![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/1053/1615350865_130285605_4772141202857922_6921948622057746268_o.jpg)
หลังจากผ่านขั้นตอนการเข็นฝ้ายไปแล้ว คุณยายจะพาไปทำอะไรต่อ ติดตามกันได้เลย
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/1053/1615351033_130100958_4772143309524378_7831217240856621325_o.jpg)
ตั้งหม้อคราม
สิ่งหนึ่งที่ฉันค่อยๆสัมผัสระหว่างนั่งชมแม่ๆยายๆทั้งเข็นทั้งทอฝ้ายให้ชมคือความอบอุ่นในครอบครัว ที่ทุกคนต่างมาช่วยกันในทุกๆกระบวนการ ซึ่งระหว่างที่กำลังสาธิตการเข็นฝ้าย สามีพี่รุณณีก็ง่วนอยู่กับการตัดใบมะม่วง และเตรียมส่วนผสมไว้ตั้งหม้อคราม ส่วนลูกสาวก็ช่วยตั้งไฟเตรียมต้มน้ำสำหรับย้อมร้อน ท่ามกลางเสียงหัวเราะและยิ้มแย้มกันตลอดเวลา อดรู้สึกไม่ได้ว่าผ้าครามบ้านนี้ต้องมีความรักเป็นส่วนผสมด้วยแน่ๆ
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/1053/1615351068_130583662_4772143429524366_8518193579119345267_o.jpg)
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/1053/1615351077_129961147_4772143246191051_3046199303302719594_o.jpg)
พี่รุณณีอธิบายเรื่องการย้อมให้ฟังว่ามีทั้งแบบย้อมร้อน และย้อมเย็น ซึ่งการย้อมร้อนของพี่รุณณีใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติในการย้อมทั้งหมด และเน้นเฉพาะส่วนใบ ดอก ผล ที่จะไม่ไปทำลายต้นไม้หรือไปตัดโค่น ซึ่งพืชอื่นที่นำมาย้อมก็เช่น ใบมะม่วง กาบมะพร้าวน้ำหอม ผลกระบก ใบสัก ใบยูคาลิปตัส ประดู่ ผลคำแสด ใบสาบเสือ ใบขี้เหล็ก ฯลฯ เอามาต้มโดยอาจจะเติมปูนแดง หรือสารส้ม และเกลือเข้าไปเพื่อช่วยดึงสีสันและติดคงทนกับเส้นฝ้าย
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/1053/1615351096_130605816_4772144179524291_3026585998391223715_o.jpg)
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/1053/1615351100_129939001_4772143942857648_7515685568680289014_o.jpg)
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/1053/1615351108_130059992_4772143996190976_90362472172469772_o.jpg)
ส่วนการย้อมครามจัดเป็นการย้อมเย็น พี่รุณณีเล่าว่าสมัยก่อนในหนึ่งหม้อครามมี 3 รสถึงจะกลมกล่อม คือ เปรี้ยวจากมะขาม หวานจากกล้วยหรือน้ำตาล และเค็มจากน้ำขี้เถ้า ส่วนสูตรของพี่รุณณีมีส่วนผสมของเนื้อคราม ปูนแดง น้ำขี้เถ้า เอามาขยำๆผสมกัน จากนั้นย้ายลงหม้อ ตามด้วยน้ำมะขามเปียกที่ต้มมาเดือดๆ เทตามลงไป จากนั้นใช้ขัน ตักน้ำเทออกไปเรื่อยๆ หรือเรียกว่าโจกคราม แค่ 5-10 นาที ก็จะขึ้นฟอง ส่วนน้ำครามจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองสด ซึ่งช่วงนี้พี่รุณณีเอ่ยปากชมตลอดว่าสีสวยมาก จากนั้นก็ปิดฝา ทิ้งให้เย็น นี่แหละการตั้งหม้อคราม
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/1053/1615351128_130249867_4772144562857586_8687305930151127596_o.jpg)
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/1053/1615351133_130255380_4772144852857557_4502331334826486080_o.jpg)
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/1053/1615351137_130604829_4772145016190874_4582212775344464128_o.jpg)
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/1053/1615351149_130817605_4772145346190841_353764617464292323_o.jpg)
เดี๋ยวก่อนนน! มีหม้อครามแล้วไม่มีผ้าย้อมครามได้ไง หลังจากคุณยายสอนฉันทอผ้าจนอ่อนใจ เพราะกว่าจะพุ่งได้แต่ละเส้นต้องลุ้นไม่แพ้วันหวยออก พี่รุณณีเลยชวนมาพับผ้ามัดย้อมกันระหว่างรอหม้อย้อมเย็นและย้อมร้อนได้ที่ ซึ่งก็ไม่ต้องเน้นทฤษฎี เราเน้นตามใจชอบ แต่พี่รุณณีก็จะคอยไกด์ว่าอยากได้ลายยังไง แกก็จะบอกให้ลองมัดแบบนั้นแบบนี้ จากนั้นก็นำไปจุ่มน้ำและเอาไม้ตีให้น้ำเข้าเส้นใย เสร็จแล้วเอาลงไปขยำๆ อยากได้เข้มๆก็แช่ไว้ โดยเฉพาะย้อมร้อนด้วยใบมะม่วงที่พี่รุณณีสาธิตด้วยใจฝ้าย พอยกขึ้นมาได้สีเหลืองอมเขียว สวยมากๆ จากนั้นก็นำไปผึ่งให้แห้ง รอชื่นชมผลงาน
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/1053/1615351170_130912196_4772145572857485_4934800681700562991_o.jpg)
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/1053/1615351174_130272941_4772145612857481_8265910802854714778_o.jpg)
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/1053/1615351199_130084866_4772145949524114_6680057042467771920_o.jpg)
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/1053/1615351212_130287282_4772146316190744_3540880194601836211_o.jpg)
ถนนผ้าคราม
หลายคนเรียกที่นี่ว่า ถนนผ้าคราม เป็นกิจกรรมถนนคนเดินที่จัดทุกเย็นวันเสาร์-อาทิตย์ แต่ถึงจะมาในวันธรรมดา ถนนสายนี้ก็มีร้านจำหน่ายผ้าย้อมครามสกลนคร เรียงรายอยู่หลายร้าน เพียงแต่ถ้าเป็นวันหยุดจะมีร้านรวงอื่นๆ และกิจกรรมพิเศษให้ชม ซึ่งหลังจากที่เราทำกิจกรรมย้อมครามกันมาทั้งวัน พี่รุณณีก็ใจดีขับรถพาฉันเข้าเมืองมาเดินเล่นผ่อนคลายซักหน่อย
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/1053/1615351225_130534822_4772146542857388_8153636001397576083_o.jpg)
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/1053/1615351232_130541152_4772146749524034_4682770378818961980_o.jpg)
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/1053/1615351253_130252680_4772146782857364_6742196944315173987_o.jpg)
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/1053/1615351262_130125532_4772147309523978_1954213829260990533_o.jpg)
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/1053/1615351269_129976749_4772147602857282_1578254684606494865_o.jpg)
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/1053/1615351286_130006755_4772147679523941_2482506233681594396_o.jpg)
ถนนผ้าครามสายนี้อยู่ด้านหน้าวัดพระธาตุเชิงชุม เราจึงแวะสักการะพระธาตุเชิงชุมเพื่อความเป็นสิริมงคลก่อน จากนั้นพวกเราก็เดินเล่นชมบรรยากาศกันไปเรื่อยๆ ซึ่งตามตรอกซอกซอยก็ยังมีหลายบ้านที่ตั้งหม้อย้อมครามกันแบบเล็กๆ น่ารัก เป็นสังคมคนทำผ้าย้อมครามที่อบอุ่น พี่รุณณีเดินไปทางไหนก็ทักทายทุกคนทุกร้าน ส่วนฉันเอง ก็อดไม่ได้ที่จะแวะดูเสื้อผ้าย้อมคราม รวมทั้งกระเป๋า และพวกเครื่องประดับต่างๆ เรียกว่าได้แต่งตัวผู้ไทมาโพสต์ท่าสวยๆ โดดเด่นกันกลางถนน แล้วยังได้ซื้อผ้าครามแท้ๆ จากสกลนครกลับบ้านไปด้วย
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/1053/1615351299_130707192_4772148112857231_5779219592274189347_o.jpg)
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/1053/1615351310_130076085_4772148452857197_3583417454659103427_o.jpg)
ย้อมครามด้วยใจ
เป็นเช้าที่เต็มใจตื่นแต่ฟ้ายังไม่สว่างหลังจากนอนหลับสบายในโฮมสเตย์กับเสียงฝนพรำๆ อีกกิจกรรมห้ามพลาดเมื่อมาพักกับพี่รุณณีก็คือการใส่บาตรข้าวเหนียว ซึ่งพระท่านจะออกจากวัดมาบิณฑบาตรตั้งแต่ก่อนหกโมงเช้าซะอีก เช้านี้เราแต่งตัวชุดผู้ไทกันอีกรอบ (แต่ใส่ชุดนี้มาหนึ่งวันสังเกตได้ว่าใส่สบายไม่ร้อนเลย) มารอพระที่หน้าประตูวัดโนนสวรรค์ วัดประจำชุมชน ไม่นานก็มีพระเดินเรียงแถวออกมา ซึ่งชาวบ้านก็จะใส่ข้าวเหนียวในบาตรอย่างเดียว ส่วนกับข้าวเขาเอาไปถวายกันต่างหากที่วัด จัดรวมเป็นสำรับกับข้าวพร้อมถวาย จากนั้นก็รับพร กรวดน้ำ หิ้วตะกร้ากลับบ้านแบบอิ่มบุญกันถ้วนหน้า
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/1053/1615351330_130034122_4772148512857191_3454150131488681965_o.jpg)
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/1053/1615351334_130127546_4772149029523806_29992080356535247_o.jpg)
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/1053/1615351343_130269787_4772148992857143_1927351532571638923_o.jpg)
เช้านี้พี่สาวพี่รุณณีทำกับข้าวให้กินทั้ง ลาบหอยเชอร์รี่ ผัดผักบุ้ง แกงหวาย แกงเห็ด หมูย่าง พร้อมข้าวเหนียวกระติ๊บใหญ่ สำหรับนั่งล้อมวงกินข้าวกันพร้อมหน้า
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/1053/1615351355_130288065_4772149696190406_4756669520702832287_o.jpg)
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/1053/1615351363_130599961_4772150029523706_6984613821651733092_o.jpg)
แต่ก่อนจะลงมือ พี่รุณณีกับคุณยายส่งข้าวเหนียวหนึ่งกำมือและไข่ต้มหนึ่งฟองมาให้ฉันถือไว้ คุณยายจับสายสิญจ์มาผูกข้อมือพร้อมอวยพรด้วยสำเนียงผู้ไท ชวนให้รู้สึกขลังมากๆ ตามด้วยพี่รุณณีที่ผูกข้อมือฉันอย่างบรรจง พร้อมคำอวยพรมากมายที่มองเข้ามาที่ตาฉันตรงๆ ข้อความหนึ่งที่จะจำไม่ลืม “ถือว่าเราเป็นพี่เป็นน้องกันแล้วนะคะ” เป็นความรู้สึกที่ตื้นตันจริงๆ
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/1053/1615351381_129896487_4772150109523698_107923328685499697_o.jpg)
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/1053/1615351404_130252670_4772359036169472_3261988626055455290_o.jpg)
ถึงจะเป็นเพียง 1 คืนกับอีก 1 วันกว่าๆ ที่ได้มาเรียนรู้วิถีผ้าย้อมครามและฝ้ายเข็นมือ แต่ก็รู้สึกผูกพันกับพี่รุณณีและครอบครัวจริงๆ นั่งรถออกจากหมู่บ้านพี่รุณณีมา มองรูปในมือถือแล้วก็คิดว่า ผ้าน้ำเงินเข้มอาจจะย้อมด้วยคราม แต่คุณค่าแท้จริงอยู่ที่การย้อมด้วยใจ แล้วพบกันใหม่ค่ะพี่รุณณี
.
ครามรุณณี บ้านหนองไผ่ อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร เปิดทุกวัน ติดต่อจองทำกิจกรรมล่วงหน้า โทร. 089 569 8293 (พี่รุณณี)