น่าน

น่าน

ไหว้ ๑๒ พระบรมธาตุเจดีย์ประจำปีนักษัตร

“พระบรมธาตุเจดีย์” เป็นที่ประดิษฐาน พระบรมสารีริกธาตุ คือ อัฐิธาตุของพระพุทธเจ้า โดยมีการอัญเชิญและสร้างเจดีย์เป็นที่ประดิษฐาน ณ สถานที่ต่าง ๆ และจัดพิธีสักการบูชาพระบรมสารีริกธาตุในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ตามคติความเชื่อของชาวล้านนา เชื่อว่าการสักการบูชาพระบรมสารีริกธาตุเสมือนการได้ “ชุธาตุ” หรือกราบไหว้บูชาองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และมีคติความเชื่อว่า “นามเปิ้ง” คือนามของสัตว์ที่เป็นพาหนะในการนำมาเกิดตามราศี จึงกำหนดพระบรมธาตุเจดีย์ประจำปีเกิดนักษัตร เพื่อเพิ่มความเป็นสิริมงคลในการสักการบูชา พระบรมธาตุเจดีย์ประจำปีเกิดนักษัตรส่วนใหญ่จึงอยู่ในภาคเหนือ และมีหนึ่งแห่งอยู่ที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ๑. พระธาตุประจำปีเกิด ปีชวด (ปีหนู) ธาตุน้ำ“พระธาตุศรีจอมทอง” วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร ถนนเชียงใหม่-ฮอด ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ พระธาตุศรีจอมทอง ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระเศียรเบื้องขวาของพระพุทธเจ้า โดยพระบรมสารีริกธาตุนี้มิได้ถูกบรรจุฝังไว้ใต้ดินเช่นที่อื่น แต่ถูกบรรจุไว้ในพระโกศห้าชั้น ประดิษฐานอยู่ในพระวิหารหลวงซึ่งอยู่ด้านหลังองค์พระธาตุเจดีย์ศรีจอมทอง และในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๙ (เหนือ) หรือก็คือวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๗ (ประมาณเดือนมิถุนายน) ของทุกปี ที่วัดจะมีการจัดงานประเพณีสรงน้ำพระบรมธาตุศรีจอมทอง.การเดินทาง : จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้ทางหลวงหมายเลข ๑๐๘ เส้นทางเชียงใหม่-ฮอด จนถึงตัวอำเภอจอมทอง จะพบวัดตั้งอยู่ซ้ายมือ มีรถโดยสารประจำทางทั้งรถเมล์และรถสองแถว สายเชียงใหม่-จอมทอง วิ่งผ่านหน้าวัด สามารถขึ้นรถได้ที่สถานีขนส่งช้างเผือกในตัวเมืองเชียงใหม่ ๒. พระธาตุประจำปีเกิด ปีฉลู (ปีวัว) ธาตุดิน“พระธาตุลำปางหลวง” วัดพระธาตุลำปางหลวง ตำบลลำปางหลวง อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง วัดพระธาตุลำปางหลวง เป็นวัดไม้ที่สมบูรณ์แห่งหนึ่งของประเทศไทย จากตำนานกล่าวว่า วัดอยู่บนซากเมืองโบราณลัมพกัปปะนคร พระนางจามเทวีได้เสด็จมาโปรดฯ ให้บูรณะปฏิสังขรณ์ มีพระธาตุเจดีย์ทรงลังกาบุทองเหลืองฉลุลาย ภายในประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ได้แก่ พระเกศาธาตุ (ผม) พระนลาฏ (หน้าผาก) ข้างขวา และส่วนพระศอด้านหน้าและด้านหลังของพระพุทธเจ้า การสักการบูชามักจัดให้มีขึ้นในช่วงวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา.การเดินทาง : จากตัวเมืองลำปาง ใช้ทางหลวงหมายเลข ๑ (ลำปาง-เถิน) จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าตัวอำเภอเกาะคา และข้ามแม่น้ำวัง จะพบที่ว่าการอำเภอเกาะคา ให้เลี้ยวขวาและตรงไป ๓ กิโลเมตร ถึงวัด ๓. พระธาตุประจำปีเกิด ปีขาล (ปีเสือ) ธาตุไม้“พระธาตุช่อแฮ” วัดพระธาตุช่อแฮ ถนนช่อแฮ ตำบลช่อแฮ อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ ภายในพระบรมธาตุเจดีย์ประดิษฐาน พระเกศาธาตุและพระบรมธาตุส่วนพระศอกซ้ายของพระพุทธเจ้า ในวันขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๖ เหนือ (ประมาณช่วงเดือนกุมภาพันธ์หรือต้นเดือนมีนาคม) ของทุกปี ทางวัดจะจัด “งานประเพณีไหว้พระธาตุช่อแฮ เมืองแพร่ แห่ตุงหลวง” มีริ้วขบวนเครื่องสักการะ ผ้าห่มพระธาตุ ๑๒ ราศี ตุง ๑๒ ราศี และเทศน์มหาชาติ.การเดินทาง : จากสี่แยกบ้านทุ่งในตัวเมืองแพร่ ไปตามถนนช่อแฮ รวมระยะทางจากตัวเมืองประมาณ ๙ กิโลเมตร ๔. พระธาตุประจำปีเกิด ปีเถาะ (ปีกระต่าย) ธาตุน้ำ“พระธาตุแช่แห้ง” วัดพระบรมธาตุแช่แห้ง บ้านหนองเต่า ตำบลม่วงติ๊ด อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน ภายในพระบรมธาตุเจดีย์ประดิษฐาน พระเกศาธาตุและพระบรมธาตุส่วนข้อมือซ้ายของพระพุทธเจ้า ในวันขึ้น ๑๑-๑๕ ค่ำ และ แรม ๑ ค่ำ เดือน ๖ เหนือ (ประมาณเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม) จะมีการจัด “งานนมัสพระธาตุแช่แห้ง” โดยมีการแห่ตุงถวายพระบรมธาตุ และจุดบอกไฟ (ลักษณะเดียวกับบั้งไฟ ประทัด หรือดอกไม้ไฟ) ถวายเป็นพุทธบูชา.การเดินทาง : จากตัวเมืองน่าน ข้ามสะพานแม่น้ำน่าน ไปตามทางหลวงหมายเลข ๑๑๖๘ ระยะทางประมาณ ๓ กิโลเมตร ๕. พระธาตุประจำปีเกิด ปีมะโรง (ปีงูใหญ่) ธาตุดิน“พระมหาธาตุเจดีย์ หรือ พระธาตุหลวง” วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ถนนสามล้าน ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ภายในพระบรมธาตุเจดีย์ประดิษฐานพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า และบริเวณใกล้กันยังเป็นที่ตั้งของพระวิหารลายคำ ซึ่งภายในประดิษฐาน “พระสิงห์” (พระพุทธสิหิงค์) พระพุทธรูปคู่เมืองเชียงใหม่และแผ่นดินล้านนา พระวิหารลายคำนี้ได้รับรางวัลสถาปัตยกรรมดีเด่น เพราะมีลวดลายปิดทองล่องชาด เทคนิคการฉลุลายปรากฏบนฝาผนังหลังพระประธานและเสากลางพระวิหาร เสาระเบียงด้านหน้าพระวิหาร ตลอดถึงบางส่วนของโครงไม้ บนฝาผนังภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่อง สังข์ทองและสุวรรณหงส์ เขียนด้วยสีฝุ่นมีความงดงามมาก.การเดินทาง : วัดพระสิงห์อยู่ใกล้บริเวณคูเมืองด้านใน ตรงบริเวณจุดบรรจบระหว่างถนนสามล้าน ถนนสิงหราช และถนนราชดำเนิน หรือใช้บริการรถโดยสารสองแถวแดงที่ให้บริการในตัวเมืองเชียงใหม่ ๖. พระธาตุประจำปีเกิด ปีมะเส็ง (ปีงูเล็ก) ธาตุน้ำ“พระเจดีย์เจ็ดยอด” วัดโพธารามมหาวิหาร ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ พระเจดีย์เจ็ดยอด จำลองแบบจากมหาวิหารเจดีย์พุทธคยา ประเทศอินเดีย สร้างสมัยพระเจ้าติโลกราชแห่งราชวงศ์มังราย พระองค์ทรงให้แบ่งหน่อพระศรีมหาโพธิ์ที่พระสงฆ์สิงหลนิกายลังกาวงศ์นำมาจากลังกาแล้วปลูกไว้ที่เชิงดอยสุเทพ ให้นำมาปลูกไว้ใกล้กับพระเจดีย์เจ็ดยอดด้วย จึงมีสองสิ่งสำคัญในการเป็นที่สักการะประจำปีเกิดปีมะเส็ง คือ ต้นพระศรีมหาโพธิ์และพระมหาเจดีย์เจ็ดยอด.การเดินทาง : จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้ถนนห้วยแก้วจนถึงสี่แยกรินคำ ให้เลี้ยวขวาเข้าถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ (เชียงใหม่-ลำพูน) ตรงไปประมาณ ๑ กิโลเมตร จะพบวัดตั้งอยู่ซ้ายมือ ๗. พระธาตุประจำปีเกิด ปีมะเมีย (ธาตุไฟ)พระบรมธาตุ วัดพระบรมธาตุบ้านตาก ตำบลเกาะตะเภา อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก มีตำนานกล่าวถึงสถานที่ตั้งของพระบรมธาตุเจดีย์ว่า สมัยพุทธกาลพระพุทธเจ้าได้เสด็จมาที่แห่งนี้ และตรัสว่าเมื่อพระองค์ปรินิพพานแล้วให้นำพระเกศาธาตุมาประดิษฐานไว้ที่นี่ ต่อมาจึงมีการสร้างพระบรมธาตุเจดีย์ขึ้น โดยภายในบรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า ในวันขึ้น ๑๔-๑๕ ค่ำ เดือน ๙ เหนือ (ประมาณปลายเดือนพฤษภาคมหรือต้นเดือนมิถุนายน) ของทุกปี …

ไหว้ ๑๒ พระบรมธาตุเจดีย์ประจำปีนักษัตร อ่านเพิ่มเติม

Go 5 Adventures

Go 5 Adventures.ปีนผา อ่าวไร่เลย์ จังหวัดกระบี่.สำหรับกิจกรรมปีนผาเป็นอะไรที่ท้าทาย โดนใจวัยรุ่น และเป็นที่นิยมอย่างมากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งนอกจากจะได้ท้าทายความสูงแล้ว ยังได้ออกกำลังทุกส่วนของร่างกายเลยนะ แถมยังเป็นหนึ่งในกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่ได้ใกล้ชิดธรรมชาติแบบสุดๆ อีกด้วย ซึ่งที่อ่าวไร่เลย์นี้ก็นับว่ามีแนวหินปูนสวยงามที่เหมาะแก่การปีนผาเป็นอย่างยิ่ง มีนักท่องเที่ยวมาท้าทายความสูงที่นี่กันอย่างมากมายเลยล่ะ ล่องแก่งลำน้ำว้า จังหวัดน่าน อีกหนึ่งกิจกรรมสุดพีค ที่ไม่มีไม่ได้เลยค่ะ ล่องแก่งลำน้ำว้าเป็นสถานที่ล่องแก่งที่ตื่นเต้นและสนุกที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ลำน้ำว้าแบ่งออกเป็น 3 ช่วง ได้แก่ ลำน้ำว้าตอนบน ตอนกลางและตอนล่าง สามารถล่องได้ตลอดทั้งปี ซึ่งลำน้ำว้าแต่ละช่วงจะมีฤดูการล่องแก่งที่แตกต่างกัน มีระดับความยากตั้งแต่ระดับ 3 – 5 หากใครยังไม่เคยมาลอง ครั้งหน้าอย่าพลาดนะ รับประกันความมันแน่นอน ขับรถ ATV จังหวัดนครนายก.สายลุย สายผจญภัย ต้องห้ามพลาดกิจกรรมนี้! กับการขับรถ ATV บนพื้นที่โดยรอบอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่มีครบทุกรสชาติ เพื่อนๆ จะได้ลุยโคลน ลงคลอง ผ่านหลุมขรุขระ ทั้งแนวราบและแนวสูงชัน สนุกสนานเต็มที่แน่นอน บอกไว้ก่อนเลยว่าตลอดเส้นทางมีทั้งความตื่นเต้นและความเสียวปะปนกันไป และเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัดนะคะ ขี่ช้าง สังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี.มาดูโหมดผจญภัยเบาๆ กันบ้างค่ะ การขี่ช้างเป็นกิจกรรมที่เป็นที่นิยมอย่างหนึ่ง เพราะเราจะได้ใกล้ชิดกับช้างท่ามกลางธรรมชาติ ได้ข้ามลำห้วย บุกป่า ขึ้นเขาผ่านหมู่บ้านกะเหรี่ยง ซึ่งเราจะได้อยู่บนหลังช้างประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งเลยล่ะ Tree Top Adventure Park กิจกรรมสุดท้ายกลางป่าใหญ่ เป็นกิจกรรมที่ให้เราได้ปืนป่ายไปบนสะพานแขวนแคบๆ ซึ่งจะพาเราลัดเลาะไปตามยอดไม้ โดยมีสายรัดตัวที่ใช้ล็อกกับลวดสลิงเพื่อความปลอดภัยให้สวมใส่ อาจจะดูหวาดเสียวแต่ไม่น่ากลัวเลย ถ้าเราปฏิบัติตามที่เจ้าหน้าที่บอกค่ะ นอกจากเราจะได้ความตื่นเต้นแล้ว ยังได้ชมวิวจากมุมสูงอีกด้วยนะ หวาดเสียวคูณสองไปเลย สำหรับผู้ที่ชอบความท้าทายแล้ว เล่นได้ทั้งวันไม่มีเบื่อแน่นอน Tree Top Adventure Park มีให้บริการอยู่หลายแห่งทั่วประเทศ ได้แก่ เชียงราย กาญจนบุรี ประจวบคีรีขันธ์(หัวหิน) ตราด(เกาะช้าง) และกระบี่ ใกล้ที่ไหนไปที่นั่นได้เลย เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 28 กันยายน 2562

ผจญแก่ง ล่องลำน้ำว้า จังหวัดน่าน

ลำน้ำว้า หรือแม่น้ำว้า มีต้นกำเนิดจากตาน้ำบนเทือกเขาในหมู่บ้านน้ำว้า ตำบลบ่อเกลือเหนือ อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน ลำน้ำว้าไหลผ่านอุทยานแห่งชาติ 3 แห่ง คือ อุทยานแห่งชาติขุนน่าน อุทยานแห่งชาติดอยภูคา และอุทยานแห่งชาติแม่จริม ไปบรรจบกับแม่น้ำน่านบริเวณอำเภอเวียงสา โดยมีความยาวทั้งหมดประมาณ 300 กิโลเมตร ลำน้ำว้าแบ่งเป็น 3 ช่วง ได้แก่ ลำน้ำว้าตอนบน ตอนกลาง และตอนล่าง การล่องแก่งลำน้ำว้า สามารถล่องได้ตลอดทั้งปี ซึ่งลำน้ำว้าแต่ละช่วงจะมีฤดูการล่องแก่งที่แตกต่างกัน ดังนี้– ล่องแก่งลำน้ำว้าตอนบน-ตอนล่าง (บ้านสะปัน-บ้านวังลูน) เดือนสิงหาคม-ต้นเดือนตุลาคม ระยะทาง 120 กิโลเมตร **แนะนำให้ไปเดือนกันยายน เพราะน้ำจะเยอะที่สุด** – ล่องแก่งลำน้ำว้าตอนกลาง-ตอนล่าง (บ้านสบมาง-บ้านวังลูน) เดือนพฤษภาคม-ต้นเดือนมกราคม ระยะทาง 80 กิโลเมตร – ล่องแก่งลำน้ำว้าตอนล่าง (บ้านแม่สนาน-บ้านวังลูน) เดือนพฤษภาคม-ต้นเดือนมกราคม ระยะทาง 50 กิโลเมตร สำหรับแอด ได้ไปล่องแก่งลำน้ำว้าตอนกลาง-ตอนล่าง ระยะทาง 80 กิโลเมตร เป็นทริปแบบ 2 วัน 1 คืน ต้องนอนพักในแคมป์กลางป่า ตื่นเต้นสุดๆ  พวกเรานัดเจอกับเจ้าหน้าที่ของบริษัททัวร์ล่องแก่งที่ติดต่อไว้ ตรงจุดลงเรือที่บ้านสบมาง เพื่อจัดสัมภาระลงเรือยาง จากนั้นเจ้าหน้าที่จะสอนวิธีการพายเรือ การนั่งบนเรือ และวิธีการเอาตัวรอดเมื่อตกจากเรือ เรือยาง 1 ลำ นั่งได้สูงสุด 6 คน และมีเจ้าหน้าที่ประจำเรือ 2 คน ที่จะคอยดูแลความปลอดภัยของทุกคน และช่วยให้เราผ่านแก่งยากๆ ไปได้ การล่องแก่งลำน้ำว้าตอนกลาง-ตอนล่าง เราจะได้สัมผัสกับสายน้ำเย็นๆ ที่ช่วยดับร้อนได้เป็นอย่างดี  และยังมีแก่งน้อยใหญ่หลายสิบแก่ง เยอะมากจนนับไม่หมด ระดับความยากมีตั้งแต่ระดับ 3 – ระดับ 5 เช่น แก่งเสือเต้น แก่งห้วยเดื่อ และแก่งผีป่า (สถานที่ถ่ายทำโฆษณาเครื่องดื่มเป๊ปซี่) นอกจากแก่งน้อยใหญ่ที่ทำให้เราตื่นเต้นแล้ว ธรรมชาติระหว่างทางของการล่องแก่งก็น่าตื่นตาตื่นใจเช่นเดียวกัน เพราะที่นี่ป่าไม้สมบูรณ์ เขียวชอุ่มมาก จากจุดเริ่มต้นบริเวณบ้านสบมาง ถึงจุดพักแรมริมลำน้ำว้า ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง เรียกได้ว่า พายเรือจนกล้ามขึ้น แช่น้ำจนตัวเปื่อยเลยทีเดียว ที่แคมป์พักแรม มีเต็นท์ และห้องอาบน้ำให้บริการ แถมเจ้าหน้าที่ยังทำอาหารให้เราทานด้วยนะ อย่าลืมถ่ายรูปกับป้ายผู้พิชิตลำน้ำว้าด้วยนะ เดี๋ยวเค้าจะหาว่ามาไม่ถึง ตกดึกเริ่มหิวอีกรอบ ก็เลยนั่งล้อมวง เอาหมูที่ซื้อจากตลาดมาหมักเกลือแล้วย่างทาน มันอร่อยมาก!! คาดว่าพี่ๆ เจ้าหน้าที่น่าจะหมักด้วยเกลือสินเธาว์ จากอำเภอบ่อเกลือ  บรรยากาศยามเช้าบริเวณที่พักแรม เติมพลังก่อนออกพายเรือ ด้วยอาหารเช้าง่ายๆ แต่อร่อยเว่อร์ ฝีมือพี่ๆ เจ้าหน้าที่  อยู่กลางป่าไม่อดอยาก ขนมปังปิ้งก็มีนะจ๊ะ หลังจากทานอาหารเช้าและเก็บข้าวของขึ้นเรือเรียบร้อยแล้ว เราก็ออกเดินทางกันต่ออีกประมาณ 3 ชั่วโมง ก็จะถึงจุดสิ้นสุดการล่องแก่ง ส่งท้ายทริปสุดมันนี้ด้วยแก่งระดับ 5 แอดนี่พายเรือรัวๆ ไปเลย สิ่งสำคัญของการล่องแก่งก็คือ ทุกคนต้องสามัคคี ร่วมแรงร่วมใจกันพาย และคอยฟังคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ แค่นี้เราก็ผ่านแก่งยากๆ ไปได้อย่างสนุกสนานและปลอดภัยแล้ว ถ้าใครอยากไปล่องแก่งสนุกๆ แบบแอด ติดต่อบริษัททัวร์ล่องแก่งน้ำว้า ด้านล่างนี้ได้เลย น่านน้ำว้าทัวร์ โทร. 095 535 0124, 096 923 9465แจง แอนด์ เจ ทัวร์ โทร. 081 765 4194 เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 12 มิถุนายน 2562

ดอยสวนยาหลวง บ้านสันเจริญ จังหวัดน่าน

ดอยสวนยาหลวง ที่ตั้ง : บ้านสันเจริญ ตำบลผาทอง อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่านพิกัด : https://goo.gl/maps/n4krwZZg5K42 ทริป 2 วัน 1 คืน ที่ดอยสวนยาหลวง จังหวัดน่าน บ้านสันเจริญเป็นหมู่บ้านเล็กๆ กลางหุบเขา ห่างจากตัวอำเภอท่าวังผา 32 กิโลเมตร ชาวบ้านเป็นชาวเขาเผ่าเมี่ยน (เย้า) ในอดีตที่นี่เป็นดงฝิ่นบนดอยสูง ปัจจุบันเปลี่ยนมาทำไร่กาแฟจนกลายเป็นแหล่งปลูกกาแฟที่มีชื่อเสียงของจังหวัดน่าน พวกเรานัดคุณกริช ไกด์หนุ่มพร้อมรถกระบะ 4WD ให้มารับที่หน้าที่ว่าการอำเภอท่าวังผาเวลา 15.00 น. เพื่อขึ้นไปยังจุดชมวิวดอยสวนยาหลวง ระยะทาง 32 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที ถนนเป็นสองเลนแคบๆ คดเคี้ยวบางช่วง สำหรับใครที่ไปครั้งแรกก็ไม่แปลกที่จะสงสัยว่า เขาจะพาเราไปไหน? เพราะมองไปรอบๆ มีแต่ป่าเขาและเปลี่ยวมากกก เรียกได้ว่าห่างไกลความเจริญเลยทีเดียว ระหว่างทางที่จะขึ้นไปชมพระอาทิตย์ตกบนดอยสวนยาหลวงนั้น โชคดีที่ยังพอมีเวลา คุณกริชจึงได้แวะจอดรถให้พวกเราได้ไปชมชาวบ้านที่กำลังเก็บผลกาแฟสดจากต้นด้วย ซึ่งปกติชาวบ้านจะเก็บผลกาแฟสดกันจนถึงเวลาประมาณ 17.30 น. กาแฟที่นี่เป็นพันธุ์อาราบิก้า ปลูกบนพื้นที่เกือบ 5,000 ไร่ นับว่าใหญ่เป็นที่ 2 รองจากดอยช้างที่จังหวัดเชียงรายเลยทีเดียว ฤดูเก็บเกี่ยวคือช่วงเดือนพฤศจิกายน-มีนาคม ของทุกปี ใช้เวลาปลูก 3-4 ปี ถึงจะเริ่มให้ผลผลิต ถึงแล้ววว จุดชมวิวดอยสวนยาหลวง จุดชมวิวแห่งนี้มีลักษณะเป็นเนินภูเขาหญ้า ที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพของภูเขาได้สุดสายตา 360 องศา และยังชมทิวทัศน์ตอนเย็น ดูพระอาทิตย์ตก สัมผัสบรรยากาศตอนเช้าตรู่ ดูพระอาทิตย์ขึ้น และชมทะเลหมอกได้อีกด้วย นอกจากนี้ดอยสวนยาหลวงยังเป็นแนวสันเขาที่เป็นรอยต่อระหว่างอำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน กับอำเภอปง จังหวัดพะเยา เรียกว่ามาที่เดียวได้ชมวิว 2 จังหวัดเลย เห็นแล้วอยากจะกลิ้งไปบนภูเขา ฮ่าๆ ล้อเล่น…วิวดีมากๆ เลยล่ะ ประทับใจสุดๆ เวลาพลบค่ำ บรรยากาศก็เริ่มหนาวเย็น มีลมแรงและหมอกจางๆ พัดมาสัมผัสตัวเบาๆ ข้างบนนี้สามารถกางเต็นท์นอนดูดาวได้ แต่พวกเราเลือกที่จะลงไปพักที่บ้านกลางไร่กาแฟ เพราะบนลานกางเต็นท์อากาศหนาว และที่สำคัญไม่มีห้องน้ำด้วยจ้า  พระอาทิตย์ตกแล้ว หมอกเริ่มหนา อากาศก็เย็นขึ้น แอดอยู่ถ่ายรูปเพลินๆ กับหมอกสักพักก็เริ่มหิวแล้วล่ะ ไปทานมื้อเย็นกันดีกว่า บ้านพักของพวกเราอยู่กลางไร่กาแฟบนดอย หรือที่เรียกว่า “Coffee Farm Stay” จากตรงนี้สามารถมองเห็นวิวหมู่บ้านสันเจริญได้ ที่จริงแล้วบ้านพักตรงนี้เดิมคือ บ้านที่ชาวบ้านสร้างเอาไว้พักเวลาขึ้นมาเก็บผลกาแฟบนดอย เนื่องจากการลงไปยังหมู่บ้านด้านล่างค่อนข้างไกลและลำบากพอสมควร แต่ปัจจุบันได้มีการปรับปรุงบ้านให้คงทนแข็งแรงขึ้น เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว อาหารเย็นของพวกเราสุดแสนจะเรียบง่าย แต่รสชาติอร่อยสุดๆ อาจเป็นเพราะความประทับใจตั้งแต่ขึ้นรถมายังหมู่บ้าน เพื่อนร่วมทางที่สร้างเสียงหัวเราะ รวมทั้งคุณกริชที่เป็นกันเองมากๆ หรืออาจเพราะความเหนื่อยก็แล้วแต่ เมนูของพวกเราในวันนี้มี ไก่อบหม้อดิน ผัดผัก ปลานิลทอด และเมนูแนะนำคือ แกงใบแจ้อ๊อเมี๊ย ซึ่งเป็นผักท้องถิ่นของหมู่บ้านสันเจริญนั่นแหละ รสชาติแปลกๆ แต่อร่อยดีนะ อิ่มแล้วเราก็นั่งดูดาวกันต่อสักพัก แม้อากาศจะหนาวมาก แต่ก็รู้สึกอบอุ่นที่ได้มองท้องฟ้าแล้วเห็นดาวพร่างพรายเต็มไปหมด นี่สินะ..การพักผ่อนอย่างแท้จริง บรรยากาศดีๆ กับกลุ่มเพื่อนรู้ใจ ชิลกว่านี้ไม่มีแล้วล่ะ พวกเราตั้งนาฬิกาปลุก 05.30 น. เพื่อจะขึ้นไปดูทะเลหมอกบนจุดชมวิวดอยสวนยาหลวง คุณกริชได้เตรียมอาหารเช้าเป็นข้าวต้มไก่ร้อนๆ ให้เราขึ้นไปรับประทานกันข้างบน บนยอดดอยสวนยาหลวงตอนเช้าตรู่อากาศดีเหลือเกิน สดชื่นสุดๆ เห็นทะเลหมอกอยู่ตรงหน้าเลยนะ แสงแรกของวันช่างทำให้มีพลังและเบิกบานใจ แต่จะมีความสุขไหนเท่ากับการมีบาริสต้าส่วนตัวอย่างคุณกริช มาดริปกาแฟสดๆ ให้พวกเราได้ดื่ม ขณะชมทัศนียภาพของทิวเขาและทะเลหมอก ที่นี่คั่วเมล็ดกาแฟเอง บรรจุใส่ถุงเอง มั่นใจในเรื่องรสชาติและคุณภาพได้เลย It’s Very Really Amazing! หมอกหนาลอยสูงขึ้นเรื่อยๆ ท่ามกลางทิวเขาที่สลับซับซ้อนสวยงาม เก็บภาพบรรยากาศกันไว้สักหน่อยก่อนกลับ บอกเลยว่าต้องมาเพราะมันดีจริงๆ ดอกไม้บนดอยสูงนี่ช่างสวยงามจริงๆ เห็นทีต้องถ่ายภาพเป็นที่ระลึกซะหน่อยแล้ว ^^ ช่วงสายแดดเริ่มแรง พวกเรากลับลงมาที่พัก อาบน้ำ จัดสัมภาระเตรียมตัวกลับบ้าน แต่ก่อนกลับคุณกริชก็ได้พาพวกเราแวะชมน้ำผุดบ้านสันเจริญ น้ำผุดที่นี่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ น้ำใสเย็น นักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำได้ มีห้องน้ำบริการฟรีด้วย สุดท้ายและท้ายสุด…ดอยสวนยาหลวงถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวใจกลางหุบเขาขนาดใหญ่ที่สงบ และยังคงความเป็นธรรมชาติอย่างดีเยี่ยมของเมืองน่าน แอดอยากให้เพื่อนๆ ที่รักการเดินทางท่องเที่ยว ได้มาสัมผัสความสุขเหมือนอย่างพวกเราครับ สอบถามข้อมูลบ้านพัก และรถกระบะ 4WD ขึ้นไปจุดชมวิวดอยสวนยาหลวงโทร.096 952 2223 (คุณกริช ผู้ประสานงานกลุ่มท่องเที่ยวชุมชนเชิงอนุรักษ์ดอยสวนยาหลวง บ้านสันเจริญ) เว็บไซต์ https://www.facebook.com/ท่องเที่ยวดอยสวนยาหลวง บ้านสันเจริญ ค่าบริการราคาคนละ 1,000 บาท (กลุ่มละ 5-10 คน)(ราคานี้รวมรถรับ-ส่งจากบ้านสันเจริญ ไปบ้านพักบนไร่กาแฟ และไปชุดชมวิวดอยสวนยาหลวง รวมอาหาร 2 มื้อ) ถ้าต้องการให้ไปรับ-ส่งที่ตัวอำเภอท่าวังผา ราคา 2,000 บาท เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2562

เส้นทางท่องเที่ยวน่าน-แพร่ 3 วัน 2 คืน

เส้นทางท่องเที่ยวน่าน-แพร่ 3 วัน 2 คืน วันที่ 1วัดภูมินทร์พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่านซุ้มลีลาวดีวัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร วันที่ 2วัดพระธาตุแช่แห้งวัดหนองบัวกาแฟบ้านไทลื้อฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ วันที่ 3พิพิธภัณฑ์เมืองแพร่ คุ้มเจ้าหลวงคุ้มวงศ์บุรีวัดพระธาตุช่อแฮวัดพระธาตุดอยเล็ง วันที่ 1 สำหรับวันแรกเราเริ่มต้นกันที่จังหวัดน่าน ชวนมาอิ่มบุญ ไหว้พระขอพรเสริมสิริมงคลให้แก่ชีวิตกันก่อน.เริ่มที่ “วัดภูมินทร์” วัดที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนี่งของจังหวัดน่าน วัดนี้มีจุดเด่นอยู่ที่เป็นอาคารทรงจตุรมุขหนึ่งเดียวในประเทศไทย โดยรวมเอาโบสถ์ วิหาร และเจดีย์ไว้ในอาคารเดียวกัน เป็นการจำลองแผนภูมิจักรวาลตามความเชื่อทางพุทธศาสนา  ภายในประดิษฐานพระประธานปางมารวิชัยขนาดใหญ่ 4 องค์ หันพระปฤษฎางค์ชนกัน เชื่อกันว่าหากได้มาสักการะพระพุทธรูปทั้งสี่ทิศแล้ว จะเป็นสิริมงคล บุญกุศลจะส่งให้มีความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตและแคล้วคลาดปลอดภัย ไฮไลท์ที่ห้ามพลาดก็คือภาพจิตรกรรมฝาผนัง “กระซิบรักบันลือโลก” ซึ่งเป็นภาพของปู่ม่านย่าม่านหรือสามีภรรยาชาวพม่ากำลังกระซิบสนทนากัน นับเป็นจิตรกรรมที่โดดเด่นและมีชื่อเสียงที่สุดของวัดภูมินทร์ ผลงานของหนานบัวผัน จิตรกรชาวไทลื้อ.ที่ตั้ง : ถนนผากอง ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน เปิดทุกวัน เวลา 08.00-19.00 น.  ถัดไปไม่ไกลเราแวะชม “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน” ซึ่งเดิมเป็นหอคำ ที่ประทับและออกว่าราชการของพระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช เจ้าผู้ครองนครน่าน สร้างเมื่อ พ.ศ. 2446 ถ้าเพื่อน ๆ ยังจำได้ เมื่อก่อนตัวอาคารจะเป็นสีขาว มุงด้วยกระเบื้องสีเขียว แต่ภายหลังได้รับการบูรณะใหม่ ให้ใกล้เคียงกับในสมัยก่อนมากที่สุด ซึ่งจะสังเกตได้ว่านอกจากจะทาสีใหม่แล้ว ส่วนประดับตกแต่งอาคารหลายส่วนก็ยังเปลี่ยนแปลงไปด้วย ปัจจุบันพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้จัดแสดงเรื่องราวด้านโบราณคดีและประวัติศาสตร์ศิลปะ รวมทั้งชีวิตความเป็นอยู่ของชนเผ่าต่าง ๆ ในจังหวัดน่าน นอกจากนี้ที่นี่ยังมีมุมยอดฮิตที่ไม่ว่าใครก็ต้องมาแวะถ่ายรูปให้ได้นั่นก็คือ “ซุ้มลีลาวดี” นั่นเอง ซึ่งแอดก็ไม่พลาดที่จะเก็บภาพมาอวดเพื่อน ๆ ด้วย  จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน ข้ามถนนมาก็จะเจอกับ “วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร” เดิมเรียกว่า “วัดหลวง” หรือ “วัดหลวงกลางเวียง” เป็นวัดซึ่งเจ้าผู้ครองนครใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีสำคัญ  ภายในวัดมีพระวิหารขนาดใหญ่เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย ศิลปะเชียงแสน สกุลช่างน่าน  วัดพระธาตุช้างค้ำ ยังมีสถาปัตยกรรมที่สะท้อนถึงอิทธิพลของศิลปะสุโขทัย นั่นก็คือเจดีย์ช้างล้อม มีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงระฆังที่มีช้างปูนปั้นครึ่งตัวประดับอยู่รอบฐาน ซึ่งคำว่า “ช้างค้ำ” ก็หมายถึงการค้ำจุนพุทธศาสนานั่นเอง.ที่ตั้ง : ถนนสุริยพงษ์ ตำบลในเวียง อำเภอเมือง จังหวัดน่านเปิดทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น.  วันที่ 2 วันนี้เราจะไปสักการะพระธาตุแช่แห้ง ออกเดินทางไปชมภาพจิตรกรรมที่วัดหนองบัว และไปชมวิวทุ่งนาสีเขียวที่อำเภอปัวกัน “วัดพระธาตุแช่แห้ง” เป็นปูชนียสถานศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัด ตั้งอยู่บนเนินเขาเตี้ย ๆ ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำน่าน ซึ่งเป็นบริเวณศูนย์กลางเมืองน่านเดิม ภายในวัดมีพระธาตุแช่แห้งซึ่งเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และยังเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีเถาะอีกด้วย เชื่อกันว่าผู้ที่ได้บูชาพระธาตุแช่แห้ง จะได้รับการอุดหนุนค้ำชู มีชื่อเสียง ลาภยศ สรรเสริญ.ที่ตั้ง : ตำบลม่วงตื้ด อำเภอภูเพียง จังหวัดน่านเปิดทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น.โทร. 054 601 146  ที่ต่อไปเราไปกันที่วัดหนองบัว อำเภอท่าวังผา อีกหนึ่งวัดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดน่าน เป็นวัดเก่าแก่ประจำหมู่บ้านหนองบัว โดดเด่นด้วยวิหารแบบไทลื้อที่ภายในประดิษฐานพระประธานปางมารวิชัย และมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่งดงาม สำหรับภาพจิตรกรรมฝาผนังที่วัดหนองบัวนั้น สันนิษฐานว่าศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงานก็คือ หนานบัวผัน เจ้าของภาพปู่ม่านย่าม่านอันเลื่องชื่อที่วัดภูมินทร์นั่นเอง นอกจากความสวยงามของวัดและภาพจิตรกรรมฝาผนังแล้ว ที่วัดแห่งนี้ยังมีเรือนไทลื้ออายุกว่า 100 ปี ซึ่งเป็นที่ตั้งของ “ศูนย์บูรณาการวัฒนธรรมไทยสายใยชุมชน” บริเวณใต้ถุนบ้านจะมีคุณยายมานั่งปั่นฝ้ายและสาธิตการทอผ้าให้ชม เป็นการสืบสานวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่น เพื่อน ๆ สามารถมาลองรีดเมล็ดฝ้ายและปั่นฝ้ายได้ด้วยนะคะ มีคุณยายคอยช่วยสอนอยู่อย่างใกล้ชิดเลย.ที่ตั้ง : บ้านหนองบัว ตำบลป่าคา อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่านเปิดทุกวัน เวลา 07.00-17.00 น.  จากวัดหนองบัวเราเดินทางไปต่อกันที่ “ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ” ซึ่งบริการทั้งอาหารพื้นเมืองและเครื่องดื่มเย็น ๆ ในบรรยากาศที่ใกล้ชิดธรรมชาติสุด ๆ เพราะโดยรอบจะเป็นวิวภูเขาและทุ่งนาสีเขียว ถ่ายรูปมุมไหนก็สวย  มีทางเดินไม้ทอดยาวให้เดินเล่นชมวิวได้รอบเลยแนะนำว่าให้มาตอนเช้าหรือไม่ก็ตอนเย็น ๆ เพราะอากาศจะได้ไม่ร้อนเกินไป.ที่ตั้ง : ตำบลศิลาแลง อำเภอปัว จังหวัดน่าน เปิดทุกวัน เวลา 07.00-17.00 น. หากใครแวะมาอำเภอปัวต้องมาลิ้มลองรสชาติเมนูสารพัดเห็ดที่ “ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ” ที่นี่เป็นทั้งฟาร์มเห็ดและร้านอาหาร มีที่นั่งให้เลือก 2 โซน โซนร้านอาหารมี 2 ชั้น จะนั่งชั้นล่างหรือชั้นบนก็บอกเลยว่าวิวสวยไม่แพ้กัน นอกจากนี้ยังมีโซนที่เป็นห้องส่วนตัวด้วย โดยรอบจะเป็นทุ่งนาสีเขียวมีภูเขาล้อมรอบและยังมีหมอกจาง ๆ เรียกว่าบรรยากาศดี๊ดีเลยละ   นอกจากจะได้ชมวิวสวย ๆ แล้วในเรื่องของอาหารก็ห้ามพลาด เพราะเมนูของที่นี่จะนำเห็ดชนิดต่าง ๆ มาเป็นวัตถุดิบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น พิซซ่าเห็ด ยำเห็ด ไข่ป่ามเห็ด เป็นต้น ได้ทั้งความอร่อยแถมยังดีต่อสุขภาพด้วยนะ   ยำเห็ด.ทานอาหารเสร็จเราก็เดินทางไปยังจังหวัดแพร่และพักค้างคืนกัน เพื่อที่พรุ่งนี้จะได้เริ่มเที่ยวตั้งแต่เช้าเลยค่ะ ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำที่ตั้ง : 129 บ้านหัวน้ำ ตำบลศิลาแลง อำเภอปัว จังหวัดน่านโทร. 081 005 1533เปิดทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.  วันที่ 3 วันสุดท้ายเราเริ่มกันที่ “พิพิธภัณฑ์เมืองแพร่ คุ้มเจ้าหลวง” ที่นี่สร้างเมื่อ พ.ศ. 2435 โดยเจ้าพิริยเทพวงศ์ เจ้าหลวงเมืองแพร่องค์สุดท้าย ลักษณะสถาปัตยกรรมเป็นแบบไทยผสมยุโรป มีการประดับส่วนต่าง ๆ ของอาคารด้วยไม้ฉลุงดงาม  ตัวอาคารมี 3 ชั้น โดย 2 ชั้นบนจำลองเป็นห้องต่างๆ เช่น ห้องนอน ห้องรับแขก ห้องจัดเลี้ยง ฯลฯ ซึ่งแต่ละห้องจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ในสมัยโบราณ ส่วนชั้นล่างสุดหรือที่เรียกกันว่าชั้นใต้ดินนั้นแบ่งเป็น 3 ห้อง ได้แก่ ห้องขังผู้ที่ถูกจับกุมเพื่อรอการไต่สวนและลงอาญา ห้องบ่าวไพร่ และห้องเก็บของ …

เส้นทางท่องเที่ยวน่าน-แพร่ 3 วัน 2 คืน อ่านเพิ่มเติม

5 พิกัดชมทะเลหมอกสุดปัง

5 พิกัดชมทะเลหมอกสุดปัง . ลมหนาวใกล้เข้ามาแล้ว กิจกรรมสุดฮิตในช่วงฤดูหนาวแบบนี้คงหนีไม่พ้นการไปดื่มด่ำธรรมชาติบนยอดดอย ชมทะเลหมอก และเฝ้ารอพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าอย่างใจจดใจจ่อ . วันนี้แอดมี 5 พิกัดชมหมอกยามเช้ามาแนะนำ เอาไว้เป็นไอเดียสำหรับการวางแผนท่องเที่ยวในช่วงหยุดยาวที่จะถึงนี้ค่ะ 1. จุดชมทะเลหมอกอัยเยอร์เวง จังหวัดยะลา2. จุดชมวิวดอยกิ่วลม จังหวัดเชียงใหม่3. เขาหลวง จังหวัดสุโขทัย4. สวนยาหลวง บ้านสันเจริญ จังหวัดน่าน5. ภูห้วยอีสัน จังหวัดหนองคาย จุดชมทะเลหมอกอัยเยอร์เวง จังหวัดยะลา เป็นจุดชมวิวยอดฮิตของอำเภอเบตง อยู่ในพื้นที่ของเขาไมโครเวฟ ที่นี่สามารถมองเห็นทะเลหมอกได้ตลอดทั้งปี เพราะถูกโอบล้อมด้วยภูเขาสลับซับซ้อน มีป่าที่อุดมสมบูรณ์ และมีแม่น้ำปัตตานีไหลผ่าน นอกจากทะเลหมอกแล้ว เราจะได้เห็นทิวทัศน์อันสวยงามของเขาไมโครเวฟด้วย จุดชมวิวทะเลหมอกมี 2 จุด ได้แก่ จุดชมวิว กม. 32 เป็นจุดที่มองเห็นทะเลหมอกได้ชัดที่สุด ถ้าเพื่อน ๆ จะขึ้นมาชมทะเลหมอกที่จุดนี้ ต้องจอดรถไว้ที่ลานจอดรถ แล้วเดินขึ้นมาประมาณ 500 เมตร ถ้าเดินไม่ไหว สามารถนั่งรถมอเตอร์ไซต์ขึ้นมาได้ ค่ารถคนละ 20 บาท ตอนนี้มีสกายวอล์คเปิดให้บริการแล้ว ใครอยากสัมผัสหมอกกันแบบใกล้ชิด ต้องห้ามพลาดจุดนี้เลยค่ะ.จุดชมวิวอีกจุดหนึ่งอยู่ถัดลงมาจากจุดแรก อยู่ใกล้โซนร้านอาหาร เป็นลานระเบียงกว้างขวาง จุดนี้นักท่องเที่ยวสามารถนำรถมาจอดได้.ที่ตั้ง: ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลาพิกัด: https://goo.gl/maps/Ljk4R7YUKT5v8xTQ7  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ องค์การบริหารส่วนตำบลอัยเยอร์เวง 0 7328 5111 จุดชมวิวดอยกิ่วลม จังหวัดเชียงใหม่ จุดชมวิวดอยกิ่วลมตั้งอยู่บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง นักท่องเที่ยวสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกท่ามกลางภูเขาที่สลับซับซ้อนสวยงาม รวมทั้งยังสามารถมองเห็นดอยหลวงเชียงดาว ยอดเขาที่สูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศไทยได้อีกด้วย นับเป็นจุดชมวิวที่สวยงามมากแห่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาด.ภายในอุทยานฯ มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น จุดชมวิวดอยช้าง สวนดอกไม้หลากสี น้ำพุร้อนโป่งเดือด เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีบ้านพักและลานกางเต็นท์ให้บริการ โดยเปิดให้กางเต็นท์ค้างแรมในเดือนตุลาคม-เมษายน ของทุกปี .อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังต.กึ๊ดช้าง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่พิกัด: https://goo.gl/maps/rm3K7hn6samaCMVb8โทร. 0 5324 8491, 08 4908 1531 เขาหลวง จังหวัดสุโขทัย เขาหลวง ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติรามคำแหง มีความสูงจากระดับทะเลปานกลาง 1,200 เมตร บนยอดเขามีทิวทัศน์ที่สวยงามและปกคลุมด้วยทุ่งหญ้าธรรมชาติ อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี บนยอดเขาสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก และทะเลหมอกได้ เพื่อน ๆ สามารถเดินเท้าขึ้นไปพิชิตยอดเขาหลวงได้ ระยะทางประมาณ 3.7 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินขึ้นไปบนยอดเขาราว 4 ชั่วโมง ดังนั้น ถ้าใครอยากพิชิตยอดเขาหลวง เตรียมร่างกาย เตรียมน้ำและเสบียงไปให้พร้อมนะคะ.อุทยานแห่งชาติรามคำแหง ต.นาเชิงคีรี อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัยพิกัด: https://goo.gl/maps/KNJeNQWvwQ5XcaFE6โทร. 09 8883 9297 สวนยาหลวง บ้านสันเจริญ จังหวัดน่าน หมู่บ้านสันเจริญเคยเป็นพื้นที่ปลูกฝิ่นของชาวเขาเผ่าเมี่ยน ก่อนจะเปลี่ยนมาปลูกกาแฟเป็นอาชีพหลัก จนปัจจุบันกลายเป็นแหล่งปลูกกาแฟที่มีชื่อเสียงของจังหวัดน่าน จากบ้านสันเจริญ เราสามารถขึ้นไปชมทะเลหมอก พระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตกได้บนยอดดอยสวนยาหลวง ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่มีลักษณะเป็นเนินภูเขาหญ้า สามารถมองเห็นทัศนียภาพของภูเขาได้สุดสายตา 360 องศา นอกจากนี้ดอยสวนยาหลวงยังเป็นแนวสันเขาที่เป็นรอยต่อระหว่างอำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน กับอำเภอปง จังหวัดพะเยา เรียกว่ามาที่เดียวได้ชมวิว 2 จังหวัดเลยค่ะ การขึ้นไปชมวิวบนยอดดอยสวนยาหลวง ต้องนั่งรถขับเคลื่อนสี่ล้อจากหมู่บ้านสันเจริญขึ้นไป เส้นทางเป็นถนนลูกรังและค่อนข้างชัน ตลอดเส้นทางจะได้เห็นความสวยงามของไร่กาแฟที่ปลูกกระจายอยู่ทั่วหุบเขา ยิ่งในช่วงเช้า บรรยากาศจะยิ่งสวยงามแปลกตา เพราะจะมีสายหมอกจาง ๆ ปกคลุมไร่กาแฟ ระหว่างทางจากบ้านสันเจริญไปยังยอดดอยสวนยาหลวงมีที่พักรองรับนักท่องเที่ยว เรียกว่า coffee farm stay เป็นที่พักเรียบง่ายกลางไร่กาแฟ ใครอยากตื่นมาจิบกาแฟพร้อมชมวิวไร่กาแฟยามเช้า ต้องไปพักที่นี่เลยค่ะ.ที่ตั้ง : ต.ผาทอง อ.ท่าวังผา จ.น่านพิกัด https://goo.gl/maps/Ljk4R7YUKT5v8xTQ7กลุ่มท่องเที่ยวชุมชนเชิงอนุรักษ์ดอยสวนยาหลวง บ้านสันเจริญ โทร. 08 6390 7737 ภูห้วยอีสัน จังหวัดหนองคาย เป็นจุดชมวิวบนเขาสูง สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นกลางลำน้ำโขงและแนวเขาสลับซับซ้อนในเขตประเทศลาวได้ ถ้าอยากเห็นหมอกแบบแน่น ๆ แอดแนะนำให้มาชมในช่วงฤดูหนาวค่ะ การเดินทางขึ้นไปที่ภูห้วยอีสันไม่สามารถใช้รถยนต์ส่วนตัวขึ้นไปได้ เพราะว่าทางขึ้นสูงและชันมาก เพื่อน ๆ สามารถใช้บริการรถอีแต๊กได้ โดยจุดบริการรถอีแต๊กจะอยู่ที่อบต.บ้านม่วง ค่าบริการคนละ 60 บาท (ไป-กลับ) ในการชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอก แนะนำให้มาขึ้นรถอีแต๊กเวลาประมาณ 05.00 น. เพราะระยะทางจากจุดขึ้นรถไปถึงภูห้วยอีสัน ใช้เวลาประมาณ 45-50 นาที.ที่ตั้ง: ตำบลบ้านม่วง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคายพิกัด: https://goo.gl/maps/JvNbFTfrWd8nK2pp8เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 04.00 น.โทร. 0 4241 4871, 09 6068 2362, 08 7219 5500 เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 4 ธันวาคม 2563

เที่ยวดอยตีดู้ว์ จ.น่าน

หนาวนี้ที่รอคอย… ในช่วงนี้อากาศกลับมาเย็นลงอีกครั้งหนึ่งแล้วนะคะ สมกับที่หลายคนกำลังรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ.อากาศหนาวๆ ก็มักจะมาพร้อมกับทะเลหมอกสวยๆ วันนี้แอดก็จะมาแนะนำสถานที่ชมทะเลหมอกแห่งใหม่ของ จ.น่าน กันค่ะ รับรองว่าสวยไม่แพ้ที่อื่นเลย . สถานที่ชมทะเลหมอกแห่งใหม่ที่แอดพูดถึงก็คือ “ดอยตีดู้ว์” จ.น่าน.ซึ่งชื่อ “ดอยตีดู้ว์” นั้นก็มาจากภาษาม้ง ที่แปลว่า “ใกล้ขอบฟ้า” นั่นเองค่ะ ถึงแม้ว่าดอยตีดู้ว์จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เพิ่งเปิดใหม่ได้ไม่นาน แต่ก็มีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศเดินทางมาสัมผัสทะเลหมอกที่นี่เป็นจำนวนมาก สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากจะเดินทางมาชมความงามนี้ด้วยตนเอง แอดแนะนำให้มาช่วงเช้าระหว่างเวลา 06.30-08.30 น. นะคะ.เนื่องจากช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่ดีที่สุดของการชมทะเลหมอก และเพื่อนๆ ยังจะได้สัมผัสกับอากาศหนาวเย็นอีกด้วยค่ะ ดอยตีดู้ว์ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองน่านมากนัก ใช้เวลาเดินทางเพียง 30 นาทีเท่านั้นค่ะ หากใครไม่อยากเดินทางไปชมทะเลหมอกในตอนเช้า แต่อยากตื่นขึ้นมาแล้วพบกับทะเลหมอกเลย ที่ดอยแห่งนี้ก็มีจุดกางเต็นท์ไว้คอยให้บริการด้วยนะคะ ติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่ คุณจี โทร. 061 381 0962 เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 3 มกราคม 2562

ปัว 2 วัน 1 คืน : ชิมโกโก้ ชมธรรมชาติ

วันที่ 1บ่อเกลือสินเธาว์จุดชมวิวดอยภูคา 1715Cocoa Valley วันที่ 2โรงเรียนชาวนาวังศิลาแลงวัดภูเก็ต วันที่ 1 ใครมาเที่ยวน่าน ก็ต้องไม่พลาดแวะอำเภอบ่อเกลือ ถือว่าเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเลยล่ะ อำเภอบ่อเกลือเป็นที่ตั้งของบ่อเกลือโบราณอายุกว่า 800 ปี ซึ่งเป็นแหล่งผลิตเกลือสินเธาว์บนภูเขาแห่งเดียวในโลก ในอดีตที่นี่มีบ่อเกลือหลายบ่อ แต่ปัจจุบันเหลือเพียง 2 บ่อเท่านั้นคือ บ่อเหนือและบ่อใต้ ชาวบ้านที่นี่ยังคงต้มเกลือด้วยวิธีการแบบดั้งเดิมเพื่อใช้ในการบริโภค และมีการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับความงามจำหน่ายอีกด้วย. ที่ตั้ง : อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่านเปิดทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น. (เข้าชมฟรี)บ่อเกลือจะปิดช่วงประเพณีเข้าพรรษาช่วงเดือนกรกฏาคม-กันยายน และวันสงกรานต์ของทุกปีโทร. 087 176 2016 (กลุ่มที่นำเกลือไปแปรรูปเป็นเกลือสปา)พิกัด : https://goo.gl/maps/aaigsLsHJn2y3dwh8 จุดชมวิวดอยภูคา 1715 จุดชมวิวดอยภูคา ตั้งอยู่ริมถนนหมายเลข 1256 อยู่เลยทางเข้าอุทยานฯ ไปประมาณ 4 กม. เป็นจุดชมวิวที่มีนักท่องเที่ยวแวะชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม รวมถึงทะเลหมอกด้วยนะ นับเป็นอีกแห่งที่สวยสุด ๆ ไม่แพ้ที่อื่น ๆ เลยล่ะ.ในช่วงเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ของทุกปี ดอกชมพูภูคาเริ่มทยอยบานสะพรั่งบริเวณอุทยานแห่งชาติดอยภูคา ซึ่งชมได้ปีละครั้งเท่านั้น หากมีโอกาสแวะไปชมกันนะ.ที่ตั้ง : ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1256 อำเภอปัว จังหวัดน่านพิกัด :  https://goo.gl/maps/Y4TcBDyTN4pwwAHB8 สาวกช็อกโกแลตไม่ควรพลาด เพราะเราจะได้เปิดประสบการณ์ใหม่จากสวนโกโก้แท้ ๆ ในประเทศไทยที่จังหวัดน่าน “Cocoa Valley” ที่นี่เปิดเป็นคาเฟ่ที่ใช้วัตถุดิบจากสวนและยังเป็นรีสอร์ทอีกด้วย เอาล่ะ…เดี๋ยวแอดพาทุกคนเข้าสวนไปเก็บผลโกโก้กันสด ๆ และลงมือทำช็อกโกแลตด้วยตัวเองกันค่ะ ก่อนอื่นเลย เจ้าหน้าที่จะอธิบายที่มาที่ไปของโกโก้และขั้นตอนการเก็บ ซึ่งโกโก้นั้นต้องใช้เวลาการปลูกกว่า 3 ปีเลยนะจึงจะสามารถเก็บผลผลิตมาใช้ได้ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะให้เราเก็บผลโกโก้สด ๆ จากต้นกับมือเลยล่ะ จากนั้นเจ้าหน้าที่จะใช้มีดหั่นลงไปตรงกลางของผลโกโก้และวนให้รอบจนขาดออกจากกันเพื่อเราดูเมล็ด แอดบอกเลยว่าเมล็ดโกโก้สีขาว ๆ นั้นสามารถกินได้ด้วยนะ มีรสชาติออกเปรี้ยว ๆ แถมยังมีประโยชน์ช่วยเรืองความจำอีกด้วย หลังจากเราเก็บผลโกโก้จากสวนแล้ว เจ้าหน้าที่จะพาเราไปดูวิธีการถัดไปคือ ต้องนำผลโกโก้ไปหมักและตากแห้ง จะเป็นหน้าตาแบบนี้เลย จากนั้นก็ฝัดเพื่อเอาฝุ่นออกและแยกเปลือกออกมา ซึ่งเปลือกยังสามารถนำไปบดเพื่อใช้ย้อมผ้าได้อีกด้วย ถึงเวลาที่เราสนุกกันละ ถึงเวลาทำช็อกโกแลตกันแล้วค่ะ โดยจะใช้โกโก้ที่ผ่านการแปรรูปแล้วมาผสมกับน้ำตาลโตนดเพื่อให้ได้รสหวาน ส่วนใครชอบแบบเข้มข้นก็ไม่ต้องผสมน้ำตาลเลยก็ได้ โกโก้ที่เจ้าหน้าที่ได้เตรียมไว้ ค่อนข้างมีอุณหภูมิสูง เราจึงต้องทำให้อุณหภูมิของโกโก้พอดีกับอุณหภูมิห้องเสียก่อน โดยการเทโกโก้ลงบนโต๊ะหินอ่อนปาดสลับไปมา จนรู้สึกว่าโกโก้เริ่มหนืด จากนั้นก็ตักใส่ชามและเทลงในกรวย แล้วก็บีบโกโก้ลงในเฟรมที่เตรียมไว้ ตกแต่งด้วยอัลมอนด์ ลูกเกดตามความชอบได้เลย  ตกแต่งหน้าตาช็อกโกแลตเรียบร้อยก็นำไปแช่เย็นประมาณ 5 นาที เราก็จะได้ช็อกโกแลตฝีมือตัวเองกลับบ้าน หากเพื่อน ๆ อยากมาทำกิจกรรมสามารถติดต่อจองล่วงหน้าได้ค่ะ.กิจกรรมใช้เวลา 45 นาที ราคาคนละ 350 บาท ที่ตั้ง : 339 หมู่ 8 ตำบลปัว อำเภอปัว จังหวัดน่านเปิดทุกวัน เวลา 10.00 – 18.00 น.โทร. 063 791 1619พิกัด : https://goo.gl/maps/nB649qmGhBx วันที่ 2 โรงเรียนชาวนาที่นี่เปิดเป็นฟาร์มสเตย์ ตั้งอยู่กลางทุ่งนาบริเวณบ้านนาคำ ที่นี่เน้นวิถีธรรมชาติและได้สัมผัสวิถีชีวิตที่เรียบง่ายแต่ไม่ธรรมดา.นอกจากเป็นที่พักแล้ว โรงเรียนชาวนาก็ยังมีกิจกรรมให้ทำด้วยค่ะ ขึ้นอยู่กับฤดูกาล แต่บรรยากาศโดยรอบ โรงเรียนชาวนาเต็มไปด้วยทุ่งนา ถ้าไปในช่วงฤดูดำนา เพื่อน ๆ ก็จะได้เรียนดำนา หรือหากไปในช่วงที่กำลังรอการเก็บเกี่ยวช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ เพื่อน ๆ ก็สามารถได้เกี่ยวกันด้วยนะ สำหรับกิจกรรมต้องติดต่อล่วงหน้าไว้ด้วยนะคะ สำหรับผู้ที่ไม่ได้เข้าพักก็สามารถแวะมาถ่ายรูปกับวิวทุ่งนา โอบล้อมด้วยภูเขา สูดอากาศบริสุทธิ์กันให้เต็มปอด.ที่ตั้ง : โรงเรียนชาวนา 225 หมู่ 1 บ้านนาคำ ตำบลศิลาเพชร อำเภอปัว จังหวัดน่านที่พักราคา 600 – 4,000 บาท/หลัง (รวมอาหารเช้า)โทร. 089 999 7737พิกัด : https://goo.gl/maps/XN7gnfSfVZP2 วังศิลาแลง สำหรับใครที่มีโอกาสไปอำเภอปัว ก็อย่าลืมแวะมาชมความสวยงามของ วังศิลาแลง หรือเรียกกันว่าแกรนด์แคนยอนเมืองปัว.ที่นี่มีลักษณะเป็นซอกหินผาที่เกิดจากการกัดเซาะของลำน้ำกูนที่ไหลผ่านมาเป็นเวลานาน ประกอบด้วยวังน้ำและโตรกผาเป็นช่วง ๆ โดยมีวังน้ำประมาณ 7 วัง รวมระยะทางกว่า 400 เมตร การเดินทางเข้าไปสามารถเดินเท้าเข้าไปจากฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำลงไปได้เลย ประมาณ 15 นาทีก็ถึง แต่ระหว่างทางเดินต้องระมัดระวังกันด้วยนะ บางจุดจะค่อนข้างชันและแคบ.ไม่น่าเชื่อว่าซอกหินผาที่ดูธรรมดา แต่ความจริงนั้น เราจะได้พบกับธรรมชาติอันงดงามที่ซ่อนตัวอยู่อย่างลึกลับแบบนี้.ที่ตั้ง : บ้านหัวน้ำ หมู่ 5 ตำบลศิลาแลง อำเภอปัว จังหวัดน่าน (ติดกับฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ)พิกัด : https://goo.gl/maps/EpwqkebJsm62  วัดภูเก็ต วัดภูเก็ต ที่ไม่ใช่จังหวัดภูเก็ต แต่แท้จริงแล้วอยู่จังหวัดน่าน แค่ชื่อก็ถือว่าเป็นจุดน่าสนใจ ชื่อวัดมาจากการเรียกชื่อตามหมู่บ้านที่ชื่อว่า “หมู่บ้านเก็ต” และเนื่องจากเป็นวัดตั้งอยู่บนเนินเขาซึ่งทางเหนือ เรียกว่า “ดอย” หรือ “ภู” จึงมีชื่อว่า “วัดภูเก็ต” หมายถึง วัดบ้านเก็ตที่อยู่บนภู หรือ ดอย ไฮไลท์ของวัดนี้จะมีระเบียงชมวิวด้านหลังวัด ซึ่งจะติดกับทุ่งนาเขียวขจี โอบล้อมด้วยภูเขาของอุทยานแห่งชาติดอยภูคา สำหรับช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน ทุ่งนาจะออกรวงสวยงามด้วยนะ.ที่ตั้ง : บ้านเก็ต หมู่ 2 ตำบลวรนคร อำเภอปัว จังหวัดน่านโทร. 084 046 9745 (เจ้าอาวาส)พิกัด : https://goo.gl/maps/WSPrL4bUdgT2

วัดหนองบัว : กระจกสะท้อนวัฒนธรรม

วัดแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งวัดที่มีชื่อเสียงของ จ.น่าน เนื่องจากมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่งดงาม ซึ่งสันนิษฐานว่าศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงานก็คือเจ้าของภาพจิตรกรรมฝาผนังวัดภูมินทร์อันโด่งดังนั่นเองค่ะ เมื่อเพื่อนๆ มาถึงวัดหนองบัว สิ่งแรกที่จะได้พบก็คือ คุณตาคุณยายกำลังนั่งเล่นดนตรีพื้นบ้านกันอย่างสนุกสนาน เพื่อคอยต้อนรับนักท่องเที่ยว ณ บริเวณทางเข้าวัด ซึ่งเพื่อนๆ สามารถร่วมสมทบทุนวงดนตรีพื้นบ้าน ผู้สูงอายุบ้านหนองบัวได้ค่ะ วัดหนองบัวเป็นวัดเก่าแก่ประจำหมู่บ้านหนองบัว ภายในประดิษฐานพระประธานปางมารวิชัยและพระพุทธรูปล้านนาองค์เล็กอีกหลายองค์ นอกจากนี้ยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังภาพที่สวยงามและหาชมได้ยากอีกด้วย โดยผู้วาดก็คือจิตรกรชาวไทลื้อที่ชื่อ หนานบัวผัน ซึ่งเป็นเจ้าของผลงานภาพปู่ม่านย่าม่านอันเลื่องชื่อที่วัดภูมินทร์นั่นเองค่ะ นี่คือภาพจิตรกรรมฝาผนังของวัดหนองบัวที่ยังคงหลงเหลืออยู่ เพื่อนๆ จะเห็นได้ว่าลวดลายต่างๆ ที่ยังอยู่นั้นมีความสวยงามเพียงใด แม้บางภาพอาจจะดูเลือนรางจางลงไปตามกาลเวลาบ้างแล้วก็ตาม นอกจากความสวยงามของวัดและภาพจิตรกรรมฝาผนังแล้ว ที่วัดแห่งนี้ยังมี “ศูนย์บูรณาการวัฒนธรรมไทยสายใยชุมชน” อีกด้วยค่ะ ซึ่งศูนย์แห่งนี้ก็เปรียบเสมือนศูนย์รวมของชุมชน เพราะเมื่อว่างจากงานที่ทำอยู่ ชาวบ้านก็จะมาช่วยกันปั่นฝ้าย ทอผ้า เพื่อสืบสานวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่น และเป็นการเสริมสร้างความสามัคคีในชุมชนอีกด้วยค่ะ เพื่อนๆ สามารถมาลองรีดเมล็ดฝ้ายและปั่นฝ้ายด้วยตนเองได้ด้วยนะคะ โดยจะมีคุณยายอยู่ใกล้ๆ คอยช่วยสอนอยู่ค่ะ วัดหนองบัวที่ตั้ง : บ้านหนองบัว ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา จ.น่านพิกัด : https://goo.gl/maps/JfsMr49cJgR2 เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 31 มกราคม 2562

D.I.Y. Do it for you ทำงานฝีมือไปฝากคนรู้ใจ

เทศกาลวาเลนไทน์ใกล้เข้ามาแล้วว หลายๆ คนคงจะเริ่มวางแผนแล้วว่า วันแห่งความรักแบบนี้จะทำอะไรให้คนรู้ใจดีนะ วันนี้แอดจึงรวบรวมสถานที่สำหรับทำ D.I.Y เผื่อใครอยากจะทำของน่ารักๆ ด้วยฝีมือตัวเองไปมอบให้เป็นของขวัญสุดพิเศษไม่ซ้ำใคร จินนาลักษณ์ miracle of saa มาดูของฝากน่ารักๆ อย่างกระดาษสากัน สามารถมอบให้กับสาวๆ หรือผู้ใหญ่ก็ยังได้ ที่นี่เป็นศูนย์การเรียนรู้การทำกระดาษสาแบบดั้งเดิม และเป็นศูนย์จำหน่ายของที่ระลึกที่ทำจากกระดาษสา มีความกิ๊บเก๋อยู่ตรงที่เราสามารถออกแบบตกแต่งกระดาษสาได้เองด้วย ค่าใช้จ่ายกิจกรรม DIY กระดาษสา มี 2 แบบ คือ– ทำกระดาษสา พร้อมใส่กรอบไม้ ราคา 500 บาท– ทำกระดาษสาอย่างเดียว ไม่ใส่กรอบ (ทางร้านจะส่งไปรษณีย์ไปให้ที่บ้าน) ราคา 190 บาท นอกจากนี้ยังมีของฝากน่ารักๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นกรอบรูป พัด หรือกล่องใส่ของ.ที่ตั้ง หมู่ 1 บ้านปางห้า ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย จ.เชียงรายเปิดทุกวัน เวลา 08.30 – 17.00 น.โทร. 064 679 7470, 081 883 9062 ครามสกล การนำผ้ามาย้อมกับสีธรรมชาติที่ได้จากพืชท้องถิ่นอย่าง “ต้นคราม” เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวจังหวัดสกลนคร ที่สืบทอดกันมาหลายต่อหลายรุ่น สำหรับใครที่อยากจะลงมือทำผ้าย้อมครามด้วยตัวเองในแบบฉบับ D.I.Y. แอดแนะนำร้านผ้าย้อมคราม @ครามสกลเลย เพราะที่นี่มีวิทยากรมาคอยสอนและสาธิตขั้นตอนการทำอย่างใกล้ชิด ซึ่งที่ร้านก็มีลวดลายเก๋ๆ ให้เลือกเยอะมาก หรือใครจะครีเอทออกมาเองให้เก๋ไก๋ไม่ซ้ำแบบใครก็ได้ สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจผลิตภัณฑ์จากผ้าคราม ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ และของใช้ต่างๆ ซึ่งปัจจุบันเค้าพัฒนาดีไซน์ได้เก๋ไก๋ เป็นที่ชื่นชอบของวัยรุ่นมากๆ สามารถเข้าไปเยี่ยมชมตัวอย่างผลิตภัณฑ์ได้ที่ Facebook : KhramSklKramsakon หรือถ้าใครสนใจอยากลองทำผ้าย้อมครามเก๋ๆ ก็สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ร้านผ้าย้อมคราม @ครามสกล-Kramsakon ที่ตั้ง บ้านพะเนาว์ ต.ห้วยยาง อ.เมือง จ.สกลนครเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น.Line id : @kramsakonโทร 080 582 6655 บ้านด่านเหนือแพรฝ้าย พูดถึงกาฬสินธุ์ หลายคนก็คงนึกถึงไดโนเสาร์และผ้าทอใช่มั้ย แอดจะพาไปทำความรู้จักกับชุมชนกลุ่มทอผ้ามัดหมี่และหมอนขิดที่บ้านด่านเหนือ ซึ่งที่นี่เป็นแหล่งผลิตและจำหน่ายผ้าฝ้ายทอมือ ผ้าขาวม้า ผ้าห่ม ผ้ามัดหมี่ และตุ๊กตาไดโนเสาร์นั่นเองค่ะ และเราก็สามารถลงมือทำกิจกรรม DIY ทำตุ๊กตาไดโนเสาร์ และพวงกุญแจได้ด้วย เราจะได้ลงมือทำทุกขั้นตอน ตั้งแต่การตัดผ้า ยัดนุ่น ไปจนถึงเย็บให้เป็นตุ๊กตา บอกเลยว่าทั้งสนุกและได้ความรู้มากมายเลย เหมาะที่จะพาคนรู้ใจไปนั่งทำกิจกรรมร่วมกันมากๆ หากเพื่อนๆคนไหนสนใจกิจกรรม DIY การทำตุ๊กตาไดโนเสาร์ หรือพวงกุญแจ ต้องติดต่อล่วงหน้านะคะ ที่ตั้ง 116/2 บ้านด่านเหนือ ต.โพนงาม อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์โทร. 081 739 1434 คุณนัฐพร มหิพันธุ์ (ผู้จัดการ) Cocoa Valley วาเลนไทน์เราจะพลาดช็อกโกแลตได้ไง สำหรับใครที่อยากจะให้ของขวัญคนที่เรารักเป็นช็อกโกแลตหวานๆ แอดแนะนำที่นี่เลย เราสามารถทำช็อกโกแลตได้ด้วยตัวเอง เริ่มตั้งแต่เก็บผลโกโก้ในสวน ไปจนถึงขั้นตอนการทำ เรียกได้ว่าเป็นฝีมือของเราจริงๆ เลยล่ะ กิจกรรมใช้เวลา 45 นาที ราคาคนละ 350 บาท ที่ตั้ง 339 หมู่ 8 ต.ปัว อ.ปัว จ.น่านเปิดทุกวัน เวลา 10.00 – 18.00 น.โทร 063 791 1619 Cocoa Valley เป็นทั้งรีสอร์ทสไตล์ลอฟท์ และยังมีโซนคาเฟ่ด้วย มีทั้งเบเกอรี และเครื่องดื่มที่ใช้ผลผลิตจากสวนโกโก้ของเค้าเองด้วยนะ เมืองไม้บาติก จังหวัดร้อยเอ็ด ผ้าบาติกของที่นี่มีเอกลักษณ์คือ นำผ้าไหมที่ขึ้นชื่อของร้อยเอ็ดมาเพนต์ลายแบบบาติก โดยใช้สีสันโทนธรรมชาติและลวดลายกราฟิกที่แปลกตา บาติกผ้าไหมมีเทคนิควิธีการทำเหมือนกับผ้าบาติกของภาคใต้ ต่างเพียงแค่สีและลวดลายเท่านั้น โดยเมืองไม้บาติกจะใช้สีโทนธรรมชาติไม่ฉูดฉาด และลวดลายจะเป็นลายธรรมชาติง่าย ๆ เช่น ปลา ใบไม้ ดอกไม้ หรือใยแมงมุม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของงานบุญผะเหวด งานบุญใหญ่ซึ่งเป็นประเพณีที่สำคัญของจังหวัดร้อยเอ็ด มีลายให้เลือกวาดเยอะมากๆ ที่สำคัญเราสามารถช่วยกันวาดได้ด้วยนะ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าไปทำกับคนรู้ใจมากๆ เลยล่ะ ใครอยากมาระบายสีผ้าบาติกแบบแอด มาได้ที่เมืองไม้บาติกเลย ที่ตั้ง 281 ต.นิเวศน์ อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ดเปิดวันจันทร์-เสาร์ เวลา 08.00 – 20.00 น. (ปิดวันอาทิตย์)โทร. คุณต่อศักดิ์ สุทธิสา 043 569 048, 081 261 4800

Scroll to Top