เพื่อนร่วมทาง

6 ร้านเด็ดข้าวซอยเชียงใหม่

ใครกำลังจะไปแอ่วเชียงใหม่ และกำลังหาร้านข้าวซอยอร่อยๆอยู่ แอดมินมี 6 ร้านข้าวซอยเชียงใหม่มาแนะนำ แต่ละร้านเด็ดๆทั้งนั้น จะมีร้านไหนบ้าง ตามมาดูกันเลยเจ้าาา

6 ร้านเด็ดข้าวซอยเชียงใหม่ อ่านเพิ่มเติม

D.I.Y. ผ้าย้อมคราม @ครามสกล-KRAMSAKON จังหวัดสกลนคร

D.I.Y. ผ้าย้อมคราม @ครามสกล-Kramsakon จังหวัดสกลนคร

D.I.Y. ผ้าย้อมคราม @ครามสกล-KRAMSAKON จังหวัดสกลนคร อ่านเพิ่มเติม

ล้ง1919

ท่าประวัติศาสตร์ศิลป์ไทย-จีน ริมแม่น้ำเจ้าพระยา “ล้ง 1919” (LHONG1919) ถนนเชียงใหม่ เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร

ล้ง1919 อ่านเพิ่มเติม

หนึ่งวันไม่มีเบื่อที่..สามแพร่ง

สามแพร่ง ชุมชนเก่าแก่ที่ประกอบไปด้วย แพร่งภูธร, แพร่งนรา และแพร่งสรรพศาสตร์

หนึ่งวันไม่มีเบื่อที่..สามแพร่ง อ่านเพิ่มเติม

“เกาะญี่ปุ่น” ไข่มุกแห่งอันดามัน

“เกาะญี่ปุ่น” ไข่มุกแห่งอันดามัน วันนี้ เพื่อนร่วมทางจึงอยากชักชวนกัน ให้แวะมาเติมพลังกันที่ “เกาะญี่ปุ่น” หรือ “เกาะกำกลาง” ซึ่งถือเป็นหนึ่งในไข่มุกเม็ดงามแห่งอันดามัน เกาะญี่ปุ่นนี้อยู่ในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติแหลมสน ตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างเกาะกำใหญ่และเกาะกำนุ้ย หากมองจากอุทยานไปจะเห็นเป็นแนวต้นไม้ในทะเล ร่มรื่นด้วยทิวสนเรียงราย เกาะญีปุ่นมีลักษณะเป็นภูเขาเล็กๆ บริเวณรอบเกาะมีจุดยอดนิยมในการดำน้ำชมปะการังแข็ง ปลาเสือ และเหล่าปลาการ์ตูนนีโม่สีส้มขาว รวมถึงพันธุ์อินเดียนแดงที่แหวกว่ายหยอกเย้ากับดอกไม้ทะเลอย่างรื่นเริง ด้านหน้าเกาะทางทิศตะวันออกเป็นแนวชายหาดสีขาวนวล เม็ดทรายละเอียด ผืนชายหาดที่ทอดยาวลาดลงไปในทะเลถูกปกคลุมด้วยน้ำทะเลสีใสจนแทบจะมองไม่เห็นจุดบรรจบระหว่างชายหาดกับน้ำทะเล ชื่อเกาะญี่ปุ่นมีที่มาจากหลายทาง บ้างก็ว่าในอดีตมีเรือทหารญี่ปุ่นเคยมาล่มที่เกาะแห่งนี้ บ้างก็เล่าย้อนไปยังสมัยสงครามโลก ว่ามีคนญี่ปุ่นมาทำสัมปทานหอยมุก แต่บางคนคิดว่าเป็นทหารญี่ปุ่นที่เข้ามาตั้งฐานทัพแล้วอ้างว่าเลี้ยงหอยมุกบังหน้า แต่แอบใช้พื้นที่ประกอบอาหารส่งเสบียงให้แก่ทหารญี่ปุ่นที่เดินทางผ่านจังหวัดระนองไปยังประเทศเมียนมาร์ เมื่อทางการสงสัยจึงส่งกำลังเข้าตรวจค้นและจับกุม ชาวบ้านจึงเรียกว่าเกาะญี่ปุ่นตั้งแต่นั้นมา การเดินทางไปยังเกาะญี่ปุ่นก็ไม่ยากเย็น นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นเรือได้ที่ท่าเทียบเรืออ่าวบางเบน อำเภอกะเปอร์ จังหวัดระนอง ที่ท่าเทียบเรือแห่งนี้จะมีชาวบ้านในพื้นที่ รวมตัวกันเป็นสมาคมบริการเรือนำเที่ยวแห่งอ่าวบางเบน คอยดูแลช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ ระยะเวลาจากท่าเรือไปยังเกาะญีปุ่นอยู่ที่ 45 นาที โดยประมาณ ด้วยระยะเวลาในการเดินทางที่เรียกได้ว่าสั้นอย่างเหลือเชื่อ เมื่อเทียบกับบรรยากาศและความรู้สึกที่ได้รับมาหลังจากได้สัมผัสกับไข่มุกแห่งอันดามันเช่นนี้ พวกเรา “เพื่อนร่วมทาง” หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะมีโอกาสนำพาเหล่านักเดินทางทั้งหลายไปสัมผัสสถานที่ที่สวยงามเช่น “เกาะญีปุ่น” นี้อีกครั้ง … หรืออีกหลายๆ ครั้งในคราวต่อไป

“เกาะญี่ปุ่น” ไข่มุกแห่งอันดามัน อ่านเพิ่มเติม

ท่องเที่ยวธรรมชาติ ราชบุรี วันเดียวก็เที่ยวได้

“ราชบุรี” คือเป้าหมายของเราในวันนี้ …ไม่ว่าจะเป็นที่เที่ยวทางธรรมชาติ ตลาดน้ำ วัดวาอาราม หรือเยี่ยมชมงานศิลป์ ที่มีความหลากหลายในจังหวัดเดียวกัน…

ท่องเที่ยวธรรมชาติ ราชบุรี วันเดียวก็เที่ยวได้ อ่านเพิ่มเติม

LET’S HAVE FUN ” PHUKET ” :)

เข้าสู่ปลายเมษาหน้าร้อนพร้อมกับสายลมอ่อนๆ ท่ามกลางความร้อนระอุของแสงแดดที่พร้อมจะแผดเผาเราได้ทุกเวลา แต่อย่างไรก็ตามก็ไม่มีสิ่งใดจะหยุดยั้งความสุขในการเดินทางครั้งนี้อย่างแน่นอน…กับสวรรค์เมืองใต้ แดนไข่มุกแห่งทะเลอันดามัน “ภูเก็ต” ถ้าพูดถึงภูเก็ตคงไม่มีใครไม่นึกถึง หาดทรายขาว น้ำทะเลใส การได้ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศพระอาทิตย์ตกที่แหลมพรหมเทพ หรือสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆที่มีชื่อเสียง แต่ทริปนี้เราจะมาเปลี่ยนบรรยากาศ ท่องเที่ยวในเมืองแบบ Chic Chic Cool Cool เป็นเวลา 3 วัน 2 คืน โดยออกเดินทาง จากกทม.เย็นวันที่ 24 เมษายน พวกเราใช้บริการของบริษัทขนส่ง กรุงเทพฯ-ภูเก็ต เมื่อนาฬิกาไปบรรจบกันที่เวลา 18.30 น. ก็ได้เวลาออกเดินทาง On the way to PHUKET หลับๆตื่นๆอยู่บนรถทัวร์รู้สึกตัวอีกทีเป็นเวลา 7 โมงเช้า กว่า 12 ชั่วโมงจากกรุงเทพ – ภูเก็ต จขกท.ตื่นมาพบกับสะพานสารสิน สะพานเชื่อมระหว่างจังหวัดพังงากับจังหวัดภูเก็ต สถานที่ที่เป็นตำนานความรักของหนุ่มสาวที่ไม่สมหวังและท้ายสุดเลือกที่จะจบชีวิตที่สะพานแห่งนี้ บรรยากาศเวลา 7 โมงเช้า แสงแดดอ่อนๆกระทบกับพื้นผิวของน้ำทะเล ทำให้น้ำทะเลกลายเป็นสีขาวประกายมุก ชวนมองไปอีกแบบ ประมาณ 7.30 น.ก็ถึงสถานนีขนส่งจังหวัดภูเก็ต พวกเราทั้งหมด 5 ชีวิตเหมารถแท็กซี่ลงที่โรงแรมชิโนเทล ในตัวจังหวัด เป็นโรงแรมแนวบูติก ราคาย่อมเยา เดินทางสะดวก อยู่ใกล้ตลาดสดดาวน์ทาวน์ ไม่พูดพร่ำทำเพลงมาก ตอนนี้ขออาบน้ำแต่งตัวก่อนดีกว่า ด้านนอกโรงแรม 10 โมง พร้อมลุย !! สถานที่แรกที่ของวันนี้ คือ “พิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัว” สถานที่เก็บหลักฐานและจัดแสดงภาพถ่ายและวีดิทัศน์ที่สื่อถึงความเป็นมาของชาวจีนในภูเก็ต สำหรับการเดินทางไปไม่ยาก พิพิธภัณฑ์นี้ตั้งอยู่ถนนกระบี่ย่านเมืองเก่าของภูเก็ต ค่าเข้าชมคนไทย 50 บาทต่างชาติ 200 บาท ด้านในพิพิธภัณฑ์ พวกเราใช้เวลาเยี่ยมชมประมาณ 1 ชม. ก็ออกจากพิพิธภัณฑ์เพื่อที่จะเยี่ยมชมเมืองเก่าภูเก็ตไปพลางๆ เดินมาได้สักพัก สายตาพวกเราก็สะดุดกับร้านกาแฟเล็กๆแห่งหนึ่ง ไม่ใกล้ไม่ไกลจากพิพิธภัณฑ์มากนัก ไม่รอช้าไปกันเลย ^^ ร้านนี้ชื่อว่า I 46 Old town เป็นร้านที่ดัดแปลงจากบ้านโบราณแบบชิโนโปรตุกีส ภายในร้านตกแต่งด้วยของเก่าโบราณ ส่วนหน้าและส่วนกลางเป็นร้านกาแฟ พวกเราเลือกดื่มชาเซล้อง หรือเซล้องอ๊อซึ้ง แปลว่า ชาดำเย็น (น้ำร้อนใส่น้ำตาลทรายแบบภูเก็ต) รสชาติหวาน หอม อร่อย สักรูป ที่นี่เจ้าของร้านเป็นกันเอง(คนที่ 2 จากด้านซ้าย) พร้อมกับให้คำแนะนำในการท่องเที่ยว ไม่ผิดหวังที่มาร้านนี้ค่ะ แดดร้อนเกินกว่าจะเที่ยวกันต่อ 555+ หลังจากที่อิ่มหนำสำราญและดื่มด่ำไปกับบรรยากาศ Style vintage กันแล้ว เวลานี้ขอกลับไปตั้งหลักที่ห้องพักกันก่อน(พักผ่อนนั่นเอง) ประมาณ 5 โมง พวกเราแวะไปฝากท้องกับร้าน “ระย้า” อาหารพื้นเมืองของภูเก็ต เป็นบ้านเก่าสองชั้น ตั้งอยู่แถวสี่แยกถนนดีบุกตัดใหม่ บรรยากาศภายในร้าน เมนูแรก…แกงเนื้อปูใบชะพลู เนื้อปูไม่อั้น น้ำกะทิเข้มข้น ทานกับเส้นหมี่ เข้ากันเป็นอย่างดี ยกนิ้วให้เลย อร่อยมาก และเมนูที่สองของเราก็มา…หมูฮ้อง ขอสารภาพก่อนเลยว่า จขกท.เห็นแล้วรู้สึกไม่อยากทาน เพราะหน้าตาดูเลี่ยนๆ หวานๆเยิ้มๆ แต่ผิดคาด หมูฮ้องอร่อยมาก เป็นหมูสามชั้นหมักด้วยกระเทียมพริกไทย แล้วนำมาเคี่ยวกับน้ำพะโล้ เนื้อหมูชิ้นใหญ่แต่นุ่ม รสชาติกลมกล่อมอูมามิ 555+ ไม่หวาน(เหมือนอย่างที่คิด)จนเกินไป น้ำพริกกุ้งเสียบ เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของเมนูวันนี้ รสชาติไม่ต้องพูดถึงครบเครื่อง จัดจ้าน เสิร์ฟพร้อมกับผักหลากชนิด เช่น แตงกวา ขมิ้น อิ่มท้องกับระย้ากันแล้ว อีกสถานที่ที่พลาดไม่ได้ “หลาดปล่อยของ” อยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆกับระย้า เป็นถนนคนเดินของชาวภูเก็ต มีเฉพาะวันพฤหัสฯ ศุกร์ ตั้งแต่ 16.00-22.30 น. ใครมีอะไรดีๆเจ๋งๆก็เอามาปล่อยกัน หรอยแรงงงงง ง ! วันแรกของพวกเราก็จบลง ถึงสถานที่ที่ไปอาจจะไม่เยอะมาก แต่ก็ทำพวกเราหมดแรงได้ง่ายๆ อาจจะเป็นเพราะว่าเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางของคืนก่อน ยังไงรีวิวฉบับนี้ยังไม่จบลงอย่างแน่นอนค่ะ อรุณสวัสดิ์เช้าวันที่ 2 ของการเดินทาง วันนี้เราใช้บริการรถ TAXI ดั้งเดิมของจังหวัดภูเก็ต ค่าใช้จ่ายทั้งหมด 1200 บาท หน้าตาเป็นอย่างนี้ พวกเราเรียกกันว่า รถกระป๊อ ^^ แปดโมง คนพร้อมรถพร้อม Let’s go ! จุดหมายของเราวันนี้คือ ติ่มซำโชคชัย หากพูดถึงร้านติ่มซำแล้ว ถือเป็นอาหารที่ชาวภูเก็ตนิยมทานในช่วงเช้า ติ่มซำโชคชัย ตั้งอยู่ถนน แม่หลวน อำเภอเมือง เปิดตั้งแต่ตี 4 ถึงเที่ยงวัน ที่นี่เน้นบริการเร็ว พวกเราสามารถเดินเข้าไปรอในร้านได้เลย ไม่ต้องยืนเลือกให้เสียเวลา เพราะทางร้านจะนำมาเสิร์ฟเป็นถาดใหญ่ๆ ให้เราเลือกทานได้เลย รับรวมมิตรติ่มซำสักที่ไหมคะ หากใครอยากเห็นทัศนียภาพของเกาะภูเก็ตได้อย่างชัดเจน “เขารัง” เป็นจุดชมวิวยอดนิยมอีกจุดหนึ่ง ที่มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาชมวิวกันอย่างไม่ขาดสาย ทั้งในตอนเช้าตรู่ ตอนสาย บ่าย เย็น ยิ่งเป็นช่วงเวลากลางคืนจะเห็นแสงไฟตามบ้านเรือน ยิ่งทำให้เกาะภูเก็ตน่าชมยิ่งขึ้นไปอีก น่าเสียดายที่ตอนที่เราไป ทางเขารังกำลังสร้างจุดชมวิวอยู่ไม่ค่อยสะดวกต่อการทัศนาสักเท่าไหร่ แต่เราไม่พลาดที่จะนำรูปมาฝากแน่นอน ^^ มาต่อกับจุดหมายปลายทางแห่งที่ 3 เชื่อได้ว่าหลายๆคนอาจจะยังไม่คุ้นหน้าคุ้นตานักเพราะเป็นสถานที่ที่เพิ่งเปิดใหม่ได้ไม่นาน กับบ้านตีลังกา หรือ The up side down บ้านกลับหัวแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ณ ตอนนี้ สถานที่ท่องเที่ยวใหม่ เก๋ แปลก แหวกแนว บ้าน 3 ชั้นที่มีห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องนั่งเล่น ฯลฯ พร้อมกับเฟอร์นิเจอร์ที่กลับหัวทุกชนิด ! พร้อมจะให้นักท่องเที่ยวสนุกไปกับการ design ท่วงท่าถ่ายรูป หรือ salfie บนฝ้าเพดานได้อย่างเต็มเหนี่ยว สำหรับค่าเข้าชม ตอนนี้เป็นช่วงโปรโมชั่น คนไทย 100 บาท ต่างชาติ 150 บาท เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 10.00-18.00

LET’S HAVE FUN ” PHUKET ” :) อ่านเพิ่มเติม

MAGAZINE REVIEW : ภูเก็ต ลุย PHUKET เพราะดีบุกจะบุกภูเก็ต ไปถ่ายรูปกับป้ายถนนดีบุกให้จงได้

Magazine Review ตอนภูเก็ตมาซะทีไปด้วยโปร 0 บาท หางแดง อีกครั้ง วัยรุ่นอย่างเรา ไปแบบฮาๆอีกครั้งด้วยเส้นทางขำๆ ไปแบบไม่ตะลุย ไปแบบไม่เหนื่อย เน้นไปพักผ่อนภาระกิจใหญ่คือไปถ่ายรูปกับ “ป้ายถนนดีบุก” ดินแดนซึ่งพระมารดาเคยไปทำงานสมัยสาวๆ เลยเป็นที่มาของชื่อเล่นผมนี่แหล่ะเพราะภูเก็ต คือแหล่งใหญ่ของ “แร่ดีบุก” ซึ่งถ้าใครแม่น สปช. คงเคยเจอ ไปเที่ยวกันดีกว่าเนอะ 4 วัน 3 คืน ไฟล์ทเช้าสุดของวัน ตื่นแทบไม่ทัน เดินทางไปภูเก็ตนี่ บินไปเหนื่อยน้อยสุดจริงๆ ไม่ได้ไปภูเก็ตนานแล้ว ไปเที่ยวด้วยคนนะคะ เข้าเมือง มีทั้งรถบัส ออกเป็นรอบ และมีรถตู้ รอคนเต็ม อยู่หน้า Terminal เลย ถ้าอยู่ในเมือง เค้าจะไปส่งหน้าโรงแรมเลย มาภูเก็ตนี่ ผมต้องระวังเรื่องค่ารถโดยสารหน่อย ที่นี่เรื่องเยอะ แกะแผนที่มาให้เลย ประเด็นของภูเก็ตก็ประมาณนี้แหล่ะครับ ป่าตอง กะตะ กะรน ในเมือง แหลมพรหมเทพ หรือมีเงินก็ไปศรีพันวาไปเล้ยยยยยยยย ดูทิศไว้นะครับ จะได้รู้ว่าประมาณไหน ถ้าไม่เข้าตัวเมืองรถสองแถวก็มี แต่หาสายเอาเองนะ ถ้าเหมา Taxi อย่างก็จ่ายอย่างเดียวเลยครับ แต่ชำนาญหน่อยขึ้นรถประจำทางในภูเก็ตเอา ถ้าไม่เช่ารถ ไปถึงโดยรถตู้หน้าสนามบิน ไปที่พักแรกก่อน Phuket Center Apartment ถ.รัษฎา ไม่ชอบตรงที่รถตู้มันพาไปแวะเอเย่นต์ทัวร์ก่อน แกมบังคับน่ะ ที่เหลือโอเค ส่งหน้าโรงแรมเลย ห้องพักหน้าตาดี จองผ่าน Agoda ราคาประมาณ 800 – 900 แฮ่ๆ จำไม่ได้ โอเคสำหรับท่านๆที่อยากเที่ยวกลางเมืองครับ ไม่ต้องใช้รถเลย เดินเข้าแหล่งเลย ห้องพักดูดีทีเดียว เราอยู่ที่นี่เพียงหนึ่งคืนครับ ความสะดวกดีเลย ข้างๆมี Minimart ด้วย ห้องอาบน้ำโอเคเลยนะ ก็ชอบนะ ที่นี่ ในเว็บเค้าก็แนะนำอยู่นะ อันนี้คือแผนที่ย่านตัวเมืองเก่า ให้ยึดไว้ที่ ถ.เยาวราช ถลาง พังงา ดีบุก กระบี่ และ ซ.รมณีย์ นั่นแหล่ะ คุมทั้งโซนเมืองเก่า ถนนที่นี่ใช้ชื่อจังหวัดและสถานที่ต่างๆ จากนั้นเดินไป ยังไม่เช่ารถ เดินเลาะไปตาม ถ.เยาวราช ตัดกับ ถ.ดีบุก มีศูนย์รวมอาหารพื้นถิ่นภูเก็ต “ลกเที้ยน” ที่ภูเก็ต จะมีการรวมวัฒนธรรมของ จีนฮกเกี้ยน ท้องถิ่น และมลายูนะครับ มื้อแรก ตอนเที่ยง ตามหาหมี่ฮุ้งบะxxxดก่อนเลย เหมือนหมี่ผัดซีอิ๊ว มากับน้ำซุปครับ ก็หาได้ที่นี่แหล่ะครับ มีหลายอย่างมากๆ จากนั้นเดินมาฝั่งตรงข้าม ไปกินโอ้เอ๋ว เหมือนน้ำแข็งใสน่ะ มีขายที่ภูเก็ตเท่านั้น อย่างงกับชื่อนะ ที่นี่มีชื่อแปลกๆอีกเยอะ มีน้ำแปลกๆ น่ากินเยอะแยะ ลองดู ราคาถูกมาก ที่ภูเก็ตนี่ ถ้ารู้แหล่ง ราคาไม่แพงหรอก เจอแล้ววววววว ป้ายถนนดีบุก เดี๋ยวไปลุยโซนชิโน-โปรตุกีสต่อ ที่นี่มีความผสมผสานเยอะมาก เหมือนปีนัง มะละกา เมืองที่เคยเป็นเมืองท่าก็งี้แหล่ะ ตึกที่นี่สีสวยจริงๆ ถ่ายรูปเปลี่ยนเลนส์ไม่ทันเลยนะ …ชอบมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ที่นี่สวยมาก ซ.รมณีย์ ควรไปสุดๆ วันนี้ไปแล้วฟ้าหมอง เซ็งเป็ด สวยมาก อยากมีเลนส์ 10-20 เลยอ่ะ ใครมีบริจาคมั่ง เส้นนี้มีโรตีดังหลายเจ้า @ ถ.ถลาง ใครมาควรแวะ ไปต่อที่ ถ.กระบี่ แถวนั้นแหล่ะ ไปพิพิธภัณฑ์ไทยหัว มีค่าเข้าชม จะถ่ายรูปเก็บเงินเพิ่มประมาณ 200 บาท น่าไปชม แต่ไม่น่าเก็บค่าถ่ายรูปเลย ข้างในสวยดี ทำใหม่ ภาพถ่ายเก่าๆ และปัจจุบันสวย จัดแสดงดี ตะกี้ค่าเข้า 50 บาทมั้ง ตอนนี้ออกมาเที่ยวเล่นต่อ หาที่ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ มีศูนย์บริการข้อมูลของจังหวัดที่ ถ.ถลาง ที่ ถ.ถลาง จะมีศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยวของภูเก็ต ไปเอาแผนที่ ดูแนะนำของกิน ที่เที่ยว และของที่ระลึกได้เลย มีข้อมูลและของฝากเพียบ ไปร้านกาแฟข้างๆต่อ ร้านหนัง(สือ) น่านั่งทีเดียว พักร้อนก่อนลุยต่อ อ่านแผนที่ก่อน ของที่ระลึกดูดีทีเดียว อยู่กลาง ถ.ถลาง เลย ไงๆก็ต้องเจอ จัดเครื่องดื่มไปนิดหน่อย พักร้อน ก่อนกลับไปพักที่โรงแรมนิดหน่อย บอกแล้ว เที่ยวไปรีบ ชิลล์ๆ รอบนี้เวลาเยอะ เรื่อยๆ วันนี้ร้อน เที่ยวอย่ารีบ ที่นี่มีรถรับจ้าง มอร์ไซค์รับจ้าง แถวกลางเมืองมีสวนสาธารณะ มีมังกรทอง ข้างๆมีเรือจำลอง เดินไปเจอโดยบังเอิญ ไม่รู้ละ ร้อนนนนนนนนนนนนนนน ขอไปพักก่อนนะ ตอนเย็น ไปกินข้าวต้ม ไม่มีโพยใดๆทั้งสิ้น อยู่ที่ ถ.กระบี่ เห็นคนมารุมๆ เราก็ตามน้ำไป ตรงข้ามพิพิธภัณฑ์ไทยหัวเลย อย่าได้กลัว สอยปลาอินทรีย์ทอดน้ำปลา กะ หอยลายผัดน้ำพริกเผา ไม่แพง คนท้องถิ่นเยอะ มันต้องอร่อยแน่ๆ ไปเดินเล่นต่อที่ ซ.รมณีย์ ตอนกลางคืน คนมาถ่ายรูปเต็มเลย ใจเย็นๆนะ ทำไปดูบอลไป ชมภาพภูเก็ตยามค่ำคืนไปพลางๆ ที่นั่งเล่นตอนกลางคืนแถวนี้มีเยอะ ส่วนใหญ่เป็นคนไทยนะ วันต่อมา เรา Check out ออกจาก Phuket center apartment ซื้อทัวร์ไว้ ไปเกาะพีพี

MAGAZINE REVIEW : ภูเก็ต ลุย PHUKET เพราะดีบุกจะบุกภูเก็ต ไปถ่ายรูปกับป้ายถนนดีบุกให้จงได้ อ่านเพิ่มเติม

รายา…น้ำใส ภูเก็ต…ฟ้าสวย

หน้าร้อนอีกแล้ว ร้อนอย่างนี้ ต้อง ไป … “ ทะเล ” คิดถึงน้ำสีฟ้าใส หาดทรายขาวเนียนตา เม็ดทรายนุ่มเท้า ลมพัดเย็นสบาย แสงแดดสดใส ด้วยความชื่นชอบในท้องทะเลสีครามมากเป็นพิเศษ จึงวางแผนท่องเที่ยวล่วงหน้า จองตั๋วเครื่องบินในราคาสบายกระเป๋า กับสายการบินแอร์เอเชีย ราคา 0 บาท (ราคานี้ ไม่รวมภาษีสนามบินนะ ^ ^ ) ความตื่นเต้นเริ่มต้นเมื่อเครื่องออกทะยานสู่ท้องฟ้า จากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เที่ยวบินที่Fd 3023 เวลา เจ็ดโมงสิบนาที ใช้เวลาประมาณ 1ชั่งโมงครึ่ง เจ้านกเหล็กก็บินพาเรามาถึงเกาะแห่งมนต์เสน่ห์ “ ภูเก็ต ” asdfasdf -*- เมื่อถึงที่หมาย แผนการเดินทางที่เตรียมไว้ก็เริ่มต้นขึ้น เราไปรับรถที่จองไว้กับบริษัทให้เช่า แล้วขับออกจากสนามบิน มุ่งหน้าไปที่ทางหลวงหมายเลข 402 เมื่อถึงทางหลวงแล้วขับเลี้ยวไปทางซ้ายมือ จะพบทางโค้ง ให้สังเกตป้าย “บ้านคอเอน” อยู่ทางขวามือ ให้กลับตัวรถแล้วขับย้อนกลับไป ตรงช่วงทางโค้งนี่เอง จะมีป้าย ท่าเรือ “Yacht Heaven” เลี้ยวเข้าไปตามเส้นทางเล็กๆนี้ ผ่านชุมชนบ้านคอเอน เรารู้สึกได้ถึงความสงบของชุมชนแห่งนี้ อาจเป็นเพราะว่า ชุมชนนี้อยู่ทางตอนบนของเกาะ ความวุ่นวายจึงไม่มีให้ได้เห็นและสัมผัส ขับรถต่อไปสักพัก ก่อนลงเนินเขา จะมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นท่าจอดเรือ “Yacht Heaven” ทั้งหมด ยิ่งทำให้รู้สึกอยากลงไปดูใกล้ๆเข้าไปอีก ระยะทางจากสนามบินถึงท่าเรือประมาณ 3-4 กิโลเมตร ที่นี้เป็นท่าจอดเรือของเอกชน ที่ซ่อนตัวอย่างสงบอยู่บริเวณแหลมพร้าว บริเวณท่าเรือที่แสนกว้างใหญ่ มีเรือมากมายจอดหลบคลื่นลมอย่างสงบ มองไปแล้วเหมือนรู้สึกเข้าไปอยู่ในภาพยนตร์ฝรั่ง ที่มีเรือยอร์ชลำเล็กใหญ่ จอดอยู่เป็นฉากเบื้องหลัง การเข้าไปเดินชมต้องขออนุญาตก่อนเข้าไป แต่ไม่ยุ่งยากอะไร แค่ไปเขียนชื่อลงทะเบียนไว้ที่ทำการของทางท่าเรือ ก็สามารถเข้าไปเดินชมได้แล้ว เราพากันเดินทอดน่อง ชมเรือไปเรื่อยเปื่อย ปราะหนึ่งว่าเรามีเรือส่วนตัวของเราจอดไว้ด้วย 555 เมื่อได้เข้าไปมองดูใกล้ๆ เรายิ่งรู้สึกถึงความสวยงามของเรือ แม้จะจอดนิ่งสงบก็ตามที และยังมีวิวสวยๆให้ถ่ายภาพอีกด้วย หลังจากออกมาจากท่าเรือแล้ว เราได้ขับรถมาตามเส้นทางหลวง 402 อีกครั้ง มุ่งหน้าไปทางเข้าเมือง เพื่อเข้าพักยังโรงแรมที่เราได้ จองไว้ โรงแรมภูคีตาคือที่พักของเราในค่ำนี้ โรงแรมนี้อยู่ติดกับถนนใหญ่ บนถนนเทพกษัตริย์ตรี มีสระว่ายน้ำให้เล่นด้วย เด็กๆว่ายน้ำอย่างสนุกเต็มที่ แทบหมดแรงไปตามกัน เมื่อเก็บของเข้าที่พักเรียบร้อย พักเหนื่อยและว่ายน้ำเล่นแล้ว กระเพาะก็เริ่มทำงานทันทีเชียว เข้าข่าย นิ่งเป็นหลับ ขยับเป็น….. ^ ^ อาหารมื้อค่ำนี้เราจึงมุ่งไปยังตัวเมืองซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พักนัก จากที่หาข้อมูลไว้ เมืองภูเก็ตมีอาหารอร่อยๆมากมายและมีหลายร้านที่ขึ้นชื่อ แต่เพื่อไม่ให้ท้องอิ่มเกินไป เราจึงอยากหาข้าวต้มร้อนๆทาน โกเบนซ์ชวนชิม ร้านข้าวต้มชื่อดังของเมืองภูเก็ต ร้านตั้งอยู่หัวมุมถนน บริเวณสี่แยกปฏิพัทธ์-กระบี่ เมื่อถึงร้าน คนยืนรอคิวแน่นขนัด ไม่มีโต๊ะว่างเลย ต้องรอให้มีคนทานเสร็จและลุกออกไปก่อน คนยืนรอเพื่อใส่ถุงกลับไปทานที่บ้านก็เยอะ ไม่ต่างจากร้านอาหารดังๆที่กรุงเทพเลยทีเดียว เราสั่งข้าวต้มแห้ง ของขึ้นชื่อของทางร้าน มาแล้ว ข้าวต้มแห้งและเกาเหลาที่สั่งไว้ หน้าตาดูน่าทานทีเดียว ต้องรีบชิมซะแล้ว อืม……..รสชาติคุ้มค่ากับการรอคอย รสชาติกลมกล่อม น้ำซุปหอม เผ็ดกำลังดี ………….อิ่มไปอีกหนึ่งมื้อแล้วเรา ^ ^ เช้าวันที่สอง วันนี้เราจะเที่ยวแบบ one day trip กัน เกาะราชาคือที่หมายของวันนี้ การซื้อทัวร์แบบ one day trip นี้สามารถหาซื้อได้ตามในตัวเมืองและตามชายหาดทั่วไปสนนราคา 1,000 บาทต่อคน มีอาหารดกลางวันหนึ่งมื้อ รถจากบริษัททัวร์ที่จองไว้เพื่อไปเกาะราชา มารับที่โรงแรมที่พักตอน 8.00 น. เพื่อไปยังท่าเรืออ่าวฉลอง เมื่อไปถึง มีนักท่องเที่ยวมากมายนั่งรออยู่ก่อนแล้ว ส่วนมากเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติถึงร้อยละ 90 เลยทีเดียว มีทั้งชาวยุโรป หัวทอง และ เอเชีย หัวดำแบบเรา (รู้สึกเหมือนมาเที่ยวต่างประเทศเลยแฮะ ก็หาคนไทยแทบไม่เจอเลยนี่น่า) 9.30 น. เรือสปีดโบ๊ทหลายลำจอดรออยู่ที่ท่า ลำหนึ่งบรรทุกคนได้ประมาณ 50-60 คน เรือแล่นฉิวปะทะคลื่นลมอย่างดุเดือดเล่นเอาผมเผ้ายุ่งเหยิงทีเดียว ในที่สุดก็มาถึงจุดหมายปลายทางโดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที เกาะราชาใหญ่ หรือเกาะรายา อยู่ทางใต้ของเกาะภูเก็ต ห่างจากเกาะภูเก็ตประมาณ 15 กิโลเมตร มีพื้นที่ 3,000 ตารางกิโลเมตร เกาะราชามีทั้งหมด 5 อ่าว แต่อ่าวที่สามารถเดินติดต่อกันได้มี 3 อ่าว คืออ่าวปะตก อ่าวสยาม และ อ่าวทือ อีก 2 อ่าว คืออ่าวขอนแค และอ่าวหลา ก่อนจะถึงตัวเกาะ ทางทัวร์ได้จอดแวะให้ลงดำน้ำแบบ snorkel ที่อ่าวสยามและอ่าวหลาก่อน เมื่อดำน้ำพอสมควรแล้ว ก็ขึ้นเรือเพื่อไปยังเกาะราชาต่อไป ทางเดินขึ้นเกาะ มี Floating Box ทำเป็นทางเดินยาวถึงชายหาด หาดทรายขาวบริสุทธิ์รออยู่เบื้องหน้าแล้ว หาดที่มาขึ้นนี้คืออ่าวปะตก มีรายารีสอร์ท รีสอร์ทหรูระดับ 5 ดาว ตั้งอยู่ เมื่อขึ้นมาถึงหาดทราย ก็ต้องตะลึงกับความสวยของหาดทราย ที่ไม่เพียงแต่มีทรายที่ขาวเนียนสะอาดตา เม็ดทรายที่ได้ก้าวเท้าสัมผัสลงไป แสนนุ่มสบายเท้าอย่างน่าประทับใจ หาดทรายแสนสวยนี้ ทอดตัวยาวเป็นทางโค้งไกล ว้าว! อยากลงไปนอนเล่นบนทรายจัง มีเตียงไม้และร่มสีขาวมากมายของทางรีสอร์ท ถูกกางเรียงรายไว้อย่างเป็นระเบียบ รอต้อนรับแขกผู้มาเยือนบนชายหาด ให้ได้เอนกาย มองดูทะเลสีฟ้าใสตัดกับทรายขาวเบื้องหน้าอย่างมีความสุข ก่อนที่จะได้พักผ่อนเล่นน้ำกัน เราได้แวะทานอาหารกลางวันโดยทางทัวร์ได้จัดเตรียมไว้ให้ ซึ่งอยู่ทางด้านหลังของรายารีสอร์ท เมื่อทานอาหารกลางวันกันจนอิ่มหนำแล้ว ก็ออกมาเดินเล่น พักผ่อนตามอัธยาศัยที่หน้าหาดกันต่อไป ออกมายืนมองดูเกลียวคลื่นม้วนตัวซัดเข้าหาฝั่งแล้วก็ซ่าหายไป พร้อมกับมีคลื่นลูกใหม่พัดซ้ำอย่างต่อเนื่อง เสียงคลื่นเหมือนกล่าวทักทายต้อนรับเราอยู่ ^ ^ ผืนน้ำเบื้องหน้าสะอาดใส น้ำทะเลสีฟ้าสะท้อนกับแสงอาทิตย์ยามบ่ายเป็นประกายเจิดจ้า จากชายหาด เมื่อเดินไปทางซ้ายสุดของเกาะ จะเป็นทางเดินขึ้นไปยังจุดชมวิวด้านบน เราค่อยๆเดินไปเรื่อยๆตามชายหาด

รายา…น้ำใส ภูเก็ต…ฟ้าสวย อ่านเพิ่มเติม

. . . GO DOWN DEEP INTO ,,, PHUKET . . .

ภูเก็ตคือสถานที่ยอดฮิตของเหล่านักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศ รวมถึงตัวผมและของเพื่อน ๆ ด้วยแน่นอน ทริปนี้ถือเป็นการพาตัวเองไปพักผ่อน ทำการจองตั๋วเครื่องบิน ที่พักไว้นานแล้วครับและถือเป็นการกลับไปภูเก็ตในรอบ 2 ปี และแน่นอนครับ เราจะคืนความสมดุลให้ร่างกายและจิตใจ เพื่อปลีกตัวเองจากเมืองใหญ่อันวุ่นวาย และฉีกเส้นทางมุ่งสู่ความสุขสบายแนบชิดกับธรรมชาติและท้องทะเลในทริปนี้ครับ . . . Go Down Deep into ,,, Phuket . . . ทริปนี้เราเดินทางด้วยสายการบินยอดฮิตแอร์เอเชีย ไฟล์ทของผม 10.50 เที่ยวบิน FD3025 ครับ ก่อนการเดินทาง ผมได้ทำเว็บเช็คอินมาเรียบร้อย ประกอบกับเดินทางถึงสนามบินเร็วด้วย เลยเดินเล่น สำรวจอะไรไปเรื่อยเปื่อยระหว่างที่เดินมุ่งหน้าไปที่เกตครับ ทริปนี้ผมเดินทางคนเดียว เรื่องกินดูจะไม่ค่อยให้ความสำคัญเท่าไหร่ครับ เดินผ่านมาถึง Food Stop ตอนแรกจะเดินเข้าไปหาอะไรใส่ท้องสักหน่อย แต่ลืมไปว่า…ผมได้เลือกอาหารไว้บนเครื่องบินแล้ว เลยไม่ต้องเสียสตางค์ครับ ไฟลท์ของผมอยู่ที่ Gate 4A คุณพระ ! ซึ่งดูจากระยะทางแล้ว น่าจะอยู่เกือบจะสุดทางเดินเลยครับ เดินมาถึง Lounge ของ Bangkok Airway ช่วงหลัง ๆ ไม่ได้นั่ง PG เลยคิดถึงข้าวต้มมัดที่แสนอร่อย ซึ่งใครหลายคนที่ได้ชิม เป็นต้องติดใจทุกรายนะครับ 🙂 เดินมาจนใกล้ถึง Gate A4 แล้วครับ ดูจากเวลาแล้วผมน่าจะเป็นคนแรก ๆ เลยที่มาถึงเกตก่อน ใครที่ไม่ได้โหลดกระเป๋าขึ้นเครื่อง สามารถนำกระเป๋ามาชั่งน้ำหนักได้ที่บริเวณเกตได้เช่นกันนะครับ … ได้เวลา Boarding ขึ้นเครื่องกันดีกว่าครับ เพราะดีเลย์กันมาได้เกือบ 30 นาทีแล้วด้วย.. ก่อนมา 1 วันผมได้ทำการ Booking ที่นั่งไว้เรียบร้อยแล้วเช่นกัน เพื่อการถ่ายรูปโดยเฉพาะครับ นั่งริมหน้าต่างเลย 25F ได้เวลาแล้วครับ…หลังติดเบาะ ทะยานขึ้นฟ้าด้วยความเรียบร้อย กำลังดริ๊ฟท์เข้าสู่เส้นทาง อีกสักครู่เราจะมีบริการอาหารเครื่องดื่มให้บริการให้แก่ท่านครับ ได้มาแล้วครับ ข้าวกะเพราไก่ที่สั่งเอาไว้ เมื่อเช้าทานขนมปังมาจากบ้านแค่นั้นเอง เลยซัดไม่เหลือ ด้วยความหิว อร่อยไหม..ก็โอเคครับ อิ..อิ.. สภาพอากาศแจ่มใส เพราะก่อนเดินทางเช็คกับพี่ตุ๊ พี่ที่จะขับรถพาผมเที่ยวในครั้งนี้ พี่เค้าบอกว่าฝนตกเหมือนกัน แต่เห็นท้องฟ้าแบบนี้แล้วค่อยยังชั่ว แม้เมฆจะเยอะไปสักหน่อยก็ตาม … สัญญาณรัดเข็มขัดดังขึ้น เป็นสัญญาณบอกว่าเรากำลังจะทำการลงจอดที่ท่าอากาศยานภูเก็ตในอีกไม่กี่นาทีต่อจากนี้ครับ … ถึงสนามบินภูเก็ตเรียบร้อย อย่างที่บอกไปข้างต้นว่า มาคราวนี้ได้ใช้บริการพี่ตุ๊เช่นเดิมครับ พี่ตุ๊มารับที่สนามบินเสร็จแล้ว เดี๋ยวเรามุ่งหน้าเข้าที่พักเลย อยู่ที่หาดกมลาครับ เป็นหาดหนึ่งที่สวยงามและมีสงบเงียบ เหมาะแก่การพักผ่อนมาก ๆ ที่พักสำหรับทริปนี้ของผมคือที่นี่ครับ Courtyard by Marriott Phuket at Kamala beach จุดหมายปลายทางที่จะเติมความสุขในวันพักผ่อนได้ดีไม่แพ้ที่ไหน ๆ ครับ โดยเฉพาะหากสิ่งที่ผมหวังไว้ในช่วงเวลาแห่งความสุขแบบนี้ คือการบริการที่ยอดเยี่ยม และความเป็นส่วนตัวในการพักผ่อนของทริปนี้ครับ รอยยิ้มของพนักงานต้อนรับ และความมีไมตรีของพนักงานยกกระเป๋าที่หยิบยื่นให้ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้าสู่ล็อบบี้ของโรงแรม เค้าว่ากันว่าคือด่านแรกที่สร้างความประทับใจ และขณะที่ผมกำลังเช็คอิน คลายร้อนด้วยความเย็นจากน้ำพันช์และผ้าเย็นกลิ่นหอมที่ถูกส่งมาถึงมือ เป็นเวลคัมดริงค์ มาถึงก็ได้ความสบายทันทีครับ สำหรับข้อมูลที่นี่ ภายในโรงแรมกว้างขวางใช้ได้ครับ ด้วยตึกยาวขนานสองฝั่ง ได้รวมเอาห้องพักไว้ถึง 180 ห้องที่มีทั้งห้องแบบ One,Two,Three-Bedroom Suite … Check-in กันเสร็จเรียบร้อย เดี๋ยวเราไปยังห้องพักกันดีกว่าครับ ห้องของผมเป็นแบบ One-Bedroom Suite โดยทุกห้องของที่นี่จะมีระเบียงส่วนตัวพร้อมพื้นที่นั่งเล่นแยกต่างหาก ซึ่งจะไม่สามารถเดินผ่านหน้าห้องของกันและกันได้ ถือว่าเหมาะแก่การมาพักผ่อนและความเป็นส่วนตัวมากครับ … เปิดห้องเข้าไปก็จะพบส่วนนี้ก่อนเลย One-Bedroom Suite Living Room ต้อนรับด้วยชุดโซฟาที่แสนสบาย ถือว่าเป็นห้องที่ขนาดกำลังดีไม่เล็กไม่ใหญ่มากครับ พร้อมด้วย LCD ขนาดใหญ่ โดยด้านใน ก็จะเป็นส่วนของห้องน้ำ และห้องนอนครับ … นั่งดูทีวี นั่งพักผ่อนสบายเลยครับสำหรับมุมนี้ ที่มีขนาดใหญ่กำลังดี มีมุมโต๊ะทำงานเล็ก ๆ อยู่ทางด้านข้างให้ด้วยครับ เข้าไปดูห้องน้ำกันบ้าง อาจจะเล็กไปสักหน่อย และไม่มีสายฉีดชำระให้ครับ -*- ในส่วนของ Shower น้ำร้อน-เย็น ใช้การได้ดีครับ แต่ห้องของผมกระจกด้านล่างปิดไม่สนิทกับพื้น ทำให้มีน้ำซึมออกมาเวลาอาบบ้างครับ … Amenities ให้มาไม่มากครับ แต่กลิ่นหอมน่าใช้ที่สุดเลย อ่างล้างหน้าขนาดใหญ่ ถือว่าโอเคครับสำหรับมุมนี้ ห้องน้ำอาจจะเป็นข้อด้อยสำหรับที่นี่ หรือห้องแบบนี้ครับ เล็กไปนิด … ไปสำรวจห้องนอนกันครับ เตียงขนาดใหญ่ หมอนหนา ๆ นอนสบายมากครับ ชอบเลยล่ะ… ห้องนอนขนาดกำลังดี มีแสงส่องเข้ามาเล็กน้อย อากาศถ่ายเท และยังช่วยสร้างบรรยากาศได้ดีครับ ถือว่าจัดได้อย่างลงตัวครับ ทั้งกรอบรูปบนเพดาน โคมไฟทั้งสองฝั่งของเตียง … มุมหัวเตียงก็มีนาฬิกาปลุกไว้ให้ พร้อมโคมไฟสวย ๆ ทำให้การพักผ่อนของผมในห้องนี้ ยอดเยี่ยมมากครับ … ภายในห้องนอนก็มี LCD เช่นกันพร้อมด้วยตู้เสื้อผ้า ตู้เซฟ อยู่ทางด้านซ้ายมือครับ … สำรวจห้องกันมาเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวเราออกไปเดินดูส่วนอื่นในโรงแรมกันดีกว่าครับ เดินลงมาจากห้องพักก็มาที่สระว่ายน้ำเลย … บริเวณของสระว่ายน้ำอยู่ตรงกลางของโรงแรมขั้นกลางตึกสองฝั่งครับ ทำให้ดูมีพื้นที่ค่อนข้างมากพอสมควร และมีกิจกรรมให้เล่นมากมาย เด็ก ๆ หรือผู้เข้าพักที่มาเป็นแบบครอบครัว น่าจะชอบกัน … ช่วงที่ผมไปใช้บริการ มีทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ครับ ยังมองไม่ค่อยเห็นคนไทยเลย และที่เป็นจุดขาย ของโรงแรมในเครือคอร์ทยาร์ท คือเจ้าสไลด์เดอร์นี่แหละครับ ทั้งเด็กเล็ก เด็กโต เล่นกันอย่างสนุกสนาน อยากลองเล่นบ้าง อะไรบ้าง แต่ไม่เอาดีกว่า อิ..อิ.. ขนาดของสไลเดอร์ ถือว่ายาวใช้ได้ครับ กำลังดี … ผมมีโอกาสได้ใช้สระว่ายน้ำที่นี่ตลอดครับในช่วงที่เข้าพัก

. . . GO DOWN DEEP INTO ,,, PHUKET . . . อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top