พัทลุง

พัทลุง

ล่องใต้ เที่ยวพัทลุง

หลายคนอาจคิดว่าภาคใต้เที่ยวได้เฉพาะช่วงฤดูร้อน แต่ที่จริงแล้วทุกๆ ที่ก็มีความสวยงามแตกต่างกันไปในแต่ละฤดู อย่างเช่นที่ จังหวัดพัทลุง ที่ไม่ว่าฤดูไหนก็สามารถมาเที่ยวได้.แม้จะเป็นจังหวัดเล็กๆ แต่พัทลุงก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามมากมายที่รอให้เหล่านักเดินทางเข้าไปสัมผัส ซึ่งแอดได้รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยว ต้อง ห้าม พลาด มาให้เพื่อนๆ ได้เที่ยวตามกันแล้ว  คลองปากประ.ที่นี่เป็นแหล่งทำประมงของชาวบ้าน มีปลาชุกชุม เราจึงได้เห็นยอยักษ์เป็นจำนวนมาก นับเป็นภาพบรรยากาศที่สวยงามจริงๆ เลยค่ะ.และนอกจากการชมยอยักษ์แล้ว อีกหนึ่งกิจกรรมที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ “การนั่งเรือไปชมพระอาทิตย์ขึ้น” เพื่อรอต้อนรับความมหัศจรรย์แห่งแสงแรกของวันที่สวยงามในยามเช้าตรู่นั่นเองค่ะ.ที่ตั้ง ต.พนางตุง อ.ควนขนุน เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย.ปกติแล้วในราวเดือนกุมภาพันธ์-เมษายนของทุกปี ที่นี่จะเต็มไปด้วยบัวแดงสีสันสดใส มองเห็นได้กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา และยังมีนกน้ำหลายชนิดออกมาโบยบินให้ได้เห็นกัน นอกจากนี้ที่นี่ยังมีอีกหนึ่งไฮไลท์นั่นก็คือ การชมเจ้าควายน้ำดำน้ำผลุบๆ โผล่ๆ เพื่อหาหญ้าใต้น้ำกินนั่นเอง ซึ่งจะพบเห็นได้ในช่วงฤดูน้ำหลาก หรือราวเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ค่ะ.ที่ตั้ง ต.พนางตุง และ ต.ทะเลน้อย อ.ควนขนุนเปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 18.00 น.โทร. 074 685 230 สะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา.เป็นสะพานที่ยาวที่สุดของประเทศไทยในขณะนี้ สร้างขึ้นเพื่อเชื่อมเส้นทางระหว่าง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง และ อ.ระโนด จ.สงขลา เข้าด้วยกัน.ทัศนียภาพโดยรอบของสะพานเป็นเวิ้งน้ำกว้างไกลของทะเลน้อยและทะเลหลวงของทะเลสาบสงขลา สามารถมองเห็นทะเลบัวแดงในช่วงเช้า ส่วนช่วงสายก็จะพบกับนกน้ำที่ออกหากิน และถ้าโชคดีก็อาจได้พบควายน้ำอีกด้วยค่ะ.ที่ตั้ง ต.พนางตุง อ.ควนขนุน หลาดใต้โหนด.ตลาดแห่งนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติร่มรื่น เต็มไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่ และที่สำคัญยังเป็นตลาดที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม มีการนำเอาวัสดุธรรมชาติมาทำเป็นภาชนะใส่ขนมและอาหาร แทนการใช้โฟมและพลาสติก นอกจากนี้อาหารที่ขายภายในตลาดก็ใช้วัตถุดิบที่ผลิตขึ้นเองจากชุมชน ซึ่งปลอดสารพิษอีกด้วย.ที่ตั้ง ต.ดอนทราย อ.ควนขนุนเปิดเฉพาะวันอาทิตย์ เวลา 08.00 – 15.00 น.โทร. 074 673 616 เขาอกทะลุ เขาอกทะลุเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดพัทลุง มีลักษณะเป็นภูเขาหินปูนที่มีโพรงเจาะทะลุบริเวณด้านบนของยอดเขา ทำให้สามารถมองเห็นอีกด้านหนึ่งได้ จึงเป็นที่มาของชื่อ “เขาอกทะลุ” นอกจากนี้ที่นี่ยังมีบันไดสำหรับขึ้นไปยังยอดเขาเพื่อชมทิวทัศน์ของเมืองพัทลุงได้อีกด้วย ที่ตั้ง ต.คูหาสวรรค์ อ.เมืองพัทลุง ควนนกเต้น.ควนนกเต้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี “ควน” เป็นภาษาใต้ หมายถึง ภูเขาเล็กๆ เป็นจุดที่ชมวิวภูเขาและทะเลหมอกได้อย่างสวยงาม นอกจากจะเป็นจุดชมวิวแล้ว ที่นี่ยังมีร้านกาแฟและขนมไว้คอยให้บริการอีกด้วย.ที่ตั้ง ต.คลองทรายขาว อ.กงหราเปิดทุกวัน เวลา 05.00 – 19.00 น. น้ำตกไพรวัลย์.น้ำตกแห่งนี้เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของพัทลุง นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมมาเล่นน้ำกันที่บริเวณชั้นล่าง เพราะใกล้กับลานจอดรถและร้านอาหาร.ที่ตั้ง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด ต.คลองเฉลิม อ.กงหราเปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 16.00 น.ค่าเข้าชม : ชาวไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาทชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาทโทร. 074 605 466 ล่องแก่งหนานมดแดง หนึ่งในสถานที่ล่องแก่งในพัทลุงที่น้อยคนจะรู้จัก แต่สำหรับสายผจญภัยบอกเลยว่าไม่ควรพลาด ที่นี่นักผจญภัยจะได้ตื่นเต้นและสนุกสนานไปกับเกาะแก่งต่างๆ ที่มีมากมายกว่า 40 แก่ง ในระดับความยากง่ายที่แตกต่างกันไป นอกจากนี้ยังจะได้สัมผัสกับธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ตลอดสองฝั่งคลอง ทั้งความเขียวขจีของป่าไม้ ความสวยงามของดอกไม้นานาพันธุ์ รวมไปถึงสัตว์ประจำถิ่นชนิดต่างๆ ด้วย ที่นี่ยังมีห้องอบสมุนไพรไว้บริการสำหรับผู้ที่ต้องการผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการล่องแก่ง และหากใครอยากพักค้างคืนที่นี่ก็มีห้องพักและลานกางเต็นท์ด้วย ที่ตั้ง ม.1 ต.ลานข่อย อ.ป่าพะยอมโทร. 089 873 1464, 081 370 2123, 081 082 0206 เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 3 ธันวาคม 2562

ล่องใต้ เที่ยวพัทลุง อ่านเพิ่มเติม

10 จุดชมความงาม ยามอาทิตย์อัสดง

1. วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ วัดอรุณราชวราราม เป็นวัดเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ในช่วงสมัยรัชกาลที่ 2 และรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ จุดเด่นของวัดแห่งนี้คือ “พระปรางค์” ซึ่งมีลักษณะทางสถาปัตยกรรมที่สวยงามโดดเด่นที่สุดวัดหนึ่งของไทย หากมองจากฝั่งพระนครไปยังวัดอรุณฯ ในช่วงพลบค่ำ ก็จะเห็นภาพดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่ด้านหลังของพระปรางค์พอดิบพอดี องค์ประกอบต่างๆ ล้วนทำให้เกิดเป็นภาพที่สวยงามลงตัวอย่างน่าอัศจรรย์ วัดอรุณราชวรารามวรมหาวิหารที่ตั้ง : ถ.วังเดิม แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานครเปิดทุกวัน เวลา 8.30-17.30 น. 2. วัดไชยวัฒนาราม จ.พระนครศรีอยุธยา ในช่วงปีที่ผ่านมา วัดไชยวัฒนารามเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิต เนื่องจากเป็นฉากหนึ่งในละครเรื่องบุพเพสันนิวาสทีโด่งดังไปทั่ว ทำให้มีผู้คนเดินทางมาตามรอยละครกันมากมาย วัดไชยวัฒนาราม เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างในสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง โดยจำลองรูปแบบการก่อสร้างมาจากปราสาทนครวัด มีพระปรางค์องค์ใหญ่เป็นประธานของวัด และมีปรางค์บริวารอยู่ที่มุมทั้ง 4 รอบพระปรางค์ล้อมรอบด้วยระเบียงคด ซึ่งมีเมรุทิศ เมรุราย อยู่ที่มุมและด้านของระเบียงคด นับเป็นโบราณสถานที่สวยงามตระการตาอีกแห่งหนึ่ง ในยามเย็นช่วงพระอาทิตย์ตกดิน แสงที่สาดส่องมายังโบราณสถาน ทำให้เกิดมุมมองที่แปลกตา สวยงามไม่แพ้กลางวันเลย วัดไชยวัฒนารามที่ตั้ง : อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยาเปิดทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น. 3. ปราสาทหินพนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์ หลายๆ คนอาจจะตั้งตารอชมปรากฏการณ์ที่ดวงอาทิตย์ขึ้นตรง 15 ช่องประตู ซึ่งใน 1 ปีจะเกิดขึ้นเพียง 4 ครั้งเท่านั้น แต่วันนี้แอดอยากจะบอกว่า ไม่ต้องรอให้ถึงช่วงเวลานั้น เราก็มีรูปสวยๆ ไปอวดเพื่อนๆ ได้เหมือนกัน ยามดวงอาทิตย์คล้อยลงต่ำ เตรียมจะลาลับขอบฟ้า เงาของปราสาทจะบดบังดวงอาทิตย์ ทำให้ปราสาทดูลึกลับและเต็มไปด้วยมนต์ขลังมากยิ่งขึ้น ปราสาทหินพนมรุ้งที่ตั้ง : ต.ตาเป๊ก อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์เปิดทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น. 4. สะพานแขวนสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี จ.ตาก สะพานแห่งนี้ถือเป็นจุดชมวิวแม่น้ำปิงที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของ จ.ตาก เลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะช่วงที่ดวงอาทิตย์ขึ้นและตก เราจะเห็นดวงอาทิตย์อยู่ตรงกับแนวสะพานพอดี เป็นภาพที่สวยงามมากๆ นอกจากนี้ ในช่วงเทศกาลลอยกระทงของทุกปี บริเวณสะพานแห่งนี้ยังใช้เป็นสถานที่จัดงานประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีปพันดวง ซึ่งเป็นประเพณีท้องถิ่นของจังหวัดที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครอีกด้วย สะพานแขวนสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปีที่ตั้ง : อ.เมือง จ.ตาก 5. อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จ.สุโขทัย อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย มรดกโลกที่สำคัญของไทย ร่องรอยความเจริญรุ่งเรืองของอาณาจักรสุโขทัยเมื่อกว่า 700 ปีก่อน ภายในอุทยานฯ เต็มไปด้วยโบราณสถานมากมายที่แม้จะปรักหักพังแต่ก็เต็มไปด้วยคุณค่าทั้งทางประวัติศาสตร์และทางจิตใจ ในช่วงเวลาโพล้เพล้ บริเวณสระน้ำหน้าวัดมหาธาตุนี่แหละคือสถานที่ยอดนิยมสำหรับนักถ่ายภาพ ภาพความยิ่งใหญ่ของโบราณสถานยามอาทิตย์อัสดงที่สะท้อนลงบนผิวน้ำนั้น งดงามเกินบรรยายจริงๆ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยที่ตั้ง : ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.สุโขทัยเปิดทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น. 6. กว๊านพะเยา จ.พะเยา กว๊านพะเยาเป็นบึงน้ำที่เกิดจากการรวมตัวของลำห้วยต่างๆ ถึง 18 สาย เป็นบึงที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ และใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศไทย นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลากว่า 50 ชนิดด้วย คำว่า “กว๊าน” หมายถึง หนองน้ำ หรือบึงน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นคำที่ใช้เฉพาะที่จังหวัดพะเยาแห่งเดียวเท่านั้น ทัศนียภาพรอบกว๊านร่มรื่น มองเห็นแนวทิวเขาสลับซับซ้อนสวยงาม บริเวณริมกว๊านมีร้านอาหารและสวนสาธารณะ ซึ่งสามารถมาเดินเล่น หรือชมพระอาทิตย์ตกดินได้ มีบริการนั่งเรือพายชมทัศนียภาพกว๊านพะเยาด้วย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท กว๊านพะเยาที่ตั้ง : ต.เวียง อ.เมือง จ.พะเยา 7. ประภาคาร จ.ระนอง ประภาคารแห่งนี้ ตั้งอยู่บริเวณท่าเทียบเรือด่านศุลกากรระนอง เป็นอาคารแปดเหลี่ยม สูง 50 เมตร ถือว่าเป็นประภาคารที่สูงที่สุดในประเทศไทย ประภาคารมีทั้งหมด 9 ชั้น โดยชั้นที่ 9 เป็นจุดชมวิวที่สามารถชมสวยงามของปากน้ำระนอง ก่อนไหลออกสู่ทะเลอันดามัน โดยอีกฟากฝั่งของแม่น้ำก็คือประเทศเมียนมานั่นเอง ใกล้มากๆ ในช่วงเย็น สถานที่แห่งนี้ยังเป็นสถานที่ที่เราสามารถมาเดินเล่น พักผ่อนหย่อนใจ รับลมเย็นๆ และถ่ายรูปเล่นได้อีกด้วย บอกเลยว่าภาพประภาคารที่มีภูเขาและดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าเป็นฉากหลังนั้น สวยงามไม่แพ้ที่ไหนๆ เลย ประภาคาร จ.ระนองที่ตั้ง : บ้านเขานางหงส์ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนองเปิดทุกวัน เวลา 8.00-20.00 น. 8. สะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.พัทลุง รู้หรือไม่..สะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.พัทลุง เป็นสะพานที่ยาวที่สุดของประเทศไทยในขณะนี้ สะพานแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเชื่อมเส้นทางระหว่าง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง และ อ.ระโนด จ.สงขลา เข้าด้วยกัน โดยทอดยาวผ่านทะเลน้อยอันกว้างใหญ่ ทัศนียภาพโดยรอบสะพานเป็นเวิ้งน้ำกว้างไกล สามารถมองเห็นทะเลบัวแดงในช่วงเช้า ส่วนช่วงสายก็จะพบกับนกน้ำที่ออกหากิน และถ้าโชคดีก็อาจได้พบควายน้ำด้วย ไฮไลท์อีกอย่างของที่นี่คือ ในช่วงเย็นเส้นทางนี้ยังได้ชื่อว่าเป็นจุดถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งอีกด้วย สะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาที่ตั้ง : ต.พนางตุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง 9. เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี เกาะเต่า จุดดำน้ำที่มีชื่อเสียงระดับโลก เนื่องจากมีแนวปะการังทั้งน้ำตื้นและน้ำลึกที่มีความสวยงามและสมบูรณ์ อีกทั้งยังเป็นที่อยู่อาศัยของปลาหลากหลายชนิด เกาะเต่ามีหาดทรายขาวละเอียดและสะอาดสวยงาม นอกจากนี้ยังเป็นเกาะที่เงียบสงบ ผู้คนไม่พลุกพล่าน เกาะเต่าจึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่ต้องการการพักผ่อนอย่างแท้จริง ถึงแม้เกาะเต่าจะตั้งอยู่ในเขต จ.สุราษฎร์ธานี แต่เนื่องจากอยู่ใกล้ฝั่งของ จ.ชุมพรมากกว่า นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเกาะเต่าจึงนิยมขึ้นเรือจากชุมพรเป็นส่วนใหญ่ เกาะเต่าที่ตั้ง : อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี 10.

10 จุดชมความงาม ยามอาทิตย์อัสดง อ่านเพิ่มเติม

ไปเที่ยวต(ห)ลาดใต้โหนดกันหว่า?

ถึงตลาดปุ๊บก็หาขนมทานกันก่อนเลย ขนมกรวย มีส่วนผสมหลักๆ คือ แป้งข้าวเจ้า แป้งถั่วเขียว และกะทิ เนื้อขนมจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน โดยด้านล่างเป็นแป้งข้าวเจ้าผสมแป้งถั่วเขียว ส่วนด้านบนเป็นหน้ากะทิผสมแป้ง เวลานึ่งจะนึ่งแป้งด้านล่างให้สุกก่อนแล้วค่อยหยอดหน้ากะทิ คล้ายขนมถ้วยของภาคกลาง แต่ใช้ใบตองมาห่อเป็นกรวยแทน  สินค้าภายในตลาดนัดแห่งนี้มีตั้งแต่ผักผลไม้ อาหารพื้นบ้าน ขนมท้องถิ่นหาทานยาก ไปจนถึงของใช้ ของฝาก ผลงานศิลปะ และของแฮนด์เมดน่ารักๆ จุดเด่นของที่นี่คือแนวคิดรักสิ่งแวดล้อม มีการรณรงค์ให้เจ้าของร้านค้าลดใช้ถุงพลาสติก และนำวัสดุธรรมชาติมาทำเป็นภาชนะใส่อาหารแทน อาหารที่นี่เยอะมาก เลือกทานไม่ถูกเลย อยากซื้อไปซะหมด มีทั้งข้าวยำ เมี่ยงปลาเผา ไก่ย่าง ส้มตำ ขนมจีนน้ำยา ข้าวราดแกงใต้ชนิดต่างๆ น้ำพริก และอีกมากมาย ให้แอดบอกจนหมด ตลาดก็คงปิดพอดี เอาเป็นว่ามาเดินเลือกซื้อกันเองจะดีกว่าค่ะ  ของหวานก็ไม่น้อยหน้า ขนทัพกันมาเต็มกำลัง แอดขอยกตัวอย่างมาให้ดูสักเล็กน้อย เพื่อเป็นการกระตุ้นต่อมความอยากของหวาน หัวครกราดน้ำผึ้ง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ราดน้ำตาลกวนหรือน้ำผึ้ง หวาน มัน เคี้ยวเพลินสุดๆ ขนมโค หลากสีสัน แป้งหนึบหนับ เคี้ยวเพลิน รสชาติเหมือนขนมต้มของภาคกลางเลยค่ะ ตลาดใต้โหนดมีพื้นที่เปิดกว้างสำหรับศิลปินทุกวัย ที่มีดีแล้วอยากโชว์ของ สามารถมาเล่นดนตรีเปิดหมวกได้ ใครไปเที่ยวตลาดใต้โหนดก็ไปให้กำลังใจน้องๆ กันนะคะ ถ้าเพื่อนๆ ไปเที่ยวจังหวัดพัทลุง อย่าลืมแวะไปตลาดใต้โหนดกันนะคะ คุณยายและชาวบ้านที่น่ารักรอต้อนรับผู้มาเยือนทุกคนอยู่ 

ไปเที่ยวต(ห)ลาดใต้โหนดกันหว่า? อ่านเพิ่มเติม

Wetland ดินแดนมหัศจรรย์

Wetland ดินแดนมหัศจรรย์ : 14 พื้นที่ชุ่มน้ำที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นแรมซาร์ไซต์ (Ramsar Site) 1 พื้นที่ชุ่มน้ำพรุควนขี้เสียน.พื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศแห่งแรกของประเทศไทย มีลักษณะเป็นพื้นที่พรุไม้เสม็ดขาว มีกก หญ้ากระจูด กระจูดหนู ขึ้นอยู่หนาแน่น ตั้งอยู่ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของทะเลสาบสงขลา .ที่ตั้ง: เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย จังหวัดพัทลุง 2 พื้นที่ชุ่มน้ำเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ.เป็นบึงน้ำจืดที่มีลักษณะแคบยาว เกิดจากลำห้วยหลายสายไหลมารวมกัน โดยน้ำในบึงจะไหลลงสู่แม่น้ำสงคราม ก่อนไหลออกแม่น้ำโขง ในพื้นที่มีเกาะกลางบึง ได้แก่ ดอนแก้ว ดอนสวรรค์ ดอนโพธิ์ ดอนน่อง และนอกจากนี้บนเกาะยังมีป่าดิบแล้งที่ค่อนข้างสมบูรณ์อีกด้วย.ที่ตั้ง: อยู่ในพื้นที่ตำบลบ้านต้อง ตำบลโสกก่าม อำเภอเซกา และตำบลบึงโขงหลง ตำบลโพธิ์หมากแข้ง อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ  3 พื้นที่ชุ่มน้ำเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหนองบงคาย จังหวัดเชียงราย.เป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของทะเลสาบเชียงแสน มีการสำรวจพบพันธุ์ไม้ในพื้นที่กว่า 185 ชนิด เช่น ผักบุ้ง บอน หญ้าไซ บัวหลวง กก เป็นต้น เป็นพืชต่างถิ่น 15 ชนิด เช่น กระถินยักษ์ หญ้าชน บัวบก และมะระขี้นก เป็นต้น.ที่ตั้ง: ตำบลโยนก และตำบลป่าสัก อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย 4 พื้นที่ชุ่มน้ำอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม-เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง-ปากน้ำตรัง จังหวัดตรัง .บริเวณนี้มีระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพสูงมาก โดยสังคมพืชในพื้นที่ประกอบด้วย ป่าดิบชื้น ป่าชายหาด ป่าชายเลน และจัดเป็นแหล่งที่มีความอุดมสมบรูณ์ของหญ้าทะเลมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งหากินของพะยูน ซึ่งถือเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ของประเทศไทยอีกด้วย.ที่ตั้ง: ตำบลนาเกลือ ตำบลลิบง ตำบลหาดสำราญ อำเภอสิเกา อำเภอปะเหลียน และอำเภอกันตัง จังหวัดตรัง 5 พื้นที่ชุ่มน้ำกุดทิง จังหวัดบึงกาฬ .กุดทิงเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของปลาน้ำจืดขนาดเล็กที่สำคัญหลายชนิด และยังพบปลาที่อยู่ในสถานะที่เสี่ยงต่อการถูกคุกคาม เช่น ปลายี่สก หรือปลาเอิน ฯลฯ นอกจากนี้กุดทิงยังเป็นที่อยู่อาศัยของกุ้งน้ำจืด 3 ชนิด คือ กุ้งฝอยเล็ก กุ้งฝอยใหญ่ และกุ้งฝอยแดงด้วย .ที่ตั้ง : อำเภอเมือง จังหวัดบึงกาฬ 6 หมู่เกาะระ–เกาะพระทอง จังหวัดพังงา.จุดเด่นของที่นี่คือแนวปะการังน้ำลึก ที่มีความหลากหลายของชนิดปะการังมากกว่าที่อื่น มีการสำรวจพบแนวปะการังที่เกาะสุรินทร์เหนือ เกาะสุรินทร์ใต้ เกาะรี เกาะไข่ เกาะกลาง เกาะเมี่ยง เกาะตารี และเกาะอื่นๆ โดยที่เกาะสุรินทร์มีแนวปะการังที่สมบูรณ์อยู่ที่อ่าวช่องขาด และอ่าวแม่บาย ปะการังที่พบมาก ได้แก่ ปะการังเขากวาง ปะการังโขด ปะการังดอกเห็ด ปะการังดอกกะหล่ำ ปะการังดาวใหญ่ และปะการังไฟ เป็นต้น.ที่ตั้ง : อำเภอคุระบุรี และอำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา 7 พื้นที่ชุ่มน้ำอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา จังหวัดพังงา .เป็นอ่าวตื้นที่ล้อมรอบด้วยป่าชายเลนขนาดใหญ่เนื้อที่กว่า 132,381 ไร่ โดยบริเวณอ่าวพังงาประกอบไปด้วยเกาะน้อยใหญ่ประมาณ 42 เกาะ เช่น เกาะเขาเต่า เกาะพระอาดเฒ่า เกาะมะพร้าว เกาะปันหยี เกาะเขาพิงกัน เป็นต้น ถ้าเพื่อนๆ ไปที่จุดชมวิวเสม็ดนางชี ก็จะสามารถมองเห็นพื้นที่บางส่วนของแนวป่าชายเลนและหมู่เกาะต่างๆ ได้อย่างชัดเจน.ที่ตั้ง : อำเภอเมือง และอำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา 8 พื้นที่ชุ่มน้ำปากแม่น้ำกระบี่ จังหวัดกระบี่ .มีพื่นที่ครอบคลุมตั้งแต่สุสานหอย 75 ล้านปี เขตผังเมืองกระบี่ ป่าชายเลนหาดเลน เขาขนาบน้ำ หาดทรายลำคลองน้อมใหญ่หน้าเมืองกระบี่ ไปจนถึงป่าชายเลนและหญ้าทะเลผืนใหญ่ในบริเวณเกาะศรีบอยา  ที่นี่เป็นแหล่งชุมนุมของนกอพยพที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย พบนกอย่างน้อย 101 ชนิด เป็นนกประจำถิ่นอย่างน้อย 53 ชนิด เช่น นกยางเขียว นกนางนวลแกลบหงอนใหญ่ เหยี่ยวขาว เป็นต้น .ที่ตั้ง: อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ 9 พื้นที่ชุ่มน้ำอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง จังหวัดสุราษฎร์ธานี.หมู่เกาะอ่างทองประกอบด้วยเกาะต่างๆ ประมาณ 42 เกาะ ทั้งหมดเป็นเกาะขนาดเล็กและขนาดกลางตั้งอยู่เป็นกลุ่มเกาะกลางทะเล ส่วนใหญ่เป็นเขาหินปูนมีแนวหน้าผาสูงชันตั้งดิ่งจากพื้นที่น้ำทะเล นอกจากความอุดมสมบูรณ์ของโลกใต้ทะเลแล้ว ป่าไม้บนแนวเขาก็ค่อยข้างอุดมสมบูรณ์ มีสัตว์ป่าประจำถิ่นและนกอพยพกว่า 100 ชนิดเช่นกัน .ที่ตั้ง : ตำบลอ่างทอง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี 10 พื้นที่ชุ่มน้ำดอนหอยหลอด จังหวัดสมุทรสงคราม .ดอนหอยหลอดเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำชายฝั่งทะเล มีลักษณะเป็นดินที่เกิดจากการทับถมของตะกอนปากแม่น้ำและตะกอนน้ำทะเลบริเวณปากแม่น้ำกลอง ทำให้แผ่นดินขยายออกไปในทะเลประมาณ 8 กิโลเมตร.จุดเด่นของที่นี่คือหาดเลน เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของหอยหลอด เอกลักษณ์สำคัญของพื้นที่ และยังมีหอยอีกหลายชนิดที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจในประเทศไทยและในภูมิภาค.ที่ตั้ง: อยู่ในพื้นที่ตำบลบางจะเกร็ง ตำบลแหลมใหญ่ ตำบลบางแก้ว และตำบลคลองโคน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม 11 พื้นที่ชุ่มน้ำเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ( พรุโต๊ะแดง ) จังหวัดนราธิวาส .พรุโต๊ะแดงเป็นป่าพรุผืนใหญ่ที่สุดของประเทศไทยที่ยังคงเหลืออยู่ มีคุณค่าต่อการศึกษาวิจัยและการท่องเที่ยว ท้องถิ่นและชุมชนได้ประโยชน์โดยตรงจากการเก็บของป่า เช่น หวาย หลุมพี น้ำผึ้ง เพื่อเป็นรายได้ของชุมชน ที่นี่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงทั้งพืชและสัตว์ มีการสำรวจพบสัตว์ใกล้สูญพันธุ์หลายชนิด เช่น นกตะกรุม นกฟินฟุท นกเปล้าใหญ่ เต่าหับ เต่าดำ ตะโขง และจระเข้น้ำเค็ม เป็นต้น.ที่ตั้ง: อำเภอตากใบ อำเภอสุไหงโก-ลก และอำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส 12 พื้นที่ชุ่มน้ำอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ .เพื่อนๆ หลายคนน่าจะเคยไปเที่ยวที่สามร้อยยอดกันมาบ้างแล้ว แต่รู้หรือไม่ว่าที่นี่ประกอบด้วยระบบนิเวศที่หลากหลายทั้งระบบนิเวศบก ป่าเขาหิน และระบบนิเวศพื้นที่ชุ่มน้ำได้แก่ บึงน้ำจืด ป่าชายเลน หาดโคลน และหาดทรายชายทะเล  โดยป่าชายเลนจะอยู่บริเวณปากคลอง ซึ่งมีพันธุ์ไม้ขึ้นอยู่เป็นแนวแคบๆ ตามชายคลองบริเวณทางออกทะเล เช่น แสมทะเล โกงกางใบใหญ่ โกงกางใบเล็ก ลำพู เหงือกปลาหมอดอกขาว หญ้าน้ำเค็ม ฯลฯ ส่วนบริเวณที่ลุ่มน้ำกร่อยจะมีสังคมพืชทนเค็ม

Wetland ดินแดนมหัศจรรย์ อ่านเพิ่มเติม

ชมนก ชมดอกไม้ ดูควายน้ำ ที่พัทลุง

ชมนก ชมดอกไม้ ดูควายน้ำ ที่พัทลุง ก่อนลงเรือ ก็มาเดินเล่นชมบรรยากาศรอบๆ มองเห็นวิวทะเลน้อยไกลสุดลูกหูลูกตา ถ่ายรูปกันซักพัก ก็ถึงเวลาลงเรือกันแล้วค่ะ ล่องเรือมาเรื่อยๆ ก็เจอกับนกๆ แต่เราไม่นกค่ะ เพราะสิ่งที่เราเห็นคือดอกบัวสีชมพูบานสะพรั่ง สวยงามมากเลย ถึงกับต้องบอกให้พี่คนขับเรือแวะจอดถ่ายรูปขอเซลฟี่กับดอกบัวอัพเป็นรูปโปรไฟล์ซักรูปนึงค่ะ นั่งเรือบรรยากาศสบายๆ ซักพักก็มีเสียงดังจากด้านหน้าเรือตะโกนมา เฮ้ย!! ควาย ควายทั้งนั้นเลย ด้วยความที่ตกใจเลยหันไปมอง สอบถามกับพี่คนขับเรือ ก็บอกว่าเป็นควายของชาวบ้านที่เลี้ยงไว้ ทั่วๆ ไปก็เรียกว่าควายน้ำ พอเวลาน้ำลด ควายจะลงมาเล็มหญ้า หรือสายบัว เป็นแหล่งอาหารธรรมชาตินั่นเอง ปิดท้ายกันด้วยภาพแสงยามเย็น สวยไม่แพ้ที่อื่นเลย … เชิญชวนให้เดินทางมาชมบรรยากาศสวยๆ แห่งนี้ค่ะ พัทลุงถึงแม้ว่าจะเป็นเมืองเล็กๆ แต่ก็แฝงไปด้วยความสมบูรณ์ของธรรมชาติ และมิตรภาพที่ดีของผู้คนที่นี่จริงๆค่ะ

ชมนก ชมดอกไม้ ดูควายน้ำ ที่พัทลุง อ่านเพิ่มเติม

5 ที่ล่องแก่งแดนใต้ การผจญภัยตะลุยหน้าฝน

ล่องแก่งน้ำตกโตนปริวรรต จ.พังงา หนึ่งในจังหวัดทางภาคใต้ฝั่งอันดามันอย่างพังงา ที่หลายคนอาจจะคิดถึงแค่การไปเที่ยวตามเกาะต่างๆ ชายหาดและทะเลที่สวยงาม แต่หารู้ไม่ว่าพังงายังมืผืนป่าใหญ่ที่เขียวขจี มีลำธารใสไหลเย็น อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนปริวรรต ต.สองแพรก อ.เมือง นี่เอง ซึ่งที่นี่ยังมีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติและมีน้ำตกโตนปริวรรต เป็นต้นกำเนิดแหล่งน้ำคลองสองแพรก จุดเริ่มต้นความสนุกของเราในวันนี้ ที่นี่มีกิจกรรมล่องแก่งเรือยาง ที่นักผจญภัยทั้งหลายจะได้ตื่นเต้น ท้าท้าย และสนุกสนานไปกับกระแสน้ำอันเชี่ยวกราก ที่ไหลผ่านไปตามโขดหินเล็กใหญ่และแก่งขนาดต่างๆ รวมไปถึงยังมีป่าไม้อันร่มรื่นและสวยงามตลอดทั้งสองฝั่งด้วย ที่ตั้ง : ต.สองแพรก อ.เมือง จ.พังงาพิกัด : https://goo.gl/maps/G6reeg3nd222ติดต่อสอบถาม : ททท. สำนักงานพังงา โทร. 076 413 400-2 ล่องแก่งหนานมดแดง จ.พัทลุง หนึ่งในสถานที่ล่องแก่งในพัทลุงที่น้อยคนจะรู้จัก แต่สำหรับสายผจญภัยบอกเลยว่าไม่ควรพลาด ที่นี่นักผจญภัยจะได้ตื่นเต้นและสนุกสนานกับเกาะแก่งต่างๆ ที่มีมากมายกว่า 40 แก่ง ในระดับความยากง่ายที่แตกต่างกันไป นอกจากนี้ยังจะได้สัมผัสธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ตลอดสองฝั่งคลอง ทั้งความเขียวขจีของป่าไม้ ความสวยงามของดอกไม้นานาพันธุ์ รวมไปถึงสัตว์ประจำถิ่นชนิดต่างๆ ด้วย ที่นี่มีบริการห้องอบสมุนไพรไว้ให้ได้ผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการล่องแก่ง และหากใครอยากพักค้างคืนที่นี่ก็มีบริการห้องพัก และลานกางเต็นท์ไว้บริการด้วย ที่ตั้ง : ม.1 ต.ลานข่อย อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุงพิกัด : https://goo.gl/maps/GdGAg1mAFX22Website : www.nhanmoddang.com/index.htmติดต่อสอบถาม : -คุณโยธิน เขาไข่แก้ว โทร. 089 873 1464, 081 370 2123, 081 082 0206-ททท. สำนักงานนครศรีธรรมราช โทร. 075 346 515-6 ล่องแก่ง-ล่องแพ พะโต๊ะ จ.ชุมพร  เมื่อกล่าวถึงประตูสู่ภาคใต้ ก็ต้องนึกถึงจังหวัดชุมพร เมืองผ่านของใครหลายคน แต่ถ้าได้ลองแวะเวียนเข้าไปก็จะพบกับสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามมากมาย สำหรับในหน้าฝนกิจกรรมที่เราไม่ควรพลาดของจังหวัดนี้ก็คือ การล่องแก่ง-ล่องแพ ที่อำเภอพะโต๊ะนั่นเอง ที่นี่นักผจญภัยจะได้ตื่นเต้นและสนุกสนานกับการล่องแก่งไปตามธารน้ำที่เย็นฉ่ำ ผ่านเกาะแก่งต่างๆ ที่มีความยากง่ายแตกต่างกัน ท่ามกลางบรรยากาศสองฝั่งแม่น้ำที่เต็มไปด้วยป่าเขาเขียวขจี  นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีก เช่น การเดินป่าชมต้นน้ำที่สามารถพักค้างแรมแบบแคมป์ปิ้งได้ โดยระหว่างทางเดินเราอาจจะได้เห็นสัตว์ป่านานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นนกเงือก นกกระเต็น และค่างแว่นถิ่นใต้ เป็นต้น หรือจะนั่งช้างไปชมสวนผลไม้ที่เราสามารถชิมผลไม้สดๆ จากต้นได้ด้วย  ที่ตั้ง : ต.พะโต๊ะ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพรพิกัด : https://goo.gl/maps/LJz5W3kLZwpติดต่อสอบถาม :– เทศบาลตำบลพะโต๊ะ (บริการล่องเรือยาง) โทร. 077 539 072– ชมรมท่องเที่ยวเชิงนิเวศป่าต้นน้ำพะโต๊ะ โทร. 087 821 8700 ล่องแก่งคลองกลาย จ.นครศรีธรมราช คลองกลาย สายน้ำที่สำคัญของชุมชนบ้านพิตำ ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ มีต้นน้ำมาจากป่ากรุงชิง ในเขตอุทยานแห่งชาติเขานันและอุทยานแห่งชาติเขาหลวง นอกจากจะเป็นแหล่งน้ำที่สำคัญของชุมชนแล้ว ยังเป็นเส้นทางล่องแก่งสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัย ตลอดระยะทาง 2.5 กิโลเมตร จากปากคลองพิตำไปถึงลานหินดาน นักผจญภัยจะต้องเจอกับแก่งต่างๆ ที่มีความแรงของกระแสน้ำทีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และยังมีความเขียวชอุ่มของป่าไม้สองข้างลำธาร ให้ความรู้สึกเพลิดเพลินและสดชื่นเมื่อได้มอง  หลังจากล่องแก่งเสร็จแล้ว ก็สามารถไปทำกิจกรรมอื่นๆ ต่อยังแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงได้ ไม่ว่าจะเป็นชมความสวยงามในถ้ำหงษ์ หรือผ่อนคลายที่บ่อน้ำร้อนกรุงชิง  ที่ตั้ง : ม.3 ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราชพิกัด : https://goo.gl/maps/E524BcuqzVoติดต่อสอบถาม : -ล่องแก่งกรุงชิงกับชุมชนบ้านพิตำ โทร. 084 443 6867, 087 267 2787Facebook : www.facebook.com/KrungChingrafting/ ล่องแก่งคลองลำโลน จ.สตูล จากต้นน้ำเทือกเขาบรรทัด ไหลลงมาผ่านน้ำตกวังสายทองก่อนจะลงสู่คลองลำโลน สายน้ำหลักของบ้านวังนาใน ต.น้ำผุด อ.ละงู อีกหนึ่งสถานที่สำหรับผู้ที่ชอบความตื่นเต้นท้าทายของการล่องแก่ง โดยตลอดระยะทาง 8 กิโลเมตร นักผจญภัยจะได้พบแก่งน้อยใหญ่มากมายโดยมีความยากง่ายสลับกัน รวมไปถึงยังมีบรรยากาศทั้งสองฝั่งที่เต็มไปด้วยป่าเขาและพรรณไม้นานาชนิด ให้ความรู้สึกสดชื่น  ที่นี่ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการชมความงามของถ้ำภูผาเพชร ถ้ำเจ็ดคต และน้ำตกวังสายทอง รวมไปถึงชมวิถีชีวิตของชาวบ้านริมน้ำและชนเผ่ามานิ ที่เรารู้จักกันในนาม ชนเผ่าเซมัง (ซาไก)  ที่ตั้ง : 230 หมู่ที่ 10 ต.น้ำผุด อ.ละงู จ.สตูลพิกัด : https://goo.gl/maps/qo9d6m5QX8T2ติดต่อสอบถาม : ชุมชนท่องเที่ยวบ้านวังนาใน โทร. 086 946 9229 (คุณไก่ เลชาชมรมฯ)ททท. สำนักงานหาดใหญ่ โทร. 074 231 055, 074 238 518, 074 243 747

5 ที่ล่องแก่งแดนใต้ การผจญภัยตะลุยหน้าฝน อ่านเพิ่มเติม

พื้นที่ชุ่มน้ำ พื้นที่ชีวิต : Wetlands ดินแดนมหัศจรรย์

พื้นที่ชุ่มน้ำ…พื้นที่ชีวิต : Wetlands ดินแดนมหัศจรรย์ 1. พื้นที่ชุ่มน้ำพรุควนขี้เสียน ที่ตั้ง: เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย จังหวัดพัทลุง 2. พื้นที่ชุ่มน้ำเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ ที่ตั้ง: อยู่ในพื้นที่ตำบลบ้านต้อง ตำบลโสกก่าม อำเภอเซกาตำบลบึงโขงหลง ตำบลโพธิ์หมากแข้ง อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ 3.พื้นที่ชุ่มน้ำดอนหอยหลอด จังหวัดสมุทรสงคราม  ที่ตั้ง: อยู่ในพื้นที่ตำบลบางจะเกร็ง ตำบลแหลมใหญ่ ตำบลบางแก้ว และตำบลคลองโคนอำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม 4. พื้นที่ชุ่มน้ำปากแม่น้ำกระบี่ จังหวัดกระบี่  ที่ตั้ง: อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ 5. พื้นที่ชุ่มน้ำเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหนองบงคาย จังหวัดเชียงราย ที่ตั้ง: ตำบลโยนก และตำบลป่าสัก อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย 6. พื้นที่ชุ่มน้ำเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ( พรุโต๊ะแดง ) จังหวัดนราธิวาส  ที่ตั้ง: อำเภอตากใบ สุไหงโก-ลกและสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส 7. พื้นที่ชุ่มน้ำอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม – เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง – ปากน้ำตรัง จังหวัดตรัง  ที่ตั้ง: ตำบลนาเกลือ ตำบลลิบง ตำบลหาดสำราญ อำเภอสิเกาอำเภอปะเหลียน อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง  8. พื้นที่ชุ่มน้ำอุทยานแห่งชาติแหลมสน-ปากคลองกะเปอร์-ปากแม่น้ำกระบุรี จังหวัดระนอง ที่ตั้ง: อำเภอกะเปอร์ จังหวัดระนอง และอำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา 9. พื้นที่ชุ่มน้ำอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ตั้ง : ตำบลอ่างทอง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี 10. พื้นที่ชุ่มน้ำอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา จังหวัดพังงา  ที่ตั้ง : อำเภอเมือง อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา 11.พื้นที่ชุ่มน้ำอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์  ที่ตั้ง : อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 12.พื้นที่ชุ่มน้ำกุดทิง จังหวัดบึงกาฬ  ที่ตั้ง : อำเภอเมือง จังหวัดบึงกาฬ 13. พื้นที่ชุ่มน้ำเกาะกระ จังหวัดนครศรีธรรมราช  ที่ตั้ง : อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช 14. หมู่เกาะระ–เกาะพระทอง จังหวัดพังงา ที่ตั้ง : อำเภอคุระบุรีและอำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา

พื้นที่ชุ่มน้ำ พื้นที่ชีวิต : Wetlands ดินแดนมหัศจรรย์ อ่านเพิ่มเติม

หัตถกรรมสร้างสรรค์ เสื่อกระจูดวรรณี จังหวัดพัทลุง

จุดเริ่มต้นของหัตถกรรมวรรณี เกิดจากคุณแม่วรรณี เซ่งฮวด ที่มีฝีมือระดับครูช่างหัตถศิลป์ไทยของศูนย์ศิลปาชีพระหว่างประเทศ…

หัตถกรรมสร้างสรรค์ เสื่อกระจูดวรรณี จังหวัดพัทลุง อ่านเพิ่มเติม

ล่องปากประ ชมทะเลน้อย สัมผัสชีวิตบนสายน้ำที่…พัทลุง

คลองปากประเป็นแหล่งน้ำสำคัญของอำเภอควนขนุน ที่เกิดจากลำน้ำสายต่างๆ ไหลรวมมาบรรจบกัน ก่อนจะออกสู่ทะเลสาบสงขลา ที่นี่จึงกลายเป็นแหล่งชุมนุมของปลาและเป็นแหล่งจับปลาที่สำคัญ โดยชาวบ้านได้ตั้งยอดักจับปลาเป็นจำนวนมากจนเกิดเป็นทิวทัศน์ที่แปลกตา

ล่องปากประ ชมทะเลน้อย สัมผัสชีวิตบนสายน้ำที่…พัทลุง อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top