![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/916/1608785137_70602525_3008017469270313_346374578253070336_o.jpg)
เกร็ดความรู้ :
.
บ้านทุ่งหยีเพ็ง ตั้งอยู่ริมทะเลทางฝั่งตะวันออกของเกาะลันตา ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม อาชีพหลักคือ การทำประมงและการทำสวนยางพาราค่ะ
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/916/1608785198_70723606_3008017865936940_6772515332406902784_o.jpg)
บ้านทุ่งหยีเพ็ง เป็นชุมชนที่มีความโดดเด่นในเรื่องของป่าชายเลนและสายน้ำ ดังนั้นหากอยากสัมผัสกับความสวยงามเหล่านี้อย่างใกล้ชิด แอดแนะนำให้เที่ยวโดยการนั่งเรือหางยาว พายเรือคายัค หรือนั่งเรือแจวค่ะ
.
ซึ่งเพื่อนๆ สามารถเดินทางมาลงเรือได้ที่
บ้านทุ่งหยีเพ็ง ต.ศาลาด่าน อ.เกาะลันตา จ.กระบี่
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/916/1608785269_70895384_3008017949270265_5906378968931500032_o.jpg)
และในวันนี้แอดก็เลือกเที่ยวโดยการนั่งเรือแจว เพราะอยากจะดื่มด่ำกับความสวยงามของสถานที่แห่งนี้ไปอย่างช้าๆ และเงียบสงบค่ะ
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/916/1608785287_70412830_3008017835936943_6129781727192678400_o.jpg)
นอกจากจะได้ล่องเรือสัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติโดยรอบแล้ว เรายังจะได้รับประทานอาหารบนเรือด้วย แม้ว่าหน้าตาอาหารอาจจะดูธรรมดา แต่ถ้าได้ชิมพร้อมกับชมวิวที่อยู่ตรงหน้า บอกเลยว่าระดับภัตตาคารยังต้องยอม
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/916/1608785301_70115773_3008020392603354_5289782494571266048_o.jpg)
เรือแจว 1 ลำ สามารถนั่งได้ 4-7 คน (รวมคนแจว) เป็นเรือแบบมีหลังคาตรงกลางลำ และมีโต๊ะตัวเล็กๆ ตั้งไว้เพื่อใช้เป็นที่รับประทานอาหารนั่นเองค่ะ
.
นอกจากนี้ยังมีม่านสำหรับกันลมกันฝนอีกด้วย ดูแล้วแอบคล้ายกับเจ้าขุนมูลนายในสมัยก่อนอยู่เหมือนกันนะเนี่ย
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/916/1608785320_69850019_3008021512603242_967315227349614592_o.jpg)
ทำไมชุมชนแห่งนี้จึงเป็นชุมชนสายน้ำสามเวลา?
นั่นก็เพราะเราสามารถมาล่องเรือชมธรรมชาติที่สวยงามได้ตั้งแต่เช้ายันค่ำเลย แบ่งออกเป็น 3 ช่วงเวลาด้วยกัน
.
ช่วงแรกคือ “เวลาเช้าตรู่” เป็นทริปสำหรับตอนเช้า ซึ่งต้องบอกเลยว่าสำหรับแอดช่วงนี้คือช่วงเวลาที่ดีที่สุด เพราะเราจะได้เห็นแสงแรกของวัน และได้เห็นการเริ่มต้นในเช้าวันใหม่ของสรรพสิ่งที่อยู่รอบตัวเราอีกด้วย
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/916/1608785338_69934864_3010847495653977_8975662950563971072_o.jpg)
ช่วงที่สองคือ “เวลากลางวัน” เพื่อนๆ จะได้เห็นความสวยงามของป่าชายเลนที่เปลี่ยนเป็นสีทองอร่ามตามแสงอาทิตย์ นับเป็นความงามอีกอย่างหนึ่งของธรรมชาติที่ห้ามพลาด
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/916/1608785356_69831983_3008022492603144_4937730484948959232_o.jpg)
นอกจากนี้เรายังจะได้เห็นเจ้าปูตัวน้อย เจ้าปลาตีน และบรรดาลิงที่ห้อยโหนไปมาอยู่บนต้นโกงกางอีกด้วย แต่ต้องระวังให้ดีเพราะเจ้าลิงเหล่านี้เค้าไม่กลัวน้ำเด้อ บางตัวถึงขั้นกระโดดลงมาบนเรือให้เราสัมผัสอย่างใกล้ชิดเลยทีเดียว
.
ปล.หากล่องเรือในทริปเช้าก็มีโอกาสเห็นได้เหมือนกัน แต่ช่วงกลางวันจะเยอะกว่า
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/916/1608785378_70554592_3008021669269893_8950501223962771456_o.jpg)
ช่วงเวลาที่สามคือ “เวลาพลบค่ำ” เป็นช่วงเวลาพิเศษสำหรับเพื่อนๆ ที่ชื่นชอบความโรแมนติก เพราะนี่คือทริปล่องเรือชมจันทร์ ซึ่งจะมีเพียง 4 ครั้งต่อเดือนเท่านั้น
.
นั่นคือในวันขึ้น14 ค่ำ ขึ้น 15 ค่ำ ขึ้น 1 ค่ำ และขึ้น 2 ค่ำ ของทุกเดือน บอกเลยว่าฟินสุดๆ
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/916/1608785402_70959021_3008021152603278_8506433534343249920_o.jpg)
ค่าทำกิจกรรม
– ทริปเช้า (+อาหารเช้า) คนละ 900 บาท
– ทริปกลางวัน (+อาหารกลางวัน) คนละ 900 บาท
– ทริปชมจันทร์ (+อาหารเย็น) คนละ 900 บาท
.
ปล.แนะนำให้ติดต่อล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วันก่อนเดินทางนะคะ โทร. 089 590 9173
เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 30 กันยายน 2562