ชุมพร

ชุมพร

“ชุมชนบ้านบางหมาก” จังหวัดชุมพร

ทำไมแอดถึงแนะนำให้เพื่อนๆ มาเที่ยวที่ “ชุมชนบ้านบางหมาก” จังหวัดชุมพร นั่นก็เพราะที่นี่มีธรรมชาติที่สวยงาม เงียบสงบ เหมาะสำหรับการพักผ่อนเป็นที่สุด.แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะเงียบเหงาเกินจนไป เพราะที่นี่มีกิจกรรมที่น่าสนใจให้เราได้ชมและได้ลองทำดูด้วยค่ะ กิจกรรมอย่างแรกเลยก็คือ “ชมการสาธิตสอนลิงปีนต้นมะพร้าว” จริงอยู่ที่ปกติแล้วลิงสามารถปีนต้นไม้ได้อย่างคล่องแคล่ว แต่หากจะให้เจ้าจ๋อช่วยเราเก็บลูกมะพร้าวให้นั้นก็ต้องมีการฝึกฝนกันบ้าง ชุมชนบ้านบางหมากเป็นชุมชนที่เต็มไปด้วยต้นมะพร้าวมากมาย ดังนั้นเจ้าจ๋อจึงเป็นตัวช่วยที่ดีเลยทีเดียวค่ะ โดยปกติแล้วชาวบ้านมักจะใช้เวลาว่างในช่วงหลังเลิกงานตอนเย็นมาฝึกสอนเจ้าจ๋อ หากเพื่อนๆ สนใจก็สามารถไปชมได้นะคะ ***ชมฟรี*** ต่อมาคือ “การล่องเรือชมธรรมชาติ” ใช้เวลาล่องประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง โดยเรือจะล่องไปจนถึงปากแม่น้ำและวนกลับมาที่จุดเดิม ระหว่างทางเราจะได้ชมธรรมชาติ วัดที่อยู่ริมแม่น้ำ รวมไปถึงวิถีชีวิตของผู้คนในชุมชนอีกด้วยค่ะ.หากเพื่อนๆ สนใจต้องโทรจองล่วงหน้าที่คุณเอก โทร. 087 884 9136 หรือคุณปุ๊ โทร. 081 607 6552 ค่ะ ค่าใช้จ่ายคนละ 250 บาท ปล.ต้องมีผู้โดยสารตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปนะคะ ระหว่างล่องเรือเราอาจจะได้เห็นชาวบ้านกำลังตกกุ้ง และถ้าเพื่อนๆ อยากลองทำบ้าง แอดก็ขอบอกว่าฝันของคุณเป็นจริงแล้วค่ะ เพราะที่นี่เค้ามี “กิจกรรมตกกุ้งกับชาวบ้าน” ด้วย.ค่าทำกิจกรรมคนละ 500 บาท ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมงค่ะ ต่อมาคือ “การชมสาธิตการทำขนมหวาน” เช่น ขนมถ้วย ขนมต้มคลุก ขนมหัวล้าน เป็นต้น ชมฟรีเด้อจะบอกให้ และที่สำคัญหากเพื่อนๆ ติดใจก็สามารถซื้อกลับบ้านได้ด้วยนะ  คอกาแฟเชิญทางนี้เลยค่ะ เพราะที่นี่เค้ามีกิจกรรม workshop กาแฟให้ทำ ไม่ว่าจะเป็นการชิมกาแฟ ชงกาแฟ รวมไปถึงเรียนรู้เรื่องของกาแฟอย่างลึกซึ้งอีกด้วย .สำหรับกิจกรรมนี้เพื่อนๆ สามารถทำได้ที่ Villa Varich Resort ค่าทำกิจกรรมคนละ 700 บาท ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งจะมี 2 รอบคือ 10.30-12.30 น. และ 14.00-16.00 น. แต่ไม่ได้มีทุกวันนะคะ แนะนำให้โทรสอบถามล่วงหน้าที่ โทร. 081 543 0344 เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 26 ธันวาคม 2562

“ชุมชนบ้านบางหมาก” จังหวัดชุมพร อ่านเพิ่มเติม

เส้นทางท่องเที่ยว ระนอง-ชุมพร 3 วัน 2 คืน

ระนอง – ชุมพร 3 วัน 2 คืน  วันที่ 1– ภูเขาหญ้า– ศูนย์การเรียนรู้ภูมิปัญญาการร่อนแร่ ชุมชนหาดส้มแป้น– น้ำนองฮอทสปา วันที่ 2 – วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวตำบลม่วงกลวง คลองลัดโนด– บ้านไร่ไออรุณ– จุดชมวิวเขามัทรี– บาติกผาแดง ครูอนงค์ วันที่ 3– จุดชมวิวป่าเขาเขียว– เจียฟาร์ม– หาดทุ่งวัวแล่น วันที่ 1.สถานที่แรกที่แอดไปก็คือ ภูเขาหญ้าตั้งอยู่ใน อ.เมือง มีลักษณะเป็นภูเขาที่ไม่มีต้นไม้ใหญ่ขึ้น มีแต่ต้นหญ้าปกคลุม จึงเป็นที่มาของชื่อภูเขาหญ้า มีทางเดินเท้าขึ้นสู่สันเขาเพื่อชมวิวได้ 360 องศา ภูเขาแต่ละลูกไม่สูงมาก สามารถเดินเชื่อมถึงกันได้.ภูเขาหญ้าสามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ในช่วงฤดูแล้ง (เดือนพฤศจิกายน-เมษายน) ภูเขาหญ้าจะเป็นสีน้ำตาลทอง แต่เมื่อเข้าสู่ฤดูฝน (เดือนพฤษภาคม-ตุลาคม) ก็จะเปลี่ยนเป็นสีเขียว หลายคนจึงนิยมเรียกว่า “ภูเขาหญ้าสองสี”.ที่ตั้ง ม.1 ต.หงาว อ.เมือง จ.ระนองเปิดทุกวันไม่เสียค่าธรรมเนียม ศูนย์การเรียนรู้ภูมิปัญญาการร่อนแร่ ชุมชนหาดส้มแป้น.หาดส้มแป้น อยู่ห่างจากตัวเมืองเพียง 10 กิโลเมตร เป็นตำบลเล็ก ๆ ท่ามกลางหุบเขา ที่ยังคงเสน่ห์เฉพาะตัวของความเป็นหมู่บ้านที่มีแหล่งแร่ดีบุกเอาไว้ ที่สำคัญหากไปเที่ยวที่นี่ เราสามารถทำกิจกรรมร่อนแร่ได้ด้วยนะ.ที่ตั้ง ต.หาดส้มแป้น อ.เมือง จ.ระนองเปิดทุกวัน 09.00-16.00 น. (นัดล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน)โทร. 080 040 2425, 090 424 8513 (พี่สมโชค)Facebook : https://www.facebook.com/BaanHatsompaen/ “หาดส้มแป้น” เป็นชุมชนทำเหมืองเก่าที่สำคัญของ จ.ระนอง มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน การทำเหมืองของที่นี่เป็นลักษณะของเหมืองฉีด (คือใช้กระบอกสูบน้ำ สูบดินทรายและแร่ขึ้นมาจากเหมือง) และเหมืองแล่น (ใช้น้ำฉีดไปที่หน้าดินเพื่อหาแร่) มีเพียงส่วนน้อยที่มีการทำแบบเหมืองหาบ (ใช้คนขุดและหาบแร่ไปล้าง) ชื่อ “หาดส้มแป้น” เพี้ยนมาจากคำว่า “ห้วยซัมเปียน” ในภาษาจีน ที่แปลว่าลึกเข้าไปในหุบเขา เนื่องจากการค้นหาแร่ดีบุกจะต้องเดินลึกเข้าไปเพื่อหาแร่ในหุบเขา ปัจจุบันแม้แร่ดีบุกจะลดน้อยลง แต่ก็มีการค้นพบแร่ดินขาวคุณภาพดีอันดับต้น ๆ ของเอเชีย ที่มีชื่อเสียงด้านความโปร่งใสของเนื้อดิน สามารถส่งออกขายทั้งในและต่างประเทศอีกด้วย ปิดท้ายวันแรกด้วย น้ำนองฮอทสปา.สปาน้ำแร่ร้อนธรรมชาติแห่งนี้ ตั้งอยู่ใกล้บ่อน้ำแร่ร้อนรักษะวาริน จุดเด่นของที่นี่คือ การใช้น้ำแร่ที่ต่อตรงมาจากบ่อน้ำร้อนรักษะวาริน ซึ่งถือเป็นน้ำแร่คุณภาพดีอันดับต้น ๆ ของโลกเลยทีเดียว มีคุณสมบัติพิเศษคือ ไม่มีกลิ่นกำมะถัน สามารถใช้ดื่มได้และอุดมไปด้วยแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย.ที่ตั้ง ต.เขานิเวศน์ อ.เมือง จ.ระนองเปิดทุกวัน เวลา 10.00-20.00 น.โทร. 084 625 3444, 077 828 388, 081 666 2285 ประโยชน์ของการแช่น้ำแร่– กระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและช่วยขยายหลอดเลือด– คลายความปวดเมื่อย– บำรุงผิวพรรณ– กระตุ้นระบบเผาผลาญของร่างกาย. ที่นี่ยังมีบริการอื่น ๆ อีก เช่น– นวดคลายกล้ามเนื้อ-คลายเส้น– นวดแผนไทย– นวดหน้า– นวดเท้า– ขัดผิว วันที่ 2.วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวตำบลบ้านม่วงกลวง คลองลัดโนด.หากใครอยากสัมผัสธรรมชาติแบบใกล้ชิดและทำกิจกรรมที่หลากหลาย แอดแนะนำให้มาที่นี่ เพราะมีทั้งล่องเรือชมวิว ปลูกป่าชายเลน กินอาหารทะเลสดอร่อยบนกระชังปลา และล่องแพเปียก.ที่ตั้ง ม.3 ต.ม่วงกลวง อ.กะเปอร์ จ.ระนองเปิดทุกวัน เวลา 08.00-16.00 น.โทร. 087 885 7965 (พี่ปรีชา), 082 278 6099 (ผู้ใหญ่ทวน) กิจกรรมแรกคือการนั่ง “เรือพรีส” ชมวิว เรือนี้มีลักษณะคล้ายเรือหางยาวลำเล็ก ๆ นั่งได้ไม่เกิน 3 คน รวมคนขับ.วันที่แอดไปมีฝนตกลงมา สมกับที่เป็น “เมืองฝนแปดแดดสี่” จริง ๆ เพราะฉะนั้นใครมาเที่ยวระนองต้องเตรียมตัวให้พร้อมนะ เช็คสภาพอากาศล่วงหน้าด้วย แต่จริง ๆ นั่งเรือกลางสายฝนก็สนุกไปอีกแบบเลยล่ะ อีกจุดของที่นี่ ที่แอดชอบมากก็คือ กระชังปลา หรือเรียกว่าศูนย์เรียนรู้ลอยน้ำ ซึ่งเป็นจุดรับประทานอาหารกลางวันของเรา มาถึงระนองทั้งที ถ้าไม่กินอาหารทะเลก็อาจถูกแซวว่ามาไม่ถึง ขอบอกเลยว่าอาหารที่นี่อลังการมาก กุ้ง หอย ปู ปลา ละลานตาไปหมด แถมรับประกันความสดและความอร่อย เมนูที่ไม่อยากให้เพื่อน ๆ พลาดเลยก็คือ “แกงกุ้งใส่ใบส้มป่อย” ซุปใสรสชาติคล่องคอ อมเปรี้ยวนิด ๆ เนื้อกุ้งก็หวานเด้ง รสชาติเข้ากันมาก ๆ ขอเตือนไว้ก่อนเลยว่า อย่ากินเพลินจนลืมชมวิวนะ เพราะถึงแม้ว่าตอนล่องเรือฝนจะตก แต่พอฝนหยุดแล้ว สิ่งที่ปรากฏแก่สายตาเป็นอะไรที่สุดยอดมากกก หมอกจาง ๆ บนภูเขา น้ำใส ๆ สะท้อนภาพท้องฟ้าที่เริ่มเปิด ลมเย็นพัดเอื่อย ๆ และอาหารอร่อย ๆ วางเต็มโต๊ะ เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม กิจกรรมถัดไปตามโปรแกรมก็คือ การล่องแพเปียกชมสันหลังปึ้งกือ(สันหลังกิ้งกือ) ซึ่งชื่อนี้เป็นชื่อนี้ตั้งขึ้นเพื่อให้คล้องกับทะเลแหวกสันหลังมังกรที่ จ.สตูล และไฮไลท์สำคัญก็คือ การปลูกป่าชายเลน ที่นอกจากจะสนุกแล้ว ยังเป็นการช่วยเพิ่มทรัพยากรธรรมชาติอีกด้วย.แต่น่าเสียดายที่ฝนตกอีกรอบ ไม่สามารถล่องแพเปียกและปลูกป่าชายเลนได้ แต่ไม่ต้องห่วงนะ แอดหาภาพมาให้เพื่อน ๆ ดูแล้ว.แพ็กเกจ 1 วัน สำหรับ 2 – 60 คน เดินทางเอง ราคา 1,350 ต่อคนบริการรับ-ส่ง เมืองระนอง 1,900 ต่อคน.โปรแกรมกิจกรรม ณ คลองลัดโนดจุดนัดพบ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ท่าเรือคลองลัดโนด–

เส้นทางท่องเที่ยว ระนอง-ชุมพร 3 วัน 2 คืน อ่านเพิ่มเติม

วิถีคนทำกาแฟ @ Villa Varich จังหวัดชุมพร

วิถีคนทำกาแฟ @ Villa Varich จังหวัดชุมพร.หากเดินทางมาเที่ยวที่จังหวัดชุมพร สิ่งที่พลาดไม่ได้คือเรื่องของกาแฟเพราะกาแฟเป็นอีกหนึ่งผลผลิตที่สำคัญของจังหวัดชุมพร โดยเฉพาะกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้า ที่ไม่ว่าจะเดินทางไปแหล่งท่องเที่ยวที่ไหนในจังหวัดชุมพร ก็จะได้เห็นต้นกาแฟเป็นไร่ ๆ จนชินตา หากใครกำลังมองหากิจกรรมดี ๆ เช่น การทำ workshop กาแฟ พร้อมที่พักสไตล์บ้านสวนริมน้ำที่มีบรรยากาศสุดชิลและเงียบสงบ Villa Varich เป็นอีกสถานที่ที่แอดอยากแนะนำให้เพื่อน ๆ ไปเที่ยวกันค่ะ Villa Varich เป็นโรงแรมที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติและติดริมแม่น้ำ ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาได้สะดวก.นอกจากจะได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติแล้ว ที่นี่ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจคือ การปั่นจักรยาน พายเรือคายัค และ Coffee Workshop.56/1 ต.บางหมาก อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพรโทร. 08 6964 7123พิกัด : https://g.page/villavarich?share วันนี้แอดจะพาเพื่อน ๆ มาทำ Coffee Workshop กันค่ะ เริ่มตั้งแต่การคั่วกาแฟ ไปจนถึงชิมกาแฟที่เราลงมือทำเอง ซึ่งคุณคม ศรีราช เจ้าของ Villa Varich จะเป็นคนพาเราทำ workshop ครั้งนี้ มาดูกันว่า กาแฟที่แอดคั่วเองกับมือ รสชาติจะเป็นอย่างไรกันบ้าง.คุณคมเล่าว่า การทำ Coffee Workshop มีจุดประสงค์คือ ให้เรารู้ถึงความแตกต่างของรสชาติและจุดเด่นของกาแฟแต่ละสายพันธุ์ เพื่อเอาไว้สังเกตเวลาไปซื้อกาแฟ และเป็นการเพิ่มความสนุกในการดื่มกาแฟอีกด้วย ก่อนเริ่ม workshop คุณคมพาแอดไปดูว่าต้นกาแฟมีหน้าตาเป็นยังไง ต้นกาแฟมีลักษณะเป็นข้อและปล้อง ใบมีผิวเรียบ นุ่มเป็นมัน ออกผลดิบสีเขียว ฤดูเก็บเกี่ยวของกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้าที่จังหวัดชุมพรจะเป็นช่วงต้นเดือนมกราคม คุณคมได้นำสารกาแฟหรือเมล็ดกาแฟสีเขียวที่ยังไม่ผ่านการคั่วมาให้ชม เมล็ดกาแฟที่ดีต้องมีความชื้นไม่เกิน 10-12 เปอร์เซนต์ โดยใช้เครื่องวัดความชื้นเป็นตัววัด ถ้าไม่ใช้เครื่อง ให้สังเกตจากรูปร่าง สีและกลิ่น โดยกาแฟต้องมีเมล็ดสวยและแข็ง ไม่มีกลิ่นเหม็นหืน กลิ่นเน่าหรือกลิ่นรา มาค่ะ กะทะพร้อม ไฟพร้อม นาฬิกาจับเวลาพร้อม เรามาเริ่มคั่วกาแฟกันเลยดีกว่า เริ่มจากการนำเมล็ดกาแฟดิบมาคั่ว โดยเริ่มจับเวลาตั้งแต่ตอนที่เอาเมล็ดกาแฟลงกระทะ 3 นาทีแรกจะเรียกว่า Dry phase เป็นการไล่ความชื้นในเมล็ดกาแฟออกไป จากนั้นจะเริ่มเข้าสู่ระยะที่เรียกว่า High pressure โดยเมล็ดจะขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ พอคั่วต่อไปจนถึงนาทีที่ 9 จะมีเสียงเป๊าะแป๊ะเบา ๆ เรียกว่าระยะ Frist crack เมล็ดกาแฟจะแตกออก คั่วต่ออีกไปสัก 1-2 นาที ก็จะได้กาแฟคั่วอ่อนที่พร้อมนำไปบดและชงดื่มค่ะ แต่ถ้าเพื่อน ๆ ยังคั่วต่อไป จะเป็นการคั่วเพื่อสร้างกลิ่นของกาแฟให้ชัดเจนขึ้น เช่น กลิ่นช็อกโกแลต กลิ่นคาราเมล หากต้องการกาแฟคั่วกลางจะใช้เวลาประมาณ 12 นาที กาแฟคั่วเข้ม จะใช้เวลาประมาณ 14-15 นาที ไม่ควรใช้เวลามากกว่านี้ เพราะจะเข้าสู่ระยะ Second crack ซึ่งเป็นระยะที่ไม่แนะนำ เป็นการเผาอโรม่า กรด และไขมันที่ดีในเมล็ดกาแฟไปจนหมด จากนั้นนำเมล็ดกาแฟมาฝัดเพื่อให้เปลือกหรือเยื่อบาง ๆ หลุดออกไป เกร็ดน่ารู้ : 3 วันหลังจากการคั่ว กาแฟจะมีรสชาติอร่อยที่สุด นำมาบด อาจจะกะปริมาณหรือชั่งก่อนใส่ลงไปในเครื่องบด มาถึงขั้นตอนการชง ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายแล้วค่ะ อุณหภูมิของน้ำที่เหมาะสำหรับการชงกาแฟคือ 90 องศาเซลเซียส เพราะจะทำให้สัมผัสถึงรสชาติและกลิ่นของกาแฟได้ชัดเจน แต่ถ้าใช้น้ำอุณหภูมิต่ำกว่านั้น รสชาติของกาแฟก็จะเบาลง… อื้มมม กาแฟที่แอดคั่วเอง รสชาติก็ใช้ได้อยู่นะ อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว หลายคนคงอยากลุกไปชงกาแฟดื่มเลย ใช่มั้ยล่ะ ถ้าใครวางแผนจะไปเที่ยวจังหวัดชุมพรและสนใจอยากทำ workshop สนุก ๆ แบบนี้ สามารถจองล่วงหน้าได้ที่ลิงก์นี้เลย Facebook : https://www.facebook.com/villavarich/ เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 6 พฤศจิกายน 2563

วิถีคนทำกาแฟ @ Villa Varich จังหวัดชุมพร อ่านเพิ่มเติม

5 เกาะสวย ดำน้ำดูปะการัง…สุดฟิน

เริ่มเข้าสู่ซีซั่นแห่งท้องทะเลกันแล้ว ช่วงนี้เหมาะแก่การไปเที่ยวทะเลแบบสุดๆ วันนี้แอดเลยจะมาแนะนำ 5 เกาะสวยทั้งฝั่งอันดามันและอ่าวไทย ที่พร้อมให้ทุกคนได้ไปสัมผัสกับความงดงาม และทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นว่ายน้ำ ชมปะการัง เล่นน้ำทะเลใสๆ หรือเดินเล่นบนหาดทรายขาว หมู่เกาะสุรินทร์ จังหวัดพังงา หมู่เกาะสุรินทร์เป็นหมู่เกาะในทะเลอันดามัน ตั้งอยู่ในอำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา ถือเป็นจุดดำน้ำดูปะการังยอดฮิต ที่มีแนวปะการังน้ำตื้นที่สมบูรณ์ที่สุดและโดดเด่นในเรื่องความสวยงามของท้องทะเลที่ไม่แพ้ที่ไหนเลยทีเดียว ช่วงเวลาเปิดเกาะ : 15 ตุลาคม – 15 พฤษภาคม ของทุกปี ค่าธรรมเนียมชาวไทย ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาทชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 500 บาท เด็ก 300 บาท นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการเรือโดยสารจากท่าเรือคุระบุรีไปยังหมู่เกาะสุรินทร์ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง – 2 ชั่วโมงครึ่ง หรือซื้อแพ็กเกจดำน้ำจากบริษัททัวร์ก็ได้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ โทร.076 472 145-6 เกาะทะลุ จังหวัดระยอง เกาะทะลุ เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด มีความโดดเด่นในเรื่องของน้ำทะเลสีฟ้าใสและสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลที่สวยงาม ไฮไลท์อยู่ที่จุดดำน้ำตื้นบริเวณเกาะทะลุ ที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำทะเลจนเกิดเป็นโพรง เราสามารถลงไปแหวกว่ายชมโลกใต้ทะเลที่มีปะการังและเหล่าปลาน้อยใหญ่ได้ ขอบอกว่าสวยไม่แพ้ทะเลใต้เลย การเดินทางไปยังจุดดำน้ำเกาะทะลุนั้น เนื่องจากไม่มีเรือโดยสารให้บริการ นักท่องเที่ยวจึงต้องเหมาเรือจากเกาะเสม็ด ท่าเรือบ้านเพ หรือชายหาดอำเภอแกลง หรือซื้อแพ็กเกจดำน้ำจากบริษัททัวร์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด โทร. 038 653 03ททท. สำนักงานระยอง โทร. 038 655 420-1 เกาะช้าง จังหวัดตราด เกาะช้างเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดตราดและใหญ่เป็นอันดับ 2 ของไทย ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นเกาะที่มีปะการังสวยที่สุดในบรรดาหมู่เกาะทางภาคตะวันออก เหมาะสำหรับการดำน้ำทั้งน้ำตื้นและน้ำลึกเลยล่ะ เกาะช้างสามารถมาเที่ยวได้ทั้งปี แต่ระหว่างเดือนพฤศจิกายน – พฤษภาคม เป็นช่วงที่มีคลื่นลมน้อยที่สุด การเดินทางไปเกาะช้างหรือเกาะต่างๆ จึงค่อนข้างสะดวก บนเกาะช้างมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งที่พัก ร้านอาหาร ร้านค้า นอกจากนั้นยังมีแพขนานยนต์ที่สามารถนำรถยนต์ส่วนบุคคลข้ามไปใช้สัญจรบนเกาะได้อีกด้วย ค่าธรรมเนียมชาวไทย– วันจันทร์ – วันพฤหัสบดี ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท– วันศุกร์ – วันอาทิตย์ ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาทชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท การเดินทางไปยังเกาะช้าง สามารถขึ้นเรือได้ที่ท่าเรืออ่าวธรรมชาติหรือท่าเรือเซ็นเตอร์พอยท์ เฟอร์รี่ ใช้เวลาประมาณ 45 นาที สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมท่าเรืออ่าวธรรมชาติ โทร. 039 555 188, 039 512 528, 081 943 5872ท่าเรือเซ็นเตอร์พอยท์ โทร. 039 538 196, 039 597 198, 086 056 9555 หมู่เกาะง่าม จังหวัดชุมพร หมู่เกาะง่าม ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ประกอบด้วยเกาะง่ามใหญ่ และเกาะง่ามน้อย ซึ่งมีทรัพยากรทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ทั้งปะการัง ดอกไม้ทะเล และฝูงปลามากมาย เกาะง่ามใหญ่และเกาะง่ามน้อย นับเป็นแหล่งดำน้ำที่ได้รับความนิยมแห่งหนึ่งทางฝั่งอ่าวไทย โดยดำได้ทั้งน้ำตื้นและน้ำลึกเลย ระหว่างเดือนพฤศจิกายน – เมษายนของทุกปี เป็นช่วงเวลาที่เหมาะแก่การมาเที่ยวชม แต่ถ้ามาในช่วงเดือนพฤษภาคม – ตุลาคม เราก็อาจจะได้เห็นฉลามวาฬด้วยนะ สามารถติดต่อขึ้นเรือได้ที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ซึ่งให้บริการเรือแบบเหมาลำ หรือจะใช้บริการของบริษัทสยามคาตามารันที่ให้บริการท่องเที่ยวหมู่เกาะทะเลชุมพรก็ได้ ค่าธรรมเนียมชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาทชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร โทร. 077 558 144 (ในวันและเวลาราชการ) เกาะแสมสาร จังหวัดชลบุรี เกาะแสมสารเป็นส่วนหนึ่งของโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อำเภอสัตหีบ เป็นทะเลฝั่งอ่าวไทยที่สวยไม่แพ้ฝั่งอันดามันเลยทีเดียว เกาะแสมสารสามารถมาเที่ยวแบบ One day trip ได้ และเที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยมีหาดที่เปิดให้เที่ยวชมอยู่ 2 หาด คือ หาดเทียน และหาดลูกลม ซึ่งมีจุดดำน้ำที่สวยงาม มีปะการังหลากหลายสีสัน และหายทรายสีขาวนวล นอกจากนี้นี้ยังมีร้านขายขนมและเครื่องดื่มด้วย ซื้อตั๋วได้ที่อาคารต้อนรับพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย (ไม่มีบริการจองตั๋วล่วงหน้า) ใช้เวลาเดินทางจากฝั่งไปยังเกาะแสมสารประมาณ 30 นาที รอบเรือไปเกาะแสมสาร09.00 / 10.00 / 11.00 / 12.00 และ 13.00 น.รอบเรือเที่ยวกลับ11.30 / 12.30 / 13.30 / 15.30 และ 16.00 น. ค่าเรือบริการ (ไป-กลับ รวมค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย)ชาวไทย ผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 220 บาทชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 600 บาท เด็ก 600 บาท ค่าบริการกิจกรรมดำน้ำ คนละ 50

5 เกาะสวย ดำน้ำดูปะการัง…สุดฟิน อ่านเพิ่มเติม

5 ที่ล่องแก่งแดนใต้ การผจญภัยตะลุยหน้าฝน

ล่องแก่งน้ำตกโตนปริวรรต จ.พังงา หนึ่งในจังหวัดทางภาคใต้ฝั่งอันดามันอย่างพังงา ที่หลายคนอาจจะคิดถึงแค่การไปเที่ยวตามเกาะต่างๆ ชายหาดและทะเลที่สวยงาม แต่หารู้ไม่ว่าพังงายังมืผืนป่าใหญ่ที่เขียวขจี มีลำธารใสไหลเย็น อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนปริวรรต ต.สองแพรก อ.เมือง นี่เอง ซึ่งที่นี่ยังมีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติและมีน้ำตกโตนปริวรรต เป็นต้นกำเนิดแหล่งน้ำคลองสองแพรก จุดเริ่มต้นความสนุกของเราในวันนี้ ที่นี่มีกิจกรรมล่องแก่งเรือยาง ที่นักผจญภัยทั้งหลายจะได้ตื่นเต้น ท้าท้าย และสนุกสนานไปกับกระแสน้ำอันเชี่ยวกราก ที่ไหลผ่านไปตามโขดหินเล็กใหญ่และแก่งขนาดต่างๆ รวมไปถึงยังมีป่าไม้อันร่มรื่นและสวยงามตลอดทั้งสองฝั่งด้วย ที่ตั้ง : ต.สองแพรก อ.เมือง จ.พังงาพิกัด : https://goo.gl/maps/G6reeg3nd222ติดต่อสอบถาม : ททท. สำนักงานพังงา โทร. 076 413 400-2 ล่องแก่งหนานมดแดง จ.พัทลุง หนึ่งในสถานที่ล่องแก่งในพัทลุงที่น้อยคนจะรู้จัก แต่สำหรับสายผจญภัยบอกเลยว่าไม่ควรพลาด ที่นี่นักผจญภัยจะได้ตื่นเต้นและสนุกสนานกับเกาะแก่งต่างๆ ที่มีมากมายกว่า 40 แก่ง ในระดับความยากง่ายที่แตกต่างกันไป นอกจากนี้ยังจะได้สัมผัสธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ตลอดสองฝั่งคลอง ทั้งความเขียวขจีของป่าไม้ ความสวยงามของดอกไม้นานาพันธุ์ รวมไปถึงสัตว์ประจำถิ่นชนิดต่างๆ ด้วย ที่นี่มีบริการห้องอบสมุนไพรไว้ให้ได้ผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการล่องแก่ง และหากใครอยากพักค้างคืนที่นี่ก็มีบริการห้องพัก และลานกางเต็นท์ไว้บริการด้วย ที่ตั้ง : ม.1 ต.ลานข่อย อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุงพิกัด : https://goo.gl/maps/GdGAg1mAFX22Website : www.nhanmoddang.com/index.htmติดต่อสอบถาม : -คุณโยธิน เขาไข่แก้ว โทร. 089 873 1464, 081 370 2123, 081 082 0206-ททท. สำนักงานนครศรีธรรมราช โทร. 075 346 515-6 ล่องแก่ง-ล่องแพ พะโต๊ะ จ.ชุมพร  เมื่อกล่าวถึงประตูสู่ภาคใต้ ก็ต้องนึกถึงจังหวัดชุมพร เมืองผ่านของใครหลายคน แต่ถ้าได้ลองแวะเวียนเข้าไปก็จะพบกับสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามมากมาย สำหรับในหน้าฝนกิจกรรมที่เราไม่ควรพลาดของจังหวัดนี้ก็คือ การล่องแก่ง-ล่องแพ ที่อำเภอพะโต๊ะนั่นเอง ที่นี่นักผจญภัยจะได้ตื่นเต้นและสนุกสนานกับการล่องแก่งไปตามธารน้ำที่เย็นฉ่ำ ผ่านเกาะแก่งต่างๆ ที่มีความยากง่ายแตกต่างกัน ท่ามกลางบรรยากาศสองฝั่งแม่น้ำที่เต็มไปด้วยป่าเขาเขียวขจี  นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีก เช่น การเดินป่าชมต้นน้ำที่สามารถพักค้างแรมแบบแคมป์ปิ้งได้ โดยระหว่างทางเดินเราอาจจะได้เห็นสัตว์ป่านานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นนกเงือก นกกระเต็น และค่างแว่นถิ่นใต้ เป็นต้น หรือจะนั่งช้างไปชมสวนผลไม้ที่เราสามารถชิมผลไม้สดๆ จากต้นได้ด้วย  ที่ตั้ง : ต.พะโต๊ะ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพรพิกัด : https://goo.gl/maps/LJz5W3kLZwpติดต่อสอบถาม :– เทศบาลตำบลพะโต๊ะ (บริการล่องเรือยาง) โทร. 077 539 072– ชมรมท่องเที่ยวเชิงนิเวศป่าต้นน้ำพะโต๊ะ โทร. 087 821 8700 ล่องแก่งคลองกลาย จ.นครศรีธรมราช คลองกลาย สายน้ำที่สำคัญของชุมชนบ้านพิตำ ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ มีต้นน้ำมาจากป่ากรุงชิง ในเขตอุทยานแห่งชาติเขานันและอุทยานแห่งชาติเขาหลวง นอกจากจะเป็นแหล่งน้ำที่สำคัญของชุมชนแล้ว ยังเป็นเส้นทางล่องแก่งสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัย ตลอดระยะทาง 2.5 กิโลเมตร จากปากคลองพิตำไปถึงลานหินดาน นักผจญภัยจะต้องเจอกับแก่งต่างๆ ที่มีความแรงของกระแสน้ำทีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และยังมีความเขียวชอุ่มของป่าไม้สองข้างลำธาร ให้ความรู้สึกเพลิดเพลินและสดชื่นเมื่อได้มอง  หลังจากล่องแก่งเสร็จแล้ว ก็สามารถไปทำกิจกรรมอื่นๆ ต่อยังแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงได้ ไม่ว่าจะเป็นชมความสวยงามในถ้ำหงษ์ หรือผ่อนคลายที่บ่อน้ำร้อนกรุงชิง  ที่ตั้ง : ม.3 ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราชพิกัด : https://goo.gl/maps/E524BcuqzVoติดต่อสอบถาม : -ล่องแก่งกรุงชิงกับชุมชนบ้านพิตำ โทร. 084 443 6867, 087 267 2787Facebook : www.facebook.com/KrungChingrafting/ ล่องแก่งคลองลำโลน จ.สตูล จากต้นน้ำเทือกเขาบรรทัด ไหลลงมาผ่านน้ำตกวังสายทองก่อนจะลงสู่คลองลำโลน สายน้ำหลักของบ้านวังนาใน ต.น้ำผุด อ.ละงู อีกหนึ่งสถานที่สำหรับผู้ที่ชอบความตื่นเต้นท้าทายของการล่องแก่ง โดยตลอดระยะทาง 8 กิโลเมตร นักผจญภัยจะได้พบแก่งน้อยใหญ่มากมายโดยมีความยากง่ายสลับกัน รวมไปถึงยังมีบรรยากาศทั้งสองฝั่งที่เต็มไปด้วยป่าเขาและพรรณไม้นานาชนิด ให้ความรู้สึกสดชื่น  ที่นี่ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการชมความงามของถ้ำภูผาเพชร ถ้ำเจ็ดคต และน้ำตกวังสายทอง รวมไปถึงชมวิถีชีวิตของชาวบ้านริมน้ำและชนเผ่ามานิ ที่เรารู้จักกันในนาม ชนเผ่าเซมัง (ซาไก)  ที่ตั้ง : 230 หมู่ที่ 10 ต.น้ำผุด อ.ละงู จ.สตูลพิกัด : https://goo.gl/maps/qo9d6m5QX8T2ติดต่อสอบถาม : ชุมชนท่องเที่ยวบ้านวังนาใน โทร. 086 946 9229 (คุณไก่ เลชาชมรมฯ)ททท. สำนักงานหาดใหญ่ โทร. 074 231 055, 074 238 518, 074 243 747

5 ที่ล่องแก่งแดนใต้ การผจญภัยตะลุยหน้าฝน อ่านเพิ่มเติม

ใครไม่แล่น…ทุ่งวัวแล่น!!

หาดทุ่งวัวแล่น เป็นชายหาดที่สวยงามขึ้นชื่อของ ตำบลสะพลีอำเภอปะทิว จ.ชุมพร เป็นหาดทรายที่มีเม็ดทรายสีขาวนวลละเอียด ทอดตัวยาวไปสุดลูกหูลูกตา และยังเป็นหาดที่มีความลาดเอียงน้อย น้ำทะเลสวยใสเหมาะแก่การเล่นน้ำสุดๆ ชื่อนี้มีที่มา “หาดทุ่งวัวแล่น” มีตำนานว่าแต่ก่อนหาดทุ่งวัวแล่นมีสัตว์ป่าอยู่เป็นจำนวนมาก มีอยู่วันหนึ่งนายพรานมาล่าสัตว์ ยิงวัวป่าล้มลง แต่วัวป่ากลับฟื้นและวิ่งหนีหายไป จึงเป็นที่มาของหาดทุ่งวัวแล่น หาดทรายยาว ไม่มีเตียงผ้าใบ ไม่มีเรือบานาน่าโบ้ท มาบดบังความสวยงามของชายหาด นักท่องเที่ยวที่ต้องการดำน้ำสามารถเหมาเรือหางยาวไปดำน้ำที่เชิงเขาโพธิ์แบะ ทางทิศใต้ของหาดทุ่งวัวแล่น บริเวณนี้เป็นชุดชมปะการัง ดูปลา ดอกไม้ทะเล หรือจะแล่นไปที่หมู่เกาะชุมพร ก็มีเกาะหลายเกาะให้ดำน้ำ น้ำทะเลใสน่าเล่น หาดทรายสะอาดมาก นักท่องเที่ยวไม่แออัด เหมาะแก่การมาเที่ยวกับครอบครัว หรือเพื่อนๆที่สุด การเดินทางรถยนต์ : ใช้ถนนเพชรเกษมวิ่งลงมาจนถึงแยกท่าแซะ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนน 3180 ตรงมาจนสุดจะถูกบังคับให้เลี้ยวขวาตรงถนนเลียบชายหาดรถไฟ : ลงที่สถานีรถไฟชุมพร แล้วเดินไปตลาด ประมาณ 10 นาที ขึ้นรถสองแถวเล็กสีเหลือง ชุมพร – สะพลิง ไปหาดทุ่งวัวแล่น

ใครไม่แล่น…ทุ่งวัวแล่น!! อ่านเพิ่มเติม

ล่องแพพะโต๊ะ ผจญไพรไปกับสายน้ำเชี่ยว

ล่องแพพะโต๊ะ ผจญไพรไปกับสายน้ำเชี่ยว อำเภอพะโต๊ะของชุมพรเป็นพื้นที่ ธรรมชาติซึ่งได้ชื่อว่าดินแดนแห่งภูผาเขียว หมอกปก น้ำตกงาม มองไปทางไหนก็เห็น แต่ผืนป่าห่มปกทิวเขาสลับซับซ้อน จนเป็น บ่อเกิดของสายน้ำฉ่ำเย็นหลากหลายสาย จึงเป็นแหล่งที่จัดกิจกรรมล่องแพมานาน หลายสิบปี  โดยในอดีตเป็นการล่องแพ ไม้ไผ่ ทุกวันนี้เปลี่ยนเป็นแพท่อพลาสติก เพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ ทว่าความสนุก ตื่นเต้นของการล่องแพกลางสายน้ำเชี่ยว และความงามของพงไพรสองฟากฝั่งยังคง มีอยู่เต็มร้อย “การล่องแพพะโต๊ะ” ใช้เวลา ประมาณ 2-3 ชั่วโมง ผ่านแก่งระดับความ แรง 1-3 ซึ่งถือว่าสนุก ไม่อันตราย สำหรับการมาล่องแพพะโต๊ะ นักท่องเที่ยวอาจเลือกพักแบบโฮมสเตย์ซึ่งอาศัยอยู่กินกับชาวบ้าน หรือพักกับรีสอร์ทเอกชนก็ได้แล้ว ใช้บริการล่องแพของบริษัทเอกชนที่ให้บริการในอำเภอพะโต๊ ค่าล่องแพประมาณคนละ 450-500 บาทรวมอาหาร มื้อ ใช้เวลาล่องแพประมาณ 2-3 ชั่วโมง สอบถามเพิ่มเติมที่ – เทศบาลตำบลพะโต๊ะ บริการล่องเรือยาง โทร. 0 7753 9072– ชมรมท่องเที่ยวเชิงนิเวศป่าต้นน้ำพะโต๊ะ โทร. 08 7821 8700-ที่ทำการปกครองอำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร โทร 0 7753 9040, 0 7753 9240, 08 1979 1448, 08 2326 3688, 08 5472 8300

ล่องแพพะโต๊ะ ผจญไพรไปกับสายน้ำเชี่ยว อ่านเพิ่มเติม

ลังกาจิว เกาะจิ๋วปะการังแจ๋ว

เกาะแห่งนี้เต็มไปด้วยความสมบูรณ์ของธรรมชาติ ปะการัง สัตว์น้ำ และท้องทะเล สามารถไปดำน้ำดูปะการังได้ ตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม ถึงตุลาคมของปี การเดินทาง1.โดยรถยนต์ส่วนตัว จากกรุงเทพฯ ใช้เวลาประมาณ 6-7 ชั่วโมง โดยใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 (เพชรเกษม) มุ่งหน้าสู่ จังหวัด ชุมพร เมื่อถึงสี่แยกปฐมพร เลี้ยวซ้ายเข้ามาประมาณ 8 กิโลเมตร ก็จะถึงตัวเมืองจังหวัดชุมพร จากตัวเมือง จังหวัดชุมพร ไปตามทางหลวงจังหวัด หมายเลข 4001 ระหว่างอำเภอเมืองกับปากน้ำชุมพร ระยะทางประมาณ 13 กิโลเมตร ก่อนจะถึงปากน้ำชุมพร จะพบสามแยกทางไปหาดทรายรี ให้เลี้ยวขวา เมื่อเลี้ยวขวาเข้ามาอีก 20 เมตร จะพบทางแยกให้เลี้ยวขวาอีกครั้งไปตามถนน รพช. สายบ้านมัทรี – หาดทรายรี ประมาณ 9 กิโลเมตร เลี้ยวขวา ประมาณ 1 กิโลเมตร ก็จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร 2 โดยรถประจำทางจากสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ โดยสารรถสายกรุงเทพฯ – ชุมพร ระยะทาง 500 กิโลเมตร ถึงจังหวัดชุมพร และจาก จังหวัดชุมพร โดยสารรถสองแถวมายังอุทยานแห่งชาติ ระยะทาง 23 กิโลเมตร  3. การเดินทางโดยรถไฟ ใช้เวลา เดินทางประมาณ 8 – 9 ชั่วโมง แล้วแต่ประเภทของขบวนรถสามารถเลือกการเดินทางได้ ทั้งในเวลา กลางวัน และกลางคืน เนื่องจากมีขบวนรถหลายขบวนในแต่ละวัน โดยขึ้นรถไฟได้ที่สถานีกรุงเทพฯ และสถานี ธนบุรี 4.โดยเครื่องบินปัจจุบันจังหวัดชุมพรมีท่าอากาศยาน เพื่อรองรับการเดินทางทางอากาศโดยตั้งอยู่ที่อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร เกาะลังกาจิว เป็นเกาะขนาดปานกลาง หนึ่งในหมู่เกาะทะเลชุมพร และยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ คือ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เคยเสด็จประภาสเพื่อทอดพระเนตรการเก็บรังนกบนเกาะนี้ จำนวน 3 ครั้ง และได้ทรงจารึกพระปรมาภิไธยย่อ จปร. ของพระองค์ไว้บนผนังหินปากถ้ำทางด้านใต้ ซึ่งยังคงปรากฏเป็นหลักฐานจนถึงปัจจุบัน เกาะลังกาจิวมีชายหาดสวยงาม ทรายขาวละเอียด ส่วนแนวปะการังจะอยู่ด้านตะวันตกของเกาะ เป็นแนวปะการังที่ยังคงสมบูรณ์ตามธรรมชาติ สวยงามมากๆ น้ำใสสะอาด สามารถมองเห็นปะการัง และฝูงปลาได้ชัดเจน ยิ่งในวันที่แดดสวย ฟ้าใส จะทำให้น้ำทะเลเปล่งประกายวิบวับ สวยงามจับใจมากจริงๆ ส่วนด้านอื่นๆ รอบเกาะเป็นโขดหิน พบปะการังได้บ้างเล็กน้อย แต่ยังสามารถพายเรือ ชมความสวยงามของโขดหินได้นะ น้ำใสสะอาด สวยงามจับใจมากจริงๆ บนเกาะไม่มีที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว แต่จะมีบ้านของชาวเกาะ สร้างขึ้นอย่างง่ายๆ เกาะนี้เป็นหนึ่งในเกาะที่มีสัมปทานรังนกนางแอ่น คนที่อยู่เกาะก็จะเป็นคนเฝ้ารังนกนางแอ่นด้วย เกาะลังกาจิว เปิดขึ้นไปเที่ยวบนเกาะ เวลา 08.00 – 17.00 น.  หลังจากนั้นจะไม่อนุญาตให้ขึ้นโดยเด็ดขาด และบางเดือนเป็นฤดูที่นกนางแอ่นกำลังทำรังหรืออยู่ในระหว่างการเก็บรังนก จะไม่อนุญาตให้ขึ้นไปเที่ยวบนเกาะ เพราะจะทำให้นกนางแอ่นตกใจ สนใจล่องเรือชมหมู่เกาะทะเลชุมพร ติดต่อบริษัท สยาม คาตามารัน จำกัด โทร. 077 553 123บริษัท ต้นปาล์ม โวยาจ จำกัด โทร. 098 321 6335บริษัท ชาวเกาะไดฟ์วิ่ง จำกัด โทร 089 091 6277บริษัท ชุมพรไดฟ์วิ่ง จำกัด โทร 081 895 4527

ลังกาจิว เกาะจิ๋วปะการังแจ๋ว อ่านเพิ่มเติม

ผจญโลกสีคราม ณ เกาะง่ามน้อย เกาะง่ามใหญ่

นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่พอพูดถึงทะเล ก็จะนึกถึงทะเลฝั่งอันดามัน โดยที่หลายคนมองข้าม จ.ชุมพร อันเป็นดินแดนแห่งหมู่เกาะฝั่งอ่าวไทยที่งดงาม และมีจุดดำน้ำที่สมบูรณ์แห่งหนึ่งในประเทศไทย ซึ่งแอดมินกล้ารับประกันเลยว่าถ้าได้ลองไปดำน้ำ สัมผัสความงดงามของท้องทะเลชุมพร ทุกคนจะประทับใจ และหลงรักทะเลชุมพรโดยไม่รู้ตัว ภาพฉลามวาฬภาพนี้ ถ่ายที่บริเวณหมู่เกาะง่าม ซึ่งจะมีโอกาสพบในช่วงเดือน พฤษภาคมถึงตุลาคมของปี การเดินทางไปเกาะง่าม จากตัวเมืองชุมพร ใช้เส้นทางหลวง 4001 ไปที่ท่าเรือท่ายาง ระยะทางประมาณ 7 กม. มีสองแถวจากตัวเมืองชุมพรไปท่าเรือทุกชั่วโมง เกาะง่ามใหญ่ ตัวเกาะมีลักษณะเป็นผาหินปูนสูงชัน และคล้ายฝ่ามือพระพุทธเจ้าซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเกาะนี้ สิ่งมีชีวิตที่พบในบริเวณนี้คือดอกไม้ทะเล ปะการังแข็ง แส้ทะเล ฟองน้ำ กัลปังหา ปลานกแก้ว ปลาสาก ปลาผีเสื้อ ปลาสินสมุทร ปลากระเบนจุดฟ้า ปลาสิงโต เต่าทะเล ทากทะเล กุ้งตัวยาว หอยเบี้ยและฝูงปลาน้อยใหญ่ ถ้วยทะเลและปลาหลากหลายชนิดสีสันงดงาม  ด้านตะวันตกของเกาะน้ำจะตื้น นักดำน้ำสามารถพบดงดอกไม้ทะเลหนาแน่นเป็นบริเวณกว้าง ดอกไม้ทะเล และกลุ่มปลาตัวน้อยที่เกาะง่ามใหญ่ ปะการังสมอง ที่เกาะง่ามใหญ่ ใหญ่มากจริงๆ บริเวณเกาะง่ามน้อย-เกาะง่ามใหญ่เป็นเกาะสัมปทานรังนก นักท่องเที่ยวไม่สามารถขึ้นเกาะได้ แต่ลงดำน้ำดูปะการังรอบ ๆ ได้ เกาะง่ามน้อย อีกจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาดำน้ำ ชมความงดงามของปะการัง และเหล่าปลาตัวน้อยๆ  บริเวณรอบเกาะไม่มีชายหาดหรือที่ราบอยู่ห่างจากเกาะง่ามใหญ่ไปทางทิศใต้เพียง 1 – 2 กิโลเมตร บนเกาะจะมีบ้านของคนเฝ้ารังนก มองไปมองมาแอบคล้ายหมู่บ้านโจรสลัดในการ์ตูนเลยแฮะ หากโชคดี จะได้เห็น ฉลามวาฬยักษ์ใหญ่ใจดีแวะมาหาอาหารบริเวณหมู่เกาะง่าม  ส่วนใหญ่จะพบได้ในช่วงเดือน พฤษภาคม – ตุลาคม ซึ่งดวงใครดวงมันจริงๆ ใครดวงดีน้องฉลามวาฬอาจจะมาทักทายให้เห็นก็ได้ ทั้งนี้ ตามปกติฉลามวาฬจะไม่มีความดุร้าย แต่หากนำดำน้ำเข้าไปใกล้ หรือ สัมผัสตัวฉลามวาฬ อาจจะทำให้ฉลามเกิดอาการตกใจ และอาจจะทำร้ายได้โปรดระมัดระวังด้วยนะ นอกจากนั้นยังมี “เรือหลวงปราบ 741” เรือที่มีประวัติศาสตร์ทางสงครามอย่างยิ่งใหญ่ ถูกนำมาวางใต้ท้องทะเลชุมพรในวันที่ 20 พฤษภาคม 2554 บริเวณด้านทิศตะวันออก ของเกาะง่ามน้อย เพื่อเป็นเป็นปะการังเทียมและแหล่งอาศัยของสัตว์น้ำใต้ทะเล ทั้งยังเป็นจุดดำน้ำแห่งใหม่สำหรับนักดำน้ำอีกด้วย ความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเลไทย ฝั่งอ่าวไทย ที่งดงาม ชวนหลงไหล  ทุ่งดอกไม้ทะเล ที่พลิ้วไหวตามกระแสสายน้ำ สวยงามเหมือนหลุดเข้าไปในการ์ตูนเรื่องนีโม่เลย นี่ไง นีโม ฮ่าๆๆๆ น้องปลาการ์ตูนตัวน้อยออกมาทักทาย ฝูงปลา แหวกว่ายพริ้วไหวไปมา สวยงามมากจริงๆ เห็นไหมว่า เกาะง่ามใหญ่ เกาะง่ามน้อย สามารถดำน้ำได้ทั้ง แบบดำน้ำลึก และแบบดำน้ำตื้นทั่วไป ฉะนั้นใครสายดำน้ำ ต้องห้ามพลาดนะ!!!!! สนใจล่องเรือชมหมู่เกาะทะเลชุมพร ติดต่ออุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร โทร 077 558 144 (ในวันและเวลาราชการ) Tag เพื่อนสิ เอาราคาให้ดูไปเลยว่าไม่ได้แพงอย่างที่คิด ใครไปเที่ยวมาแล้ว เอารูปสวยๆมาแบ่งกันดูด้วยนะ

ผจญโลกสีคราม ณ เกาะง่ามน้อย เกาะง่ามใหญ่ อ่านเพิ่มเติม

กินลม ชมปลา นอนลั้นลา ที่บ้านท้องตมใหญ่

บ้านท้องตมใหญ่ เป็นหมู่บ้านชาวประมงที่หากินอยู่กับท้องทะเล และมีการรวมตัวกันเพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรทางธรรมชาติไว้ ต่อมาได้จัดทำเป็นลักษณะของโฮมสเตย์ เพื่อต้อนรับให้นักท่องเที่ยวนั้น ได้เข้าไปสัมผัสวิถีชีวิต ท่องเที่ยว และร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรอันล้ำค่าไว้ ใครเคยไปมาบ้าง เอามาแชร์กันบ้างนะ บ้านทองตมใหญ่ เป็นชุมชนอนุรักษ์ ที่ยินดีเปิดบ้านต้อนรับ นักท่องเที่ยวทุกคนให้มาสัมผัสธรรมชาติ วิถีชีวิตชุมชนแบบชาวประมง ที่อยู่กันอย่างเรียบง่าย  คำว่าท้องตมใหญ่ เพี้ยนเสียงมาจากทองตุ่มใหญ่ ซึ่งตุ่มในภาษาใต้ก็คือโอ่งนั่นเอง มุมนี้เป็นแลนด์มาร์คเลยนะ ต้องมาถ่ายรูป อันซีนของที่นี่ที่เป็นเอกลักษณ์ นั่นก็คือ “ ม้าน้ำ ” เรียกได้ว่าเป็นแหล่งเดียวในสยาม ที่มีม้าน้ำอยู่ใต้ถุนบ้าน ซึ่งน่าสนใจมากๆ ต้องลองไปให้เห็นกับตาตัวเองดูซักครั้ง ขอบคุณภาพจากเพจ โฮมสเตย์ท้องตมใหญ่ จังหวัดชุมพร บ้านของชาวท้องตมจะมีเอกลักษณ์ ก็คือจะเป็นบ้านไม้ที่จะยื่นออกไปในทะเลเป็นส่วนใหญ่ เราสามารถมองเห็นน้ำทะเลได้จากใต้พื้นบ้าน ซึ่งบ้านเหล่านี้ชาวบ้านอยู่อาศัยจริง ทำการแยกสัดส่วนให้แขกพัก ไม่ได้สร้างขึ้นเพื่อรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ ฉะนั้นอาจไม่ได้เน้นความสะดวกสบายมากนัก แต่จะได้สัมผัสความเป็นชาวประมงอย่างเต็มที่เลย หากจะพัก นำผ้าเช็ดตัวและอุปกรณ์อาบน้ำ มาเองด้วยนะ การพักแบบโฮมสเตย์ เหมือนไปบ้านเพื่อน บ้านญาติ เหมือนบ้านตัวเอง ไม่ใช่เหมือนไปพักตามรีสอร์ท โรงแรม ช่วยกันยกกับข้าวเอง ช่วยกันเก็บแก้วจานล้างเอง ทำความสะอาดพื้นลานกินข้าวกันเอง แต่ต้องใช้ช้อนกลางทุกจานนะจ๊ะ อาหารแต่ละมื้อ คือจัดเต็ม จัดหนัก อาหารทะเลเน้นๆ สดใหม่ทุกวัน  ซึ่งราคานั้นรวมกับค่าที่พักแล้ว!!3 วัน 2 คืน อาหาร 8 มื้อ คนละ 2,200 บาท 2 วัน 1 คืน อาหาร 4 มื้อ คนละ 1,200 บาท จากที่พักเดินเพียง 350 ม. ก็ถึงหาดท้องทราย เป็นหาดที่เม็ดทรายขาวละเอียด น้ำละเลสีสวยใส เหมาะที่จะไปนั่งรับลมสบายๆ ส่วนใครที่ชอบดำน้ำ ทางโฮมสเตย์ก็มีบริการ พาไปดำน้ำดูปะการัง ดูปลาน้อยใหญ่ที่เกาะมัดหวายใหญ่ ซึ่งเสื้อชูชีพ อุปกรณ์ดำน้ำ ให้ใช้ฟรี ใช้เสร็จ ล้างทำความสะอาดด้วยการจุ่มน้ำจืดให้มิดทีละตัว แล้วแขวนเก็บไว้ที่เดิมด้วยนะ ควรตรวจสอบสภาพอากาศจากกรมอุตุฯ ก่อนการการเดินทาง และทำใจยอมรับกับความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ และเชื่อฟังคำแนะนำ สำหรับกิจกรรมทางทะเล ความสวยงามใต้ท้องทะเล ที่เกาะมัดหวายใหญ่ ที่สำคัญเลย กิจกรรมหลักของที่นี่คือการร่วมมืออนุรักษ์เพื่อท้องทะเลไทยด้วยการ “สร้างบ้านปลา” และ”สร้างบ้านหมึก” เที่ยวครั้งเดียว นอกจากสนุกแล้ว ยังช่วยรักษาทรัพยากรณ์ธรรมชาติให้ยังคงอยู่ยั่งยืนต่อไปด้วยนะ เรือคายัค ให้ใช้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ใช้เสร็จ นำขึ้นเก็บที่เดิมให้เรียบร้อยนะจ๊ะ ตอนกลางคืน ยังมีกิจกรรมตกหมึกด้วยนะ ราคาค่าที่พักและอาหาร3 วัน 2 คืน อาหาร 8 มื้อ คนละ 2,200 บาท (ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2560 เป็นต้นไป)  2 วัน 1 คืน อาหาร 4 มื้อ คนละ 1,200 บาท (ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2560 เป็นต้นไป)  เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ครึ่งราคา เด็กต่ำกว่า 4 ขวบ ไม่คิดเงิน 1,200 หรือ 2,200 บาท เป็นค่าที่พักและอาหาร ที่จัดเป็นสำรับ สำรับละ 6-7 คน ไม่สามารถกำหนดเมนูล่วงหน้าได้ ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบในชุมชน (มา 2-3 คน อาจต้องนั่งรวมให้ครบ 6 คน) เข้าพัก 10 คนขึ้นไป แถมเรือสำหรับออกทะเลฟรี 1 รายการ เลือกใช้สิทธิ์ตกหมึก หรือ ดำน้ำ ก็ได้ปกติ ลำละ 2,000 บาท (เรือหางยาว นั่ง 10 คน) ติดต่อสำรองที่พักล่วงหน้าทันทีที่ตัดสินใจได้ สอบถามวันว่างก่อนโอนเงินมัดจำ ช่วงเทศกาลมักจะมีการจองล่วงหน้า ประมาณ 6-12 เดือน ติดต่อคุณไก่ 0813456743Line@ : @tongtomyaiLine : kaifawww.facebook.com/tongtomyaihomestay/หรือคลิกลิงค์นี้เพื่อเพิ่มเพื่อนhttp://line.me/ti/p/%40tongtomyai

กินลม ชมปลา นอนลั้นลา ที่บ้านท้องตมใหญ่ อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top