ ซึ่งแต่ละที่น้ำใสมาก เห็นปลาตัวเล็กตัวน้อยเต็มไปหมด บรรยากาศสดชื่น เล่นน้ำสนุก ๆ ท่ามกลางต้นไม้เขียวขจี ชุ่มฉ่ำในวันหยุดจนลืมร้อนกันไปได้เลย 🏞 🌤 รวม 8 น้ำตก ออกไปเที่ยวพักผ่อน นอนแช่น้ำให้ชื่นใจ 🌤💦 น้ำตกห้วยหลวง จ.อุบลราชธานี💦 น้ำตกวังก้านเหลือง จ.ลพบุรี💦 น้ำตกเอราวัณ จ.กาญจนบุรี💦 น้ำตกพลิ้ว จ.จันทบุรี💦 น้ำตกวังตะไคร้ จ.นครนายก💦 น้ำตกสาริกา จ.นครนายก💦 น้ำตกทีลอซู จ.ตาก💦 น้ำตกคลองพลู จ.ตราด 💚 สายเที่ยวธรรมชาติต้องไม่พลาด ออกไปชาร์จพลังให้ร่างกายกันสักหน่อย บางที่ก็อยู่ใกล้กรุงเทพฯ มาก ๆ เดินทางไม่นานก็ได้สัมผัสอากาศดี ๆ กันแล้ว 💙  น้ำตกทีลอซู จ.ตาก   น้ำตกทีลอซูเป็นน้ำตกที่ใหญ่และสวยติดอันดับโลก ตั้งอยู่บนความสูงจากระดับน้ำทะเล 900 เมตร ความกว้างของตัวน้ำตกประมาณ 500 เมตร อลังการความสวยงามของน้ำที่ตกลงมาจากหน้าผาสูงชัน ไหลลดหลั่นเป็นชั้น ๆ ตกลงมากระทบกับหินเสียงดังกังวาล ล้อมรอบไปด้วยป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ จึงกลายเป็นลิสโปรดในดวงใจของใครหลาย ๆ คน และยังเหมาะสำหรับสายผจญภัย ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอย่างแท้จริง เพราะถือว่าเดินทางเข้าลำบากทั้งนั่งรถ นั่งเรือยาง เดินเท้า แต่คุ้มค่ากับเวลาแน่นอน ส่วนทางด้านกิจกรรมก็มีให้ทำหลากหลาย เช่น ล่องแพ แคมป์ปิ้ง ชมน้ำตกสายรุ้งทีลอจ่อ ฯลฯ   เวลาเปิด-ปิด : 08.30-16.30 น. ปิดให้บริการเข้าชม 1 กรกฎาคม 2565 – 30 กันยายน 2565 เปิดให้เข้าชมอีกครั้งวันที่ 1 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป  Maps : น้ำตกทีลอซู เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าอุ้มผาง อ.อุ้มผาง จ.ตาก  Facebook : เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง – Umphang Wildlife Sanctuary  โทร. 08 8427 5272 / 0 5550 8780  น้ำตกห้วยหลวง จ.อุบลราชธานี   น้ำตกห้วยหลวงหรือน้ำตกบักเตวเป็นน้ำตกขนาดใหญ่แห่งภาคอีสานตอนล่าง สูงประมาณ 40 เมตร ลักษณะเป็นหน้าผาหินที่มีน้ำไหลตกจากที่สูงลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง เกิดเป็นหาดทรายขนาดเล็ก หาดทรายกลางป่าที่สามารถลงเล่นน้ำได้ และบริเวณด้านล่างผาหินจะมีซอกหินที่เราสามารถเดินเข้าไปชมน้ำตกได้อย่างใกล้ชิดอีกด้วย ที่นี่ล้อมรอบไปด้วยป่าไม้สีเขียวขจีอันอุดมสมบูรณ์ ร่มรื่นมาก ๆ ในช่วงหน้าฝนน้ำเยอะ เสียงน้ำตกจะดังกังวาลไปทั่วป่าเลย   Maps : น้ำตกห้วยหลวง อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย อำเภอนาจะหลวย จังหวัดอุบลราชธานี  เวลาเปิด-ปิด : 08.00-16.00 น.  Facebook : น้ำตกห้วยหลวง อ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานี  น้ำตกวังก้านเหลือง จ.ลพบุรี   แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีน้ำให้เล่นตลอดทั้งปี เกิดจากแหล่งน้ำผุดจำนวนหลายจุดที่ผุดขึ้นมาจากลำห้วยมะกอก ไหลลงมารวมกันบริเวณสันหินปูน ทำให้เกิดเป็นน้ำตกกว้างประมาณ 20 เมตร และไหลลดหลั่นกันไปเป็นชั้น ๆ ถึงจะมีขนาดไม่ใหญ่มากแต่ความสวยงามไม่แพ้ที่อื่นแน่นอน บรรยากาศดี ล้อมรอบไปด้วยป่าไม้ และที่นี่น้ำยังใสเห็นปลากำลังแหวกว่ายชัดเจนเลย แถมมีหลายชั้นให้เดินชมความงามกันแบบชิลล์ ๆ เพราะทางเดินไม่ชัน เดินสะดวกสบายมาก ๆ ส่วนใครอยากมานอนค้างก็มีจุดบริการนำเต้นท์มากางกันได้แบบฟรี ๆ จ้า  Maps : สวนรุกชาติวังก้านเหลือง ตำบลท่าดินดำ อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี  Facebook : น้ำตกวังก้านเหลือง อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี l Wung Kan Leuang Waterfall  โทร. 09 2909 1669  น้ำตกเอราวัณ จ.กาญจนบุรี  เดินทางง่ายใกล้กรุงเทพฯ บรรยากาศดี น้ำใสแจ๋ว เห็นปลาแหวกว่ายชัดเจน มีน้ำให้เล่นตลอดทั้งปี แถมมีที่พักสำหรับสายแคมป์ปิ้งด้วยนะ  ชั้นที่ 1 ไหลคืนรัง น้ำตกชั้นเล็ก ๆ สามารถปู่เสื่อปิคนิค นอนพักผ่อนได้ชั้นที่ 2 วังมัจฉา ดูฝูงปลาพลวงเพลิน ๆ หรือลงเล่นน้ำเย็น ๆ ได้ ซึ่งชั้นนี้ถ่ายรูปสวยมาก ที่สำคัญมีร้านน้ำ อาหารทานเล่นด้วยนะชั้นที่ 3 ผาน้ำตก ชั้นนี้น้ำตกจะตกลงมาจากที่สูงชั้นที่ 4 อกผีเสื้อ มีสไลด์เดอร์น้ำให้เล่นที่ชั้นนี้ชั้นที่ 5 เบื่อไม่ลง เบื่อไม่ลงสมชื่อจ้า เป็นยังไงต้องมาชั้นที่ 6 ดงพฤกษา ดูพันธุ์ต้นไม้ต้องชั้นนี้เลยชั้นที่ 7 ภูผาเอราวัณ ชั้นสุดท้ายที่สวยมาก คุ้มค่าเหนื่อยแน่นอน  ค่าเข้าชมน้ำตก  คนไทย ผู้ใหญ่ 100 บาท / เด็ก 50 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 300 บาท / […]

ปักหมุด 8 น้ำตก เที่ยวพักผ่อน นอนแช่น้ำให้ชื่นใจ อ่านเพิ่มเติม

✨5 อุทยานแห่งชาติ น่าเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ 🌳

ใครที่กำลังวางแผนหาที่ท่องเที่ยวใกล้ๆ กรุงเทพฯ แบบไม่ต้องเดินทางไกลก็ได้สัมผัสอากาศดีๆ ฟังเสียงธรรมชาติให้ผ่อนคลาย เตรียมเก็บกระเป๋าตามแอดมาได้เลย เพราะวันนี้แอดจะมาแนะนำ 5 อุทยานแห่งชาติน่าเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ที่ยังเปิดให้บริการในฤดูฝนนี้ด้วยนะ ไปกันเล้ย การเข้าชมอุทยานแห่งชาติ นักท่องเที่ยวต้องจองคิวผ่านแอปพลิเคชั่น QueQ ล่วงหน้า เพื่อลดความแออัดในสถานที่ท่องเที่ยวค่ะ อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว จ.จันทบุรี  อยู่ในเขตป่าที่อุดมสมบูรณ์ มีเทือกเขาสูงสลับซับซ้อนจึงทำให้เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารหลายสาย ซึ่งไฮไลต์ของที่นี่ก็คือน้ำตกพลิ้วที่นักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำได้ทั้งปี ท่ามกลางปลาพลวงที่แหวกว่ายไปมาจำนวนมาก ปลาเหล่านี้คุ้นเคยกับคนมาก เพื่อน ๆ ที่ไปเล่นน้ำอย่าลืมปฏิบัติตามระเบียบอุทยานฯ ไม่รบกวนหรือทำร้ายปลาเหล่านี้กันนะคะ นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์นั่นคือ สุนันทานุสาวรีย์ หรือ พีระมิดพระนางเรือล่ม ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น ภายในบรรจุพระบรมราชสรีรางคารของสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทาฯ เหตุที่โปรดให้สร้างเพราะสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทาฯ เคยเสด็จประพาสน้ำตกพลิ้วและทรงโปรดที่นี่มาก นอกจากนี้ ยังทรงโปรดเกล้าฯให้สร้างอลงกรณ์เจดีย์เพื่อเป็นที่ระลึกเมื่อครั้งเสด็จประพาสน้ำตกพลิ้วอีกด้วย เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. อัตราค่าเข้าชมอุทยานฯ ชาวไทย : ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างประเทศ : ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท อัตราค่าบริการสำหรับยานพาหนะ รถจักรยานยนต์ 20 บาท/คัน รถยนต์ 4 ล้อ 30 บาท/คัน สำรองบ้านพัก : https://nps.dnp.go.th/reservation.php ร้านค้าสวัสดิการ : เปิดบริการทุกวัน 07.00 น – 17.00 น. สอบถามเพิ่มเติม  039-434528 หรือ 086-3197556 https://goo.gl/maps/DiEM3HikKF9yUckb8 อุทยานแห่งชาติหาดวนกร จ.ประจวบคีรีขันธ์  จุดเด่นของที่นี่ก็คือชายหาดขาวสะอาดสวยงาม ที่มีทิวสนทะเลและสนประดิพัทธ์ยาวเป็นแนวขนานกับทะเลนี่เอง นอกจากนี้ยังมีเกาะเล็ก ๆ อีกสองเกาะคือ เกาะจานและเกาะท้ายทรีย์ ทั้งสองเกาะเป็นแหล่งสัมปทานรังนกนางแอ่น ห่างจากอุทยานฯ ประมาณ 7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15-20 นาที เพื่อน ๆ สามารถดำน้ำชมปะการังในบริเวณสองเกาะนี้ได้ โดยสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้โดยตรง ส่วนคนที่ไม่ใช่สายดำน้ำก็สามารถชมธรรมชาติไปบนเส้นทางศึกษาธรรมชาติกันได้ เปิดบริการทุกวัน 06:00-20:00 อัตราค่าบริการเข้าอุทยานฯ ชาวไทย : ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ชาวต่างประเทศ : ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท อัตราค่าบริการสำหรับยานพาหนะ รถจักรยานยนต์ 20 บาท/คัน รถยนต์ 4 ล้อ 30 บาท/คัน สำรองบ้านพัก : https://nps.dnp.go.th/reservation.php ร้านค้าสวัสดิการ : เปิดบริการทุกวัน 07.00 น – 17.00 น. สอบถามเพิ่มเติม  063 142 1121 จองเรือไปดำน้ำดูปะการัง โทร 081 944 9956 https://goo.gl/maps/d8kp62dWx3YJRwGb9 อุทยานแห่งชาติพุเตย จ.สุพรรณบุรี  ภายในอุทยานแห่งชาติพุเตย มีลักษณะภูมิประเทศเป็นทิวเขาสูงชันสลับซับซ้อนทอดตัวต่อกัน ทั้งยังเป็นต้นน้ำสำคัญหลายสาย เช่น ห้วยใหญ่ ห้วยตะเพิน จุดสูงสุดคือยอดเขาเทวดาที่สูงถึง 1,123 เมตร ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวที่ชอบเดินขึ้นเขาท้าทายกำลังขาและกำลังใจของตัวเอง เมื่อขึ้นไปถึงจุดสูงสุดก็จะได้รางวัลเป็นทะเลหมอกสวยๆ และวิวภูเขาที่วางตัวสลับซับซ้อนอย่างสวยงาม นอกจากนี้ ยังมีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่นๆ อย่าง น้ำตกตะเพินคี่ใหญ่ ถ้ำตะเพินเงิน ถ้ำตะเพินทอง และถ้ำตะเพินเพชร ที่สำคัญทั้งหมดที่ว่ามานี้ เราสามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปีเลยล่ะ เปิดบริการทุกวัน 08:00-18:00 น. อัตราค่าเข้าชมอุทยานฯ ชาวไทย : ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ชาวต่างประเทศ : ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท อัตราค่าบริการสำหรับยานพาหนะ รถจักรยานยนต์ 20 บาท/คัน รถยนต์ 4 ล้อ 30 บาท/คัน สำรองบ้านพัก : https://nps.dnp.go.th/reservation.php ร้านค้าสวัสดิการ : ไม่มีร้านค้าร้านอาหาร นักท่องเที่ยวควรจัดเตรียมไป สอบถามเพิ่มเติม  035 960 240 https://goo.gl/maps/831pQ7ik6J51qUoVA อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี  มีลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาหินปูนและหินตะกอนเป็นส่วนใหญ่ โดยมีลำห้วยไหลผ่านทำให้เกิดน้ำตก 7 ชั้นที่สวยงามมาก ชื่อว่าน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น โดยแต่ละชั้นจะมีชื่อเรียกต่างกัน ชั้นที่ 1 ดงว่าน ชั้นที่ 2 ม่านขมิ้น ชั้นที่ 3 วังหน้าผา ชั้นที่ 4 ฉัตรแก้ว ชั้นที่ 5 ไหลจนหลง ชั้นที่ 6 ดงผีเสื้อ และชั้นที่ 7 ร่มเกล้า นอกจากนี้ ยังแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่นอีก นั่นคือ ถ้ำสวรรค์ มีลักษณะเหมือนอุโมงค์ธรรมชาติ กว้าง 9 เมตร

✨5 อุทยานแห่งชาติ น่าเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ 🌳 อ่านเพิ่มเติม

#น้ำตกเอราวัณ สวรรค์ 7 ชั้น จ.กาญจนบุรี

🏞 ปักหมุดน้ำตก เที่ยวง่ายใกล้กรุงหนีอากาศร้อนไปนอนแช่น้ำให้ชื่นใจน้ำตกเอราวัณ สวรรค์ 7 ชั้น จ.กาญจนบุรี 🌅 ช่วงนี้อากาศร้อนมาก ๆ แอดขอเสนอสถานที่เที่ยวคลายร้อน “น้ำตกเอราวัณ” น้ำตกใกล้กรุงเทพฯ บรรยากาศดี น้ำใสแจ๋ว เห็นปลาแหวกว่ายชัดเจน ถ่ายรูปสวยมาก เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวทางธรรมชาติที่อยากให้ทุกคนได้มาสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้ง ซึ่งที่นี่มีน้ำตลอดทั้งปีเลย แถมมีที่พักสำหรับสายแคมป์ปิ้งด้วย ร้อน ๆ แบบนี้ลองพาตัวเองไปอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ สายน้ำ ขุนเขา ก็ช่วยดับร้อนไปได้เยอะเลยนะทุกคน 🌤 ชั้นที่ 1 ไหลคืนรัง น้ำตกชั้นเล็ก ๆ ปู่เสื่อปิคนิค นอนพักผ่อนชิล ๆ ได้ ชั้นที่ 2 วังมัจฉา ดูฝูงปลาพลวงเพลิน ๆ หรือลงเล่นน้ำเย็น ๆ ชั้นนี้ถ่ายรูปสวยมาก ที่สำคัญมีร้านน้ำ อาหารทานเล่น ใครจะเติมพลังต้องฝากท้องไว้ที่ชั้นนี้เท่านั้น ชั้นที่ 3 ผาน้ำตก ชั้นนี้น้ำตกจะตกลงมาจากที่สูง ชั้นที่ 4 อกผีเสื้อ มีสไลด์เดอร์น้ำให้เล่นที่ชั้นนี้ ชั้นที่ 5 เบื่อไม่ลง เบื่อไม่ลงสมชื่อจ้า เป็นยังไงต้องมา ชั้นที่ 6 ดงพฤกษา ดูพันธุ์ต้นไม้ต้องชั้นนี้เลย ชั้นที่ 7 ภูผาเอราวัณ ชั้นสุดท้ายที่สวยมาก เรียกว่าคุ้มค่าเหนื่อย! 🌳 ค่าเข้าชมน้ำตก 🌳 คนไทย ผู้ใหญ่ 100 บาท / เด็ก 50 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 300 บาท / เด็ก 200 บาท นักเรียน,นักศึกษา (แสดงบัตร) 50 บาท ผู้สูงอายุ 60 ปี คนผู้พิการ (มีบัตรอนุญาต) เข้าฟรี 🚘 ค่าจอดยานพาหนะ 🚘 รถจักรยานยนต์ 20 บาท รถยนต์ 30 บาท รถบัส 100-200 บาท อัพเดตค่าบริการตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป คนไทย ผู้ใหญ่ 60 บาท / เด็ก 30 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 300 บาท / เด็ก 150 บาท ค่าบริการสำหรับยานพาหนะ รถยนต์ 30 บาท / รถจักรยานยนต์ 20 บาท 🌲🏕 เวลาเปิด-ปิด : 8.00-16.00 น. (กรณีเข้าพักค้างต้องเข้าก่อนเวลา 20.00 น.) พิกัด : อุทยานแห่งชาติเอราวัณ หมู่ที่ 4 ตำบลท่ากรระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี Facebook : อุทยานแห่งชาติเอราวัณ Erawan National Park โทร. 0 3457 4222

#น้ำตกเอราวัณ สวรรค์ 7 ชั้น จ.กาญจนบุรี อ่านเพิ่มเติม

📍5 พิกัดเล่นน้ำตกใกล้กรุงเทพฯ📍

หน้าร้อนแบบนี้ ต้องจัดทริปเล่นน้ำคลายร้อนกันหน่อยแล้ว วันนี้แอดมีพิกัดน้ำตกใกล้กรุงเทพฯ มาฝาก หากยังไม่แน่ใจว่าจะไปที่ไหนดี ลองเปิดลิสต์ดูเป็นไอเดียได้เลยจ้า ก่อนเดินทาง อย่าลืมลงทะเบียนเข้าชมผ่านแอป QueQ ล่วงหน้ากันด้วยนะ  น้ำตกเอราวัณ – อุทยานแห่งชาติเอราวัณ แหล่งท่องเที่ยวคลายร้อนที่มีชื่อเสียงของจังหวัดกาญจนบุรี แถมยังเป็นจุดหมายปลายทางของชาวต่างชาติด้วย เป็นน้ำตก 7 ชั้น สามารถลงเล่นน้ำได้ นอกจากนี้ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ จุดชมทิวทัศน์ และป่าผลัดใบที่สวยงาม น้ำตกแต่ละชั้นจะมีความสวยงามและพรรณไม้ที่แตกต่างกันออกไป หากเพื่อน ๆ ไปถึงชั้นที่ 7 จะสังเกตเห็นว่า ขณะน้ำตกไหลบ่าจะมีลักษณะคล้ายช้าง 3 เศียร จึงเป็นที่มาของชื่อน้ำตกแห่งนี้นั่นเอง  ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาทตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไปปรับลดค่าธรรมเนียมเป็น ผู้ใหญ่ 60 บาท เด็ก 30 บาท  ค่าจอดยานพาหนะรถจักรยานยนต์ 20 บาท รถยนต์ 30 บาท รถบัส 100 -200 บาท หมู่ที่ 4 ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี  เปิดทุกวัน เวลา 08.30-16.30 น.  034 574 222 https://goo.gl/maps/Bo2NLdVvdjxppTqH6 น้ำตกไทรโยคน้อย – อุทยานแห่งชาติน้ำตกไทรโยค น้ำตกอีกแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นึกถึงเมื่อมาเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี มีต้นกำเนิดเป็นน้ำผุดจากภูเขาแล้วไหลมาตามลำธารเล็ก ๆ ไหลตกลงที่ผาหินปูน แม้จะชื่อน้ำตกไทรโยคน้อย แต่ความสวยงามของน้ำตกแห่งนี้ไม่แผ่วเลยจริง ๆ สามารถเล่นน้ำได้ตลอดทั้งปี  ไม่มีค่าเข้าชม ตำบล ไทรโยค อำเภอไทรโยค กาญจนบุรี  เปิดทุกวัน เวลา 08.30-16.30 น.  034 686 024 https://goo.gl/maps/XkC6yfwMraxYM6PB7  น้ำตกช่องลม – เขื่อนขุนด่านปราการชล น้ำตกใกล้กรุงอีกแห่งหนึ่งที่น่าสนใจ มีทั้งน้ำตกและลำธารไหลผ่านโขดหินน้อยใหญ่ มีต้นน้ำมาจากน้ำตกเหวนรก ในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่ไหลมาเชื่อมต่อกับจุดนี้ เพื่อน ๆ สามารถมาเที่ยวที่นี่ได้ตลอดทั้งปี เดินทางโดยเรือจากเขื่อนขุนด่านปราการชล ซึ่งจะมีให้บริการช่วง 8 โมงเช้าเป็นต้นไป ใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมง หากมาในช่วงนี้ แม้น้ำจะน้อย แต่ยังสามารถเล่นได้ แถมยังได้บรรยากาศทุ่งหญ้าสีเขียวขจีในช่วงฤดูร้อน หรือช่วงตั้งแต่พฤษภาคมจนถึงเดือนตุลาคมก็จะเป็นช่วงที่มีน้ำตกมาก สามารถล่องเรือเข้าไปใกล้น้ำตกแล้วเดินต่ออีกประมาณ 100 เมตรเท่านั้น  ไม่มีค่าเข้าชม ค่าบริการเรือ 1,500 บาท/ลำ หรือ 7-8 คนขึ้นไปคนละ 200 บาท (สามารถจับกลุ่มแล้วไปรวมกันได้)  ตำบลนาหินลาด อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก  เปิดทุกวัน 06.00-17.00 น.  037 384 192-3 (เขื่อนขุนด่านปราการชล) https://goo.gl/maps/D3ZmJJTWP8MUwpSNA  น้ำตกวังก้านเหลือง – สวนรุกขชาติวังก้านเหลือง น้ำตกแห่งนี้มีจุดกำเนิดที่ต่างจากที่อื่น ๆ และไม่ค่อยได้พบเห็นกันบ่อยในบ้านเรา คือ เกิดจากตาน้ำผุดจากลำห้วยมะกอก ไหลลงมารวมกันบริเวณสันหินปูน ทำให้เกิดเป็นน้ำตกกว้างขนาด 20 เมตร และไหลลดหลั่นกันไปเป็นชั้น ๆ ด้วยจุดกำเนิดจากแหล่งน้ำผุดทางธรรมชาตินี้เอง ทำให้น้ำตกวังก้านเหลืองมีน้ำให้เล่นตลอดทั้งปี นอกจากนี้ ในบริเวณสวนรุกขชาติยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ มีที่นั่งปิกนิก ลานกางเต็นท์ และยังมีร้านค้าร้านอาหารให้บริการ เหมาะแก่การมาพักผ่อนหย่อนใจในช่วงวันหยุดได้ดีเลยล่ะ  หมู่ที่ 4 ตำบลท่าดินดำ อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี  เปิดทุกวัน เวลา 08.00-20.00 น.  092 909 1669, 080 812 1895 https://goo.gl/maps/JfEKAcA2GPyB4yCV7  อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย หนึ่งในน้ำตกขึ้นชื่อของสระบุรี มีที่มาชื่อจากหมู่บ้านสาวน้อยมารวมกับน้ำตกแห่งนี้ที่มีขนาด 7 ชั้น จึงเป็นชื่อมาของชื่อ “น้ำตกเจ็ดสาวน้อย” นั่นเอง น้ำตกแห่งนี้ตั้งอยู่กลางป่าโปร่ง และเป็นน้ำตกเตี้ย ๆ ที่มีระยะห่างกันไม่มาก ใช้เวลาเดินไม่นาน มีแอ่งน้ำตื้นให้ลงเล่นหลายจุด เป็นน้ำตกอีกแห่งหนึ่งที่เหมาะมาก ๆ หากเพื่อน ๆ จะมาเล่นน้ำคลายร้อนกัน  ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท  ค่าจอดยานพาหนะรถจักรยานยนต์ 20 บาท รถยนต์ 30 บาท  หมู่ 9 บ้านแก่งหลุ ตำบลมวกเหล็ก อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี  เปิดทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.  036 346 586 https://goo.gl/maps/wSP9ZZyM8iVfzB9t6

📍5 พิกัดเล่นน้ำตกใกล้กรุงเทพฯ📍 อ่านเพิ่มเติม

วัดวังก์วิเวการาม กาญจนบุรี✨

วันหยุดนี้ แอดจะชวนเพื่อน ๆ ไปเที่ยวชมวัดวังก์วิเวการาม หรือ วัดจมน้ำ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาด เรียกได้ว่าเป็น Unseen Thailand เลยทีเดียวล่ะ วัดใต้น้ำหรือวัดจมน้ำ Unseen Thailand แห่งจังหวัดกาญจนบุรี เป็นวัดที่จมน้ำ 2 วัด และไม่จมน้ำ 1 วัด โดย 2 วัดที่จมอยู่ใต้น้ำก็คือ วัดวังก์วิเวการามเก่าหรือวัดหลวงพ่ออุตตมะ และวัดศรีสุวรรณ ส่วนอีกวัดหนึ่งนั้นคือวัดสมเด็จเก่า ตั้งอยู่บนเนินเขา ว่ากันว่าทั้ง 3 วัดได้กลายเป็นความมหัศจรรย์แห่งอำเภอสังขละบุรีที่ทุกคนต้องหาโอกาสมาชมสักครั้งในชีวิต ระหว่างเดือนมีนาคม-เมษายนของทุกปี เป็นช่วงที่เหมาะแก่การท่องเที่ยว เพราะช่วงเวลานี้ระดับน้ำจะลดลงมากที่สุด เราสามารถเดินเข้าไปชมภายในโบสถ์ได้ การเที่ยวชมวัดใต้น้ำ สามารถเช่าเรือได้บริเวณสะพานมอญ ราคาประมาณ 600 บาท ใช้เวลาไป – กลับ ประมาณ 45 นาที ช่วงเวลาแนะนำ คือช่วงเวลาเช้าหรือบ่ายแก่ ๆ เพราะแดดไม่ร้อนเกินไป บรรยากาศยามเย็นท่ามกลางทุ่งหญ้าเขียวขจี

วัดวังก์วิเวการาม กาญจนบุรี✨ อ่านเพิ่มเติม

ภูมิปัญญาไทยในการทำ “น้ำตาลปึก”

เมื่อร่างกายต้องการความหวาน จะมี “น้ำตาล” ชนิดไหนบ้างมาช่วยเติมความอร่อยลงในอาหารแต่ละมื้อของเรา ในบ้านเรามีกระบวนการนำน้ำหวานจากธรรมชาติมาทำเป็นวัตถุดิบเพื่อใช้ปรุงอาหารในรูปแบบต่าง ๆ หนึ่งในนั้นก็คือ “น้ำตาลปึก” เป็นการนำน้ำหวานจากธรรมชาติมาเคี่ยวให้เหนียวและข้นจนเป็นสีเหลือง-น้ำตาลอ่อน ๆ จับให้เป็นก้อน แล้วพักไว้ให้เย็น เป็นภูมิปัญญาเรื่องอาหารที่ส่งทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ปัจจุบันก็ยังมีการใช้น้ำตาลปึกในการปรุงอาหาร นอกจากนี้ ยังมีการส่งเสริมการทำน้ำตาลปึกให้มีคุณภาพเพื่อจำหน่าย และช่วยให้เกิดอาชีพในชุมชน น้ำตาลจากภูมิปัญญาในแต่ละท้องถิ่นจะผลิตจากวัตถุดิบใดบ้าง ไปดูกัน อ้อย พืชเศรษฐกิจหลักที่สร้างรายได้ให้ชุมชน สามารถนำไปผลิตเป็นน้ำตาลได้หลายรูปแบบ รวมถึงน้ำตาลปึก โดยคั้นเอาน้ำจากลำตัน นำไปเคี่ยวจนเหนียวหนึบ แล้วนำมาหยอดเป็นก้อนกลม ปัจจุบันมีเหลือเพียงไม่กี่ที่ที่ยังผลิตน้ำตาลอ้อยแบบโบราณกันอยู่ หาซื้อได้ที่ นครสวรรค์ และกาญจนบุรี เป็นต้น วิสาหกิจชุมชนเกษตรกรสรรพสิ่งบ้านนากลาง ตำบลนากลาง อำเภอโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค์ 086 351 2633 วิสาหกิจชุมชนน้ำตาลทรายแดง บ้านวังหิน หมู่ที่ 1 ตำบลเลาขวัญ อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี 081 008 3965 มะพร้าว พืชตระกูลเดียวกับปาล์ม สามารถเก็บน้ำตาลได้จากช่อดอกมะพร้าว โดยการตัดปลายช่อออก แล้วนำกระบอกมารองน้ำตาลที่จะไหลออกมา ทิ้งไว้ข้ามคืน ก็จะได้น้ำตาลจากมะพร้าวเต็มกระบอก เพื่อน ๆ สามารถหาชมการทำน้ำตาลปึกจากมะพร้าวได้ในบริเวณจังหวัดราชบุรี สมุทรสงคราม เป็นต้น กลุ่มน้ำตาลมะพร้าวตาหลวง หมู่ 6 ตำบลตาหลวง อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี 081 014 8345, 083 026 3005, 090 437 8831, 085 393 9499 บ้านเตาไทยเดิม หมู่ 4 ตำบลบางกระบือ อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม 087 321 1288, 089 770 7541 ตาลโตนด การเก็บน้ำหวานจากตาลโตนด มีวิธีการคล้ายกับการเก็บน้ำตาลมะพร้าว แต่จะนิยมเก็บน้ำตาลจากต้นตัวผู้ เนื่องจากทำง่ายกว่า ใช้ “ไม้คาบ” อุปกรณ์สำหรับการนวดจั่นตาล (งวงดอกตาล) นวดวันละ 1 ครั้งไป 3-4 วัน จากนั้นตัดปลายจั่นแล้วเอากระบอกรองเก็บน้ำตาล ก็จะได้น้ำตาลจากตาลโตนด สามารถกินเป็นน้ำตาลสด หรือเอาไปทำน้ำตาลปึกได้ ตาลโตนดที่ขึ้นชื่ออยู่ที่เพชรบุรี นอกจากนี้ก็ยังมีที่อื่น ๆ ได้แก่ นครสวรรค์ สุโขทัย พิษณุโลก เป็นต้น สวนตาลลุงถนอม ตำบลถ้ำรงค์ อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี 087 800 7716 วิสาหกิจชุมชนบ้านปากคลองเกยไชย ตำบลเกยไชย อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ 084 657 7227, 098 549 9974 ต้นจาก อีกหนึ่งภูมิปัญญาที่เกือบสูญหาย คือการทำน้ำตาลจากต้นจาก พืชตระกูลปาล์มอีกหนึ่งชนิดที่สามารถนำไปทำน้ำตาลปึกได้ การเก็บน้ำตาล ทำโดยการตัดเอาจาก “งวงจาก” คือส่วนก้านของผลจากที่มี 30 ผลขึ้นไป ลอกกาบออก ตัดปลายงวงที่มีทะลายจากออก ทำซ้ำเป็นเวลา 3 วัน แล้ววันที่ 4 จึงสามารถเก็บเกี่ยวน้ำหวานได้ นำกระบอกที่เจาะรูด้านข้างไว้เพื่อเสียบงวงจากได้ ทิ้งไว้ 1 คืนก็จะได้น้ำตาล ส่วนมากทำกันในแถบภาคใต้ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีการปลูกต้นจากจำนวนมาก ได้แก่ นครศรีธรรมราช ตรัง เป็นต้น วิสาหกิจแปรรูปน้ำตาลจาก “ขนาบนาก” หมู่ 5 ตำบลขนาบนาก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช 095 682 4343 วิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่จากอำเภอกันตัง หมู่ที่ 4 ตำบลบางหมาก อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง 083 088 4978

ภูมิปัญญาไทยในการทำ “น้ำตาลปึก” อ่านเพิ่มเติม

✨ แจกปฏิทินเที่ยว ปี 2565 ✨

กางปฏิทินเที่ยว ปี 2565 ไปไหนดี? เรามาแจกปฏิทิน พร้อมแนะนำที่เที่ยว ทะเล ภูเขา ธรรมชาติ เที่ยวไทยไปได้ทั้งปี ใกล้จะหมดปีแล้ว คุณเป็นอย่างไรกันบ้างนะ ปี 2564 ได้ไปเที่ยวที่ไหนกันมาบ้างหรือเปล่า ถ้าใครยังไม่ได้ไปเที่ยวพักผ่อนที่ไหนในปีนี้ หรือถ้าไปแล้ว แต่อยากกลับไปอีก เพราะความคิดถึง ต้องเตรียมแพลนรับปีใหม่ 2565 กันได้แล้วนะ เพราะในปี 2565 นี้ เราอยากจะชวนคุณออกไปเที่ยวด้วยกัน หลังจากที่ไม่ได้เที่ยวแบบเต็มที่มานาน โพสต์นี้เราแนะนำที่เที่ยวสวย อันซีน มาให้แล้ว พร้อมกับแจกปฏิทิน ให้คุณได้ดาวน์โหลดแบบฟรี ๆ งานนี้ใครอยากไปเที่ยวสถานที่ไหน ช่วงเดือนอะไร ก็สามารถเตรียมแพลนล่วงหน้าไว้ได้เลย สามารถดาวน์โหลดภาพปฏิทิน และทำ E-Card ส่งต่อความสุขและความห่วงใยให้กับคนที่เรารัก ไปด้วยกัน โดยคลิกที่นี่ได้เลย >> https://tatcalendar.com/ นอกจากเว็บไซต์แล้ว ยังมีแอพพลิเคชัน TAT CALENDAR ด้วยนะ สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานกันแบบง่าย ๆ ได้แล้ววันนี้ ทั้งระบบ Android และ iOS ดาวน์โหลดผ่านระบบ Android คลิก : https://bit.ly/3oU23br ดาวน์โหลดผ่านระบบ iOS คลิก : https://apple.co/3GHsjfq พิกัดในภาพ : เจดีย์พระธาตุโบอ่อง กาญจนบุรี ม่อนหมอกตะวัน จังหวัดตาก “ม่อนหมอกตะวัน” เป็นหุบเขาที่มีหมอกตลอดทั้งวัน ตั้งอยู่ที่บ้านป่าหวาย ธรรมชาติแห่งขุนเขายามเช้า ท่ามกลางสายหมอกพริ้วไหว และดอกเสี้ยน ฝรั่งสีบานเย็นสลับขาวที่ผลิดอกสะพรั่งบานเต็มทั่วทิวเขาหากใครที่เข้าไปชมธรรมชาติและสายหมอก ขอให้ช่วยกันรักษาความสะอาดเพื่อธรรมชาติจะได้อยู่กับเราไปนาน ๆ ด้วยนะทุกคน ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องการเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น-ตก ทะเลหมอก และดอกไม้ที่สวยงามตระการตา มีบ้านพัก ลานกางเต็นท์ ร้านอาหาร และบริการหมูกระทะ ทางขึ้นของที่นี่ค่อนข้างชัน เป็นถนนแบบคอนกรีตผสมลูกรัง ด้านบนมีลานกางเต็นท์ ค่ากางเต็นท์ เริ่มต้นหลังละ 200 บาท จะนอนกี่คนก็ได้ เพราะคิดราคาต่อหลัง มีห้องน้ำ มีห้องอาบน้ำแยก พิกัด : บ้านป่าหวาย อ.พบพระ จ. ตากGPS : https://goo.gl/maps/vqKcH9SVkRxJNrDD6 ชุมชนบ้านหัวเขา จังหวัดสงขลา รับชมแสงสุดท้ายของวันทอประกายสีส้มระเรื่อลงมายังผืนน้ำอันกว้างใหญ่ เป็นภาพความงดงามในมุมสูงช่วงเวลาสนธยาของชุมชนประมงพื้นบ้านริมชายฝั่งทะเลสาบสงขลา เราสามารถไปบ้านหัวเขาได้ทั้งทางรถยนต์และทางเรือ แต่เราเลือกที่จะไปทางเรือ เพื่อไปชมพระอาทิตย์ตก ที่ชาวสงขลาบอกว่า เป็นจุดที่สวยที่สุด การนั่งเรือไปบ้านหัวเขา สามารถใช้เรือจ้างที่ดัดแปลงมาจากเรือหาปลา แต่เพิ่มเสื้อชูชีพและการจำกัดจำนวนผู้โดยสาร เพื่อความปลอดภัย เมื่อมาถึงบ้านหัวเขา จะมีรถพ่วงข้างซึ่งเป็นพาหนะท้องถิ่นมารับไปเที่ยวรอบชุมชน พิกัด : บ้านหัวเขา อ.สิงหนคร จ.สงขลาGPS : https://goo.gl/maps/TEmdirkeYi8V9dheA  ​​วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ จังหวัดมุกดาหาร ที่นี่เป็นดินแดนของ องค์พญานาคเจ้าปู่ศรีมุกดา (พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในแผ่นดินไทย ลำตัวเปล่งประกายด้วยสีน้ำเงินเข้มอมเขียว คดเคี้ยวเคียงคู่กับพระพุทธรูปปางมารวิชัยสีขาวที่สวยสง่า สะท้อนถึงพลังศรัทธาอันยิ่งใหญ่ของชาวอีสานแห่งลุ่มน้ำโขง ประดิษฐานโดดเด่นอยู่บนยอดเขามโนรมย์ และมีความเชื่อในการขอพรเกี่ยวกับด้านความโชคดี สุขภาพ ความปลอดภัย และความร่ำรวยเงินทอง บนยอดเขานั้น คุณสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของจังหวัดมุกดาหารได้ ทั้งแม่น้ำโขง และแขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของจังหวัดมุกดาหารที่ควรค่าแก่การมาเยือน พิกัด : วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ อ.เมือง จ.มุกดาหารGPS : https://goo.gl/maps/NHU38NQm1SvgHL6aA  ถ้ำคลัง จังหวัดกระบี่ “ถ้ำคลัง” ผลงานชิ้นเอกของธรรมชาติที่ใช้เวลาสร้างสรรค์กว่าพันปี ภายในโพรงถ้ำอันมืดมิด กลับเปล่งประกายด้วยสระน้ำใสสีมรกตและหินงอกหินย้อยประดับตกแต่งราวกับฉากหลังโรงละคร งดงามจนได้รับการยกย่องว่าเป็นราชาแห่งถ้ำหินปูนเมืองกระบี่ ภายในถ้ำมีโถง 13 ห้องด้วยกัน ด้านในมืดสนิทและเส้นทางซับซ้อน จำเป็นต้องมีไกด์นำทาง ซึ่งก็คือชาวบ้านที่จะคอยบริการพาเราเข้าไปชมความงดงามของหินงอกหินย้อยมากมาย ผลึกแก้วสวยงามวาววับ และสระน้ำมรกตที่มีน้ำใสดั่งกระจกถึง 2 แห่งอยู่ภายในถ้ำ การเดินสำรวจถ้ำ สิ่งจำเป็นที่ต้องเตรียมไปคือ ไฟฉาย และต้องติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางให้ด้วย พิกัด : ต.อ่าวลึกน้อย อ.อ่าวลึก จ.กระบี่GPS : https://goo.gl/maps/McxxL13JTCZXiE9M6  อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เขตรอยต่อระหว่างจังหวัดเลย พิษณุโลกและเพชรบูรณ์ สะพานหินธรรมชาติในอ้อมกอดของผืนป่า ถูกปกคลุมด้วยพรมสีเขียวของเฟิร์นและมอส แต่งแต้มสีแดงด้วยใบเมเปิลที่ผลัดใบในช่วงกลางเดือนธันวาคม ถือเป็นหนึ่งในจุดถ่ายรูปไฮไลท์ของอุทยานฯ ที่มีให้ชมเพียงปีละหนึ่งครั้ง นอกจากจุดนี้แล้ว ในอุทยานฯ ยังมีจุดท่องเที่ยวอื่นที่สวยงามอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ‘ลานหินปุ่ม’ ที่มีหินผุดขึ้นมาเป็นปุ่มเป็นปมขนาดไล่เลี่ยกัน สวยแปลกตา ‘ผาชูธง’ เป็นจุดชมทิวทัศน์ได้อย่างกว้างไกล พร้อมทั้งชมพระอาทิตย์ตก ‘น้ำตกผาลาด’ เป็นน้ำตกซึ่งไม่สูงนัก แต่มีน้ำมากตลอดปี เป็นต้น ที่อุทยานฯ ยังมีบ้านพัก เต็นท์ และร้านอาหาร ไว้บริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย พิกัด : อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า อ.ด่านซ้าย จ.เลย อ.นครไทย จ.พิษณุโลก และอ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์GPS : https://goo.gl/maps/kAHoDexZRypXpsDp6  เกาะไผ่ จังหวัดกระบี่ “เกาะไผ่” หรือเกาะไม้ไผ่ เกาะขนาดเล็กกลางทะเลกระบี่ ในวงล้อมของชายฝั่งสีเขียวมรกต หาดทรายขาวละเอียด ทางทิศใต้ของเกาะมีแนวปะการังทอดตัวเป็นวงโค้งสวยงามน่าอัศจรรย์ สมกับฉายาดงปะการังแสนไร่ สวรรค์น้อย ๆ ของคนรักกิจกรรมดำน้ำตื้น พิกัด : อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่GPS : https://goo.gl/maps/E4sj5ZZrZo6qaNju8  วังผาเมฆ จังหวัดตรัง เตรียมกายและใจให้พร้อมขึ้นไปพิชิตยอดเขา จุดชมทัศนียภาพอันกว้างไกลของผืนป่า แมกไม้ สายหมอกที่อาบไล้ด้วยแสงสีทองยามเช้า และภูเขาหินปูนที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้าของท้องทะเลจังหวัดตรัง วังผาเมฆตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าสายควนและป่าอ้ายกลิ้ง บรรยากาศตอนเช้าตรู่จะเป็นทะเลหมอกขาวสะอาดปกคลุมไปทั่วผืนป่าและเมื่อกระทบแสงอาทิตย์ยามเช้า จากหมอกขาวจะกลายเป็นสีเหลืองอร่ามอมส้ม เมื่อขึ้นมาสู่ยอดเขาจะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของผืนป่าที่กว้างใหญ่และอุดมสมบูรณ์ ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหลากหลายชนิด ในขณะที่ทางด้านทิศตะวันตก สามารถมองเห็นปากอ่าวและชายหาดรวมทั้งหมู่เกาะต่าง ๆ บนท้องทะเลอันดามัน ในจังหวัดตรังได้ บริเวณเชิงเขาจัดสร้างประติมากรรมต่าง ๆ

✨ แจกปฏิทินเที่ยว ปี 2565 ✨ อ่านเพิ่มเติม

Stand Up Paddle Board

Stand Up Paddle Brord หรือ SUP Board กิจกรรมทางน้ำสุดฮิตที่ในหลายจังหวัดมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้เปิดประสบการณ์การพาย SUP Board ชมแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ภายในจังหวัด และในจังหวัดกาญจนบุรี ก็มี SUP Board ให้ได้พายตามเส้นทางแม่น้ำแคว ชมความสวยงามของสองฝั่งแม่น้ำ ซึ่งก็สามารถเลือกได้ว่าจะพายรอบเช้าหรือรอบเย็น ไฮไลท์คือจุดสิ้นสุดเส้นทางที่จะได้ชมรถไฟแล่นผ่านสะพานข้ามแม่น้ำแควจากบน SUP Board ด้วยนะ และสำหรับคนที่ไม่เคยเล่นกิจกรรมนี้หรือว่ายน้ำไม่เป็น ไม่ต้องกลัวเลยค่ะเพราะมีเจ้าหน้าที่คอยสอนวิธีการเล่นและดูแลอย่างใกล้ชิด อย่ารอช้ารีบตามแอดมินมาชมความสนุกกับการพาย SUP Board กันเลย! ใครไม่เคยพาย SUP Board ไม่ต้องกังวลนะจ้ะ ที่นี่มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลความปลอดภัยตลอดเส้นทางด้วยนะ.การพาย SUP Board ที่กาญจนบุรีมีหลายเจ้าให้บริการ ซึ่งครั้งนี้เราใช้บริการของ SEDS Kanchaburi >>https://seds-kanchanaburi.com ก่อนลงไปพาย เจ้าหน้าที่จะให้ความรู้ สอนวิธีการพาย และการขึ้นบอร์ด กรณีตกน้ำเบื้องต้นให้กับนักท่องเที่ยว จุดเริ่มต้น ที่ท่าน้ำวัดน้ำตื้น เริ่ม!! การพาย SUP Board สามารถพายแบบยืนหรือจะนั่งพายก็ได้นะ ระหว่างพาย SUP Board มีเจ้าหน้าที่คอยถ่ายภาพสวย ๆ ให้เราด้วย โพสท่ากันได้เต็มที่เลย วิวสองข้างทางสวยมาก ๆ เลยค่ะ บางคนถ้าเหนื่อยหรือเมื่อย ก็นั่งพักและพายไปเรื่อยได้นะ พาย SUP Board มาใกล้สะพานข้ามแม่น้ำแคว วิวดี มุมดีมาก เหมาะกับการถ่ายภาพสุด ๆ จุดไฮไลท์ของทริปนี้แหละ นั่งมองรถไฟที่กำลังเคลื่อนตัวช้า ๆ ข้ามสะพานแม่น้ำแคว บรรยากาศยามเย็นที่พระอาทิตย์กำลังตกดิน กับวิวสะพานข้ามแม่น้ำแคว สวยงามมาก ๆ เลยจ้า

Stand Up Paddle Board อ่านเพิ่มเติม

เนินช้างศึก จังหวัดกาญจนบุรี

เนินช้างศึก หรือ ยอดดอยปิล๊อก ตั้งอยู่ใกล้กับหมู่บ้านอิต่อง ที่นี่เป็นที่ตั้งของฐานปฏิบัติการของตำรวจตระเวนชายแดนที่ 135 (ฐานช้างศึก) ที่ตั้งอยู่บนเส้นพรมแดนไทย-พม่า บริเวณนี้มีเพียงที่พักเจ้าหน้าที่ ตชด. และห้องสุขา ไม่มีบ้านพัก ร้านค้า ร้านอาหาร หรือสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ จากจุดชมวิวด้านทิศตะวันตกเราจะเห็นหมู่บ้านอิต่องที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล หากอยากพักค้างแรม ที่หมู่บ้านก็มีโฮมสเตย์ให้เลือกหลายเจ้าเลยล่ะ เนินช้างศึกเป็นจุดชมวิวที่สวยงาม มองเห็นทิวทัศน์ของแนวเขาที่สลับซับซ้อนได้แบบ 360 องศา อากาศก็เย็นสบายตลอดทั้งปี ทุ่งหญ้าบนเนินจะเปลี่ยนสีแตกต่างกันไปตามฤดูกาล สวยงามทุกฤดูเลย ที่นี่ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกด้วยนะ และในช่วงฤดูหนาวก็จะมีหมอกปกคลุมบริเวณยอดเขา ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่สวยงามและบรรยากาศดี แบบนี้ต้องเตรียมตัวเก็บกระเป๋าไปเที่ยวแล้วล่ะ ที่ตั้ง : ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรีโทร. 034 511 200, 034 512 500 เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 4 ธันวาคม 2562

เนินช้างศึก จังหวัดกาญจนบุรี อ่านเพิ่มเติม

จุดชมวิวป้อมปี่

ในช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ หลายคนคงนึกถึงอากาศหนาวเย็นและสายลมบางๆ ที่พัดผ่านมาสัมผัสผิวกาย รวมทั้งไอหมอกที่บ่งบอกว่าตอนนี้กำลังเริ่มต้นเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว…..และในช่วงที่อากาศเย็นสบายแบบนี้ การได้ไปกางเต็นท์นอนดูดาว รอชมพระอาทิตย์ตกนั้น ช่างเป็นช่วงเวลาที่พิเศษไม่น้อยเลยทีเดียว.หากใครยังไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนดี แอดขอแนะนำที่นี่เลย “จุดชมวิวป้อมปี่” เพราะที่นี่มีทุกสิ่งที่เราต้องการ.จุดชมวิวป้อมปี่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรีhttps://goo.gl/maps/cZEY9HPtHaCU7VJy9 . เกร็ดความรู้ : “ป้อมปี่” เพี้ยนมาจากคำว่า “เปอปี่” ซึ่งเป็นภาษากระเหรี่ยง แปลว่า “ต้นอ้อ” “จุดชมวิวป้อมปี่” ตั้งอยู่บริเวณริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนเขาแหลม ซึ่งเป็นสถานที่ที่โอบล้อมไปด้วยขุนเขาที่เขียวขจีและผืนน้ำอันนิ่งสงบ บอกได้เลยว่าที่แห่งนี้นั้นเหมาะแก่การรับลมเย็นๆ และพักผ่อนหย่อนใจสุดๆ ค่าเข้าชม– ชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท– ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท.ค่าธรรมเนียมยานพาหนะ– รถจักรยานยนต์ 20 บาท/คัน– รถยนต์ 4 ล้อ 30 บาท/คัน.ค่าที่พัก– เต็นท์ขนาดเล็กนอนได้ 2-3 คน ราคา 225 บาท/คืน– หากนำเต็นท์มาเอง เสียค่ากางเต็นท์ 30 บาท/คืน.ปล.ที่นี่มีห้องน้ำรวมไว้ให้บริการ ส่วนไฟฟ้าเพื่อนๆ สามารถใช้ได้ที่ศูนย์อำนวยการค่ะ นอกจากเราจะได้นอนกางเต็นท์พร้อมชมธรรมชาติที่สวยงามแล้ว การทำอาหารด้วยตนเองแอดบอกได้เลยว่าเป็นอะไรที่พิเศษสุดๆ เพราะเราจะได้โชว์ฝีมือการทำอาหาร อีกทั้งยังได้เรียนรู้การพึ่งพาตนเองอีกด้วย.หากใครที่ไม่ได้เตรียมเตาปิ้งย่างมาด้วย สามารถขอเช่าได้ที่ศูนย์อำนวยการ ราคาชุดละ 100 บาทค่ะ ทำอาหารเสร็จแล้ว เราก็มารอชมพระอาทิตย์ตกกันดีกว่าค่ะ ซึ่งต้องบอกเลยว่าจุดชมวิวป้อมปี่นั้น เป็นสถานที่ที่เราสามารถชมพระอาทิตย์ตกได้อย่างสวยงามอีกจุดหนึ่งของกาญจนบุรีเลยทีเดียว.ที่นี่เราจะได้เห็นพระอาทิตย์ดวงโตค่อยๆ คล้อยต่ำลงและหายลับไป เหมือนกับว่าพระอาทิตย์กำลังตกน้ำยังไงยังงั้นเลยค่ะ นอกจากบรรยากาศยามเย็นจะสวยงามแล้ว บรรยากาศยามค่ำคืนของที่นี่ก็ฟินไม่แพ้ที่ไหนๆ เลยค่ะ เพราะเราจะได้ชมดวงดาวนับร้อยนับพันที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า ซึ่งหากโชคดียังมีโอกาสได้ชมทางช้างเผือกอีกด้วย.ปล.แนะนำว่าอย่านอนดึกนะคะ เพราะหากตื่นสายเพื่อนๆ จะอดเห็นไอน้ำที่ดูคล้ายหมอก ที่ลอยอยู่เหนือบริเวณอ่างเก็บน้ำ ซึ่งเป็นความงดงามอีกอย่างหนึ่งที่ดึงดูดให้หลายคนเดินทางมายังจุดชมวิวป้อมปี่แห่งนี้นั่นเองค่ะ เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 16 ตุลาคม 2562

จุดชมวิวป้อมปี่ อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top