ชลบุรี

ชลบุรี

5 เกาะสวย ดำน้ำดูปะการัง…สุดฟิน

เริ่มเข้าสู่ซีซั่นแห่งท้องทะเลกันแล้ว ช่วงนี้เหมาะแก่การไปเที่ยวทะเลแบบสุดๆ วันนี้แอดเลยจะมาแนะนำ 5 เกาะสวยทั้งฝั่งอันดามันและอ่าวไทย ที่พร้อมให้ทุกคนได้ไปสัมผัสกับความงดงาม และทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นว่ายน้ำ ชมปะการัง เล่นน้ำทะเลใสๆ หรือเดินเล่นบนหาดทรายขาว หมู่เกาะสุรินทร์ จังหวัดพังงา หมู่เกาะสุรินทร์เป็นหมู่เกาะในทะเลอันดามัน ตั้งอยู่ในอำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา ถือเป็นจุดดำน้ำดูปะการังยอดฮิต ที่มีแนวปะการังน้ำตื้นที่สมบูรณ์ที่สุดและโดดเด่นในเรื่องความสวยงามของท้องทะเลที่ไม่แพ้ที่ไหนเลยทีเดียว ช่วงเวลาเปิดเกาะ : 15 ตุลาคม – 15 พฤษภาคม ของทุกปี ค่าธรรมเนียมชาวไทย ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาทชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 500 บาท เด็ก 300 บาท นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการเรือโดยสารจากท่าเรือคุระบุรีไปยังหมู่เกาะสุรินทร์ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง – 2 ชั่วโมงครึ่ง หรือซื้อแพ็กเกจดำน้ำจากบริษัททัวร์ก็ได้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ โทร.076 472 145-6 เกาะทะลุ จังหวัดระยอง เกาะทะลุ เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด มีความโดดเด่นในเรื่องของน้ำทะเลสีฟ้าใสและสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลที่สวยงาม ไฮไลท์อยู่ที่จุดดำน้ำตื้นบริเวณเกาะทะลุ ที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำทะเลจนเกิดเป็นโพรง เราสามารถลงไปแหวกว่ายชมโลกใต้ทะเลที่มีปะการังและเหล่าปลาน้อยใหญ่ได้ ขอบอกว่าสวยไม่แพ้ทะเลใต้เลย การเดินทางไปยังจุดดำน้ำเกาะทะลุนั้น เนื่องจากไม่มีเรือโดยสารให้บริการ นักท่องเที่ยวจึงต้องเหมาเรือจากเกาะเสม็ด ท่าเรือบ้านเพ หรือชายหาดอำเภอแกลง หรือซื้อแพ็กเกจดำน้ำจากบริษัททัวร์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด โทร. 038 653 03ททท. สำนักงานระยอง โทร. 038 655 420-1 เกาะช้าง จังหวัดตราด เกาะช้างเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดตราดและใหญ่เป็นอันดับ 2 ของไทย ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นเกาะที่มีปะการังสวยที่สุดในบรรดาหมู่เกาะทางภาคตะวันออก เหมาะสำหรับการดำน้ำทั้งน้ำตื้นและน้ำลึกเลยล่ะ เกาะช้างสามารถมาเที่ยวได้ทั้งปี แต่ระหว่างเดือนพฤศจิกายน – พฤษภาคม เป็นช่วงที่มีคลื่นลมน้อยที่สุด การเดินทางไปเกาะช้างหรือเกาะต่างๆ จึงค่อนข้างสะดวก บนเกาะช้างมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งที่พัก ร้านอาหาร ร้านค้า นอกจากนั้นยังมีแพขนานยนต์ที่สามารถนำรถยนต์ส่วนบุคคลข้ามไปใช้สัญจรบนเกาะได้อีกด้วย ค่าธรรมเนียมชาวไทย– วันจันทร์ – วันพฤหัสบดี ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท– วันศุกร์ – วันอาทิตย์ ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาทชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท การเดินทางไปยังเกาะช้าง สามารถขึ้นเรือได้ที่ท่าเรืออ่าวธรรมชาติหรือท่าเรือเซ็นเตอร์พอยท์ เฟอร์รี่ ใช้เวลาประมาณ 45 นาที สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมท่าเรืออ่าวธรรมชาติ โทร. 039 555 188, 039 512 528, 081 943 5872ท่าเรือเซ็นเตอร์พอยท์ โทร. 039 538 196, 039 597 198, 086 056 9555 หมู่เกาะง่าม จังหวัดชุมพร หมู่เกาะง่าม ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ประกอบด้วยเกาะง่ามใหญ่ และเกาะง่ามน้อย ซึ่งมีทรัพยากรทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ทั้งปะการัง ดอกไม้ทะเล และฝูงปลามากมาย เกาะง่ามใหญ่และเกาะง่ามน้อย นับเป็นแหล่งดำน้ำที่ได้รับความนิยมแห่งหนึ่งทางฝั่งอ่าวไทย โดยดำได้ทั้งน้ำตื้นและน้ำลึกเลย ระหว่างเดือนพฤศจิกายน – เมษายนของทุกปี เป็นช่วงเวลาที่เหมาะแก่การมาเที่ยวชม แต่ถ้ามาในช่วงเดือนพฤษภาคม – ตุลาคม เราก็อาจจะได้เห็นฉลามวาฬด้วยนะ สามารถติดต่อขึ้นเรือได้ที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ซึ่งให้บริการเรือแบบเหมาลำ หรือจะใช้บริการของบริษัทสยามคาตามารันที่ให้บริการท่องเที่ยวหมู่เกาะทะเลชุมพรก็ได้ ค่าธรรมเนียมชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาทชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร โทร. 077 558 144 (ในวันและเวลาราชการ) เกาะแสมสาร จังหวัดชลบุรี เกาะแสมสารเป็นส่วนหนึ่งของโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อำเภอสัตหีบ เป็นทะเลฝั่งอ่าวไทยที่สวยไม่แพ้ฝั่งอันดามันเลยทีเดียว เกาะแสมสารสามารถมาเที่ยวแบบ One day trip ได้ และเที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยมีหาดที่เปิดให้เที่ยวชมอยู่ 2 หาด คือ หาดเทียน และหาดลูกลม ซึ่งมีจุดดำน้ำที่สวยงาม มีปะการังหลากหลายสีสัน และหายทรายสีขาวนวล นอกจากนี้นี้ยังมีร้านขายขนมและเครื่องดื่มด้วย ซื้อตั๋วได้ที่อาคารต้อนรับพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย (ไม่มีบริการจองตั๋วล่วงหน้า) ใช้เวลาเดินทางจากฝั่งไปยังเกาะแสมสารประมาณ 30 นาที รอบเรือไปเกาะแสมสาร09.00 / 10.00 / 11.00 / 12.00 และ 13.00 น.รอบเรือเที่ยวกลับ11.30 / 12.30 / 13.30 / 15.30 และ 16.00 น. ค่าเรือบริการ (ไป-กลับ รวมค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย)ชาวไทย ผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 220 บาทชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 600 บาท เด็ก 600 บาท ค่าบริการกิจกรรมดำน้ำ คนละ 50 […]

5 เกาะสวย ดำน้ำดูปะการัง…สุดฟิน อ่านเพิ่มเติม

“จุดชมวิวเขาสามมุข” แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของบางแสน

จุดชมวิวเขาสามมุขมีลักษณะเป็นทางเดินริมถนนเลียบทะเล เริ่มตั้งแต่บริเวณโรงแรมสามมุขรีสอร์ท ยาวไปจนถึงศาลเจ้าแม่สามมุขจีน ประกอบด้วยจุดชมวิว จุดถ่ายรูป ที่นั่งพักผ่อน และพื้นที่ออกกำลังกาย ฯลฯ ถึงจะได้ชื่อว่าเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของบางแสน แต่จริงๆ แล้วจุดชมวิวเขาสามมุขมีมานานแล้วนะ เพียงแต่ปรับโฉมใหม่ให้กว้างขวางและเก๋ไก๋ขึ้น มีการทำทางเดินเป็นอุโมงค์ตัวอักษรที่เขียนว่า “Bangsaen Kaosammuk” ซึ่งบอกเลยว่าดูสวยงามแปลกตามากๆ บริเวณจุดชมวิวเขาสามมุขไม่มีรถประจำทางผ่านนะคะ ถ้าเพื่อนๆ ไม่ได้นำรถส่วนตัวไป แอดแนะนำให้เหมารถสองแถวจากบริเวณตลาดหนองมนมา ราคาก็แล้วแต่จะตกลงกันค่ะ ส่วนใครที่ขับรถมาเองก็ไม่ต้องกลัวหลง เพราะจากหาดบางแสน ใช้เส้นทางเลียบหาดมุ่งหน้าสู่แหลมแท่นจะมีป้ายบอกตลอดทางเลยค่ะ สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากจะมาถ่ายรูปหรือชมวิวสวยๆ ที่จุดชมวิวเขาสามมุข แนะนำให้มาตอนเช้าๆ หรือไม่ก็ช่วงเย็นไปเลย เพราะตอนกลางวันอากาศร้อนมาก เดี๋ยวจะเป็นลมเป็นแล้งไป แอดเป็นห่วง.ปล. น้ำทะเลบริเวณนี้ใสมาก ถ้าไม่เชื่อต้องมาพิสูจน์ด้วยตาตัวเองนะคะ

“จุดชมวิวเขาสามมุข” แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของบางแสน อ่านเพิ่มเติม

ร้านหน้ามน หนมหวาน : บางแสน

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่าที่นี่เค้ามีทั้งของคาวและของหวานให้เลือกชิม แต่เพราะชีวิตแอดขาดหวาน ดังนั้นเมนูที่เลือกมาในวันนี้จึงมีแต่ของหวานค่ะ สำหรับเมนูแรกก็คือ “ฮันนี่โทสต์สตรอว์เบอร์รี+ไอศกรีม” ขนมปังมีความกรอบนอกนุ่มใน ทานคู่กับสตรอว์เบอร์รีและไอศกรีมก็เริ่ดอยู่เด้อ ต่อมาเป็น “ไอติมกะทิ” เมนูนี้ถึงจะรสชาติเหมือนกับไอติมกะทิทั่วไป แต่แอดชอบตรงที่ให้ทอปปิ้งมาเยอะมาก และที่สำคัญคือจัดวางได้อลังการดาวล้านดวงสุดๆ ทำให้เมนูธรรมดาๆ ดูไม่ธรรมดาไปเลยอะ “Banoffee Cup” สำหรับเมนูนี้แอดชอบที่เค้าทำเป็นรูปหน้าคนซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทางร้าน น่ารักมากๆ แอดต้องทำใจสักพักกว่าจะกล้าทาน แต่พอได้ทานคำแรกเท่านั้นแหละ คำต่อๆ ไปก็ตามมาจนหมดเลยจ้า เพราะว่าอร่อยมาก  เนื่องจากอาหารแต่ละเมนูของที่นี่ ดูพิถีพิถันในการทำมากๆ จนหลายคนอาจจะกังวลว่าจะรอนานรึเปล่า แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ เพราะที่นี่เค้ามีมุมสวยๆ ให้ถ่ายรูปเล่นเยอะมาก กว่าจะถ่ายรูปเสร็จอาหารก็มาพอดี เผลอๆ บางทีอาจจะถ่ายรูปเพลินจนลืมอาหารไปเลยก็ได้ อิอิ . ร้านหน้ามน หนมหวานที่ตั้ง ตำบลแสนสุข อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรีเปิดทุกวัน เวลา 12.00 – 21.00 น.โทร 095 731 0395

ร้านหน้ามน หนมหวาน : บางแสน อ่านเพิ่มเติม

แกรนด์แคนยอนคีรี ชลบุรี

หากพูดถึง “แกรนด์แคนยอนคีรี” หลายคนอาจจะยังไม่รู้จัก เพราะที่นี่เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวลับที่ซ่อนตัวอยู่… แต่เพราะความสวยงามทำให้ซ่อนยังไงก็ไม่มิด ปิดยังไงก็ไม่อยู่ จนดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทุกสารทิศให้เดินทางมาเที่ยวชม แกรนด์แคนยอนคีรี คือ สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดชลบุรี ที่เคยเป็นบ่อดินลูกรังเก่าซึ่งถูกปล่อยทิ้งร้างไว้นานหลายปี ถ้าถามว่าทำไมถึงต้องมาเที่ยวที่นี่ ก็ตอบได้เลยว่าเพราะ “ความสวย” ซึ่งความสวยของที่นี่นั้นก็ไม่ได้มีเพียงแค่บ่อน้ำสีเขียวมรกต ที่รายล้อมด้วยภูเขาหินขนาดย่อมเท่านั้นนะคะ แต่ยังมี “ภูเขาหินฝุ่น” หรือที่หลายคนขนานนามว่า “ภูเขาหิมะ” อีกด้วย ระหว่างทางเดินไปยัง “ภูเขาหินฝุ่น” หรือ “ภูเขาหิมะ” เราจะผ่านจุดที่สามารถชมวิวแกรนด์แคนยอนได้แบบ 180 องศาเลย ซึ่งหากใครต้องการถ่ายรูป แอดแนะนำว่าต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษนะคะ เพราะบริเวณนี้เป็นหน้าผา ถึงแม้จะมีราวกั้น แต่เราก็ไม่ควรประมาทค่ะ สำหรับ “ภูเขาหินฝุ่น” หรือ “ภูเขาหิมะ” แห่งนี้ เกิดจากทรายและหินขนาดเล็กที่ทับถมกันจนกลายเป็นเนิน มองดูไกลๆ จะคล้ายกับภูเขาขนาดเล็ก นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปที่นี่กันเป็นจำนวนมาก เพราะจะได้รูปที่ดูชิคๆ คูลๆ การเดินทางมาที่นี่อาจจะดูลึกลับสักหน่อย หลายคนมาได้ครึ่งทางก็เลี้ยวรถกลับเพราะคิดว่า GPS พาหลง แอดแนะนำว่าถ้าไม่ชัวร์ให้ถามชาวบ้านแถวนั้นได้เลย ใครๆ ก็รู้จักค่ะ แกรนด์แคนยอนคีรี ต.ห้วยกะปิ อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรีเปิดทุกวัน เวลา 08.30-17.30 น.เข้าชมฟรี **ค่าจอดรถคันละ 20 บาท**

แกรนด์แคนยอนคีรี ชลบุรี อ่านเพิ่มเติม

“ตลาดปาร์คอิน” สถานที่ Check in แห่งใหม่ย่านบางแสน

“The Park in market” หรือ “ตลาดปาร์คอิน” คือตลาดนัดแห่งใหม่ย่านบางแสน ที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานี้เอง  ที่นี่มีของขายมากมาย มีมุมถ่ายรูปสวยๆ แปลกตาเพียบ เพราะเค้านำเอาไม้ไผ่มาตกแต่งตามส่วนต่างๆ ของตลาดได้อย่างลงตัว มีการจัดโซนที่นั่งรับประทานอาหารและห้องน้ำไว้บริการพร้อม แถมยังมีที่จอดรถฟรีอีกด้วย และแล้วก็มาถึงเมนูเรียกน้ำย่อยเมนูแรก “หมูย่างซอสบัสกริล” แหม แค่เห็นก็น้ำลายสอแล้ว ยิ่งได้ลองทานนะ ฟินอย่าบอกใครเชียว สำหรับสายช็อคโกแลตต้องห้ามพลาด เพราะ “ช็อคโค บอม” ของที่นี่เค้าเข้มข้นมากๆ ท็อปปิ้งก็มีให้เลือกหลากหลาย อย่างนี้ต้องไปโดนแล้วล่ะ มาเดินตลาดยามค่ำคืนแบบนี้ ถ้ารู้สึกง่วงก็ต้องหากาแฟดื่มกันสักหน่อย รับรองว่าหายง่วงและช่วยดับกระหายแน่นอนค่ะ มาถึงทะเลแล้ว นอกจากอาหารทะเลก็ต้องมะพร้าวนี่แหละถึงจะเข้ากับบรรยากาศ ยิ่งอากาศร้อนๆ แบบนี้ ได้กิน “ไอติมกะทิ” รสชาติหวานมันกลมกล่อม แถมเย็นชื่นใจด้วยแล้ว โอ๊ยยยยยย ยอมเลยจ้า มีชาไข่มุกให้ทานว่าฟินแล้ว แล้วถ้าเป็นชาไข่มุกแบบบุพเฟต์ล่ะคะ จะฟินขนาดไหน “ขนมปังญวน” ร้านนี้แอดบอกเลยว่าเด็ดมาก เพราะเค้านำขนมปังไปอบร้อนๆ ให้มีความกรอบนอกนุ่มใน แถมไส้ก็ยังใส่ให้จนแทบทะลัก โอ๊ย 10 10 10 ไปเลยจ้า บาร์บีคิวไม้เล็กๆ หลบไป ไม้ใหญ่ๆ เค้าจะเดินก่อนซื้อแอดแนะนำให้สำรวจกระเพาะตัวเองก่อนนะว่าทานไหวแค่ไหน เพราะถ้าซื้อเยอะอาจจะทานไม่หมด(แบบแอด)  แอดเป็นคนที่ชอบทาน “ทาโกะยากิ” มากกกก เจอที่ไหนก็ต้องไม่พลาดชิม ซึ่งพอได้ชิมแล้วก็พูดได้เลยว่า “เฮ้ย มันดีย์อ่ะ” มาถึงทะเล ถ้าไม่ทานอาหารทะเลก็เหมือนมาไม่ถึง จริงมั้ยคะ แต่อาหารทะเลแบบเดิมๆ ก็อาจจะดูธรรมดาไป มาลองห่อหมกบ้างเป็นไง มีให้เลือกหลายอย่างเลยนะคะ ทั้งปลา ปลาหมึก แมงดาทะเล ฯลฯ เลือกไม่ถูกเลย งานวินเทจก็มาจ้า คลาสสิกสุดๆ มุมอาร์ตๆ อย่าง “วาดรูปเหมือน” แบบนี้ก็มีเด้อ ฝีมือดีมาก ใช้เวลาไม่นาน แถมราคาไม่แพงด้วยค่ะ ไหนใครสายแฮนด์เมดยกมือขึ้น สำหรับเพื่อนๆ ที่ชื่นชอบงานแฮนด์เมดและอยากลองทำด้วยตัวเอง ที่นี่เค้าก็มีมุมเล็กๆ ให้เราได้สร้างสรรค์ผลงานด้วยนะคะ สำหรับเพื่อนๆ ที่รักในเสียงเพลง เชิญทางนี้เลยจ้า เพราะที่นี่เค้ามีดนตรีสดให้ฟังด้วย บอกเลยว่าแต่ละเพลงเพราะโดนใจวัยโจ๋สุดๆ เดินเหนื่อยๆ ก็สามารถนั่งพัก นั่งรับประทานอาหารได้นะคะ บรรยากาศดีสุดๆ หรือใครอยากจะนั่งทานอาหารบนสนามหญ้า เค้าก็มีโต๊ะไว้ให้บริการด้วย ดูชิคและชิลไปอีกแบบนะคะ ว่ามั้ย?.เป็นไงกันบ้างคะสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่แอดนำมาฝากในวันนี้ ตัดสินใจได้รึยังว่าจะมาเมื่อไหร่?  ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่า นี่เป็นเพียงน้ำจิ้มเรียกน้ำย่อยเท่านั้นนะ ที่นี่ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกมากมาย แต่แอดขออุบไว้ก่อน เพราะแอดอยากให้เพื่อนๆ ได้ลองไปเที่ยวไปสัมผัสด้วยตัวเองดู แล้วอย่าลืมไปเที่ยวกันเยอะๆ นะคะ

“ตลาดปาร์คอิน” สถานที่ Check in แห่งใหม่ย่านบางแสน อ่านเพิ่มเติม

10 เส้นทางรถไฟ เที่ยวประหยัดใกล้กรุง

ไหนใครอยากไปเที่ยว แต่มีเวลาว่างจำกัดบ้าง บอกเลยว่า เราหัวอกเดียวกันค่ะ เพราะฉะนั้น ที่เที่ยวที่เหมาะกับมนุษย์เงินเดือนอย่างเรา ก็ต้องอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เอาแบบเที่ยววันเดย์ทริป หรือ 2 วัน 1 คืน ได้ยิ่งดี แต่ถ้าจะให้นั่งรถตู้หรือขับรถไปก็อาจจะดูธรรมดาไปหน่อย ลองเปลี่ยนมานั่งรถไฟดูสิ ได้ชมบรรยากาศสวยๆ ระหว่างทาง แถมราคาก็ไม่แพงอีกด้วย . . ใครอยากนั่งรถไฟไปเที่ยว คลิกเข้าไปดูข้อมูลไว้เป็นแนวทางจัดทริปครั้งหน้าได้เลย . . สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการท่องเที่ยวโดยรถไฟได้ที่ : การรถไฟแห่งประเทศไทย call center 1690 http://www.railway.co.th/Home/Index . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .  นครปฐม – ราคาตั๋ว 10-44 บาท– สถานีธนบุรี-สถานีนครปฐม– เวลารถไฟเที่ยวไป 07.30 น. / 07.50 น. / 13.05 น. / 13.55 น. / 18.25 น.ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง.สถานที่ท่องเที่ยวใกล้สถานีรถไฟ– พระปฐมเจดีย์ – พระราชวังสนามจันทร์ ที่กินใกล้สถานีรถไฟ– ตั้งฮะเส็ง ข้าวหมูแดง นครปฐม – ตลาดนัดองค์พระปฐมเจดีย์ – ร้าน Boxgallery– ร้าน Fairy Tale cozy dessert home กาญจนบุรี – ราคาตั๋ว 25-110 บาท– สถานีธนบุรี-สถานีกาญจนบุรี– เวลารถไฟเที่ยวไป 07.50 น. / 13.55 น.ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง – รถไฟท่องเที่ยว สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง)-สถานีน้ำตก ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์.สถานที่ท่องเที่ยวใกล้สถานีรถไฟ – พิพิธภัณฑ์ทางรถไฟไทย-พม่า– สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก– พิพิธภัณฑ์สงครามอักษะและเชลยศึก– หอพระประวัติ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก– สวนน้ำ West Wonder Waterpark  ที่กินใกล้สถานีรถไฟ– ก๋วยเตี๋ยววันวาน – ร้านบ้านเรา – ร้านชลุค– Gravite drip coffee พระนครศรีอยุธยา – ราคาตั๋ว 45-130 บาท– สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง)-สถานีอยุธยาเวลารถไฟเที่ยวไป 04.20 น. / 05.20 น. / 05.45 น. / 6.40 น. / 07.00 น. / 08.20 น. / 08.30 น. / 09.25 น. / 10.05 น. / 10.50 น. / 11.20 น. / 11.40 น. / 12.55 น. / 13.45 น. / 14.05 น. / 15.20 น. / 16.30 น. / 17.00 น. / 17.25 น. / 18.10 น. / 18.20 น. / 18.35 น. / 18.55 น. / 19.35 น. / 20.00 น. / 20.10 น. / 20.30 น.ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง – 2 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับประเภทรถไฟ).สถานที่ท่องเที่ยวใกล้สถานีรถไฟ – ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช– วัดพิชัยสงคราม– พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา – อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ที่กินใกล้สถานีรถไฟ– ร้านบ้านส้มตำ– แพกรุงเก่า – ร้านผักหวาน– บ้านข้าวหนม– The JIM’s Cafe ราชบุรี – ราคาตั๋ว 25-370 บาท– สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง)-สถานีราชบุรี เวลารถไฟเที่ยวไป 08.05 น. / 09.20 น. / 13.00

10 เส้นทางรถไฟ เที่ยวประหยัดใกล้กรุง อ่านเพิ่มเติม

รวมที่พักกับซี้สี่ขา @ พัทยา

ก่อนที่จะไปชมที่พัก แอดก็มีคำแนะนำเล็กๆ น้อยๆ มาฝากกัน– สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการนำสัตว์เลี้ยงเข้าพักกับทางที่พักก่อนล่วงหน้า– เตรียมอุปกรณ์สำหรับสัตว์เลี้ยงไปด้วย เช่น พวกผ้าปูต่างๆ เพราะทางที่พักอาจไม่ได้มีเตรียมไว้ให้– รักษาความสะอาดทั้งในห้องพักและรอบๆ ที่พักด้วยนะ Mercure Pattaya Hotel โรงแรมขนาดใหญ่ใจกลางเมืองพัทยา ตั้งอยู่ใกล้ชายหาด walking street และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ภายในที่พักมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน พร้อมทั้งกิจกรรมมากมาย เช่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส โต๊ะพูล ฯลฯ เหมาะสำหรับพาสัตว์เลี้ยงตัวโปรดมาพักมากๆ เลย ที่ตั้ง : 484 หมู่ 10 ถ.พัทยาสาย 2 ซอย 15 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โทร : 038 425 050เว็บไซต์ : https://www.mercurepattaya.com/Facebook : https://www.facebook.com/MercureHotelPattayaราคาห้องพัก : 1,700-5,700++ บาทราคาสัตว์เลี่ยง : ตัวละ 500 บาทต่อคืน พักได้ห้องละไม่เกิน 2 ตัว (สัตว์เลี้ยงหนักไม่เกิน 10 กิโลกรัม)พิกัด : https://goo.gl/maps/xf9L6ZBt9Dy ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก : คุณหมู โรงแรม Mercure Pattaya The Circle Residence Jomtien ที่พักใกล้หาดจอมเทียน ไม่ไกลจากตัวเมืองพัทยา เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบสถานที่เงียบสงบที่คนไม่พลุกพล่าน ภายในที่พักมีสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อีกทั้งยังพร้อมต้อนรับสัตว์เลี้ยงอย่างเป็นกันเองด้วย ที่ตั้ง : 356/64 ถ.จอมเทียนสาย 2 ซ.วัดบุญกาญจนาราม อ.บางละมุง จ.ชลบุรีโทร : 038 231 262, 038 231 264เว็บไซต์ : https://www.thecircleresidence.com/Facebook : https://www.facebook.com/The-Circle-Residence-Jomtien-1317497328359106/Email : circleresidence@gmail.comราคาห้องพัก : 567-1100 บาทราคาสัตว์เลี้ยง : ตัวละ 300 บาทต่อคืน พักได้ห้องละไม่เกิน 2 ตัว (เฉพาะสุนัขหนักไม่เกิน 8 กิโลกรัม)พิกัด : https://goo.gl/maps/npxgEkGnenS2 ขอบคุณภาพจาก : เพจเฟสบุ๊ค The Circle Residence Jomtien The Magnolias Pattaya Boutique Resort รีสอร์ทที่ตั้งอยู่ในย่านพัทยากลาง ใกล้อ่างเก็บน้ำมาบประชัน เป็นทำเลที่เงียบสงบ บรรยากาศดี มีห้องพักให้เลือกหลากหลาย สำหรับผู้ที่ต้องการนำสัตว์เลี้ยงเข้าพักด้วยนั้น  ทางรีสอร์ทก็มีห้องจูเนียร์สวีทไว้รองรับ เพื่อความสะดวกสบาย นอกจากนี้ที่นี่ยังมีสระว่ายน้ำแบบลากูน รวมทั้งสไลเดอร์เพื่อเพิ่มความสนุกสนานให้แก่ผู้เข้าพักด้วย ที่ตั้ง : 4/6 หมู่ 9 อ่างเก็บน้ำมาบประชัน ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โทร. : 038 072 070, 086 341 6404, 087 692 8255, 038 072 070เว็บไซต์ : https://www.themagnoliaspattaya.com/Facebook : https://www.facebook.com/themagnoliaspattaya/ราคาห้องพัก : 1200-3500 บาทราคาสัตว์เลี้ยง : ตัวละ 300 บาทต่อคืน (เฉพาะห้องแบบจูเนียร์สวีท)พิกัด : https://goo.gl/maps/FuADeS5p9nC2 ขอบคุณภาพจาก : เพจเฟสบุ๊ค The Magnolias Pattaya Boutique Resort Viking Resort Pattaya รีสอร์ทในตัวเมืองพัทยา อยู่ไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ มากนัก เป็นที่พักราคาประหยัด มีสระว่ายน้ำ ห้องพักก็กว้างขวาง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อีกทั้งยังยินดีต้อนรับสัตว์เลี้ยงของเพื่อนๆ ด้วย ที่ตั้ง : 43/5 หมู่ 10 พัทยาใต้ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรีโทร. : 038 423 164, 089 226 8682 : : เว็บไซต์ : https://www.vikingresortpattaya.com/Email : info@ecomthaihotels.comราคาห้องพัก : 1,000-1,400 บาทราคาสัตว์เลี้ยง : สามารถพักได้ห้องละ 1 ตัว โดยไม่มีค่าใช้จ่ายพิกัด : https://goo.gl/maps/YREuRg58YUm ขอบคุณภาพจาก : Viking Resort Mirabel resort and mini golf Pattaya ที่พักเพื่อคนรักสัตว์และผู้รักกิจกรรม ภายในมีบริเวณกว้างขวางเหมาะสำหรับพาสัตว์เลี้ยงเดินเล่น และยังมีสระว่ายน้ำสำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ ส่วนผู้ที่ชื่นชอบกีฬากอล์ฟ ที่นี่ก็มีสนามมินิกอล์ฟไว้ให้ได้ประลองฝีมือด้วย ที่ตั้ง : 144/14 หมู่ 8 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรีโทร. : 084 149 2186 (อังกฤษ), 081 301 4842

รวมที่พักกับซี้สี่ขา @ พัทยา อ่านเพิ่มเติม

สิงหาพาแม่เที่ยว…ย้อนวัยหวาน เส้นทางชลบุรี – เกาะสีชัง

ช่วงหยุดวันแม่ปีนี้พาคุณแม่ไปย้อนวัยหวานกันสัก 2 วัน 1 คืน กับทริปที่ไม่ไกลกรุงเทพฯ หลายคนคงเคยได้ยินชื่อ เกาะสีชัง แหล่งท่องเที่ยวสุดโรแมนติกที่ฮิตมาตั้งแต่สมัยแม่เรายังสาวๆ มีความวินเทจและคลาสสิกเบาๆ รับรองว่าพาไปเที่ยวเกาะสีชังคราวนี้ตอบโจทย์แน่นอน  วันแรก กรุงเทพฯ – เกาะสีชัง การเดินทางบนเกาะส่วนใหญ่จะใช้รถสามล้อเครื่องหรือที่เรียกว่าสกายแล็บ เปิดมิติใหม่พาคุณแม่ซิ่งกันได้อย่างสนุกสนาน และเตรียมเป็นตากล้องถ่ายรูปภาพให้คุณแม่กันรัวๆ เลย แต่ก็ต้องระมัดระวังกันด้วยนะคะ เพราะเส้นทางบนเกาะมีลักษณะเป็นเนินเขาคดเคี้ยว – ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ก่อนอื่นไปสักการะเจ้าพ่อเขาใหญ่กันก่อน ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่มีลักษณะสถาปัตยกรรมแบบไทยผสมจีน ตั้งอยู่บนเชิงเขาสูงทางทิศเหนือของเกาะสีชัง เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเกาะสีชังให้ความเคารพนับถือมานาน เรามารู้จักตำนานกันสักหน่อย ในยุคสมัยที่ยังใช้เรือสำเภาเพื่อติดต่อค้าขาย เกาะสีชังถือเป็นทำเลที่เหมาะสมต่อการจอดเรือ โดยเฉพาะพ่อค้าชาวจีนนิยมมาจอดพักเรือที่นี่เป็นประจำ ในช่วงค่ำจะมีคนเห็นแสงวูบวาบบนหัวเกาะ จึงมีคนไปสำรวจและพบว่าบนนั้นเป็นถ้ำ ภายในมีหินรูปร่างคล้ายคนนั่งตั้งตระหง่านอยู่ จึงเรียกขานกันต่อมาว่า “เจ้าพ่อเขาใหญ่” มีความเชื่อว่าหากผู้ใดมากราบไหว้ติดต่อกัน 3 ปีจะทำให้เกิดโชคลาภและกิจการค้าขายร่ำรวย – พระจุฑาธุชราชฐาน เป็นพระราชวังบนเกาะแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย อดีตเคยเป็นพระราชวังฤดูร้อนในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่หลังจากวิกฤตการณ์ ร.ศ.112 ทำให้การก่อสร้างพระที่นั่งและตำหนักต่างๆ ยุติลง ที่นี่จึงสิ้นสุดการเป็นเขตพระราชฐานนับแต่นั้น ภายในบริเวณมีสภาพภูมิทัศน์ที่งดงาม และยังคงมีสิ่งก่อสร้างที่น่าชมได้แก่ เรือนผ่องศรี เรือนวัฒนา และเรือนอภิรมย์ ซึ่งจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับพระจุฑาธุชราชฐาน ด้านหน้าเป็นชายหาดท่าวัง  – เรือนไม้ริมทะเล เรือนไม้สีเขียวเข้ม ได้ความรู้สึกวินเทจ ลักษณะเป็นอาคารไม้ชั้นเดียวทาสีเขียว ปัจจุบันได้รับการบูรณะให้เป็นร้านกาแฟและจัดแสดงนิทรรศการที่น่าสนใจในเกาะสีชัง – อุโบสถวัดอัษฎางคนิมิตร เป็นอุโบสถยอดเจดีย์สีขาวสวยงาม ผสมผสานศิลปะไทยและศิลปะตะวันตกแบบโกธิค ด้านหน้าอุโบสถมีต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่นำหน่อมาจากพุทธคยา – สะพานอัษฎางค์ เป็นสะพานท่าเรือขนาดใหญ่ สร้างด้วยไม้สักทาสีขาวทอดยาวลงไปในทะเล รัชกาลที่ 5 โปรดฯ ให้สร้างขึ้นเนื่องในโอกาสที่สมเด็จฯ เจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธ พระราชโอรสทรงหายจากพระอาการประชวร และเพื่อใช้เป็นท่าเทียบเรือขึ้นเกาะสีชัง ชวนคุณแม่แต่งตัวสไตล์วนิดามาแชะภาพกับสะพานอัษฎางค์ เข้ากับบรรยากาศและโรแมนติกสุดๆเลยล่ะ – ช่องอิศริยาภรณ์ หาดหินกลม (ช่องเขาขาด หรืออ่าวเขาขาด) ตั้งอยู่ด้านหลังของเกาะ ใกล้สวนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ครบ 60 พรรษา หากนั่งเรือผ่านจะเห็นเป็นช่องเขา มีสะพานวชิราวุธทอดยาวเลียบเชิงเขาสำหรับเดินชมทิวทัศน์ทางทะเล ตอนปลายสุดของช่องอิศริยาภรณ์มีลักษณะเป็นแหลม เรียกว่า แหลมวชิราวุธ ลักษณะคล้ายแหลมพรหมเทพ จ.ภูเก็ต สามารถชมพระอาทิตย์ตกได้สวยงาม บริเวณหาดจะมีหินกลมขนาดต่าง ๆ มากมาย ในอดีตบริเวณนี้เคยเป็นที่ตั้งพลับพลาที่ประทับชมทิวทัศน์ของรัชกาลที่ 5 – หาดถ้ำพัง ถึงชื่อจะบอกว่า “พัง” แต่ถ้าพาแม่ไปแม่ต้องบอกว่า “ปัง” แน่ๆ ^^  หาดถ้ำพังเป็นส่วนหนึ่งของอ่าวอัษฎางค์ เป็นชายหาดกว้าง สะอาดและสวยงาม ทรายเนื้อเนียนละเอียด นักท่องเที่ยวนิยมไปเล่นน้ำและรับลมเย็นๆ และยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกสุดโรแมนติกอีกจุดหนึ่ง เกาะสีชัง พิกัด : https://goo.gl/maps/hmWTwHMvsXH2 การเดินทาง จากกรุงเทพฯ 1. เส้นทางสายบางนา-ตราด ใช้ทางหลวงหมายเลข 34 เข้าสู่จังหวัดชลบุรี มุ่งตรงไปยังอำเภอศรีราชา ถึงทางเข้าหาดบางแสน ขับตรงไปประมาณ 13 กิโลเมตร จะเจอห้างโรบินสันศรีราชาอยู่ทางขวามือ ให้เลี้ยวขวาตรงห้างโรบินสัน จากนั้นขับตรงไปยังท่าเรือเกาะลอย ประมาณ 3 กิโลเมตรก็จะถึง (หากต้องการค้างคืนสามารถจอดรถไว้ที่ฝั่งเกาะลอยได้เลย) 2. เส้นทางกรุงเทพฯ-มีนบุรี ใช้ทางหลวงหมายเลข 304 ผ่านจังหวัดฉะเชิงเทราเข้าสู่อำเภอบางปะกง จากนั้นเลี้ยวเข้าชลบุรีมุ่งสู่อำเภอศรีราชา เมื่อเห็นห้างโรบินสันศรีราชาทางขวามือ ให้เลี้ยวขวาตรงห้างโรบินสัน จากนั้นขับตรงไปยังท่าเรือเกาะลอย 3. เส้นทางสายมอเตอร์เวย์ ยูเทิร์นเข้าสู่อำเภอศรีราชา บริเวณสวนเสือศรีราชา เข้าตัวเมืองศรีราชาถึงแยกไฟแดง เลี้ยวขวาผ่านหน้าโรบินสันศรีราชา แล้วเลี้ยวซ้ายไฟแดงหน้าองค์การโทรศัพท์ตรงไปเกาะลอย (สำหรับท่านที่นำรถยนต์มาสามารถฝากรถไว้ที่จุดฝากรถทั่วไป) **ท่าเรือเกาะลอย** อัตราค่าโดยสาร คนละ 50 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาทีเรือออกจากฝั่งศรีราชา (เกาะลอย) เวลา 07.00 – 20.00 น.เรือออกจากเกาะสีชังเวลา 06.00 – 19.00 น. โดยมีเรือออกทุกๆ ชั่วโมง ……………….. วันที่สอง เกาะสีชัง – ชลบุรี – ทะเลบางแสน เช้าๆ สดใสแบบนี้ไปลัดเลาะแถวเลียบหาดบางแสนกันสักหน่อย ชวนให้นึกถึงบรรยากาศสมัยคุณแม่ยังสาว พักผ่อนกันชิลล์ๆ มาในช่วงวันหยุดแบบนี้ที่นี่ก็จะคึกคักเป็นพิเศษ การเดินทาง จากท่าเรือเกาะลอยศรีราชา ใช้ถนนสุขุมวิท ตรงมาเรื่อยๆ จนถึงป้ายแยกเข้าบางแสน (สามารถจอดรถได้ตลอดแนวชายหาด) – ตลาดหนองมน แหล่งซื้อของฝากที่โด่งดังแห่งหนึ่ง เชื่อว่าคุณแม่ขาชอปตัวยงทั้งหลายต้องนึกถึงบรรยากาศอันหอมหวนของตลาดหนองมนแห่งนี้ ที่นี่มีของฝากมากมาย ทั้งอาหารสดและอาหารแห้งเรียงรายเต็มไปหมด โดยเฉพาะข้าวหลามนั้น คือของขึ้นชื่อประจำตลาดหนองมนที่ทุกคนไม่ควรพลาดที่ตั้ง : 166 ถนนสุขุมวิท ตำบลแสนสุข อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรีเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.00 – 20.00 น. พิกัด : https://goo.gl/maps/Edn85e1UnWE2 การเดินทาง จากบริเวณหาดบางแสน ใช้ถนนถนนสุขุมวิท ตลาดอยู่ริมถนนสุขุมวิท (สามารถจอดรถได้ริมถนน) – ทานข้าวกลางวัน ณ เรือนปะการัง ร้านอาหารแถบบางแสนมีจำนวนไม่น้อย แต่แอดแนะนำเลยว่าถ้าพาแม่มาร้านนี้ แม่จะต้องให้รางวัลลูกดีเด่นแน่นอน ^^ ร้านนี้บรรยากาศดี ภายในแบ่งเป็น 2 โซน คือ โซน outdoor ติดทะเลและโซน indoor ชิลล์ๆ นำเสนออาหารทะเลสดๆ ซีฟู้ดจัดเต็ม บริเวณร้านกว้างขวาง จอดรถได้สบาย เมนูแนะนำ คือ น้ำพริกไข่ปู กุ้งเผา และปูม้านึ่งเนื้อเน้นๆ อิ่มพุงกางก่อนกลับเลยค่ะ ที่ตั้ง : 178 บางแสนสาย 1 ตำบลแสนสุข อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี (แหลมแท่น)เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 23.00 น.โทร. 038

สิงหาพาแม่เที่ยว…ย้อนวัยหวาน เส้นทางชลบุรี – เกาะสีชัง อ่านเพิ่มเติม

หนีดำจากเมืองกรุง..มุ่งไปดำน้ำที่เมืองชล

หนีดำจากเมืองกรุง..มุ่งไปดำน้ำที่เมืองชล ช่วงนี้ ใครๆก็บ่นร้อน บ่นดำ เพราะแดดแรง! แอดมินเลยมีทริปหนีร้อน 2 วัน 1 คืน ที่เดินทางไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มานำเสนอ นั่นคือที่ “อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี” ใครสนใจก็ปักหมุด กดแชร์ วางแผนเที่ยวตามกันได้เลย!! อ.สัตหีบ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ได้รับการดูแลอย่างดีจากเหล่าราชนาวีไทย ไม่ว่าจะเป็น เกาะขาม หาดน้ำใส เกาะแสมสาร ฯลฯ ต่างพร้อมใจต้อนรับนักเดินทาง ให้เข้ามาสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ ดำน้ำทักทายฝูงปลา ชื่นชมความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศใต้โลกสีคราม ดินแดนแห่งนี้ยังเปี่ยมล้นเรื่องราวน่าประทับใจ และอีกหลากหลาย แง่มุมน่าค้นหา… มีเวลาวันหยุดพักผ่อนเมื่อไหร่ อย่าลืมชวน แก๊งเพื่อนสนิทมาเริงร่าท้าฟองคลื่น ซึมซับวิถีชีวิตเรียบง่าย ของผู้คนในชุมชนชาวประมงเก่าแก่ ลิ้มรสบรรดากุ้ง ปู เนื้อสดหวาน ฯลฯ คอนเฟิร์มทริปนี้คุ้มค่า หรรษาตลอดการเดินทางแน่นอน Day 107.30 น. เตรียมชุดตัวเอง แว่นกันแดดสวยๆ หยิบกล้องประจำตัว ออกเดินทางออกจากกรุงเทพฯ 09.00 – 10.00 น. Surf & Turf Beach Club & Restaurant ร้านบรรยากาศสุดชิลนั่งเพลินริมทะเล ทานอาหารรสชาติอร่อย หลากหลายแบบ ฟังเสียงคลื่นทะเล มีมุมให้เลือกนั่งหลายมุม และมีความเป็นส่วนตัวผ่อนคลายสุดๆ เปิด: ทุกวัน 09.00-23.00 นโทร.091 758 3895 10.30 – 11.30 น. ทานอาหารจนอิ่มแล้ว ก็ไปเที่ยวต่อที่ “เขาพระตำหนัก” ซึ่งสามารถชื่นชมทัศนียภาพเวิ้งอ่าวพัทยาสวยเต็มตาแล้ว ยังสามารถแวะสักการะ อนุสาวรีย์พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ บิดาแห่งกองทัพเรือไทยขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลได้อีกด้วย  12.00-13.30 น. เมื่อถึงเวลาเที่ยง ก็แวะร้าน “The Glass House The Glass House” ร้านอาหารริมทะเลบรรยากาศสุดชิลล์ ตัวร้านเป็นเรือนกระจกใสที่ตกแต่งอย่างสวยงาม เหมาะกับการนั่งรับประทานอาหารพร้อมชมวิวทะเลไปด้วย หรือใครที่อยากรับลมเย็นๆ ก็สามารถนั่งโซนด้านนอกที่เป็นหาดทรายเนียน สำหรับอาหารของที่นี่มีหลากหลาย ให้เลือกทาน  เปิดบริการ : ทุกวัน เวลา 11.00 – 23.59 น.โทรศัพท์ : 038 255 922, 081 266 6110 14.30 -17.30 น. หนังท้องตึง ก็ไปเที่ยวต่อกันที่ “หาดทรายแก้ว” เป็นหาดที่สวยงาม อยู่ในความดูแลของหหารเรืออยู่ใกล้โรงเรียนชุมพลทหารเรือ เป็นหาดทรายขาวละเอียด และสวยงามมาก มีน้ำทะเลใส เหมาะแก่การดำน้ำและพักผ่อนหย่อนใจ หรือใครอยากเล่นห่วงยาง พายเรือคายัค ฯลฯ ก็พร้อมบริการอย่างครบครัน และบริเวณนี้ ห้ามก่อไฟ ห้ามประกอบอาหาร ห้ามเล่นการพนัน ห้ามส่งเสียงดังรบกวน หากฝ่าฝืนปรับ 1,000 บาทเชียวนะ 18.00-19.00 น. เที่ยวมาทั้งวันแล้ว ทานอาหารเย็นกันที่ “ร้านอาหารบ้านเพื่อนทะเล” ซึ่งตัวร้านยื่นออกไปในทะเลบรรยากาศชิลล์ๆ สามารถรับลมทะเลได้อย่างเต็มที่ พร้อมอร่อยกับอาหารทะเลสดๆ ที่ขนมาเสิร์ฟหลากหลายเมนู  เปิดบริการ : ทุกวัน เวลา 10.00 – 23.00 น.โทรศัพท์ : 09-9623-5693 19.15 น. เข้าพักที่ บ้านสัตหีบ ที่พักสัตหีบบรรยากาศดี สีขาวทำให้เข้ากับบรรยากาศทะเล มีที่พักให้เลือกสองกลุ่ม คือ ‘ลมทะเล’ ที่สามารถเห็นบรรยากาศทะเลสัตหีบได้แบบ 180 องศา และ ‘ลมบก’ ที่พักราคาย่อมเยา แต่ใช้ห้องน้ำรวมและเห็นวิวทะเลสวยๆเช่นกัน โดยห้องน้ำและสุขาแยกออกจากเพื่อความสะดวกของผู้เข้าพัก  ติดต่อที่พักสัตหีบ : 089 929 7807 หรือ 038 439 304 Day 207.00-08.00 น. ทานมื้อเช้าเช็คเอาท์ออกจากที่พัก 08.30-14.00 น. เช้านี้รับประทานอาหารให้อิ่มท้อง เช็คเอาท์แล้วแตะคันเร่งไปจับจองตั๋วเรือรอบ 9 หรือ 10 โมง ที่ท่าเทียบเรือหมาจอ เพื่อมุ่งหน้าสู่ “อุทยานใต้ทะเลเกาะขาม” เกาะสวรรค์สำหรับนักเดินทาง ซึ่งถูกจัดให้เป็นพื้นที่แห่งการอนุรักษ์ และฟื้นฟูสภาพแวดล้อมใต้ท้องทะเล บริเวณอ่าวฝั่งทิศเหนือ เหมาะแก่การเปลือยเท้าเปล่าสัมผัสผืนทรายเนียนละเอียด สูดอากาศ บริสุทธิ์ลงเล่นน้ำ สนุกสนานกับการพายคายัค  ส่วนทิศใต้นั้น แม้เต็มไปด้วย ทรายหยาบและโขดหิน ทว่าก็มีมุมสวยๆ บนสะพานไม้ให้กดชัตเตอร์ ถ่ายรูปจนหนำใจที่สำคัญมาแล้วห้ามพลาด สวมชูชีพใส่สน็อกเกิ้ล ตื่นตา กับความอุดมสมบูรณ์ของแนวปะการังเขากวาง ปะการังโต๊ะ ปะการังสมอง ดอกไม้ทะเล หยิบกล้องถ่ายภาพใต้น้ำ ตามบันทึกความน่ารักของ ฝูงปลาผีเสื้อ เจ้าสลิดหิน ปลาอมไข่ หอยมือเสือ ฯลฯ  แต่ถ้าใครไม่สันทัด การดำน้ำ คุณก็สามารถใช้บริการเรือท้องกระจก เพลิดเพลินกับความ สวยงามได้เช่นกัน 14.00 – 14.45 น. นั่งเรือกลับ 15.30 – 17.00 น. ทานอาหารเย็นก่อนกลับที่ ร้าน “ลุงไสว ซีฟู้ด” ร้านอาหารบนหาดจอมเทียน บรรยากาศดีริมชายหาด มองเห็นทะเลสวยๆ ระหว่างรับประทานอาหาร ที่นี่มีอาหารทะเลสดใหม่คอยบริการ และมีให้เลือกหลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นกุ้งอบวุ้นเส้น หมึกผัดไข่เค็ม กรรเชียงปูนึ่ง แกงส้มไข่ปลาเรียวเซียว

หนีดำจากเมืองกรุง..มุ่งไปดำน้ำที่เมืองชล อ่านเพิ่มเติม

5 ผืนป่าชายเลน การผจญภัยแนวอนุรักษ์

1. ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ศูนย์ฯ แห่งนี้ก่อตั้งขึ้นตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อพัฒนาอาชีพด้านการประมงและการเกษตรในเขตพื้นที่ชายฝั่งทะเลจันทบุรี รวมไปถึงการสร้างระบบนิเวศเพื่อใช้ในการบำบัดน้ำเสีย และการอนุบาลพันธุ์สัตว์น้ำต่างๆ  ภายในพื้นที่ป่าชายเลนจะมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ระยะทาง 1.6 กิโลเมตร ระหว่างทางมีศาลาพักซึ่งมีบอร์ดให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของศูนย์ฯ และพันธุ์ไม้ต่างๆ ในป่าชายเลน จำนวน 10 ศาลา กระจายตัวอยู่เป็นระยะ บรรยากาศค่อนข้างร่มรื่นและเย็นสบายด้วยต้นไม้ที่ปกคลุมตลอดสองข้างทาง นอกจากกิจกรรมเดินชมและศึกษาพื้นที่ป่าชายเลนแล้ว ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจ อาทิ – การขึ้นไปชมวิวมุมสูงบนหอดูเรือนยอดไม้ ซึ่งนอกจากจะได้เห็นพื้นที่ป่าชายเลนโดยรอบแล้ว ยังอาจพบนกที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นี้ ซึ่งมีมากกว่า 120 ชนิดด้วย ไม่ว่าจะเป็นนกยางเปียง นกยางเหนียว นกจาบคาเล็ก ฯลฯ – กิจกรรมพายเรือคายัครอบพื้นที่ป่าชายเลน – บริเวณใกล้เคียงกับศูนย์ฯ ยังมีสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา ซึ่งมีพันธุ์สัตว์น้ำต่างๆ จัดแสดงไว้ให้ชมถึง 36 ชนิดด้วยกัน  นอกจากนี้ทางศูนย์ฯ ยังมีบริการห้องพักสำหรับนักท่องเที่ยวด้วย  ศูนย์ศึกษาพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนฯ เปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 18.00 นโทร. 039 433 216-8, 039 433 210  สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) – วันอังคาร-ศุกร์ เวลา 08.30-16.30 น. – วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.30-17.30 น. โทร. 039 433 105 Website: http://www.fisheries.go.th/cf-kung_krabaen พิกัด : https://goo.gl/maps/6xQ3crf1cAm 2. โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี อีกหนึ่งพื้นที่ป่าชายเลน ที่เกิดจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ต้องการฟื้นฟูสภาพป่าชายเลน และแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวกับน้ำเน่าเสียและขยะมูลฝอยของจังหวัดเพชรบุรี นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นสถานที่พักผ่อนและศึกษาธรรมชาติอีกด้วย  ภายในพื้นที่โครงการฯ จะมีทางเดินไม้ทอดยาวไปตามป่าชายเลน ระยะทางประมาณ 850 เมตร ตลอดทางค่อนข้างร่มรื่นเพราะมีต้นโกงกางและต้นแสมคอยปกคลุม รวมทั้งยังมีจุดชมวิวหอภูมิทัศนา เป็นจุดชมวิวมุมสูงเหนือป่าชายเลน ให้เราได้ศึกษาระบบนิเวศของป่าชายเลน รวมทั้งยังเป็นจุดชมนกประเภทต่างๆ ซึ่งที่นี่นับว่าเป็น 1 ใน10 ของแหล่งดูนกที่ดีที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย ไฮไลท์อยู่ที่ปลายทางของสะพานที่ยื่นออกไปกลางทะเล จากจุดนี้เราจะเห็นวิวที่สวยงามของท้องทะเลและป่าชายเลน เหมาะแก่การนั่งพักหรือถ่ายรูปสวยๆ นอกจากนี้ยังสามารถแวะชมระบบการจัดการบำบัดน้ำเสียด้วยวิธีการต่างๆ ของโครงการฯ และที่นี่ยังมีที่พักให้บริการสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักค้างแรมอีกด้วย  ภายในโครงการฯ มีบริการรถรางนำชมตามจุดต่างๆ หรือถ้าอยากชิลล์จะปั่นจักรยานชมรอบๆ ก็ได้  เปิดทุกวัน เวลา 08.30-16.30 น.โทร. 02 579 2116Website: http://www.lerdilc.com/พิกัด : https://goo.gl/maps/ZwuMxrEj6h32 3. ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์  หนึ่งในป่าชายเลนในพื้นที่ปากน้ำปราณบุรี ซึ่งแต่ก่อนเคยมีสภาพเสื่อมโทรมจากการทำนากุ้งมาเป็นเวลานาน แต่ด้วยน้ำพระราชหฤทัยของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เมื่อครั้งเสด็จฯ ปราณบุรี พ.ศ.2539 ทำให้มีการยกเลิกสัมปทานนากุ้ง และฟื้นฟูพื้นที่ 786 ไร่ ให้กลายเป็นป่าชายเลนที่เต็มไปด้วยต้นโกงกางเช่นทุกวันนี้  ภูมิทัศน์โดยรอบของป่าชายเลนแห่งนี้ มีความสงบ ร่มรื่น และเย็นสบาย มีทางเดินลัดเลาะไปตามป่าชายเลน ระยะทาง 1 กิโลเมตร ระหว่างทางมีป้ายบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับป่าชายเลนแห่งนี้ เหมาะสำหรับศึกษาความหลากหลายของระบบนิเวศ ต้นโกงกางและพันธุ์ไม้ต่างๆ รวมไปถึงสัตว์ที่อาศัยอยู่ในป่าชายเลนด้วย นอกจากการเดินชมต้นโกงกางตามเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติแล้ว ก็ยังมีกิจกรรมในจุดอื่นๆ อีก ไม่ว่าจะเป็นชมวิวบนหอชะคราม หอคอยสูงเท่าตึก 6 ชั้น ซึ่งเป็นจุดชมวิวมุมสูงแบบ 360 องศา ที่สามารถมองเห็นผืนป่าชายเลนเขียวชอุ่มกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา หรือชมต้นโกงกางประวัติศาสตร์ ต้นโกงกางใบเล็ก 2 ต้น ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทรงปลูกไว้อีกด้วย  เปิดทุกวัน เวลา 08.30-16.30 น.โทร. 032 632 255 Website: https://welovesirinart.wordpress.com/พิกัด : https://goo.gl/maps/wup77tyRCyJ2 4. ทุ่งโปรงทอง ปากน้ำประแส อ.แกลง จ.ระยอง  สถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศในเขตชุมชนบ้านแสมภู่ ริมน้ำประแส ซึ่งแต่เดิมพื้นที่กว่า 6,000 ไร่นี้เคยเป็นพื้นที่ทำการประมง เลี้ยงกุ้ง และทำการเกษตรของชาวบ้านมาเป็นเวลานาน จนทรัพยากรบริเวณนี้เกิดความเสื่อมโทรม หน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่เริ่มเห็นความสำคัญของระบบนิเวศป่าชายเลน จึงได้ร่วมกับชาวบ้านฟื้นฟูป่าชายเลนแห่งนี้ เพื่อให้ระบบนิเวศได้ฟื้นคืนกลับมา และเปิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ในพื้นที่ป่าชายเลนมีสะพานไม้ให้เดินศึกษาธรรมชาติ ซึ่งทั้งสองข้างทางตลอด 1 กิโลเมตร จะมีพันธุ์ไม้หลายชนิดขึ้นอยู่มากมาย จุดเด่นคือต้นโปรงงมากมายที่ขึ้นเบียดเสียดกันเต็มท้องทุ่งจนมองไม่เห็นพื้นดินด้านล่าง จนเรียกกันว่าเป็น “ทุ่งโปรงทอง” ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการมาชมทุ่งโปรงทองก็คือ ช่วงเช้า และบ่ายแก่ๆ ที่เมื่อสีเขียวปนเหลืองอ่อนของใบไม้กระทบกับแสงแดดก็จะกลายเป็นสีทองเหลืองอร่ามไปทั้งทุ่ง งดงามมาก เชื่อว่าใครที่ได้ไปชมก็คงไม่พลาดที่จะเก็บภาพไว้อย่างแน่นอน  นอกจากทุ่งโปรงทองแล้ว ภายในบริเวณนี้ก็ยังมีจุดอื่นที่สวยงาม ได้แก่ ศาลาริมน้ำ หรือ ท่าน้ำที่ยื่นออกไปในทะเล และถ้ามาจากทางวัดตะเคียนงาม ปลายทางจะไปที่ปากน้ำประแสจะมีเรือรบหลวงประแส ให้นักท่องเที่ยวได้ไปเยี่ยมชมด้วย เปิดทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น.เทศบาลตำบลปากน้ำประแส โทร. 038 661 720-1พิกัด : https://goo.gl/maps/XH6LQtYv8jo 5. ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและอนุรักษ์ป่าชายเลนเพื่อการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี ป่าชายเลนผืนสุดท้ายของจังหวัดชลบุรีที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ มีเนื้อที่กว่า 300 ไร่ ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นเพื่ออนุรักษ์ป่าชายเลนไว้ให้ได้ศึกษาเรียนรู้ ด้านหน้าศูนย์ฯ มีต้นจิกทะเลที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปลูกไว้เมื่อครั้งเสด็จมาเยือน พ.ศ.2549  ภายในบริเวณมีทางเดินศึกษาธรรมชาติเป็นสะพานไม้ที่มีระยะทางถึง 2,300 เมตร ซึ่งนับเป็นทางเดินชมป่าชายเลนที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ตลอดเส้นทางมีพันธุ์ไม้ต่างๆ ทั้งต้นโกงกาง ต้นแสม ต้นตะบูน ฯลฯ รวมไปถึงสัตว์น้ำที่อาศัยอยู่ในป่าชายเลน เช่น ปลาตีน ปูก้ามดาบ นอกจากนี้ยังมีปูหยกฟ้า ซึ่งเป็นปูก้ามดาบชนิดหนึ่งที่มีกระดองสีฟ้าอมเขียว สวยงามแปลกตาอีกด้วย  สิ่งที่น่าสนใจภายในศูนย์ยังมีสะพานแขวนโยกเยกที่สร้างความหวาดเสียวให้แก่นักท่องเที่ยว

5 ผืนป่าชายเลน การผจญภัยแนวอนุรักษ์ อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top