สุนทรภู่ ครูกวีเอกโลก

Spread the love

ก่อนจะไปชมพิพิธภัณฑ์สุนทรภู่ เรามาไหว้พระขอพรกันก่อนดีกว่า

วัดเทพธิดารามเป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระราชทานแด่พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าหญิงวิลาส กรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ พระราชธิดาองค์ใหญ่

ภายในพระอุโบสถมี “หลวงพ่อขาว” เป็นพระประธานปางมารวิชัย โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 พระราชทานนามว่า “พุทธเทววิลาส”

สิ่งก่อสร้างที่สำคัญในวัดแห่งนี้คือ พระปรางค์ประจำทิศทั้ง 4 ของมุมพระอุโบสถ พระปรางค์ตั้งอยู่บนฐานสูง ที่เรือนธาตุประดับปูนปั้นรูปท้าวจตุโลกบาล ได้แก่ ท้าวกุเวร ท้าวธตรฐ ท้าววิรุฬหก และท้าววิรุฬปักข์ เทวดาผู้ปกปักรักษาโลกมนุษย์ทั้งสี่ทิศ

ด้านข้างพระอุโบสถจะเป็นพระวิหาร ซึ่งมีลักษณะเป็นศิลปะแบบพระราชนิยมในรัชกาลที่ 3 เช่นเดียวกัน ลักษณะเด่นคือเป็นศิลปะซึ่งได้รับอิทธิพลจากจีน ไม่มีช่อฟ้าใบระกาหางหงส์ หน้าบันประดับกระเบื้องเคลือบแบบจีน

ภายในพระวิหารมีรูปภิกษุณีหล่อด้วยดีบุก 52 องค์ (นั่ง 49 องค์ ยืน 3 องค์) ประดิษฐานอยู่ด้านหน้าพระประธาน ซึ่งหมู่ภิกษุณีจะมีอิริยาบถที่ต่างกัน ทั้งนั่งปฏิบัติธรรม ฟังธรรม เสวนา สูบยา ฉันหมาก ฯลฯ

หากต้องการจะขอพรภายในพระวิหารแห่งนี้ ให้เดินเวียนรอบหมู่ภิกษุณีให้ครบ 3 รอบ จากนั้นนำฝ่ามือมาแตะที่ด้านหลังของภิกษุณีที่อยู่ตรงกลางนามว่า “พระมหาปชาบดีโคตมีเถรี” ซึ่งประดิษฐานอยู่ภายในตู้กระจก และขอพร 

ได้เวลาไปชมพิพิธภัณฑ์สุนทรภู่แล้ว

สาเหตุที่ภายในวัดเทพธิดารามมีพิพิธภัณฑ์สุนทรภู่ก็เพราะ ท่านเคยบวชและจำพรรษาอยู่ที่วัดนี้นั่นเอง

ภายในพิพิธภัณฑ์แบ่งห้องจัดแสดงออกเป็น 4 ห้อง เริ่มด้วยการชมวีดีทัศน์เรื่องราวของสุนทรภู่ เวอร์ชั่นการ์ตูน ที่ห้องมหากวีสามัญชน

ห้องที่ 2 : แรงบันดาลใจไม่รู้จบ 
เป็นห้องที่แสดงประวัติความเป็นมาและผลงานที่มีชื่อเสียงของสุนทรภู่ เช่น เรื่อง “พระอภัยมณี” และ “รำพันพิลาป” ซึ่งเรื่องรำพันพิลาปนี้ท่านได้ประพันธ์ขึ้นตามความฝันที่พบเจอมา และมีเรื่องราวภูมิหลังในชีวิตของตัวเองสอดแทรกเอาไว้

และยังมีแผนผังลำดับเหตุการณ์ชีวิตของสุนทรภู่ในช่วงต่างๆ โดยเปรียบเทียบแต่ละช่วงเวลากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งในและนอกสยามด้วย

ที่สำคัญห้องนี้ยังจัดแสดงสมุดไทยดำเรื่องพระอภัยมณี ตอนนางสุวรรณมาลีจะฆ่าตัวตาย

สมุดไทยดำนี้ถูกพบที่กุฏิแม่ชี ภายในวัดเทพธิดารามเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ลายมือที่ปรากฎอยู่บนสมุดไทยดำนี้เชื่อกันว่าเป็นลายมือของสุนทรภู่ ซึ่งกรมศิลปากรได้ทำการอนุรักษ์ให้อยู่ในสภาพดี

ห้องที่ 3 : มณีปัญญา 
ภายในห้องมีเกมสนุกๆ ให้เล่น โดยให้เรียงลำดับกาพย์กลอนของสุนทรภู่ให้ถูกต้อง มีตั้งแต่ระดับง่ายไปถึงยากใครเรียงถูก หลวงพี่มีของรางวัลแจกให้ด้วยนะ

นอกจากนี้ ห้องนี้ยังจัดแสดงเรื่องราวการแต่งกาพย์กลอนของสุนทรภู่ท่ามกลางยุคสมัยที่มีการเปลี่ยนแปลง ทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ วิถีชีวิตและวัฒนธรรม เราสามารถเรียนรู้เรื่องราวบ้านเมืองสมัยก่อนผ่านกลอนของสุนทรภู่ได้

ห้องที่ 4 : ใต้ร่มกาสาวพัสตร์ 
จำลองห้องที่สุนทรภู่เคยจำพรรษาเมื่อครั้งเป็นพระภิกษุภายในจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ทั้งเตียง กระโถน บาตร ตู้พระธรรม ฯลฯ และมีตำราโบราณที่มีอักขระภาษาขอม เก็บรักษาไว้ที่ห้องนี้ด้วย

ไฮไลท์ของพิพิธภัณฑ์คือ มีการนำเสนอเรื่องราวต่างๆ ของวัดเทพธิดารามและสุนทรภู่ ด้วยเทคนิคใหม่ผ่านระบบภาพและเสียง ที่เรียกว่า “เทคโนโลยี AR” เป็นภาพเสมือนจริงที่เมื่อเราไปถ่ายภาพตามจุดที่ระบุไว้ (โดยผ่าน ipad ของหลวงพี่) ก็จะมีคัมภีร์โบราณ ท่านสุนทรภู่ หรือสถานที่สำคัญของวัดเทพธิดาราม ปรากฎให้เห็นในภาพด้วย สร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่ผู้ที่เข้าชมพิพิธภัณฑ์เป็นอย่างมาก 

ใครสนใจอยากไปเรียนรู้เรื่องราวของสุนทรภู่ สามารถไปได้ที่พิพิธภัณฑ์สุนทรภู่ วัดเทพธิดาราม เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่ 09.00-17.00 น. *ชาวไทยไม่เสียค่าเข้าชม* ส่วนชาวต่างชาติเสียค่าเข้าชม 150 บาท

Scroll to Top