เมืองไทยสวยทุกที่ เท่ทุกเวลา
คลองปากประเป็นแหล่งน้ำสำคัญของอำเภอควนขนุน ที่เกิดจากลำน้ำสายต่างๆ ไหลรวมมาบรรจบกัน ก่อนจะออกสู่ทะเลสาบสงขลา ที่นี่จึงกลายเป็นแหล่งชุมนุมของปลาและเป็นแหล่งจับปลาที่สำคัญ โดยชาวบ้านได้ตั้งยอดักจับปลาเป็นจำนวนมากจนเกิดเป็นทิวทัศน์ที่แปลกตา
ตามอนันดาไปเที่ยวแบบเท่ๆ กันดีกว่า
เพื่อให้ได้บรรยากาศที่สวยงาม เราต้องบังคับตัวเองให้ตื่นเช้ากันสักหน่อย เพราะการล่องเรือจากคลองปากประไปยังทะเลน้อยใช้เวลานานพอสมควร โดยเรือจะออกตั้งแต่ตีห้าครึ่ง เพื่อไปให้ทันดูพระอาทิตย์ขึ้น เราก็จะได้เห็นแสงแรกของวันพร้อมกับวิวยอยักษ์ที่คลองปากประ
ต้นลำพูขึ้นโดดเดี่ยวกลางน้ำ อยู่ใกล้ๆกับจุดที่มียอยักษ์เรียงราย มีที่นี่ที่เดียวเท่านั้น อย่าลืมไปเก็บรูปไว้เป็นที่ระลึกกันด้วยล่ะ
เราล่องเรือจากคลองปากประไปตามคลองนางเรียมเพื่อมุ่งหน้าไปทะเลน้อย
ระหว่างทางจะผ่านสะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 เป็นสะพานข้ามทะเลสาบ ความยาว 5.5 กิโลเมตร สร้างขึ้นเพื่อเชื่อมการเดินทางระหว่าง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง และ อ.ระโนด จ.สงขลา ถือเป็นสะพานที่ยาวที่สุดในประเทศไทย บนสะพานมีจุดชมวิวทะเลสาบ ซึ่งสามารถเห็นวิถีชีวิตควายน้ำ และนกนานาพันธุ์
เมื่อเข้าสู่เขตทะเลน้อย จะได้พบกับบึงบัวแดงกว้างสุดลูกหูลูกตา ถึงตรงนี้อดใจไม่ไหวแล้ว ต้องหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปรัวๆ
นอกจากดอกบัวแดงแล้ว ก็ยังมีนกน้ำหลายชนิดออกมาโบยบิน หาอาหารให้เราได้เห็นกัน
ถ้าโชคดีจะได้เห็นควายน้ำ ดำน้ำผลุบๆ โผล่ๆ เพื่อหาอาหารกินด้วย
การมาชมบึงบัวทะเลน้อย นอกจากล่องเรือมาจากคลองปากประแล้ว ยังสามารถไปขึ้นเรือที่ท่าเรือทะเลน้อยได้ ระหว่างเวลา 06.00-18.00 น. ค่าบริการลำละ 450 บาท (นั่งได้ไม่เกิน 8 คน) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
พิกัดท่าเรือ https://goo.gl/maps/6HH3hcFxux12
นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อล่องเรือคลองปากประได้ที่รีสอร์ทและโฮมสเตย์ที่มีบริการพาไปล่องเรือได้ดังนี้
ได้นั่งชมวิวยอยักษ์และคลองปากประแบบนี้ก็ฟินไม่เบา นั่งเรื่อยๆ ได้ทั้งวันเลยแหละ
