น่าน

น่าน

ชวนคน”ศีลเสมอกัน” ไปเที่ยว”ดอยเสมอดาว”

กิจกรรมที่หลายๆ คนนิยมทำเมื่อไปเยือนดอยเสมอดาวก็คือ การกางเต็นท์นอนนับดาวยามค่ำคืนและชมทะเลหมอกในยามเช้า  หากไปกันเป็นกลุ่มหลายๆ คน กิจกรรมที่ขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือ การร้องเพลง เล่นกีต้าร์ กับเพื่อนๆ ค่ะ ซึ่งแอดก็เป็นคนนึงที่ชื่นชอบกิจกรรมนี้มากเป็นพิเศษ เพราะมันทั้งสนุก เพลิดเพลิน และมีความสุขมากๆเลย แต่ต้องระวังไม่ให้เสียงดังรบกวนเต็นท์ข้างเคียงด้วยนะคะ แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าดอยเสมอดาวจะไม่ใช่จุดที่สูงที่สุด แต่ก็สามารถมองเห็นดาว⭐ ได้ชัดเจนที่สุดอีกจุดหนึ่งของประเทศไทย หากฟ้าฝนเป็นใจ เพื่อนๆ ก็อาจจะได้เห็นทางช้างเผือกที่โกโบริไปรออังศุมาลินอยู่อีกด้วยค่ะ เป็นที่รู้กันดีว่าทะเลหมอกนั้นต้องชมในฤดูฝนถึงจะสวยที่สุด แต่สำหรับดอยเสมอดาวนั้น เพื่อนๆ สามารถชมทะเลหมอกได้ทุกฤดูค่ะ เพราะที่นี่มีอากาศเย็นตลอดทั้งปี  นอกจากกางเต็นท์นอนนับดาวยามค่ำคืน และชมทะเลหมอกยามเช้าแล้ว บนดอยเสมอดาวยังสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกที่สวยงามได้อีกด้วย เห็นมั้ยละคะว่าดอยเสมอดาวเป็นสถานที่ที่น่าสนใจมากขนาดไหน สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจจะไปกางเต็นท์นอนที่ดอยเสมอดาว ทางอุทยานฯ ก็มีเต็นท์พร้อมอุปกรณ์ให้เช่าด้วยค่ะ – เต็นท์สำหรับ 3 คน ราคา 405 บาท – เต็นท์สำหรับ 2 คน ราคา 345 บาท.แต่ถ้านำเต็นท์ไปเอง ทางอุทยานฯ ก็จะเก็บค่าธรรมเนียมคนละ 30 บาทค่ะ

น่าน..เนิบ..เนิบ (๒)

วัดภูมินทร์ เดิมชื่อว่า “วัดพรหมมินทร์” ตั้งชื่อตามเจ้าเจตบุตรพรหมมินทร์ เจ้าผู้ครองนครน่าน ซึ่งได้โปรดให้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2139 หลังจากที่ขึ้นครองนครน่านได้ 6 ปี ต่อมาชื่อวัดถูกเรียกกันจนเพี้ยนกลายเป็น “วัดภูมินทร์” มาจนถึงปัจจุบัน สิ่งที่น่าสนใจของวัดนี้คือ “พระอุโบสถจตุรมุข” เป็นสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ โดยรวมเอาโบสถ์ วิหาร และเจดีย์ ไว้ในอาคารเดียวกัน เป็นการจำลองแผนภูมิจักรวาลตามความเชื่อแห่งพุทธศาสนา มีพระประธานจตุรทิศปางมารวิชัย 4 องค์ หันหน้าออกสู่ประตูทั้ง 4 ทิศ ประดิษฐานอยู่ภายใน และมีนาคสะดุ้งขนาดใหญ่แห่แหนพระอุโบสถเทินไว้กลางลำตัว ที่เปรียบเสมือนการอุ้มชูพระพุทธศาสนาให้คงอยู่สืบไป เชื่อกันว่า หากใครจะไปกราบขอพรพระจตุรทิศ ให้พยายามสังเกตหน้าองค์พระ 1 ในทั้งสี่ทิศ ซึ่งจะมีอยู่เพียงทิศเดียวเท่านั้น ที่หน้าองค์พระประธานจะมีลักษณะยิ้มแย้มมากกว่าทั้ง 3 ทิศที่เหลือ ให้กราบขอพรยังทิศนั้นแล้วจะได้สมปรารถนา วัดนี้เคยได้พิมพ์อยู่บนธนบัตรราคา 1 บาท ซึ่งเป็นธนบัตรในแบบ 5 ประกาศใช้เมื่อวันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2485 ด้านหน้าเป็นพระบรมสาทิสลักษณ์ของรัชกาลที่ 8 และมีโบสถ์วัดภูมินทร์อยู่ทางด้านซ้ายของธนบัตร ภาพจิตกรรมฝาผนัง (ฮูปแต้ม) ในวัดภูมินทร์ที่โด่งดังมากคือ ภาพ “กระซิบรักบันลือโลก” หรือ ภาพ “ปู่ม่าน ย่าม่าน” ซึ่งเป็นคำเรียกผู้ชายผู้หญิงชาวไทลื้อสมัยโบราณ ในลักษณะกระซิบสนทนากัน ภาพนี้ มีการใช้สีแดง ฟ้าดำ น้ำตาลเข้มเป็นปื้นใหญ่ ๆ คล้ายภาพสมัยใหม่ ภาพธรรมเนียมการอยู่ข่วง ของชาวไทลื้อ พ่อแม่ จะอนุญาตให้หนุ่มสาวพบปะกันที่ชานบ้านในเวลาค่ำ ขณะหญิงสาวกำลังปั่นฝ้าย หรือ “อยู่ข่วง” หากสาวเจ้าตกลงปลงใจด้วยก็จะจัดพิธีแต่งงาน หรือที่เรียกว่า “เอาคำ ไปป่องกั๋น” หรือเป็นทองแผ่นเดียวกัน ภาพการค้าขายแลกเปลี่ยนในชุมชน ภาพชาวพื้นเมือง ซึ่งอาจเป็นชาวเขา “เป๊อะ” ของป่าบนศรีษะ เพื่อนำมาแลกเปลี่ยนกับคนเมือง ภาพชีวิตความเป็นอยู่ของคนเมืองน่าน หญิงสาวกำลังทอผ้าด้วยกี่พื้นเมือง นอกเรือนมีชานเล็ก ๆ ตั้งหม้อน้ำดินเผาที่เรียกว่า “ร้านน้ำ” ชายหนุ่มไว้ผมทรงหลักแจวหรือทรงมหาดไทย แสดงให้เห็นอิทธิพลตะวันตกที่เข้ามาผสมผสานในวิถีพื้นเมืองน่าน วัดภูมินทร์ เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น. มีสถานที่น่าสนใจใกล้เคียงคือพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่านและวัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร GPS : 18°46’28.8″N 100°46’17.7″E

น่าน..เนิบ..เนิบ (๓)

น่าน..เนิบ..เนิบ (๓) วัดนี้อยู่บนดอยเขาน้อยองค์พระธาตุสร้างในสมัยเจ้าปู่เข็ง เมื่อพ.ศ. 2030 มีเจดีย์ก่ออิฐถือปูนทั้งองค์ ศิลปะพม่าผสมล้านนา ภายในบรรจุพระเกศาธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ในสมัยพระเจ้าสุริยพงศ์ผริตเดชฯ ในปีพ.ศ. 2449-2454 โดยช่างชาวพม่าชื่อหม่องยิง และวิหารมีพระพุทธรูปศิลปะพม่าสร้างในสมัยนี้เช่นกัน ลานชมทิวทัศน์ประดิษฐาน “พระพุทธมหาอุดมมงคลนันทบุรีศรีน่าน” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางประทานพร บนฐานดอกบัวสูง 9 เมตร บนยอดพระเกศาทำจากทองคำหนัก 27 บาท สร้างขึ้นเนื่องในมหามงคล พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2542 เป็นจุดชมวิวที่นักท่องเที่ยวต้องมาเก็บรูปไว้เป็นที่ระลึกบอกเลยค่ะว่า “ห้ามพลาด” สวยงามมากๆเพราะสามารถมองเห็นทิวทัศน์โดยรอบของตัวเมืองน่านได้ทั้งหมด ลานชมทิวทัศน์เปิดให้เข้าชมทุกวันตลอดเวลา นอกจากนี้ภายในบริเวณวัดยังมีแผ่นศิลาจารึกภาษาพื้นเมืองพระแม่ธรณีบีบมวยผม ศาลาเอนกประสงค์ ศาลาประดิษฐานหลวงพ่อเกษม เขมโก และตำหนักเจ้าแม่กวนอิมที่บริเวณทางขึ้นบันไดนาคซึ่งมี 303 ขั้น วัดพระธาตุเขาน้อยเปิดทุกวัน เวลา 07.00-18.00 น.  การเดินทาง ใช้เส้นทางเดียวกับวัดพญาวัด ขับเลยไปตามทางหลวงหมายเลข 1025 ประมาณ 2 กิโลเมตร

เยือน (วัด) ภูเก็ต ณ เมืองน่าน

เยือน (วัด) ภูเก็ต ณ เมืองน่าน วัดภูเก็ต อยู่ตำบลวรนคร อำเภอปัว ที่ชื่อวัดภูเก็ตเป็นการเรียกชื่อตามหมู่บ้านที่ชื่อว่า “หมู่บ้านเก็ต” และเนื่องจากเป็นวัดตั้งอยู่บนเนินเขาซึ่งทางเหนือ เรียกว่า “ดอย” หรือ “ภู” จึงมีชื่อว่า “วัดภูเก็ต” หมายถึง วัดบ้านเก็ตที่อยู่บนภู หรือ ดอย จุดเด่นของวัดนี้มีระเบียงชมวิวด้านหลังวัด ติดกับทุ่งนากว้าง พร้อมด้วยฉากหลังเป็นภูเขาของอุทยานแห่งชาติดอยภูคา อีกทั้งยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่งดงามอีกแห่งหนึ่ง ด้านล่างมีแม่น้ำไหลผ่าน ทางวัดได้จัดให้เป็นเขตอภัยทาน สามารถให้อาหารจากลานข้างบน ผ่านท่อไหลลงไปให้กับฝูงปลาได้ บริเวณวัดมีอุโบสถทรงล้านนาประยุกต์ จิตรกรรม ฝาผนังสามมิติ ประดิษฐาน “หลวงพ่อแสนปัว หรือ หลวงพ่อพุทธเมตตา” หันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันออก นอกจากนี้ ทางวัดยังสร้าง ภูเก็ตสนธยา เทมเพิล สเตย์ เป็นอาคารที่พักที่มีลักษณะเป็นโรงแรมธรรมะ สำหรับผู้ที่มาปฎิบัติธรรมร่วมกับทางวัด ในวันสำคัญทางศาสนา เช่น วันวิสาขบูชา วันเข้าพรรษา วันมาฆบูชา ได้ทำบุญตักบาตร และยังได้ศึกษาวิถีชีวิตของพระ เณร เหตุที่เรียกว่าเทมเพิล สเตย์ เพราะที่นี่จัดห้องพักลักษณะเดียวกับโรงแรม มีเครื่องใช้ภายในห้องเหมือนโรงแรมทั่วไป มีห้องพักรวม ซึ่งรองรับผู้เข้าพักได้ถึง 60 คน และห้องเดี่ยว สำหรับรองรับผู้เข้าพักอีก 8 ห้อง ตอนเช้ายังมีบริการอาหารเช้า (ข้าวต้ม) และกาแฟ ให้แก่ผู้เข้าพัก อาคารนี้มี 4 ชั้น 8 ห้องนอน โดยในชั้นที่ 4 จะเป็นห้องปฏิบัติธรรม ตัวโรงแรมสร้างอยู่ใต้โบสถ์บริเวณลานโบสถ์เป็นดาดฟ้า โรงแรมนี้ไม่มีจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งแตกต่างจากโรงแรมอื่น ช่วงปฏิบัติธรรมไม่ต้องเสียค่าเข้าพัก (หรืออาจบริจาควัดตามแต่จิตศรัทธา) ส่วนใครต้องการไปพักผ่อนนอกเหนือช่วงที่จัดปฏิบัติธรรมต้องเสียค่าเข้าพัก (ค่าบำรุงวัดและสถานที่) สอบถามข้อมูล โทร. 08 9552 4503, 08 4046 9745 การเดินทาง จากอำเภอปัวขับรถตรงไปกลับรถที่เทสโก โลตัส แล้วเลี้ยวซ้ายไปตามถนนโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัว วัดภูเก็ต อยู่เยื้องกับโรงพยาบาล

10 จุดชมนาขั้นบันไดฤดูฝน

10 จุดชมนาขั้นบันไดฤดูฝน 1. บ้านแม่กลางหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ บ้านแม่กลางหลวงเป็นชุมชนเล็กๆ ของชาวกะเหรี่ยงปกาเกอะญอ หมู่บ้านจะอยู่ระหว่างเส้นทางขึ้นดอยอินทนนท์ ภายในหมู่บ้านมีที่พักแบบโฮมสเตย์บริการอยู่หลายจุด ที่นี่มีชื่อเสียงในเรื่องของวิวนาขั้นบันไดที่สวยงาม เรียกได้ว่าถ้าพูดถึงนาขั้นบันไดแล้วละก็ หลายๆ คนน่าจะคิดถึงที่นี่เป็นที่แรกเลย พิกัด : https://goo.gl/maps/ExtxUZL2D9y 2. บ้านผาหมอน อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ บ้านผาหมอนเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวนาขั้นบันได ที่อยู่ระหว่างทางขึ้นดอยอินทนนท์ โดยจากทางขึ้นดอยอินทนนท์ บ้านผาหมอนจะอยู่ถึงก่อนบ้านแม่กลางหลวง หมู่บ้านอยู่ลึกเข้าไปจากถนนใหญ่ประมาณ 8 กิโลเมตร พิกัด https://goo.gl/maps/QSJSS1nuoFo 3. บ้านกองกาน อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ หลายๆ คนอาจจะยังไม่รู้ว่าที่อำเภอแม่แจ่มก็มีจุดชมวิวนาขั้นบันไดอยู่หลายจุด อย่างเช่นที่บ้านกองกาน ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวอำเภอแม่แจ่มมากนัก เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวนาขั้นบันไดที่แอดแนะนำ ช่างภาพสายแลนด์ต้องห้ามพลาด พิกัด https://goo.gl/maps/HPCuRYDhq7B2 4. อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ การเดินทางเข้าไปชมนาขั้นบันไดที่นี่จะลำบากกว่าที่อื่นๆ พอสมควร แต่ถ้าใครชอบความสงบ ไม่วุ่นวาย นาขั้นบันไดในอำเภออมก๋อยก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่แอดแนะนำ ด้วยการเดินทางที่ไกล ทำให้ที่นี่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์และเงียบสงบ พิกัด https://goo.gl/maps/xJoBgprpAb32 5. ป่าบงเปียง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ป่าบงเปียงเป็นหนึ่งในนาขั้นบันไดที่สวยที่สุดในประเทศด้วยสภาพพื้นที่ที่อยู่บนเขาสูง มีแนวเขาเรียงรายสลับซับซ้อน ทำให้เห็นนาขั้นบันไดในมุมกว้างลดหลั่นกันไปตามระดับ ยิ่งไปกว่านั้นช่วงเช้าๆ ของฤดูฝน จะมีสายหมอกจางๆ ลอยเป็นฉากหลังอีกด้วย พิกัด https://goo.gl/maps/HJmddtF17UL2 6. อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน จากเชียงใหม่ แอดพามาดูนาขั้นบันไดที่แม่ฮ่องสอนกันบ้าง…หลายๆ คนคงเคยได้ยินชื่อของนาขั้นบันไดที่แม่ลาน้อยกันมาบ้างแล้ว นาขั้นบันไดที่แม่ลาน้อย เป็นโครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 นอกจากนาข้าวแล้ว ที่แม่ลาน้อยยังมีแปลงผักปลอดสารพิษที่ปลูกตลอดทั้งปีอีกด้วย  พิกัด https://goo.gl/maps/6S9o24kAbuL2 7. บ้านดง อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน นาขั้นบันไดที่บ้านดง เป็นอีกหนึ่งจุดชมนาขั้นบันไดในอำเภอแม่ลาน้อย โดยที่นี่ได้รับฉายาว่าเป็น “เมืองร้อยนา” เพราะเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยทุ่งนา ที่ปลูกข้าวตามสภาพภูมิประเทศ  พิกัด https://goo.gl/maps/rahazwJtnm72 8. ดอยแม่สะเรียง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน บนดอยแม่สะเรียงเป็นที่ตั้งของชุมชนใหญ่อยู่ติดชายแดนไทย-พม่า ที่มีชาวพุทธ คริสต์ และอิสลาม อาศัยอยู่รวมกัน หลายๆ คนอาจจะเคยไปเที่ยวนาขั้นบันไดที่แม่ลาน้อยกันมาบ้างแล้ว ถ้ามีโอกาสลองแวะมาที่ดอยแม่สะเรียงกันดูบ้าง รับรองว่าสวยไม่แพ้ที่ไหนแน่นอน พิกัด https://goo.gl/maps/hc2XVYfaUZ82 9. หมู่บ้านปางขอน อ.เมือง จ.เชียงราย นอกจากไร่กาแฟและดอกนางพญาเสือโคร่งแล้ว ที่นี่ยังมีนาขั้นบันไดที่ปลูกตามสภาพพื้นที่ในช่วงฤดูฝนอีกด้วย ถึงแม้ว่านาขั้นบันไดที่นี่อาจจะไม่ได้มีพื้นที่มากเหมือนที่อื่นๆ แต่ก็สวยงามไปอีกแบบนะ พิกัด https://goo.gl/maps/6H5hRo88c1S2 10. บ้านสะจุกสะเกี้ยง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน ที่สุดท้ายแอดพามาชมนาขั้นบันไดที่ บ้านสะจุกสะเกี้ยง-เปียงซ้อ ที่นี่เป็นอีกหนึ่งในโครงการพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 โดยทรงมีพระราชดำริให้จัดสร้างโครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงขึ้นในหมู่บ้าน เพื่อเร่งฟื้นฟูสภาพป่าในพื้นที่  พิกัด https://goo.gl/maps/hKkG5zNK6Zq

ธรรม (ดา) พาไหว้ : พระธาตุประจำปีเกิด 12 ปีนักษัตร

ข้อห้ามควรรู้ก่อนสักการะบูชาพระธาตุ ไม่ควรนำรูปปั้นสัตว์ประจำปีเกิดไปบูชาพระธาตุ เพราะไม่ใช่หลักคำสอนของพระพุทธศาสนาห้ามไม่ให้ผู้หญิงขึ้นไปบริเวณรอบพระธาตุ เนื่องจากในสมัยโบราณมักจะบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ที่ฐานเจดีย์ ปีชวด พระธาตุศรีจอมทอง จ.เชียงใหม่ เป็นวัดสำคัญคู่เมืองจอมทอง เป็นที่เคารพสักการะของชาวเหนือโดยทั่วไป และเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนที่เกิดปีชวด วัดพระธาตุศรีจอมทอง เป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระเศียรเบื้องขวาและส่วนอื่นๆ รวม 5 องค์ ซึ่งความพิเศษของพระบรมธาตุที่นี่คือ เป็นพระบรมธาตุเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย ที่เราสามารถมองเห็น สักการะ และอัญเชิญลงมาสรงน้ำในพิธีต่างๆ ได้ เนื่องจากพระบรมธาตุไม่ได้บรรจุไว้ในเจดีย์แต่ประดิษฐานอยู่ในกู่ภายในพระวิหารนั่นเอง  ทุกปีจะมีประเพณีสรงน้ำพระบรมธาตุ ซึ่งตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 9 เหนือ (ราวเดือนมิถุนายน)  วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหารเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 06.00-18.00 น.โทร : 053 826 869, 053 342 184 การเดินทางจากเชียงใหม่ ใช้ทางหลวงหมายเลข 108 วิ่งมาเรื่อยๆ จนเข้าเขตอำเภอจอมทอง วัดจะอยู่ทางซ้ายมือพิกัด : https://goo.gl/maps/p24Q1EehcXo ปีฉลู พระธาตุลำปางหลวง จ.ลำปาง เป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนเกิดปีฉลู ที่เริ่มสร้างในปีฉลูและเสร็จในปีฉลูเช่นกัน มีความเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวีแห่งเมืองหริภุญชัย ภายในบรรจุพระเกศาธาตุ และพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระนลาฎเบื้องขวาและพระศอ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยว Unseen ที่สามารถมองเห็นเงาพระธาตุในมุมกลับได้อีกด้วย วัดพระธาตุลำปางหลวงเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 07.30-17.00 น.โทร. 054 328 327 การเดินทางห่างจากตัวเมืองลำปางประมาณ 18 กิโลเมตร ตามทางหลวงสายลำปาง-เถิน ถึงหลักกิโลเมตรที่ 586 เลี้ยวเข้าไปจนถึงที่ว่าการอำเภอเกาะคา จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าไปอีก 2 กิโลเมตร ถึงทางแยกเข้าอีก 1 กิโลเมตรพิกัด : https://goo.gl/maps/wMGGSc9htvj ปีขาล พระธาตุช่อแฮ จ.แพร่ เป็นปูชนียสถานอันศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองแพร่ ตามตำนานกล่าวว่าสร้างขึ้นราว พ.ศ.1879-1881 เมื่อครั้งพระมหาธรรมราชา (ลิไท) ยังเป็นพระมหาอุปราชครองเมืองศรีสัชนาลัย  ภายในพระธาตุบรรจุพระเกศาธาตุ และพระบรมสารีริกธาตุพระศอกซ้ายของพระพุทธเจ้า ทุกปีจะมีงานนมัสการพระธาตุในวันขึ้น 9 ค่ำ – ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4 (ประมาณเดือนมีนาคม) ใช้ชื่องานว่า “งานประเพณีไหว้พระธาตุช่อแฮ เมืองแพร่แห่ตุงหลวง” วัดพระธาตุช่อแฮเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 07.00-18.00 น.โทร. 054 599 073-4, 054 599 209 การเดินทางจากตัวเมืองแพร่ ขับไปตามทางหลวงหมายเลข 1022 (ถนนช่อแฮ) ประมาณ 9 กิโลเมตร https://goo.gl/maps/HWSvJCCGQNB2 ปีเถาะ พระธาตุแช่แห้ง จ.น่าน เป็นปูชนียสถานศักดิ์สิทธิ์ ตั้งอยู่บนเนินทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำน่าน บริเวณศูนย์กลางเมืองน่านเดิม หลังจากที่ย้ายมาจากเมืองปัว พระธาตุแช่แห้งสร้างในสมัยพญาการเมืองเป็นเจ้าผู้ครองนครน่าน เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระมหาชินธาตุเจ้า 7 พระองค์ (พระบรมสารีริกธาตุ) พระพิมพ์เงินและพระพิมพ์ทอง ที่ได้รับพระราชทานจากพระมหาธรรมราชาลิไท เมื่อครั้งที่พระองค์เสด็จไปช่วยสร้างวัดหลวงอภัย (วัดป่ามะม่วง จังหวัดสุโขทัยในปัจจุบัน)  วัดพระธาตุแช่แห้ง พระอารามหลวงเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 06.00-18.00 น.โทร. 054 601 146 การเดินทางจากตัวเมือง ข้ามสะพานแม่น้ำน่าน ไปตามทางหลวงหมายเลข 1168 (น่าน-แม่จริม) ประมาณ 3 กิโลเมตรพิกัด : https://goo.gl/maps/znEpCM7mQFF2 ปีมะโรง เจดีย์วัดพระสิงห์ จ.เชียงใหม่ เจดีย์วัดพระสิงห์สร้างราว พ.ศ.1888 ต่อมามีการบูรณะให้สูงใหญ่ขึ้นในสมัยครูบาศรีวิชัย ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่พระสุมนเถระนำมาจากลังกา และมีการอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์จากลังกามาประดิษฐานไว้ที่วิหารลายคำในวัดแห่งนี้ด้วย วัดพระสิงห์วรมหาวิหารเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 06.00-18.00 น.โทร. 053 416 019, 081 883 8752 การเดินทางวัดพระสิงห์ตั้งอยู่บริเวณคูเมืองด้านใน บริเวณถนนสิงหราชจรดกับถนนราชดำเนินพิกัด : https://goo.gl/maps/XQ9PvXJZVaR2 ปีมะเส็ง วัดโพธารามมหาวิหาร (วัดเจ็ดยอด) จ.เชียงใหม่ เป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่งของเชียงใหม่ สร้างโดยพระเจ้าติโลกราช เมื่อ พ.ศ.1999  เจดีย์เจ็ดยอด มีลักษณะคล้ายกับมหาวิหารโพธิที่พุทธคยาในประเทศอินเดีย โดยเป็นอาคารหรือวิหารที่มียอดเจดีย์ สร้างด้วยศิลาแลง ที่ผนังประดับปูนปั้นรูปเทวดาทรงเครื่อง มีทั้งนั่งขัดสมาธิและยืน งดงามมาก ภายในวิหารประดิษฐานหลวงพ่อใหญ่ พระพุทธรูปปางมารวิชัย สิ่งสักการะสำคัญในวัดคือ ต้นศรีมหาโพธิ์ขนาดใหญ่ ซึ่งพระเจ้าติโลกราชได้นำมาจากลังกา ถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีมะเส็ง วัดโพธารามมหาวิหาร เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 08.00-17.00 น.โทร. 053 221 464, 081 783 8567 การเดินทางใช้ทางหลวงหมายเลข 11 (เชียงใหม่-ลำปาง) ขับตรงมาเรื่อยๆ จะเห็นสี่แยกไฟแดงเจ็ดยอด ก่อนถึงสี่แยกรินคำ จะเห็นวัดเจ็ดยอดอยู่ทางขวามือพิกัด : https://goo.gl/maps/RqbeM8gZupF2 ปีมะเมีย พระบรมธาตุบ้านตาก จ.ตาก พระบรมธาตุบ้านตากจำลองแบบมาจากเจดีย์ชเวดากองในประเทศพม่า โดยสร้างครอบเจดีย์องค์เก่าไว้ ลักษณะเป็นเจดีย์องค์ใหญ่อยู่ตรงกลาง ล้อมรอบด้วยเจดีย์องค์เล็ก 16 องค์ ภายในเจดีย์องค์กลางบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และพระเกศาธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกปีในช่วงวันขึ้น 14 และ 15 ค่ำเดือน 9 ของชาวเหนือ (ระหว่างเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน) จะมีการจัดประเพณีขึ้นธาตุเดือนเก้าเพื่อเป็นการสักการะองค์พระบรมธาตุ และบวงสรวงขอพรเทวดาในการเริ่มฤดูทำนา  วัดพระบรมธาตุบ้านตากเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 06.00 – 18.00 น.โทร. 055 591 009 การเดินทางจากอำเภอเมืองตากใช้ทางหลวงหมายเลข 1107 (ตาก-บ้านตาก) ไปประมาณ 35 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 1175 ไปประมาณ 1 กิโลเมตร วัดจะอยู่ทางซ้ายมือพิกัด : https://goo.gl/maps/tfcKzvaPydr ปีมะแม พระธาตุดอยสุเทพ …

ธรรม (ดา) พาไหว้ : พระธาตุประจำปีเกิด 12 ปีนักษัตร อ่านเพิ่มเติม

ยิ่งใหญ่ไม่แพ้ใคร 5 แกรนด์แคนยอนเมืองไทย

ยิ่งใหญ่ไม่แพ้ใคร 5 แกรนด์แคนยอนเมืองไทยที่ ละลุ จ.สระแก้ว, ผาช่อ จ.เชียงใหม่, กองแลน จ.แม่ฮ่องสอน, เสาดินนาน้อย-คอกเสือ จ.น่าน, แพะเมืองผี จ.แพร่…

9 เส้นทางเดินป่า..ผจญภัยในป่าเขา!

สุดยอดเส้นทางเดินป่าขึ้นเขาสำหรับนักผจญภัยที่ชอบความหวาดเสียว …

สะจุก สะเกี้ยง เปียงซ้อ จ.น่าน

เราเดินทางคดเคี้ยวตามไหล่เขาขึ้นไปที่บ้านสะจุก สะเกี้ยง หนึ่งในโครงการพระราชดำริ ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยทรงมีพระราชดำริให้สร้างโครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงขึ้นในหมู่บ้าน และด้วยความที่ตั้งอยู่บนภูเขาสูงที่นี่จึงมีอากาศเย็นเกือบตลอดทั้งปี

Scroll to Top