สถานที่ท่องเที่ยว

🌧️7 ที่เที่ยวหน้าฝน สังขละบุรี🌧️

ณ ดินแดนสุดขอบแผ่นดินฝั่งตะวันตกของประเทศไทย มีเมืองเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ ณ จุดบรรจบของแม่น้ำสามสายที่ไหลลงสู่เขื่อนวชิราลงกรณ มีชื่อว่า “สามประสบ” ด้วยสภาพ โอบล้อมไปด้วยขุนเขาสูงเสียดฟ้า และมีความงดงามที่รอให้ทุกคนเดินทางไปต้องมนต์ ที่นี่คือ “สังขละบุรี” จังหวัดกาญจนบุรี นอกจากความงดงามทางธรรมชาติแล้ว ด้วยสังขละบุรีเป็นอำเภอที่ตั้งอยู่ติดแนวชายแดนประเทศไทยและเมียนมา จึงมีผู้คนหลากหลายเชื้อชาติอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างกลมเกลียว ทั้งคนไทย มอญ กะเหรี่ยง เป็นต้น ก่อให้เกิดวัฒนธรรมอันงดงาม และเป็นเอกลักษณ์จนดึงดูดผู้คนจากทั่วทุกสารทิศให้เข้าไปสัมผัสมาอย่างยาวนาน วันนี้ จึงจะขอแนะนำ 7 สถานที่ท่องเที่ยวหน้าฝนของอำเภอสังขละบุรีให้ทุกคนได้ออกเดินทางตามไปเที่ยวกัน ณ ดินแดนสุดขอบแผ่นดินฝั่งตะวันตกของประเทศไทย มีเมืองเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ ณ จุดบรรจบของแม่น้ำสามสายที่ไหลลงสู่เขื่อนวชิราลงกรณ มีชื่อว่า “สามประสบ” ด้วยสภาพ โอบล้อมไปด้วยขุนเขาสูงเสียดฟ้า และมีความงดงามที่รอให้ทุกคนเดินทางไปต้องมนต์ ที่นี่คือ “สังขละบุรี” จังหวัดกาญจนบุรี นอกจากความงดงามทางธรรมชาติแล้ว ด้วยสังขละบุรีเป็นอำเภอที่ตั้งอยู่ติดแนวชายแดนประเทศไทยและเมียนมา จึงมีผู้คนหลากหลายเชื้อชาติอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างกลมเกลียว ทั้งคนไทย มอญ กะเหรี่ยง เป็นต้น ก่อให้เกิดวัฒนธรรมอันงดงาม และเป็นเอกลักษณ์จนดึงดูดผู้คนจากทั่วทุกสารทิศให้เข้าไปสัมผัสมาอย่างยาวนาน วันนี้ จึงจะขอแนะนำ 7 สถานที่ท่องเที่ยวหน้าฝนของอำเภอสังขละบุรีให้ทุกคนได้ออกเดินทางตามไปเที่ยวกัน 1.สะพานอุตตมานุสรณ์ รู้จักกันเป็นอย่างดีในชื่อ “สะพานมอญ” แหล่งท่องเที่ยวที่เป็นสัญลักษณ์ของอำเภอสังขละบุรี เป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย และยาวเป็นอันดับสองของโลก รองจากสะพานไม้อูเบ็งในประเทศเมียนมา เกิดจากดำริของหลวงพ่ออุตตมะที่ต้องการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำซองกาเลียให้ชาวบ้านทั้งสองฝั่งสามารถเดินทางไปมาหาสู่กันได้อย่างสะดวก และในปัจจุบันได้กลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของสังขละบุรี 🌥️ ช่วงเวลาที่เหมาะสมแนะนำให้เดินทางไปเที่ยวชมในช่วงเช้า ที่เชิงสะพานทั้งสองฝั่งจะมีการตักบาตรที่นักท่องเที่ยวสามารถมีส่วนร่วมได้ รวมถึงสามารถเช่าชุดมอญใส่ถ่ายภาพคู่กับเด็ก ๆ ชาวมอญได้อย่างสวยงาม นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปสะพานมอญในช่วงวันที่ 20 กรกฎาคม ถึง 31 สิงหาคม 2566 ยังสามารถเข้าร่วมกิจกรรม Amazing Thailand NFTs Season 3 โดยการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน YAKS แล้วเช็กอินรับภาพศิลปะ NFTs สะพานมอญ ซึ่งเป็นหนึ่งใน 40 สถานที่ท่องเที่ยวในโครงการ เพื่อรับสิทธิประโยชน์มากมายได้อีกด้วย พิกัด📍 จุดจอดรถฝั่งสังขละบุรี https://goo.gl/maps/D9WJVwPJKAtFCH1u6📍 จุดจอดรถฝั่งชุมชนมอญ https://goo.gl/maps/2BDTJRZypo2r9L6CA📍 จุดจอดรถเอกชน ฝั่งชุมชนมอญ (ค่าบริการ 30 บาท) https://goo.gl/maps/9ZwETGLug3s1aVbr9 เป็นสถานที่เก็บรักษาสังขารของหลวงพ่ออุตตมะ พระสงฆ์อันเป็นที่เคารพศรัทธาของผู้คนในพื้นที่ และยังมีวิหารพระหินอ่อนที่ประดิษฐานหลวงพ่อขาว พระพุทธรูปหินอ่อนที่มีพุทธลักษณะงดงาม ใครที่เดินทางไปถึงสังขละบุรีแล้ว วัดแห่งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่ต้องมา 📍 พิกัด https://goo.gl/maps/W4ZWaBNMHGD6k5dF8 ยังอยูในพื้นที่ของวัดวังก์วิเวการาม เจดีย์พุทธคยา เป็นเจดีย์สีทองอร่ามที่สร้างตามแบบของพุทธคยาจากประเทศอินเดีย ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ชาวสังขละบุรีให้ความเคารพศรัทธา ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่หลวงพ่ออุตตมะอัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกาเพื่อให้ชาวไทยได้สักการบูชา และเป็นสถานที่จัดงานประเพณีสำคัญ ๆ อาทิ สงกรานต์มอญสังขละบุรี 📍 พิกัด https://goo.gl/maps/SafprafZWXkpAuWGA ณ ยอดเขาภายในวัดวังก์วิเวการาม มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สามารถมองเห็นได้จากทั่วทุกมุมของตัวเมืองสังขละบุรี พระพุทธรูปที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างองค์นี้เป็นการสืบทอดเจตนารมณ์หลวงพ่ออุตตมะที่อยากจะสร้างพระใหญ่ขึ้นมา พระพุทธรูปมีความสูงถึง 37 เมตร แม้ว่าขณะนี้องค์พระจะยังสร้างไม่แล้วเสร็จ แต่ด้วยที่ตั้งที่อยู่บนยอดเขาสูงสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองสังขละบุรีได้อย่างงดงาม จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ต้องไปเยือน ⏰ เวลาเปิด-ปิดประตูทางขึ้นจะเปิดเวลา 06.00-18.00 น. 🌥️ช่วงเวลาที่เหมาะสมแนะนำให้เดินทางขึ้นไปชมในช่วงเช้าเพราะจะมีโอกาสเจอหมอกฝนสวย ๆ ที่ลอยปกคลุมทั่วบริเวณ 📍 พิกัด https://goo.gl/maps/iDnxSphY6dwiunJG7 สังขละบุรีที่เราเห็นในปัจจุบันนั้นไม่ใช้ที่ตั้งดั้งเดิม แต่เป็นที่ตั้งของชุมชนใหม่ที่ย้ายถิ่นฐานจากการสร้างเขื่อนวชิราลงกรณ หรือเขื่อนเขาแหลมเมื่อหลายสิบปีก่อน ชุมชนเดิมจึงถูกน้ำท่วมจนหมด มีสิ่งก่อสร้างไม่กี่แห่งที่ยังคงหลงเหลือมาถึงทุกวันนี้ และเรายังสามารถนั่งเรือออกไปชมความสวยงามได้อีกด้วย 🌥️ ช่วงเวลาที่เหมาะสมแนะนำให้ล่องเรือช่วงเช้าหรือบ่ายแก่ ๆ เพราะอากาศจะไม่ร้อนเกินไป 📍 พิกัดจุดขึ้นเรือท่องเที่ยวตั้งอยู่บริเวณหัวสะพานมอญทั้ง 2 ฝั่ง มีป้ายบอกราคาชัดเจน สามารถเลือกได้ตามความเหมาะสม โดยเป็นราคาสำหรับเรือ 1 ลำ รองรับผู้โดยสาร 1-6 คน เส้นทางล่องเรือชมวัดจมน้ำ เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ต้องทำเมื่อเดินทางมาที่สังขละบุรี หากเลือกท่องเที่ยวแบบเต็มรอบจะใช้เวลาประมาณครึ่งวัน แต่นักท่องเที่ยวสามารถเลือกสถานที่และเส้นทางได้ตามความเหมาะสม แต่สถานที่ในเส้นทางล่องเรือที่จะมาแนะนำในวันนี้มีอยู่ 3 แห่ง คือ วัดวังก์วิเวการามเก่า หรือที่รู้จักในชื่อวัดจมน้ำ ที่นอกจากสะพานมอญแล้ว สถานที่แห่งนี้ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญที่นักท่องเที่ยวนึกถึง วัดแห่งนี้จะจมอยู่ในน้ำในช่วงที่ระดับน้ำในเขื่อนสูงขึ้นในช่วงกลางถึงปลายฤดูฝน และเมื่อระดับน้ำลดลงในฤดูแล้งก็จะสามารถลงจากเรือเดินเที่ยวชมได้ วัดศรีสุวรรณเก่า ด้วยที่ตั้งที่อยู่ต่ำกว่าวัดวังก์วิเวการามเก่า ทำให้อุโบสถของวัดแห่งนี้จะจมอยู่ในน้ำเกือบตลอดเวลา นักท่องเที่ยวสามารถชมความงดงามได้จากบนเรือ ซึ่งจะได้ภาพของเงาที่สะท้อนบนผิวหน้าอย่างสวยงาม วัดสมเด็จเก่า เป็นวัดเก่าหนึ่งเดียวที่ไม่จมอยู่ใต้น้ำ เพราะตั้งอยู่บนเนินเขา แต่เมื่อตัวเมืองสังขละเดิมย้ายออกไป วัดแห่งนี้จึงถูกทิ้งร้างตามไปด้วย สำหรับจุดเด่นของวัดแห่งนี้คืออุโบสถปรกโพธิ์ที่ภายในได้รับการทำนุบำรุงให้มีความสะอาดสวยงาม ไม่ไกลจากตัวอำเภอสังขละบุรี มีด่านพรมแดนไทย-พม่าที่มีสำคัญมายาวนานคู่กับประวัติศาสตร์ชาติไทย นั่นคือด่านเจดีย์สามองค์ เจดีย์ขนาดเล็ก 3 องค์ที่ตั้งเรียงกันอยู่ใกล้ ๆ กับจุดข้ามแดน ถึงแม้ว่าจะยังหาข้อสรุปที่แน่ชัดถึงที่มาของเจดีย์ทั้ง 3 องค์นี้ แต่ด้วยความสำคัญตามที่กล่าวไป จึงเป็นอีกจุดหนึ่งที่ต้องแวะมาเยือน 📍 พิกัด (ลานจอดรถ) https://goo.gl/maps/JZ7WjkYM93YtzNzo6 มาถึงถิ่นสังขละบุรี ต้องมาลองอาหารถิ่นชาวมอญ โดยเฉพาะในตอนเช้า หลังจากตักบาตรบริเวณถนนเชิงสะพานมอญเสร็จ (ฝั่งชุมชนมอญ) จะมีร้านอาหารพื้นบ้านเปิดให้บริการหลายร้าน เลือกได้ตามสะดวกโดยมีเมนูแนะนำนั้นมีหลายอย่าง เช่นโจ๊กมอญ แกงฮังเลแบบมอญ ขนมจีนน้ำยาหยวกกล้วย เป็นต้น รสชาติถูกปากมากทีเดียว 📍 พิกัด เชิงสะพานอุตตมานุสรณ์ ฝั่งชุมชนมอญ https://goo.gl/maps/XqpHzTNWwvGffez78

🌧️7 ที่เที่ยวหน้าฝน สังขละบุรี🌧️ อ่านเพิ่มเติม

✨ อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ ✨

อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่คาดว่ามีอายุไม่ต่ำกว่า 1,000 ปี มีร่องรอยโบราณสถานที่ยังคงหลงเหลือมาจนถึงปัจจุบันมากมาย โบราณสถานส่วนใหญ่มีรูปแบบศิลปะทั้งแบบทวารวดี และเขมรโบราณ หลายคนเรียกสถานที่นี้ในชื่อสั้น ๆ ว่า “เมืองโบราณศรีเทพ” เมืองโบราณศรีเทพมีคูน้ำและคันดินล้อมรอบ โดยมีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 2,889ไร่ และแบ่งออกเป็น 2 ส่วนที่เชื่อมกัน คือ เมืองส่วนใน (1,300 ไร่) และเมืองส่วนนอก (1,589 ไร่) มีสระน้ำและโบราณสถานกระจายอยู่ทั้งสองส่วน ซึ่งจากการขุดค้นพบว่า เฉพาะส่วนด้านในมีสระน้ำ หนองน้ำกระจายอยู่กว่า 70 บ่อและมีร่องรอยของโบราณสถานกว่า 48 แห่ง ซึ่งภายในอุทยานฯ จะมีรถรางนำเที่ยวชมรอบอุทยานฯ (นั่งได้ไม่เกินคันละ 20 คน) สามารถติดต่อล่วงหน้าเพื่อขอไกด์นำบรรยายได้ ภายในจะมี “ทางดำเนิน” ทางที่ใช้สัญจรในอดีตไปสู่เทวสถานและร่องรอยของอาคารที่คาดว่าน่าจะเป็น “ห้องเปลื้อง” ที่สันนิษฐานกันว่าเป็นที่ปลดผ้าของผู้วายชนม์ก่อนนำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา 👉 สถานสำคัญภายใน ⭐ อาคารหลุมขุดค้นทางโบราณคดี เป็นอาคารจัดแสดงโครงกระดูกมนุษย์และโครงกระดูกช้างที่ได้จากการขุดค้นทางโบราณคดี เมื่อ พ.ศ. 2531 ⭐ ปรางค์สองพี่น้อง ศาสนสถานในกลุ่มโบราณสถานกลางเมืองใน เป็นศิลปะแบบขอม ตั้งอยู่คู่กัน 2 หลัง มีลักษณะเหมือนกัน ต่างกันที่ขนาด ตั้งอยู่บนฐานศิลาแลงขนาดใหญ่ หันหน้าไปทางทิศตะวันตก มีประตูทางเข้าทางเดียว ตรงกึ่งกลางห้องมีแท่นศิลาแลงสำหรับประดิษฐานรูปเคารพ ⭐ ปรางค์ศรีเทพ เป็นศาสนสถานในศาสนาฮินดู สถาปัตยกรรมเป็นแบบศิลปะขอม ส่วนบนก่อด้วยอิฐ ฐานเป็นศิลาแลงฉาบปูน หันหน้าไปทางทิศตะวันตก ลานด้านหน้าองค์ปรางค์มีบรรณาลัย 2 หลัง เป็นที่เก็บคัมภีร์ทางศาสนา ปัจจุบันเหลือเพียงฐาน บริเวณด้านหน้าจะมีบ่อน้ำตามความเชื่อแบบขอมโบราณในการสร้างศาสนสถาน ซึ่งบ่อน้ำแห่งนี้เเป็นแหล่งตักน้ำศักดิ์สิทธิ์เพื่อประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกด้วย ⭐ เขาคลังใน ตั้งอยู่ฝั่งเมืองส่วนใน แอดมองดูแล้วคล้าย ๆ กับพีระมิดที่ประเทศอียิปต์ ผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าหันหน้าไปทางทิศตะวันออก สร้างด้วยศิลาแลงฉาบปูน บริเวณฐานรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ามีลวดลายปูนปั้นรูปคนแคระที่มีหัวเป็นคน ลิง สิงห์ ช้าง และควายอยู่ในลักษณะท่าแบกหรือค้ำโบราณสถานอยู่ นอกจากนี้ ยังมีส่วนที่เป็นปูนปั้นลายพรรณพฤกษาและลายเรขาคณิตประดับอีกด้วย ด้านหน้ามีบันไดทางขึ้นสู่ด้านบน แต่ปัจจุบันไม่อนุญาตให้ขึ้นไป เหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งก่อสร้างที่งดงามจากอดีตที่ก้าวผ่านเวลามากว่าพันปีและเหลือให้เห็นได้ที่นี่ โบราณสถานลักษณะนี้ เชื่อกันว่าเป็นที่เก็บอาวุธและทรัพย์สมบัติจึงเรียกว่า “เขาคลัง” ⭐ เขาคลังนอก อยู่ห่างออกไปประมาณ 2 กิโลเมตร ตั้งอยู่ในเมืองส่วนนอก ทางด้านทิศเหนือของเมืองโบราณศรีเทพ ชื่อเขาคลังนอกเป็นชื่อที่ชาวบ้านเรียกกัน เพราะที่นี่มีรูปร่างลักษณะคล้ายภูเขา โดยเชื่อกันว่ามีสมบัติและอาวุธเก็บรักษาอยู่ภายใน ประกอบกับในเขตเมืองโบราณศรีเทพ มี “เขาคลังใน” จึงได้เรียกโบราณสถานแห่งนี้ว่า “เขาคลังนอก” นั่นเอง จุดเด่นของโบราณสถานแห่งนี้ อยู่ที่ฐานอาคาร ซึ่งสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมเป็นสถูปที่ตั้งอยู่บนฐานขนาดใหญ่ สันนิษฐานว่ามีการใช้พื้นที่ด้านบนประกอบศาสนพิธี มีรูปแบบศิลปกรรมที่ได้รับอิทธิพลจากอินเดีย ที่สำคัญ อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ เป็นหนึ่งใน 40 แหล่งท่องเที่ยวใน Amazing Thailand NFTs Season 3 โครงการที่เชื่อมโยงศิลปะกับแหล่งท่องเที่ยวผ่าน Digital Art ด้วยการเก็บสะสม Generative-Art-NFT ในโทรศัพท์มือถือ เป็นที่ระลึกในโอกาสปีท่องเที่ยวไทย 2566 ได้อีกด้วย หากใครสนใจ สามารถร่วมสนุกด้วยการเก็บสะสม NFT ผ่านทางแอปพลิเคชัน YAKS ที่สามารถดาวน์โหลดใช้งานได้ทั้งระบบ iOS และ Android ได้ตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม – 31 สิงหาคม 2566 โดยสามารถดูวิธีการใช้งานและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/AmazingThailandNFTs 📍เลขที่ 208 หมู่ 13 ตำบลศรีเทพ อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์💵 ค่าเข้าชมชาวไทย 20 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาท🕘 เปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 16.30 น.📞0 5692 1317, 0 5692 1322🌐 https://maps.app.goo.gl/4kn8PMbiJAbnaeLY7

✨ อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ ✨ อ่านเพิ่มเติม

มัดรวมฟาร์มสเตย์ 🐓ท่องเที่ยวแนวใหม่ใกล้ชิดธรรมชาติ 🏨

หากใครกำลังเล็งหาสถานที่ท่องเที่ยวแนวรักษ์โลก บัดดี้อยากให้ลองเปิดประสบการณ์ใหม่ เที่ยว ฟาร์มสเตย์ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมกิจกรรมที่ได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด 🍃 บัดดี้ขอชี้พิกัด 6 ฟาร์มสเตย์ น่าเที่ยวทั่วไทย หัวใจสีเขียว📌 บ้านเกอลิโกล จ.เชียงใหม่📌 บ้านโคกไคร จ.พังงา📌บ้านสวนเส จ.ชัยภูมิ📌 ไออุ่นขุนเขา จ.ราชบุรี📌 Bamboo Pink House บ้านผาหมอน จ.เชียงใหม่📌 MEKIN FARM จ.ขอนแก่น การไปเที่ยวสัมผัสธรรมชาติ นอนโฮมสเตย์ ไม่น่าเบื่ออย่างที่คิด เพราะมีกิจกรรมดี ๆ น่าทำแตกต่างกันไปในแต่ละที่ รวมถึงมีข้อดี ที่ดีต่อใจมาก ๆ อีกด้วย เช่น 📌 บ้านเกอลิโกล จ.เชียงใหม่ – ชวนสัมผัสอากาศหนาวกับบ้านไม้ไผ่กลางหุบเขา โอบล้อมไปด้วยบรรยากาศที่อบอุ่น ทานอาหารพื้นบ้านแสนอร่อย พอตกเย็นอากาศหนาวหมอกลง ชวนนั่งปิกนิกข้างกองไฟ ในยามเช้านั่งชมบรรยากาศสดชื่นของธรรมชาติ ที่หน้าระเบียงบ้าน 📌 บ้านโคกไคร จ.พังงา – หมู่บ้านริมทะเลที่ใช้ทรัพยากรธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน ชิมอาหารทะเลที่ชาวประมงหามาเอง เช่น ปลาตัวใหญ่ ๆ นำมาปรุงอาหารอร่อย ๆ ให้เราได้ชิม มีกิจกรรมสปาโคลนแสนผ่อนคลายกับน้ำทะเลอุ่น ทรายร้อน บรรยากาศเงียบสงบ มองออกไปไกล ๆ ขอบทะเลมีภูเขาลูกเล็ก ๆ มากมายเรียงรายสลับกันอยู่ 📌บ้านสวนเส จ.ชัยภูมิ – ฟาร์มสเตย์สวนผักแบบผสมผสาน สนุกกับกิจกรรมปั่นจักรยานชมสวน เก็บไข่ในเล้ามาทำอาหาร ลงนาปลูกข้าว ใช้ชีวิตแบบพอเพียง 📌 ไออุ่นขุนเขา จ.ราชบุรี – มาสร้างสุขภาพดีที่ฟาร์มออร์แกนิก มีผักแทบทุกชนิดไม่ต้องซื้อ สามารถเก็บในสวนมาทำกินได้เลย บรรยากาศเงียบสงบ จำลองการเป็นชาวสวนย่อม ๆ ปลูกผัก เก็บไข่ และได้รับออกซิเจนจากภูเขารอบข้าง 📌 Bamboo Pink House บ้านผาหมอน จ.เชียงใหม่ – ขึ้นดอยชมนาขั้นบันไดสีเขียว เต็มไปด้วยความงามของต้นกล้า เรียนรู้วิถีชาวบ้าน แนะนำให้นอนโฮมสเตย์บนดอย เปิดหน้าต่างรับแสงอาทิตย์หลังเขาสุดโรแมนติก 📌 MEKIN FARM จ.ขอนแก่น – สวนเล็กแสนธรรมดากับความสุขในการทำเกษตรอินทรีย์ ลองนอนกระท่อมปลายนา ท่ามกลางธรรมชาติที่น่าพักผ่อน ชิมอาหารพื้นบ้านที่อร่อยอย่าบอกใคร

มัดรวมฟาร์มสเตย์ 🐓ท่องเที่ยวแนวใหม่ใกล้ชิดธรรมชาติ 🏨 อ่านเพิ่มเติม

✨เชียงคาน : เลย✨

การเดินทางครั้งนี้ บัดดี้จะพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวชม เชียงคาน จังหวัดเลย จังหวัดที่ใคร ๆ ก็บอกว่าต้องมาหน้าหนาว เพราะบรรยากาศจะดีมาก ๆ ซึ่งความจริงแล้วจังหวัดเลย เป็นจังหวัดที่มีสภาพอากาศค่อนข้างเย็นตลอดทั้งปี อีกทั้งยังมีต้นไม้ ทิวเขาน้อยใหญ่อยู่ทั่วไปทั้งจังหวัด รอบ ๆ คงมีแต่สีเขียวตลอดสองข้างทาง เผลอ ๆ หากฝนตก อาจจะมีหมอกให้ชมกันบ้าง ว่าแล้วก็ไปชมกันเลย 💚 ทริปนี้ บัดดี้ตั้งใจมาพักที่เชียงคาน 2 คืน เพราะอยากมีเวลาพักผ่อนมากขึ้น และไม่ต้องรีบเที่ยวจนเกินไป จึงเลือกเดินทางโดยเครื่องบินจากท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง ลงที่ท่าอากาศยานเลย ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมงนิด ๆ จากนั้น เช่ารถขับจากสนามบินมุ่งหน้าไปอำเภอเชียงคาน เดินทางอีก 1 ชั่วโมง โดยหมุดหมายของวันแรก อยู่ที่ถนนคนเดินเชียงคาน ส่วนเพื่อน ๆ ที่ต้องการเดินทางด้วยวิธีอื่น ๆ สามารถเดินทางได้ดังนี้  จากท่าอากาศยานเลย สามารถใช้บริการแท็กซี่หรือรถสามล้อไปที่ บขส. แล้วขึ้นรถบัสของนครชัยขนส่ง เพื่อเดินทางไปอำเภอเชียงคาน ใช้เวลาเดินทางราว ๆ 40 นาที (สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นครชัยขนส่ง สำนักงานเลย โทร. 0 4286 2036) และอีกวิธีคือนั่งรถสองแถวจาก บขส. ไปอำเภอเชียงคาน ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วเดินทางท่องเที่ยวในอำเภอเชียงคานด้วยรถสามล้อได้เลย หลัก ๆ รถจะจอดอยู่ที่บริเวณวัดท่าคก มีบริการแบบแพ็กเกจด้วยนะ  นอกจากนี้ เพื่อน ๆ ยังสามารถนั่งรถทัวร์จากกรุงเทพฯ มาถึงอำเภอเชียงคานได้เลยเช่นกัน โดยสามารถขึ้นรถได้ที่สถานีขนส่งหมอชิต 2 มีหลายบริษัทให้เลือก นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเชียงคานส่วนใหญ่ นิยมมาพักค้างแรมบริเวณถนนคนเดินเชียงคาน เพราะมีที่พักให้บริการจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นที่พักเล็ก ๆ ห้องพักไม่เยอะ และยังมีบรรยากาศดี ใกล้แหล่งของกิน เดินทางสะดวกด้วย แต่แนะนำให้จองล่วงหน้านะ เพราะที่พักจะเต็มเร็ว โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลและช่วงหยุดยาว เริ่มต้นทริปในเช้าวันถัดมา ก่อนจะไปเที่ยวชมสถานที่ต่าง ๆ บัดดี้จะพามาชมความคลาสสิกย่านถนนคนเดินเชียงคานยามเช้า อิ่มอร่อยด้วยอาหารถิ่นอีสาน และใส่บาตรข้าวเหนียว กิจกรรมดี ๆ ที่นักท่องเที่ยวนิยมตื่นมาทำบุญกัน บริเวณนี้ก็จะมีชุดใส่บาตรขายด้วยนะ เวลาที่พระสงฆ์ออกบิณฑบาต ไม่มีเวลาที่แน่นอน โดยส่วนมากท่านจะมาในช่วงรุ่งสาง หากเป็นช่วงหน้าหนาวก็จะออกมาช้ากว่าเวลาปกติเล็กน้อย อย่างที่บอกไปว่าที่นี่มีอากาศค่อนข้างเย็นตลอดทั้งปี ตื่นเช้ามาแบบนี้ก็อยากกินอะไรร้อน ๆ เสริมภูมิให้ร่างกาย เติมพลังก่อนไปเที่ยว ที่ถนนคนเดินเชียงคาน มีร้านขายอาหารตอนเช้าหลายร้าน เช่น ข้าวเปียกเส้น ไข่กระทะ โจ๊ก เป็นต้น เอาล่ะ อิ่มอร่อยกับอาหารเช้ากันแล้ว ไปเที่ยวกันต่อ พาเพื่อน ๆ มาชมทัศนียภาพมุมสูงที่ภูทอก ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานีโทรคมนาคมเชียงคาน อีกทั้งยังเป็นจุดชมวิวทะเลหมอกที่สามารถชมได้ทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและตก และสามารถชมทะเลหมอกที่สวยอีกแห่งในเชียงคาน ที่สำคัญ สามารถมองเห็นวิวเขา แม่น้ำโขง และแก่งคุดคู้ได้อีกด้วย มาเที่ยวบนภูทอกบอกเลยว่าคุ้มแน่นอน ขึ้นภูทอก เบิ่งแก่งคุดคู้และแม่น้ำโขงได้แบบนี้เลย เส้นทางขึ้นไปบนภูทอกนั้นค่อนข้างแคบและชัน ทางสถานที่จึงไม่อนุญาตให้นำรถขึ้นไปเอง ให้ใช้บริการรถของสถานที่โดยมีเจ้าหน้าที่ขับขึ้นไปยังภูทอก เพื่อน ๆ สามารถนำรถยนต์จอดไว้ที่ลานจอดด้านล่าง รถจะวิ่งเวียนมารับมาส่งคนอยู่เรื่อย ๆ โดยเฉพาะช่วงที่มีนักท่องเที่ยวเยอะ หากไม่มีรถจอดคอยอยู่ด้านบนภูทอก สามารถโทรให้เจ้าหน้าที่นำรถขึ้นมารับได้ มีป้ายที่ระบุเบอร์โทรศัพท์ของเจ้าหน้าที่ติดไว้  ตำบลเชียงคาน อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย เปิดเวลา 05.00-18.00 น. อัตราค่าบริการรถขึ้นภูทอกคนละ 40 บาท ค่าบำรุงสถานที่จอดรถคันละ 20 บาท 08 7858 3681https://goo.gl/maps/DWPTsncZuDnqEhzr5 แวะสักการะรอยพระพุทธบาทที่วัดพระพุทธบาทภูควายเงิน อยู่ห่างออกไปจากภูทอกประมาณ 10 กม. วัดนี้เป็นวัดเก่าแก่หลายร้อยปี นับว่าเป็นวัดที่เก่าที่สุดในเชียงคานเลยก็ว่าได้ ในอดีตวัดพระพุทธบาทภูควายเงินเป็นวัดร้าง แต่มักจะมีพระธุดงค์เดินทางมาปักกลดบำเพ็ญเพียรอยู่เสมอ ที่สำคัญ ในบริเวณวัดยังมีรอยพระพุทธบาทปรากฏอยู่ภายใต้ซุ้มอิฐใหญ่ ในภาษาถิ่นจะเรียกสิ่งปลูกสร้างลักษณะนี้ว่า “อุบมุง” และกลายเป็นชื่อหมู่บ้านทางทิศตะวันออกของวัดคือ “บ้านอุมุง” ซึ่งเพี้ยนมาจากคำว่าอุบมุ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องเล่าอีกด้วยว่าที่บ้านอุมุง มีชาวนาคนหนึ่ง มักจะพาควายขึ้นมากินหญ้าบนภูเขาบริเวณวัด และเมื่อพระธุดงค์ผ่านมา ชาวนาผู้นี้ก็จะนำเอาอาหารมาถวายแก่พระธุดงค์เป็นประจำ ด้วยอานิสงส์แห่งการถวายทานนี้ ทำให้ชาวนาสามารถทำนาและขายข้าวได้เงินทุกปีจนร่ำรวย และเจ้าควายที่ช่วยไถนาปลูกข้าวอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ชาวนาจึงเรียกควายตัวนี้ว่า “ควายเงิน” และนั่นก็เป็นที่มาของชื่อวัดพระพุทธบาทภูควายเงินแห่งนี้ ภายในวัดพระพุทธบาทภูควายเงิน ยังเลี้ยงกระต่ายอีกจำนวนมาก เพื่อน ๆ สามารถให้อาหารน้อง ๆ กันได้ ค่าอาหารกระต่ายถุงละ 10 บาท ชื่นชมความน่ารักของน้อง ๆ กันได้ แต่อย่าจับนะ  ตำบลบุฮม อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย เปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.https://goo.gl/maps/2KyMNJWW9AbX2dgb7 ระหว่างรอเวลาใกล้ค่ำ บัดดี้กลับมาเดินเล่นชมถนนคนเดินเชียงคาน และถนนเลียบแม่น้ำโขงเล่นชิล ๆ อีกรอบ หรือถ้าหากที่พักของใครมีจักรยานให้บริการ ก็สามารถยืมมาปั่นเล่นชมรอบ ๆ ได้ ชมบ้านเรือนสุดคลาสสิกที่ตั้งเรียงสองข้างทาง ใครเมื่อย ๆ แวะร้านนวดแผนไทยเพื่อพักผ่อนคลายเมื่อยกันได้ มีให้บริการหลายแห่ง แม่ ๆ ที่นี่นวดเก่งมาก ระหว่างเดินเที่ยวบนถนนชายโขงไปเรื่อย ๆ บัดดี้เดินมาเจอกระทงชนิดหนึ่ง เรียกว่า “ผาสาด” เป็นทรงสี่เหลี่ยม ทำจากกาบกล้วย ประดับกรวยใบตอง ดอกไม้ที่ทำจากขี้ผึ้ง ใช้ในการประกอบพิธี “ผาสาดลอยเคราะห์” พิธีกรรมนี้เป็นพิธีกรรมเก่าแก่ นิยมทำในช่วงเทศกาลงานบุญ โดยเฉพาะในช่วงวันออกพรรษาของทุก ๆ ปี เป็นความเชื่อของที่นี่ตั้งแต่โบราณว่า หากใครที่พบเจอเรื่องไม่ดี เจ็บไข้ได้ป่วย หรือประสบเคราะห์ร้าย จะนำผาสาดไปลอยในแม่น้ำโขง เพื่อลอยสิ่งไม่ดีทิ้งไป และห้ามหันไปมองผาสาด เพราะจะถือว่าเป็นการอาลัยอาวรณ์กับทุกข์โศก และเคราะห์กรรม การมาเชียงคานในครั้งนี้ นอกจากจะได้ชมความงามของธรรมชาติและชุมชนน่ารัก ๆ แล้ว ยังได้รู้จักและเห็นวิถีชีวิตของที่นี่มากขึ้นด้วย ถนนคนเดินเชียงคาน

✨เชียงคาน : เลย✨ อ่านเพิ่มเติม

🌿เขายายเที่ยง : มหัศจรรย์เขาเควสตา Korat Geopark 🌿

รู้จักอุทยานธรณี (Geopark) กันก่อน อุทยานธรณี คือพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ แหล่งธรณีวิทยา โบราณคดี นิเวศวิทยา รวมทั้งวัฒนธรรมที่มีความสัมพันธ์กับแหล่งธรณีวิทยา ซึ่งเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา จังหวัดนครราชสีมามีพื้นที่ที่ได้รับรองให้เป็น “โคราชจีโอพาร์ค” (Korat Geopark) ด้วย นับว่าเป็นแหล่งที่ 2 ของประเทศไทยที่ได้รับการรับรองให้เป็นอุทยานธรณีจาก UNESCO เลยล่ะ 👏 โคราชจีโอพาร์คมีแหล่งทางธรณีวิทยาที่น่าสนใจอย่างเช่น ที่ราบสูงโคราช เรียกว่าเป็นพื้นที่เขาเควสตา (Korat Cuesta) พื้นที่ฟอสซิล ที่เป็นกลุ่มหินโคราช (พื้นที่หินทราย หินตะกอนมีอายุประมาณ 220-65 ล้านปีก่อน) ในส่วนของอุทยานธรณีโคราช นั้นจะครอบคลุมพื้นที่ใน 5 อำเภอคือ สีคิ้ว สูงเนิน ขามทะเลสอ เมืองนครราชสีมา และเฉลิมพระเกียรติ 😊 เขายายเที่ยง เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่โคราชจีโอพาร์คที่กล่าวไปข้างต้น ที่นี่มีสิ่งที่โดดเด่นคือ เควสตาโคราช (Korat Cuesta) ภูเขาลักษณะที่มีหน้าผาแล้วลาดเอียงลงมา คล้ายกับมีดอีโต้ หรือเรียกกันว่า เขาอีโต้ ขึ้นขนานเป็นแนวเดียวกันมากกว่า 20 เขา 😘 😎หากเพื่อน ๆ อยากจะมาชมเขาเควสตากันแบบชัด ๆ ก็ต้องมาที่เขายายเที่ยง อ่างเก็บน้ำลำตะคองแห่งนี้ อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวฮอตฮิตของนักท่องเที่ยวที่ชอบการถ่ายรูปต้องร้องว้าว🥰 วิวด้านบนดีงามมาก เราจะได้เห็นเขาเควสตาไกลสุดลูกหูลูกตาบนถนนรอบอ่างเก็บน้ำ และมีกิจกรรมไฮไลต์อย่างปั่นจักรยานชมวิว🚴‍♀️ หรือจะเดินชิล ๆ กับก๊วนเพื่อน ๆ ก็เหมาะมาก อย่าลืมถ่ายคู่กับกังหันลมพลังงานไฟฟ้าด้วยนะ เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึง 😁 นอกจากบริเวณบนอ่างเก็บน้ำแล้ว ใครอยากลองกิจกรรมอื่นอย่างนั่งรถสองแถวไปปลูกป่าลอยฟ้า ดริปกาแฟ หรือใครจะรอชมพระอาทิตย์ตกยามเย็นพร้อมชมมุมสูงของอ่างเก็บน้ำลำตะคองและวิวถนนมิตรภาพบนจุดชมวิวผายายเที่ยงได้อีกด้วย บอกเลยว่าตรงนี้วิวดีมาก ฮีลใจวัยรุ่นแบบเราสุด ๆ 🫶 💵ค่าบริการ👉เช่าจักรยาน ชั่วโมงละ 40 บาท👉รถสองแถวไปผายายเที่ยง(ไป-กลับ) คนละ 30 บาท ใครอยากรู้ว่าจะบรรยากาศดีแค่ไหน ต้องลองไปสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้งนะคะ อย่าลืมเอาภาพสวย ๆ มาอวดกันบ้างนะ บัดดี้รอชมนะคะ 📌ตำบลคลองไผ่ อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา⏰เปิดทุกวัน เวลา 06.00-19.00 น.🌐https://goo.gl/maps/QgDojPWdNcyLVnr66

🌿เขายายเที่ยง : มหัศจรรย์เขาเควสตา Korat Geopark 🌿 อ่านเพิ่มเติม

✨อุทยานประวัติศาสตร์ สุโขทัย – ศรีสัชนาลัย✨

ใกล้วันหยุดยาวแบบนี้ บัดดี้มีเส้นทางท่องเที่ยว 2 วัน 1 คืนที่สุโขทัยมาแนะนำซึ่งขอบอกเลยว่าได้ทั้งความสนุก ได้ความรู้ แถมยังได้รูปสวยๆ ไปอวดเพื่อน ๆ อีกเพียบแน่นอน ถ้าไม่เชื่อ ก็ลองชวนเพื่อนๆ ชวนครอบครัว หรือชวนคนรู้ใจ ไปเที่ยวตามบัดดี้ดูสิ 😘 วันที่ 11. อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย– วัดมหาธาตุ– วัดสระศรี– วัดศรีชุม2. ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย เจ๊แฮ3. ศูนย์การเรียนรู้บ้านพระพิมพ์ หรือ บ้านพระพิมพ์ลักษมณศิลป์ วันที่ 24. วัดตระพังทอง5. อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย– วัดเจดีย์เจ็ดแถว– วัดนางพญา– วัดช้างล้อม6. ข้าวเปิ๊บยายเครื่อง  เราเริ่มกันที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่เต็มไปด้วยร่องรอยอดีตและความงดงามของโบราณสถานแห่งสุโขทัย อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยเป็นมรดกทางประวัติศาสตร์สมัยเริ่มสร้างอาณาจักรของไทยที่ยังหลงเหลืออยู่ ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกเมื่อ ปี พ.ศ. 2534  โบราณสถานสำคัญที่อยู่ในอุทยานฯ ชั้นในมีอยู่หลายแห่ง แต่บัดดี้จะพาไปชมจุดหลัก ๆ ที่ต้องห้ามพลาดกัน โดยที่แรกก็คือ วัดมหาธาตุ สร้างขึ้นสมัยสุโขทัยตอนต้น ตั้งอยู่บริเวณกลางเมืองสุโขทัย จุดเด่นอยู่ที่เจดีย์มหาธาตุทรงดอกบัวตูม ซึ่งเป็นเจดีย์ประธานของวัด รายรอบด้วยเจดีย์ 8 องค์  ใกล้กับเจดีย์ประธานมีวิหารขนาดใหญ่ก่อด้วยศิลาแลง มีแท่นซึ่งเคยเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย คือ พระศรีศากยมุนี ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ในโบสถ์วัดสุทัศน์เทพวราราม กรุงเทพฯ ด้านเหนือและด้านใต้ของเจดีย์มหาธาตุ มีพระพุทธรูปยืนขนาดใหญ่อยู่ภายในซุ้ม เรียกว่า “พระอัฎฐารส”  วัดสระศรี เป็นโบราณสถานสำคัญซึ่งตั้งอยู่บนเกาะกลางน้ำขนาดใหญ่ ที่เรียกว่า “ตระพังตระกวน” สิ่งที่น่าชมในวัดนี้คือ “เจดีย์ประธานทรงลังกา” ด้านหน้าเจดีย์มีวิหารขนาดใหญ่ประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย ทางทิศใต้ของเจดีย์ประธาน มีเจดีย์ศิลปะศรีวิชัยผสมลังกาขนาดเล็ก มีซุ้มพระพุทธรูป 4 ทิศ ส่วนด้านหน้าของวิหารเป็นเกาะกลางน้ำขนาดย่อมซึ่งเป็นที่ตั้งของพระอุโบสถขนาดเล็ก ถือว่าเป็นวัดที่มีจุดชมทัศนียภาพสวยงามมากแห่งหนึ่ง ถัดออกไปไม่ไกลทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือนอกกำแพงเมืองสุโขทัย ไปเที่ยวชมกันต่อที่ วัดศรีชุม เป็นโบราณสถานที่สำคัญและโดดเด่นแห่งหนึ่งในเขตอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย คำว่า “ศรี” หมายถึง ต้นโพธิ์ ดังนั้นชื่อ “ศรีชุม” จึงหมายถึง ดงของต้นโพธิ์ นั่นเอง วัดศรีชุมได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ในปี พ.ศ.2495 หลังถูกทิ้งร้างมานาน โดยเริ่มจากการบูรณะพระอจนะ ตามด้วยส่วนอื่น ๆ ของวัด จนเป็นอย่างที่เราเห็นในปัจจุบัน ภายในมณฑป ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่ นามว่า “พระอจนะ” มาจากคำในภาษาบาลีว่า “อจละ” ซึ่งแปลว่า “ผู้ไม่หวั่นไหว มั่นคง” หรือ “ผู้ที่ควรแก่การเคารพกราบไหว้” ด้วยความที่พระอจนะเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่ประดิษฐานอยู่ในมณฑปขนาดเล็ก ทำให้การถ่ายภาพที่นี่ถือเป็นเรื่องท้าทายอย่างยิ่งว่าจะถ่ายภาพอย่างไรให้สวย  ผนังมณฑปมีความพิเศษ คือก่อเป็น 2 ชั้น และมีเป็นทางเดินขึ้นไปด้านบน ซึ่งสามารถขึ้นไปยังบริเวณด้านหลังพระเศียรของพระอจนะได้ จุดนี้เองที่เป็นที่มาของตำนานพระพูดได้แห่งเมืองพระร่วง เมื่อครั้งสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงยกทัพไปปราบเมืองสวรรคโลก ได้ทรงแวะพักที่วัดนี้ และได้ให้ทหารปีนขึ้นไปพูดเรียกขวัญกำลังใจแก่เหล่าทหารอยู่ทางด้านหลังขององค์พระ ทำให้ทหารเชื่อว่าพระอจนะพูดได้ จึงเกิดความเลื่อมใสและรู้สึกฮึกเหิมที่จะต่อสู้ จนได้รับชัยชนะในที่สุด  ปัจจุบันกรมศิลปากรได้ปิดทางเข้าอุโมงค์นี้แล้วเพื่อความปลอดภัย อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยแบ่งการเก็บค่าธรรมเนียมเข้าชมออกเป็น 3 เขต คือ1. เขตอุทยานฯ ชั้นใน (ที่มีวัดมหาธาตุ) **ไม่อนุญาตให้นำรถเข้าไป แต่สามารถใช้บริการรถราง เช่าจักรยาน หรือรถกอล์ฟได้**2. เขตทิศเหนือ (วัดศรีชุม และวัดพระพายหลวง)3. เขตอรัญญิก (วัดสะพานหิน ฯลฯ)  อัตราค่าเข้าชม : ชาวไทย 20 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาท ค่าธรรมเนียมยานพาหนะ– รถยนต์ 50 บาท– รถจักรยานยนต์ 20 บาท– รถจักรยาน 10 บาท อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.สุโขทัย เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 06.00-18.00 น. 0 5569 7241https://goo.gl/maps/zUHC1mKjAKcJDToe6 หลังจากเที่ยวกันรัว ๆ เราแวะไปเติมพลังกันที่ “ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย เจ๊แฮ” ร้านนี้โดดเด่นด้วยเส้นบะหมี่ที่ทำเอง สีเหลืองทองน่าทาน มีความเหนียวนุ่ม ทำสดใหม่ทุกวัน เราสั่งก๋วยเตี๋ยวต้มยำมาทานกัน รสชาติอร่อยทีเดียว น้ำซุปกลมกล่อม เครื่องแน่นจัดเต็ม อิ่มกันแบบจุก ๆ ไปเลย ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย เจ๊แฮต.บ้านกล้วย อ.เมือง จ.สุโขทัยเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 07.00-16.00 น. 0 5561 1901https://goo.gl/maps/x8ECActqs272 จากนั้น บัดดี้จะพาเดินทางไป “ศูนย์การเรียนรู้บ้านพระพิมพ์ จ.สุโขทัย” ที่ให้เราได้ทดลองทำพระพิมพ์ด้วยตนเอง ศูนย์การเรียนรู้บ้านพระพิมพ์ หรือ บ้านพระพิมพ์ลักษมณศิลป์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ.2550 โดยมีที่มาจากการรวบรวมพระพิมพ์ที่ค้นพบจากเมืองเก่าสุโขทัยและศรีสัชนาลัย รวมทั้งประวัติของพระพิมพ์ เพื่อให้เป็นแหล่งแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านประวัติศาสตร์และประวัติศาสตร์ศิลปะของเมืองสุโขทัย นอกจากได้เรียนรู้เรื่องพระพิมพ์แล้ว ที่นี่ยังสอนการทำพระพิมพ์ให้แก่ผู้ที่สนใจอีกด้วย ซึ่งการทำพระพิมพ์นั้น พี่กบ ณรงค์ชัย โตอินทร์ ผู้ก่อตั้งศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้ จะลงมือสอนด้วยตัวเอง รวมทั้งให้เกร็ดความรู้ต่าง ๆ ด้วย และนี่ก็คือ พระพิมพ์ฝีมือของเราเอง  ซึ่งหลังจากทำเสร็จแล้ว จะต้องนำพระไปตากให้แห้งเพื่อรอการเผา ซึ่งจะใช้เวลาอย่างน้อย 1 วัน เมื่อเผาเสร็จแล้วพี่กบก็จะส่งไปให้เราทางไปรษณีย์ทีหลัง ถ้าเพื่อน ๆ สนใจอยากเรียนรู้การทำพระพิมพ์ สามารถติดต่อพี่กบ (คุณณรงค์ชัย โตอินทร์) หรือพี่แก้ม (คุณญาณภัทร์ โตอินทร์) ได้เลย โดยติดต่อล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน พี่ ๆ จะได้เตรียมอุปกรณ์ไว้ให้เราได้อย่างครบถ้วน ศูนย์การเรียนรู้บ้านพระพิมพ์เมืองสุโขทัย (บ้านพระพิมพ์ลักษมณศิลป์)ค่าทำกิจกรรมพิมพ์พระ คนละ 250 บาท ศูนย์การเรียนรู้บ้านพระพิมพ์ 51/7 ม.8 บ้านเชตุพน ต.เมืองเก่า อ.เมือง

✨อุทยานประวัติศาสตร์ สุโขทัย – ศรีสัชนาลัย✨ อ่านเพิ่มเติม

🌟น้ำพุร้อนสันกำแพง เชียงใหม่🌟

หากวันนี้รู้สึกเหนื่อยล้า รู้สึกเครียด อยากหาที่พัก ผ่อนคลาย ให้สบายใจ บัดดี้ขอแนะนำให้ทุกท่านมาบำบัดอาการเหล่านั้นด้วยการแช่น้ำแร่ดูค่ะ เพราะจะทำให้ผ่อนคลาย บรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ โลหิตไหลเวียนสะดวก อาการฟกช้ำหายเร็วขึ้น รักษาโรคผิวหนังบางชนิดได้ สุขภาพผิวก็ยังดีขึ้นได้ด้วยเช่นกัน😍 🌿น้ำพุร้อนสันกำแพง เชียงใหม่ ก็เป็นหนึ่งในสถานที่ที่นักท่องเที่ยวเข้ามาผ่อนคลาย ที่นี่เป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุหลายชนิด แคลเซียม แมกนีเซียม ช่วยรักษาโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดดำ การอักเสบในหลอดลม อาการปวดตามข้อ และยังช่วยทำให้กระดูกมีความแข็งแรง ส่วนโซเดียม โพแทสเซียม และคลอรีน ช่วยรักษาสมดุลของน้ำภายในและภายนอกเซลล์ให้อยู่ในภาวะที่สมดุล สำหรับซัลเฟอร์หรือกำมะถัน สามารถชะลอการเสื่อมของข้อต่อ ซ่อมแซมกระดูกอ่อน ผิวหนังและฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของกระดูกสันหลังได้😊 ✨บริเวณบ่อน้ำแร่อบอวลด้วยไอน้ำร้อนและกลิ่นกำมะถัน ซึ่งมีประโยชน์ต่อระบบหายใจ และเห็นรุ้งกินน้ำได้บ่อย ๆ เพราะน้ำร้อนที่พุ่งจากพื้นดินที่มีความสูงกว่า 10 เมตร เกิดละอองน้ำและการหักเหของแสงอยู่ตลอด เด็ก ๆ ชอบนักเชียว💦 ✨บริเวณบ่อน้ำแร่อบอวลด้วยไอน้ำร้อนและกลิ่นกำมะถัน ซึ่งมีประโยชน์ต่อระบบหายใจ และเห็นรุ้งกินน้ำได้บ่อย ๆ เพราะน้ำร้อนที่พุ่งจากพื้นดินที่มีความสูงกว่า 10 เมตร เกิดละอองน้ำและการหักเหของแสงอยู่ตลอด เด็ก ๆ ชอบนักเชียว💦 พื้นที่สำหรับแช่น้ำแร่ แบ่งเป็นสัดส่วนแยกชาย-หญิง มีทั้งแบบตักอาบและลงแช่ มีสระน้ำขนาดใหญ่แยกชาย-หญิงและเด็ก พร้อมทั้งจัดพื้นที่สำหรับแช่เท้าแยกต่างหาก ช่วงนี้มีโปรโมชันสุดคุ้ม มีส่วนลดถึงเดือนกันยายนไปเลย นอกจากได้มาแช่น้ำแร่ผ่อนคลายแล้ว ยังมีอีกหลายหลายกิจกรรมที่น่าสนใจ คือ การต้มไข่ในน้ำแร่ การันตีได้เลยว่าอร่อยกว่าไข่ต้มธรรมดาแน่นอน เพราะได้อุณหภูมิที่เหมาะสม แถมได้กลิ่มหอมจากธรรมชาติด้วย วิธีลวกไข่ นำใส่ในชะลอม ต้องการความสุกแบบไข่ลวก ใช้เวลา 3-5 นาที แบบไข่ต้มยางมะตูม ใช้เวลา 6-8 นาที หรือแบบไข่ต้มสุก ใช้เวลา 10-15 นาที🌻 ✨อีกกิจกรรมที่พลาดไม่ได้เลย คือ งานวิจิตร@เชียงใหม่ สีสันแห่งเส้นแสง น้ำพุร้อนสันกำแพง โครงการตามพระราชดำริ ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 24-30 กรกฎาคม 2566 ชมการแสดงเลเซอร์ผ่านม่านน้ำพุร้อนที่บอกเล่าเรื่องราววิถีชีวิตจากอดีต สู่ปัจจุบัน ของกิจการน้ำพุร้อนสันกำแพงภายใต้คอนเซปต์ “Springs of Life น้ำพุแห่งชีวิต” นำเสนอสีสันแห่งเส้นแสงพร้อมกันทั้ง 10 จุด ในช่วงเวลา 17.00-22.00 น. มีบริการรถรับ-ส่ง ฟรีจากบิ๊กซี ดอนจั่น–น้ำพุร้อนสันกำแพง👉รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก https://thai.tourismthailand.org/Arti…/vijitr-chiangmai-th นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีบริการที่พักแบบเต็นท์ บ้านพัก และเรือนหลังใหญ่ มีห้องประชุม ร้านอาหาร เครื่องดื่ม และบริการด้านสุขภาพอื่น ๆ พร้อมกับจำหน่ายสินค้าที่ระลึกด้วย😊 💵ค่าธรรมเนียมคนไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาทชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท ⏰เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-18.00 น.📞สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม น้ำพุร้อนสันกำแพง เชียงใหม่ โทร. 08 7659 1791📲https://www.facebook.com/skponsen/🌐https://goo.gl/maps/DBoS5tSt9eoD3KYH7

🌟น้ำพุร้อนสันกำแพง เชียงใหม่🌟 อ่านเพิ่มเติม

✨วิถีริมน้ำ อุทัยธานี✨

ใกล้วันหยุดยาว เราเลยอยากแนะนำให้ทุกคนรู้จักจังหวัดเล็กๆ ที่เงียบสงบ แต่เต็มไปด้วยเสน่ห์เฉพาะตัว ที่ “อุทัยธานี” 🫶✨ อุทัยธานี มีแม่น้ำสะแกกรังไหลผ่าน ผู้คนที่นี่มีวิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่ผูกพันกับแม่น้ำแห่งนี้มาตั้งแต่ครั้งอดีตจะเห็นได้จากวัฒนธรรมการตักบาตรริมน้ำ🥰 ชุมชนชาวแพแห่งสุดท้ายในไทย ที่ยังคงอาศัยอยู่ในเรือนแพที่ตั้งเรียงรายอยู่สองฝั่งของแม่น้ำ ชาวบ้านยังคงประกอบอาชีพจับปลาและเลี้ยงปลาในกระชัง บ้างก็ใช้เรือพายสัญจรในแม่น้ำแทนการใช้ถนน เรียกได้ว่า สะแกกรัง ยังคงเป็นแม่น้ำสายหลักที่หล่อเลี้ยงชาวอุทัยธานี เริ่มต้นวันพักผ่อน ๆ ดี ๆ ด้วยการตักบาตร แต่ที่นี่พิเศษกว่าที่ไหน ๆ เพราะที่อุทัยเขาตักบาตรกันริมน้ำ โดยทุก ๆ เจ็ดโมงเช้า พระสงฆ์ 2 รูปจากวัดอุโปสถาราม (วัดโบสถ์) จะพายเรือมายังลานสะแกกรัง ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับวัด เพื่อรับบิณฑบาตจากชาวบ้าน จนกลายเป็นวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดอุทัยธานี เพื่อน ๆ สามารถหาซื้อของตักบาตรได้จากตลาดสดเทศบาลอุทัยธานี ซึ่งอยู่ติดกับลานสะแกกรัง ตักบาตรเสร็จแล้ว เราอยากพาเพื่อน ๆ มาล่องเรือชมความงามของสองฝั่งแม่น้ำสะแกกรัง สามารถขึ้นเรือได้ทั้งฝั่งลานสะแกกรัง หรือท่าวัดโบสถ์ เรือแล่นไปอย่างช้า ๆ เพื่อให้เราได้สัมผัสบรรยากาศของแม่น้ำสะแกกรังได้อย่างเต็มที่ เรือนแพทุกหลังของที่นี่มีทะเบียนถูกต้อง ปัจจุบันลดจำนวนลงจนเหลือเพียง 100 กว่าหลัง บางหลังปรับเปลี่ยนเป็นโฮมสเตย์รองรับนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสประสบการณ์การนอนบนแพ เราจะยังคงเห็นชาวแพจับปลาในแม่น้ำ และเลี้ยงปลาในกระชัง โดยปลาส่วนใหญ่ของที่นี่มีทั้งปลาเทโพ ปลาสวาย และปลาแรด ซึ่งถ้าหากได้มาอุทัยธานีแล้วเราอยากให้ลองกินปลาแรด ของขึ้นชื่อของอุทัยธานี ที่มีนิยามประจำตัวว่า “เกล็ดหนา หน้างุ้ม เนื้อนุ่ม แน่นหวาน” นอกจากนี้ยังมีการปลูกเตยหอม และพืชผักอื่น ๆ เรือพาเราแล่นมาเรื่อย ๆ จนถึงแพป้าแต๋ว แพขายปลาย่างที่นำปลาที่ได้จากแม่น้ำสะแกกรัง มาย่างรมควัน สามารถนำไปทำอาหารได้หลายอย่าง ทั้งน้ำพริก ต้มโคล้ง หรือจะทานกับข้าวสวยร้อน ๆ ก็อร่อย นอกจากนี้ยังมีปลาร้า ปลาส้ม ที่รสชาติดีไม่แพ้กัน กลิ่นหอมของปลาย่างที่ลอยไปทั่วคุ้งน้ำ ทำให้รู้ทันทีว่าที่นี่จะมีของอร่อยให้เราได้ชิมและซื้อติดไม้ติดมือกลับไปแน่นอน

✨วิถีริมน้ำ อุทัยธานี✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ หุบป่าตาด จ.อุทัยธานี ✨

สวัสดีทุกคน วันนี้บัดดี้จะมาแนะนำอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติสุดสวยของ จ.อุทัยธานี #หุบป่าตาด สถานที่ที่มีธรรมชาติสวยงาม ต้นไม้ดึกดำบรรพ์และภูเขาหินปูนที่มีอายุมากกว่า 250 ล้านปี หุบป่าตาด ตั้งอยู่ในพื้นที่ของเขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือการที่มีป่าตั้งอยู่ภายในหุบเขาของถ้ำหินปูน ที่เกิดการถล่มของการกัดเซาะของน้ำฝนเป็นเวลาหลายแสนปี จนทำให้มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเติบโตของพืชอย่าง “ต้นตาด” พืชตระกูลปาล์มที่ไม่สามารถปลูกได้ จะขึ้นเองตามธรรมชาติเท่านั้น ทางเข้าหุบป่าตาดเป็นถ้ำมืดที่ต้องใช้ไฟฉายส่องในระยะทางที่ไม่ไกล เมื่อเดินผ่านเข้ามาภายในหุบแล้ว เพื่อน ๆ จะเจอกับป่าดงดิบที่อากาศค่อนข้างเย็นและชื้น มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติยาว 700 เมตรที่ตลอดทางจะมีทั้งป้ายให้ความรู้ มีที่นั่งพัก โถงถ้ำกลางหุบป่าตาดมีหินงอก หินย้อย หินเอน ซึ่งที่นี่เป็นอีกจุดที่ใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำละครเรื่อง นาคี ด้วยเช่นกัน ไฮไลต์ของที่นี่ คือ กิ้งกือมังกรสีชมพู (Shocking Pink Millipede) สิ่งมีชีวิตชนิดใหม่อันดับที่ 3 ของโลก รองจากการค้นพบปลากระเบนไฟฟ้าในแอฟริกาและการค้นพบฟอสซิลไดโนเสาร์ปากเป็ดอายุ 75 ล้านปี ในสหรัฐฯ ที่เมื่อโตเต็มที่จะมีขนาดเพียง 7 ซม. เท่านั้น โดยสามารถพบเจอได้ที่ หุบป่าตาด นี่ที่เดียวในช่วงเดือนสิงหาคม–พฤศจิกายน เท่านั้น 💵 ค่าเข้าชมชาวไทย ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 20 บาท (เด็กอายุไม่เกิน 3 ปี และผู้สูงอายุ เข้าฟรี)ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 400 บาท เด็ก 200 บาท 📌 ตำบลทุ่งนางาม อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี⏰ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.00 น.📞 เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน 0 5698 9128🌐 https://goo.gl/maps/TAsYsTEvCp9Ejwgy7

✨ หุบป่าตาด จ.อุทัยธานี ✨ อ่านเพิ่มเติม

🌟วัดโสธรวรารามวรวิหาร : ฉะเชิงเทรา🌟

📌พระพุทธโสธร หรือ หลวงพ่อโสธร เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองที่สำคัญองค์หนึ่งของประเทศไทย เป็นที่เลื่อมใสและเคารพบูชาอย่างกว้างขวางทั้งคนในพื้นที่และชาวไทยทั้งประเทศ โดยผู้ที่นับถือในหลวงพ่อได้เปรียบเปรยว่า ท่านเป็นดังร่มโพธิ์ร่มไทรที่ให้ความร่มเย็นเป็นสุขและสิริมงคลในชีวิต 📌จากตำนานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์กล่าวถึงความเป็นมาของพระพุทธรูปสัมฤทธิ์สามองค์ ที่แสดงอภินิหารลอยน้ำมาจากทางเหนือ โดยองค์หนึ่งได้ไปผุดที่วัดบ้านแหลมหรือวัดเพชรสมุทรวรวิหาร จังหวัดสมุทรสงคราม และอีกองค์หนึ่งผุดขึ้นที่วัดบางพลีใหญ่ใน จังหวัดสมุทรปราการ สำหรับองค์หลวงพ่อโสธรนั้น ชาวบ้านแปดริ้วได้ทำพิธีอัญเชิญขึ้นจากแม่น้ำได้สำเร็จ และประดิษฐานในพระวิหารภายในวัดแห่งนี้นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2313 เป็นต้นมา 📌หลวงพ่อโสธรเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ศิลปะอยุธยาตอนต้น ที่ได้รับอิทธิพลศิลปะขอม สร้างจากหินทราย 8 ชิ้นที่นำมาประกอบเข้าด้วยกัน พอกด้วยปูนปั้นและลงรักปิดทอง 📌เดิมที วัดโสธรนั้นเรียกอีกชื่อว่า “วัดหงส์” ตามลักษณะเสาที่ตั้งอยู่บริเวณวัดแต่พายุได้พัดทำให้หงส์ที่ตั้งอยู่บนยอดเสาหักลงมา ชาวบ้านจึงเปลี่ยนเสาหงส์เป็นเสาธงแทน จึงเรียกชื่อว่า “วัดเสาธง” ต่อมาไม่นานเกิดพายุพัดเสาธงหัดทอนลงอีกครั้ง ชาวบ้านจึงเรียกว่า “วัดเสาธงทอน” ซึ่งเชื่อว่าเป็นที่มาของคำว่า “วัดโสธร” ในภายหลังวัดแห่งนี้ได้รับการสถาปนาเป็นพระอารามหลวงและได้ใช้ชื่อว่า วัดโสธรวรารามวรวิหาร ในปัจจุบัน 📌เมื่อ พ.ศ. 2531 ทางวัดได้สร้างพระอุโบสถหลังใหม่ครอบพระอุโบสถหลังเดิม แต่ไม่ได้เคลื่อนย้ายหลวงพ่อโสธรและพระพุทธรูปองค์อื่น ๆ โดยพระอุโบสถหลังใหม่มีลักษณะเป็นอาคารจัตุรมุขทรงไทยประยุกต์ยอดมณฑป แล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2549 📌ความเชื่อและวิธีการบูชาผู้ที่นับถือหลวงพ่อโสธรเชื่อว่าเมื่อได้มาสักการะแล้ว จะมีแต่ความสุข เป็นสวัสดิมงคลแก่ชีวิต และในหมู่ผู้ที่มีบุตรยากยังเดินทางมาพร้อมกับความหวัง เพราะเชื่อกันว่า หากได้มาขอหลวงพ่อแล้วจะได้ลูกชาย และเมื่อสมดังหวัง ก็นิยมมาถวายละครชาตรี ไข่ต้ม ผลไม้ และพวงมาลัยเมื่อสมหวังดังใจอธิษฐาน 🕍ถนนเทพคุณากร ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา⏰เปิดทุกวัน เวลา 07.00-17.00 น.🌐https://goo.gl/maps/tCh1cwXwPfe1wwrx7

🌟วัดโสธรวรารามวรวิหาร : ฉะเชิงเทรา🌟 อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top