หากมีวันหยุดสั้น ๆ แล้วอยากไปเที่ยวพักผ่อนเปลี่ยนบรรยากาศ แถบภาคเหนือ แอดเชื่อว่า #เชียงใหม่ เป็นตัวเลือกแรก ๆ ของใครหลายคน แต่ก็มีหลายคนที่ไปบ่อยเสียจนไม่รู้จะไปเที่ยวมุมไหนอีก วันนี้แอดขอชวนเพื่อน ๆ ไปเที่ยวแบบเมียง ๆ กันค่ะ
อ๊ะ… เพื่อน ๆ อย่าเพิ่งแย้งว่าแอดเขียนผิดนะ คำว่า “เมียง” ในภาษาเหนือ แปลว่า “เมือง” นั่นแหละ แต่แอดจะพาไปเที่ยวแบบเมียง ๆ หรือ เมือง ๆ ยังไง ตามไปดูกัน 🥰
- Day 1
- ชุมชนบ้านลวงเหนือ ชุมชนไทลื้อ
- บ้านสวนพอเพียงทรัพย์ทองศรี
- วัดศรีมุงเมือง
- สวนตุ๊กตาไม้นายโถ
- เฮือนหอมยาท้องนางาม
- ศูนย์การเรียนรู้ภูมิปัญญาไทยไตลื้อ บ้านใบบุญ
- Day 2
- ทุ่งนาใต้ฟ้าเมืองลวง
- MOOHomeMade Cafe
- MARS.cnx
- Ristr8to (ริสเทรตโต้)
- กาดต้นพยอม
วันแรก เราเริ่มกันที่ “ชุมชนบ้านลวงเหนือ ชุมชนไทลื้อ” หมู่บ้านของชาวไทลื้อที่ยังรักษาวิถีชีวิตของตัวเองไว้ได้อย่างน่าชื่นชม ชุมชนนี้อยู่ใกล้ตัวเมืองเชียงใหม่เพียงแค่ขับรถไป 30 นาทีเท่านั้นเอง เพื่อน ๆ ที่สนใจจะมาเที่ยวที่นี่ แอดแนะนำให้ซื้อแพ็คเกจล่วงหน้านะ เพื่อที่เราจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมไทลื้อที่ทางชุมชนจัดให้อย่างเต็มที่
ทันทีที่มาถึง ไกด์ชุมชนก็ออกมาต้อนรับและพาไปที่ “ศูนย์การเรียนรู้ภูมิปัญญาไทยไตลื้อ บ้านใบบุญ” โดยจะมีแม่ ๆ ย่า ๆ มาคอยฮับต้อนย้อนวิถี ผูกข้อไม้ข้อมืออวยพร พรมน้ำขมิ้นส้มป่อย และเสิร์ฟเวลคัมดริงค์ที่เป็นสมุนไพรอย่างใบเตย กระเจี๊ยบให้พวกเรา
https://goo.gl/maps/swjrX87Hab6ZrRtE6
จากนั้นจะเป็นการเล่าประวัติความเป็นมา ผ่านบทซอของชาวไทลื้อ มีการสอนให้ร้องตามพอสนุก ๆ ด้วยนะ ซึ่งภาษาเหนือสำเนียงไทลื้อ ก็จะต่างจากสำเนียงเชียงใหม่ แบบที่ฟังแล้วคนไทลื้อด้วยกันจะรู้เลยล่ะ
หลังจากหัดซอขับซอกันพอสมควร ก็ไปแอ่วเฮือนเยือนผญา ที่นี่จะมีการสาธิตปั่นฝ้าย ทอผ้าแบบไทลื้อ และจัดแสดงเครื่องใช้ไม้สอย รวมทั้งเครื่องมือทำมาหากินในอดีตของชาวไทลื้อ ให้นักท่องเที่ยวได้พอเห็นภาพการใช้ชีวิตของชาวไทลื้อ
แป๊บเดียวก็เที่ยงแล้ว แน่นอนว่ามื้อเที่ยงวันนี้เป็นอาหารไทลื้อ สำรับของเราประกอบไปด้วย ผัดไทไตลื้อ โสะบ่าก้วยเต้ด (ตำมะละกอใส่ขิงแบบไตลื้อ) น้ำสมุนไพร ขนมวง ข้าวจี่ ไข่ป่าม ข้าวแคบ อร่อยดีทีเดียว
จากนั้น ไกด์ก็พาไปต่อที่ “บ้านสวนพอเพียงทรัพย์ทองศรี” ที่เน้นวิถีความพอเพียงของคนไตลื้อ มีกิจกรรมปลูกผักผลไม้ เลี้ยงไก่ บรรยากาศดีมาก เหมาะกับทั้งเรียนรู้และเดินเล่นเพลิน ๆ เลยล่ะ
จุดต่อไปคือ “วัดศรีมุงเมือง” ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญของชุมชน
วัดศรีมุงเมือง สร้างโดยพระเจ้าสามฝั่งแกน เมื่อ พ.ศ. 1954 เป็นวัดเก่าแก่ที่งดงาม และเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวไทลื้อ ภายในวัดมีเจดีย์เก่าแก่ และมีวิหารไทลื้อที่ได้ชื่อว่างามที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ
ในหมู่บ้านลวงเหนือ นอกจากวัดศรีมุงเมืองแล้วยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อันเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวชุมชนอีกแห่ง นั่นคือหลักใจกลางหมู่บ้าน (เสื้อบ้าน) ที่จารึกวันเดือนปีที่สร้างหมู่บ้านไว้ว่าคือ วันเสาร์ที่ 3 เม.ย. พ.ศ. 1932 เป็นหลักฐานที่ยืนยันว่า มีหมู่บ้านและชุมชน ณ ที่นี้มามากกว่า 600 ปีแล้ว
ต่อไปเป็นกิจกรรมสนุก ๆ ที่คนชอบงานฝีมือน่าจะชอบ ไกด์พาเราไปที่ “สวนตุ๊กตาไม้นายโถ” ซึ่งอยู่ห่างจากวัดศรีมุงเมืองประมาณ 500 เมตร มีตุ๊กตาไม้แบบไทลื้อหน้าตาน่ารักเต็มไปหมด นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาสนุกกับการระบายสีบนตุ๊กตาและนำกลับไปเป็นที่ระลึกได้
หลังจากเดินชมหมู่บ้านและแวะเวียนทำกิจกรรมมามาเกือบทั้งวัน เหมือนไกด์จะรู้ใจว่าต้องมีเหนื่อยกันบ้าง จุดหมายต่อไปจึงเป็น “เฮือนหอมยาท้องนางาม” เรือนนี้ให้บริการอบสมุนไพรและทำสปาเท้า แค่เดินเข้ามาก็รู้สึกผ่อนคลายแล้ว เราสามารถขอคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ได้เลยว่า ควรใช้สมุนไพรอะไรดี สำหรับแอด แอดเลือกสปาเท้าด้วยเกลือสมุนไพร ผ่อนคลายดีจริง ๆ
https://goo.gl/maps/xx4f7QF1sT39UwG67
ปิดท้ายวันด้วยมื้อเย็นที่ “ศูนย์การเรียนรู้ภูมิปัญญาไทยไตลื้อ บ้านใบบุญ” มื้อนี้เป็นการกินแบบ “กาดมั่วคัวลื้อ” โดยแม่ครัวแต่ละคนจะทำอาหารเมนูเด็ดของตัวเองกันมา ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกตักรับประทานแบบบุฟเฟต์ ทั้งยำมะเขือยาวออร์แกนิกใส่กุ้ง แกงผักปลังจิ้นส้ม ข้าวเงี้ยว ข้าวจี่ ไข่ป่าม และเครื่องดื่มสมุนไพร แต่หากกลุ่มนักท่องเที่ยวมีไม่ถึง 10 คน ทางชุมชนจะจัดเป็นขันโตกมาให้แทน นอกจากจะเป็นมื้อเย็นที่เอร็ดอร่อยแล้ว ยังมีโฟล์คซองเพลงลื้อและการขับร้องฟ้อนรำขับกล่อมพวกเราไปจน 20.30 น. เลย
https://goo.gl/maps/5wQiKasRVrTJut9k7
วันที่ 2
เริ่มวันใหม่ด้วยมื้อเช้าที่ “ทุ่งนาใต้ฟ้าเมืองลวง” (ทุ่งนาฟ้ากว้าง) ที่เน้นไปที่การตกปลา เก็บไข่เป็ด เก็บผัก เก็บหน่อไม้ มาทำเป็นอาหารเช้า ก่อนจะนำเศษอาหารกลับไปทำปุ๋ยอีกครั้ง เป็นวิถีธรรมชาติที่น่าประทับใจมาก เรียกว่าประทับใจจนนาทีสุดท้าย ก่อนจะบอกลาเมืองลวงเหนือกลับเข้าเมืองเชียงใหม่เลยทีเดียว
https://g.page/Fakwangfield?share
กิจกรรมฐานการเรียนรู้ทุ่งนาฟ้ากว้าง
รายละเอียดกิจกรรม
หากสนใจเที่ยวแบบแพคเกจ รวมที่พัก อาหาร และบริการต่าง ๆ ราคาเริ่มต้นที่ประมาณคนละ 1,500 บาท (แนะนำให้ติดต่อล่วงหน้าประมาณ 1 สัปดาห์)
หากเข้ามาเที่ยวแบบ Walk in ก็สามารถเข้ามาได้ เพียงแต่จะไม่เห็นชาวชุมชนใส่ชุดไทลื้อ แต่นักท่องเที่ยวสามารถเลือกกิจกรรมตามความสนใจได้ โดยมีค่าบริการแต่ละกิจกรรม ดังนี้ กิจกรรมต้อนรับ แอ่วเฮือนเยือนผญา กลุ่มละ 500 บาท ค่าวิทยากรเรียนรู้ ฐานละ 400 บาท ค่าเรียนการทำอาหารเช้า คนละ 100 บาท เป็นต้น
หลังจากเที่ยวแบบเมียง ๆ มาแล้ว เราไปเที่ยวแบบเมือง ๆ กันบ้างดีกว่า เชียงใหม่เป็นเมืองที่มีร้านของว่าง ร้านขนมหวาน ร้านกาแฟใหม่ ๆ เกิดขึ้นอยู่เรื่อย ๆ แวะชิมกันสนุกสนานเลยล่ะ คราวนี้แอดเองก็มีร้านมาแนะนำอยู่ 3-4 ร้าน มีทั้งร้านใหม่ที่อยากให้ลอง และร้านเด็ดที่ไม่อยากให้พลาด ลองเลือกดูตามสไตล์ใครสไตล์มันได้เลย
MOOHomeMade Cafe
ร้าน MOOH (อ่านว่า หมู) เป็นร้านเบเกอรีที่ขายโดนัทแบบบอมโบโลนี มีไส้ต่าง ๆ ให้เลือกหลายไส้ เป็นร้านเล็ก ๆ น่ารัก อยู่ในนิมมานเหมินทร์ ซอย 15 (อยู่ห่างจากสนามบินประมาณ 5 กิโลเมตร)
- จุดเด่นของร้านนี้อยู่ที่แป้งที่มีความเหนียว นุ่ม และทอดสดใหม่ทุกวัน โดยมีเมนูเด่น ๆ คือ
- Creame brulee donut (เป็น signature ของร้าน) ราคา 65 บาท
- Black Charcoals Banana Cream ราคา 69 บาท
- Strawberry shortcake ราคา 69 บาท
- Lemon Almond crumble ราคา 65 บาท
สำหรับผู้สนใจ แอดแนะนำให้สั่งล่วงหน้า 1 วันผ่านทางเพจของทางร้าน หรือทางโทรศัพท์ เพราะโดนัทของร้านนี้จะหมดไวมาก (บางวันยังไม่ทันจะเที่ยงก็หมดแล้ว)
- 25/8 ถนนนิมมานเหมินทร์ ซอย 15 ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่, 50200
- เปิดทุกวันเวลา 07.30 – 12.00 น. หยุดทุกวันพุธ
- เบอร์โทรศัพท์ : 06 2592 4259, 08 5339 2423
- Facebook: moohomemade
MARS.cnx
ถ้าอยากได้รูปสวย ๆ ชนิดที่อัพลงโซเชียลแล้วมีคนทักกันเกรียวว่าที่ไหนละก็ แอดขอแนะนำร้าน MARS.cnx (อยู่ไม่ไกลจากสนามบินและร้าน MOOHomemade Cafe)
ร้านตั้งอยู่ฝั่งคูเมืองด้านใน เยื้องกับศูนย์โรงพยาบาลเชียงใหม่ราม เป็นร้านที่ตกแต่งได้บรรยากาศความ futuristic มาก จำลองประมาณว่าอยู่บนดาวอังคาร มีความแหวกแนวสุด ๆ
ภายในร้านมีมุมน่าสนใจหลายมุม ใครชอบถ่ายรูป รับรองว่าต้องถูกใจ กาแฟ Signature ของร้าน ได้แก่ MARS (Dirty Coffee), BLACK HOLE (Chacoal, Premium Milk, Coffee) เรียกว่าคุมคอนเซ็ปท์อวกาศดาวอังคารตั้งแต่การตกแต่งไปจนถึงการตั้งชื่อเมนูกาแฟทีเดียว
สำหรับคนที่ไม่ดื่มกาแฟ ก็มีอีก 2 เมนู Signature ของร้านให้เลือก คือ NEBULAA และ GLOBAL WARMING ที่ช่วยเรียกความสดชื่นให้ได้เป็นอย่างดี ใครที่ชอบแนวนี้ก็ Mars ให้ได้นะ!!
- ถนนอารักษ์ ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
- เปิดทุกวัน เวลา 09.00-18.00 น.
- โทร. 09 1092 9999
- Facebook : https://www.facebook.com/MARScnx/
Ristr8to (ริสเทรตโต้)
สำหรับสายกาแฟจริงจัง อยากได้กาแฟดี ๆ แอดแนะนำร้านนี้เลย Ristr8to เปิดมา 10 ปีแล้ว และได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในร้านกาแฟที่ดีที่สุดของ จ.เชียงใหม่อีกด้วย
ปัจจุบัน Ristr8to มี 3 สาขาและมีโรงคั่วกาแฟของตัวเอง ร้าน Ristr8to ใช้เมล็ดกาแฟคุณภาพดีจากทั่วทุกมุมโลก นำมาคั่วบด และชงอย่างประณีต รวมทั้งใส่ใจเลือกใช้แก้วให้เหมาะกับกาแฟแต่ละแก้วแต่ละเมนูอย่างพิถีพิถัน ยิ่งใครชอบกาแฟลาเต้ แอดแนะนำอย่างยิ่ง เพราะเจ้าของร้านเขามีดีกรีเป็นถึงผู้ชนะในรายการ World Latte Art Champion 2017 ทีเดียว
- 15/3 ถนนนิมมานเหมินทร์ ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
- เปิดทุกวัน เวลา 07.00-16.00 น.
- เบอร์โทรศัพท์ : 053 215 278, 09 9419 4653
- Facebook : https://www.facebook.com/Ristr8to/
ก่อนกลับ อย่าลืมภารกิจของฝากกันล่ะ แอดขอแนะนำ “กาดต้นพยอม” ตลาดขนาดกลาง ไม่เล็กไม่ใหญ่ อาหารอร่อย ราคาไม่แพง รถไม่ค่อยติด และที่สำคัญอยู่ห่างจากสนามบินประมาณ 7 กิโลเมตรเท่านั้น
ที่กาดต้นพยอม มีทั้งส่วนตลาดสดและตลาดของฝาก จึงเป็นตลาดที่เราจะได้เจอชาวเชียงใหม่มาจับจ่าย ซื้อหาอาหารสดและปรุงสำเร็จไปรับประทาน ในส่วนของฝากนั้น ก็มีให้เลือกครบครัน ทั้งผลไม้ตามฤดูกาล อาหารปรุงสำเร็จ น้ำพริก ไส้อั่ว แคบหมู อาหารบรรจุแพ็คสุญญากาศ หรือแม้แต่เสื้อผ้าพื้นเมือง ซึ่งแต่ละร้าน จะมีบริการแพ็คสินค้าลงกล่อง เพื่อการเดินทางขึ้นเครื่องบิน หรือเพื่อส่งไปรษณีย์ อีกด้วย
- ถนนสุเทพ ทางเข้ากองบิน 41 ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
- เปิดทุกวัน เวลา 05.00-20.00 น.