บทความ
- บทความทั้งหมด
- Ang Thong
- Bangkok
- Bueng Kan
- Buriram
- Chachoengsao
- Chaiyaphum
- Chiang Rai
- Chonburi
- Chumphon
- Kamphaeng Phet
- Kanchanaburi
- Khon Kaen
- Krabi
- Lamphun
- Loei
- Lopburi
- Mukdahan
- Nakhon Pathom
- Nakhon Phanom
- Nakhon Ratchasima
- Nakhon Sawan
- Nakhon Si Thammarat
- Nan
- Nong Bua Lamphu
- Nong Khai
- Phang Nga
- Phetchabun
- Phetchaburi
- Phitsanulok
- Phra Nakhon Si Ayutthaya
- Phrae
- Phuket
- Prachuap Khiri Khan
- Ranong
- Ratchaburi
- Rayong
- Samut Songkhram
- Sing Buri
- Sukhothai
- Suphan Buri
- Surat Thani
- Tak
- Thailand Reopening
- Trang
- Udon Thani
- Uthai Thani
- Uttaradit
- กระบี่
- กรุงเทพมหานคร
- กาญจนบุรี
- กาฬสินธุ์
- กำแพงเพชร
- ขอนแก่น
- จันทบุรี
- ฉะเชิงเทรา
- ชลบุรี
- ชัยนาท
- ชัยภูมิ
- ชุมพร
- ตรัง
- ตราด
- ตาก
- ที่เที่ยวภาคกลาง
- ที่เที่ยวภาคตะวันตก
- ที่เที่ยวภาคตะวันออก
- ที่เที่ยวภาคอิสาน
- ที่เที่ยวภาคเหนือ
- ที่เที่ยวภาคใต้
- นครนายก
- นครปฐม
- นครพนม
- นครราชสีมา
- นครศรีธรรมราช
- นครสวรรค์
- นนทบุรี
- นราธิวาส
- น่าน
- นาราธิวาส
- บึงกาฬ
- บุรีรัมย์
- ปทุมธานี
- ประจวบคีรีขันธ์
- ปราจีนบุรี
- ปัตตานี
- พระนครศรีอยุธยา
- พะเยา
- พังงา
- พัทลุง
- พิจิตร
- พิษณุโลก
- ภูเก็ต
- มหาสารคาม
- มุกดาหาร
- ยะลา
- ยโสธร
- ร้อยเอ็ด
- ระนอง
- ระยอง
- ราชบุรี
- ลพบุรี
- ลำปาง
- ลำพูน
- ศรีสะเกษ
- สกลนคร
- สงขลา
- สตูล
- สมุทรปราการ
- สมุทรสงคราม
- สมุทรสาคร
- สระบุรี
- สระแก้ว
- สิงห์บุรี
- สุพรรณบุรี
- สุราษฎร์ธานี
- สุรินทร์
- สุโขทัย
- หนองคาย
- หนองบัวลําภู
- อ่างทอง
- อุดรธานี
- อุตรดิตถ์
- อุทัยธานี
- อุบลราชธานี
- อํานาจเจริญ
- เชียงราย
- เชียงใหม่
- เพชรบุรี
- เพชรบูรณ์
- เลย
- แก้ไขปัญหาการท่องเที่ยว
- แนะนำการท่องเที่ยว
- แพร่
- แม่ฮ่องสอน
- ไม่จัดหมวดหมู่
บทความทั้งหมด
- บทความทั้งหมด
- Ang Thong
- Bangkok
- Bueng Kan
- Buriram
- Chachoengsao
- Chaiyaphum
- Chiang Rai
- Chonburi
- Chumphon
- Kamphaeng Phet
- Kanchanaburi
- Khon Kaen
- Krabi
- Lamphun
- Loei
- Lopburi
- Mukdahan
- Nakhon Pathom
- Nakhon Phanom
- Nakhon Ratchasima
- Nakhon Sawan
- Nakhon Si Thammarat
- Nan
- Nong Bua Lamphu
- Nong Khai
- Phang Nga
- Phetchabun
- Phetchaburi
- Phitsanulok
- Phra Nakhon Si Ayutthaya
- Phrae
- Phuket
- Prachuap Khiri Khan
- Ranong
- Ratchaburi
- Rayong
- Samut Songkhram
- Sing Buri
- Sukhothai
- Suphan Buri
- Surat Thani
- Tak
- Thailand Reopening
- Trang
- Udon Thani
- Uthai Thani
- Uttaradit
- กระบี่
- กรุงเทพมหานคร
- กาญจนบุรี
- กาฬสินธุ์
- กำแพงเพชร
- ขอนแก่น
- จันทบุรี
- ฉะเชิงเทรา
- ชลบุรี
- ชัยนาท
- ชัยภูมิ
- ชุมพร
- ตรัง
- ตราด
- ตาก
- ที่เที่ยวภาคกลาง
- ที่เที่ยวภาคตะวันตก
- ที่เที่ยวภาคตะวันออก
- ที่เที่ยวภาคอิสาน
- ที่เที่ยวภาคเหนือ
- ที่เที่ยวภาคใต้
- นครนายก
- นครปฐม
- นครพนม
- นครราชสีมา
- นครศรีธรรมราช
- นครสวรรค์
- นนทบุรี
- นราธิวาส
- น่าน
- นาราธิวาส
- บึงกาฬ
- บุรีรัมย์
- ปทุมธานี
- ประจวบคีรีขันธ์
- ปราจีนบุรี
- ปัตตานี
- พระนครศรีอยุธยา
- พะเยา
- พังงา
- พัทลุง
- พิจิตร
- พิษณุโลก
- ภูเก็ต
- มหาสารคาม
- มุกดาหาร
- ยะลา
- ยโสธร
- ร้อยเอ็ด
- ระนอง
- ระยอง
- ราชบุรี
- ลพบุรี
- ลำปาง
- ลำพูน
- ศรีสะเกษ
- สกลนคร
- สงขลา
- สตูล
- สมุทรปราการ
- สมุทรสงคราม
- สมุทรสาคร
- สระบุรี
- สระแก้ว
- สิงห์บุรี
- สุพรรณบุรี
- สุราษฎร์ธานี
- สุรินทร์
- สุโขทัย
- หนองคาย
- หนองบัวลําภู
- อ่างทอง
- อุดรธานี
- อุตรดิตถ์
- อุทัยธานี
- อุบลราชธานี
- อํานาจเจริญ
- เชียงราย
- เชียงใหม่
- เพชรบุรี
- เพชรบูรณ์
- เลย
- แก้ไขปัญหาการท่องเที่ยว
- แนะนำการท่องเที่ยว
- แพร่
- แม่ฮ่องสอน
- ไม่จัดหมวดหมู่
รู้เขา รู้เรา รู้พะเยา ตอนที่ 2
สายบุญ – สักการะวัดงามสายพม่า ที่วัดนันตาราม.ใครมาพะเยา แนะนำให้ขับรถมาไม่ไกลจากอำเภอเมือง ก็จะเจอกับอำเภอใหญ่ที่ชื่อว่าอำเภอเชียงคำ ซึ่งมีวัดอันโด่งดังที่มีสถาปัตยกรรมคล้ายวัดชาวไทใหญ่แห่งนี้เป็นแลนด์มาร์กสำคัญ.จุดเด่นที่เห็นได้จากไกลๆ คือเป็นวัดที่ใช้ศิลปะแบบไทใหญ่ สร้างจากไม้สักทั้งหลัง แต่ถ้าเข้าไปมองใกล้ๆ ข้างในก็จะเจอกับศิลปะจากกระจกสีบนเพดานที่วิจิตรงดงามไม่แพ้กัน ส่วนพระประธานด้านในก็เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่แกะสลักจากไม้สักทองทั้งต้น ความงดงามที่ต่างจากที่อื่นนี่แหละที่ทำให้นักเที่ยวสายบุญส่วนใหญ่ที่มาพะเยาต้องแวะมาสักการะ สายธรรมชาติ – แช่น้ำอุ่น ปูเสื่อปิกนิก ที่น้ำตกภูซาง .แม้จะเป็นน้ำตกที่ไม่ได้เด่นเรื่องความอลังการงานสร้าง แต่น้ำตกภูซางพิเศษตรงที่เป็นน้ำตกน้ำอุ่นเพียงแห่งเดียวในไทย เกิดจากสายน้ำอุ่นที่ไหลจากผาหินปูน อุณหภูมิราวๆ 35-36 องศาเซลเซียสกำลังดี เหมาะแก่การแช่น้ำผ่อนคลาย ซึ่งชาวบ้านที่นี่ก็มาพักผ่อนเล่นน้ำกันเป็นประจำ และด้วยบรรยากาศรอบๆ ที่ร่มรื่นสวยงาม ก็ทำให้เราได้เห็นวัฒนธรรมปูเสื่อปิกนิกกินข้าวกันรอบๆ ซึ่งเป็นภาพที่น่ารัก.สำหรับนักเที่ยวที่อยากผจญภัยอีกหน่อย รอให้พ้นช่วงโควิดไปก่อน อุทยานก็จะเปิดให้เข้าไปเดินในเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่มีพันธุ์ไม้หายาก มีบ่อน้ำซับอุ่นที่เป็นต้นน้ำอุ่นของน้ำตกนี้ ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ใช้เวลาแค่หนึ่งชั่วโมงก็น่าจะอิ่มใจแล้วล่ะ! สายชิลล์ – ขับรถลัดเลาะไปนั่งจิบกาแฟชมวิวที่ภูลังกา.กาแฟหลักร้อย วิวหลักล้านจริงๆ เพราะ Magic Mountain คือร้านกาแฟยอดฮิตที่ใครๆ ก็บึ่งไปแต่เช้ามืด เพื่อไปกินกาแฟยามเช้าแล้วถ่ายรูปท่ามกลางบรรยากาศทะเลหมอกหน้าหนาวเป็นที่สุด ซึ่งเราทำสิ่งนี้ได้โดยไม่ต้องขับรถขึ้นเขาแล้วเดินต่อขึ้นไปบนวนอุทยานอีกต่อไป แต่เพียงแค่ยอมขับเลี้ยวลัดตัดผ่านเส้นทางต้นไม้สวยๆ ห่างมาจาก อำเภอเมืองพะเยาราวๆ 2 ชั่วโมง ร้านนี้จะอยู่ติดริมถนนใกล้ภูลังการีสอร์ทเลยล่ะ.ช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะเห็นทะเลหมอกคือยามเช้าก่อนเก้าโมง ที่จะมีแสงสีทองสาดส่องสายหมอก ท่ามกลางภูเขาหินปูนน้อยใหญ่ของอุทยานแห่งชาติ แต่ถ้าพลาดไปไม่ทันแบบเรา เอาแค่วิวก็ถือว่าสุดยอดมากๆ แล้ว สายชิลล์ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง สายแฟ – ช้อปปิ้งผ้าทอไทลื้อ ที่บ้านฮวก.คนรักแฟชั่น ถ้าได้เจอกับผ้าทอไทลื้อและงานหัตถกรรมของชาวบ้านฮวก อาจจะต้องช้อปปิ้งกลับไปแบบเต็มไม้เต็มมือไม่รู้ตัว เพียงขับรถมาไม่ไกลจากอำเภอเชียงคำ มาตรงหมู่บ้านที่ติดกับดินแดนของประเทศลาว ก็จะเจอร้านค้าของชาวบ้านฮวกที่ขายสินค้าที่ทำขึ้นด้วยมือและมีความประณีต มีทั้งผ้าซิ่นทอไทลื้อซึ่งเป็นจุดเด่นประจำจังหวัดให้เลือกจนตาลาย เสื้อผ้าจากผ้าทอที่ตัดประยุกต์มาให้ดูร่วมสมัย และยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ จากผ้าไทลื้อและงานฝีมือชุมชนมาขายในราคาไม่แพงด้วยนะ สายคาเฟ่ฮอปปิ้ง – กินกาแฟในคาเฟ่เก๋ Blacksmith.ปิดท้ายแบบตอบใจนักเที่ยวสายคาเฟ่ฮอปปิ้ง ด้วยร้านกาแฟสุดเก๋แห่งอำเภอเชียงคำ ซึ่งเป็นบ้านสีเทาที่โดดเด่นอยู่ในซอย เข้าไปข้างในก็เจอกับการตกแต่งสไตล์ Industrial Loft พร้อมเมนูกาแฟน่าทานหลากหลาย และมุมถ่ายรูปสุดชิกที่ดูเผินๆ เหมือนไม่ต่างจากคาเฟ่เก๋ในกรุงเทพฯ แต่วิวนอกหน้าต่างและบรรยากาศโดยรอบยังคงความน่ารักสไตล์เมืองเล็กๆ อยู่ ใครไปเชียงคำก็อย่าลืมแวะไปอุดหนุนและถ่ายรูปชิคๆ กลับมา บอกให้โลกรู้ว่าแม้แต่ในอำเภอเล็กๆ ในเมืองรอง ก็ยังมีคาเฟ่ดีๆ ซ่อนอยู่นะ!
10/03/2021
พะเยา
อ่านเพิ่มเติม
รู้เขา รู้เรา รู้พะเยา ตอนที่ 1
สาย Unseen – นั่งเรือพายไปไหว้พระโบราณ กลางกว๊านพะเยา.บางคนอาจไม่เคยรู้ว่ากว๊านพะเยามีวัดเก่าแก่ตั้งอยู่กลางน้ำ ซึ่งเป็นอันซีนติดอันดับต้นๆ ของประเทศ! ชื่อของวัดกลางน้ำแห่งนี้ก็คือวัดติโลกอาราม วัดแห่งนี้ถูกค้นพบซากและหลักฐานจากการสำรวจน้ำในปี พ.ศ. 2550 ทางจังหวัดจึงอัญเชิญพระพุทธรูปหินทราย หลวงพ่อศิลากว๊านพะเยา ซึ่งเป็นพระพุทธโบราณปางมารวิชัยที่ถูกค้นพบตั้งแต่ปี พ.ศ. 2526 มาประดิษฐานไว้คู่กัน.ความสนุกของการไปไหว้พระที่วัดติโลกอาราม คือต้องข้ามเรือแจวกับคุณลุง ราคาคนละ 30 บาท ชมวิวกว๊านแบบใกล้ชิดไปพลาง ฟังประวัติเมืองจากลุงไปพลาง ไปถึงตรงกลางก็จะได้สักการะ ได้ปล่อยปลา และพอหันกลับมาจากเกาะเล็กๆ แห่งนี้จะเจอกับวิวเมืองพะเยาจากอีกด้านหนึ่งที่ได้อารมณ์น่ารักไปอีกแบบ.กระซิบก่อนว่าถ้าอยากไปตอนโฮไลต์ ให้ไปช่วงวันสำคัญทางพุทธศาสนา เพราะจะมีการเวียนเทียนทางน้ำ (พายเรือเวียนเทียน) ที่เดียวในโลกด้วยนะ สายความเชื่อ – ไปสักการะพญานาค ที่กว๊านพะเยา.กว๊านพะเยาอาจจะเป็นแลนด์มาร์กชื่อดังในสายตาของนักท่องเที่ยว แต่สำหรับคนพะเยาเองนั้นผูกพันกับกว๊านแห่งนี้ เพราะเป็นทั้งแหล่งน้ำสำคัญ เป็นพื้นที่หย่อนใจ และยังมีความเชื่อเรื่องพญานาคอันศักดิ์สิทธิ์ โดยเชื่อกันว่าที่กว๊านแห่งนี้เดิมเป็นที่อยู่ของพญานาคจอมกร่างตนหนึ่งชื่อว่า พญาธุมะสิกขี ซึ่งภายหลังยอมกำราบลงเมื่อได้เห็นอิทธิฤทธิ์ของพระพุทธเจ้า จึงกลายมาเป็นผู้มอบทองคำให้สร้างพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง ซึ่งก็คือ ‘พระเจ้าตนหลวง’ ในวัดศรีโคมคำ ที่อยู่ไม่ไกลจากกว๊านพะเยานั่นเอง ด้วยตำนานความเชื่อนี้ทำให้มีการสร้างรูปปั้นพญานาคขนาดใหญ่เป็นจุดเด่นกลางกว๊านพะเยาอย่างที่เราเห็น และก็มีการทำพิธีสืบชะตากว๊านพะเยา (พิธีแบบล้านนา) ทุกปีเพราะเชื่อว่าพญานาคเป็นผู้ปกปักรักษากว๊าน.สำหรับนักท่องเที่ยวสายความเชื่อ การได้ไปสักการะและถ่ายภาพพญานาคกลางกว๊านพะเยานั้นเป็นอะไรที่คุ้มค่า หรือจะลองขอโชคกับปู่พญานาคตามชาวบ้านที่นี่ดู โดยเฉพาะในช่วงใกล้หวยออก ชาวบ้านก็จะพากันไปขอโชคกับปู่พญานาคที่ตั้งอยู่ตรงท่าเรือโบราณไม่ไกลจากรูปปั้น โชคดีอาจเป็นของคุณก็ได้นะ สายลองของ – ลองกินกุ้งเต้น ริมกว๊านพะเยา.ถ้ามากว๊านพะเยาแล้วไม่ได้กิน ‘กุ้งเต้น’ ก็เท่ากับมาไม่ถึง!.กุ้งเต้น คือเมนูที่ต้องมีของเหล่าแม่ค้าพ่อค้าไปจนถึงร้านอาหารริมกว๊าน จุดเริ่มต้นน่าจะมาจากเดิมที่ผู้คนรอบกว๊านทำการประมงเพื่อเลี้ยงปากท้องและค้าขาย จับปลาจับกุ้ง รวมไปถึงกุ้งฝอยตัวจิ๋วๆ ซึ่งกลายมาเป็นเมนูประจำกว๊าน แม้ปัจจุบันจะไม่มีการจับกุ้งฝอยจากกว๊านแล้ว เปลี่ยนไปรับจากแหล่งน้ำจืดไหลนิ่งในละแวกแทน แต่ก็ยังเป็นเมนูฮิตที่ไปถึงยังไงก็ต้องเจอ และต้องลองให้ได้สักครั้งในชีวิต.ความพีคของเมนูนี้ คือการเอากุ้งเป็นๆ มาปรุงด้วยพริกป่น มะนาว ข้าวคั่ว น้ำปลา คลุกเคล้ากับผักสมุนไพร แล้วปิดฝาเสิร์ฟเลยทันที นั่นแปลว่ากุ้งที่มาในชามนั้นยังกระโดดอยู่ เวลาจะกินเข้าไปก็ต้องรีบตักใส่ปากให้ทันก่อนกุ้งน้อยจะกระโดดหนี ใครเป็นนักเที่ยวสายลองของ ถ้าไปทั้งทีก็ต้องไปลองให้รู้! สายศิลป์ – ไปชมศิลปะวิถีพุทธบนเขา ที่วัดอนาลโย.เวลาเข้าวัดเมืองเหนือ เรามักนึกภาพวัดแบบล้านนา แต่ที่วัดอนาลโยแห่งนี้กลับแตกต่างไป เพราะเป็นวัดที่มีพระพุทธรูปยุคสุโขทัยที่งดงาม รวมถึงพระพุทธรูปอีกหลากหลายปาง และยังเป็นสำนักสงฆ์ที่ร่มรื่น บวกกับการที่ตัววัดตั้งอยู่บนดอยบุษราคัม ระหว่างทางเดินขึ้นไปมีจุดให้แวะชมและสักการะท่ามกลางบรรยากาศที่โอบล้อมด้วยต้นไม้และแสงแดดส่องเป็นระยะ ยิ่งทำให้เกิดความสงบใจอย่างประหลาด.ด้านบนสุดเป็นหอพระแก้วมรกตจำลองและยังมีจุดชมวิวของเมืองพะเยาที่สวยงาม เรียกว่างานนี้นักเที่ยวสายศิลป์ถ้าเดินขึ้นไปถึงยอดก็จะได้ชมความงามถึงสองต่อ ขอบอกว่าฟินแน่นอน สายเขียว – เก็บผักกิน+นอนโฮมสเตย์ชุมชน ที่บ้านต้นเต๊า .มองเผินๆ ...
10/03/2021
พะเยา
อ่านเพิ่มเติม
TALAT PHLU FOOD TOUR
If you are craving tasty food while working from home, your taste buds will surely be satisfied at Talat Phlu in Thon Buri...
10/03/2021
Bangkok
อ่านเพิ่มเติม
Enjoy Eating for 1 Day @ ตลาดพลู
สวัสดีเพื่อน ๆ ช่วงที่ผ่านมาระหว่างที่ Work From Home แอดเห็นหลายคนบ่นใน Social Media ว่าอยากออกไปหาที่กิน ที่เที่ยว เพราะอยู่บ้านจนเบื่อแล้ว วันนี้แอดมีย่านของอร่อยมานำเสนอ นั่นก็คือ ตลาดพลู ย่านตลาดพลูเป็นย่านร้านอาหารทั้งคาวหวานที่เปิดขายกันมายาวนาน ชาวฝั่งธนฯรู้จักกันดี มีร้านอร่อยขึ้นชื่อไม่แพ้เยาวราช มีทั้งร้านกลางวันกลางคืน รับรองเลยว่ามาเมื่อไหร่ก็ได้อิ่มอร่อยแน่นอนนน เอาล่ะ ตามไปกิน เอ้ย!! ตามไปอ่านกันได้เลย Enjoy Eating for 1 Day @ ตลาดพลู .1.กระเพาะปลาขันโค้ก2.สุณีข้าวหมูแดง3.หมวยหลี ไอติมไข่แข็ง4. สุริยา กาแฟ 100 ปี5. เจ๊บิ เปาะเปี๊ยะสด ตลาดพลู6. ยายใฝ ขนมเบื้องญวณ7. เจ๊อ้อย หมี่กระเฉดตลาดพลู8. LYNX Specialty Coffee แอดเดินทางด้วย BTS มาลงที่สถานี ตลาดพลู ใช้ทางออกที่ 2 จากนั้นใช้บริการรถจักรยานยนต์รับจ้าง (20 บาท) มาลงที่ตลาดพลู หรือถ้าจะเดินก็ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ร้านอาหารคาวหวานย่านนี้ แต่ละร้านอยู่ใกล้กันมาก สามารถเดินถึงกันได้สบาย ๆ คล้ายกับย่านเยาวราช ร้านแรกที่แอดจะมาแนะนำนั่นก็คือ “กระเพาะปลาขันโค้ก” ร้านนี้เป็นร้านเก่าแก่ที่เปิดมากว่า 50 ปี อยู่ข้างรางรถไฟเลย คุณลุงคุณป้าเจ้าของร้านใจดี ชวนคุยเป็นกันเองน่ารักมาก แอดสั่งกระเพาะปลาแบบธรรมดา 1 ถ้วย เพราะต้องเผื่อท้องไว้กินร้านอื่น ๆ ด้วย ต้องบอกก่อนว่าร้านใช้หนังหมูแทนกระเพาะปลา จะได้ไม่มองหากระเพาะปลากัน เห็นถ้วยแค่นี้ก็อิ่มใช้ได้เลยนะ น้ำซุปกลมกล่อมแบบที่แอดชอบเลย ไม่ข้นมาก พอเกาะเส้นเกาะเครื่องให้มีรสชาติเวลากิน แต่ซดได้คล่องคอ ที่สำคัญเครื่องเยอะด้วยนะ ร้านเปิด 10.00 น. แต่อย่าชะล่าใจ เพราะของจะหมดไวมาก มาแล้วอย่าพลาดร้านนี้เชียว.ที่ตั้ง สถานนีรถไฟตลาดพลู เกือบปลายสถานี ติดริมทางรถไฟสายวงเวียนใหญ่-มหาชัย 1087 ถนน เทอดไท แขวง ตลาดพลู ...
10/03/2021
กรุงเทพมหานคร
อ่านเพิ่มเติม
ล้ง 1919 ตำนานท่าเรือกลไฟ 171 ปี
เพื่อน ๆ หลายคนน่าจะรู้จักสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตอย่าง ล้ง 1919 กันอย่างดี ล้งถือเป็น community space ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ให้บรรยากาศสไตล์จีนย้อนยุค มีตึกเก่า ศาลเจ้า ร้านอาหาร ร้านขายของ และมุมถ่ายรูปสวย ๆ เยอะมาก แต่ก่อนจะกลายมาเป็น ล้ง 1919 เพื่อน ๆ ทราบไหมว่าบริเวณนี้เคยเป็นท่าเรือสำคัญมาก่อน ก่อนจะมาเป็น ล้ง 1919 ท่าเรือแห่งนี้ชื่อว่า ฮวย จุ่ง ล้ง สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2393 ช่วงปลายรัชกาลที่ 3 เจ้าของคือ พระยาพิศาลศุภผล ต้นตระกูลพิศาลบุตร ท่าเรือฮวย จุ่ง ล้ง เป็นท่าเรือกลไฟและโกดังเก็บสินค้าที่เจริญรุ่งเรืองมาก โดยชาวจีนในอดีตที่เดินเรือมาทำการค้าหรือย้ายถิ่นฐานมาอยู่เมืองไทยจะต้องมาเทียบเรือและลงทะเบียนชาวต่างชาติที่ท่าเรือนี้ บริเวณท่าเรือยังมีร้านค้าและโกดังเก็บสินค้านำเข้าจากหลายประเทศ เช่น จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ เป็นต้น ต่อมาในปี พ.ศ. 2462 (ค.ศ. 1919) พระยาพิศาลศุภผลได้ขายกิจการให้นายตัน ลิบ บ๊วย แห่งตระกูลหวั่งหลี ในตอนนั้นเศรษฐกิจซบเซาเพราะผลกระทบจากสงครามโลก รวมถึงมีการก่อตั้งการท่าเรือแห่งประเทศไทยขึ้น จึงทำให้ท่าเรือฮวยจุ่ง ล้ง ลดความนิยมลง ตระกูลหวั่งหลีจึงปรับท่าเรือให้เป็นอาคารสำนักงานและโกดังสำหรับเก็บสินค้าทางการเกษตรของครอบครัว ส่วนอาคารที่เคยเป็นร้านค้าก็กลายเป็นที่พักคนงาน กาลเวลาผ่านไปอาคารทรุดโทรมลงมากและถูกทิ้งร้างอยู่หลายปี จนในที่สุด ทายาทของตระกูลหวั่งหลีเห็นว่าอาคารแห่งนี้มีความสำคัญทั้งทางด้านสถาปัตยกรรมและประวัติศาสตร์ จึงบูรณะซ่อมแซมให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่คนรุ่นหลังจะได้มาเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของชาวจีนโพ้นทะเลที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานในไทย เมื่อเดินเข้าไปในล้ง 1919 เพื่อน ๆ จะได้พบกับหมู่อาคารทรงจีนโบราณ ให้ความรู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปในอดีต จุดเด่นของล้ง คือ หมู่อาคารแบบ ซาน เหอ หยวน เป็นลักษณะอาคาร 3 หลังเชื่อมต่อกันเป็นทรงตัว U ภายในอาคารแบ่งเป็นห้องหลายห้อง และถูกปรับให้เป็นร้านขายของสุดเก๋และสถานที่ทำ workshop ต่าง ๆ ส่วนหนึ่งของอาคารเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าแม่หม่าโจ้วที่อยู่มายาวนาน ตั้งแต่เริ่มสร้างท่าเรือ ซึ่งเจ้าแม่หม่าโจ้วทั้ง 3 ปางนี้ ชาวจีนได้นำข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากเมืองจีน โดยเชื่อว่าท่านให้โชคเรื่องเงินทองและการค้าขาย นอกจากจะได้ชมความสวยงามของตัวอาคารโบราณ อีกสิ่งที่ต้องห้ามพลาดคือ ภาพจิตกรรมฝาผนังเก่าแก่ ...
10/03/2021
กรุงเทพมหานคร
อ่านเพิ่มเติม
4 ลานสเก็ตกรุงเทพฯ
ในช่วงนี้กระแสกีฬาที่กำลังมาแรงมากๆ คงหนีไม่พ้น Surfskate ที่เป็นที่นิยมในหมู่มวลทั้งคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ จะเป็นวัยเด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน หรือวัยใกล้เกษียณก็ยังสามารถเล่นกันได้ ถือเป็นไลฟสไตล์ใหม่ของคนยุคนี้จริงๆ จะพาเซิร์ฟสเก็ตไปออกกำลังกายด้วย พาไปถ่ายรูปด้วย หรือพาไปเที่ยวด้วยก็ได้ ทำให้เกิดลานสเก็ตเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ ขนาดห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ก็ยังเปิดพื้นที่ให้กับผู้ที่สนใจมาใช้บริการ เราก็จะมาแนะนำให้รู้จักกันแบบพอประมาณ ว่ามีที่ไหนบ้าง ที่อยู่ในกรุงเทพฯ และเดินทางไปเล่นกันได้สะดวก ตามมา ตามมา Central World เปิดลานสเก็ตบอร์ดพื้นที่กว่า 1,000 ตร.ม. ให้ชาว Surfskate, Skateboard, Rollerblades และ Longboard ได้เล่นฟรี โดยได้มีงานเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 26-28 ก.พ. 64 ที่ผ่านมา และยังเปิดพื้นที่ให้เล่นกันต่อจนถึง 31 มี.ค. 64 นี้ ทุก ๆ วันเสาร์จะมีการแนะนำการเล่นสำหรับมือใหม่โดย Pro Skate นักกีฬาจากสมาคมกีฬาเอ็กซ์ตรีมแห่งประเทศไทย ใครสนใจอยากรู้จัก อยากลองก็ไปที่สนามนี้กันได้ แล้วยังแวะเที่ยว แวะช็อปปิ้ง หรือจะแวะขอพรหาคู่ก็ได้ด้วยนะ Never Wave ลานสเก็ตพร้อมคาเฟ่ตึกสีขาวสุดชิค Wawa cafe and Bar at Never Normal ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ลาดพร้าวซอย 18 เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นานกับลานสเก็ตแห่งนี้ โดยได้เริ่มเปิดให้ใช้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมานี่เอง ลานสเก็ตที่นี่จะเหมาะกับนัก Surfskate ที่มีประสบการณ์การเล่นมาในระดับหนึ่งแล้ว เพราะอุปกรณ์การเล่นของสนามค่อนข้างที่จะต้องใช้ทักษะที่มากกว่าสกิลพื้นฐานในการเล่น ลานนี้โดดเด่นตรงที่มีคาเฟ่อยู่ด้วย เล่นเสร็จหิวก็เข้าคาเฟ่มานั่งดื่มน้ำ กินขนม กินอาหารกันได้ หรือจะอยากมาแค่คาเฟ่ก็มีวิวคนเล่นสเก็ตให้ดูไปด้วย ชิค ๆ ไปอีกแบบ Wave Bank และ Wave Ramp ของลานนี้ ไม่ถึงกับเล่นยากมากนักแล้วไม่ง่ายมากนัก องศากำลังดีสำหรับสาย Wave ก็ลองมาฝึกกันที่นี่ได้นะ ลานสเก็ตบอร์ด @ สวนรถไฟ ลานสเก็ตแห่งนี้ได้เปิดให้ใช้บริการมาแล้วหลายเดือน ถ้าอยากจะเข้าไปเล่นที่นี่ ก็ให้ไปสมัครสมาชิกกับศูนย์กีฬาวชิรเบญจทัศกันก่อน เด็ก ...
10/03/2021
กรุงเทพมหานคร
อ่านเพิ่มเติม
ชิม ‘เชียงคํา’ ทีละคําสองคํา ตอนที่ 2
ที่ตลาดสดเทศบาล 1 คือตลาดสดหลักของ อ.เชียงคํา ที่ไม่ได้คึกคักแค่ในตัวตลาดสดที่อยู่ในร่มเท่านั้น แต่บนถนนข้างๆ ตลาดก็ยังกลายเป็นถนนคนเดินที่มีพ่อค้าแม่ขายมาปูเสื่อ กางร่ม เข็นรถเข็นมาขายอาหารเช้าแบบสุดแสนจะน่ากินราวกับว่าไม่มีใครยอมแพ้ใครเลยทีเดียว เราเริ่มจากการเข้าไปกินอาหารเช้าในร้านดังประจําตลาดที่ปูโต๊ะให้คนนั่งกินรอบคูหาก่อนจะเดินช้อปของกิ๋นถูกใจกลับมากินต่อในมื้อกลางวัน โดยวางแผนไว้ว่าจะเอาอาหารไปปูเสื่อกินกันที่นํ้าตกดังประจําถิ่น ว่าแล้วก็ไปลุยหาอาหารกัน! เมนูที่ 1 – ก๋วยเตี๋ยวนํ้าเงี้ยว.ร้านคําเอ้ย คือร้านขนมจีนนํ้าเงี้ยวเจ้าเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในตลาด ความคลาสสิกคือมีคุณป้ายืนเด่นทําอาหารอยู่ตรงกลางเหมือนเป็นบาร์ แล้วรอบๆ คูหาก็เป็นทีนั่งกิน ซึ่งจุคนได้ราวๆ รอบละ 4-5 คนเท่านั้นจนต้องรอคิว ซึ่ง ไม่ใช่แค่บรรยากาศของร้านที่คึกคักชวนอร่อยนะ แต่คุณแม่สามีกระซิบบอกว่า ความเด็ดของร้านป้าคือเมนูก๋วยเตี๋ยวนํ้าเงี้ยว ที่เปลี่ยนจากเส้นขนมจีนมาใส่เส้นใหญ่แทน แต่เส้นใหญ่ของที่นี่หน้าตาเหมือนเส้นเล็กนะ.พอได้ที่นั่ง เราก็สั่งเมนูเด็ดที่แม่ว่ามากิน ซึ่งคอนเฟิร์มว่ามันเด็ดจริง ไม่เพียงนํ้าซุปนํ้าเงี้ยวที่อร่อยกลมกล่อม ถั่วงอกหัวโตที่ให้เติมได้เองไม่อั้น พริกคั่วหอมๆ ที่ใส่แล้วเพิ่มความอร่อยจัดจ้าน แต่ทีเด็ดจริงๆ คือเส้นใหญ่ที่เหนียวนุ่ม กลิ่นดี ซอยมาบางๆ ให้พอซึมซับเข้ากับนํ้าซุป เป็นเมนูยามเช้าที่บอกเลยว่าฟิน ถ้ามาที่นี่ต้องแวะมากิน เมนูที่ 2 – ข้าวเกรียบปากหม้อเวอร์ชั่นพะเยา.ฟังชื่อเหมือนจะธรรมดา หากินง่ายในกรุงเทพฯ ใช่ไหม แต่ข้าวเกรียบปากหม้อของที่นี่มันไม่ใช่อย่างนั้นเลย สําหรับเราเมนูนี้คือส่วนผสมของอาหารคาวและขนมหวานแบบที่เข้ากันได้ดีสุดๆ โดยในตลาดจะมีให้เลือกสองแบบคือแบบคาวกับหวาน เราเลือกแบบคาวกลับมาลองกิน สิ่งที่แปลกคือข้าวเกรียบปากหม้อที่นี่เปนไส้หน่อไม้ผัดหมูสับ ห่อด้วยแป้งบางเฉียบ โรยด้วยตั้งไฉ่ที่มีรสเค็มนิดๆ แต่ดันราดด้วยนํ้ากะทิ! พอชิมเข้าไปแล้วกลับกลายเป็นความเค็มหน่อยๆ มันนิดๆ ราดลงไปบนเท็กซ์เจอร์นุ่มนิ่ม และไส้แสนอร่อยกรุบๆ ที่สุดจะลงตัว สรุปว่าชอบจริงจังจนอยากให้มีแบบนี้ขายที่กรุงเทพฯ บ้าง เมนูที่ 3 – แกงกระด้าง.เคยได้ยินเมนูแกงกระด้างมาบ้างเวลาไปเที่ยวเชียงใหม่ แต่ก็ไม่มีโอกาสได้ชิมเพราะฟังชื่อแล้วดูไม่น่าอร่อย พอมาเที่ยวพะเยาเราได้เจอขายอยู่ในตลาดแทบทุกวัน บวกกับคิดว่าวันนี้อยากได้อาหารเที่ยงที่พกพาง่ายไปกินที่นํ้าตก ก็เลยสบโอกาสได้ลองดูสักตั้ง.ความรู้ใหม่ที่เราได้เรียนรู้คือ แกงกระด้างแบบออริจินอลมันจะต้องจับตัวกันเป็นก้อนได้ด้วยไขมันจากขาหมู (ไม่ได้ใส่ผงวุ้นอย่างที่เคยคิด) แถมเป็นอาหารประจําฤดูหนาวเพราะต้องใช้ลมหนาวเป็นอาวุธในการปรุงให้มันเย็นตัวจนจับกันเป็นก้อนอย่างที่เห็น ซึ่งลองกินแล้วพบว่ากินง่ายเพราะรสชาติเหมือนแกงใส่พริกแห้ง แต่แค่เย็นกว่าและจิ้มด้วยมือเอามากินกับข้าวเหนียวได้ง่าย เป็นแกงที่กินแล้วสดชื่นเฉยเลย เมนูที่ 4 – จิ๊นงัวนึ่ง นํ้าพริกข่า.จิ๊นคือคําเรียกเมนูอาหารเหนือที่เป็นเนื้อสัตว์ แต่เป็นที่รู้กันดีว่าถ้าพูดถึงจิ๊นนึ่ง มันก็คือเนื้อควายหรือวัวนึ่ง ซึ่งวิธีการทําจิ๊นนึ่งเป็นอะไรที่ค่อนข้างยุ่งยากและใช้เวลานาน ต้องนําไปหมักเครื่องเทศก่อนแล้วค่อยนํามานึ่งกับใบมะกรูดจนกว่าเนื้อจะเปื่อยนุ่มจนได้ที่ จิ๊นนึ่งเจ้านี้ที่เราไปเจอในตลาดถึงได้ราคาสูงกว่าเมนูอื่นๆ เป็นพิเศษ คือขีดละราวๆ 60 บาท.ความอร่อยของจิ๊นนึ่งคือรสชาติของเนื้อวัวที่หมักกับเครื่องเทศจนหอม กลิ่นชัด และต้องกินคู่กับนํ้าพริกข่าที่คั่วจนแห้งได้ที่ มันคือการผสมกันอย่างลงตัวของกลิ่นเนื้อวัวที่ย่างจนหอมและเปื่อยนุ่มกับสมุนไพรกลิ่นชัดอย่างข่า ที่หาคําอธิบายไม่ถูกแต่ควรไปลองเอง เมนูที่ 5 – หน่อยัดไส้ เมนูนี้คล้ายๆ กับคั่วหน่อไม้เวอร์ชั่นกลับมาเกิดใหม่ ในรูปลักษณ์ที่พกพาง่ายกว่า เปลี่ยนจากการผัดเป็นการยัดหมูสับหมักลงไปในหน่อไม้ แล้วปิดหน่อให้เรียบร้อยก่อนจะเอาไปชุบไข่แล้วทอดจนสุกเหลือง ...
05/03/2021
พะเยา
อ่านเพิ่มเติม
ชิม ‘เชียงคํา’ ทีละคําสองคํา ตอนที่ 1
ทําความรู้จักพะเยา ผ่าน 12 เมนูของกิ๋นบ้านเฮาชื่อแปลก ถ้าขอสามคําทีแทนความประทับใจในการไปเที่ยวจังหวัดพะเยา สําหรับฉันคงจะไม่ได้มีคําว่ากว๊านพะเยาอยู่ในนั้น เพราะสามคํานั้นมันต้องเป็น แอ๊บอ่องออ หน่อยัดไส้ แกงกระด้าง! ใช่แล้วค่ะ นั่นคือบางส่วนของอาหารท้องถิ่นชื่อแปลกที่ฉันได้ชิมจากการไปเที่ยวพะเยาครั้งแรกในชีวิต โดยหมุดหมายที่เลือกไปพักคือ อ.เชียงคํา อําเภอที่ถือว่าดังเปนอันดับสองของ จ.พะเยา เหตุผลส่วนตัวก็คือแฟนของฉันมีบ้านเกิดอยู่ที่อําเภอนี้ มาเที่ยวทั้งทีเลยถือโอกาสทําความรู้จักพะเยาแบบอินไซต์ ผ่านอาหารถิ่นที่คนเชียงคําเขากินกันจริงๆ ว่าแล้วก็ตั้งเป้าหมายแน่วแน่ว่าจะตามแม่สามีไปเดินตลาดทุกวัน ตลาดเช้าบ้าง ตลาดเย็นบ้าง ถ้าเจออาหารหน้าตาไม่คุ้นหรือชื่อแปลกๆ จะซื้อมาลองกินให้หมด! เดินหาอาหารไทลื้อชื่อไม่คุ้น ที่กาดบ้านธาตุสบแวน ความพิเศษของเชียงคํา คือเป็นอําเภอที่ชาวไทลื้อหรือชาวสิบสองปันนาอพยพมาตั้งหลักแหล่งมาตั้งแต่ปลายรัชกาลที่ 1 โดยชาวชุมชนไทลื้อในเชียงคําได้อาศัยอยู่แถวบ้านหย่วนแห่งนี้และมีวัดพระธาตุสบแวนเป็นศูนย์รวมจิตใจ ดังนั้น ตลาดสดยามเย็นที่ตั้งอยู่ใกล้วัดพระธาตุสบแวนก็เลยเป็นแหล่งที่ยังมีอาหารไทลื้อแบบปรุงสําเร็จขายปะปนอยู่กับของกิ๋นจาวเหนือสไตล์คนเชียงคํา และที่สําคัญ แต่ละเมนูราคาเป็นมิตรมากๆ อยู่ที่ราวๆ ซาวบาท (หรือ 20 บาทถ้วน) เท่านั้นเอง หลังจากสนุกกับการอ่านและถามชื่อเมนูแปลกๆ เราก็คัดเลือกที่ชอบใจและชอบชื่อจากตลาดไทลื้อมาได้ 5 เมนูถ้วน เลยจัดแจงให้แม่ค้าจัดใส่ใบตองห่อกลับมาใส่จานกินที่บ้าน .เอาล่ะ ลองไปชิมกันว่ามันคืออะไร รสชาติเป็นยังไง แล้วชาวกรุงลูกคนจีนอย่างเราจะสู้ไหวหรือเปล่า เมนูที่ 1 – แอ๊บอ่องออ เมนูนี้เลือกมาชิมเพราะชื่อมันดูน่ารักบ้องแบ๊ว แต่ชีวิตจริงไม่แบ๊วอย่างชื่อ นิยามคําว่า ‘แอ๊บ’ ของคนเหนือ หมายถึงการเอาอาหารมาปรุงแล้วห่อใบตอง ก่อนจะนําไปปิ้งจนสุก พูดง่ายๆ ก็คืออาหารสไตล์ห่อหมก ตอนเดินตลาดที่นี่เราเจออาหารที่นําหน้าว่าแอ๊บเต็มไปหมดไม่ว่าจะเป็น แอ๊บปลานิล แอ๊บปลาดุก แอ๊บข้าวโพด แต่ที่พีกที่สุดคือแอ๊บอ่องออ เพราะมันคือแอ๊บที่ทำจากสมองหมู! จะชิมละนะ…อํ้า! คนที่คิดจะกินแอ๊บอ่องออ ด่านแรกที่ต้องผ่านไปให้ได้คือกลิ่นที่ค่อนข้างเฉพาะตัว เดาว่าน่าจะเป็นกลิ่นของสมองหมู แม้ว่าจะไม่ได้แรงขนาดที่โชยออกมาเตะจมูก แต่พอกินเข้าไปก็จะได้กลิ่นค่อนข้างชัดเจน แต่ถ้าคุณเป็นคนที่กินของขมอย่างพวกดีปลา ดีวัวได้อยู่แล้วก็น่าจะสบายมาก ซึ่งถ้าผ่านความยากไปได้แล้วก็จะได้เพลิดเพลินกับความอร่อยของมันที่ชาวบ้านที่นี่เขาชอบกัน นั่นก็คือรสชาติมันๆ ผสมความนัวจากเครื่องเทศ กินจิ้มกับข้าวเหนียวร้อนๆ ชาวบ้านเขาบอกว่าลําขนาด! สําหรับเรา ยอมรับว่าไม่ถนัดแนวนี้มาก แต่มาถึงที่นี่แล้วก็ต้องลองให้รู้จักและเข้าใจ ให้คะแนนความแปลกและหาทานยากไปเลยห้าดาว เมนูที่ 2 – นํ้าพริกนํ้าหน่อ นํ้าพริกนํ้าหน่อ คือเมนูนํ้าพริกพื้นบ้านเมืองเหนือที่หาทานได้ยากแล้ว จะยังหลงเหลืออยู่ในสังคมที่ยังมีความเป็นชนบท จึงถือว่าโชคดีมากที่เราได้เจอและได้ชิม ส่วนผสมหลักทําจากหน่อไม้ไผ่รวกดิบอ่อน (ซึ่งมีแค่ตอนหน้าฝนที่เราไปพอดี) เอาไปต้มแล้วขูดก่อนจะเอามาดองจนเกิดรสเปรี้ยว แล้วเคี่ยวกับพริกกระเทียมให้งวดจนกลายเป็นนํ้าพริกสีขาวๆ ที่มีเท็กซ์เจอร์ค่อนไปทางแห้งๆ สไตล์ขลุกขลิก ลองชิมแล้วรสชาติหนักไปทางเปรี้ยว ...
05/03/2021
พะเยา
อ่านเพิ่มเติม
เที่ยวแบบสายกรีนที่ปทุมธานี ตอนที่ 4
ท่องเที่ยวสไตล์ใหม่ ใส่ใจธรรมชาติ เรียนรู้การเกษตร อินเทรนด์กับร้านต้นไม้ เอนกายพักผ่อนโฮมสเตย์ริมคลอง ชิมของอร่อยที่ตลาดริมน้ำ อิ่มหนำกับเบเกอรี่และเครื่องดื่มที่คาเฟ่ดอกไม้ในสวน . หากขับรถมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือของกรุงเทพมหานคร ราว 40 กว่ากิโลเมตร ใช้เวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ก็เข้าสู่ จังหวัดปทุมธานี หนึ่งในห้าจังหวัดปริมณฑลที่ตั้งอยู่ชิดติดขอบเมืองกรุง บนพื้นที่ราบลุ่มริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม้ความศิวิไลซ์ได้หลั่งไหลเข้าสู่พื้นที่อย่างต่อเนื่อง จนทำให้ปทุมธานีกลายเป็นศูนย์กลางด้านการศึกษา วิจัย และพัฒนาทาง เทคโนโลยีและอุตสาหกรรม แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพื้นที่สีเขียว เรือกสวนไร่นาของชาวบ้านอันหนาแน่นไปด้วย พืชผักผลไม้นานาชนิด และวิถีชีวิตของชุมชนริมฝั่งคลองที่สัมผัสได้ถึงท่วงทำนองของการดำเนินชีวิตอันเรียบง่าย ฉายให้เห็นเสน่ห์ที่ซุกซ่อนอยู่ในจังหวัดเล็กๆ แห่งนี้ ซึ่งผสานความเป็นเมืองและความเป็นชนบทเอาไว้ได้อย่างสมดุล . สำหรับสายเที่ยวรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ชื่นชอบธรรมชาติด้วยแล้ว เราเชื่อว่าปทุมธานีมีสิ่งดี ๆ ให้คุณแอบหลงรัก เราจึงอยากชวนคุณมาทำความรู้จักกับ 12 สถานที่ ดีต่อใจในจังหวัดปทุมธานี นอกจากจะได้ท่องเที่ยว อย่างสบายใจแล้ว ยังได้เก็บเกี่ยวความรู้มากมายระหว่างการเดินทางอีกด้วย จะเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับ หรืออยู่พักสัก 2 วัน 1 คืน ให้ชื่นมื่นหัวใจ ได้อ้อยอิ่งใช้ชีวิต ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ก็บอกได้เลยว่าเพลิดเพลินเกินคาดเลยทีเดียว Florista Café and Eatery จิบชาท่ามกลางมวลหมู่ดอกไม้ในสวนสวยสไตล์อังกฤษเอาใจสาวๆ ที่ชื่นชอบดอกไม้ หลงใหลการนั่งคาเฟ่ ด้วยบรรยากาศสวนที่รายล้อมไปด้วยดอกไม้นานาชนิด ตัวร้านตกแต่งสไตล์อังกฤษ ตัวอาคารสร้างด้วยอิฐสีขาวหลังคาสีเทา มีห้องเล็กบนหลังคาสีฟ้าหม่น หน้าต่างเป็นกระจกบาน ใหญ่อยู่รอบตัวร้าน ด้านหน้ามีสนามหญ้าที่ตกแต่งด้วยน้ำพุ จัดวางด้วยรูปปั้นเจ้าหญิงน้อยๆ ไว้คอยต้อนรับลูกค้า เมื่อเข้ามาภายในร้าน เพดานที่สูงโปร่งกับตัวร้านที่กว้างขวางทำให้รู้สึกโล่งสบาย มีดอกไม้ประดับประดาเรียงรายอยู่บนชั้นวางกลางโถงร้านเลยทีเดียว มุมสุดฮิตที่ใครมาก็ต้องถ่ายรูปคือ กำแพงขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยดอกไม้ประดิษฐ์สีชมพูหวานละมุนละไม ส่วนโซนด้านนอกที่เป็นแบบโอเพ่นแอร์ ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบเหมาะสำหรับคนที่ชอบนั่งรับลมชิลๆ ในสวนกับต้นไม้เขียวๆ มีน้ำตกและธารน้ำไหลเล็กๆ ให้รู้สึกเย็นสบาย Florista Café and Eatery เป็นทั้งคาเฟ่และร้านอาหาร ที่มีเมนูให้เลือกมากมายหลากหลายเชื้อชาติ ทั้งอาหารไทย อาหารฝรั่ง อาหารญี่ปุ่น สไตล์ฟิวชั่น น่าทานไปหมดทุกอย่างเลย ทางเรานั้นเลือกเป็นของทานเล่นอย่าง ชีสบอลมันม่วงชีสเยิ้มๆ กับมันม่วงเนื้อเนียนนุ่มละมุนละลายในปาก ตามมาด้วย ซีซาร์สลัด เฟตตูชินี่ขี้เมาทะเล รสชาติจัดจ้านกำลังดีมีปลาหมึก หอยแมลงภู่ กุ้งตัวใหญ่เบิ้ม ตบท้ายด้วยเมนูของหวานอย่าง เค้กช็อกโกแลตลาวา ...
05/03/2021
ปทุมธานี
อ่านเพิ่มเติม
เที่ยวแบบสายกรีนที่ปทุมธานี ตอนที่ 3
ท่องเที่ยวสไตล์ใหม่ ใส่ใจธรรมชาติ เรียนรู้การเกษตร อินเทรนด์กับร้านต้นไม้ เอนกายพักผ่อนโฮมสเตย์ริมคลอง ชิมของอร่อยที่ตลาดริมน้ำ อิ่มหนำกับเบเกอรี่และเครื่องดื่มที่คาเฟ่ดอกไม้ในสวน หากขับรถมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือของกรุงเทพมหานคร ราว 40 กว่ากิโลเมตร ใช้เวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ก็เข้าสู่ จังหวัดปทุมธานี หนึ่งในห้าจังหวัดปริมณฑลที่ตั้งอยู่ชิดติดขอบเมืองกรุง บนพื้นที่ราบลุ่มริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม้ความศิวิไลซ์ได้หลั่งไหลเข้าสู่พื้นที่อย่างต่อเนื่อง จนทำให้ปทุมธานีกลายเป็นศูนย์กลางด้านการศึกษา วิจัย และพัฒนาทาง เทคโนโลยีและอุตสาหกรรม แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพื้นที่สีเขียว เรือกสวนไร่นาของชาวบ้านอันหนาแน่นไปด้วย พืชผักผลไม้นานาชนิด และวิถีชีวิตของชุมชนริมฝั่งคลอง ที่สัมผัสได้ถึงท่วงทำนองของการดำเนินชีวิตอันเรียบง่าย ฉายให้เห็นเสน่ห์ที่ซุกซ่อนอยู่ในจังหวัดเล็กๆ แห่งนี้ ซึ่งผสานความเป็นเมืองและความเป็นชนบทเอาไว้ได้อย่างสมดุล สำหรับสายเที่ยวรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ชื่นชอบธรรมชาติด้วยแล้ว เราเชื่อว่าปทุมธานีมีสิ่งดี ๆ ให้คุณแอบหลงรัก เราจึงอยากชวนคุณมาทำความรู้จักกับ 12 สถานที่ ดีต่อใจในจังหวัดปทุมธานี นอกจากจะได้ท่องเที่ยว อย่างสบายใจแล้ว ยังได้เก็บเกี่ยวความรู้มากมายระหว่างการเดินทางอีกด้วย จะเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับ หรืออยู่พักสัก 2 วัน 1 คืน ให้ชื่นมื่นหัวใจ ได้อ้อยอิ่งใช้ชีวิต ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ก็บอกได้เลยว่าเพลิดเพลินเกินคาดเลยทีเดียว หมู่บ้านไม้ดอกไม้ประดับคลอง 15 เพลิดเพลินเดินจับจ่าย ต้นไม้ดอกไม้ไว้ตกแต่งบ้านเรียกว่าเป็นอาณาจักรของคนรักต้นไม้เลยก็ว่าได้ สำหรับเส้นทางสายดอกไม้ระยะทางยาวกว่า 8 กิโลเมตร ภายใน หมู่บ้านไม้ดอกไม้ประดับคลอง15 ตั้งอยู่บนถนนรังสิต-นครนายก ไปทางอำเภอธัญบุรี เขตติดต่อปทุมธานีและนครนายก ด้วยเนื้อที่ทั้งหมดกว่า 900 ไร่ สองฝั่งถนนที่มุ่งตรงเข้าไปเรียงรายไปด้วยร้านรวงที่จำหน่ายพันธุ์ไม้นานาชนิด ทั้งไม้ดอก ไม้ประดับ พืชสวนครัว สมุนไพรไทย บอนไซ ไม้ถัก ไม้ล้อม ไม้หอม ไม้มงคล ฯลฯ ทั้งขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ ของครอบครัวชาวเกษตรกรกว่า 500 ครัวเรือน ให้คุณเดินเลือกอย่างจุใจ ซึ่งนับได้ว่าเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเลยทีเดียว ส่วนคนชอบจัดสวนหรือตกแต่งบ้าน ที่นี่ก็มีร้านจำหน่ายอุปกรณ์ต่างๆ อาทิ ตุ๊กตาปูนปั้น ตุ๊กตาไม้แกะสลัก โต๊ะเก้าอี้ตั้งในสวน กระถาง ตะกร้า โมบาย รั้วระแนง ไปจนถึงน้ำตกและน้ำพุ เรียกได้ว่าครบจบในที่เดียว ก็ได้สวนสวยๆ มาไว้ที่บ้านเลย ที่ตั้ง: คลอง ...
05/03/2021
ปทุมธานี
อ่านเพิ่มเติม