เพชรบุรี

เพชรบุรี

✨ รวม 10 วัดหลากสีสัน ✨

สวัสดีทุกคน วันนี้บัดดี้จะมาแนะนำวัดจากหลายจังหวัด ที่มีสีสันสวยโดดเด่นสะดุดตา จนกลายเป็นทั้งสถานที่ทำบุญและสถานที่ท่องเที่ยว แถมบางวัดยังกลายเป็น Land Mark สำคัญของจังหวัดไปเลยด้วย ลองตามมาอ่านกันดู ว่าวันนี้บัดดี้มีวัดไหนมานำเสนอบ้าง สีขาว 1. วัดร่องขุ่น จ.เชียงราย วัดร่องขุ่น ออกแบบและสร้างโดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินชื่อดังของไทย ที่สร้างขึ้นจากปณิธานและแรงศรัทธา ด้วยงานศิลปะงดงามสีขาว ทั้งลวดลายปูนปั้น การประดับกระจกและจิตรกรรรมปูนปั้นหลายจุด แรงบันดาลใจในการสร้างวัดของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ คือการอยากจะสร้างวัดให้เหมือนเมืองสวรรค์ ที่มนุษย์สามารถเดินทางไปสัมผัสได้ ซึ่งหลายจุดในวัด มีการสร้างเป็นสื่อสัญลักษณ์ต่าง ๆ ในพุทธศาสนา อย่างทางเข้าด้านหน้าจะมีสระน้ำขนาดใหญ่ ที่มีสะพานเป็นทางเดินเข้าสู่ตัววัด หมายถึง การเดินข้ามวัฏสงสารมุ่งสู่พุทธภูมิ ครึ่งวงกลมเล็กหมายถึงโลกมนุษย์ วงใหญ่ที่มีเขี้ยวเป็นปากของพญามารหรือพระราหู เปรียบเหมือนกิเลสในใจ ผู้ที่จะเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าในพุทธภูมิต้องตั้งจิตปลดปล่อยกิเลสตัณหาของตนเองลงไปในปากพญามาร เพื่อเป็นการชำระจิตให้ผ่องใสก่อนที่จะเดินผ่านเข้าไปนั่นเอง ปัจจุบัน วัดร่องขุ่นเปิดจุดเช็กอินแห่งใหม่ที่ใช้เวลาสร้างกว่า 6 ปี นั่นก็คือ “ถ้ำศิลป์วัดร่องขุ่น” เป็นผลงานประติมากรรมของอาจารย์เฉลิมชัย ภายในถ้ำ มีรูปทรงหินงอกหินย้อย พระพุทธรูปทุกขภูมิ ขุมนรกและประตูพระนิพพาน มีเพลงบรรเลงประกอบแสงสีเสียงตลอดเส้นทาง โดยมีค่าเข้าชม 50 บาท/คน มีเวลาประมาณ 10-15 นาที ต่อรอบ รายละเอียด ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จ.เชียงราย เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 6.30 – 18.00 น.ห้องแสดงภาพ : เปิดให้เข้าชมวันจันทร์–ศุกร์ เวลา 8.00 – 17.30 น.วันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดราชการ เวลา 8.00 – 18.00 น. วัดร่องขุ่น 0 5367 3579, ททท.สำนักงานเชียงราย 0 5371 7433, ศูนย์บริหารจัดการการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย 0 5371 5690https://goo.gl/maps/sQZ7Q2qq9cyRJhs79เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/วัดร่องขุ่น 2. วัดข่อย จ.เพชรบุรี ตั้งอยู่ติดกับอุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลาย มีการใช้รูปแบบของยันต์ฉิมพลีมาประกอบสถาปัตยกรรมการสร้างเป็นทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ตัวอาคาร มี 3 ชั้นประกอบด้วยชั้นที่ 1 ประดิษฐานพระพุทธรูป 3 องค์ คือพระพุทธเศรษฐีมิ่งมงคล พระพุทธเศรษฐีนวโกฏิ และพระสิวลีมหาลาภชั้นที่ 2 ผนังด้านนอกเป็นลายอักขระยันต์ฉิมพลี มีฉัตรทองเหลืองดุนลาย 9 ยอด 4 ทิศ ด้านในเป็นไม้สักแกะสลักลวดลายยันต์โภคทรัพย์ชั้นที่ 3 เป็นซุ้มเรือนยอดประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุในบุษบก 5 ยอดลงรักปิดทอง ยอดฉัตรทำด้วยทองคำ  ถ.คีรีรัถยา ต.คลองกระแชง อ.เมือง จ.เพชรบุรี เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 06.00-17.00 น. 06 1061 7868, 08 9052 7874https://goo.gl/maps/NQSr5AkQEyy9pvQE7เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/พระธาตุฉิมพลีพระเศรษฐีนวโกฏิ-วัดข่อย สีน้ำเงิน 3. วัดร่องเสือเต้น จ.เชียงราย วัดแห่งนี้ในอดีตราว ๆ 80-100 ปีก่อน เคยเป็นวัดร้าง มีสัตว์ป่ามาอาศัย โดยเฉพาะเสือที่มีอยู่มาก และชอบกระโดดข้ามร่องน้ำไปมา ชาวบ้านจึงเรียกบริเวณนี้ว่า ร่องเสือเต้น ภายหลังชาวบ้านได้ร่วมกันบูรณะวัดขึ้นมา จึงเรียกชื่อวัดว่า “วัดร่องเสือเต้น” เพื่อใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาในวันสำคัญต่าง ๆ และเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้าน  สิ่งก่อสร้างโดดเด่นที่สุดในวัดนี้ คือ วิหารสีน้ำเงิน ที่สร้างโดย “สล่านก” หรือ นายพุทธา กาบแก้ว ศิลปินท้องถิ่นชาวเชียงราย ลูกศิษย์ของ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ โดยเริ่มก่อสร้างเมื่อ พ.ศ. 2548 แล้วเสร็จ พ.ศ. 2559 รวมระยะเวลาถึง 11 ปี ภายในวิหารประดิษฐาน “พระพุทธรัชมงคลบดีตรีโลกนาถ” พระประธานสีขาวปางมารวิชัย ศิลปะเชียงแสน ซึ่งภายในพระเศียรบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เป็นผู้ประทานให้  ด้านหลังวิหารเป็นที่ตั้งของเจดีย์ทรงระฆัง สูง 20 เมตร นามว่า “พระธาตุเกศแก้วจุฬามณีห้าพระองค์” บนยอดเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ได้รับประทานจาก สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก  ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย 08 2026 9038 เปิดทุกวันเวลา 07.00-17.00 น.https://goo.gl/maps/ne1JD21wNp12 4. วัดปากน้ำแขมหนู จ.จันทบุรี วัดแห่งนี้มีความโดดเด่นที่ “โบสถ์เซรามิกสีน้ำเงิน” ซึ่งมีที่มาจาก โบสถ์หลังเก่าที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2489 เริ่มชำรุดทรุดโทรม มีการผุกร่อนมาก เนื่องจากวัดตั้งอยู่ติดกับทะเล ทางวัดและชาวบ้านจึงร่วมกันรื้อโบสถ์หลังเก่าและสร้างโบสถ์ใหม่ขึ้นในปี พ.ศ. 2534 ประตูโบสถ์ด้านในทั้ง 4 บาน มีการแกะสลักภาพนูนต่ำ เกี่ยวกับประวัติพระพุทธเจ้า ด้านนอกบานประตูและหน้าต่างมีการลงลายมุข ภาพเทพทวารบาล พื้นผนังด้านในพระอุโบสถมีการประดับภาพลงสีในพื้นเซรามิกเกี่ยวกับวรรณคดีชาดกและพระมหาชนก ภายในโบสถ์ประดิษฐานพระพุทธชินราชองค์จำลอง เป็นที่สักการบูชาของชาวบ้านและนักท่องเที่ยว  ต.ตะกาดเง้า อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี เปิดให้เข้าชมทุกวันเวลา 08.00-16.00 น.https://goo.gl/maps/imZW46D6sfUbZFDN9 สีเหลือง 5. วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร จ.อยุธยา วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร ตั้งอยู่บนเกาะลอย เกาะกลางแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นวัดที่ในหลวงรัชกาลที่ 5 โปรดฯ ให้สร้างขึ้น เพื่อทรงใช้เป็นสถานที่สำหรับบำเพ็ญพระราชกุศล เมื่อครั้งเสด็จฯ แปรพระราชฐานมาประทับที่พระราชวังบางปะอิน โดยมีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิก เลียนแบบโบสถ์ของศาสนาคริสต์ ด้านหน้าบริเวณทางเข้าของพระอุโบสถ จะมีมุขเป็นแบบสามเหลี่ยมหน้าจั่วซ้อนกัน 2 ชั้น รอบผนังพระอุโบสถเจาะช่องหน้าต่าง เป็นลักษณะปลายแหลมแบบโกธิก ด้านหลังพระอุโบสถเป็นหอระฆังยอดโดม …

✨ รวม 10 วัดหลากสีสัน ✨ อ่านเพิ่มเติม

เพชรบุรี : One Day Trip

หากอยากลองออกเดินทางเพื่อหาประสบการณ์ใหม่ ๆ แต่อาจจะมีเวลาไม่มากนัก เราอยากให้ลองมองเมืองน่ารักที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ที่ไม่ว่าจะขับรถมาเอง นั่งรถไฟ หรือใช้บริการรถสาธารณะ ก็สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวแบบ One Day Trip ได้แบบง่าย ๆ กันที่จังหวัดเพชรบุรี เมืองสวย ร่ำรวยวัฒนธรรม และที่สำคัญคือมีอาหารการกินที่น่าสนใจรอให้ไปชิมอยู่มากมาย และวันนี้เราจะขอแนะนำทริปท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบุรีใน 1 วันกัน สำหรับสถานที่แรกของทริปนี้เราอยู่กันที่ “อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี” หรือที่รู้จักในชื่อ “พระนครคีรี” และ “เขาวัง” ที่ตั้งอยู่บนภูเขากลางเมืองเพชรบุรี ที่นี่สร้างขึ้นในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เพื่อใช้เป็นพระราชวังฤดูร้อน กลุ่มอาคารที่ประกอบด้วยวัง อาคารพระที่นั่ง ศาสนสถาน ป้อมปราการ และสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดล้วนถูกสร้างขึ้นโดยผสมผสานศิลปกรรมแบบไทย จีน และตะวันตกเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน นอกจากนี้ยังเป็นจุดชมวิวที่มองเห็นทิวทัศน์ของเมืองเพชรบุรีได้อย่างงดงาม นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปเที่ยวชมได้ทั้งการเดินขึ้นบันไดหรือใช้บริการรถรางก็สามารถทำได้ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี เปิดให้เข้าชมทุกวันเวลา 08.30-16.30 น. พิกัด (ทางเข้าที่จอดรถ) https://goo.gl/maps/XkN8Vz45smBkpVRv8 ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเพชรบุรี ใจกลางตัวเมือง “วัดมหาธาตุวรวิหาร” มีอาคารสถาปัตยกรรมที่สวยงามมากมาย ทั้ง พระวิหารหลวง พระปรางค์ 5 ยอดสีขาวขนาดใหญ่ที่เป็นศิลปะผสมผสานระหว่างยุคอยุธยาตอนปลายและรัตนโกสินทร์ตอนต้น โดยองค์ประธานมีความสูงถึง 55 เมตร และพระพุทธรูปฝีมือของช่างสกุลเพชรบุรีที่เป็นเอกลักษณ์และประณีตงดงามหลายองค์ วัดมหาธาตุวรวิหาร เปิดให้เข้าชมทุกวัน พิกัด https://goo.gl/maps/nrifiVEESY3ySLeX6 นอกจากนี้ ในบริเวณตัวเมืองไม่ไกลจากวัดยังเป็นแหล่งรวบรวมร้านอาหารถิ่นอร่อย ๆ จำนวนมาก ทั้งข้าวแช่ และของหวาน  หรือจะเดินถ่ายรูปสตรีตอาร์ตสวย ๆ ก็เป็นไอเดียที่ดีไม่น้อย หรือจะเลือกท่องเที่ยวรอบเมืองด้วยรถจักรยานก็เป็นวิธีเดินทางที่น่าสนใจไม่น้อย  “วัดใหญ่สุวรรณารามวรวิหาร” อีกหนึ่งสถานที่สำคัญคู่บ้านคู่เมืองเพชรบุรีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ชาวบ้านในพื้นที่นิยมเรียกว่า “วัดใหญ่” และยังเป็นสถานที่รวบรวมผลงานเชิงช่างของชาวเพชรบุรีไว้มากมาย ทั้งยังมีกลุ่มสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นหลายอาคาร ทั้งอุโบสถทรงสำเภาที่งดงามทั้งภายนอกและภายใน รวมถึงศาลาการเปรียญ วัดใหญ่สุวรรณารามวรวิหาร เปิดให้เข้าชมทุกวัน พิกัด https://goo.gl/maps/Tm59sHtP76LSSbb97 ถ้าเอ่ยถึงสัญลักษณ์ของจังหวัดเพชรบุรี หลายคนน่าจะนึกถึงต้นตาลที่ขึ้นอยู่เป็นจำนวนมากทั่วจังหวัด และชาวเพชรบุรีเรียนรู้ที่จะใช้ประโยชน์จากพืชชนิดนี้มาตั้งแต่อดีตกาล โดยเฉพาะในเรื่องอาหารการกิน และเมื่อเป็นเช่นนั้น เมื่อเดินทางมาถึงเพชรบุรีแล้ว ก็ไม่ควรพลาดที่จะไปเรียนรู้กรรมวิธีการทำสวนตาลลุงถนอม แหล่งเรียนรู้เรื่องตาลแบบครบวงจรที่เกิดขึ้นจากแรงบันดาลใจที่จะอนุรักษ์ต้นตาลเอาไว้ให้คนรุ่นหลัง ลุงถนอมจึงเริ่มปลูกต้นตาลในพื้นที่สวนของตนจำนวนหลายร้อยต้น และเปิดเป็นศูนย์เรียนรู้กระบวนการทำตาลตั้งแต่การเก็บ การแปรรูปเป็นสินค้าประเภทต่าง ๆ  ที่นี่ยังเป็นที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ตาลแปรรูปที่น่าสนใจทั้งขนม น้ำตาลโตนด หรือน้ำตาลสดรสชาติดีให้ซื้อหาเป็นของฝากกลับบ้านกันได้เลย พิกัด https://goo.gl/maps/mzUp8n9PnL9jawFM7

✨ ปฏิทินท่องเที่ยวเดือนพฤษภาคม ✨

เดือนพฤษภาคม บางพื้นที่เริ่มมีฝนพรำ แต่ไม่ว่าจะฤดูไหน ๆ ก็เที่ยวได้ เพื่อน ๆ คนไหนยังไม่ได้วางแผนหรือยังไม่มีไอเดียว่าจะไปไหนดี มาชมแหล่งท่องเที่ยวตามพิกัดนี้กันได้เลย  เทศกาลชมผีเสื้อ อุทยานแห่งชาติปางสีดา จังหวัดสระแก้ว  เมื่อมาเที่ยวจังหวัดสระแก้วช่วงเดือนพฤษภาคม คงไม่มีใครอยากพลาดชมสีสันแห่งปางสีดาอย่างผีเสื้อป่านับร้อยที่กระพือปีกบินอวดโฉมไปทั่วอุทยานฯ โดยจุดที่นิยมไปชมฝูงผีเสื้อนั้นคือบริเวณ ลานน้ำตกปางสีดา และโป่งผีเสื้อ ช่วงที่เหมาะแก่การชมผีเสื้อ คือช่วงเดือนพฤษภาคม – สิงหาคม อย่ารอช้า รีบ ๆ มาชมกันนะ อัตราค่าบริการ ชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมอุทยานแห่งชาติปางสีดา จังหวัดสระแก้ว 0 3724 7948, 08 1862 1511  ตำบลท่าแยก อำเภอเมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้วhttps://goo.gl/maps/vVYQAna5zocCh9dv5  เขื่อนรัชชประภา จังหวัดสุราษฎร์ธานี  พักผ่อนหย่อนใจแบบชิล ๆ กันที่เขื่อนรัชชประภา เป็นเขื่อนอเนกประสงค์ของภาคใต้ที่ใช้ผลิตกระแสไฟฟ้า และกักเก็บน้ำเพื่อทำการเกษตร รวมทั้งเป็นแหล่งประมงน้ำจืดอีกด้วย เดิมเขื่อนนี้ชื่อว่า “เขื่อนเชี่ยวหลาน” และภายหลังก่อสร้างเสร็จ จึงได้รับพระราชทานชื่อใหม่จากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ว่า “เขื่อนรัชชประภา” มีความหมายว่า “แสงสว่างแห่งราชอาณาจักร”  กิจกรรมท่องเที่ยวเขื่อนรัชชประภา นอนแพกลางน้ำ เล่นน้ำเหนือเขื่อน นั่งเรือหางยาวชมทะเลสาบ ล่องแพไม้ไผ่ชมป่าสีเขียว และสัตว์ป่าหายาก เช่น กระทิง กวาง หมูป่า นกเงือก สมเสร็จ เป็นต้น พายเรือคายักกลางธรรมชาติ เดินป่าชมความงามของถ้ำปะการัง ระยะทางประมาณ 1.5 กม. และล่องแพไม้ไผ่อีก 15 นาที ไปยังถ้ำปะการัง  เนื่องจากกิจกรรมส่วนใหญ่เป็นกิจกรรมทางน้ำ แนะนำให้สวมชูชีพตลอดเวลาขณะลงเล่นน้ำเพื่อความปลอดภัย ที่นี่มีสัญญาณโทรศัพท์แค่บางจุด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาสก (บริการที่พัก) 0 7739 5154-5การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (บริการเรือเที่ยวชม) 0 7724 2560-1  หมู่ 3 ตำบลเขาพัง อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานีhttps://goo.gl/maps/wtvxgpPXZeD2  บ้านสลักคอก  พาเพื่อน ๆ มาล่องเรือชมป่าชายเลน สัมผัสวิถีชีวิตชาวประมงที่ชุมชนหมู่บ้านสลักคอก หมู่บ้านชาวประมงแห่งนี้ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง ซึ่งซ่อนตัวอยู่ในช่องแคบ มีลักษณะเป็นเวิ้งขนาดใหญ่คล้ายคอกสัตว์ จึงเป็นที่มาของชื่อหมู่บ้าน รอบ ๆ รายล้อมไปด้วยแนวป่าชายเลนซึ่งเป็นพื้นที่ทำกิน แหล่งประมงพื้นบ้าน และยังเป็นที่อนุบาลพันธุ์สัตว์น้ำต่าง ๆ  นักท่องเที่ยวนิยมมาล่องเรือมาด หรือ กอนโดลา  เพื่อชมบรรยากาศของป่าชายเลนที่มีความอุดมสมบูรณ์ และเงียบสงบ พร้อมรับประทานอาหารบนเรือแบบชิล ๆ ค่าบริการล่องเรือมาด ลำละ 800 บาท นั่งได้ 4 คน ใช้เวลาล่องเรือราว ๆ 40 นาที นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ได้แก่ พายเรือคายัก : อัตราค่าบริการ 200 บาท / 2 คน / 1 ชั่วโมง พายซับบอร์ด : อัตราค่าบริการ 600 บาท / 1 คน / 2 ชั่วโมง (มีเจ้าหน้าที่ของชมรมคอยติดตาม) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมชมรมนำเที่ยวพื้นบ้านสลักคอก เกาะช้างใต้ 08 7748 9497  ตำบลเกาะช้างใต้ อำเภอเกาะช้าง จังหวัดตราดhttps://goo.gl/maps/FdCnNVFfniCmEkqB7  น้ำตกขุนกรณ์ จังหวัดเชียงราย  เข้าสู่เดือนฝนพรำ น้ำตกก็เริ่มมีน้ำมากแล้ว ที่น้ำตกขุนกรณ์ เป็นน้ำตกซึ่งตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติลำน้ำกก ขึ้นชื่อว่าเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดในจังหวัดเชียงราย นักท่องเที่ยวที่มาเชียงรายจะนิยมมาที่น้ำตกแห่งนี้เพราะเป็นน้ำตกที่ลำธารใสสะอาด น้ำไหลเย็นตลอดทั้งปี เมื่อถึงหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ จะต้องเดินเท้าเข้าไปประมาณ 1.5 กิโลเมตร สองข้างทางเดินเป็นป่าร่มรื่น มีที่พักเหนื่อยเป็นระยะ บางช่วงจะค่อนข้างชันแนะนำให้เดินด้วยความระมัดระวัง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมอุทยานแห่งชาติลำน้ำกก 08 3764 6475  ตำบลแม่กรณ์ อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงรายhttps://goo.gl/maps/fpVvuj6Bce4ZZ7fv5  ฤดูกาลชมวาฬบรูดา ทะเลอ่าวไทย  วาฬบรูดา พี่ใหญ่แห่งท้องทะเลไทย อาศัยอยู่ทั่วบริเวณน่านน้ำอ่าวไทย มีลักษณะตัวสีเทาเข้มออกดำอมน้ำเงิน รูปร่างเพรียวยาวกว่า 15 เมตร กินปลาเล็กจำนวนมากเป็นอาหาร ในช่วงนี้ เหล่าวาฬบรูดาก็จะออกมาเผยโฉมอันมหึมาให้เราได้ชมเป็นระยะ ๆ จากข้อมูลของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งระบุว่า ช่วงเวลาที่พบบ่อยคือช่วงเดือนเมษายน – กันยายนของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีปลากะตักและกุ้งเคยอุดมสมบูรณ์ และเป็นอาหารมื้อใหญ่ของเจ้าวาฬบรูดา กิจกรรมในการไปชมวาฬบรูดานั้น เพื่อน ๆ จะต้องนั่งเรือออกไปกลางทะเล ในบริเวณที่มีวาฬบรูดากำลังหม่ำปลาน้อย ๆ กันอย่างอิ่มอกอิ่มใจ อย่างไรก็ตาม ช่วงที่มีมรสุม เป็นช่วงที่ไม่เหมาะแก่การออกไปล่องเรือกลางทะเล ดังนั้น หากเพื่อน ๆ อยากไปชม แนะนำให้โทรสอบถามกับศูนย์บริการนักท่องเที่ยวและศูนย์นำเที่ยวชมวาฬบรูดาก่อน พิกัดจุดล่องเรือทะเลอ่าวไทยชมวาฬบรูดา ปากแม่น้ำบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา โทร. 08 1488 8618คลองประมง จังหวัดสมุทรสาคร โทร. 09 8589 2550 (ร้านครัวบ้านประมง), 09 8795 4563 (ร้านเจ๋ง ครัวชายทะเล)บ้านบางตะบูน จังหวัดเพชรบุรี โทร. 0 3258 1233, 08 9796 5506, 08 2499 9993 (บางตะบูนเบย์)ชมรมวาฬบรูด้าแหลมผักเบี้ย จังหวัดเพชรบุรี โทร. 08 1865 4939 

☀️ หาดเสาเอียง @ เพชรบุรี ☀️

🌴 ที่นี่ตั้งอยู่ระหว่างหาดเจ้าสำราญและหาดชะอำ เป็นชายหาดที่มีเสาหลายต้นตั้งเรียงกันจากหาดลงสู่ทะเล นัยว่าแต่ก่อนคงมีการพยายามจะสร้างสะพานหรือจุดชมวิวยื่นไปในทะเลบริเวณนี้ แต่สุดท้ายก็สร้างไม่เสร็จ พื้นที่บริเวณนี้จึงรกร้างไปตามกาลเวลา รวมทั้งสภาพของเสาแต่ละต้นที่เริ่มเอนเอียงไปตามกระแสลมและคลื่น จนกลายเป็นที่มาของชื่อ “หาดเสาเอียง” ⏱️ ช่วงเวลาที่แนะนำให้มาเที่ยว คือ ช่วงเช้าเพื่อมาชมพระอาทิตย์ขึ้น และช่วงเวลาเย็นยามแดดร่มลมตก บรรยากาศดูสวยงามไปอีกแบบ 🚙 การเดินทาง : จากตัวเมืองเพชรบุรี ใช้ทางหลวงหมายเลข 3177 ผ่านหน้ามหาวิทยาลัยราชภัฎเพชรบุรี ตรงไปจนถึงสี่แยกวงเวียนปลาหาดเจ้าสำราญ จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 4028 (ทางไปหาดชะอำ) ตรงไปประมาณ 5.5 กิโลเมตร จะพบทางเลี้ยวเข้าหาดเสาเอียงทางซ้ายมือ จุดสังเกตคือมีหอถังประปาสูงเด่นอยู่บริเวณทางเลี้ยวเข้าหาด เมื่อเลี้ยวเข้ามาในซอยทางซ้ายมือจะเป็นตึกแถวร้าง ตรงไปราว 300 เมตร จนสุดทางถนนคือหาดเสาเอียง รวมระยะทางจากตัวเมืองเพชรบุรีประมาณ 24 กิโลเมตร

งานพระนครคีรี-เมืองเพชร” ครั้งที่ 36

📌 ททท. ชวนเที่ยว “งานพระนครคีรี-เมืองเพชร” ครั้งที่ 36 งานประจำปีสุดยิ่งใหญ่แห่งเมืองเพชรบุรี จัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-26 มีนาคม 2566 ณ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี (เขาวัง) และบริเวณพื้นที่โดยรอบ อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี ✨ ภายในงานมีการแสดงศิลปวัฒนธรรม งานหัตถกรรมสกุลช่างเมืองเพชร การออกร้านสินค้าโอทอป อาหารถิ่นและขนมหวานขึ้นชื่อของเมืองเพชร ✨ ไฮไลต์เด่นอีกอย่างของงานพระนครคีรี-เมืองเพชร คือ จะมีการจุดพลุและดอกไม้ไฟทุกวัน ระหว่างวันที่ 17-26 มีนาคม 2566 🎆 วันที่ 17 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา มีพิธีเปิดงานและมีการจุดพลุ 2 รอบ คือ เวลา 19.00 น. พลุ 500 นัด และเวลา 21.00 น. พลุ 320 นัด รวม 820 นัด 🎇 วันที่ 18 – 26 มีนาคม 2566 จะมีการจุดพลุคืนละ 1 รอบ คือ เวลา 21.00 น. คืนละ 312 นัด 📍พิกัดแนะนำในการถ่ายพลุและดอกไม้ไฟมุมกว้าง ได้แก่วัดวิหารโบสถ์ ตำบลธงชัย อำเภอเมืองเพชรบุรี https://goo.gl/maps/MrtimKy2meuaTv2bAเขาเรดาห์ ตำบลไร่ส้ม อำเภอเมืองเพชรบุรี https://goo.gl/maps/VyMeAWUgEUr2CThH8 ✨ งานพระนครคีรี-เมืองเพชร จะจัดถึงวันที่ 26 มีนาคม 2566 และด้วยจังหวัดเพชรบุรีอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ขับรถประมาณ 1.30-2 ชั่วโมงก็ถึง สามารถจัดทริปเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับได้สบาย ๆ หากมีเวลาอยากให้มาเที่ยวชมงานนี้กันนะคะ บรรยากาศของแสงไฟยามค่ำคืนงดงามมากจริง ๆ ค่ะ

✨ แนะนำเทศกาลเดือนมีนาคม ✨

เดือนที่ 3 ของปี เริ่มก้าวเข้าสู่ฤดูร้อนแล้ว หลายคนคงมีแผนเดินทางไปเที่ยวทะเล น้ำตก เพื่อเล่นน้ำคลายร้อน หรือขึ้นเขาเพื่อมองหาความสดชื่นของสีเขียวจากยอดดอย แต่นอกจากแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มอบความเย็นทางใจให้แล้ว เดือนมีนาคมก็เป็นช่วงเวลาที่มีเทศกาลพิเศษและสนุก ๆ ถูกจัดขึ้นเหมือนกัน… เอาล่ะ หากใครกำลังมองหาเทศกาลประเพณีพิเศษ ๆ ที่จัดขึ้นเฉพาะในช่วงเดือนมีนาคม นอกเหนือจากการเที่ยวตามธรรมชาติล่ะก็ ลองตามมาอ่านคอนเทนต์นี้ดู ว่า 5 เทศกาลเดือนมีนาคมที่นำมาแนะนำวันนี้ จะมีที่ไหนบ้าง 1.ประเพณีแห่มาลัยข้าวตอก จ.ยโสธร เป็นประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของชุมชนบ้านฟ้าหยาด จ.ยโสธร เกิดจากภูมิปัญญาของชาวบ้านที่ได้เห็นถึงความสำคัญของข้าว จึงคัดข้าวเปลือกที่ดีที่สุดมาคั่วเป็นข้าวตอก แล้วนำมาร้อยเป็นมาลัยสายยาวแทน “ดอกมณฑารพ” ดอกไม้ทิพย์บนสวรรค์ ที่เชื่อว่ามีความสวยงามและมีกลิ่นหอม ซึ่งจะหล่นลงมาบนโลกในเหตุการณ์สำคัญ เช่นครั้งเมื่อพระพุทธเจ้าทรงเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน ดอกมณฑารพก็ร่วงหล่นลงมาบนโลกทั้งก้านและกิ่ง เปรียบเสมือนการแสดงความเสียใจในเหตุการณ์นี้ เหล่าพระภิกษุ ข้าราชการบริพารและประชาชนทั้งหลาย จึงพากันเก็บมาสักการะพระบรมศพของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อเป็นการรำลึกเหตุการณ์นี้ ชาวบ้านฟ้าหยาด จึงประดิษฐ์และจัดงานแห่มาลัยข้าวตอกขึ้นก่อนวันมาฆบูชา ปัจจุบันจะมีการจัดงาน 5 วัน มีการแห่เป็นขบวนรอบตัวอำเภอ ก่อนจะนำไปถวายที่วัดหอก่อง ซึ่งภายในวัดมี พิพิธภัณฑ์มาลัยข้าวตอก เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มาชมความงามหลังจากแห่ขบวนได้ ในปี พ.ศ. 2566 ประเพณีแห่มาลัยข้าวตอก จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-5 มีนาคม ณ บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอมหาชนะชัย ใครที่สนใจสามารถไปชม ชิม ชอปปิง สินค้าโอทอป ของกิน ของฝาก ที่ถนนคนเดินของงานได้เลย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ททท. สำนักงานอุบลราชธานี (ดูแลพื้นที่ จ.อุบลราชธานี จ.ยโสธร และ จ.อำนาจเจริญ) โทร. 0 4524 3770 2.งานพระนครคีรี-เมืองเพชร อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี จ.เพชรบุรี งานต่อมาที่อยากแนะนำ ก็คือ งานพระนครคีรี-เมืองเพชร ซึ่งในปี พ.ศ. 2566 จัดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “เยือนถิ่นเมืองพริบพรี สดุดีจอมราชัน แดนสร้างสรรค์อาหารไทย” เพื่อเทิดพระเกียรติบูรพมหากษัตราธิราชเจ้า รัชกาลที่ 4, รัชกาลที่ 5, รัชกาลที่ 6 ในวันที่ 17 – 26 มีนาคม พ.ศ. 2566 ณ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี (เขาวัง) ภายในงาน จะมีการจัดแสดงศิลปวัฒนธรรมประเพณีจากสกุลช่างเมืองเพชร รวมไปถึงกิจกรรมอื่น ๆ เช่น ชมพลุบนเขาวัง ชิมอาหารพื้นบ้าน ขนมพื้นถิ่น สินค้าพื้นเมืองเพชรบุรี สินค้า OTOP รอต้อนรับนักท่องเที่ยวให้มา ชม ชิม ชอปปิง และถ่ายรูปกันได้อย่างจุใจ : ค่าเข้าชม ชาวไทย 20 บาท ชาวต่างชาติ 150 บาทนักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้น หรือโดยสารรถรางไฟฟ้า ค่าบริการไป-กลับ ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก (อายุไม่เกิน 12 ปี) 15 บาท : ถ.คีรีรัถยา ต.คลองกระแชง อ.เมืองเพชรบุรี จ.เพชรบุรี: เปิดทุกวัน เวลา 08.30-16.30 น.: สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ททท. สำนักงานเพชรบุรี โทร. 0 3247 1006 3. ปรากฏการณ์พระอาทิตย์ตกตรง 15 ช่องประตู ณ อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์ อีกหนึ่งเทศกาลและงานประจำปีของปราสาทหินพนมรุ้ง ที่เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินเกี่ยวกับปรากฏการณ์พระอาทิตย์ขึ้น-ตก ส่องลอดช่องประตูทั้ง 15 บานของปราสาทหินพนมรุ้ง ที่ในปีนี้ จะมีในช่วงวันที่ 5-7 มีนาคม พ.ศ. 2566 ท่ามกลางความยิ่งใหญ่ของปราสาทหินพนมรุ้ง หนึ่งในอารยธรรมโบราณ ที่สร้างจากหินทรายสีชมพูและศิลาแลง ในทุกปีจะเกิดปรากฏการณ์พระอาทิตย์ขึ้น-ตก ส่องลอดช่องประตูทั้ง 15 บาน ของปราสาทหิน จำนวน 4 ครั้งต่อปี ซึ่งปีนี้มีรายละเอียดดังนี้ปรากฏการณ์พระอาทิตย์ขึ้น-ตก 15 ช่องประตูปราสาทพนมรุ้ง– ครั้งที่ 1 พระอาทิตย์ตก วันที่ 5-7 มีนาคม เวลาประมาณ 18.15 น.– ครั้งที่ 2 พระอาทิตย์ขึ้น วันที่ 3-5 เมษายน เวลาประมาณ 06.03 น.– ครั้งที่ 3 พระอาทิตย์ขึ้น วันที่ 8-10 กันยายน เวลาประมาณ 05.57 น.– ครั้งที่ 4 พระอาทิตย์ตก วันที่ 5-7 ตุลาคม เวลาประมาณ 17.55 น. ประเพณีขึ้นเขาพนมรุ้ง ปี พ.ศ. 2566 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 มีนาคม – 2 เมษายน พ.ศ. 2566 ปราสาทหินพนมรุ้ง ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักของ จ.บุรีรัมย์ ด้วยลักษณะรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบขอมโบราณ ที่เชื่อกันว่าสร้างขึ้นเพื่อเป็นเทวาลัยที่ประทับของพระศิวะ บนยอดเขาพนมรุ้ง โดยคำว่า “พนมรุ้ง” หรือ “วนํรุง” เป็นภาษาเขมรแปลว่า “ภูเขาอันกว้างใหญ่” ภายในมีการออกแบบที่ประณีต มีอาคารเรียงรายไปจนถึงปราสาทประธาน ทับหลังที่บอกเล่าเรืองราวของวรรณคดีที่เกี่ยวข้องกับเทพเจ้าของฮินดู อย่างเรื่องรามเกียรติ์ …

✨ แนะนำเทศกาลเดือนมีนาคม ✨ อ่านเพิ่มเติม

แนะนำที่เที่ยว เดือนมกราคม

สวัสดีปีใหม่ 2566 สวัสดีเดือนใหม่ของปี เพื่อน ๆ ไปเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ไหนกันบ้างนะ เข้าสู่ต้นปีแบบนี้มาเริ่มทริปดี ๆ เดินทางท่องเที่ยวไปด้วยกันในเดือน #มกราคม วันนี้มีแหล่งท่องเที่ยวมาฝากเป็นไอเดียให้เพื่อน ๆ ได้ไปปักหมุดกันด้วยนะคะ จะมีที่ไหนบ้างไปดูกันเลยค่ะ ⭐️อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ หากใครที่มาจังหวัดกระบี่ อุทยานฯ แห่งนี้ นับว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่อันดับต้น ๆ ที่นึกถึง อุทยานฯ มีพื้นที่ครอบคลุมในทะเลอันดามันด้านทิศตะวันตกของภาคใต้ มีสถานที่ที่น่าสนใจหลายจุด ไม่ว่าจะเป็น หาดนพรัตน์ธารา อ่าวนาง ถ้ำพระนาง อ่าวไร่เลย์ เส้นทางศึกษาธรรมชาติเขาหงอนนาคและหมู่เกาะพีพี โดยหมู่เกาะพีพี จะประกอบด้วย 2 เกาะใหญ่ ๆ คือ เกาะพีพีดอน และ เกาะพีพีเล อ่าวมาหยา รวมถึงมีเกาะเล็ก ๆ คือ เกาะยูง เกาะไม้ไผ่ เกาะทับ เกาะหม้อ และเกาะไก่ อยู่ใกล้ ๆ กันด้วย ช่วงเวลาแนะนำที่น่าเที่ยวที่สุดจะอยู่ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-เดือนเมษายน ทั้งนี้ก่อนออกเดินทางแนะนำให้ตรวจสอบสภาพอากาศอีกครั้งค่ะ กิ่วแม่ปาน อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ มีระยะทาง 3 กิโลเมตร เหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย แต่ต้องเตรียมฟิตร่างกายกันไปด้วยนะคะ ตลอดเส้นทางจะเป็นป่าดิบชื้น ทำให้เห็นพืชอย่างเฟิร์น มอส จำนวนมาก ที่นี่มีจุดชมวิวทั้งหมด 21 จุด เส้นทางการเดิน สามารถเดินผ่านได้ทุกจุด ไฮไลท์ของเส้นทางนี้จะอยู่ในจุดที่ 9 จะเห็นวิวทิวทัศน์แบบ 360 องศา และชมทะเลหมอกยามเช้า อัตราค่าเข้าอุทยานฯชาวไทย ผู้ใหญ่ 60 บาท เด็ก 30 บาทชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 150 บาท ภูลมโล อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ภูลมโล มีพื้นที่บนรอยต่อของสามจังหวัด คือพิษณุโลก เพชรบูรณ์ และเลย ที่นี่เป็นจุดชมนางพญาเสือโคร่งนับหมื่นต้นที่จะบานสะพรั่งเป็นแนวหุบเขาสีชมพูในช่วงปลายปีและต้นปี ดอกนางพญาเสือโคร่ง ในแต่ละปีจะบานไม่ตรงกัน ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศด้วยค่ะ https://goo.gl/maps/LDFDxdKKP8bSGUnG8 อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติสุดฮิตของเพชรบุรี สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ภายในอุทยานฯ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายจุดเลยค่ะ มีไฮไลท์น่าเที่ยวก็คือ มาชมผีเสื้อมากกว่า 200 สายพันธุ์มา โบยบินอยู่ในอุทยานแห่งชาติ บริเวณบ้านกร่างแคมป์และเขาพะเนินทุ่ง อีกทั้งยังได้ชมทะเลหมอกหนา ๆ ยามเช้าที่เขาพะเนินทุ่ง อุทยานฯ มีลานกางเต็นท์สำหรับผู้ที่มาค้างแรมอีกด้วย

ตอกลาย สานศิลป์ พิพิธภัณฑ์หนังใหญ่ : เพชรบุรี

ว่ากันว่า เมืองเพชรบุรีไปเมื่อไหร่ก็ดีต่อใจเสมอ…สำหรับแอดแล้วเมืองเพชรบุรี นอกจากจะไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาอันยาวนาน สถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย แถมยังโดดเด่นในเรื่องของศิลปะอีกด้วย 🥰☺️ วันนี้แอดพาเพื่อน ๆ ไปชมศิลปะอันงดงามที่ยังคงอนุรักษ์ไว้อย่างยั่งยืนที่หลาย ๆ คนอาจจะไม่เคยเห็นนั่นคือ ตอกลายหนังใหญ่ ที่พิพิธภัณฑ์หนังใหญ่วัดพลับพลาชัย… ไปชมกันเลย 👉 วัดพลับพลาชัย วัดเก่าแก่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย นับว่าเป็นวัดที่อยู่กลางใจเมืองเพชรบุรี รวมถึงสิ่งที่โดดเด่นสะดุดตาอย่างปูนปั้นฝีมือช่างเมืองเพชร  ภายในวัดพลับพลาชัย ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอย่างพิพิธภัณฑ์หนังใหญ่ ที่ได้จัดแสดงหนังใหญ่ที่อนุรักษ์ไว้ในสภาพสมบูรณ์ หนังใหญ่ได้รับการยกย่องว่าเป็นการละเล่นชั้นสูงเป็นศิลปะขั้นสูง โด่งดังมาร้อยกว่าปี เป็นหนึ่งในตำนานงานศิลป์ที่อยู่คู่เมืองเพชรบุรีมาอย่างยาวนาน นอกจากนี้ วัดพลับพลาชัยและชุมชนคลองกระแชง ชุมชนย่านเมืองเก่าริมแม่น้ำเพชรบุรี ยังได้อนุรักษ์สืบสานงานศิลปะ การ “ตอกหนังใหญ่” ให้อยู่คู่ชุมชนแห่งนี้ พร้อมทั้งต่อยอดเป็นกิจกรรม workshop ตอกลาย ไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวผู้สนใจอีกด้วย หากใครสนใจกิจกรรม workshop ต้องติดต่อล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน  สำหรับกลุ่มเล็ก 3-5 คน ราคาคนละ 790 บาท สำหรับกลุ่มใหญ่ 20 คนขึ้นไป ราคาคนละ 400 บาท  ตำบลคลองกระแซง อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี โทร. 08 6344 4418https://goo.gl/maps/Bgff3TYVNSZSHUJs5

✨เที่ยวเมืองเพชร ชม 7 วัดงาม✨

วันนี้ แอดจะพาทุกท่านไปเที่ยวชมวัดงามๆ ในจังหวัดเพชรบุรี ที่ว่างามเพราะศิลปะปูนปั้นฝีมือสกุลช่างเมืองเพชร ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ลวดลายมีความพลิ้วไหว แฝงด้วยปรัชญาและแนวความคิดที่เกี่ยวกับพุทธศาสนาของช่างปั้น รวมทั้งมีเรื่องราวในเชิงประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจมากมายเลยครับ ว่ากันว่าเมืองเพชรบุรีได้รับการขนานนามว่าเป็นอยุธยาที่มีชีวิต เพราะวัดส่วนใหญ่สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา และมีความเรืองรองของงานศิลปกรรมหลายแขนงที่มีศูนย์รวมอยู่ในวัดหลายๆ วัด ตามที่แอดจะพาไปชม 7 วัดงามในเมืองเพชรบุรี ไปชมกันเลยครับ วัดมหาธาตุวรวิหาร  เริ่มต้นชมวัดแรกที่วัดมหาธาตุวรวิหาร ภาพที่เห็นเด่นชัดถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของวัดนี้ คือ พระปรางค์ 5 ยอดสีขาว มีอายุราว 1,000 กว่าปี ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ จุดที่น่าสนใจก็คือ พระวิหารหลวง ที่สร้างในสมัยอยุธยาตอนปลาย มีหน้าบันที่มีลวดลายปูนปั้นงดงามสะดุดตามาก เมื่อเข้าไปในพระวิหารหลวง จะเห็นภาพจิตรกรรมฝาผนังที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และภาพชุมนุมเทวดาที่มีลีลาอ่อนช้อยงดงาม ข้อมูล วัดมหาธาตุวรวิหาร เพชรบุรี  : 3/1 ถนนโพธิ์การ้อง ตำบลคลองกระแซง อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี  : https://goo.gl/maps/yGnpAKwpVmPqqpbp8  : เปิดให้เข้าชมเวลา 06.00-17.00 น. วัดพลับพลาชัย  เดินจากวัดมหาธาตุไปนิดเดียวก็จะถึงวัดพลับพลาชัย วัดแห่งนี้ เป็นแหล่งรวมงานศิลปะในสกุลช่างเมืองเพชร ความโดดเด่นอยู่ที่ศิลปะปูนปั้นที่ยังคงมีความสมบูรณ์อยู่มาก โดยเฉพาะที่หน้าบัน จะเห็นปูนปั้นลายก้านขด รูปสัตว์ในป่าหิมพานต์ ที่ลีลาพลิ้วไหวเหมือนจะกระโจนออกมาจากหน้าบันให้ได้ ส่วนภายในพระวิหาร ยังจัดเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงหนังใหญ่ที่มีอายุกว่า 100 ปี ข้อมูล วัดพลับพลาชัย เพชรบุรี : 106 ถนนดำเนินเกษม ตำบลคลองกระแซง อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี : https://goo.gl/maps/Y8fi1hmTqpkwE6919 วัดเกาะแก้วสุทธาราม  คนทั่วไปเรียกวัดเกาะแก้วสุทธารามสั้นๆ ว่าวัดเกาะ เพราะเดิมทีมีสายน้ำไหลผ่านรอบด้านทำให้อาณาเขตของวัดมีสภาพเป็นเกาะ สิ่งที่เห็นสะดุดตาคือ พระอุโบสถเก่าแก่ที่มีสถาปัตยกรรมในสมัยอยุธยาชัดเจน คือ มีประตูด้านละ 2 ช่อง ไม่มีการเจาะช่องหน้าต่าง โดยสถาปัตยกรรมของโบสถ์จะมีลักษณะคล้ายเรือสำเภา หรือแบบตกท้องช้าง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของโบสถ์ของวัดที่สร้างในสมัยอยุธยาที่หาชมได้ยาก เมื่อเข้าไปในโบสถ์ มีภาพจิตรกรรมฝาผนังอายุกว่า 200 ปี เขียนด้วยสีฝุ่นผสมกาวที่จัดวางภาพในแนวตั้ง ดูแปลกตา ส่วนใหญ่เป็นเรื่องราวพุทธประวัติ และวิถีชีวิตของคนในยุคนั้น แอดขอแนะนำว่าอย่าใช้มือสัมผัสภาพจิตรกรรมนะครับ กลัวภาพจะลบเลือนไปมากกว่านี้ เสียดายครับ ข้อมูล วัดเกาะแก้วสุทธาราม : ตำบลท่าราบ อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี : 032 425 102https://goo.gl/maps/a2vTq4w8MKjUD6QY8 : เปิดให้เข้าชมเวลา 08.00-17.00 น. วัดพระพุทธไสยาสน์ (วัดพระนอน) วัดพระพุทธไสยาสน์ แห่งนี้ สันนิษฐานว่ามีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา แต่ครั้งเมื่อเสียกรุงแล้ว วัดนี้ถูกปล่อยทิ้งร้าง และได้รับการบูรณะในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 และรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 พระนอนที่วัดนี้ เป็นพระนอนที่มีความยาวเป็นอันดับที่ 4 ของประเทศไทย คือ มีความยาว 43 เมตร อายุประมาณ 400 กว่าปี สิ่งที่แตกต่างจากพระนอนองค์อื่นจะอยู่ที่เศียรขององค์พระ จะมีหมอนรูปดอกบัวรองพระเศียรอยู่ วันนี้ได้เห็นองค์จริงแล้วเป็นบุญตามากครับ ข้อมูลวัดพระพุทธไสยาสน์ (วัดพระนอน)  : ถนนคีรีรัฐยา ตำบลคลองกระแชง อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี  : 032 471 005-6  : https://goo.gl/maps/VaFXGMhFoZnwJnLa6  : เปิดให้เข้าชมเวลา 07.00 – 17.00 น. วัดสระบัว วัดสระบัวเป็นวัดที่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลาย พระอุโบสถมีขนาดเล็กหลังคาซ้อน 2 ชั้น ฐานโค้งแบบท้องเรือสำเภา จากสภาพที่เห็น วัดยังสมบูรณ์อยู่มาก โดยเฉพาะลวดลายปูนปั้นที่เห็นได้จากทั้งหน้าบัน หรือฐานเสมารอบโบสถ์เรียกว่า “ใบเสมานั่งแท่น” ลักษณะทำเป็นฐานเสมาซ้อนกัน 2 ชั้น มีบัวรองรับใบเสมา ที่ฐานชั้นต่างๆ จะมีปูนปั้นเป็นรูปยักษ์ ครุฑ นรสิงห์แบกใบเสมาอยู่ในแต่ละชั้น แอดอยากให้มาชมวัดกันนะครับ เพราะศิลปะปูนปั้นที่นี่ ถือว่าเป็นศิลปะชั้นเลิศ ถึงกับมีคนกล่าวไว้ว่าหากต้องการชมงานปูนปั้นสมัยอยุธยาต้องมาชมที่วัดสระบัวเลยทีเดียว ข้อมูล วัดสระบัว  : 3/1 ถนน โพธิ์การ้อง ตำบล คลองกระแซง อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี 76000  : 089 885 0210  : https://goo.gl/maps/Q78M8MbrWcUv4bu2A วัดใหญ่สุวรรณารามวรวิหาร วัดนี้ใหญ่โตสมชื่อ ด้วยมีเนื้อที่กว้างขวางมาก พระอุโบสถจะเป็นสถาปัตยกรรมทรงไทยสมัยอยุธยา มีหน้าบันประดับกระจกสี ประกอบลวดลายปูนปั้นที่งดงามตามสไตล์ศิลปะสกุลช่างเมืองเพชร เมื่อเดินสำรวจรอบโบสถ์จะเห็นฐานเสมามีดอกบัวรองรับ แอดสังเกตว่า หลายๆ วัดในเพชรบุรี เสมารอบโบสถ์จะเป็นเสมาคู่ หรือเสมาซ้อนกัน สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เสมาคู่จะเป็นวัดหลวง เช่น วัดพระศรีรัตนศาสดาราม วัดพระเชตุพน ส่วนเสมาเดี่ยวหมายถึงวัดราษฎร์ เดินต่อไปอีกไม่กี่ก้าว จะพบพระตำหนักไม้สักหลังงาม เดิมเป็นพระตำหนักในเขตพระราชฐานชั้นในพระราชวังกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระเจ้าเสือทรงรื้อมาถวายสมเด็จเจ้าแตงโม ซึ่งทรงเป็นพระสังฆราชชาวเพชรบุรีในขณะนั้น เพื่อให้ใช้เป็นศาลาการเปรียญ ข้อมูล วัดใหญ่สุวรรณาราม  : ถนนพงษ์สุริยา ตำบลท่าราบ อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี 76000  : 083 566 0149  : https://goo.gl/maps/jzkgA6ttdA8FCZ4b8  : เปิดให้เข้าชมเวลา 08.00-18.00 น.  วัดกำแพงแลง เดินทอดน่องชมวัดในเมืองเพชรมา 6 วัดแล้ว ล้วนเป็นวัดที่สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยอยุธยาทั้งนั้น แอดจะพาไปชมวัดเก่าแก่อีกแห่งที่ถือเป็นวัดแห่งเดียวของจังหวัดเพชรบุรีที่มีโบราณสถานที่สร้างในยุคขอมเรืองอำนาจ สมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 นั่นคือ วัดกำแพงแลง สันนิษฐานว่าเดิมคงเป็นเทวสถานที่สร้างขึ้นในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เมื่อลัทธิพราหมณ์เสื่อมถอยจึงกลายเป็นวัดในพุทธศาสนา วัดนี้ได้รับการบูรณะในสมัยกรุงศรีอยุธยา แต่ยังทิ้งร่องรอยอารยธรรมขอมมาจนถึงทุกวันนี้ ข้อมูล วัดกำแพงแลง  : ถนนพระทรง ตำบลท่าราบ อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี  : https://goo.gl/maps/kBrBSzpjQBuS2hop7  : เปิดให้เข้าชมเวลา …

✨เที่ยวเมืองเพชร ชม 7 วัดงาม✨ อ่านเพิ่มเติม

เทศกาลชมผีเสื้อ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน 🦋

ไม่ได้ชวนไปดูผีเสื้อที่ห้องเราหรอกนะ แต่จะชวนไปดูที่บ้านกร่างแคมป์ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ช่วงนี้เป็นโค้งสุดท้ายแล้วด้วย เพราะช่วงเทศกาลดูผีเสื้อของที่นี่ จะเริ่มในช่วงเดือนมีนาคมไปจนถึงต้นเดือนมิถุนายน โดยจะมีผีเสื้อมากกว่า 200 สายพันธุ์ ยิ่งในวันที่มีแดดก็จะมีผีเสื้อมากเป็นพิเศษ นอกจากน้ำหวานในเกสรดอกไม้แล้ว เพื่อน ๆ เคยสงสัยหรือไม่ว่าผีเสื้อกินอะไรได้อีก คำตอบก็คือ น้องจะกินเกลือแร่บริเวณดินที่มีความชื้น เช่นใกล้ลำธาร นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เรามักจะเห็นผีเสื้อเกาะอยู่ตามพื้นดินอยู่บ่อย ๆ หรือแม้แต่บนร่างกายเราที่มีเหงื่อ ผีเสื้อก็อาจจะมาเกาะเพื่อกินเกลือแร่จากเหงื่อเราก็ได้เช่นกัน สำหรับเพื่อน ๆ ที่ตัดสินใจแล้วว่าจะไปดูผีเสื้อ ก็อย่าลืมนะคะ โปรดขับช้า ๆ ระวังเหยียบผีเสื้อ ! อัตราค่าเข้าอุทยานฯ ชาวไทย : ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 40 บาท ชาวต่างประเทศ: ผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 200 บาท **อัพเดตค่าบริการตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป** ชาวไทย ผู้ใหญ่ 60 บาท เด็ก 30 บาท ชาวต่างประเทศ ผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 150 บาท อัตราค่าบริการสำหรับยานพาหนะ รถจักรยานยนต์ 20 บาท รถยนต์ 4 ล้อ 30 บาท สอบถามเพิ่มเติม โทร : 032 772 311 : https://goo.gl/maps/QQNb5DoxGV1dp7AF6

Scroll to Top