![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/660/1534386404_37883101_2116692285069507_3579545131692326912_o.jpg)
ภูสอยดาว ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว เป็นยอดเขาที่สูงอันดับ 4 ของประเทศ โดยยอดสูงสุดของภูสอยดาวมีความสูง 2,102 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง
✳ ช่วงหน้าฝน (กรกฎาคม-ตุลาคม) : สามารถเดินขึ้นไปถึงลานสน และไปดูดอกหงอนนาคได้ โดยดอกหงอนนาคจะบานในช่วงหน้าฝนเท่านั้น และจะออกดอกเยอะที่สุดในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน
✳ ช่วงหน้าหนาว (พฤศจิกายน-มกราคม) : สามารถเดินขึ้นไปถึงลานสน ไปดูดาว ดูดอกกระดุมเงิน กล้วยไม้รองเท้านารีอินทนนท์ และใบเมเปิลที่จะเปลี่ยนเป็นสีแดง และเดินขึ้นยอดสูงสุดของภูสอยดาวได้
⭐อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว⭐
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/660/1534386422_38681694_2124983834240352_1952380712720007168_o.jpg)
“เราจะซิ่งไปด้วยกัน”
การเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ถ้าให้แอดพิมพ์อธิบายมันก็จะค่อนข้างยาวสักหน่อย เอาเป็นว่า แอดขอแปะลิงค์แผนที่ไว้ให้แทนละกันนะคะ >>https://goo.gl/maps/e8qDnhAr8Jw
สามารถเปลี่ยนจุดเริ่มต้นได้ตามใจชอบเลยค่ะ
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/660/1534386435_38412135_2116693191736083_6443979917997637632_o.jpg)
เมื่อถึงที่ทำการอุทยานฯ เราต้องไปติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อลงทะเบียนก่อน
✳ถ้าไม่ได้นำเต็นท์ เครื่องนอน และอุปกรณ์ทำอาหารมาเอง สามารถมาเช่าได้ที่นี่ โดยเจ้าหน้าที่จะจดรายการสิ่งของที่เราเช่าเอาไว้ แล้วค่อยขึ้นไปรับของที่ลานสน
✳ถ้าใครแบกสัมภาระทั้งหมดไม่ไหว (แค่เดินให้ถึงก็แย่แล้ว
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/660/1534386533_38391423_2116693221736080_8715696976798154752_o.jpg)
สิ่งแรกที่เราจะพบก่อนขึ้นไปยังภูสอยดาวก็คือ น้ำตกภูสอยดาว เป็นน้ำตก 5 ชั้น มีน้ำไหลตลอดปี
.
เอ้า!! เริ่มเดินกันเถอะ แอดและเพื่อนอีก 2 คน เริ่มเดินตอนเที่ยงกว่าๆ ซึ่งถือว่าค่อนข้างช้า ในใจเริ่มหวั่นแล้วว่าจะถึงกี่โมงกันเนี่ย
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/660/1534386546_38508321_2116694038402665_7006170108884156416_o.jpg)
ช่วงแรกๆ จะเป็นป่าดิบชื้น มีต้นไม้ค่อนข้างสูง สลับกับพื้นที่โล่งมีลำธารน้ำไหล
✳ จะขึ้นไปถึงลานสนสามใบได้ ต้องฝ่าฟันเนินทั้ง 5 เนินไปให้ได้ ได้แก่ เนินส่งญาติ เนินปราบเซียน เนินป่าก่อ เนินเสือโคร่ง และเนินมรณะ
✳ กว่าจะถึงเนินแรก “เนินส่งญาติ” ก็เริ่มหอบแล้ว ระหว่างทาง แอดก็เดินไป พักกินข้าวเหนียวไก่ย่างที่หอบหิ้วมาด้วยไปพลางๆ
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/660/1534387686_38423166_2116863028385766_4564636060448980992_o.jpg)
❓ ถามว่าเนินไหนเดินเหนื่อยที่สุด แอดตอบเลยว่าเหนื่อยทุกเนิน
ในที่สุดก็มาถึงเนินสุดท้าย แค่เห็นชื่อก็ขาสั่นแล้ว “เนินมรณะ” เป็นทางเดินแคบและชัน ต้องใช้กำลังขาในการปีน แนะนำว่าให้เดินเรื่อยๆ ไม่ต้องรีบ จะได้ไม่เหนื่อยมากค่ะ
ระหว่างที่แอดกำลังเดิน ก็มีลูกหาบที่เดินสวนลงมาคอยให้กำลังใจเป็นระยะๆ
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/660/1534387739_38442274_2116693878402681_2043236060057567232_o.jpg)
ในที่สุดก็มาถึงลานสนแล้ว แต่ยังไม่ถึงจุดกางเต็นท์นะคะ (คุณหลอกดาว
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/660/1534387768_38433220_2116694251735977_6920427546450329600_o.jpg)
ในที่สุดก็ถึงจุดกางเต็นท์ค่ะ พอถึงตรงนี้ให้ทุกคนไปติดต่อเจ้าหน้าที่เรื่องเต็นท์และสัมภาระต่างๆ
✳จะเช่าอุปกรณ์ทำอาหาร ขัน ถังน้ำ สามารถเช่าได้ที่จุดนี้เลย แล้วค่อยไปจ่ายเงินด้านล่าง หลังจากลงจากเขาค่ะ
✳ ข้างบนนี้มีห้องน้ำแยกชาย-หญิง ถ้าจะอาบน้ำ ต้องตักจากลำธารใกล้ๆ มาอาบ ส่วนน้ำสำหรับดื่ม จะมีแท็งก์น้ำแยกไว้โดยเฉพาะค่ะ
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/660/1534387784_38427951_2116694345069301_923411560548794368_o.jpg)
บรรยากาศที่ลานสนค่อนข้างคึกคัก แต่ละคนไม่มีใครยอมใคร นำอาหารสดขึ้นมาปรุงบนเขากันอย่างสนุกสนาน เต็นท์ตรงข้ามแอดมีหมูกระทะ ส่วนข้างๆ มีกุ้งเผา เบคอนย่าง ส่วนแอด…ไม่ไหวแล้ว เดินเหนื่อยมาก ขออะไรก็ได้ที่ได้กินเร็วๆ
หมดแรงจะเดิน ก็หมดแรงจะทำอาหารด้วย แนะนำสำหรับผู้ที่ไม่อยากทำอะไรให้ยุ่งยาก พกอาหารซองสำเร็จรูปขึ้นไปเลยค่ะ แค่จุ่มซองในน้ำร้อน รอจนอาหารร้อนก็ทานได้แล้ว คิดดูไฮโซแค่ไหนมานั่งทานสปาเก็ตตี้บนภูเขา
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/660/1534387800_38298044_2116694428402626_3092873209037455360_o.jpg)
หลังจากนอนพักเอาแรงจนเต็มอิ่ม ตอนเช้าถ้าใครตื่นไหว สามารถไปดูพระอาทิตย์ขึ้นได้ค่ะ แต่แอดตื่นไม่ทัน ก็เลยเดินเล่นแถวๆ จุดกางเต็นท์ ไปยืนดูวิวภูเขาและสายหมอกแทน
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/660/1534387815_38500054_2116694585069277_6423310581159165952_o.jpg)
และไฮไลท์ของทริปนี้ก็คือ ดอกหงอนนาค ที่เราอุตส่าห์ปีนป่ายเขาขี้นมาตั้ง 6.5 กิโลเมตรเพื่อมาชม ซึ่งก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ดอกหงอนนาคขึ้นกันอย่างหนาแน่น บานจนเต็มทุ่ง ได้รูปสวยๆ กลับบ้านกันอย่างจุใจ
✳ ดอกหงอนนาคจะบานในช่วงสาย ประมาณ 9 โมงไปจนถึงเที่ยงวัน
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/660/1534387826_38448967_2118787588193310_4356104613565300736_o.jpg)
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/660/1534387838_38451439_2116700138402055_720979796154122240_o.jpg)
เรามุ่งหน้าไปทางอำเภอบ้านโคก จังหวัดอุตรดิตถ์ ใช้ทางหลวงชนบทหมายเลข 1268 ผ่านตำบลมะม่วงเจ็ดต้น จากนั้นใช้ทางหลวงชนบทหมายเลข 1241 ผ่านตำบลบ่อเบี้ย จากนั้นตัดเข้าทางหลวงชนบทหมายเลข 1083 ผ่านอุทยานแห่งชาติศรีน่าน อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน โดยเส้นทางจะเป็นทางขึ้น-ลงเขา และโค้งเยอะมาก ถ้าใครจะวิ่งเส้นทางนี้ ต้องขับอย่างระมัดระวังด้วยนะคะ
จากนั้น เราผ่านตัวอำเภอนาน้อย และถึงจุดหมายปลายทางที่ชายทุ่ง โฮมสเตย์ อำเภอนาหมื่น ซึ่งใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงในการเดินทาง
อำเภอนาหมื่นเป็นอำเภอที่เงียบสงบมาก เหมาะกับการมาพักผ่อนอย่างแท้จริง และวิวทุ่งนาเขียวขจี บริเวณหน้าที่พัก ก็ทำให้พวกเราฟินสุดๆ ถือเป็นการจบทริปอย่างอิ่มเอมใจ