อาหารท้องถิ่น

ราชบุรี : เที่ยวตลาด – ไหว้พระ – ชมโอ่ง

#ราชบุรี…นับเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจมากมายแถมไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ วัฒนธรรม และสินค้าขึ้นชื่อของจังหวัดอย่างโอ่งมังกร วันนี้แอดมีเส้นทางท่องเที่ยวจังหวัดราชบุรีง่าย ๆ มาแนะนำ ใครที่กำลังหาสถานที่ไปพักผ่อนชิลล์ ๆ ตามแอดมาได้เลย  วันที่ 1 จุดที่ 1 ตลาดน้ำดำเนินสะดวก : ช้อป ชิม ชิลล์ ณ ตลาดน้ำดำเนินสะดวก จุดที่ 2 วัดโพธิ์รัตนาราม : ชมโบสถ์สแตนเลสแห่งที่ 2 ของประเทศไทย จุดที่ 3 รัตนโกสินทร์ ๑ : ชมการผลิตโอ่งทำมือที่มีชื่อเสียง OTOP 5 ดาว  วันที่ 2 จุดที่ 4 ตลาดโอ๊ะป่อย : ตักบาตรพระริมน้ำยามเช้า การเดินทาง รถประจำทาง จากสถานีขนส่งกรุงเทพฯ (สายใต้ใหม่) ไปจังหวัดราชบุรีทุกวัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง รถตู้ จากสถานีขนส่งกรุงเทพฯ (สายใต้ใหม่) จากสถานีขนส่งกรุงเทพฯ (หมอชิต) รถไฟ มีบริการรถไฟจากสถานีรถไฟหัวลำโพง และสถานีรถไฟธนบุรี (บางกอกน้อย) ลงที่สถานีรถไฟราชบุรี เริ่มต้นกันที่ #ตลาดน้ำดำเนินสะดวก ตลาดน้ำที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก โดยคลองดำเนินสะดวกนี้เป็นคลองที่เชื่อมระหว่างแม่น้ำแม่กลองและแม่น้ำท่าจีน โดยปกติตลาดน้ำแห่งนี้จะคึกคักมาก แต่ในช่วงสถานการณ์โรคระบาดที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวลดการเดินทาง ทำให้เงียบเหงาไปมาก ถือโอกาสที่แอดมีโอกาสไปเที่ยวชม เลยขอเก็บบรรยากาศมาฝากให้หายคิดถึงกัน ตอนนี้พ่อค้าแม่ค้าที่ขายของกันในเรือหางยาวเริ่มกลับมาคึกคักกันแล้วนะ ร้านรวงก็กลับมาเปิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านของฝาก ใครที่อยากนั่งเรือชมตลาด ที่นี่มีบริการเรือนำเที่ยวอยู่หลายเจ้า ราคาเริ่มต้นที่ 400 บาท เป็นเรือพาย นั่งได้ 4-5 คน ตลาดน้ำดำเนินสะดวก  51 ตำบลดำเนินสะดวก อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี  เปิดทุกวัน เวลา 08.00-13.00 น.  โทร. 0 3291 9176 ททท. สำนักงานราชบุรี https://goo.gl/maps/MfcsCXp6bqQ8u4Gj8 #วัดโพธิ์รัตนาราม (วัดโพธิ์คู่) ต่อไป เราจะไปที่วัดโพธิ์รัตนาราม อำเภอบ้านโป่ง ซึ่งอยู่ห่างจากอำเภอเมืองประมาณ 40 กิโลเมตร วัดโพธิ์รัตนาราม หรือที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า วัดโพธิ์คู่ เพราะเมื่อก่อนมีต้นโพธิ์ขึ้นคู่กันอยู่หลายคู่ ไฮไลท์ที่ต้องห้ามพลาดคือ อุโบสถสแตนเลส นั่นเอง เดิมอุโบสถสร้างด้วยอิฐและปูน เมื่อบูรณปฏิสังขรณ์ใหม่ มีการหุ้มสแตนเลสครอบหลังเดิมทั้งหลัง โดยด้านในเป็นไม้สักทำให้อากาศไม่ร้อน แถมเย็นสบาย มีพระพุทธชินราชเป็นพระประธานให้เข้าไปกราบสักการะ  หมู่ที่ 5 ตำบลปากแรต อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี  เปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.  โทร. 08 7085 4404 https://goo.gl/maps/G9CT6UNQtAAYMNCYA #รัตนโกสินทร์๑ ถัดมาเราจะมาแวะชมโรงโอ่งรัตนโกสินทร์ ๑ โรงโอ่งมังกรที่ขึ้นชื่อของราชบุรี ที่นี่เป็นที่แรกและที่เดียวที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมวิธีการทำได้ทุกขั้นตอน เริ่มจากการหมักดินสูตรพิเศษ การขึ้นรูป การเผา การวาดลาย สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของโรงโอ่งนี้ก็คือการใช้ฝีมือของช่างนั่นเอง กว่าจะได้โอ่งแต่ละใบ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยค่ะ ต้องผ่านกระบวนการหลายขั้นตอน ทั้งต้องอาศัยความชำนาญและประสบการณ์ของช่างด้วย ซึ่งโอ่งแต่ละขนาดก็จะใช้เวลาการทำไม่เท่ากัน ถ้าถูกใจสินค้าชิ้นไหนก็สามารถช้อปเป็นของฝากกลับบ้านกันได้ มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบเลยล่ะ โรงโอ่งรัตนโกสินทร์ ๑  124 หมู่ 4 ถนนเพชรเกษม ตำบลโคกหม้อ อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี  เปิดทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.  โทร. 0 3233 4664 https://goo.gl/maps/TWokxNbDFCJCFKwS8 #ตลาดโอ๊ะป่อย จากอำเภอเมืองไปอำเภอสวนผึ้ง ระยะทางประมาณ 63 กิโลเมตร เราจะไปกันที่ตลาดโอ๊ะป่อย เป็นตลาดเช้าริมลำน้ำภาชี สำหรับคนที่อยากจะตื่นเช้ามาใส่บาตร แอดแนะนำให้หาที่พักในอำเภอสวนผึ้งค่ะ “โอ๊ะป่อย” เป็นภาษากะเหรี่ยง มีความหมายว่า “พักผ่อน” ตลาดแห่งนี้เกิดจากความร่วมมือของผู้ประกอบการสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวสวนผึ้ง ชุมชน และภาครัฐท้องถิ่น เพื่อสร้างความยั่งยืนให้แก่ชุมชน และให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ บรรยากาศในตลาดน่ารักมาก ร้านค้าสร้างด้วยไม้ไผ่ ดูกลมกลืนกับธรรมชาติ มีพ่อค้าแม่ค้านำสินค้ามาขายกันมากมาย ทั้งของคาว ของหวาน เครื่องดื่ม ของที่ระลึก บอกเลยว่าหลากหลายจริง ๆ สิ่งที่ไม่อยากให้พลาดเมื่อมาที่ตลาดโอ๊ะป่อยก็คือ การตักบาตรพระสงฆ์บนแพไม้ไผ่ยามเช้านั่นเอง โดยพระสงฆ์จะล่องแพมาบิณฑบาตประมาณ 07.30 – 08.00 น. หากใครอยากจะมารอใส่บาตร แนะนำให้มาก่อนเวลาสักครึ่งชั่วโมง  ตรงข้ามวัดป่าท่ามะขาม ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี  เปิดวันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 07.00 – 14.00 น.  09 2371 7799 https://goo.gl/maps/BYa4k9y9q5xbzWVD6

ราชบุรี : เที่ยวตลาด – ไหว้พระ – ชมโอ่ง อ่านเพิ่มเติม

หมู่บ้านมอญห้วยน้ำใส

วันนี้แอดจะชวนเพื่อน ๆ ไปเที่ยวหมู่บ้านเล็ก ๆ กลางหุบเขาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์จากธรรมชาติ และอบอุ่นด้วยวัฒนธรรมชาวบ้านของชาวมอญ หมู่บ้านนี้ก็คือ หมู่บ้านมอญห้วยน้ำใส ที่จังหวัดราชบุรี หมู่บ้านมอญห้วยน้ำใสเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ชายแดนตะวันตกของอำเภอสวนผึ้ง มีอากาศเย็นและชื้นตลอดทั้งปีเนื่องจากอยู่ติดกับเทือกเขาตะนาวศรี เรียกได้ว่าเป็นหมู่บ้านท่ามกลางหุบเขา ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นชาวไทยเชื้อสายมอญ เอกลักษณ์ของที่นี่คือ วัฒนธรรมการตักบาตรของชาวมอญ เรียกว่า “จู๊ดเปอป๊าด” แปลว่าตักบาตร จัดขึ้นทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เริ่มประมาณ 08.00 น. โดยขบวนแถวของพระสงฆ์จะทะยอยเดินออกมารับบิณฑบาตจากญาติโยมและนักท่องเที่ยว  ตามด้วยขบวนสาว ๆ ชาวมอญเทินสิ่งของต่าง ๆ บนหัว แอดว่าเป็นประเพณีของชาวมอญที่น่ารักมาก ๆ เลยค่ะ ความน่ารักของเด็ก ๆ ที่แต่งชุดพื้นเมือง ในหมู่บ้านจะมีตลาดหมู่บ้านมอญให้นักท่องเที่ยวได้มาช้อป มาชิมกันอย่างสนุกสนาน มีสินค้าพื้นบ้าน ขนมพื้นเมือง ชุดชาวมอญ รวมทั้งอาหารและเครื่องดื่มอื่น ๆ ในหมู่บ้าน มีจุดถ่ายภาพสวย ๆ หลากหลายมุม ที่ฮ็อตฮิตที่สุดเห็นจะเป็นกำแพงรั้วไม้ไผ่สองข้างทางในถนนกลางหมู่บ้าน : ) ในการเดินทางมาที่นี่ เมื่อจอดรถที่ลานจอดแล้ว เพื่อน ๆ ต้องเดินมายังหมู่บ้าน ระยะทางประมาณ 500 เมตร คนที่ไม่ค่อยได้เดินอาจเหนื่อยนิดหน่อย เพราะเป็นทางขึ้นเขา แต่ถ้าไม่อยากเดิน สามารถขึ้นรถสองแถวรับ-ส่ง ไปยังตลาดของหมู่บ้านได้ ราคาคนละ 10 บาท  ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี เปิดวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 07.00-16.00 น.https://goo.gl/maps/nsunQTsi7hNWBj9V9

หมู่บ้านมอญห้วยน้ำใส อ่านเพิ่มเติม

✨ เที่ยวเมืองปราสาทหินถิ่นอีสานใต้ ณ บุรีรัมย์ ✨

บุรีรัมย์ ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยปราสาทหินที่งดงามแห่งหนึ่งในดินแดนอีสานใต้ ทั้งยังเป็นจังหวัดที่มีภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้วหลายลูก ซึ่งแต่ละจุดกลายเป็นแหล่งก่อกำเนิดอารยธรรม ประวัติศาสตร์ และสร้างเอกลักษณ์ให้กับชุมชนอย่างน่าประทับใจ วันนี้ แอดมีเส้นทางท่องเที่ยวบุรีรัมย์ 2 วัน 1 คืน ที่จะพาเพื่อน ๆ ไปสนุกกับกิจกรรมภายในชุมชน และเยี่ยมชมปราสาทหินอันเก่าแก่กัน  วันที่ 1 1 ชมปราสาทหินเลื่องชื่อที่อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง 2 ชมปราสาทขอมแบบบาปวนที่ปราสาทหินเมืองต่ำ 3 รับประทานอาหารท้องถิ่น พร้อมสนุกกับการย้อมผ้าภูอัคนีที่ชุมชนบ้านเจริญสุข 4 ชมวัดสีแดงอิฐที่วัดเขาอังคาร  วันที่ 2 5 ถ่ายรูปเช็คอินที่เสาหินบะซอลต์ ภูเขาไฟบุรีรัมย์ 6 ชมปากปล่องภูเขาไฟที่วนอุทยานเขากระโดง  การเดินทาง นอกจากรถยนต์ส่วนตัวแล้ว ยังสามารถเดินทางด้วยวิธีต่าง ๆ ดังนี้  รถโดยสารประจำทาง ขึ้นได้ที่สถานีหมอชิต บริษัท ขนส่ง จำกัด โทร. 1490 บริษัท นครชัยแอร์ จำกัด โทร. 1624 บริษัท กิจการทัวร์ จำกัด โทร. 02 976 3806 หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดบุรีรัมย์ โทร. 044 612 534  รถไฟ จากสถานีรถไฟกรุงเทพฯ มีบริการรถไฟ สายกรุงเทพฯ-สุรินทร์ และ กรุงเทพฯ-อุบลราชธานี ซึ่งจะผ่านและจอดที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์ทุกขบวน สอบถามข้อมูลได้ที่ การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. 1690 สถานีรถไฟบุรีรัมย์ โทร. 044 661 202 หรือ www.railway.co.th  เครื่องบิน สายการบินนกแอร์ ไป-กลับวันละ 2 เที่ยวบิน สอบถามโทร. 1318 หรือจองออนไลน์ https://www.nokair.com/ สายการบินแอร์เอเชีย ไป-กลับ วันละ 1 เที่ยวบิน สอบถามหรือจองออนไลน์ https://www.airasia.com/th/th  วันที่ 1 อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง  เริ่มต้นทริปกันที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ แอดจะพาเพื่อน ๆ ไปชมความรุ่งเรืองแห่งอารยธรรมในอดีต ที่ “อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง” หรือที่เราเรียกกันสั้น ๆ ว่า ปราสาทหินพนมรุ้ง หรือ เขาพนมรุ้งนั่นเอง ปราสาทหินพนมรุ้ง เป็นโบราณสถานเก่าแก่และมีความสำคัญมากแห่งหนึ่งของไทย ตั้งอยู่บนยอดเขาพนมรุ้ง ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว มีรูปแบบเป็นศิลปะเขมรโบราณที่แผ่อิทธิพลเข้ามามากในแถบภาคอีสานใต้ “พนมรุ้ง” หรือ “วนํรุง” เป็นภาษาเขมร แปลว่า “ภูเขาอันกว้างใหญ่” โดยคำนี้ปรากฏอยู่ในศิลาจารึกอักษรขอมที่พบที่ปราสาทหินพนมรุ้ง และยังปรากฏชื่อผู้สร้างปราสาท คือ “นเรนทราทิตย์” เชื้อสายราชวงศ์มหิธรปุระ ผู้เกี่ยวข้องเป็นพระญาติกับพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ผู้สร้างปราสาทนครวัด ด้วยพื้นที่อันกว้างขวาง มีปราสาทประธาน ซึ่งเป็นศูนย์กลางศาสนสถาน ภายในเรือนธาตุมีห้องต่าง ๆ ที่ประดิษฐานเทวรูปตามคติความเชื่อของฮินดู นอกจากนี้ยังมีอาคารต่าง ๆ พลับพลา บรรณาลัย ทางเดินเสานางเรียง สะพานนาคราช ซุ้มประตู ระเบียงชั้นใน และปรางค์น้อย นอกจากความงามของโบราณสถานแห่งนี้แล้ว ยังมีภาพจำหลักประดับตามส่วนต่าง ๆ ของปราสาทประธาน เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเทพเจ้าในศาสนาฮินดู ไฮไลต์ที่ห้ามพลาดคือ “ทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์” โดยฝีมือช่างชั้นสูง มีลวดลายที่ละเอียดและงดงามตามแบบศิลปะขอม  ปราสาทหินพนมรุ้ง มีทางเข้าทั้งหมด 3 ทาง โดยทางเข้าที่ 1 และ 2 เป็นทางเข้าด้านหน้าซึ่งจะต้องเดินขึ้นเขาตามทางบันได ใช้เวลาเดินราว ๆ ครึ่งชั่วโมงไปถึงตัวปราสาท มีความสูงชัน เพื่อน ๆ สามารถเพลิดเพลินกับธรรมชาติและบรรยากาศรอบ ๆ ได้ หรือถ้าอยากเดินน้อย ๆ ก็สามารถขับรถขึ้นเขาไป แล้วใช้ทางเข้าที่ 3 ลานจอดรถจะอยู่ใกล้ ๆ กับปราสาทเลย  อัตราค่าเข้าชม ชาวไทย 20 บาท ต่างชาติ 100 บาท หากไปชมปราสาทหินเมืองต่ำด้วย สามารถซื้อตั๋วเหมาได้ ชาวไทย 30 บาท ต่างชาติ 150 บาท  ตำบลตาเป๊ก อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์  เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 06.00-18.00 น.  044 666 251-2 https://goo.gl/maps/yWnKAEJdBiyfH5mA9 ปราสาทหินเมืองต่ำ  จากปราสาทหินพนมรุ้งไป 8 กิโลเมตรที่อำเภอประโคนชัย มีปราสาทหินขนาดใหญ่อยู่อีก 1 แห่ง นั่นคือ “ปราสาทหินเมืองต่ำ” เป็นปราสาทขอมที่มีสถาปัตยกรรมสวยงาม มีลักษณะของศิลปะขอมแบบบาปวน ปนด้วยศิลปะขอมแบบคลัง ภาพจำหลักส่วนใหญ่เป็นภาพเทพในศาสนาฮินดู ภายในปราสาท มีปรางค์อิฐ 5 องค์สร้างอยู่บนฐานเดียวกัน ปัจจุบันได้เสื่อมสลายไปมาก โดยองค์ปรางค์ประธานเหลือแต่เพียงฐาน นอกจากนี้ ยังมีกำแพงแก้ว ซุ้มประตู บรรณาลัย และบาราย(บ่อน้ำ) รอบ ๆ ปราสาท โดยมีบารายขนาดใหญ่อยู่ทางทิศเหนือของปราสาท ชาวบ้านเรียกกันว่า “ทะเลเมืองต่ำ” สิ่งที่สะดุดตาแอดมากคือ พญานาคภายในปราสาทเมืองต่ำ ที่มีลักษณะไม่เหมือนที่ไหน เพราะเป็นพญานาคที่ไม่มีหงอน ไม่มีเครื่องประดับศีรษะ ไม่ได้ชำรุดหรือว่าเสียหายแต่อย่างใด แต่เป็นการสลักพญานาคตามศิลปะแบบบาปวนนั่นเอง  ตำบลจรเข้มาก อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์  เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 06.00-18.00 น.  044 666 251-2 (อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง) https://goo.gl/maps/92UhWwjtSuewZT8a9 ชุมชนบ้านเจริญสุข

✨ เที่ยวเมืองปราสาทหินถิ่นอีสานใต้ ณ บุรีรัมย์ ✨ อ่านเพิ่มเติม

🌾 แซตอม ออร์แกนิค ฟาร์ม (Satom Organic Farm) 🌾

#สุรินทร์ เป็นจังหวัดที่ขึ้นชื่อว่ามีข้าวหอมมะลิแสนอร่อย ไม่ว่าจะไปรับประทานอาหารร้านไหนในจังหวัดสุรินทร์ก็ต้องฟินกับข้าวสวยร้อน ๆ แทบทุกร้าน แต่เชื่อไหมว่า ข้าวหอมมะลิ ยังมีแยกประเภทย่อยลงไปอีก วันนี้ แอดเลยจะพาเพื่อน ๆ ไปเรียนรู้ พร้อมสัมผัสวิถีแห่งเกษตรอินทรีย์ นำสู่วิถีชีวิตที่ยั่งยืน ที่ แซตอม ออร์แกนิค ฟาร์ม #แซตอมออร์แกนิคฟาร์ม‘ 📍 174 หมู่ 1 ตำบลเมืองลีง อำเภอจอมพระ จังหวัดสุรินทร์ 📞 061 165 1848, 089 474 0199 🌐 https://goo.gl/maps/hfxQ7rGDMDNR4PtK9 📲 ช่องทางติดต่อแบบออนไลน์ https://bit.ly/3lpTBhW แซตอม ออร์แกนิค ฟาร์ม เป็นทั้งแหล่งผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์ โดยเน้นที่ข้าวพื้นเมือง และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากข้าว  “แซตอม” เป็นภาษาพื้นเมืองชาวกวย หรือ กูย ในจังหวัดสุรินทร์ แปลว่า “นาที่ตั้งอยู่ริมห้วย” เพราะบริเวณทุ่งแซตอมเป็นที่ราบลุ่มแม่น้ำลำชี มีความอุดมสมบูรณ์ เหมาะแก่การเพาะปลูก ทำการเกษตร ในอดีต ชุมชนแถบนี้ทำเกษตรกรรมโดยใช้ปุ๋ยเคมี รวมทั้งใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชและวัชพืชต่าง ๆ จนเกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงตัวเกษตรกรและผู้บริโภค จากสาเหตุนี้ ทางแซตอม ออร์แกนิค ฟาร์ม จึงเริ่มต้นทำเกษตรอินทรีย์ และกลายเป็น วิสาหกิจชุมชน มีการรวมกลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตข้าวอินทรีย์ และไม่เพียงแค่ส่งเสริมการทำเกษตรอินทรีย์ แต่ยังส่งเสริมให้ที่นี่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกด้วย  รอบ ๆ บริเวณนี้เป็นทุ่งนา หากใครมาไม่ทันช่วงที่ทุ่งนาเขียวขจี ก็ไม่ต้องเสียใจไปนะ ยังมีทุ่งปอเทืองที่ปลูกไว้หลังเก็บเกี่ยวให้เพื่อน ๆ ได้ชม ถ่ายรูปสวย ๆ และยังมีจักรยานให้ยืมปั่นฟรีด้วยนะ วันที่แอดไป แอดได้ลองรับประทาน “ข้าวยำกุ้งจ่อม” ด้วยนะ เป็นเมนูที่ใช้กุ้งฝอยหมักเกลือเก็บไว้จนเปรี้ยวได้ที่แล้วนำมาปรุงสุก ผัดใส่ข่าอ่อน จากนั้น นำมาคลุกกับข้าวกล้องผกาอำปึล โรยสมุนไพรต่าง ๆ เสิร์ฟคู่กับผักสด อร่อยจนลืมไม่ลงเลยล่ะ ที่นี่มีส่วนของที่พักด้วย เพื่อน ๆ สามารถมาพักที่ “แซตอม ฟาร์มสเตย์” ดื่มด่ำบรรยากาศทุ่งแซตอมได้ตลอดทั้งปี ในตอนกลางคืน ก็มีหิ่งห้อยรอบ ๆ คูน้ำให้เราได้ชมแสงระยิบระยับ ใครที่ติดใจข้าวแสนอร่อยของที่นี่ก็สามารถซื้อกลับไปหุงรับประทานกันที่บ้านได้ แซตอม ออร์แกนิค ฟาร์ม มีผลิตภัณฑ์จากข้าวมากมายหลายชนิด ทั้ง ข้าวหอมมะลิสุรินทร์ มะลินิลสุรินทร์ มะลิโกเมนสุรินทร์ ข้าวผกาอำปึล ข้าวเหนียวแดง รวมถึงผลิตภัณฑ์แปรรูปอย่าง “สาโท” ที่ปัจจุบันสามารถวางจำหน่ายได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพิ่มมูลค่าให้กับข้าวได้อย่างดี เพื่อน ๆ ที่สนใจไปเยี่ยมชม ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับทางแซตอม ออร์แกนิค ฟาร์ม ได้โดยตรง นอกจากนี้ สำหรับเพื่อน ๆ ที่สนใจกิจกรรมท่องเที่ยวอื่น ๆ ของจังหวัดสุรินทร์ แซตอม ออร์แกนิค ฟาร์ม ยังช่วยประชาสัมพันธ์กิจกรรมในแหล่งท่องเที่ยวของชุมชนบริเวณใกล้เคียงให้เพื่อน ๆ ได้ไปเพลิดเพลินกันด้วย เช่น การพายเรือคายัคในลุ่มแม่น้ำชี อาบน้ำให้ช้าง ชมปราสาทหินจอมพระ เยี่ยมชมหมู่บ้านทอผ้าไหม เป็นต้น

🌾 แซตอม ออร์แกนิค ฟาร์ม (Satom Organic Farm) 🌾 อ่านเพิ่มเติม

✨ กินอร่อย ท่องคลื่นสนุก @ภูเก็ต-พังงา 2 วัน 1 คืน ✨

การพักผ่อนในวันหยุดของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนชอบดูซีรีส์ บางคนชอบช้อปปิ้ง แต่ถ้าชอบเที่ยวแบบมีกิจกรรมท้าทาย โดยเฉพาะกิจกรรมทางน้ำ ตามมาทางนี้ แอดมีโปรแกรมเที่ยวสั้น ๆ ภูเก็ต-พังงา มาแนะนำ ทริปนี้กิจกรรมเพียบ อยู่ยาวได้ทั้งวัน ไม่ต้องเปลี่ยนที่บ่อย ๆ จุดประสงค์หลัก ๆ ของทริปนี้ คือมาเล่นเซิร์ฟบอร์ดที่ เขาหลัก จ.พังงา และหาของกินอร่อย ๆ ในตัวเมืองภูเก็ต สำหรับเพื่อน ๆ ที่มีเวลาน้อย หรือมีวันหยุดแค่ช่วงเสาร์-อาทิตย์เหมือนแอด แนะนำให้เดินทางด้วยเครื่องบินมาลงที่สนามบินภูเก็ตเพื่อประหยัดเวลา แอดเลือกไฟล์ตเช้า และเช่ารถขับเที่ยวเพื่อความสะดวก โดยเพื่อน ๆ สามารถใช้บริการเช่ารถขับได้ที่สนามบิน มีหลายบริษัทให้เลือก ราคาอยู่ที่ราว ๆ 800 -1,000 บาท/วัน ตารางเที่ยว วันที่ 1 สนุกกับการเรียนและเล่นเซิร์ฟ ที่ Memories Beach Bar วันที่ 2 อร่อยกับร้านอาหารมิชลินไกด์ ในภูเก็ต วันที่ 1Memories Beach Barจากสนามบินภูเก็ตไป Memories Beach Bar ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง ถ้าไม่แวะรับประทานอาหาร แนะนำให้ ซื้อเสบียงรองท้องไปด้วย ให้เลือกอาหารที่ย่อยง่าย ให้พลังงานเลย เช่น กล้วย ขนมปังขาว น้ำหวาน และดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอก่อนลงน้ำ เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดตะคริว เพื่อน ๆ สามารถปักหมุดใน Google ได้เลย ไม่มีหลงแน่นอน ตรงทางเข้าจะมีป้ายบอกชัดเจน เมื่อเลี้ยวเข้าไปจะเจอสวนมะพร้าว จากปากทางเข้าไปประมาณ 2 กิโลเมตรนิด ๆ ก็ถึงที่หมายแล้ว ก่อนหน้านี้ แอดรู้สึกว่า การเล่นเซิร์ฟ (Surf) เป็นกิจกรรมที่ไกลตัวมาก แต่หลายคนรอบตัวที่เคยมาที่นี่ต่างพูดว่า “ไปสักครั้งแล้วจะติดใจจนไม่อยากกลับ” แอดเลยอยากมาลองเล่นดูสักครั้ง เมื่อมาถึง แอดรู้สึกว่าตื่นเต้นกว่าที่คิดเยอะ เสียงลมเสียงคลื่นช่วยให้รู้สึกตื่นตัวสุด ๆ ที่นี่มีทั้งบาร์ ร้านอาหาร ที่พัก และโรงเรียนสอนโต้คลื่น เรียกว่าเป็นที่รวมตัวของเหล่านักท่องคลื่นเลยทีเดียว Memories Beach Bar ตั้งอยู่ที่หาดปะการัง ที่นี่มีโรงเรียนสอนโต้คลื่นอยู่ถึง 3 โรงเรียน และยังมี Memories Boat Bar บาร์หน้าหาดที่มีการยกเรือขึ้นบก เพื่อสร้างบรรยากาศเอาใจเพื่อน ๆ สายดริ๊งค์ รวมทั้งมีร้าน Rip Curl สาขา Memories Beach Bar ร้านสำหรับนักช็อปแห่งสายน้ำที่มีอุปกรณ์พร้อม เพื่อน ๆ ที่มาเที่ยวทะเล สามารถมาเลือกช้อปปิ้ง พรอพก่อนลงน้ำกันได้ เพื่อน ๆ ที่สนใจสามารถติดต่อล่วงหน้าได้ คราวนี้ แอดก็โทรมาสอบถามและจองเวลาเรียนเซิร์ฟบอร์ดไว้ก่อน โดยเลือกเรียนแบบ Try Surf เป็นการเรียนพื้นฐานต่าง ๆ อย่างการทรงตัว การยืนบนบอร์ด สัญญาณมือ ราว ๆ 45 นาที จากนั้นจะเป็นการลองเล่นจริงประมาณ 1 ชั่วโมง โดยจะมีผู้เชี่ยวชาญดูแลตัวต่อตัว ปล. แม้ว่าน้ำบริเวณนี้จะลึกราว ๆ อก แต่ถ้าใครว่ายน้ำไม่เป็นให้แจ้งได้เลย ทางผู้สอนจะดูแลเป็นพิเศษระหว่างลงน้ำ แม้ตอนแรกแอดจะกลัว ๆ เกร็ง ๆ เพราะไม่เคยเล่นมาก่อน แต่คนสอนก็ใจเย็นมาก ค่อย ๆ อธิบายตั้งแต่วิธีการว่ายน้ำบนบอร์ดไปจนถึงบอกให้จับคลื่นตอนไหน กว่าจะยืนได้ก็ทุลักทุเลพอสมควร แต่พอยืนได้ เริ่มจับทางได้ก็ภูมิใจไม่น้อย ตกน้ำบ้าง ยืนได้บ้าง สนุกดี รอบข้างก็มีแต่เสียงเชียร์กันยกใหญ่ ยิ่งเวลาที่คลื่นพาเราที่ยืนบนบอร์ดมาส่งจนถึงฝั่งได้นะ บอกเลย ใจพองสุด ๆ ตกบ่าย หากยังไหวสามารถเช่าบอร์ดลงไปเล่นน้ำต่อได้ หรือไม่ก็ไปเล่นวอลเลย์บอลชายหาดก็ได้ จะมีพี่ ๆ ที่ร้านอาหาร และครูสอนเซิร์ฟคอยชวนเล่นด้วยแบบสนุก ๆ เล่นได้ยาว ๆ เลย พักบ้าง กลับมาแจมบ้างก็ได้ตามความชิลล์ของเพื่อน ๆ ตอนเย็นช่วงพระอาทิตย์กำลังจะตก แนะนำให้รีบมานั่งแถวหน้าบาร์แล้วสั่งเครื่องดื่มเย็น ๆ มาจิบพร้อมชมวิวพระอาทิตย์ตกแบบแอด ความรู้สึกที่น่าจะเหนื่อยจากการเล่นมาทั้งวันมันหายไปเลยล่ะ กลายเป็นความประทับใจ และความสนุกที่ได้มาเจอธรรมชาติแบบนี้แทน **ทุกคืนวันศุกร์จะมีโชว์ควงกระบองไฟ ซึ่งคนควงก็คือครูสอนเซิร์ฟและพี่ ๆ ที่ร้านอาหารนั่นแหละ ส่วนเรื่องที่พัก สามารถดูรายละเอียดได้ที่ https://www.bettersurfthailand.com/surf-stay มีให้เลือกหลายระดับราคา เริ่มตั้งแต่ 350 บาท ไปจนถึง 2,000 บาทเลยล่ะ ฤดูกาลโต้คลื่นที่เขาหลัก คือระหว่างพฤษภาคม – กันยายน ซึ่งเป็นช่วงมรสุม คลื่นแรง เหมาะกับการเล่นเซิร์ฟ ที่พักราคาถูก ส่วนช่วงเดือนตุลาคม – เมษายน ซึ่งเป็นช่วง high season คลื่นลมจะสงบ น้ำใส ไม่ค่อยมีคลื่นให้เล่นเซิร์ฟ แต่จะเหมาะกับการเที่ยวเกาะฝั่งอันดามัน เช่น หมู่เกาะสิมิลัน หมู่เกาะสุรินทร์ ค่าใช้จ่าย ค่าเรียนเซิร์ฟ 1200 บาท ค่าเช่าบอร์ด ชั่วโมงละ 200 บาท 2 ชั่วโมง 300 บาท เหมาจ่ายทั้งวัน 500 บาท  : หาดปะการัง ตำบลคึกคัก อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา  : เปิดทุกวันเวลา 10.00-21.00

✨ กินอร่อย ท่องคลื่นสนุก @ภูเก็ต-พังงา 2 วัน 1 คืน ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨วิถีชีวิตริมคลอง จอมทอง-บางประทุน✨

ใน 1 วันไม่ไกล #กรุงเทพฯ วันนี้ แอดจะพาเพื่อน ๆ ไปชมวิถีชีวิตชาวบ้านคลองบางประทุน เขตจอมทอง ฝั่งธนบุรี ที่ยังมีพื้นที่สีเขียวมากมาย มีลำคลองหลายสาย ชาวบ้านประกอบอาชีพทำสวนเป็นหลัก และเป็นที่ที่ใครหลายคนอาจไม่เคยแวะเวียนไป แน่นอนว่า…วันนี้เราจะพาไปนั่งเรือเที่ยวคลองกันค่ะ 🥰บอกเลยว่าเพื่อน ๆ จะหลงรักธรรมชาติและความเป็นอยู่ตามวิถีชีวิตชาวคลองแบบดั้งเดิมแบบแอด เอาล่ะ…เราไปรู้จักและสัมผัสวิถีริมคลอง #บางประทุน เริ่ม!! วิถีริมคลอง จอมทอง-บางประทุน นั่งเรือชมสวน วิถีชีวิตชาวบ้านบางประทุน ลิตเติลแอมะซอน เดินทอดน่องในสวนมะพร้าวสวนพี่โม่ง ชิมขนมใส่ไส้โบราณ บ้านลุงเปี๊ยก ชมวิธีทำตะลิงปลิงแช่อิ่มและกล้วยบ่มโบราณ บ้านป้าหน่วน ชิลล์ในสวนร่มรื่นที่ภูมิใจการ์เด้น การเดินทาง รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวเข้ม (สายสีลม) ลงที่สถานีวุฒากาศ แล้วต่อรถแท็กซี่ประมาณ 8-9 กิโลเมตร มาลงที่วัดบางประทุนนอก รถไฟ ใช้บริการรถไฟสายวงเวียนใหญ่-มหาชัย ลงที่สถานีจอมทอง ซึ่งตั้งอยู่หลังวัดราชโอรสาราม ราชวรวิหารแล้วต่อรถแท็กซี่ประมาณ 8-9 กิโลเมตร มาลงที่วัดบางประทุนนอก หรือลงที่สถานีวัดไทร แล้วเดินไปที่วัดบางประทุนนอก ระยะทางประมาณ 800 เมตร รถยนต์ สามารถนำมาจอดได้ที่ วัดไทร วัดบางประทุนนอก และภูมิใจการ์เด้น  พิกัด : https://goo.gl/maps/PsT7QE4mtUZeuMG89 คลองบางประทุน คลองสายเล็ก ๆ ที่เชื่อมต่อระหว่างคลองภาษีเจริญและคลองด่าน (คลองมหาชัย) เป็นเส้นทางที่ชาวบ้านใช้สัญจรโดยเรือ เดิมชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพชาวสวน แม้ปัจจุบันจะลดลงไปมาก เนื่องจากมีความเจริญของเมืองเข้ามามากขึ้น แต่ชีวิตริมคลองบางประทุนก็ไม่ได้เลือนหายไปค่ะ ยังมีพื้นที่สีเขียวอยู่มาก จนชาวบ้านเรียกกันว่าเป็น ลิตเติลแอมะซอน ทริปนี้เราจะล่องเรือไปตามคลองบางประทุน โดยใช้บริการเรือรับจ้างของพี่หลิม ชาวบ้านบางประทุนตัวจริงเสียงจริง ทำให้รู้สึกเหมือนเป็นเพื่อนเดินทางให้กับเราเลยค่ะ ถ้าใครอยากไปเส้นทางที่แอดพาชมในวันนี้ แนะนำให้ติดต่อพี่หลิม เพื่อประสานกับชาวบ้าน ไม่อย่างนั้นอาจจะได้นั่งเรือชมอย่างเดียว ระยะเวลานั่งเรือขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่เราไปชมกันค่ะ สามารถขึ้นเรือได้ที่ท่าน้ำบางประทุนนอก ราคาเที่ยวละ 40 บาท แต่ถ้าต้องการเหมาเรือทั้งวัน ติดต่อสอบถามได้โดยตรงเลยค่ะ ติดต่อสอบถามได้ที่เรือรับจ้างคลองบางประทุน โทร. 08 6783 7555 (พี่หลิม) ระหว่างทางจะได้เจอกับสวนมะพร้าวที่ยังยืนต้นเติบโตเป็นพื้นที่สีเขียวอยู่ไม่น้อย สวนที่พี่หลิมพาไปชมคือสวนพี่โม่ง ชาวสวนที่เกิดและเติบโตในบางประทุน ที่นี่ยังคงมีมะพร้าวหนาแน่น เติบโตให้ผลผลิตมาก สามารถนำไปขายได้สม่ำเสมอ ลูกค้าบางรายก็ติดต่อมาซื้อถึงสวนกันเลยก็มี จากสวนมะพร้าว มาชมการทำขนมที่บ้านลุงเปี๊ยก ว่ากันว่าทีเด็ดคือ ขนมใส่ไส้ ซึ่งมีเอกลักษณ์และอร่อยไม่เหมือนใคร ลุงเปี๊ยกใช้วัตถุดิบจากมะพร้าวอ่อนจากสวน ใครอยากลองลิ้มรสความอร่อย แนะนำให้สั่งล่วงหน้าหรือสามารถแวะไปชิมกันที่ตลาดนัดวัดไทรได้เช่นกัน ไปต่อกันที่บ้านป้าหน่วน ขึ้นชื่อเรื่องตะลิงปลิงแช่อิ่ม แอดยืนยันเลยว่า อร่อยจริง ๆ ค่ะ แวะบ้านนี้ยังจะชมการบ่มกล้วยหอม กล้วยน้ำว้าแบบโบราณในโอ่งที่หาชมได้ยากอีกด้วย ล่องเรือชมสวนกันไปแล้ว ไม่ไกลกันมากนัก แอดจะชวนไปนั่งคาเฟ่ในสวนย่านบางขุนเทียนที่ ภูมิใจการ์เด้น พื้นที่สีเขียวที่อุดมสมบูรณ์ มีผลไม้อย่างลิ้นจี่อายุนับร้อยปี และไม้พื้นถิ่นอื่น ๆ ที่เจ้าของภูมิใจการ์เด้นดูแลรักษาอย่างดี เรียกได้ว่าเป็นสวนที่ตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น สำหรับผู้ที่ไม่ได้ติดต่อล่องเรือพี่หลิม จะใช้บริการเรือที่ภูมิใจการ์เด้นก็ได้ ราคา 500-1,000 บาท นั่งได้ 10 คน จะบริการนำเที่ยวโดยรอบ แต่อาจจะไม่ได้เข้าถึงตามคลองชาวบ้าน เนื่องจากจะเป็นเรือลำใหญ่กว่าค่ะ : ) ในบริเวณภูมิใจการ์เด้น ยังมี Natura Garden Cafe คาเฟ่เก๋ ๆ ริมน้ำให้นั่งเล่น มีเมนูทั้งคาวหวาน น่ารับประทานมาก โดยเฉพาะสายหวาน ต้องไม่พลาดชิมเมนูเครื่องดื่มและเบเกอรีจากผลไม้ตามฤดูกาล เช่น ลิ้นจี่ ตะลิงปลิง มะยงชิด มะพร้าว ฯลฯ  9,3 หมู่ 6 ถนนจอมทอง แขวงจอมทอง เขตจอมทอง กรุงเทพฯ  เปิดทุกวันเวลา 10.00-18.00 น.  โทร. 08 5123 1386 https://goo.gl/maps/2DxrvtYivexZJyyW8

✨วิถีชีวิตริมคลอง จอมทอง-บางประทุน✨ อ่านเพิ่มเติม

อังแกบบอบ อาหารถิ่นดินแดนอีสานใต้

เพื่อน ๆ เป็นเหมือนกันไหม เวลาเดินทางไปยังต่างถิ่น นอกจากได้ไปเที่ยวชมสถานที่แปลกใหม่สวยงามแล้ว การได้ชิมอาหารถิ่นรสเลิศก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เราอยากไปสัมผัส วันนี้ แอดมีอาหารถิ่นชื่อ “อังแกบบอบ” มาแนะนำ อังแกบบอบ เป็นภาษาเขมร แปลว่า “กบยัดไส้ย่าง” นิยมรับประทานในหมู่ชาวกัมพูชาและชาวกูย(กวย) กลุ่มชาติพันธุ์ดั้งเดิมที่อาศัยอยู่ทางแถบอีสานใต้ วิธีทำ เริ่มจากนำ “กบ” ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักมาตัดแต่งและล้างทำความสะอาด จากนั้นแบ่งกบบางส่วนไปสับและปรุงรสรวมกับสมุนไพรต่าง ๆ ได้แก่ กะเพรา ตะไคร้ พริก กระเทียม แล้วนำกลับไปยัดในตัวกบ แล้วย่างด้วยไฟอ่อนจนสุก เมื่อรับประทาน มีรสชาติคล้ายไส้กรอกอีสาน 😋 อังแกบบอบ เป็นอาหารถิ่นในแถบอีสานใต้ ได้แก่ จังหวัดสุรินทร์ นอกจากนี้ก็ยังพบในจังหวัดศรีสะเกษด้วยเช่นกัน หากเพื่อน ๆ มีโอกาสไปท่องเที่ยวแล้วอยากลอง ก็หารับประทานได้ไม่ยาก

อังแกบบอบ อาหารถิ่นดินแดนอีสานใต้ อ่านเพิ่มเติม

หลีกหนีความวุ่นวาย ลองใช้ชีวิตช้า ๆ ที่ บ้านนาต้นจั่น จ.สุโขทัย

นอนโฮมสเตย์ ชมทะเลหมอก ใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ ⛰ ปักหมุด อ.ศรีสัชนาลัย ที่ #บ้านนาต้นจั่น 🛏🌿 ออกมาใช้ชีวิตเรียบง่ายท่ามกลางชุมชน หลีกหนีความวุ่นวาย ลองใช้ชีวิตช้า ๆ ที่ #บ้านนาต้นจั่น หมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ที่นี่เราจะได้สัมผัสความสุขเล็ก ๆ ที่เกิดจากการเรียนรู้วิถีชีวิต ประสบการณ์ที่หาไม่ได้ในเมืองกรุง ซึ่งต้องบอกเลยว่าเสน่ห์ของหมู่บ้านแห่งนี้คือความเป็นอยู่ ธรรมชาติและความน่ารักของชาวบ้านในชุมชนจริง ๆ #เที่ยวสนุกราคาสบายกระเป๋า ในส่วนของกิจกรรมที่นี่ก็มีให้เลือกทำหลากหลายมาก ๆ ถ้ามีเวลาอยากให้ลองทุกอยากเลย เช่น ปั่นจักรยานชมหมู่บ้าน นั่งรถอีแต๊ก ลิ้มลองมะนาวน้ำผึ้ง อาหารพื้นบ้าน อาหารถิ่นขันโตก และข้าวเปิ๊บล้มยักษ์ ดูหมอกยามเช้าที่จุดชมวิวห้วยต้นไฮ ชมพระอาทิตย์ตก ถ่ายรูปกับสวนดอกไม้สวย ๆ ที่สะพานนา สะพานไม้ไผ่ ชมสาธิตการทอผ้า วิธีการทำผ้าหมักโคลน ตักบาตรตอนเช้า ฯลฯ ซึ่งทั้งหมดนี้ราคาเริ่มต้นหลักร้อยเท่านั้น แต่รับรองว่าได้ความสุขกลับไปเต็มอิ่มหลักล้านแน่นอน คือคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม! พิกัด : บ้านนาต้นจั่น ต.บ้านตึก อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย 64130 https://goo.gl/maps/yAgoGmJ99kinAxSb8 สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08 8495 7738 Facebook : โฮมสเตย์บ้านนาต้นจั่น จังหวัดสุโขทัย

หลีกหนีความวุ่นวาย ลองใช้ชีวิตช้า ๆ ที่ บ้านนาต้นจั่น จ.สุโขทัย อ่านเพิ่มเติม

ขนมกวนขาว จ.นครศรีธรรมราช

วันนี้แอดมีขนมพื้นบ้านหารับประทานได้ยากของ จ.นครศรีธรรมราช มาแนะนำ ขนมที่ว่านี้ก็คือ “ขนมกวนขาว” มีลักษณะเป็นก้อนแป้งสีขาว เนื้อนิ่มคล้ายขนมเปียกปูน รสชาติอมหวาน ราดด้วยน้ำกะทิที่มีรสเค็มเล็กน้อย แล้วโรยด้วยถั่วคั่วหอม ๆ ช่วยเพิ่มมิติความกรอบในการเคี้ยว ทำให้อร่อยมากยิ่งขึ้น ซึ่งหากเพื่อน ๆ มีโอกาสได้ไป จ.นครศรีธรรมราช แอดแนะนำว่าอย่าลืมที่จะลองเจ้าขนมกวนขาวนี้เลยนะ

ขนมกวนขาว จ.นครศรีธรรมราช อ่านเพิ่มเติม

✨เที่ยวสตูล คูลทุกที่ ครบทุกแนว✨

หากพูดถึง จ.สตูล สถานที่ท่องเที่ยวที่หลายคนนึกถึงก็คงหนีไม่พ้นหลีเป๊ะ เพราะหลีเป๊ะนั้นขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่ดำน้ำที่สวยเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย แต่เพื่อน ๆ ทราบหรือไม่ว่าที่จริงแล้ว จ.สตูล ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวคูล ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย เรียกได้ว่ามาจังหวัดเดียวสามารถเที่ยวได้ครบทุกแนวเลย ว่าแต่จะเป็นที่ไหนบ้าง อย่ารอช้าตามแอดมาหาคำตอบกัน ล่องแก่งวังสายทอง  หากชอบแนวแอดเวนเจอร์สุดคูล ต้องที่นี่เลย “ล่องแก่งวังสายทอง”  การล่องแก่งที่นี่จะใช้เรือคายัค ใช้เวลาล่องประมาณ 2-3 ชม. ขึ้นอยู่กับกระแสน้ำและกำลังแขนของเรา ระหว่างทางเราจะพบกับแก่งเล็ก ๆ ให้พอได้รู้สึกหวาดเสียวเล็กน้อย แต่รับรองเลยว่าสนุกมาก ๆ สำหรับใครที่พายเรือไม่เก่ง ว่ายน้ำไม่แข็ง แอดแนะนำให้มีเจ้าหน้าที่ 1 คนต่อคายัค 1 ลำ เพื่อความปลอดภัย  : ล่องแก่งวังสายทอง ตำบลน้ำผุด อำเภอละงู จังหวัดสตูล : https://goo.gl/maps/noRVg7bHkbrWGeNz7 ถ้ำเจ็ดคต ✨‍ การล่องแก่งวังสายทองสามารถล่องมาได้จนถึง “ถ้ำเจ็ดคต” แอดแนะนำให้เตรียมไฟฉายมาด้วย เพื่อใช้ส่องไฟชมหินงอกหินย้อยและฝูงค้างคาวภายในถ้ำ ใครสนใจล่องแก่งเส้นทางนี้สามารถติดต่อกับรีสอร์ทต่าง ๆ ในพื้นที่ได้เลย ราคาประมาณ 300–600 บาท/ลำ  : ถ้ำเจ็ดคต ตำบลน้ำผุด อำเภอละงู จังหวัดสตูล : https://goo.gl/maps/Ma4bQKKo5abNQ9VTA สะพานข้ามกาลเวลา หรือเขตข้ามกาลเวลา  แค่เห็นชื่อสถานที่หลายคนคงเกิดความสงสัยว่าที่นี่มีอะไรเกี่ยวการเดินทางทะลุมิติเหมือนละครทวิภพรึเปล่า คำตอบคือไม่ใช่จ้า แต่ชื่อเรียกนี้มาจากลักษณะของภูเขาของที่นี่ ที่มีรอยต่อของหินปูนสีเทาและหินทรายสีแดง โดยหินทั้งสองเป็นหินต่างชนิดและเกิดขึ้นคนละยุคนั่นเอง สำหรับ “สะพานข้ามกาลเวลา” เป็นจุดชมวิวที่อยู่ภายในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา มีทางเดินเป็นสะพาน สามารถเดินชมวิวโดยรอบได้ และเป็นอีกจุดหนึ่งที่หลายคนนิยมมาชมพระอาทิตย์ตก   : สะพานข้ามกาลเวลา อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล : 08.00 – 18.00 น. : ชาวไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท/คน เด็ก 10 บาท/คน ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท/คน เด็ก 100 บาท/คน : https://goo.gl/maps/jzFa4moTKv2P2qBr7 จุดชมวิวปากบารา  อีกหนึ่งจุดชมวิวที่มาเที่ยวสตูลแล้วต้องแวะเช็คอินและถ่ายรูปกับปลากระโทงร่มขนาดใหญ่ ก่อนที่จะลงเรือไปยังเกาะหลีเป๊ะ   : จุดชมวิวปากบารา ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล : https://goo.gl/maps/uBxxYk7k48yR7KGd8 หาดสันหลังมังกร  สำหรับใครที่สนใจจะไปชมความสวยงามของหาดสันหลังมังกร จะต้องนั่งเรือออกไป ใช้เวลาประมาณ 15–20 นาที ช่วงเวลาที่เหมาะในการชมคือช่วงที่น้ำลด ซึ่งส่วนใหญ่นิยมมากันตอนเย็น ๆ เพราะไม่ร้อนมากและจะได้เห็นแสงพระอาทิตย์ตกสวย ๆ อีกด้วย  : รีสอร์ทชุมชนบากันเคย (โฮมสเตย์) ตำบลตันหยงโป อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล : https://goo.gl/maps/HFPB1cLDqxoypRQW9 การชมหาดสันหลังมังกร ไม่สามารถชมได้ทุกวัน จะต้องดูข้างขึ้นข้างแรมด้วย เพราะระดับน้ำในแต่ละวันจะลดไม่เท่ากัน และช่วงเวลาที่น้ำลดก็แตกต่างกัน ดังนั้นแนะนำให้ติดต่อสอบถามกับทางชุมชนบากันเคย ก่อนเดินทางมา  หาดทรายดำ  ระหว่างทางกลับจากหาดสันหลังมังกรเราจะผ่าน “หาดทรายดำ” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดที่หลายคนนิยมแวะถ่ายภาพแนว Silhouette (ซิลูเอท)  Street Art สตูล  สายอาร์ตที่ชื่นชอบศิลปะต้องห้ามพลาดกับการแวะถ่ายรูปกับ Street Art สตูล ซึ่งมีหลายจุดมาก ๆ  : Street Art สตูล ถนนสตูลธานี ตำบลพิมาน อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล : https://goo.gl/maps/hsnbCymoJCgm2r4y7 ใครที่อยากเก็บให้ครบ แนะนำให้เดินหานะคะ เพราะแต่ละจุดอยู่ไม่ไกลกันมาก  ชุมชนท่องเที่ยวบากันใหญ่  สำหรับใครที่ชื่นชอบอาหารทะเลโดยเฉพาะปู แนะนำให้นั่งเรือจากท่าเรือทุ่งริ้นมายัง “ชุมชนท่องเที่ยวบากันใหญ่” เพราะจะได้รับประทานปูตัวใหญ่ ๆ แถมสดมาก ๆ   : ชุมชนท่องเที่ยวบากันใหญ่ ตำบลเกาะสาหร่าย อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล : https://goo.gl/maps/aYqtBkd9LQNVM6pk6 หาดสันหลังมังกรแดง  นอกจากจะได้รับประทานปูสด ๆ แล้ว เรายังจะได้ชม “หาดสันหลังมังกรแดง” อีกด้วย ช่วงเวลาที่สามารถชมหาดสันหลังมังกรแดงได้ คือช่วงเวลาน้ำลด ขึ้นอยู่กับข้างขึ้นข้างแรมเช่นเดียวกับหาดสันหลังมังกร ใครที่อยากชม แนะนำให้ติดต่อสอบถามกับชุมชนบากันใหญ่ก่อนเดินทาง  ปันหยาบาติก  ทำผ้ามัดย้อม หรือเพ้นท์ผ้าบาติกเฉย ๆ อาจจะดูธรรมดาไป กลุ่มปันหยาบาติกจึงเกิดไอเดียใหม่ โดยการนำวิธีการทั้ง 2 อย่างมาผสมผสานกัน จนเกิดเป็นผ้ามัดย้อมบาติก และที่สำคัญสีที่ใช้ย้อมผ้ายังเป็นสีที่มาจากดินที่อยู่ภายในเขตอุทยานธรณีโลก ซึ่งมีอายุกว่า 500 ล้านปี!!!  ระหว่างเลือกซื้อเลือกชมผ้ามัดย้อมบาติก สามารถสั่งเครื่องดื่มจากร้านปันหยาบาติก คาเฟ่ มาดื่มได้นะ   : ปันหยาบาติก ตำบลละงู อำเภอละงู จังหวัดสตูล : https://goo.gl/maps/hMLa8jzqEVD787r8A Street Art ละงู  นอกจากในตัวเมืองสตูลแล้ว ที่อำเภอละงูก็มี Street Art ด้วยนะ ซึ่งลวดลายความอาร์ตจะมีความสวยแตกต่างกัน  : Street Art ละงู เทศบาลตำบลกำแพง ตำบลกำแพง อำเภอละงู จังหวัดสตูล : https://goo.gl/maps/vFDrKYAAvkTvFTFn7 สำหรับ Street Art ละงู มีทั้งหมด 6 จุด ซึ่งแต่ละจุดจะสอดแทรกเรื่องราวความเป็นมาต่าง ๆ ของอำเภอละงูไว้ด้วย  ชุมชนท่องเที่ยวทุ่งหว้า  ใครที่เป็นสายกิจกรรมต้องห้ามพลาดกับ “ชุมชนท่องเที่ยวทุ่งหว้า” เพราะที่นี่เค้ามีกิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยวให้เลือกทำมากมาย เรามาเริ่มกันที่การทำผ้ามัดย้อม ผ้ามัดย้อมที่นี่มีความพิเศษไม่เหมือนใคร เพราะจะนำวัตถุดิบที่หาได้ง่ายภายในรั้วบ้านมาใช้ ยกตัวอย่างเช่น ใบต้นมะม่วง ต้นตะแบก ต้นตะบูน ซึ่งจะนำมาผสมกับน้ำด่าง น้ำสนิม หรือน้ำส้มสายชู จนเกิดเป็นสีต่าง ๆ  : มัดย้อมสีธรรมชาติทุ่งหว้า ตำบลทุ่งหว้า อำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล : https://goo.gl/maps/oF56Zz9nJiyeU7ao7 ต่อมาคือ การทำขนมคุกกี้พริกไทย  ซึ่งจะใช้เมล็ดพริกไทยที่คั่วเสร็จแล้ว มาผสมกับแป้งว่าวที่ใช้สำหรับทำขนมคุกกี้ จากนั้นนำไปแช่ช่องแช่เย็น พอแป้งแข็งตัวจึงนำมาตัดเป็นแว่น ๆ

✨เที่ยวสตูล คูลทุกที่ ครบทุกแนว✨ อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top