เที่ยวสองวัน ณ เมืองสองแคว

Spread the love

คำว่า “สองแคว” มาจาก จ.พิษณุโลกนั้นตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำสองสายคือ แม่น้ำน่าน กับแม่น้ำแควน้อยนั่นเอง

เที่ยว สองวัน ณ เมือง สองแคว
ตัวอย่างเส้นทางท่องเที่ยวตามแบบเพื่อนร่วมทาง
.
วันแรก 
เช้า
– วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร
– ศาลสมเด็จพระนเรศวร
– ศูนย์ประวัติศาสตร์พระราชวังจันทน์
.
บ่าย
– นั่งชิงช้าบนต้นไม้รูปหัวใจ ที่บ้านสวนชมวิว บ้านรักไทย
– ชมวิวภูเขาหินปูนล้านปี อ.เนินมะปราง
– ชมค้างคาวนับล้านบินออกจากถ้ำ ที่บ้านมุง เนินมะปราง
– พักตัวเมืองพิษณุโลก
.
วันที่สอง
เช้า
– สักการะอนุสาวรีย์พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ อ.นครไทย
– ชมต้นจำปาขาว 700 ปี ที่วัดกลาง อ.นครไทย
– ล่องแพแก่งไฮ อ.นครไทย
.
บ่าย
– ร้านกาแฟ Sappraiwan Elephant Cafe
– เดินทางกลับ กทม

เริ่มต้นกันด้วยการมากราบสักการะบูชาพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของเมืองสองแควอย่าง พระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือที่ชาวเมืองพิษณุโลกเรียกกันว่า วัดใหญ่ หรือ วัดพระศรี 
.
พระพุทธชินราช เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงามที่สุดในประเทศ
.
ด้านหลังวิหารพระพุทธชินราชเป็นพระปรางค์ประธาน ศิลปสมัยอยุธยาตอนต้น เดิมเป็นเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์แบบสุโขทัยแท้ ต่อมาถูกแปลงให้เป็นพระปรางค์ในสมัยอยุธยา 
.
ถ้าเพื่อนๆ ไปอยุธยา กับลพบุรี แล้วยังนึกภาพพระปรางค์ที่สมบูรณ์แบบในอดีตไม่ออก ต้องมาดูที่นี้เลย

หลังจากไหว้พระคู่บ้านคู่เมืองสองแควกันแล้ว ก็อย่าลืมมาสักการะศาลสมเด็จพระนเรศวร ซึ่งในอดีตที่นี่เป็นสถานที่ประสูติของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และปัจจุบันกรมศิลปากรได้จัดสร้างศาลาทรงไทยโบราณตรีมุข โดยมีพระรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราชขนาดเท่าองค์จริง ประทับนั่งพระหัตถ์ทรงพระสุวรรณภิงคารหลั่งน้ำ ในพระอิริยาบถประกาศอิสรภาพที่เมืองแครง

ใกล้ๆกันอีกหนึ่งสถานที่ แนะนำเยี่ยมชมพระราชวังจันทน์
พระราชวังโบราณ เป็นสถานที่เสด็จพระราชสมภพของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและเป็นที่ประทับของพระองค์เมื่อทรงดำรงตำแหน่งอุปราช โดยในขณะนั้นเมืองพิษณุโลกมีฐานะเป็นเมืองหน้าด่านสำคัญของกรุงศรีอยุธยา 

นอกจากนี้ยังมีศูนย์ประวัติศาสตร์พระราชวังจันทน์ เป็นอาคารจัดแสดงเนื้อหาที่เกียวกับพระราชวังจันทน์ เมืองพิษณุโลก และพระราชประวัติของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

หลังจากไปเที่ยววัด เที่ยววังกันในช่วงเช้าแล้ว บ่ายๆแบบนี้ไปหาอะไรสนุกๆทำกันดีกว่า…ไปนั่งชิงช้าบนต้นไม้รูปหัวใจชมวิวสวยๆกัน

โดยจากตัวเมืองมุ่งหน้าสู่บ้านรักไทย อำเภอเนินมะปราง ชิงช้าต้นไม้ที่ว่านี้อยู่ที่บ้านสวนชมวิว หนึ่งในโฮมสเตย์ของบ้านรักไทย ที่ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มาพักโฮมสเตย์ก็สามารถไปนั่งชิงช้าชมวิวได้ นอกจากนั่งชิงช้าต้นไม้ยังมีกิจกรรมอื่นๆให้ทำ ไม่ว่าจะเป็น โหนสลิงโล้ชิงช้า หรือนั่งรถสามล้อพวงเที่ยวชมวิว ชมวิถีชีวิตชาวบ้านรักไทย

ถ้าอยากมาลองนั่งชิงช้าต้นไม้ชมวิวและทำกิจกรรมอื่นๆด้วย ติดต่อได้ที่ บ้านสวนชมวิวภูรักไทย หมู่บ้านรักไทย ต.ชมภู โทร. 087 207 5736, 061 368 1180

กิจกรรมอีกอย่างที่ห้ามพลาดเมื่อมาถึงอำเภอเนินมะปรางคือ ไปชมวิวภูเขาหินปูนล้านปี ที่บ้านมุง บอกเลยว่าภูเขาสวย อลังการมาก ถ้าให้ดีต้องลองนั่งรถอีแต๊กที่ชาวบ้านบริการหรือนำจักรยานมาปั่นเองในช่วงยามเย็น จะได้สัมผัสบรรยากาศพระอาทิตย์ตก และธรรมชาติที่สวยงามของบริเวณนั้น

หากใครอยากลองนั่งรถอีแต๊กชมภูเขาหินปูนล้านปี ติดต่อได้ที่ คุณพิษณุชัย ทรงพุฒิ โทร. 085 400 1727

จบการเดินทางของวันนี้ ด้วยการไปชมค้างคาวนับล้านบินออกจากถ้ำไปหากิน ตอนเวลาประมาณ 18.00 – 19.00 น. แอดมินแนะนำให้ไปตามพิกัดนี้เลย จะเห็นค้าวคาวและวิวภูเขาหินปูนล้านปีได้ชัดเจนที่สุด https://goo.gl/maps/DwAktRAZPQQ2 / พิกัด GPS 16°33’44.4″N 100°41’31.8″E

วันที่ 2
เดินทางมาสักการะอนุเสาวรีย์พ่อขุนบางกลางหาว ที่ อ.นครไทย
.
พ่อขุนบางกลางหาว หรือต่อมาคือ เป็นปฐมกษัตริย์แห่งกรุงสุโขทัย ทรงพระนามว่า “พ่อขุนศรีอินทราทิตย์” ซึ่งบ้านของพระองค์ก่อนจะเป็นกษัตริย์ เชื่อกันว่าอยู่ในบริเวณ อ.นครไทยนี้เอง
.
เพื่อเป็นการระลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์จึงได้มีการสร้างอนุเสาวรีย์พ่อขุนบางกลางหาวขึ้น
.
นอกจากนั้นยังมีมีต้นจำปาขาวเก่าแก่กว่า 700 ปี โดยมีอนุสาวรีย์พ่อขุนบางกลางหาวอยู่ใต้ต้นจำปาขาว ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเป็นต้นจำปาที่พ่อขุนบางกลางหาวปลูกไว้

สถานที่ถัดมา จะพาไปนั่งชิวๆ รับลมเย็นๆกลางอ่างเก็บน้ำกันกับกิจกรรม “ล่องแพแก่งไฮ” ที่อ่างเก็บน้ำห้วยซำรู้ 
.
อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เปิดให้นักท่องเที่ยวได้มาพักผ่อน ล่องแพไม้ไผ่ แพหนึ่งสามารถนั่งได้ประมาณ 10 คน โดยชาวบ้านจะใช้เรือหางยาวลากแพไปไว้กลางอ่างเก็บน้ำ หลังจากนั้นจะให้แพลอยเรื่อยๆอยู่กลางน้ำ นั่งรับลมเย็นสบายกลางอ่างเก็บน้ำ บนแพจะมีเสื้อชูชีพบริการ 
.
สามารถเล่นกระโดดน้ำหรือ จะเช่าห่วงยางมาเล่นน้ำก็ได้เช่นกัน น้ำที่นี่ใสและสะอาดน่าเล่นมากๆ มีเรือเป็ด เรือเล็กให้เช่า หรืออยากลองนั่งตกปลาก็ทำได้เช่นกัน
.
ค่าบริการ วันธรรมดา 300/4 ชม. วันหยุด 500/4 ชม.
แพเปิดบริการทุกวัน มีบริการตอนกลางคืน คิดค่ากางเต้นนอนท่านละ 100 บาท
.
โทรศัพท์ : 087-200-9941
.
การเดินทาง : จากตัวเมืองพิษณุโลก ใช้เส้นทางหมายเลข 12 ไปทางทิศตะวันออกประมาณ 80 กม. ถึงสามแยกเข้านครไทย เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 2013 อีกประมาณ 13 กม. จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าบ้านแก่งไฮ ไปอีกประมาณ 7 กม. ถึงอ่างเก็บน้ำห้วยซำรู้

ก่อนกลับเรามาแวะกันร้านกาแฟสุดชิคอยู่ท่ามกลางธรรมชาติสุดๆ

ร้านกาแฟ Sappraiwan Elephant House Lake View Cafe (ทรัพย์ไพรวัลย์) ตั้งอยู่ภายในทรัพย์ไพรวัลย์ แกรนด์โฮเต็ลแอนด์รีสอร์ท จ.พิษณุโลก ที่นี่มาในคอนเซ็ป ” จิบกาแฟ ดูช้างเล่นน้ำ ”

ที่นี่มีกิจกรรมร่วมกับช้างในทุกๆวันเสาร์-อาทิตย์ เช่น กิจกรรมทำเเซนวิชให้ช้าง เรียกได้ว่าทั้งอิ่มและสนุก แฮปปี้สุดๆไปเลย

ร้านเปิดบริการตั้งแต่เวลา 10.00 – 18.00 น. (ปิดทุกวันพุธ)
โทร. 081 533 7288

Scroll to Top