ระนอง

ระนอง

ปฏิทินท่องเที่ยวเดือนกุมภาพันธ์ 🗓️

💕 เดือนกุมภาพันธ์ อบอวลด้วยความรักและเทศกาลพิเศษที่หลาย ๆ คนมีแผนจะเดินทางท่องเที่ยวเพื่อมอบความพิเศษให้กับคนรัก ไม่ว่าจะเป็นคนรู้ใจ ครอบครัว และเพื่อน ๆ ในเดือนกุมภาพันธ์นี้มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งที่เหมาะจะเดินทางอย่างมาก เนื่องจากสภาพอากาศยังมีช่วงที่อากาศเย็นสบาย ทะเลภาคใต้ฝั่งอันดามันปลอดมรสุม และที่สำคัญยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีระยะเวลาจำกัดอีกด้วย  Bangkok Design Week 2023 กรุงเทพฯ เตรียมตัวให้พร้อม เพราะเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ หรือ Bangkok Design Week (BKKDW) เทศกาลงานออกแบบที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง ซึ่งปีนี้ ก็มีคอนเซ็ปต์ที่น่าสนใจไม่น้อย ในธีม “urban‘NICE’zation เมือง – มิตร – ดี” ที่จะสร้างสรรค์กรุงเทพฯ ในแต่ละย่านให้กลายเป็นเมืองที่น่ารัก เป็นมิตร ด้วยศิลปะและงานกิจกรรมต่าง ๆ ให้แก่ผู้ที่สนใจได้เข้าไปสัมผัสได้อย่างเต็มที่ BKKDW จะจัดขึ้นในวันที่ 4-12 กุมภาพันธ์ 2566 ในย่านหลัก ๆ ได้แก่ โซนพระนคร ปากคลองตลาด เจริญกรุง-ตลาดน้อย เยาวราช สามย่าน-สยามอารีย์-ประดิพัทธ์ วงเวียนใหญ่-ตลาดพลู คลองสาน บางโพ พร้อมพงษ์ และ ม.เกษตรฯ เพื่อน ๆ ที่สนใจเข้าร่วมงาน หรืออยากจะดูว่ามีกิจกรรมที่ไหนบ้าง สามารถเข้ามาดูรายละเอียดได้ที่ https://www.bangkokdesignweek.com/bkkdw2023/program  เบญจมาศบานในม่านหมอก ประจำปี 2566 จ.นครราชสีมา ชวนคนรักไปสูดอากาศบริสุทธิ์กลางทุ่งดอกไม้ใน งานเทศกาลเบญจมาศบานในม่านหมอก 2566  เนรมิตพื้นที่กว้างขวางและบรรยากาศขุนเขาให้กลายเป็นทุ่งดอกเบญจมาศหลากสีหลายสายพันธุ์ และยังมีกิจกรรมการออกร้าน จำหน่ายสินค้า OTOP จำหน่ายผักปลอดสาร และชมนิทรรศการของส่วนต่าง ๆ ในปีนี้ เพื่อน ๆ สามารถชมได้ตั้งแต่ วันที่ 5-25 กุมภาพันธ์ 2566  อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ ถ้าถามว่า ทะเลกระบี่สวยที่สุดช่วงไหน ก็คงตอบได้เลยว่าช่วงต้นปีนี่แหละเป็นช่วงที่อากาศดีสุด ๆ ท้องฟ้าปลอดโปร่ง อากาศเย็นสบาย และมักจะได้รับผลกระทบจากมรสุมน้อยที่สุดเลยก็ว่าได้ หากใครที่มากระบี่ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี  ก็เป็นจุดหมายทางที่น่าสนใจไม่น้อยเลย ภายในอุทยานฯ มีชายหาดสวยงาม หมู่เกาะน้อยใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น เกาะไม้ไผ่ เกาะพีพีเล เกาะพีพีดอนถ้ำไวกิ้ง อ่าวต่าง ๆ เช่น อ่าวโล๊ะซามะ อ่าวมาหยาอ่าวปิเละ เป็นต้น และยังมีกิจกรรมทางทะเล ได้แก่ ล่องเรือชมเกาะต่าง ๆ ดำน้ำชมโลกใต้ทะเล ปีนผาชมวิวมุมสูงที่อ่าวไร่เลย์ ชมทะเลแหวกอัตราค่าบริการท่องเที่ยว ขึ้นอยู่กับโปรแกรมของแต่ละบริษัท หรือแล้วแต่ตกลงกับทางผู้นำเที่ยวว่าต้องการจะไปที่ไหนบ้าง และหากใครที่อยากนอนพักบนเกาะ สามารถไปพักได้ที่เกาะพีพีดอน ซึ่งมีที่พักเปิดให้บริการหลายแห่ง  79 หมู่ 5 ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ 0 7566 1145 Facebook อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพีhttps://goo.gl/maps/3s19gU2bBwJ81s6E8  เกาะพยาม จ.ระนอง  เกาะพยาม  เป็นเกาะที่มีชื่อเสียงและมีความงดงามทางธรรมชาติอย่างมากแห่งหนึ่ง ซึ่งในช่วงนี้ก็เหมาะอย่างมากที่จะเดินทางไปเที่ยว บนเกาะมีอ่าวอยู่หลายแห่ง มีหาดทรายขาวละเอียดและน้ำทะเลใสสะอาด ซึ่งแต่ละอ่าวตั้งอยู่ไม่ไกลกันมากนัก ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีก็ถึง บนเกาะ มีกิจกรรมให้เพื่อน ๆ ได้สนุกสนานเพลิดเพลินหลายอย่าง เช่น ชมพระอาทิตย์ตกบน “อ่าวใหญ่” ชมพระอาทิตย์ขึ้นบน “อ่าวแม่หม้าย” พายเรือคายักชม “ป่าโกงกาง” กลางเกาะ สัมผัสวิถีชีวิตของคนใน “หมู่บ้านมอแกน” เป็นต้น  การเดินทางมายังเกาะพยาม ต้องนั่งเรือจากท่าเรือเทศบาลตำบลปากน้ำ ซึ่งอยู่ห่างจากอำเภอเมืองระนองประมาณ 15 นาที เรือมี 2 แบบ ได้แก่ เรือธรรมดาและเรือสปีดโบต มีหลายบริษัทและผู้ให้บริการหลายเจ้า ราคาประมาณ 250-400 บาท  ตำบลเกาะพยาม อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนองโทร. 09 3582 4507 (อบต.เกาะพยาม)​https://goo.gl/maps/eqFYfNNiNaS2  อุทยานแห่งชาติดอยภูคา จ.น่าน ทางภาคเหนือ ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลต์อย่าง อุทยานแห่งชาติดอยภูคา  ที่หากใครมีโอกาส อยากจะลองไปชมสักครั้ง ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้เหมาะมาก ๆ มีจุดที่น่าสนใจหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและตกบนจุดชมทิวทัศน์ 1715 ชมวิวสันเขาและหมอกหนาบนยอดดอยภูแว นอนดูดาว กางเต็นท์พักแรม นอกจากบรรยากาศจะดีมากแล้ว ยังจะได้ชมพืชพรรณต่าง ๆ ของอุทยานฯ อย่างเช่น ก่วมแดง ที่มีในลักษณะคล้ายเมเปิ้ล ชมดอกนางพญาเสือโคร่ง ที่กำลังบานเต็มที่ เตรียมต้อนรับฤดูที่เบ่งบานของดอกชมพูภูคา พันธุ์ไม้หิมาลัยที่ปัจจุบันในไทยพบเพียงที่ดอยภูคาเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ในปี พ.ศ. 2566 นี้ ดอกชมพูภูคาจะบานช้ากว่าปกติเล็กน้อย ใครที่วางแผนจะไปชมดอกชมพูภูคา สามารถติดตาม อัปเดตทางหน้าเพจอุทยานฯ ได้โดยตรง สิ่งอำนวยความสะดวกภายในอุทยานฯ ร้านค้าสวัสดิการ เปิดทุกวัน เวลา 07.30-18.30 น. บ้านพักและลานกางเต็นท์ จองได้ที่เว็บไซต์ของอุทยานฯ  ตำบลภูคา อำเภอปัว จังหวัดน่าน อัตราค่าบริการชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท 08 2194 1349 Facebook อุทยานแห่งชาติดอยภูคา – Doi Phu Kha National Parkhttps://goo.gl/maps/aUL4NDdrfu9K3PqS7

💧พักเท้าแช่น้ำร้อน ที่ บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน จ. ระนอง💧

สิ้นปีนี้ใครกำลังหาสถานที่พักผ่อนร่างกาย พักผ่อนจิตใจ แอดอยากชวนลงใต้ ไปแวะพักเท้าแช่น้ำร้อน ที่ #บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน จ. ระนอง กันค่ะ เพราะที่นี่ถือว่าเป็นบ่อน้ำร้อนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มีอุณหภูมิประมาณ 65 องศาเซลเซียส ได้รับการวิเคราะห์จากกรมวิทยาศาสตร์ว่าบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้ ประกอบไปด้วยแร่ธาตุที่สำคัญ และเป็นแหล่งเดียวในประเทศไทยที่ไม่มีสารกำมะถันเจือปน ทำให้เป็นบ่อน้ำร้อนที่มีความบริสุทธิ์มาก ๆ นั่นเองค่ะ มาถึง #ระนอง เมืองแห่งบ่อน้ำร้อน แอดบอกเลยว่าไม่ควรพลาด มาพักผ่อนทั้งทีลองเปลี่ยนมู้ดการท่องเที่ยวมา #ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ กันสักทีแล้วจะติดใจค่ะ บ่อน้ำร้อนรักษะวารินนี้ เป็นบ่อน้ำพุร้อนที่สำคัญที่สุดของระนอง เนื่องจากอยู่ใกล้แหล่งชุมชน และยังเป็นสถานที่ที่ได้รับการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว เป็นสถานที่ดี ๆ ให้เราได้ช่วยกันอุดหนุนชาวบ้าน กระจายรายได้สู่ชุมชนด้วยค่ะ การแช่น้ำร้อนนอกจากจะช่วยผ่อนคลายแล้ว ยังช่วยให้เลือดลมไหลเวียนได้ดีขึ้น หรือใครที่มีอาการปวดเมื่อยอยู่ ก็จะคลายปวดได้นะคะ หากใครไม่อยากแช่น้ำร้อน ใกล้ ๆ กันก็ยังมีสวนสาธารณะรักษะวาริน บรรยากาศร่มรื่น เหมาะกับการมานั่งพักผ่อนในวันสบาย ๆ ได้เหมือนกันค่ะ บ่อน้ำร้อนธรรมชาติ ที่ บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน ได้รับการรับรองจาก กรมวิทยาศาสตร์แล้วว่า ประกอบไปด้วยแร่ธาตุที่สำคัญ และไม่มีสาร กำมะถันเจือปน มีอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 65 องศาเซลเซียส ทำให้น้ำแร่ร้อนที่นี่มีประโยชน์ในการบำบัดรักษาสุขภาพ  บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน จ. ระนอง : https://goo.gl/maps/8xv7zozxxJbKfeV78 บรรยากาศรอบข้างของบ่อน้ำร้อนรักษะวาริน มีความร่มรื่น แล้วยังติดลำธารเล็ก ๆ เหมาะกับการมาพักผ่อนสุด ๆ  บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน จ. ระนอง : https://goo.gl/maps/8xv7zozxxJbKfeV78 บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน ตั้งอยู่ที่ตำบลบางริ้น ห่างจากศาลหลักเมืองระนองไปประมาณ 2.5 กิโลเมตร โดยจากเส้นทางหลวงหมายเลข 4 ให้เลี้ยวเข้ามาตามทางหลวงหมายเลข 4005 อีกประมาณ 700 เมตร บ่อน้ำร้อนจะอยู่ทางด้านขวามือ  บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน จ. ระนอง : https://goo.gl/maps/8xv7zozxxJbKfeV78  บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน จ. ระนอง : https://goo.gl/maps/8xv7zozxxJbKfeV78 สวนสาธารณะรักษะวาริน ที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกับบ่อน้ำร้อน มีบรรยากาศร่มรื่น เหมาะกับการนั่งพักผ่อน ชมวิวธรรมชาติสีเขียว  บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน จ. ระนอง : https://goo.gl/maps/8xv7zozxxJbKfeV78 ส่วนใครอยากจะเดินเล่นรอบ ๆ บริเวณริมลำธาร มีสะพานแขวนให้เดินข้าม เชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งจุดถ่ายรูปที่สวยงามไม่แพ้กันค่ะ  บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน จ. ระนอง : https://goo.gl/maps/8xv7zozxxJbKfeV78 ที่สวนสาธารณะรักษะวาริน มีศาลาโยคะร้อนด้วยค่ะ บอกเลยว่าเป็นสถานที่ที่เหมาะกับการพักผ่อนที่แท้จริง เป็นการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ แบบครบทั้งภายในภายนอกเลยค่ะ  บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน จ. ระนอง : https://goo.gl/maps/8xv7zozxxJbKfeV78

✨รวมอุทยานแห่งชาติทางทะเลฝั่งอันดามัน 16 แห่ง ✨

ทะเลไทยขึ้นชื่อว่าสวยงามไม่แพ้ใคร วันนี้แอดจะมาแนะนำ อุทยานแห่งชาติทางทะเลฝั่งอันดามัน 16 แห่ง ให้เพื่อน ๆ ได้รู้จัก หากใครมีโอกาสได้ไปรับรองประทับใจแน่นอน ลองตามแอดมาดูกันว่ามีที่ไหนบ้าง 👉 สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดข้อมูลก่อนการเดินทางได้ที่ สำนักอุทยานแห่งชาติ โทรศัพท์ 0 2579 5269 จังหวัดพังงา 1. อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา มีพื้นที่ครอบคลุมอำเภอเมืองพังงา อำเภอตะกั่วทุ่งและอำเภอเกาะยาว อุทยานฯ แห่งนี้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางภาคใต้ทางฝั่งทะเลอันดามันที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ มีชายหาดและเกาะสวยที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลกอยู่หลายแห่ง ที่สำคัญที่นี่ยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์จากการค้นพบหลักฐานหลายอย่างที่แสดงว่า เคยมีกลุ่มชนอาศัยอยู่บริเวณนี้ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ เช่น ภาพเขียนสี เศษภาชนะดินเผา ขวานหิน ฯลฯ 2. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ เป็นหมู่เกาะในทะเลอันดามันห่างจากฝั่งไปทางทิศตะวันตกประมาณ 70 กิโลเมตร อยู่ติดกับเขตชายแดนไทย-พม่า ประกอบด้วยเกาะสำคัญ 5 เกาะ คือ เกาะสุรินทร์เหนือ เกาะสุรินทร์ใต้ เกาะไข่ (เกาะตอรินลา) เกาะกลาง (เกาะปาจุมบา) และเกาะรี (เกาะสต๊อก) ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของแนวปะการังน้ำตื้นของเกาะสุรินทร์เหนือและเกาะสุรินทร์ใต้ ที่นี่จึงถือเป็นแหล่งดำน้ำระดับแถวหน้าของเมืองไทย มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงมาก จนได้รับยกย่องว่าเป็นแหล่งกำเนิดของแนวปะการังน้ำตื้นขนาดใหญ่และสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ส่วนอีกสามเกาะเป็นเกาะหินที่มีต้นไม้แคระแกร็นขึ้นอยู่ พืชพรรณที่พบเป็นพืชป่าดิบชื้น 3. อุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง อุทยานแห่งนี้ แยกออกเป็น 2 ส่วน คือ เทือกเขาลำปี มีลักษณะเป็นภูเขาหลายลูกเรียงเป็นแนวยาว ส่วนใหญ่เป็นหินอัคนีที่อายุราว ๆ 60–140 ล้านปี มีป่าดงดิบปกคลุม และอีกส่วนคือ ชายหาดท้ายเหมือง ที่มีลักษณะเป็นหาดทรายขาวสะอาดกว้างและยาว มีความเงียบสงบ เป็น่จุดวางไข่ของเต่าทะเลและที่อยู่อาศัยของนกจำนวนมาก 4.อุทยานแห่งชาติเขาหลัก-ลำรู่ ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของทะเลอันดามัน ครอบคลุมพื้นที่ 4 อำเภอของจังหวัดพังงา ได้แก่ อำเภอตะกั่วป่า อำเภอกะปง อำเภอท้ายเหมือง และ อำเภอเมือง ลักษณะเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำที่สำคัญในจังหวัดพังงา ได้แก่ แม่น้ำพังงาและแม่น้ำตะกั่วป่า ภายในมีชายหาดที่ซ่อนตัวอยู่ในเขา 2 แห่ง คือชายหาดเขาหลัก เป็นหาดหินสวยงาม มีต้นสนตลอดแนวริมหาด ส่วนอีกหาดคือ หาดเล็ก แต่อาจจะไม่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวมากนัก เหมาะการเล่นน้ำทะเลหรือพักผ่อนริมชายหาด มีบรรยากาศเงียบสงบเหมือนเป็นชายหาดส่วนตัว 5.อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน สิมิลัน มาจากภาษายาวี แปลว่า “เก้า” ซึ่งมาจากจำนวนของเกาะน้อยใหญ่ทั้งหมดที่รวมกันเป็นหมู่เกาะสิมิลัน อีกหนึ่งสวรรค์ของนักดำน้ำในไทยนั่นเองอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันประกอบไปด้วย 9 เกาะ เรียงกันจากเหนือลงมาใต้ ดังนี้-เกาะหูยง-เกาะปายัง-เกาะปาหยัน-เกาะเมี่ยง เป็นสองเกาะติดกัน เป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ มีปูไก่และนกชาปีไหน สัตว์ที่หาชมได้ยาก-เกาะปายู-เกาะหัวกะโหลก เป็นเกาะที่มีลักษณะคล้ายหัวกะโหลก มีปะกะรัง ปลากระเบนราหูและหุบเขาใต้น้ำ-เกาะสิมิลัน มีขนาดใหญ่สุด เป็นแหล่งดำน้ำ ชมปะการังและสัตว์ทะเล มีจุดชมวิวหินเรือใบ-เกาะบางู จุดดำน้ำชมกองหินใต้น้ำ กองหินคริสต์มาสพอยต์ ต่อมาได้มีการรวมเอาเกาะตาชัยมาอยู่ในหมู่เกาะสิมิลันด้วย * พื้นที่บริเวณโดยรอบของเกาะหูยง เกาะปายัง และเกาะปาหยัน ได้ถูกสงวนให้เป็นพื้นที่วางไข่ของเต่าทะเล ห้ามนักท่องเที่ยวขึ้นเกาะโดยเด็ดขาด จังหวัดสตูล 6. อุทยานแห่งชาติตะรุเตา “ตะรุเตา” เป็นคำที่เพี้ยนมาจากภาษามลายูคำว่า “ตะโละเตรา” แปลว่า มีอ่าวมาก เป็นอุทยานแห่งชาติที่อยู่ในทะเลอันดามันบริเวณช่องแคบมะละกา มหาสมุทรอินเดีย ทางด้านใต้ของเขตอุทยานแห่งชาติห่างจากชายแดนไทย-มาเลเซีย เพียง 4.8 กิโลเมตร เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลแห่งแรกของเมืองไทย อุทยานแห่งชาติตะรุเตา ประกอบด้วยเกาะใหญ่น้อยถึง 51 เกาะ โดยมีเกาะที่มีขนาดใหญ่ 7 เกาะ คือ เกาะตะรุเตา เกาะอาดัง เกาะราวี เกาะหลีเป๊ะ เกาะกลาง เกาะบาตวง และเกาะบิสสี โดยจัดแบ่งออกเป็นหมู่เกาะใหญ่ๆ ได้ 2 หมู่เกาะ คือ หมู่เกาะตะรุเตาและหมู่เกาะอาดัง-ราวี  7. อุทยานแห่งชาติทะเลบัน ตั้งอยู่ที่ตำบลวังประจัน อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล ติดกับชายแดนของประเทศมาเลเซีย เป็นบึงน้ำจืดขนาดใหญ่ ตั้งอยู่กลางหุบเขาจีนและเขามดแดง เกิดขึ้นจากการยุบตัวของพื้นดิน โดยน้ำในบึงมาจากต้นน้ำที่ออกมาจากผนังภูเขา บริเวณรอบ ๆ ของอุทยาน มีป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ มีภูเขา น้ำตก ถ้ำ เป็นแหล่งที่อยู่ของสัตว์หายากอย่าง เขียดว้าก (หมาน้ำ) สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำรูปร่างคล้ายกบที่ส่งเสียงร้องคล้ายลูกสุนัข และยังเป็นที่อยู่อาศัยของชนพื้นเมืองเผ่าซาไกหรือเงาะป่าอีกด้วย โดยคำว่า ทะเลบัน เพี้ยนมาจาก ภาษามลายูว่า เลิดเรอบัน ที่มีความหมายว่า แผ่นดินยุบ นั่นเอง 8. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา ประกอบด้วยเกาะ 22 เกาะ วางตัวในแนวเหนือ-ใต้ รูปร่างแปลกตา มีลักษณะเป็นเกาะหินปูนที่มีความลาดชันมีโพรง ถํ้า หลุมยุบ หน้าผาสูงชัน จากการกัดเซาะของน้ำและลม ที่ราบบนเกาะส่วนมากเป็นหาดทรายแคบ ๆ สั้น ๆ อยู่ตามหัวแหลมของเกาะและอ่าว จังหวัดภูเก็ต 9. อุทยานแห่งชาติเขาสิรินาถเดิมชื่อ อุทยานแห่งชาติหาดในยาง ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัดภูเก็ต ภายในบริเวณอุทยานมีป่าสนทะเล หาดทราย แนวปะการัง ที่วางไข่ของเต่าทะเล จักจั่นทะเลและเป็นที่อยู่อาศัยหอยทะเลที่หายากหลายชนิด จังหวัดตรัง 10. อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหมครอบคลุมพื้นที่ 2 อำเภอ คือ อำเภอกันตังและอำเภอสิเกา ภายในประกอบด้วยชายหาดและเกาะ 7 แห่ง โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วน ดังนี้– ส่วนชายหาด ได้แก่ หาดปากเมง หาดฉางหลาง หาดยาว หาดหยงหลิง หาดสั้น หาดเจ้าไหม ถ้ำเจ้าไหม– ส่วนเกาะ ได้แก่ เกาะมุก เกาะกระดาน เกาะเชือก เกาะปลิง …

✨รวมอุทยานแห่งชาติทางทะเลฝั่งอันดามัน 16 แห่ง ✨ อ่านเพิ่มเติม

📌 จุดชมวิวเขาฝาชี : ระนอง☀️

‘เขาฝาชี’ ภูเขาที่มีลักษณะรูปทรงสัณฐานคล้ายฝาชี มีความสูง 259 เมตร จากระดับน้ำทะเล ในอดีตพื้นที่บริเวณเขาฝาชีเคยเป็นที่ตั้งค่ายทหารญี่ปุ่นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มาก่อน ปัจจุบันบนยอดเขาเป็นจุดชมทัศนียภาพแม่น้ำกระบุรี เส้นแบ่งเขตแดนตามธรรมชาติระหว่างไทยกับเมียนมา ที่ไหลมาบรรจบกับคลองละอุ่นบริเวณเบื้องล่างของจุดชมวิว นอกจากนี้หากโชคดีอาจได้ชมทะเลหมอกในยามเช้าและในช่วงหลังฝนตก ที่นี่ยังถือเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกยามเย็นที่สวยงามมากอีกแห่งของระนอง 🚙 การเดินทาง : จากตัวเมืองระนอง ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) เส้นทางไปจังหวัดชุมพร เมื่อเข้าเขตอำเภอละอุ่นและข้ามสะพานคลองละอุ่นมาแล้ว ให้ตรงต่อไปอีกราว 2 กิโลเมตร จะพบทางขึ้นเขาฝาชีอยู่ซ้ายมือ จากปากทางถนนเพชรเกษมตรงขึ้นสู่จุดชมวิวบนเขา มีระยะทาง 3 กิโลเมตร เป็นถนนลาดยางรถสวนกันสองเลน มีความคดโค้ง ไหล่ทางค่อนข้างแคบ แต่ไม่ชันมาก ระยะทางรวมจากตัวเมืองระนองประมาณ 33 กิโลเมตร

เส้นทางท่องเที่ยว ระนอง-ชุมพร 3 วัน 2 คืน

ระนอง – ชุมพร 3 วัน 2 คืน  วันที่ 1– ภูเขาหญ้า– ศูนย์การเรียนรู้ภูมิปัญญาการร่อนแร่ ชุมชนหาดส้มแป้น– น้ำนองฮอทสปา วันที่ 2 – วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวตำบลม่วงกลวง คลองลัดโนด– บ้านไร่ไออรุณ– จุดชมวิวเขามัทรี– บาติกผาแดง ครูอนงค์ วันที่ 3– จุดชมวิวป่าเขาเขียว– เจียฟาร์ม– หาดทุ่งวัวแล่น วันที่ 1.สถานที่แรกที่แอดไปก็คือ ภูเขาหญ้าตั้งอยู่ใน อ.เมือง มีลักษณะเป็นภูเขาที่ไม่มีต้นไม้ใหญ่ขึ้น มีแต่ต้นหญ้าปกคลุม จึงเป็นที่มาของชื่อภูเขาหญ้า มีทางเดินเท้าขึ้นสู่สันเขาเพื่อชมวิวได้ 360 องศา ภูเขาแต่ละลูกไม่สูงมาก สามารถเดินเชื่อมถึงกันได้.ภูเขาหญ้าสามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ในช่วงฤดูแล้ง (เดือนพฤศจิกายน-เมษายน) ภูเขาหญ้าจะเป็นสีน้ำตาลทอง แต่เมื่อเข้าสู่ฤดูฝน (เดือนพฤษภาคม-ตุลาคม) ก็จะเปลี่ยนเป็นสีเขียว หลายคนจึงนิยมเรียกว่า “ภูเขาหญ้าสองสี”.ที่ตั้ง ม.1 ต.หงาว อ.เมือง จ.ระนองเปิดทุกวันไม่เสียค่าธรรมเนียม ศูนย์การเรียนรู้ภูมิปัญญาการร่อนแร่ ชุมชนหาดส้มแป้น.หาดส้มแป้น อยู่ห่างจากตัวเมืองเพียง 10 กิโลเมตร เป็นตำบลเล็ก ๆ ท่ามกลางหุบเขา ที่ยังคงเสน่ห์เฉพาะตัวของความเป็นหมู่บ้านที่มีแหล่งแร่ดีบุกเอาไว้ ที่สำคัญหากไปเที่ยวที่นี่ เราสามารถทำกิจกรรมร่อนแร่ได้ด้วยนะ.ที่ตั้ง ต.หาดส้มแป้น อ.เมือง จ.ระนองเปิดทุกวัน 09.00-16.00 น. (นัดล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน)โทร. 080 040 2425, 090 424 8513 (พี่สมโชค)Facebook : https://www.facebook.com/BaanHatsompaen/ “หาดส้มแป้น” เป็นชุมชนทำเหมืองเก่าที่สำคัญของ จ.ระนอง มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน การทำเหมืองของที่นี่เป็นลักษณะของเหมืองฉีด (คือใช้กระบอกสูบน้ำ สูบดินทรายและแร่ขึ้นมาจากเหมือง) และเหมืองแล่น (ใช้น้ำฉีดไปที่หน้าดินเพื่อหาแร่) มีเพียงส่วนน้อยที่มีการทำแบบเหมืองหาบ (ใช้คนขุดและหาบแร่ไปล้าง) ชื่อ “หาดส้มแป้น” เพี้ยนมาจากคำว่า “ห้วยซัมเปียน” ในภาษาจีน ที่แปลว่าลึกเข้าไปในหุบเขา เนื่องจากการค้นหาแร่ดีบุกจะต้องเดินลึกเข้าไปเพื่อหาแร่ในหุบเขา ปัจจุบันแม้แร่ดีบุกจะลดน้อยลง แต่ก็มีการค้นพบแร่ดินขาวคุณภาพดีอันดับต้น ๆ ของเอเชีย ที่มีชื่อเสียงด้านความโปร่งใสของเนื้อดิน สามารถส่งออกขายทั้งในและต่างประเทศอีกด้วย ปิดท้ายวันแรกด้วย น้ำนองฮอทสปา.สปาน้ำแร่ร้อนธรรมชาติแห่งนี้ ตั้งอยู่ใกล้บ่อน้ำแร่ร้อนรักษะวาริน จุดเด่นของที่นี่คือ การใช้น้ำแร่ที่ต่อตรงมาจากบ่อน้ำร้อนรักษะวาริน ซึ่งถือเป็นน้ำแร่คุณภาพดีอันดับต้น ๆ ของโลกเลยทีเดียว มีคุณสมบัติพิเศษคือ ไม่มีกลิ่นกำมะถัน สามารถใช้ดื่มได้และอุดมไปด้วยแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย.ที่ตั้ง ต.เขานิเวศน์ อ.เมือง จ.ระนองเปิดทุกวัน เวลา 10.00-20.00 น.โทร. 084 625 3444, 077 828 388, 081 666 2285 ประโยชน์ของการแช่น้ำแร่– กระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและช่วยขยายหลอดเลือด– คลายความปวดเมื่อย– บำรุงผิวพรรณ– กระตุ้นระบบเผาผลาญของร่างกาย. ที่นี่ยังมีบริการอื่น ๆ อีก เช่น– นวดคลายกล้ามเนื้อ-คลายเส้น– นวดแผนไทย– นวดหน้า– นวดเท้า– ขัดผิว วันที่ 2.วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวตำบลบ้านม่วงกลวง คลองลัดโนด.หากใครอยากสัมผัสธรรมชาติแบบใกล้ชิดและทำกิจกรรมที่หลากหลาย แอดแนะนำให้มาที่นี่ เพราะมีทั้งล่องเรือชมวิว ปลูกป่าชายเลน กินอาหารทะเลสดอร่อยบนกระชังปลา และล่องแพเปียก.ที่ตั้ง ม.3 ต.ม่วงกลวง อ.กะเปอร์ จ.ระนองเปิดทุกวัน เวลา 08.00-16.00 น.โทร. 087 885 7965 (พี่ปรีชา), 082 278 6099 (ผู้ใหญ่ทวน) กิจกรรมแรกคือการนั่ง “เรือพรีส” ชมวิว เรือนี้มีลักษณะคล้ายเรือหางยาวลำเล็ก ๆ นั่งได้ไม่เกิน 3 คน รวมคนขับ.วันที่แอดไปมีฝนตกลงมา สมกับที่เป็น “เมืองฝนแปดแดดสี่” จริง ๆ เพราะฉะนั้นใครมาเที่ยวระนองต้องเตรียมตัวให้พร้อมนะ เช็คสภาพอากาศล่วงหน้าด้วย แต่จริง ๆ นั่งเรือกลางสายฝนก็สนุกไปอีกแบบเลยล่ะ อีกจุดของที่นี่ ที่แอดชอบมากก็คือ กระชังปลา หรือเรียกว่าศูนย์เรียนรู้ลอยน้ำ ซึ่งเป็นจุดรับประทานอาหารกลางวันของเรา มาถึงระนองทั้งที ถ้าไม่กินอาหารทะเลก็อาจถูกแซวว่ามาไม่ถึง ขอบอกเลยว่าอาหารที่นี่อลังการมาก กุ้ง หอย ปู ปลา ละลานตาไปหมด แถมรับประกันความสดและความอร่อย เมนูที่ไม่อยากให้เพื่อน ๆ พลาดเลยก็คือ “แกงกุ้งใส่ใบส้มป่อย” ซุปใสรสชาติคล่องคอ อมเปรี้ยวนิด ๆ เนื้อกุ้งก็หวานเด้ง รสชาติเข้ากันมาก ๆ ขอเตือนไว้ก่อนเลยว่า อย่ากินเพลินจนลืมชมวิวนะ เพราะถึงแม้ว่าตอนล่องเรือฝนจะตก แต่พอฝนหยุดแล้ว สิ่งที่ปรากฏแก่สายตาเป็นอะไรที่สุดยอดมากกก หมอกจาง ๆ บนภูเขา น้ำใส ๆ สะท้อนภาพท้องฟ้าที่เริ่มเปิด ลมเย็นพัดเอื่อย ๆ และอาหารอร่อย ๆ วางเต็มโต๊ะ เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม กิจกรรมถัดไปตามโปรแกรมก็คือ การล่องแพเปียกชมสันหลังปึ้งกือ(สันหลังกิ้งกือ) ซึ่งชื่อนี้เป็นชื่อนี้ตั้งขึ้นเพื่อให้คล้องกับทะเลแหวกสันหลังมังกรที่ จ.สตูล และไฮไลท์สำคัญก็คือ การปลูกป่าชายเลน ที่นอกจากจะสนุกแล้ว ยังเป็นการช่วยเพิ่มทรัพยากรธรรมชาติอีกด้วย.แต่น่าเสียดายที่ฝนตกอีกรอบ ไม่สามารถล่องแพเปียกและปลูกป่าชายเลนได้ แต่ไม่ต้องห่วงนะ แอดหาภาพมาให้เพื่อน ๆ ดูแล้ว.แพ็กเกจ 1 วัน สำหรับ 2 – 60 คน เดินทางเอง ราคา 1,350 ต่อคนบริการรับ-ส่ง เมืองระนอง 1,900 ต่อคน.โปรแกรมกิจกรรม ณ คลองลัดโนดจุดนัดพบ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ท่าเรือคลองลัดโนด– …

เส้นทางท่องเที่ยว ระนอง-ชุมพร 3 วัน 2 คืน อ่านเพิ่มเติม

เกาะช้าง : ระนอง เสน่ห์ธรรมชาติที่แสนจะเรียบง่าย

เกาะช้าง จ.ระนอง เป็นสวรรค์ของนักเดินทางที่เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เป็นเกาะที่ยังคงมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติและดูนก ชาวบ้านประกอบอาชีพทำสวนมะม่วงหิมพานต์และสวนยางพารา ที่นี่สิ่งอำนวยความสะดวกยังเข้าถึงไม่มากนัก ชาวบ้านยังต้องปั่นไฟใช้เป็นเวลา ถนนหนทางก็มีไม่ทั่วทั้งเกาะ นับว่าเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการมาพักกายพักใจ หลีกหนีความวุ่นวายในเมือง และตักตวงความสุขกับธรรมชาติที่เงียบสงบแบบส่วนตัวได้อย่างเต็มที่ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งส่วนมากจะมาพักผ่อนแบบ Long Stay อยู่กันยาวไปเลย เพราะหลงเสน่ห์ความเป็นธรรมชาติที่เงียบสงบของเกาะช้างนั่นเอง ช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดในการมาเที่ยวเกาะช้างคือ ระหว่างเดือนตุลาคม-พฤษภาคม (หรือมิถุนายน แล้วแต่สภาพอากาศ) เพราะหลังจากนั้นจะเข้าหน้ามรสุม เรือจะงดวิ่งและที่พักส่วนใหญ่จะปิด ดังนั้นก่อนเดินทาง แอดแนะนำให้โทรสอบถามเรื่องที่พักและสภาพอากาศก่อนนะครับ การเดินทาง แอดนั่งรถทัวร์จากสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ตอนค่ำ รถทัวร์ออกเวลา 20.20 น. ถึงสถานีขนส่งเมืองระนองตอนเช้าตรู่ 05.30 น. ถึงแล้วก็ทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย ขอบอกว่าภายในสถานีขนส่งเมืองระนองมีห้องอาบน้ำด้วย สะดวกมากๆ สำหรับนักเดินทางอย่างแอด จากนั้นก็นั่งรถสองแถวสีฟ้า(ตลาด-สะพานปลา) มาลงที่ท่าเทียบเรือเทศบาลตำบลปากน้ำ (ท่าเรือไปเกาะพยามและเกาะช้าง) ราคาคนละ 50 บาท การนั่งเรือไปเกาะช้าง ระนอง 1.เรือระนอง-เกาะช้าง : เรือจะจอดส่งผู้โดยสารที่ฝั่งอ่าวใหญ่เรื่อยไปจนถึงอ่าวตาแดง ราคาคนละ 200 บาท ใช้เวลา 2 ชั่วโมง ขาไปมีวันละ 2 รอบ คือ 09.30 น. และ 13.00 น. ส่วนขากลับก็วันละ 2 รอบเช่นกัน คือ 08.00 น. และ 13.00 น. 2.เรือระนอง-เกาะพยาม : เรือจะจอดลอยลำอยู่กลางทะเล ระหว่างอ่าวเล็กและเกาะพยาม (จากนั้นต้องติดต่อที่พักให้ส่งเรือมารับ) ราคาคนละ 200 บาท ใช้เวลา 2 ชั่วโมง ขาไปให้บริการวันละ 2 รอบ คือ 10.00 น. และ 14.00 น. ส่วนขากลับแนะนำให้แจ้งที่พักให้จองเรือให้ เพราะจะได้ทราบเวลาที่แน่นอนที่เรือจะมาครับ วันแรกแอดพักที่อ่าวใหญ่ก่อน อ่าวนี้มีลักษณะเป็นหาดกว้างทอดยาวประมาณ 3 กิโลเมตร ที่นี่มีที่พักแบบบังกะโลมากมายให้เลือก ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านไม้ ราคาไม่แพงนัก อยู่ที่ประมาณ 200 – 700 บาท แต่ไม่มีแอร์และพัดลมนะ เนื่องจากบนเกาะช้างยังต้องอาศัยการปั่นไฟใช้กันระหว่าง 17.00 – 22.00 น. สำหรับที่อ่าวใหญ่นี้ แอดขอแนะนำ Sunset Bungalow เลย ที่พักสะอาด เจ้าของน่ารักเป็นกันเอง อาหารก็อร่อยครับ เสน่ห์ของเกาะช้างอยู่ตรงหาดทรายที่เป็นสองสี โดยช่วงน้ำขึ้นจะมีสีเหลืองนวล ส่วนเวลาน้ำลงจะกลายเป็นหาดทรายสีเทาดำ เนื้อละเอียด ถ้ามองจากระยะไกล น้ำทะเลบริเวณอ่าวใหญ่อาจดูไม่สวยนัก แต่พอเดินเข้าไปใกล้ๆ แล้ว น้ำใสมากกกก สามารถเล่นน้ำได้ หรือจะพายเรือแคนูก็สนุกดีครับ เอาล่ะ ได้เวลาออกสำรวจอ่าวใหญ่กันแล้ว แอดเดินตั้งแต่ต้นหาดไปสุดปลายหาดในขณะที่แดดเปรี้ยงๆ แต่ความงามที่ธรรมชาติสรรค์สร้างโดยไม่ปรุงแต่ง ก็ทำให้แอดเพลิดเพลินจนคลายร้อนไปได้เยอะเลยล่ะ แต่ละหาดของอ่าวใหญ่มีเสน่ห์แตกต่างกันออกไป บางหาดเป็นทรายสีดำ บางหาดก็มีโขดหินที่เต็มไปด้วยหอย และบางหาดก็มีมุมสวยๆ ชิคๆ ให้เราได้ถ่ายรูปเก๋ๆ ไม่เหมือนใคร วันที่สอง แอดตื่นมาพร้อมกับเสียงนกและเสียงจักจั่นที่ร้องต้อนรับวันใหม่ แล้วก็มานั่งรับประทานอาหารเช้า ชมวิวชิลๆ จากนั้นก็ได้เวลาเช็คเอาท์เพื่อไปยังจุดหมายต่อไป แอดรบกวนให้เจ้าของบังกะโลโทรเรียกเรือให้ เพื่อเดินทางต่อไปยังบ้านโจรสลัด กรีน บานาน่า หรือ Green Banana – Pirate House ซึ่งตั้งอยู่ที่อ่าวเล็กนั่นเอง การเดินทางจากอ่าวใหญ่ไปยังอ่าวเล็กสามารถไปได้ทั้งทางเรือ หรือจะนั่งวินมอเตอร์ไซค์ไปก็ได้ แต่ถ้าไปกันหลายคน แอดแนะนำว่านั่งเรือจะสะดวกกว่า ราคาเหมาอยู่ที่ 500 บาท โดยเรือจะมาส่งที่หน้าหาดเลย บ้านโจรสลัด กรีนบานาน่า เป็นบังกะโลเล็กๆ ที่ตกแต่งด้วยท่อนไม้และขยะที่ลอยมากับทะเล ดูเก๋ไก๋สไตล์โจรสลัด ยังกับภาพยนตร์เรื่อง Pirates of the Caribbean เลย ในส่วนของบ้านพัก จะเรียกว่าเป็นบังกะโล บ้านไม้ หรือกระท่อมก็แล้วแต่ มีอยู่ประมาณ 10 หลัง ราคาอยู่ที่ 250 – 350 บาท มีทั้งแบบห้องน้ำในตัวและห้องน้ำรวม บ้านพักที่นี่ไม่มีแอร์หรือพัดลมเช่นเดียวกับที่อ่าวใหญ่ เพราะต้องปั่นไฟใช้ระหว่าง 17.00 – 22.00 น. นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่นี่ส่วนใหญ่เน้นมาพักผ่อนแบบสบายๆ นั่งอ่านหนังสือหน้าที่พัก นอนเล่นชิลๆ รอพระอาทิตย์ตกดิน ให้เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ ซึมซับความสุขให้ได้มากที่สุด อ่าวเล็กมีหาดทรายสีเหลืองนวลผสมสีดำจากแร่ดีบุกเหมือนกับอ่าวใหญ่ แต่ความยาวของหาดสั้นกว่า บ้านพักบนอ่าวเล็กมีไม่กี่แห่ง จึงทำให้นักท่องเที่ยวไม่พลุกพล่าน ได้ฟีลเหมือนเกาะนี้เป็นของเราคนเดียว ตอบโจทย์คนที่รักความเป็นส่วนตัวสูงได้ดีมากๆ อ่าวเล็กนั้นสงบราวกับสระว่ายน้ำธรรมชาติส่วนตัว และน้ำทะเลยังใสมาก ยิ่งยามแสงแดดกระทบผิวน้ำ ก็ยิ่งทำให้น้ำใสราวกับกระจก จนสามารถมองเห็นผืนทรายใต้น้ำได้อย่างชัดเจน บางหาดของอ่าวเล็กจะเป็นโขดหินดูสวยแปลกตา เหมาะสำหรับมานั่งปล่อยอารมณ์ ชมวิวทะเลเงียบๆ ที่อ่าวเล็ก นอกจากกิจกรรมเดินศึกษาธรรมชาติและดูนกแล้ว ก็ยังสามารถมาตกหมึก ตกปลา และแคะหอยตามโขดหินมาทำอาหารได้ด้วยครับ อ่าวเล็กมีมุมสวยๆ เลิศๆ ให้ถ่ายรูปมากมาย เหมือนมีสตูดิโอธรรมชาติส่วนตัว โพสท่าจัดเต็มได้ ไม่ต้องแคร์สายตาใคร เพราะนักท่องเที่ยวไม่พลุกพล่าน แอดก็เลยต้องขอโพสท่าเบา…เบา มาฝากเพื่อนร่วมทางครับ พระอาทิตย์ตกที่เกาะช้างสวยไม่แพ้ที่ไหนเลย วันที่สาม เป็นวันสุดท้ายของทริปแล้ว วันนี้แอดตื่นมาเดินเล่นชิลๆ ชมวิวหาดทรายหน้าที่พัก ตอนเช้าน้ำทะเลจะขึ้น ทำให้หาดทรายเป็นสีเหลืองนวลสะอาดตา น้ำก็ใสจนแอดอดใจไม่ไหว ต้องลงเล่นน้ำอีกซักรอบ ชิล..ชิล ตักตวงความสุขให้สุดก่อนลาจากเกาะช้างแห่งนี้ ขากลับแอดติดต่อเจ้าของที่พักให้โทรเรียกสปีดโบ้ทมารับช่วงบ่าย เพราะแอดต้องไปขึ้นรถทัวร์ที่สถานีขนส่งระนองในตอนเย็น เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพ ทริปนี้สำหรับแอดคือสุดมาก ได้ Energy และอากาศบริสุทธิ์เต็มเปี่ยมกลับบ้าน ได้สัมผัสการใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ผ่อนคลายไปกับความเงียบสงบ ได้ฟีลเหมือนมาติดเกาะจริงๆ สำหรับใครที่อยากหลีกหนีความวุ่นวาย ที่นี่ตอบโจทย์ได้ดีมากๆ ทั้งสงบและมีธรรมชาติที่งดงาม หาดทรายก็สวยแปลกตาไม่เหมือนที่ไหน สุดท้ายนี้แอดอยากจะบอกว่า ใครโดนเทก็เซมาเกาะช้าง …

เกาะช้าง : ระนอง เสน่ห์ธรรมชาติที่แสนจะเรียบง่าย อ่านเพิ่มเติม

10 จุดชมความงาม ยามอาทิตย์อัสดง

1. วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ วัดอรุณราชวราราม เป็นวัดเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ในช่วงสมัยรัชกาลที่ 2 และรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ จุดเด่นของวัดแห่งนี้คือ “พระปรางค์” ซึ่งมีลักษณะทางสถาปัตยกรรมที่สวยงามโดดเด่นที่สุดวัดหนึ่งของไทย หากมองจากฝั่งพระนครไปยังวัดอรุณฯ ในช่วงพลบค่ำ ก็จะเห็นภาพดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่ด้านหลังของพระปรางค์พอดิบพอดี องค์ประกอบต่างๆ ล้วนทำให้เกิดเป็นภาพที่สวยงามลงตัวอย่างน่าอัศจรรย์ วัดอรุณราชวรารามวรมหาวิหารที่ตั้ง : ถ.วังเดิม แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานครเปิดทุกวัน เวลา 8.30-17.30 น. 2. วัดไชยวัฒนาราม จ.พระนครศรีอยุธยา ในช่วงปีที่ผ่านมา วัดไชยวัฒนารามเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิต เนื่องจากเป็นฉากหนึ่งในละครเรื่องบุพเพสันนิวาสทีโด่งดังไปทั่ว ทำให้มีผู้คนเดินทางมาตามรอยละครกันมากมาย วัดไชยวัฒนาราม เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างในสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง โดยจำลองรูปแบบการก่อสร้างมาจากปราสาทนครวัด มีพระปรางค์องค์ใหญ่เป็นประธานของวัด และมีปรางค์บริวารอยู่ที่มุมทั้ง 4 รอบพระปรางค์ล้อมรอบด้วยระเบียงคด ซึ่งมีเมรุทิศ เมรุราย อยู่ที่มุมและด้านของระเบียงคด นับเป็นโบราณสถานที่สวยงามตระการตาอีกแห่งหนึ่ง ในยามเย็นช่วงพระอาทิตย์ตกดิน แสงที่สาดส่องมายังโบราณสถาน ทำให้เกิดมุมมองที่แปลกตา สวยงามไม่แพ้กลางวันเลย วัดไชยวัฒนารามที่ตั้ง : อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยาเปิดทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น. 3. ปราสาทหินพนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์ หลายๆ คนอาจจะตั้งตารอชมปรากฏการณ์ที่ดวงอาทิตย์ขึ้นตรง 15 ช่องประตู ซึ่งใน 1 ปีจะเกิดขึ้นเพียง 4 ครั้งเท่านั้น แต่วันนี้แอดอยากจะบอกว่า ไม่ต้องรอให้ถึงช่วงเวลานั้น เราก็มีรูปสวยๆ ไปอวดเพื่อนๆ ได้เหมือนกัน ยามดวงอาทิตย์คล้อยลงต่ำ เตรียมจะลาลับขอบฟ้า เงาของปราสาทจะบดบังดวงอาทิตย์ ทำให้ปราสาทดูลึกลับและเต็มไปด้วยมนต์ขลังมากยิ่งขึ้น ปราสาทหินพนมรุ้งที่ตั้ง : ต.ตาเป๊ก อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์เปิดทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น. 4. สะพานแขวนสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี จ.ตาก สะพานแห่งนี้ถือเป็นจุดชมวิวแม่น้ำปิงที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของ จ.ตาก เลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะช่วงที่ดวงอาทิตย์ขึ้นและตก เราจะเห็นดวงอาทิตย์อยู่ตรงกับแนวสะพานพอดี เป็นภาพที่สวยงามมากๆ นอกจากนี้ ในช่วงเทศกาลลอยกระทงของทุกปี บริเวณสะพานแห่งนี้ยังใช้เป็นสถานที่จัดงานประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีปพันดวง ซึ่งเป็นประเพณีท้องถิ่นของจังหวัดที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครอีกด้วย สะพานแขวนสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปีที่ตั้ง : อ.เมือง จ.ตาก 5. อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จ.สุโขทัย อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย มรดกโลกที่สำคัญของไทย ร่องรอยความเจริญรุ่งเรืองของอาณาจักรสุโขทัยเมื่อกว่า 700 ปีก่อน ภายในอุทยานฯ เต็มไปด้วยโบราณสถานมากมายที่แม้จะปรักหักพังแต่ก็เต็มไปด้วยคุณค่าทั้งทางประวัติศาสตร์และทางจิตใจ ในช่วงเวลาโพล้เพล้ บริเวณสระน้ำหน้าวัดมหาธาตุนี่แหละคือสถานที่ยอดนิยมสำหรับนักถ่ายภาพ ภาพความยิ่งใหญ่ของโบราณสถานยามอาทิตย์อัสดงที่สะท้อนลงบนผิวน้ำนั้น งดงามเกินบรรยายจริงๆ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยที่ตั้ง : ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.สุโขทัยเปิดทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น. 6. กว๊านพะเยา จ.พะเยา กว๊านพะเยาเป็นบึงน้ำที่เกิดจากการรวมตัวของลำห้วยต่างๆ ถึง 18 สาย เป็นบึงที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ และใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศไทย นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลากว่า 50 ชนิดด้วย คำว่า “กว๊าน” หมายถึง หนองน้ำ หรือบึงน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นคำที่ใช้เฉพาะที่จังหวัดพะเยาแห่งเดียวเท่านั้น ทัศนียภาพรอบกว๊านร่มรื่น มองเห็นแนวทิวเขาสลับซับซ้อนสวยงาม บริเวณริมกว๊านมีร้านอาหารและสวนสาธารณะ ซึ่งสามารถมาเดินเล่น หรือชมพระอาทิตย์ตกดินได้ มีบริการนั่งเรือพายชมทัศนียภาพกว๊านพะเยาด้วย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท กว๊านพะเยาที่ตั้ง : ต.เวียง อ.เมือง จ.พะเยา 7. ประภาคาร จ.ระนอง ประภาคารแห่งนี้ ตั้งอยู่บริเวณท่าเทียบเรือด่านศุลกากรระนอง เป็นอาคารแปดเหลี่ยม สูง 50 เมตร ถือว่าเป็นประภาคารที่สูงที่สุดในประเทศไทย ประภาคารมีทั้งหมด 9 ชั้น โดยชั้นที่ 9 เป็นจุดชมวิวที่สามารถชมสวยงามของปากน้ำระนอง ก่อนไหลออกสู่ทะเลอันดามัน โดยอีกฟากฝั่งของแม่น้ำก็คือประเทศเมียนมานั่นเอง ใกล้มากๆ ในช่วงเย็น สถานที่แห่งนี้ยังเป็นสถานที่ที่เราสามารถมาเดินเล่น พักผ่อนหย่อนใจ รับลมเย็นๆ และถ่ายรูปเล่นได้อีกด้วย บอกเลยว่าภาพประภาคารที่มีภูเขาและดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าเป็นฉากหลังนั้น สวยงามไม่แพ้ที่ไหนๆ เลย ประภาคาร จ.ระนองที่ตั้ง : บ้านเขานางหงส์ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนองเปิดทุกวัน เวลา 8.00-20.00 น. 8. สะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.พัทลุง รู้หรือไม่..สะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.พัทลุง เป็นสะพานที่ยาวที่สุดของประเทศไทยในขณะนี้ สะพานแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเชื่อมเส้นทางระหว่าง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง และ อ.ระโนด จ.สงขลา เข้าด้วยกัน โดยทอดยาวผ่านทะเลน้อยอันกว้างใหญ่ ทัศนียภาพโดยรอบสะพานเป็นเวิ้งน้ำกว้างไกล สามารถมองเห็นทะเลบัวแดงในช่วงเช้า ส่วนช่วงสายก็จะพบกับนกน้ำที่ออกหากิน และถ้าโชคดีก็อาจได้พบควายน้ำด้วย ไฮไลท์อีกอย่างของที่นี่คือ ในช่วงเย็นเส้นทางนี้ยังได้ชื่อว่าเป็นจุดถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งอีกด้วย สะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาที่ตั้ง : ต.พนางตุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง 9. เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี เกาะเต่า จุดดำน้ำที่มีชื่อเสียงระดับโลก เนื่องจากมีแนวปะการังทั้งน้ำตื้นและน้ำลึกที่มีความสวยงามและสมบูรณ์ อีกทั้งยังเป็นที่อยู่อาศัยของปลาหลากหลายชนิด เกาะเต่ามีหาดทรายขาวละเอียดและสะอาดสวยงาม นอกจากนี้ยังเป็นเกาะที่เงียบสงบ ผู้คนไม่พลุกพล่าน เกาะเต่าจึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่ต้องการการพักผ่อนอย่างแท้จริง ถึงแม้เกาะเต่าจะตั้งอยู่ในเขต จ.สุราษฎร์ธานี แต่เนื่องจากอยู่ใกล้ฝั่งของ จ.ชุมพรมากกว่า นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเกาะเต่าจึงนิยมขึ้นเรือจากชุมพรเป็นส่วนใหญ่ เกาะเต่าที่ตั้ง : อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี 10. …

10 จุดชมความงาม ยามอาทิตย์อัสดง อ่านเพิ่มเติม

เกาะพยาม ยามไหนก็…รัก

เกาะพยาม ยามไหนก็…รัก  ในทะเลอันดามัน มีเกาะอยู่แห่งหนึ่งที่ในอดีตเรียกว่า “เกาะพิยาม” มาจากคำว่า “พอยาม” (“ยาม” เป็นการนับเวลาในสมัยโบราณ โดย 1 ยามเท่ากับ 3 ชั่วโมง) “พอยาม” จึงหมายถึง การเดินทางมายังเกาะต้องใช้เวลา 3 ชั่วโมงจึงจะถึง ภายหลังเพี้ยนมาเป็น “เกาะพยาม” แต่บ้างก็ว่าที่มาของชื่อ “เกาะพยาม” มาจากคำว่า “พยายาม” เพราะในสมัยก่อนการเดินทางไปยังเกาะพยามมีความยากลำบาก ต้องใช้ความพยายามอย่างมาก ชาวบ้านจึงเรียกเกาะนี้ว่า “เกาะพยายาม” ก่อนจะเพี้ยนมาเป็น “เกาะพยาม” นั่นเอง เกาะพยาม เป็นเกาะที่มีชื่อเสียงมากของจังหวัดระนอง มีอ่าวหลักๆ อยู่ 4 อ่าวด้วยกัน คือ อ่าวแม่หม้าย อ่าวใหญ่ อ่าวเขาควาย และอ่าวกวางปีบ ซึ่งแต่ละอ่าวตั้งอยู่ไม่ไกลกันมากนัก ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีก็ถึง การเดินทางบนเกาะพยาม ต้องใช้รถจักรยาน รถจักรยานยนต์ หรือรถอีแต็กเท่านั้น ซึ่งบนเกาะก็มีให้บริการพร้อม การเดินทางมายังเกาะพยาม ต้องนั่งเรือจากท่าเรือเทศบาลตำบลปากน้ำ ซึ่งอยู่ห่างจากอำเภอเมืองระนองประมาณ 15 นาที เรือมี 2 แบบ ได้แก่– เรือธรรมดา ราคาคนละ 200 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30-2 ชั่วโมง– เรือสปีดโบ๊ท ราคาคนละ 350 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30-40 นาที เมื่อถึงท่าเทียบเรือเกาะพยาม เราก็จะพบกับ “อ่าวแม่หม้าย” ซึ่งเป็นที่ตั้งของท่าเรือหลักและศูนย์กลางความเจริญของเกาะ ใกล้ๆ กัน มีวัดเกาะพยาม ซึ่งโดดเด่นด้วยพระอุโบสถกลางทะเล ที่มีพระพุทธรูปปางลีลาประดิษฐานอยู่บนหลังคา เป็นจุดสังเกตที่เห็นได้แต่ไกลยามนั่งเรือมาสู่เกาะ จุดเด่นของอ่าวนี้คือ หน้าหาดที่หันไปทางทิศตะวันออก จึงสามารถชมทิวทัศน์ยามพระอาทิตย์ขึ้นได้อย่างสวยงาม บริเวณอ่าวแม่หม้ายจะคึกคักกว่าอ่าวอื่นๆ เนื่องจากเป็นที่ตั้งของท่าเทียบเรือ มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ที่พัก บริการเรือเช่ารอบเกาะ และรถจักรยานยนต์ให้เช่า อ่าวถัดมาคือ “อ่าวใหญ่” อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะ จะว่าไปอ่าวนี้ก็ใหญ่สมชื่อเลยนะคะ มีลักษณะเป็นเวิ้งทอดยาวกว่า 4 กิโลเมตร หาดทรายมีสีดำปนขาว เนื่อละเอียดแน่นนวลเท้า รู้สึกดีมากๆ เลย  อ่าวใหญ่แบ่งออกเป็นอ่าวใหญ่เหนือและใต้ โดยมีลำคลองเล็กๆ เป็นจุดแบ่ง ซึ่งทางตอนใต้ของอ่าวจะมีลักษณะเป็นโขดหิน  เมื่อน้ำลดเราจะเห็นหาดทรายอันกว้างใหญ่กลายเป็นริ้วสีขาวดำ ดูสวยงามแปลกตา มาต่อกันที่ “อ่าวเขาควาย” ทางทิศตะวันตกของเกาะ ลักษณะของอ่าวเป็นรูปโค้งเข้าหากันคล้ายกับเขาควาย อ่าวเขาควายแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง คือ อ่าวเขาควายฝั่งเหนือและฝั่งใต้ โดยไฮไลท์จะอยู่ที่อ่าวเขาควายฝั่งใต้ ซึ่งมีโขดหินที่มีลักษณะเป็นโพรงคล้ายกับซุ้มประตู เรียกกันว่า “เขาทะลุ” หรือ “หินทะลุ” เป็นจุดที่คนนิยมมาถ่ายภาพกันมาก เรียกว่าเป็นแลนด์มาร์กของอ่าวนี้เลยก็ว่าได้ มาถึงอ่าวสุดท้ายกันแล้ว นั่นก็คือ “อ่าวกวางปีบ” ซึ่งเป็นอ่าวที่อยู่ตอนเหนือสุดของเกาะพยาม การเดินทางไปอ่าวนี้ต้องใช้ความพยายามกันสักนิด เนื่องจากนอกจากจะอยู่ไกลแล้ว เส้นทางยังเป็นลูกรังและชันเล็กน้อย แต่เพื่อแลกกับบรรยากาศที่สวยงามและเงียบสงบที่จะได้เจอแล้ว แอดบอกเลยว่าคุ้มค่าสุดๆ  ที่ตั้ง : ตำบลเกาะพยาม อำเภอเมือง จังหวัดระนองโทร. 077 825 308-9 (องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะพยาม) เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 4 มีนาคม 2562

หลงเสน่ห์… เกาะพยาม

“เกาะพยาม” ตั้งอยู่ในทะเลอันดามัน เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากเกาะช้าง ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะระนอง จังหวัดระนอง ว่าแต่ชื่อ “เกาะพยาม” นั้นมีที่มาที่ไปยังไงนะ?ว่ากันว่าในอดีตเกาะนี้เรียกว่า “เกาะพิยาม” มาจากคำว่า “พอยาม” (“ยาม” เป็นการนับเวลาในสมัยโบราณ โดย 1 ยามเท่ากับ 3 ชั่วโมง) “พอยาม” จึงหมายถึง การเดินทางมายังเกาะนี้ต้องใช้เวลา 3 ชั่วโมงจึงจะถึง ภายหลังเพี้ยนมาเป็น “เกาะพยาม” แต่บ้างก็ว่าที่มาของชื่อ “เกาะพยาม” มาจากคำว่า “พยายาม” เพราะในสมัยก่อนการเดินทางไปยังเกาะพยามมีความยากลำบาก ต้องใช้ความพยายามอย่างมาก ชาวบ้านจึงเรียกเกาะนี้ว่า “เกาะพยายาม” ก่อนจะเพี้ยนมาเป็น “เกาะพยาม” นั่นเอง การเดินทางมายังเกาะพยาม สามารถขึ้นเรือได้ที่ท่าเรือเทศบาลตำบลปากน้ำ ซึ่งอยู่ห่างจากอำเภอเมืองระนองมาประมาณ 15 นาที เรือมี 2 แบบ ได้แก่– เรือธรรมดา ราคาคนละ 200 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30-2 ชั่วโมง– เรือสปีดโบ๊ท ราคาคนละ 350 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30-40 นาที สำหรับการเดินทางบนเกาะพยาม ต้องใช้รถจักรยานหรือรถจักรยานยนต์ ซึ่งบนเกาะก็มีบริการให้เช่าพร้อม เกาะพยาม เป็นเกาะที่มีชื่อเสียงมากของจังหวัดระนอง และมีนักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวกันมาก ที่นี่มีอ่าวหลักๆ อยู่ 4 อ่าวด้วยกัน คือ อ่าวแม่หม้าย อ่าวใหญ่ อ่าวเขาควาย และอ่าวกวางปีบ ซึ่งแต่ละอ่าวตั้งอยู่ไม่ไกลกันมากนัก ห่างกันประมาณ 10 นาทีเท่านั้น สำหรับอ่าวแรกคือ “อ่าวแม่หม้าย” อ่าวนี้เรียกได้ว่าเป็นประตูด่านแรก เนื่องจากเป็นที่ตั้งของท่าเรือหลัก มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ที่พัก เรือเช่าเที่ยวรอบเกาะ รถจักรยานยนต์ให้เช่า เป็นต้น จุดเด่นของอ่าวนี้คือ หน้าหาดหันไปทางทิศตะวันออก จึงสามารถชมทิวทัศน์ยามพระอาทิตย์ขึ้นได้ ที่เกาะพยามสามารถพายเรือคายัคได้ด้วยนะ ถือว่าเป็นกิจกรรมยอดฮิตเลยล่ะ ถัดมาคือ “อ่าวใหญ่” ซึ่งเป็นอ่าวที่ใหญ่ที่สุดในเกาะพยาม โดยมีความยาวกว่า 4 กิโลเมตร แบ่งออกเป็น อ่าวใหญ่เหนือและอ่าวใหญ่ใต้ โดยมีลำคลองเล็กๆ คั่น ยามน้ำลด เมื่อคลื่นซัดสาด เราจะมองเห็นหาดทรายที่เป็น 2 สี กลายเป็นริ้วสีขาวดำ ดูสวยแปลกตามาก ต่อมาคือ “อ่าวเขาควาย” อยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะมีลักษณะเป็นอ่าวที่โค้งเข้าหากันคล้ายกับเขาควาย ยาวประมาณ 2 กิโลเมตร อ่าวเขาควายแบ่งออกเป็น อ่าวเขาควายเหนือ และอ่าวเขาควายใต้ โดยไฮไลท์จะอยู่ที่ฝั่งใต้ เพราะมีมุมสุดฮิตอย่าง “หินทะลุ” ซึ่งเป็นจุดที่คนนิยมมาถ่ายภาพกันมาก เรียกว่าเป็นแลนด์มาร์กของอ่าวนี้เลยก็ว่าได้ และสุดท้ายคือ “อ่าวกวางปีบ” เป็นอ่าวที่ไกลที่สุด บอกเลยว่าต้องใช้ความพยายามกันสักนิด กว่าที่เราจะได้เห็นชายหาดสวยๆ แบบนี้ หลังจากแวะไปเที่ยวมาครบ 4 อ่าวแล้ว ก็ได้เวลามารอชมพระอาทิตย์ตกยามเย็นที่อ่าวใหญ่ สวยมากๆ เลย

Mata Cafe – Store & Artspace @Ranong

Mata Cafe – Store & Artspaceที่ตั้ง : 145/3 หมู่ 4 ตำบลบางนอน อำเภอเมือง จังหวัดระนองเปิดวันพุธ-จันทร์ เวลา 10.00 – 19.00 น. (ปิดวันอังคาร)โทร.062 073 9991พิกัด : https://goo.gl/maps/kDQxrNyTJm32 — atMata Cafe – Store & Artspace. บรรยากาศร้านเป็นสไตล์มินิมอล เรียบๆ แต่เก๋ โทนสีขาวของตัวบ้านและสีเอิร์ธโทนของเฟอร์นิเจอร์ไม้เข้ากันได้อย่างลงตัว  ร้านเเบ่งออกเป็น 2 โซน คือบริเวณที่นั่งด้านนอกร้านและภายในร้านที่เป็นห้องแอร์ ก่อนไปหามุมถ่ายภาพ เราไปสั่งขนมและเครื่องดื่มกันก่อนดีกว่า ^^ — at Mata Cafe – Store & Artspace. มาแล้ววว…มาดูกันค่ะว่ามีเมนูอะไรบ้าง วาฟเฟิลหอมๆ ทานคู่กับผลไม้และไอศกรีม ฟินสุดๆ เลย กาแฟโรบัสต้า แค่กลิ่นก็รู้แล้วว่าใช้กาแฟคุณภาพจริงๆ ส่วนเรื่องรสชาตินั้น…ต้องไปลองชิมกันเองนะ ฮ่าๆ  โฮจิฉะชาเย็น สำหรับแก้วนี้แอดบอกเลยว่าด้านบนหอมโฮจิฉะมากกก ส่วนด้านล่างเป็นชาเย็น คนให้เข้ากันก็กลมกล่อมกำลังดีเลยล่ะ — at Mata Cafe – Store & Artspace. เมนูนี้คนรักชาเขียวห้ามพลาด Matcha Affogato ชาเขียวเข้มข้นทานคู่กับไอศกรีมชาเขียว ฟินแน่นอน ^^ — atMata Cafe – Store & Artspace. บราวนี่อาลาโม้ด บราวนี่อบร้อนๆ ทานคู่กับไอศกรีม ชิ้นนี้แอดแนะนำเลยค่ะ ดีต่อใจอ่า ^^ — at Mata Cafe – Store & Artspace. อย่างที่แอดได้บอกไปก่อนหน้านี้ว่า ร้านนี้เค้ารักโลกและใส่ใจสิ่งแวดล้อมนะจ๊ะ ทางร้านจึงลดการใช้พลาสติก ด้วยการใช้หลอดที่ทำจากสแตนเลส แก้วกระเบื้อง และถุงกระดาษที่นำกลับมาใช้ซ้ำ เพื่อไม่ให้เกิดขยะจากพลาสติกอีกด้วย— at Mata Cafe – Store & Artspace. นอกจากนี้ทางร้านยังจำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวกับการลดการสร้างขยะ เพื่อกระตุ้นให้ทุกคนหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เช่น หลอดสแตนเลส หลอดแก้ว กระติกน้ำ แก้ว ถุงผ้าที่พกพาสะดวกดีไซน์เก๋ เสื้อผ้าที่ทำจากผ้าฝ้าย ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคที่ทำวัสดุจากธรรมชาติ เช่น เทียน ลิปบาล์ม สบู่ เป็นต้น — at Mata Cafe – Store & Artspace. ร้านกาแฟเล็กๆ ที่รายล้อมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ของจังหวัดระนอง และเปี่ยมไปด้วยความรักและใส่ใจสิ่งแวดล้อมของเจ้าของร้าน แอดเชื่อว่าใครมาก็จะต้องหลงรักอย่างแน่นอน — at Mata Cafe – Store & Artspace.

Scroll to Top