ฉะเชิงเทรา

ฉะเชิงเทรา

Jimmy Farm ฉะเชิงเทรา ฟาร์มแห่งแรงบันดาลใจ ฟาร์มที่เป็นได้มากกว่าพื้นที่เพาะปลูก

ถ้าพูดถึงฉะเชิงเทราหรือแปดริ้ว ก็จะนึกถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างเช่น หลวงพ่อโสธร พระพิฆเนศ ดินแดนแห่งความศรัทธา แต่วันนี้บัดดี้จะพาเพื่อน ๆ ไปสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวแบบฟาร์มกลางทุ่งนาที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ที่นี่มีกิจกรรมให้ได้เพลิดเพลิน รับรองได้เลยว่าเพื่อน ๆ จะหลงรักฟาร์มแห่งนี้จนไม่อยากกลับเลย Jimmy Farm ต. ก้อนแก้ว อ. คลองเขื่อน จ. ฉะเชิงเทรา เปิดทุกวันเสาร์-วันอาทิตย์ เวลา 10.00-17.30 น. 08 1816 1330 https://maps.app.goo.gl/QBegcCe8HzQiBz7v7 กิจกรรมเรียนรู้วิธีการปลูกผักสลัด การผสมดิน เรียนรู้วิธีการเก็บผัก สามารถนำผักที่เราปลูกและเก็บเกี่ยวกลับบ้านได้เลย กิจกรรมการสอนปลูกมะเขือเทศ สไตล์ Jimmy Farm ตั้งแต่การเพาะเมล็ด การเตรียมดิน การตัดแต่งกิ่ง และโครงสร้างโรงเรือน กิจกรรมจัดสวนในขวด (Terrarium) เป็นการจำลองระบบนิเวศออกมาเป็นสวนในขวดตามจินตนาการ สามารถนำขวดน้ำช่อดอกมะพร้าวที่ดื่มหมดแล้วนำกลับมาใช้ใหม่ในกิจกรรมนี้ได้อีกด้วย จกรรมการทำผ้ามัดย้อมจากใบมะม่วง ผลิตภัณฑ์จาก Jimmy Farm มีทั้งน้ำช่อดอกมะพร้าว ผลิตภัณฑ์จากปลาแห้งในรูปแบบต่าง ๆ โดยใช้ปลาช่อนแปดริ้ว ที่สะท้อนความอุดมสมบูรณ์ของลุ่มแม่น้ำบางปะกงมาทำให้เป็น ALL ABOUT “PLA-HANG”

Jimmy Farm ฉะเชิงเทรา ฟาร์มแห่งแรงบันดาลใจ ฟาร์มที่เป็นได้มากกว่าพื้นที่เพาะปลูก อ่านเพิ่มเติม

แจกพิกัด 7 วัดสวยในจังหวัดฉะเชิงเทรา

“ฉะเชิงเทรา” หรือที่นิยมเรียกกันว่า “แปดริ้ว” เป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ด้วยวัดวาอารามที่สวยงามเป็นจำนวนมาก สายบุญหรือสายมูห้ามพลาด! วันนี้บัดดี้จะมาแนะนำ 7 พิกัดวัดสวยในจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่สามารถขับรถไปเช้าเย็นกลับได้แบบ One Day Trip ไม่เพียงแต่ได้เที่ยว ยังได้ทำบุญเสริมความปังครึ่งปีหลังอีกด้วย ไปดู 7 วัดที่บัดดี้จะพาไปชมกันเลย 1. วัดอุภัยภาติการามวัดอุภัยภาติการาม หรือวัดซำปอกงเป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อโต (พระไตรรัตนนายก) ในประเทศไทย ซึ่งมีเพียง 3 องค์เท่านั้นประดิษฐานอยู่ที่วัดกัลยาณมิตร (ฝั่งธนบุรี) จังหวัดกรุงเทพฯ วัดพนัญเชิงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และวัดอุภัยภาติการามจังหวัดฉะเชิงเทราหลวงพ่อโต หรือชาวจีนเรียกเจ้าพ่อซำปอกงที่ประดิษฐานอยู่ที่วัดอุภัยภาติการามมีความสูงถึง 12 เมตร และบริเวณมือซ้ายมีจุดเม็ดกลมๆซึ่งมีความเชื่อว่าเป็นเม็ดยาที่สามารถช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ นอกจากนี้วัดอุภัยภาติการามยังเป็นที่นิยมขอพรในด้านค้าขายและโชคลาภอีกด้วย 475/7 ถนนศุภกิจ อ.เมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา เปิดทุกวัน เวลา 08.00–17.00 น. 08 2849 5999https://maps.app.goo.gl/HMGkmtQmgEhuDAYn8 2. วัดจีนประชาสโมสรวัดจีนประชาสโมสรหรือเล่งฮกยี่ เป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทางศาสนาและวัฒนธรรมของชาวจีนในจังหวัดฉะเชิงเทรา การก่อสร้างของวัดเริ่มต้นขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวในปี พ.ศ.2449 ซึ่งเป็นอารามที่ขยายมาจากวัดมังกรกมลาวาสในกรุงเทพมหานคร ภายในวัดมีพระพุทธรูปที่หล่อจากกระดาษรวมถึงเทพเจ้าแห่งโชคลาภไฉ่ซิ้งเอี๊ยและเจ้าแม่กวนอิมซึ่งมีความสำคัญต่อชาวจีนที่มีความเชื่อในความโชคดีและความรุ่งเรืองของชีวิต นอกจากนี้วัดยังมีระฆังใบใหญ่ที่เป็นของถวายจากชาวจีนแต้จิ๋ว โดยมีน้ำหนักมากกว่า 1 ตัน เป็นสัญลักษณ์ของความศรัทธาและความเคารพต่อศาสนาของพวกเขา 291 ถนนศุภกิจ อ.เมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา เปิดทุกวัน เวลา 08.00–17.00 น. (วันพฤหัสบดี เปิดเวลา 08.00–20.00 น. ) 0 3851 1069https://maps.app.goo.gl/UFmnG9L93AX1iUiU9 3. วัดจุกเฌอวัดจุกเฌอตั้งอยู่ริมแม่น้ำบางปะกงเป็นวัดโบราณเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าปราสาททองวัดนี้เป็นที่รู้จักกันด้วยจุดเด่นที่มีท้าวเวสสุวรรณ 2 องค์ ท้าวรุ่งเรือง (องค์ซ้าย) มีผิวกายสีม่วง เป็นที่นับถือในเรื่องงาน ท้าวร่ำรวย (องค์ขวา) มีกายสีแดง เป็นที่นับถือในเรื่องเงิน การค้าขาย และโชคลาภ 7 หมู่ 4 คลองจุกกระเฌอ อ.เมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา เปิดบริการ 24 ชั่วโมงhttps://maps.app.goo.gl/2auRunGJHqiSZGM36 4. สถานปฏิบัติธรรมสามหลวงพ่อ หลวงปู่ทวดบูรพาเป็นที่ประดิษฐานของรูปเหมือนหลวงปู่ทวดขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนเรือสำเภอที่มีชื่อว่า “ทศเทพ” ซึ่งเป็นที่นั่งอิริยาบทในการปฏิบัติธรรมของท่านนักท่องเที่ยวมักมากราบไหว้และขอพรจากหลวงปู่ทวด มักจะเอาศีรษะไปสัมผัสกับบริเวณเท้าของหลวงปู่ทวดให้เหมือนกับว่าหลวงปู่ทวดเหยียบศีรษะ โดยเชื่อว่าจะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต และได้รับพรตามที่มาขอกันด้วย 76/9 หมู่ 1 ต.คลองขุด อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา เปิดทุกวัน เวลา 08.00–18.00 น. 08 6344 4638https://maps.app.goo.gl/bAxfWnf41ou8m2d37 5. วัดโพธิ์บางคล้าเป็นวัดเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานเป็นเวลากว่า 200 ปี สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าตากสินมหาราชวิหารเก่าแก่ที่มีอายุหลายร้อยปี ยังคงอยู่บนพื้นที่วัดมีพระพุทธรูปปางไสยาสน์ที่ประดิษฐานอยู่ ซึ่งเป็นที่นับถือของชาวบ้านและผู้มาเยี่ยมชมวัดเอกลักษณ์ ที่สำคัญของวัดโพธิ์บางคล้าคือฝูงค้างคาวแม่ไก่สีดำที่อาศัยอยู่บนต้นไม้ในพื้นที่ของวัดมาเป็นเวลานาน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวนิยมเข้ามาเยี่ยมชมวัดเป็นจำนวนมาก 236 ถนนประชาเนรมิต ต.บางคล้า อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา เปิดทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.https://maps.app.goo.gl/BM6q9tPn5YPjFhfC9 6. วัดโพธิ์ใหญ่วัดเริ่มสร้างเมื่อประมาณ พ.ศ. 2350 เมื่อครั้งที่ชาวพวนได้อพยพมาจากเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ภายในวัดมีต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ แบบ 10 คนโอบ อายุราว ๆ 200 ปี วัดโพธิ์ใหญ่ยังมีสิ่งสำคัญอื่น ๆ เช่น รูปปั้นท้าวเวสสุวรรณที่มีอายุกว่า 100 ปี พระไพรีพินาศ วิหารพระพิฆเนศ วิหารหลวงพ่อสามพี่น้อง หลวงพ่อทองพูน เจ้าแม่กวนอิม เจ้าแม่ตะเคียนทอง และพระมหาเจดีย์โพธินันทประภา ซึ่งเป็นเจดีย์สีเหลืองทององค์ใหญ่ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ 61 หมู่ 4 ต.เมืองเก่า อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา เปิดทุกวัน เวลา 05.00-19.00 น. 0 3855 2630, 08 1862 3380https://maps.app.goo.gl/HZNwsi9Ro8osQU4d6 7. วัดป่าเขาล้อมวัดสร้างขึ้นอยู่กลางป่ามีภูเขาล้อมรอบภายในวัดมีพระพุทธรูปปางต่างๆที่แกะสลักจากไม้ตะเคียนทองที่ขุดพบจมอยู่ใต้ดินลึกกว่า 5 เมตร ขณะสร้างเขื่อนสียัด ได้แก่ หลวงพ่อพันปีศรีตะเคียนทอง เป็นพระพุทธรูปปางไสยาสน์ มีความสูง 3 เมตรยาว 10 เมตรหลวงพ่อพุทธบูรพามหาบารมีและได้พบว่าไม้จำนวนหนึ่งได้กลายเป็นหินไปแล้วจึงสันนิษฐานว่าไม้ตะเคียนคงมีอายุนับเป็นพันปี และพระพุทธรูปปางตรัสรู้ที่มีขนาดหน้าตักถึง 109 นิ้ว ปางปรินิพพานมีความยาว 10 เมตร สูง 3 เมตร บ้านหวยนา ต.คลองคะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา เปิดทุกวัน เวลา 06.00-20.00 น. 08 1906 7845https://maps.app.goo.gl/DeWHcjhwUwW2YkEc7

แจกพิกัด 7 วัดสวยในจังหวัดฉะเชิงเทรา อ่านเพิ่มเติม

✨ขอพรพระพิฆเนศ…เสริมความสำเร็จ✨

หากตอนนี้กำลังรู้สึกหมดไฟ หมดแรง หมดกำลังใจ ลองหาเวลาออกเดินทางไปตามความเชื่อและความศรัทธาของตนเองดู แล้วจะรู้และได้พลังกายและพลังใจกลับมาแน่นอน จังหวัดฉะเชิงเทรา ถือเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในการเดินทางมาเยือนเพื่อทำบุญ ไหว้พระ ขอพร แก้บน ฮีลใจตัวเอง วันนี้บัดดี้ จะมาขอพรจากพระพิฆเนศ เทพเจ้าแห่งความสำเร็จ มีปางองค์ใหญ่ถึง 3 ปาง ได้แก่ ที่แรกบัดดี้จะพาไปที่ วัดสมานรัตนาราม (วัดใหม่ขุนสถาน) ตั้งอยู่ที่ตำบลบางแก้ว อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา ริมแม่น้ำบางปะกง เป็นพระพิฆเนศองค์สีชมพูปางไสยาสน์คเณศ หรือปางนอนเสวยสุข องค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ลักษณะนั่งกึ่งตะแคงบนฐาน พระหัตถ์ซ้ายถืองาที่หัก พระหัตถ์ขวาถือดอกบัว มีความสูงถึง 16 เมตร ยาว 24 เมตร นักท่องเที่ยวหรือผู้ศรัทธาส่วนใหญ่ ขอพรเรื่องเงิน ทอง ขอให้ไหลมาเทมา มีโชคลาภ กินอิ่มนอนหลับ มีกินมีใช้สม่ำเสมอ นอกจากได้มาขอพรจากพระพิฆเนศแล้ว ยังสามารถขอพรจากท้าวเวสสุวรรณตะบองทอง และพระพรหมองค์ใหญ่ ที่ให้โชคลาภด้วย สามารถมาปฏิบัติธรรมได้ มีอาหาร ที่พักให้ผู้ปฏิบัติธรรม และมีตลาดวัดสมานฯ เลือกซื้อสินค้าจากชุมชนที่หลากหลาย เปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.โทร. 081 983 0400พิกัด https://goo.gl/maps/sRszi5oTbDPLhWk39 จุดที่สอง คือ อุทยานพระพิฆเนศองค์ยืนคลองเขื่อน ห่างจากวัดสมานรัตนาราม ประมาณ 14 กิโลเมตร ตั้งอยู่ที่อำเภอคลองเขื่อน ที่แห่งนี้ประดิษฐานพระพิฆเนศปางยืน หล่อด้วยสำริด เป็นองค์ที่สูงที่สุดในประเทศไทยและในโลก มีความสูงถึง 39 เมตร ประกอบชิ้นส่วนกว่า 854 ชิ้น นักท่องเที่ยวหรือผู้ศรัทธาส่วนใหญ่ ขอพรเรื่องธุรกิจ ความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน การปลดหนี้ ชีวิตราบรื่น มีพิธีสวดมนต์หมู่อารตีไฟ เป็นขั้นตอนการบูชาเทพของชาวฮินดู สวดเฉพาะวันเสาร์ อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ บรรยากาศโดยรอบ เป็นที่โล่ง จัดสวนได้อย่างสวยงาม ยาวไปจนถึงริมแม่น้ำบางปะกง มีร้านกาแฟเก๋ ๆ สไตล์อินเดีย ร้านขนม ของฝาก บริการด้วย เปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.พิกัด https://goo.gl/maps/7eWUUMLT4ZCbLxzw5 จุดที่สาม คือ วัดโพรงอากาศ ห่างจากอุทยานพระพิฆเนศองค์ยืนคลองเขื่อน ประมาณ 24 กิโลเมตร บนถนนบางน้ำเปรี้ยว-ฉะเชิงเทรา ตำบลโพรงอากาศ อำเภอบางน้ำเปรี้ยว ประดิษฐานพระพิฆเนศองค์สีชมพูปางนั่งประทานพร ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเช่นเดียวกัน มีความสูง 49 เมตร กว้าง 19 เมตร พระหัตถ์ 4 กร นักท่องเที่ยวหรือผู้ศรัทธาส่วนใหญ่ ขอพรเรื่องการขจัดอุปสรรคใด ๆ ให้ประสบความสำเร็จ และขอพรท้าวเวสสุวรรณ ที่อยู่บริเวณด้านข้างพระพิฆเนศได้ ชมอุโบสถมหาเจดีย์สีทอง ผสมผสานระหว่างศิลปะไทย อินเดียและศรีลังกา เป็นเจดีย์ที่แปลกตาและสวยงามยิ่ง เปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.พิกัด https://goo.gl/maps/f3i6kPPo2roFjo2b8 เพื่อน ๆ เคยไปขอพรที่ไหนมาแล้วหรือเคยไปขอที่อื่นนอกเหนือจากนี้ ได้ผลเป็นอย่างไร เขียนมาเล่าให้บัดดี้อ่านได้นะคะ

✨ขอพรพระพิฆเนศ…เสริมความสำเร็จ✨ อ่านเพิ่มเติม

🌟วัดโสธรวรารามวรวิหาร : ฉะเชิงเทรา🌟

📌พระพุทธโสธร หรือ หลวงพ่อโสธร เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองที่สำคัญองค์หนึ่งของประเทศไทย เป็นที่เลื่อมใสและเคารพบูชาอย่างกว้างขวางทั้งคนในพื้นที่และชาวไทยทั้งประเทศ โดยผู้ที่นับถือในหลวงพ่อได้เปรียบเปรยว่า ท่านเป็นดังร่มโพธิ์ร่มไทรที่ให้ความร่มเย็นเป็นสุขและสิริมงคลในชีวิต 📌จากตำนานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์กล่าวถึงความเป็นมาของพระพุทธรูปสัมฤทธิ์สามองค์ ที่แสดงอภินิหารลอยน้ำมาจากทางเหนือ โดยองค์หนึ่งได้ไปผุดที่วัดบ้านแหลมหรือวัดเพชรสมุทรวรวิหาร จังหวัดสมุทรสงคราม และอีกองค์หนึ่งผุดขึ้นที่วัดบางพลีใหญ่ใน จังหวัดสมุทรปราการ สำหรับองค์หลวงพ่อโสธรนั้น ชาวบ้านแปดริ้วได้ทำพิธีอัญเชิญขึ้นจากแม่น้ำได้สำเร็จ และประดิษฐานในพระวิหารภายในวัดแห่งนี้นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2313 เป็นต้นมา 📌หลวงพ่อโสธรเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ศิลปะอยุธยาตอนต้น ที่ได้รับอิทธิพลศิลปะขอม สร้างจากหินทราย 8 ชิ้นที่นำมาประกอบเข้าด้วยกัน พอกด้วยปูนปั้นและลงรักปิดทอง 📌เดิมที วัดโสธรนั้นเรียกอีกชื่อว่า “วัดหงส์” ตามลักษณะเสาที่ตั้งอยู่บริเวณวัดแต่พายุได้พัดทำให้หงส์ที่ตั้งอยู่บนยอดเสาหักลงมา ชาวบ้านจึงเปลี่ยนเสาหงส์เป็นเสาธงแทน จึงเรียกชื่อว่า “วัดเสาธง” ต่อมาไม่นานเกิดพายุพัดเสาธงหัดทอนลงอีกครั้ง ชาวบ้านจึงเรียกว่า “วัดเสาธงทอน” ซึ่งเชื่อว่าเป็นที่มาของคำว่า “วัดโสธร” ในภายหลังวัดแห่งนี้ได้รับการสถาปนาเป็นพระอารามหลวงและได้ใช้ชื่อว่า วัดโสธรวรารามวรวิหาร ในปัจจุบัน 📌เมื่อ พ.ศ. 2531 ทางวัดได้สร้างพระอุโบสถหลังใหม่ครอบพระอุโบสถหลังเดิม แต่ไม่ได้เคลื่อนย้ายหลวงพ่อโสธรและพระพุทธรูปองค์อื่น ๆ โดยพระอุโบสถหลังใหม่มีลักษณะเป็นอาคารจัตุรมุขทรงไทยประยุกต์ยอดมณฑป แล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2549 📌ความเชื่อและวิธีการบูชาผู้ที่นับถือหลวงพ่อโสธรเชื่อว่าเมื่อได้มาสักการะแล้ว จะมีแต่ความสุข เป็นสวัสดิมงคลแก่ชีวิต และในหมู่ผู้ที่มีบุตรยากยังเดินทางมาพร้อมกับความหวัง เพราะเชื่อกันว่า หากได้มาขอหลวงพ่อแล้วจะได้ลูกชาย และเมื่อสมดังหวัง ก็นิยมมาถวายละครชาตรี ไข่ต้ม ผลไม้ และพวงมาลัยเมื่อสมหวังดังใจอธิษฐาน 🕍ถนนเทพคุณากร ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา⏰เปิดทุกวัน เวลา 07.00-17.00 น.🌐https://goo.gl/maps/tCh1cwXwPfe1wwrx7

🌟วัดโสธรวรารามวรวิหาร : ฉะเชิงเทรา🌟 อ่านเพิ่มเติม

✨ รวม 10 วัดหลากสีสัน ✨

สวัสดีทุกคน วันนี้บัดดี้จะมาแนะนำวัดจากหลายจังหวัด ที่มีสีสันสวยโดดเด่นสะดุดตา จนกลายเป็นทั้งสถานที่ทำบุญและสถานที่ท่องเที่ยว แถมบางวัดยังกลายเป็น Land Mark สำคัญของจังหวัดไปเลยด้วย ลองตามมาอ่านกันดู ว่าวันนี้บัดดี้มีวัดไหนมานำเสนอบ้าง สีขาว 1. วัดร่องขุ่น จ.เชียงราย วัดร่องขุ่น ออกแบบและสร้างโดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินชื่อดังของไทย ที่สร้างขึ้นจากปณิธานและแรงศรัทธา ด้วยงานศิลปะงดงามสีขาว ทั้งลวดลายปูนปั้น การประดับกระจกและจิตรกรรรมปูนปั้นหลายจุด แรงบันดาลใจในการสร้างวัดของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ คือการอยากจะสร้างวัดให้เหมือนเมืองสวรรค์ ที่มนุษย์สามารถเดินทางไปสัมผัสได้ ซึ่งหลายจุดในวัด มีการสร้างเป็นสื่อสัญลักษณ์ต่าง ๆ ในพุทธศาสนา อย่างทางเข้าด้านหน้าจะมีสระน้ำขนาดใหญ่ ที่มีสะพานเป็นทางเดินเข้าสู่ตัววัด หมายถึง การเดินข้ามวัฏสงสารมุ่งสู่พุทธภูมิ ครึ่งวงกลมเล็กหมายถึงโลกมนุษย์ วงใหญ่ที่มีเขี้ยวเป็นปากของพญามารหรือพระราหู เปรียบเหมือนกิเลสในใจ ผู้ที่จะเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าในพุทธภูมิต้องตั้งจิตปลดปล่อยกิเลสตัณหาของตนเองลงไปในปากพญามาร เพื่อเป็นการชำระจิตให้ผ่องใสก่อนที่จะเดินผ่านเข้าไปนั่นเอง ปัจจุบัน วัดร่องขุ่นเปิดจุดเช็กอินแห่งใหม่ที่ใช้เวลาสร้างกว่า 6 ปี นั่นก็คือ “ถ้ำศิลป์วัดร่องขุ่น” เป็นผลงานประติมากรรมของอาจารย์เฉลิมชัย ภายในถ้ำ มีรูปทรงหินงอกหินย้อย พระพุทธรูปทุกขภูมิ ขุมนรกและประตูพระนิพพาน มีเพลงบรรเลงประกอบแสงสีเสียงตลอดเส้นทาง โดยมีค่าเข้าชม 50 บาท/คน มีเวลาประมาณ 10-15 นาที ต่อรอบ รายละเอียด ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จ.เชียงราย เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 6.30 – 18.00 น.ห้องแสดงภาพ : เปิดให้เข้าชมวันจันทร์–ศุกร์ เวลา 8.00 – 17.30 น.วันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดราชการ เวลา 8.00 – 18.00 น. วัดร่องขุ่น 0 5367 3579, ททท.สำนักงานเชียงราย 0 5371 7433, ศูนย์บริหารจัดการการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย 0 5371 5690https://goo.gl/maps/sQZ7Q2qq9cyRJhs79เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/วัดร่องขุ่น 2. วัดข่อย จ.เพชรบุรี ตั้งอยู่ติดกับอุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลาย มีการใช้รูปแบบของยันต์ฉิมพลีมาประกอบสถาปัตยกรรมการสร้างเป็นทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ตัวอาคาร มี 3 ชั้นประกอบด้วยชั้นที่ 1 ประดิษฐานพระพุทธรูป 3 องค์ คือพระพุทธเศรษฐีมิ่งมงคล พระพุทธเศรษฐีนวโกฏิ และพระสิวลีมหาลาภชั้นที่ 2 ผนังด้านนอกเป็นลายอักขระยันต์ฉิมพลี มีฉัตรทองเหลืองดุนลาย 9 ยอด 4 ทิศ ด้านในเป็นไม้สักแกะสลักลวดลายยันต์โภคทรัพย์ชั้นที่ 3 เป็นซุ้มเรือนยอดประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุในบุษบก 5 ยอดลงรักปิดทอง ยอดฉัตรทำด้วยทองคำ  ถ.คีรีรัถยา ต.คลองกระแชง อ.เมือง จ.เพชรบุรี เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 06.00-17.00 น. 06 1061 7868, 08 9052 7874https://goo.gl/maps/NQSr5AkQEyy9pvQE7เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/พระธาตุฉิมพลีพระเศรษฐีนวโกฏิ-วัดข่อย สีน้ำเงิน 3. วัดร่องเสือเต้น จ.เชียงราย วัดแห่งนี้ในอดีตราว ๆ 80-100 ปีก่อน เคยเป็นวัดร้าง มีสัตว์ป่ามาอาศัย โดยเฉพาะเสือที่มีอยู่มาก และชอบกระโดดข้ามร่องน้ำไปมา ชาวบ้านจึงเรียกบริเวณนี้ว่า ร่องเสือเต้น ภายหลังชาวบ้านได้ร่วมกันบูรณะวัดขึ้นมา จึงเรียกชื่อวัดว่า “วัดร่องเสือเต้น” เพื่อใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาในวันสำคัญต่าง ๆ และเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้าน  สิ่งก่อสร้างโดดเด่นที่สุดในวัดนี้ คือ วิหารสีน้ำเงิน ที่สร้างโดย “สล่านก” หรือ นายพุทธา กาบแก้ว ศิลปินท้องถิ่นชาวเชียงราย ลูกศิษย์ของ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ โดยเริ่มก่อสร้างเมื่อ พ.ศ. 2548 แล้วเสร็จ พ.ศ. 2559 รวมระยะเวลาถึง 11 ปี ภายในวิหารประดิษฐาน “พระพุทธรัชมงคลบดีตรีโลกนาถ” พระประธานสีขาวปางมารวิชัย ศิลปะเชียงแสน ซึ่งภายในพระเศียรบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เป็นผู้ประทานให้  ด้านหลังวิหารเป็นที่ตั้งของเจดีย์ทรงระฆัง สูง 20 เมตร นามว่า “พระธาตุเกศแก้วจุฬามณีห้าพระองค์” บนยอดเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ได้รับประทานจาก สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก  ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย 08 2026 9038 เปิดทุกวันเวลา 07.00-17.00 น.https://goo.gl/maps/ne1JD21wNp12 4. วัดปากน้ำแขมหนู จ.จันทบุรี วัดแห่งนี้มีความโดดเด่นที่ “โบสถ์เซรามิกสีน้ำเงิน” ซึ่งมีที่มาจาก โบสถ์หลังเก่าที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2489 เริ่มชำรุดทรุดโทรม มีการผุกร่อนมาก เนื่องจากวัดตั้งอยู่ติดกับทะเล ทางวัดและชาวบ้านจึงร่วมกันรื้อโบสถ์หลังเก่าและสร้างโบสถ์ใหม่ขึ้นในปี พ.ศ. 2534 ประตูโบสถ์ด้านในทั้ง 4 บาน มีการแกะสลักภาพนูนต่ำ เกี่ยวกับประวัติพระพุทธเจ้า ด้านนอกบานประตูและหน้าต่างมีการลงลายมุข ภาพเทพทวารบาล พื้นผนังด้านในพระอุโบสถมีการประดับภาพลงสีในพื้นเซรามิกเกี่ยวกับวรรณคดีชาดกและพระมหาชนก ภายในโบสถ์ประดิษฐานพระพุทธชินราชองค์จำลอง เป็นที่สักการบูชาของชาวบ้านและนักท่องเที่ยว  ต.ตะกาดเง้า อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี เปิดให้เข้าชมทุกวันเวลา 08.00-16.00 น.https://goo.gl/maps/imZW46D6sfUbZFDN9 สีเหลือง 5. วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร จ.อยุธยา วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร ตั้งอยู่บนเกาะลอย เกาะกลางแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นวัดที่ในหลวงรัชกาลที่ 5 โปรดฯ ให้สร้างขึ้น เพื่อทรงใช้เป็นสถานที่สำหรับบำเพ็ญพระราชกุศล เมื่อครั้งเสด็จฯ แปรพระราชฐานมาประทับที่พระราชวังบางปะอิน โดยมีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิก เลียนแบบโบสถ์ของศาสนาคริสต์ ด้านหน้าบริเวณทางเข้าของพระอุโบสถ จะมีมุขเป็นแบบสามเหลี่ยมหน้าจั่วซ้อนกัน 2 ชั้น รอบผนังพระอุโบสถเจาะช่องหน้าต่าง เป็นลักษณะปลายแหลมแบบโกธิก ด้านหลังพระอุโบสถเป็นหอระฆังยอดโดม

✨ รวม 10 วัดหลากสีสัน ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ ปฏิทินท่องเที่ยวเดือนพฤษภาคม ✨

เดือนพฤษภาคม บางพื้นที่เริ่มมีฝนพรำ แต่ไม่ว่าจะฤดูไหน ๆ ก็เที่ยวได้ เพื่อน ๆ คนไหนยังไม่ได้วางแผนหรือยังไม่มีไอเดียว่าจะไปไหนดี มาชมแหล่งท่องเที่ยวตามพิกัดนี้กันได้เลย  เทศกาลชมผีเสื้อ อุทยานแห่งชาติปางสีดา จังหวัดสระแก้ว  เมื่อมาเที่ยวจังหวัดสระแก้วช่วงเดือนพฤษภาคม คงไม่มีใครอยากพลาดชมสีสันแห่งปางสีดาอย่างผีเสื้อป่านับร้อยที่กระพือปีกบินอวดโฉมไปทั่วอุทยานฯ โดยจุดที่นิยมไปชมฝูงผีเสื้อนั้นคือบริเวณ ลานน้ำตกปางสีดา และโป่งผีเสื้อ ช่วงที่เหมาะแก่การชมผีเสื้อ คือช่วงเดือนพฤษภาคม – สิงหาคม อย่ารอช้า รีบ ๆ มาชมกันนะ อัตราค่าบริการ ชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมอุทยานแห่งชาติปางสีดา จังหวัดสระแก้ว 0 3724 7948, 08 1862 1511  ตำบลท่าแยก อำเภอเมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้วhttps://goo.gl/maps/vVYQAna5zocCh9dv5  เขื่อนรัชชประภา จังหวัดสุราษฎร์ธานี  พักผ่อนหย่อนใจแบบชิล ๆ กันที่เขื่อนรัชชประภา เป็นเขื่อนอเนกประสงค์ของภาคใต้ที่ใช้ผลิตกระแสไฟฟ้า และกักเก็บน้ำเพื่อทำการเกษตร รวมทั้งเป็นแหล่งประมงน้ำจืดอีกด้วย เดิมเขื่อนนี้ชื่อว่า “เขื่อนเชี่ยวหลาน” และภายหลังก่อสร้างเสร็จ จึงได้รับพระราชทานชื่อใหม่จากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ว่า “เขื่อนรัชชประภา” มีความหมายว่า “แสงสว่างแห่งราชอาณาจักร”  กิจกรรมท่องเที่ยวเขื่อนรัชชประภา นอนแพกลางน้ำ เล่นน้ำเหนือเขื่อน นั่งเรือหางยาวชมทะเลสาบ ล่องแพไม้ไผ่ชมป่าสีเขียว และสัตว์ป่าหายาก เช่น กระทิง กวาง หมูป่า นกเงือก สมเสร็จ เป็นต้น พายเรือคายักกลางธรรมชาติ เดินป่าชมความงามของถ้ำปะการัง ระยะทางประมาณ 1.5 กม. และล่องแพไม้ไผ่อีก 15 นาที ไปยังถ้ำปะการัง  เนื่องจากกิจกรรมส่วนใหญ่เป็นกิจกรรมทางน้ำ แนะนำให้สวมชูชีพตลอดเวลาขณะลงเล่นน้ำเพื่อความปลอดภัย ที่นี่มีสัญญาณโทรศัพท์แค่บางจุด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาสก (บริการที่พัก) 0 7739 5154-5การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (บริการเรือเที่ยวชม) 0 7724 2560-1  หมู่ 3 ตำบลเขาพัง อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานีhttps://goo.gl/maps/wtvxgpPXZeD2  บ้านสลักคอก  พาเพื่อน ๆ มาล่องเรือชมป่าชายเลน สัมผัสวิถีชีวิตชาวประมงที่ชุมชนหมู่บ้านสลักคอก หมู่บ้านชาวประมงแห่งนี้ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง ซึ่งซ่อนตัวอยู่ในช่องแคบ มีลักษณะเป็นเวิ้งขนาดใหญ่คล้ายคอกสัตว์ จึงเป็นที่มาของชื่อหมู่บ้าน รอบ ๆ รายล้อมไปด้วยแนวป่าชายเลนซึ่งเป็นพื้นที่ทำกิน แหล่งประมงพื้นบ้าน และยังเป็นที่อนุบาลพันธุ์สัตว์น้ำต่าง ๆ  นักท่องเที่ยวนิยมมาล่องเรือมาด หรือ กอนโดลา  เพื่อชมบรรยากาศของป่าชายเลนที่มีความอุดมสมบูรณ์ และเงียบสงบ พร้อมรับประทานอาหารบนเรือแบบชิล ๆ ค่าบริการล่องเรือมาด ลำละ 800 บาท นั่งได้ 4 คน ใช้เวลาล่องเรือราว ๆ 40 นาที นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ได้แก่ พายเรือคายัก : อัตราค่าบริการ 200 บาท / 2 คน / 1 ชั่วโมง พายซับบอร์ด : อัตราค่าบริการ 600 บาท / 1 คน / 2 ชั่วโมง (มีเจ้าหน้าที่ของชมรมคอยติดตาม) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมชมรมนำเที่ยวพื้นบ้านสลักคอก เกาะช้างใต้ 08 7748 9497  ตำบลเกาะช้างใต้ อำเภอเกาะช้าง จังหวัดตราดhttps://goo.gl/maps/FdCnNVFfniCmEkqB7  น้ำตกขุนกรณ์ จังหวัดเชียงราย  เข้าสู่เดือนฝนพรำ น้ำตกก็เริ่มมีน้ำมากแล้ว ที่น้ำตกขุนกรณ์ เป็นน้ำตกซึ่งตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติลำน้ำกก ขึ้นชื่อว่าเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดในจังหวัดเชียงราย นักท่องเที่ยวที่มาเชียงรายจะนิยมมาที่น้ำตกแห่งนี้เพราะเป็นน้ำตกที่ลำธารใสสะอาด น้ำไหลเย็นตลอดทั้งปี เมื่อถึงหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ จะต้องเดินเท้าเข้าไปประมาณ 1.5 กิโลเมตร สองข้างทางเดินเป็นป่าร่มรื่น มีที่พักเหนื่อยเป็นระยะ บางช่วงจะค่อนข้างชันแนะนำให้เดินด้วยความระมัดระวัง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมอุทยานแห่งชาติลำน้ำกก 08 3764 6475  ตำบลแม่กรณ์ อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงรายhttps://goo.gl/maps/fpVvuj6Bce4ZZ7fv5  ฤดูกาลชมวาฬบรูดา ทะเลอ่าวไทย  วาฬบรูดา พี่ใหญ่แห่งท้องทะเลไทย อาศัยอยู่ทั่วบริเวณน่านน้ำอ่าวไทย มีลักษณะตัวสีเทาเข้มออกดำอมน้ำเงิน รูปร่างเพรียวยาวกว่า 15 เมตร กินปลาเล็กจำนวนมากเป็นอาหาร ในช่วงนี้ เหล่าวาฬบรูดาก็จะออกมาเผยโฉมอันมหึมาให้เราได้ชมเป็นระยะ ๆ จากข้อมูลของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งระบุว่า ช่วงเวลาที่พบบ่อยคือช่วงเดือนเมษายน – กันยายนของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีปลากะตักและกุ้งเคยอุดมสมบูรณ์ และเป็นอาหารมื้อใหญ่ของเจ้าวาฬบรูดา กิจกรรมในการไปชมวาฬบรูดานั้น เพื่อน ๆ จะต้องนั่งเรือออกไปกลางทะเล ในบริเวณที่มีวาฬบรูดากำลังหม่ำปลาน้อย ๆ กันอย่างอิ่มอกอิ่มใจ อย่างไรก็ตาม ช่วงที่มีมรสุม เป็นช่วงที่ไม่เหมาะแก่การออกไปล่องเรือกลางทะเล ดังนั้น หากเพื่อน ๆ อยากไปชม แนะนำให้โทรสอบถามกับศูนย์บริการนักท่องเที่ยวและศูนย์นำเที่ยวชมวาฬบรูดาก่อน พิกัดจุดล่องเรือทะเลอ่าวไทยชมวาฬบรูดา ปากแม่น้ำบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา โทร. 08 1488 8618คลองประมง จังหวัดสมุทรสาคร โทร. 09 8589 2550 (ร้านครัวบ้านประมง), 09 8795 4563 (ร้านเจ๋ง ครัวชายทะเล)บ้านบางตะบูน จังหวัดเพชรบุรี โทร. 0 3258 1233, 08 9796 5506, 08 2499 9993 (บางตะบูนเบย์)ชมรมวาฬบรูด้าแหลมผักเบี้ย จังหวัดเพชรบุรี โทร. 08 1865 4939 

✨ ปฏิทินท่องเที่ยวเดือนพฤษภาคม ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืด ✨

ในอดีต ดวงดาวมีความสำคัญมาก เพราะใช้เพื่อการหาทิศทาง บอกฤดูกาล บอกเวลา หรือแม้แต่มองหาความงดงามในยามค่ำคืน แต่จากวิวัฒนาการของโลกปัจจุบันที่ทำให้มีแสงสว่างในยามค่ำคืนมากขึ้น จนทำให้มองเห็นดาวยากขึ้นกว่าในอดีต จนหลายคนลืมเลือนความสำคัญของดวงดาวและท้องฟ้ายามค่ำคืน วันนี้แอดเลยอยากจะมาแนะนำ “เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืด” สถานที่ท่องเที่ยวที่รณรงค์ให้สังคมตระหนักถึงผลกระทบจากการใช้แสงสว่าง และเป็นที่เรียนรู้ด้านดาราศาสตร์ มาให้เพื่อน ๆ ได้รู้จัก ใครเป็นสายดูดาวลองตามมาอ่านกัน โครงการ Amazing Dark Sky In Thailand เกิดจากการร่วมมือของ ททท. และสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ที่ต้องการเสนอแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถให้ประสบการณ์การเรียนรู้ทางด้านดาราศาสตร์ (Dark Sky Tourism) ซึ่งสถานที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียน จะต้องมีการบริหารจัดการแสงสว่างที่ดี มีความมืดของท้องฟ้าที่เหมาะสม มีพื้นที่เปิดโล่งมองเห็นวัตถุท้องฟ้าเด่น ๆ ได้ด้วยตาเปล่า มีบุคลากรในพื้นที่ที่สามารถให้ความรู้ทางดาราศาสตร์เบื้องต้น และมีสิ่งอำนวยความสะดวกตั้งแต่เส้นทางคมนาคม ห้องน้ำ ที่พัก ไปจนถึงร้านอาหาร ให้ผู้มาใช้บริการด้วย เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในประเทศไทย แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ 1. อุทยานท้องฟ้ามืด Dark Sky Park เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ที่จะจำกัดการใช้แสงสว่างยามค่ำคืนเพื่อรักษาความมืดบนท้องฟ้าให้มีความเหมาะสมต่อการชมท้องฟ้า มีการรักษาสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมต่อการอยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตและระบบนิเวศในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ โดยปัจจุบันมีสถานที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนดังนี้ 1.อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง จ.เชียงใหม่ 2.อุทยานแห่งชาติผาแต้ม จ.อุบลราชบุรี 3.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว-ทุ่งกระมัง จ.ชัยภูมิ 4.อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จ.ชัยภูมิ 5.อุทยานแห่งชาติภูแลนคา จ.ชัยภูมิ *สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://darksky.narit.or.th/darkskyreserve/dsp/ 2. ชุมชนอนุรักษ์ท้องฟ้ามืด Dark Sky Communities เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืด ในพื้นที่ชุมชน ที่ได้รับการร่วมมือและสนับสนุนจากประชาชนในพื้นที่ในการรักษาและสงวนท้องฟ้าในเวลากลางคืนให้มีความมืดที่เหมาะสม ปัจจุบันมี 1 ชุมชนคือ ชุมชนออนใต้ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ *สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://darksky.narit.or.th/darkskyreserve/communities/ 3. เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดส่วนบุคคล Dark Sky Properties เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในพื้นที่ส่วนบุคคล เช่น รีสอร์ท ฟาร์ม หรือ ศูนย์การเรียนรู้ต่าง ๆ ที่นอกจากจะมีการอนุรักษ์ท้องฟ้าให้มืดจากการใช้แสงสว่างตอนค่ำอย่างระมัดระวังแล้ว สถานที่ต้องมีความปลอดภัย เดินทางสะดวก มีสิ่งอำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่สนใจ มีกิจกรรมที่สร้างความตระหนักถึงผลกระทบของมลภาวะทางแสงและมองเห็นดวงดาวในท้องฟ้ายามค่ำคืนได้ด้วยตาเปล่า ปัจจุบันมีสถานที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียน คือ 1.ไร่องุ่นไวน์ อัลซิตินี่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา 2.โรงแรมเรนทรี เรซิเดนซ์ เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา 3.สนามมวกเหล็ก เอทีวี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา 4.บ้านไร่ยายพลู อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี 5.เดอะเปียโน รีสอร์ท อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา 6.ไร่องุ่นไวน์กราน-มอนเต้ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา *สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://darksky.narit.or.th/darkskyreserve/private 4. เขตอนุรักษ์ท้องฟ้าในพื้นที่ชานเมือง Dark Sky Suburbs เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืด ในพื้นที่ชานเมือง มีลักษณะเป็นลานโล่ง สามารถจัดกิจกรรมการสังเกตการณ์ท้องฟ้าได้โดยรอบ มีการใช้แสงสว่างอย่างเหมาะสมต่อการใช้งาน มีความปลอดภัยและสิ่งอำนวย ความสะดวกแก่ผู้ที่มาใช้บริการ ปัจจุบันมีพื้นที่ในเขตชานเมืองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนคือ 1.อุทยานดาราศาสตร์สิรินธร จ.เชียงใหม่ 2.หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติฯ จ.นครราชสีมา 3.หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติฯ จ.ฉะเชิงเทรา 4.หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติฯ จ.สงขลา *สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://darksky.narit.or.th/darkskyreserve/suburbs นอกจากนี้ แอดอยากแนะนำคู่มือท่องเที่ยว “ชวนเธอ ไปชมดาว” ที่มีการอ้างอิงข้อมูลเชิงดาราศาสตร์มากำหนดเส้นทางท่องเที่ยว ให้เพื่อน ๆ ที่สนใจเรื่องการดูดาวได้ศึกษาและใช้เป็นข้อมูล โดยสามารถดาวน์โหลดหนังสือคู่มือการท่องเที่ยวดูดาวในรูปแบบ e-book ได้ที่ : https://www.madamscreator.com/ebook/Amazing-Dark-Sky/ สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.NARIT.or.th หรือ โทร. 08 1885 4353

✨เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืด ✨ อ่านเพิ่มเติม

5 พิกัดสถานที่ไหว้ท้าวเวสสุวรรณ

ท้าวเวสสุวรรณ เป็นหนึ่งในท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ ทำหน้าที่รักษาทิศทั้ง 4 ทิศในสวรรค์ชั้นแรก ชื่อว่าชั้นจาตุมหาราชิกา โดยท้าวเวสสุวรรณเป็นผู้ดูแลทิศเหนือ อีกสามองค์ คือ ท้าวธตรฎฐ์ เป็นผู้ดูแลทิศตะวันออก ท้าววิรุฬหก เป็นผู้ดูแลทิศใต้ และท้าววิรูปักษ์ เป็นผู้ดูแลทิศตะวันตก เชื่อกันว่าท้าวเวสสุวรรณเป็นเทพแห่งความมั่งคั่ง ร่ำรวย ผู้ที่บูชาท้าวเวสสุวรรณและประพฤติตัวอยู่ในศีลธรรมจะประสบความสำเร็จ ร่ำรวย มีโชคลาภ ยังเชื่อกันด้วยว่าท้าวเวสสุวรรณจะช่วยปกป้องผู้บูชาจากภูตผีและสิ่งชั่วร้าย เพื่อน ๆ พอจะรู้จักท้าวเวสสุวรรณกันบ้างแล้ว วันนี้แอดมี 5 พิกัดที่สามารถไปสักการะบูชาท้าวเวสสุวรรณมาฝากค่ะ วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร ท้าวเวสสุวรรณประดิษฐานอยู่บริเวณหลังพระอุโบสถ ที่วัดสุทัศน์จะมีคาถาอัญเชิญท้าวเวสสุวรรณ โดยบทสวดนี้อัญเชิญมาจากคัมภีร์พระไตรปิฎก และมีคาถาบูชาท้าวเวสสุวรรณภาษาบาลีที่ไม่เหมือนบทสวดในวัดอื่นๆอีกด้วย  เปิดทุกวัน 08.00-21.00 น. อุโบสถ 09:00-16:00 น.  : 146 ถนนบำรุงเมือง แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร : 02 222 6932, 02 222 9635, 063 654 6829 https://goo.gl/maps/n7jb6RCCGtXgCJCD9 วัดจุฬามณี จังหวัดสมุทรสงคราม ท้าวเวสสุวรรณที่นี่มีถึง 4 ปาง ได้แก่ ปางพรหมาสูติเทพ พระพักตร์แบบพรหม, ปางเทพบุตร พระพักตร์แบบเทวดามีลายพระโอษฐ์, ปางจาตุมหาราช พระพักตร์แบบยักษ์ และ ปางมนุษย์ พระพักตร์แบบเทวดาไม่มีลายพระโอษฐ์ : เปิดทุกวัน 06:00-24:00 น.  : 93 หมู่ 9 ตำบลบางช้าง อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม  : 081 845 0713 https://goo.gl/maps/m1zzJ7QeCiqmvMVz6 วัดสุทธาราม กรุงเทพมหานคร ที่วัดสุทธารามมีท้าวเวสสุวรรณ 2 องค์ องค์เล็กสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2530 เมื่อมีคนเข้ามาทำบุญมากขึ้นจึงได้นำเงินมาสร้างเป็นองค์ใหญ่ ประดิษฐานอยู่ในบริเวณเดียวกัน เจ้าอาวาสวัดสุทธารามแนะนำว่า ในการแก้บนให้นำข้าวสาร อาหารแห้งมาถวายทางวัดจะนำไปแจกให้กับคนในชุมชนต่อไป ถือว่าแก้บนได้ในสิ่งที่เราต้องการแล้วก็ยังมอบสิ่งนั้นกลับให้คนที่ขาดแคลนอีกด้วย : เปิดทุกวัน 09:00-21:00 น.  : ซอยสมเด็จพระเจ้าตากสิน 19 แขวงบางลำภูล่าง เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร https://www.facebook.com/suttharam9/ https://goo.gl/maps/dMaM9SPWWFY9utWw5 วัดจุกเฌอ จังหวัดฉะเชิงเทรา ในวัดจุกเฌอมีท้าวเวสสุวรรณ 2 องค์ เรียกกันว่าท้าวรุ่งเรืองมีกายสีม่วง และท้าวร่ำรวยมีกายสีแดง : เปิดทุกวัน  : ตำบลคลองจุกเฌอ อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา  : 038 514 009 https://goo.gl/maps/UTrM25gxLBQZZGXx9 วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก ท้าวเวสสุวรรณที่วัดนี้เป็นท้าวเวสสุวรรณปางประทับนั่ง ประดิษฐานอยู่ในวิหารพระพุทธชินราช สถิตถวายการอภิบาลอยู่ที่ฐานชุกชีรัตนบัลลังก์ข้างพระชานุด้านซ้ายขององค์พระพุทธชินราช : เปิดทุกวัน 06:00-18:00 น.  : 92/3 ถนนพุทธบูชา ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก  : 055 258 966 https://goo.gl/maps/dBvNUVtEbUrFVGW3A

5 พิกัดสถานที่ไหว้ท้าวเวสสุวรรณ อ่านเพิ่มเติม

5 วัดดัง ต้องห้ามพลาด : ฉะเชิงเทรา

จังหวัดฉะเชิงเทรา นับว่าเป็นจังหวัดที่มีวัดสวยและวัดชื่อดังเป็นจำนวนมาก หลายคนจึงมักจะใช้ช่วงเวลาในวันหยุดสุดสัปดาห์เดินทางไปกราบไหว้ สักการบูชาและขอพร เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลให้แก่ตนเองและคนในครอบครัว เพราะเดินทางสะดวกและอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ สำหรับใครที่กำลังจะเดินทางไป แต่ยังลังเลอยู่เพราะเลือกไม่ถูกว่าจะไปวัดไหนดี วันนี้แอดมี 5 วัดดัง ต้องห้ามพลาดของจังหวัดฉะเชิงเทรามาแนะนำ ว่าแต่จะมีที่ไหนบ้างตามไปดูกันเลย เริ่มกันที่แรกก็ต้อง วัดโสธรวรารามวรวิหาร หรือที่เรารู้จักกันดีในอีกชื่อว่า “วัดหลวงพ่อโสธร” เป็นวัดชื่อดังของจังหวัดฉะเชิงเทรา เพราะเป็นวัดที่มีความเก่าแก่และเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อโสธร พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของประชาชนทั่วทุกสารทิศ บอกได้เลยว่าใครไม่ได้แวะมากราบไหว้ขอพร อาจจะโดนแซวได้ว่าเหมือนมาไม่ถึงฉะเชิงเทรา ปัจจุบันด้านในพระอุโบสถกำลังดำเนินการซ่อมแซมอยู่ อาจจะทำให้ถ่ายรูปไม่สะดวก  วัดโสธรวรารามวรวิหาร 134 ถนนเทพคุณากร ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา  เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 07.00-17.00 น. https://goo.gl/maps/qerN9evmKsxQW97q8 ต่อมา วัดปากน้ำโจ้โล้ ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำบางปะกง เป็นวัดมีความโดดเด่นด้วยพระอุโบสถสีเหลืองทองอร่ามทั้งหลัง พร้อมตกแต่งลวดลายไทยที่มีความวิจิตรงดงาม และมีอนุสรณ์สถานพระสถูปเจดีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ซึ่งมีสีเหลืองทองอร่ามเช่นเดียวกับพระอุโบสถให้เราได้กราบไหว้สักการบูชาอีกด้วย  วัดปากน้ำโจ้โล้ ตำบลบางคล้า อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา  เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 09.00-17.00 น. https://goo.gl/maps/BqKssHNjg7xX6aBv7 วัดโพรงอากาศ เป็นอีกหนึ่งวัดในจังหวัดฉะเชิงเทราที่ต้องห้ามพลาดเมื่อมาเยือน เพราะเราจะได้ชมพระอุโบสถขนาดใหญ่ ที่ถูกสร้างเป็นทรงมหาเจดีย์สีเหลืองทองและมีเจดีย์องค์เล็กอีก 2 องค์ ตั้งขนาบด้านข้าง ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมการผสมผสานระหว่างศิลปะไทย อินเดียและศรีลังกา จึงทำให้ลักษณะพระอุโบสถของที่นี่มีความพิเศษไม่เหมือนกับอุโบสถที่ไหน อีกทั้งภายในบริเวณวัดยังมีองค์พระพิฆเนศปางนั่งประธานพรองค์ใหญ่ที่สามารถมองเห็นมาได้แต่ไกลอีกด้วย  วัดโพรงอากาศ ตำบลโพรงอากาศ อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา  เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น. https://goo.gl/maps/5vVa8eEQKuy1ou3HA วัดสมานรัตนาราม เป็นอีกหนึ่งวัดชื่อดังอันดับต้นๆ ของจังหวัดฉะเชิงเทราเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นที่ประดิษฐานของพระพิฆเนศปางนอนเสวยสุของค์ใหญ่ ซึ่งเป็นปางที่ประทานความมีกินมีใช้ มีเงินทองไม่ขาดมือ อยู่อย่างสุขสบาย อิ่มหนำสำราญ ขจัดปัญหาและไม่มีเรื่องให้วุ่นวายใจ ผู้คนจึงนิยมเดินทางมาสักการบูชาเป็นจำนวนมาก  วัดสมานรัตนาราม หมู่ 11 ตำบลบางแก้ว อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา  เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น. https://goo.gl/maps/3iprDxB99DWqkoUAA วัดจุกเฌอ สำหรับนาทีนี้ใครที่เป็นสายมูเตลู สายสะสมวัตถุมงคลน้อยคนที่จะไม่รู้จัก เพราะวัดแห่งนี้มีพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง และนอกจากนี้ยังมีท้าวเวสสุวรรณที่หลายคนต่างเดินทางมากราบไหว้ ขอพรอีกด้วย เพราะไม่ว่าจะขอสิ่งใดมักจะสมดังปรารถนาทุกประการ โดยเฉพาะเรื่องของโชคลาภและการเสี่ยงดวง  วัดจุกเฌอ ตำบลคลองจุกเฌอ อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา  เปิดให้บริการทุกวัน https://goo.gl/maps/UTrM25gxLBQZZGXx9

5 วัดดัง ต้องห้ามพลาด : ฉะเชิงเทรา อ่านเพิ่มเติม

🐋 วาฬบรูด้า พี่ใหญ่แห่งท้องทะเลไทย 🐋

วาฬบรูด้า สัตว์ใหญ่แห่งท้องทะเลที่เรามักเรียกติดปากว่า ปลาวาฬ แท้จริงแล้วเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่เคยอาศัยอยู่บนบกและมีวิวัฒนการจนสามารถอาศัยอยู่ในท้องทะเลได้ วาฬบรูด้าเป็นวาฬที่ไม่มีฟัน อาศัยและหากินอยู่ใกล้ชายฝั่ง รูปร่างเพียวยาวกว่า 15 เมตร ตัวสีเทาเข้มออกดำอมน้ำเงิน มักจะกินปลาเล็กจำนวนมากเป็นอาหาร วาฬบรูด้ากระจายตัวอาศัยอยู่ทั่วโลกรวมทั้งน่านน้ำอ่าวไทย โดยมักจะมาเผยโฉมอันมหึมาให้เราได้ชมเป็นระยะ ๆ จากข้อมูลของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งระบุว่า ช่วงเวลาที่พบบ่อยคือช่วงเดือนเมษายนจนถึงกันยายนของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีปลากะตักและกุ้งเคยอุดมสมบูรณ์ และเป็นอาหารมื้อใหญ่ของวาฬบรูด้านั่นเอง ช่วงที่ไม่เหมาะจะออกไปชมวาฬบรูด้ากลางทะเลก็คือช่วงมรสุม ดังนั้น หากเพื่อน ๆ อยากไปชม แนะนำให้โทรสอบถามกับศูนย์บริการนักท่องเที่ยวและศูนย์นำเที่ยวชมวาฬบรูด้าก่อน พิกัดจุดล่องเรือทะเลอ่าวไทยชมวาฬบรูด้า  ปากแม่น้ำบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา โทร. 081 488 8618 คลองประมง จังหวัดสมุทรสาคร โทร. 098 589 2550 (ร้านครัวบ้านประมง), 098 7954563 (ร้านเจ๋ง ครัวชายทะเล) บ้านบางตะบูน จังหวัดเพชรบุรี โทร. 032 581 233, 089 796 5506, 082 499 9993 (บางตะบูนเบย์) ชมรมวาฬบรูด้าแหลมผักเบี้ย จังหวัดเพชรบุรี โทร. 081 865 4939

🐋 วาฬบรูด้า พี่ใหญ่แห่งท้องทะเลไทย 🐋 อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top