เกาะเต่า – เกาะนางยวน เป็นอีกเกาะที่มีชื่อเสียงของจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นเกาะเล็ก ๆ กลางอ่าวไทย แต่กลับเป็นจุดมุ่งหมายยิ่งใหญ่ของคนรักทะเล เพราะไม่ว่าจะเป็นหาดทรายขาว ๆ น้ำทะเลใสแจ๋ว หรือแม้กระทั่งโลกใต้ทะเล ที่ถือว่าเป็นสวรรค์ของนักดำน้ำเลยก็ว่าได้
นอกจากความสมบูรณ์ของธรรมชาติแล้ว ที่นี่ยังได้ชื่อว่าเป็นชุมชนที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และมุ่งหวังให้เกิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนบนเกาะ ทั้งการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ดูแลสภาพแวดล้อมในท้องถิ่น ตั้งแต่บนพื้นดินจนไปถึงใต้ท้องทะเล
วันนี้แอดเลยอยากพาเพื่อน ๆ มาชมความสวยงามของเกาะเต่า – เกาะนางยวน พร้อมเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวที่เป็นส่วนนึงในการรักษาสิ่งแวดล้อมได้ง่าย ๆ ตามไปดูกันในโพสต์นี้เลย
- ก่อนเก็บกระเป๋าออกเดินทาง แอดอยากให้ลองเช็คมาตรการเข้าจังหวัดสักนิด โดยคลิกอ่านรายละเอียดตามลิงก์นี้ได้เลย
- https://www.facebook.com/1494662884151960/posts/3064906403794259 (ข้อมูล ณ วันที่ 4 สิงหาคม 2564)
- https://www.facebook.com/107117091320800/posts/218051950227313 (ข้อมูล ณ วันที่ 24 กรกฎาคม 2564)
- สำหรับใครที่ยังไม่พร้อมหรือยังไม่สะดวกเดินทาง สามารถอ่านได้จาก eBook จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ที่
- หรือสามารถดาวน์โหลดในรูปแบบ Application : Amazing Thailand eBook ได้ทั้งระบบ iOS และ Android ได้ที่
ถ้าพูดถึงเกาะเต่า จะไม่พูดถึงเกาะนางยวนก็ไม่ได้ เรามักจะได้ยินชื่อของสองเกาะนี้อยู่ด้วยกันบ่อย ๆ เพราะอยู่ใกล้กันเพียงแค่ 480 เมตรเท่านั้น เกาะนางยวนมีทั้งหมด 3 เกาะเล็ก เชื่อมกันระหว่างเกาะด้วยสันทรายสีขาว คล้าย ๆ ทะเลแหวก
โดยจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวที่นี่ ก็คือจุดชมวิวเกาะนางยวน เพราะจะเห็นเกาะนางยวนในมุมสูงชัดเจน นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นแหล่งดำน้ำชมปะการังยอดฮิตอีกแห่งนึง
จากเกาะเต่ามาเกาะนางยวนก็ง่ายดาย แค่เพื่อน ๆ ขึ้นเรือหางยาวมาจากท่าเรือแม่หาด หรือหาดทรายรี ใช้เวลาเดินทางแค่เพียง 20 นาทีก็จะถึงเกาะนางยวน
หาดทรายรี เป็นอีกหาดที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ด้วยความยาวหาดถึง 2 กิโลเมตร บวกกับความนุ่มละเอียดของเม็ดทราย ที่ทำให้เราเดินชมวิวได้เพลิน ๆ
ถึงแม้จะไม่เหมาะกับการลงเล่นน้ำเพราะมีหินเยอะ แต่ที่นี่คือแหล่งรวมความสะดวกบนเกาะเต่า เพราะมีร้านอาหาร ร้านนั่งชิลต่าง ๆ รวมไปถึงที่พักมากมายตลอดริมหาด
แต่เพื่อน ๆ รู้ไหมว่า เกาะเต่าไม่มีระบบน้ำประปา น้ำที่ใช้ได้มาจากน้ำฝนหรือน้ำบาดาลเท่านั้น น้ำที่นี่จึงมีค่ามาก หากเข้าพักที่เกาะเต่าก็ควรใช้น้ำเท่าที่จำเป็น แค่ประหยัดน้ำง่าย ๆ แต่เป็นการท่องเที่ยวแบบใส่ใจสิ่งแวดล้อมที่ยิ่งใหญ่อีกทางนึงนะ
ส่วนใครที่ต้องการความสงบ เป็นส่วนตัว แอดขอแนะนำให้มาที่ “หาดทรายนวล” ที่นี่ถือเป็นหาดที่เงียบสงบ เพราะการเดินทางมายังหาดที่ยากกว่าหาดอื่น ๆ ที่ต้องเดินเท้าเลียบริมหาดไปเรื่อย ๆ ทำให้อาจจะไม่ได้รับความนิยมเท่าไหร่นัก
แต่แอดรับรองเลยว่า ที่นี่เหมาะกับการหลบหนีความวุ่นวายอย่างแท้จริง เพื่อน ๆ สามารถใช้เวลานอนพักผ่อน ฟังเสียงคลื่น หยิบหนังสือสักเล่มมานอนอ่านริมหาดชิล ๆ หรือจะปิกนิกริมหาด เล่นน้ำ ดูปะการัง ก็ทำได้ตั้งแต่เช้าจนเย็น ปิกนิกเสร็จแล้ว
อย่าลืมเก็บขยะที่เรานำมากลับไปทิ้งด้วยนะ หรือหากเพื่อน ๆ ลดใช้พลาสติกได้ก็จะดีมาก ๆ จะได้ไม่เป็นการเพิ่มขยะพลาสติก และช่วยกันรักษาธรรมชาติของเกาะเต่าไว้ได้นาน ๆ
แอดขอพาเพื่อน ๆ มาชมวิวเกาะเต่ามุมสูงกันบ้างที่ “บลูเฮฟเว่น รีสอร์ท” หนึ่งในจุดชมวิวที่สวยที่สุดของเกาะเต่า
ที่นี่เป็นทั้งที่พักและร้านอาหาร ถึงแม้จะไม่ได้เข้าพักที่นี่ ก็สามารถขึ้นมาลิ้มรสอาหารใต้รสชาติอร่อย ๆ พร้อมชมวิวทะเลแบบ 180 องศา ที่แอดขอบอกเลยว่า ใครมาเกาะเต่าแล้วห้ามพลาดมุมนี้เด็ดขาด
อิ่มท้องแล้วเรามาทำกิจกรรมทางน้ำกันบ้างที่ “อ่าวโตนด” อ่าวที่ล้อมไปด้วยกองหินและภูเขาเขียวขจี ที่นี่เป็นเหมือนศูนย์กลางของคนที่รักกิจกรรมทางน้ำ เพราะที่นี่มีกิจกรรมให้เลือกทำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพายคายัก ขี่เจ็ทสกี และยังเหมาะกับการดำน้ำตื้น
เรียกได้ว่าเป็นอ่าวสวรรค์ของคนรักทะเลอีกอ่าวนึงเลยล่ะ รักทะเลแล้ว ก็อย่าลืม “รักษ์” ทะเลด้วยนะ
หากการดำน้ำตื้นที่อ่าวโตนดยังไม่จุใจ แอดขอแนะนำ “อ่าวม่วง” อ่าวขนาดใหญ่ที่มีแนวปะการังสวยงามอยู่ทั้งสองฝั่งของอ่าว
เป็นจุดมุ่งหมายยอดฮิตของนักท่องเที่ยวที่ต้องการดำน้ำตื้นชมปะการัง แต่ถ้าหากเพื่อน ๆ ยังอยากเห็นโลกใต้ทะเลมากกว่านี้ ที่นี่ยังเป็นแหล่งเรียนดำน้ำแบบ Scuba หลักสูตรเบื้องต้นอีกด้วย เพราะว่ามีคลื่นลมสงบ น้ำทะเลใส สภาพแวดล้อมที่เหมาะกับการเรียนที่สุด
ซึ่งโรงเรียนสอนดำน้ำในเกาะเต่า ยังยึดแนวทางการดำน้ำที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Fins) ในการสอน โดยเป็นการดำน้ำแบบที่ไม่รบกวนธรรมชาติ ไม่เกิดผลกระทบกับแนวปะการัง และสัตว์ทะเลอีกด้วย รับรองว่าเพื่อน ๆ จะเที่ยวอย่างปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อมสุด ๆ
เพื่อน ๆ คนไหนที่เรียนดำน้ำลึกกันแล้ว แอดขอพามาที่ “อ่าวหินวง” หนึ่งในจุดดำน้ำยอดนิยมของเกาะเต่า เพราะที่นี่เพื่อน ๆ จะได้ใกล้ชิดกับฝูงปลาข้างเหลืองได้อย่างง่ายดาย แถมยังมองเห็นได้ชัดเจนเพราะที่นี่น้ำใสแจ๋วเลยล่ะ
แต่ถ้าหากว่าเพื่อน ๆ คนไหนดำน้ำลึกไม่เป็นล่ะก็ ไม่ต้องเสียใจ เพราะว่าฝูงปลาเหล่านี้ว่ายน้ำไม่ลึก อยู่ที่ประมาณ 3 – 5 เมตรเท่านั้น จึงทำให้สามารถมองเห็นได้ง่าย ๆ จากผิวน้ำ แต่ไม่ว่าจะดำน้ำแบบไหน ก็อย่าไปสร้างความตกใจให้กับฝูงปลานะ ว่ายน้ำกับน้อง ๆ อย่างเป็นมิตรก็พอ
หรือหากเพื่อน ๆ คนไหนอยากดำน้ำพร้อมกับช่วยสิ่งแวดล้อมไปด้วย ที่เกาะเต่ายังมีโรงเรียนดำน้ำหลายแห่งที่เปิดสอนดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์แนวปะการัง จนไปถึงการดำน้ำเพื่อกำจัดขยะใต้น้ำเลยทีเดียว
มาเที่ยวเกาะเต่าทั้งที จะพลาดการว่ายน้ำกับเต่าที่ “อ่าวฉลาม” ไม่ได้ ที่นี่เป็นทั้งที่อาศัยของเต่าและสถานอนุบาลน้ำตื้นของลูกฉลามครีบดำ
ที่นี่ยังมีกิจกรรมปล่อยเต่ากลับคืนสู่ท้องทะเลทุก ๆ ปี เพื่อน ๆ จะมีโอกาสเจอเต่าทะเลได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องว่ายลงไปลึกเลยล่ะ เพราะเพียงแค่ลอยตัวอยู่ เพื่อน ๆ อาจจะเจอเต่าได้ง่าย ๆ ที่ความลึกเพียง 2 – 5 เมตรเท่านั้นเอง
นอกจากนี้อ่าวฉลามยังมีความอุดสมบูรณ์ของปะการัง และสัตว์น้ำอื่น ๆ ทั้งปลาการ์ตูน ปลาพยาบาล และดอกไม้น้ำทะเลอีกหลากหลายแบบมากมาย
ไฮไลท์ที่นักดำน้ำทุกคนต่างเฝ้ารอ และหวังว่าจะได้เจอสักครั้งเมื่อมาเยือนเกาะเต่า ก็คือ ฉลามวาฬ ซึ่งที่เกาะเต่านั้น โอกาสที่จะได้เจอฉลามวาฬมากที่สุด คือ บริเวณกองหินชุมพร
โดยเฉพาะช่วงปลายปีที่ถือเป็นช่วงที่ฉลามวาฬจะเข้ามาใกล้บริเวณเกาะเต่ามากที่สุด เป็นช่วงเวลาที่นักดำน้ำรอคอยจะได้มาเยือนที่นี่เลยล่ะ
และด้วยความสวยงามของธรรมชาติ ความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเล และความหลากหลายของสัตว์ทะเล ทำให้เกาะเต่าถือเป็นจุดมุ่งหมายอันดับต้น ๆ ของนักดำน้ำทั่วโลก
ถ้าเพื่อน ๆ อยากให้เกาะเต่าคงความสวยงามแบบนี้ตลอดไป ไปเที่ยวเมื่อไหร่ ก็อย่าลืมรักษาสิ่งแวดล้อม ไม่ทำลายธรรมชาติ เปิดมุมมองการท่องเที่ยวแบบรับผิดชอบ เพื่อให้เกาะเต่ายังคงเป็นสวรรค์ของคนรักทะเลต่อไป