ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ อากาศยังคงเย็นสบายอย่างต่อเนื่อง ใครที่กำลังมองหาไอเดียในการวางแผนเดินทางท่องเที่ยวก่อนถึงสุดสัปดาห์นี้ ตามมาดูเส้นทางท่องเที่ยวใน #ราชบุรี กัน
เส้นทางในการเดินทางท่องเที่ยวครั้งนี้ เพื่อน ๆ จะได้อินไปกับบรรยากาศของธรรมชาติและเสน่ห์ของคนในท้องถิ่นใน จังหวัดราชบุรี สามารถเที่ยวได้ในเวลา 2 วัน 1 คืน หรือหากใครมีเวลามากกว่านี้ จะเลือกเที่ยวแบบชิล ๆ 3 วัน 2 คืนเหมือนกับเส้นทางนี้เลยก็ได้เช่นกัน 😉
เส้นทางของทริปนี้ เดินทางไปทั้งหมด 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองราชบุรี อำเภอบ้านคา และอำเภอสวนผึ้ง
การเดินทาง
แนะนำให้เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวหรือเช่ารถขับ จะสะดวกต่อการเดินทางท่องเที่ยว
หากเพื่อน ๆ ไม่มีรถยนต์ส่วนตัวหรือไม่สะดวกขับรถไปเอง สามารถใช้บริการรถตู้และรถมินิบัส จากกรุงเทพฯ (ขึ้นได้ที่สถานีขนส่งหมอชิต และสายใต้ใหม่) หรือสายอื่น ๆ ที่ไปลงอำเภอเมืองราชบุรี จากนั้นไปขึ้นรถตู้ที่เดินทางภายในจังหวัดราชบุรี ท่ารถตั้งอยู่ใกล้กับธนาคารออมสิน สาขาราชบุรี (ตรงข้ามกับแม่น้ำแม่กลอง)
เส้นทางราชบุรี – โป่งกระทิง (ผ่านอำเภอบ้านคา) เส้นทางราชบุรี – สวนผึ้ง
มีรถให้บริการทุกวันตั้งแต่ 06.00-18.00 น.
นอกจากนี้ในอำเภอสวนผึ้ง ยังมีรถนำเที่ยวโดยรถโฟร์วีล สามารถติดต่อให้นำเที่ยวภายในอำเภอได้ ราคา 1,800 บาท/วัน (เวลา 08.30-17.30 น.)
สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เบอร์
08 2197 9265 (ช่างยุทธ)
เริ่มต้นทริปในอำเภอเมืองราชบุรี ที่ “อุทยานหินเขางู” 
ในอดีตเป็นแหล่งระเบิดหินและย่อยหินที่สำคัญของไทย แต่หลังจากมีการยกเลิกสัมปทาน ได้มีการพัฒนาและปรับปรุงภูมิทัศน์ ให้กลายเป็นสวนสาธารณะที่สวยงามและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของราชบุรี มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมากันอย่างไม่ขาดสาย
ไฮไลต์ที่นี่คือ สะพานแขวน มุมถ่ายรูปสุดฮิตที่ต้องมีรูปไว้เช็กอินกัน
กิจกรรมอย่างหนึ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวอุทยานหินเขางู คือการปั่นเรือถีบนั่นเอง ถึงแม้ว่าจะอยู่กลางแจ้ง แต่ภายในก็มีลมพัดเย็นสบายตลอดเวลา 
ภายในอุทยานฯ ยังมีทางเดินรอบบึงให้เพื่อน ๆ ได้เดินเล่นรอบ ๆ เลาะไปตามแนวเขาหินปูนของเขางู หรือจะถ่ายรูปเก๋ ๆ ซึ่งมุมนี้ก็เป็นอีกมุมที่หากใครมาก็ต้องแวะถ่ายรูปกัน 
ภายในอุทยานหินเขางู ยังมีเขตพุทธสถานบนภูเขา และมีถ้ำอยู่หลายแห่ง สามารถไปชมกันได้
หากเข้ามาทางฝั่งสวนสาธารณะเขางู เพื่อน ๆ จะได้ชมพระพุทธรูปปางลีลาแบบนูนต่ำขนาดใหญ่ ที่สร้างโดยการยิงแสงเลเซอร์บนหน้าผาหินด้วย 
ที่นี่ยังมีลิงอาศัยอยู่บริเวณถ้ำด้วย แนะนำให้ระมัดระวังกันด้วยนะ 
พิกัดอุทยานหินเขางู
ตำบลเกาะพลับพลา อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรีเปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น. 0 3239 1308
https://goo.gl/maps/uL1NhZdsCFQf3Jt67
พามาเสพบรรยากาศแบบสไตล์ยุโรปที่ “อ่างเก็บน้ำห้วยท่าเคย” 
เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ในอำเภอบ้านคา
อ่างเก็บน้ำแห่งนี้ มีฉากประกอบเป็นวิวภูเขา ลานหญ้า และป่าสนอยู่รอบ ๆ เป็นภาพที่สวยงามราวกับหลุดมาจากภาพโปสเตอร์เลยทีเดียว
บริเวณฝั่งทิศตะวันออกของอ่างเก็บน้ำห้วยท่าเคย ยังเป็นที่ตั้งของที่พักและลานกางเต็นท์หลายแห่ง หากใครยังไม่แน่ใจว่ามาที่นี่แล้วจะพักที่ไหน ขอแนะนำ 4 แห่ง ได้แก่
Phupha Coffee Camp ภูผา คอฟฟี่ แค้มป์ บ้านคา ราชบุรี 06 2538 1899https://goo.gl/maps/QrZnpeSAeiaURSYD7
มะหาด-ไทธารา โฮมสเตย์ Mahad-Thaitara Home Stay 09 9979 1914https://goo.gl/maps/mB9AsH5SgxrmPzMw7
ฟูจิ เมาท์เท่น แคมป์ Fuji mountain camp 09 9165 6489https://goo.gl/maps/eLVESYMSa45zjARt7
The Palm Hill Camping (เดอะ ปาล์ม ฮิลล์ แคมป์ปิ้ง) 08 7669 6038https://goo.gl/maps/2b6aVGKJ2J9KsM2g6
นอกจากจะได้พักผ่อนหย่อนใจแล้ว เพื่อน ๆ ยังสามารถลงเล่นน้ำ ตกปลา พายเรือคายัก และซับบอร์ดในอ่างเก็บน้ำห้วยท่าเคยได้อีกด้วย ค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับทางที่พัก 
เด็ก ๆ ควรอยู่ในความดูแลของผู้ปกครองอย่างใกล้ชิด
พระอาทิตย์ลับฟ้าแล้ว ถึงเวลาเพลิดเพลินและสนุกสนานหน้าแคมป์ที่ตกแต่งให้พิเศษสำหรับเพื่อน ๆ เติมแต่งด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบครัน
พิกัดอ่างเก็บน้ำห้วยท่าเคย
ตำบลบ้านบึง อำเภอบ้านคา จังหวัดราชบุรีhttps://goo.gl/maps/3rg6GTmPRWrK88c17
วันที่ 2 ของทริป ออกจากอำเภอบ้านคา เดินทางไปที่อำเภอสวนผึ้งในตอนเช้าตรู่ ใช้เวลาประมาณ 45 นาที เพื่อไปทำกิจกรรมไฮไลต์ภายในตลาดน่ารัก ๆ ที่ “โอ๊ะป่อย”
ตลาดโอ๊ะป่อย 
เป็นตลาดยามเช้า ตั้งอยู่ริมแม่น้ำภาชี มีชื่อเรียกตามภาษาของคนในท้องถิ่น ซึ่งเป็นคนไทยเชื้อสายกะเหรี่ยง มีความหมายว่า “พักผ่อน”
ภายในตลาดมีร้านค้ามากมายที่ชาวบ้านนำมาขาย เตรียมเปิดร้านกันตั้งแต่เช้ามืด แต่ก่อนที่จะเริ่มจับ จ่าย ชอปปิงนั้น มีกิจกรรมที่จะพาเพื่อน ๆ ไปทำกันค่ะ
ไฮไลต์ที่ว่านี้คือ “การใส่บาตร” ซึ่งพระจะล่องแพไม้ไผ่มาตามแม่น้ำภาชี ให้ผู้คนได้ใส่บาตรบริเวณริมแม่น้ำ 
เพื่อน ๆ ที่ต้องการมาให้ทันใส่บาตร แนะนำว่าให้มาถึงก่อนเวลา 07.30 น. เพื่อที่จะได้มีเวลาซื้อของใส่บาตร และจับจองพื้นที่นั่งรอสำหรับใส่บาตร
อิ่มบุญแล้วอย่าลืมอิ่มกาย เพราะในตลาดโอ๊ะป่อย มีของกินให้เลือกเยอะมาก ทั้งของคาวหวาน อาหารยามเช้า
ตลาดแห่งนี้มีความน่ารักอีกอย่างคือ ภาชนะต่าง ๆ สำหรับใส่อาหาร ล้วนเป็นวัสดุจากธรรมชาติ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 
จะเห็นได้ว่า ภายในตลาดโอ๊ะป่อย มีบรรยากาศที่ร่มรื่น แถมยังมีที่นั่งให้เพื่อน ๆ สามารถรับประทานอาหารได้อย่างสะดวก ไม่แออัด
ตรงข้ามวัดป่าท่ามะขาม ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี เปิดวันเสาร์-อาทิตย์ และ วันหยุดนักขัตฤกษ์ที่ต่อเนื่องจากวันเสาร์อาทิตย์เท่านั้น ตั้งแต่เวลา 07.00-14.00 น. 09 2371 7799https://goo.gl/maps/BYa4k9y9q5xbzWVD6
โอ๊ะป่อย ตลาดเช้าริมธาร
ออกเดินทางจากตลาด มาที่ “อัลปาก้า ฮิลล์” 
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที
อัลปาก้า ฮิลล์ เป็นฟาร์มอัลปาก้าและสัตว์หายากหลายชนิดให้เพื่อน ๆ ได้ชม และยังมีกิจกรรมหลายอย่างให้เราได้เพลิดเพลินกัน
สามารถซื้อตั๋วเข้าชมได้ที่จุดจำหน่ายบริเวณทางเข้า ปัจจุบันจะมี 2 แพ็กเกจ ได้แก่
ราคา 290 บาท สามารถเดินชมได้ทุกโซนและสามารถป้อนอาหารสัตว์ประเภทกินหญ้าได้ ราคา 390 บาท จะเพิ่มเติมกิจกรรมปลูกต้นไม้ ขี่ม้า และเก็บไข่ใส่ชะลอม
อัลปาก้า ฮิลล์ เป็นฟาร์มเพาะพันธุ์อัลปาก้าแห่งแรกในไทยบนพื้นที่กว่า 250 ไร่ ที่เจ้าของฟาร์มได้ทำการศึกษาอยู่นานหลายปี ก่อนจะนำเข้าอัลปาก้ากว่า 30 ตัว มาในไทย
อัลปาก้า ฮิลล์ ยังถือว่าเป็นสวนสัตว์เปิดที่ให้เพื่อน ๆ ได้ชมสัตว์แต่ละชนิดได้อย่างใกล้ชิด
นอกจากอัลปาก้าแล้ว ยังมีสัตว์อีกหลายชนิด เช่น กวาง นกฮูกหิมะ วอลลาบี้ นกกระจอกเทศ เต่ายักษ์ เป็นต้น แต่ละจุด จะมีเจ้าหน้าที่ของฟาร์มคอยให้คำแนะนำอยู่ด้วย
เพื่อน ๆ ที่ต้องการให้อาหารสัตว์อื่น ๆ นอกเหนือจากในแพ็กเกจ สามารถซื้อในแต่ละจุดได้เลย
นอกจากการให้อาหารสัตว์แล้ว ยังมีกิจกรรมอีกหลายอย่างให้เพื่อน ๆ ได้สนุกสนาน เช่น ถ่ายรูปมุมยอดฮิตที่บ้านฮอบบิต ซิปไลน์ เป็นต้น
พิกัดอัลปาก้า ฮิลล์
357 หมู่ 8 ถนนผาปก-ตะโกล่าง ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี เปิดทุกวัน
วันจันทร์, พฤหัสบดี-ศุกร์ เวลา 09.30-18:00 น.
วันอังคาร-พุธ เวลา 09.30-17.00 น.
วันเสาร์ เวลา 09.00-17.00 น.
วันอาทิตย์ เวลา 09.00-18.00 น. 08 0821 2108, 08 1145 9565https://goo.gl/maps/iN8EffyNBJV82UZc7
ช่วงบ่าย พาไปชม “เขากระโจม” จุดชมวิวที่หากใครมาสวนผึ้ง ต้องจดไว้ในลิสต์ ยิ่งในช่วงที่อากาศเย็นสบายแบบนี้ เพื่อน ๆ สามารถชมบรรยากาศที่นี่ได้อย่างคุ้มค่าเลยล่ะ
จุดชมวิวเขากระโจม ตั้งอยู่บริเวณชายแดนไทย มีอาณาเขตติดต่อกับเมียนมา สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม และยังได้ชื่อว่าเป็นจุดที่สูงที่สุดบนเทือกเขาตะนาวศรีของฝั่งไทย
เพื่อน ๆ สายแคมป์ สามารถขึ้นมาตั้งแคมป์พักแรม เพื่อชมบรรยากาศตั้งแต่ช่วงเย็นไปจนถึงเช้าของอีกวันได้
ที่นี่ ยังเป็นจุดที่สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้ด้วย หากใครที่ไม่ได้พักที่นี่ ก็สามารถขึ้นมาชมได้เช่นกัน
ชมพระอาทิตย์ขึ้น แนะนำให้มาถึงก่อน 06.00 น.
ชมพระอาทิตย์ตก แนะนำให้มาถึงก่อน 17.00 น.
ที่นี่ ยังเป็นที่นิยมของนักล่าดาว เพราะสามารถมองเห็นดาวได้ชัดแจ๋ว ไม่มีแสงไฟรบกวนต่อการถ่ายภาพ 
เพื่อน ๆ ที่ขึ้นมาพักแรมบนเขากระโจม จะมีลานกางเต็นท์ให้ และไม่ได้มีการเรียกเก็บค่าบริการ แต่สามารถใส่ตู้บริจาคเพื่อช่วยบำรุงสถานที่ได้
ที่นี้จะมีเพียงห้องน้ำให้บริการ และไม่มีไฟฟ้าใช้ หากนักท่องเที่ยวต้องการมาพักแรมที่นี่ จะต้องนำอุปกรณ์ต่าง ๆ มาเอง
จุดชมวิวเขากระโจม ยังเป็นจุดชมวิวทะเลหมอกที่เป็นที่นิยมไม่น้อย เพราะอยู่ใกล้กรุงเทพฯ ใช้เวลาเดินทางไม่นาน ในช่วงฤดูหนาว มองเห็นทะเลหมอกหนา ปกคลุมไปทั่วบริเวณ
หากมาช่วงหน้าฝน 
ก็สามารถชมหมอกได้เช่นกัน แต่หมอกจะหนากว่าปกติ
การเดินทางขึ้นเขากระโจม ใช้ระยะทาง 10 กม. ถนนขึ้นเขาเป็นถนนดิน ซึ่งในปัจจุบันมีการปรับปรุงให้สามารถเดินทางได้ง่ายขึ้น แต่เนื่องจากเป็นเส้นทางขึ้นเขา และจะต้องข้ามลำธารที่ตัดถนนทางขึ้นด้วย จำเป็นต้องใช้รถขับเคลื่อน 4 ล้อ หรือรถจักรยานยนต์วิบากเท่านั้น และต้องอาศัยความชำนาญในการขับขี่
หากเพื่อน ๆ ไม่สะดวกในการขับขี่ขึ้นไปเอง ในพื้นที่จะมีรถนำเที่ยวให้บริการอยู่ด้วย
รถนำเที่ยวสำหรับขึ้นเขาชมพระอาทิตย์ขึ้น/ตก ราคา 1,650 บาทขึ้นไป และจะคิดตามระยะทางจุดเริ่มต้นที่ไปรับ สามารถนั่งได้ 8 คน
รถนำเที่ยวสำหรับขึ้นเขาและพักค้างแรมราคา 2,500-2,800 บาท สามารถนั่งได้ 6 คน
ทั้งนี้ สามารถติดต่อขอยืมสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเติมจากกลุ่มนำเที่ยวได้ เช่น เตาปิ้ง อุปกรณ์ไฟ เป็นต้น
ติดต่อสอบถามและจองรถนำเที่ยวได้ที่เบอร์
08 2197 9265 (ช่างยุทธ)
พิกัดเขากระโจม
ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี หากเป็นช่วงปกติที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางไม่มาก สามารถขึ้น-ลงได้ตลอดเวลา 04.00-21.00 น. (กรณีขับรถไปเอง หากไม่ชำนาญเส้นทาง ไม่แนะนำให้ขึ้นช่วงกลางคืน) ในช่วงเทศกาล จะจำกัดเวลาในการขึ้นลง คือ
ขึ้นได้เฉพาะเวลา 04.00-07.00 น.
ลงได้เฉพาะเวลา 07.00-09.00 น.https://goo.gl/maps/8nuNFbZDV5LMiAEJ6
ก่อนจบทริป พามาชม “รัตนโกสินทร์ 1” 
โรงโอ่งมังกรที่ขึ้นชื่อของราชบุรี
โอ่งมังกร เป็นที่รู้จักกันดีว่าจังหวัดราชบุรี มีการผลิตกันมาอย่างยาวนาน และยังได้รับการยอมรับทั้งในไทยและต่างชาติว่าเป็นโอ่งที่มีคุณภาพและทนทาน
ที่นี่เป็นแห่งแรกและแห่งเดียวที่เปิดให้เพื่อน ๆ สามารถเข้าไปชมกระบวนการผลิตได้ทุกขั้นตอน ตั้งแต่
การเตรียมดินมาหมักแบบเฉพาะถิ่น การขึ้นรูป การเผา การวาดลาย
โอ่งแต่ละชิ้น ล้วนผ่านการผลิตโดยช่างฝีมือดี ที่ต้องผ่านกระบวนการหลายขั้นตอน อีกทั้งยังต้องอาศัยความชำนาญและประสบการณ์ของช่างด้วย
ที่รัตนโกสินทร์ 1 มีโอ่งหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบดั้งเดิมที่เป็นลายมังกร และลวดลายอื่น ๆ ที่ปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย มีหลายแบบให้เลือกเยอะเลย
แอบมองช่างวาดลวดลายแล้วเพลินมาก ๆ หากเพื่อน ๆ ถูกใจสินค้าชิ้นไหน สามารถชอปติดไม้ติดมือกลับบ้านกันได้
นอกจากจะได้ชมกันแล้ว ที่รัตนโกสินทร์ 1 ยังเปิดให้เพื่อน ๆ ทำเวิร์กชอป เพนต์ลายโอ่งใบน้อยให้เป็นงานศิลปะของเราเองได้ด้วยนะ ราคาขึ้นอยู่กับขนาดของโอ่ง แนะนำให้ติดต่อจองล่วงหน้า
124 หมู่ 4 ถนนเพชรเกษม ตำบลโคกหม้อ อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี เปิดทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น. โทร. 0 3233 4664https://goo.gl/maps/TWokxNbDFCJCFKwS8
Rattanakosin Potterythai
