สุขใจใกล้กรุง เที่ยวอ่างทอง-สิงห์บุรี 2 วัน 1 คืน

ใครที่กำลังมองหาที่เที่ยวใกล้กรุง แอดอยากชวนให้ไปเที่ยวจังหวัดอ่างทองและสิงห์บุรี เพราะเดินทางง่าย ขับรถประมาณ 2 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ ก็ถึงแล้ว

.

หลายคนอาจคิดว่าสองจังหวัดนี้มีแต่วัดให้เที่ยว แอดไม่เถียงค่ะ ก็มีวัดเยอะจริง ๆ ด้วย แต่วัดของอ่างทองและสิงห์บุรีเป็นวัดที่สวยงามน่าเที่ยว และยังเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาชนิดที่ใคร ๆ ต่างก็เดินทางไปขอพรกันนะคะ แต่ทริปนี้เราไม่ได้เที่ยวแต่วัดแน่นอน เพราะแอดมีตลาดย้อนยุคเก๋ ๆ กับคาเฟ่น่ารัก ๆ มาเอาใจสายกินกันด้วย #TravelLikeaLocal

อ่างทอง
1. บ้านหุ่นเหล็ก
2. พิพิธภัณฑ์ตำนานเมืองอ่างทอง
3. วัดม่วง
4. ตลาดศาลเจ้าโรงทอง
5. อินทร์โตฟาร์ม

สิงห์บุรี
6. Inkit Cafe Analog
7. อุทยานวีรชนค่ายบางระจัน
8. ตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน
9. วัดพิกุลทอง

วันที่ 1
.
บ้านหุ่นเหล็ก

เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ของ คุณไพโรจน์ ถนอมวงษ์ ที่นำเศษเหล็กและอะไหล่รถยนต์เก่า ๆ มาประดิษฐ์เป็นประติมากรรมหุ่นยนต์หลายแบบจนโด่งดังไปไกลถึงต่างประเทศ

เมื่อเข้าไปด้านในบ้านหุ่นเหล็กจะพบกับอาณาจักรหุ่นยนต์และสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ ไม่ว่าเป็น หุ่นยนต์ซุปเปอร์ฮีโร่จากภาพยนตร์ดังอย่าง ไอรอนแมน ฮัลค์ สไปเดอร์แมน หุ่นทรานส์ฟอเมอร์ส กันดั้ม และยังมีหุ่นสัตว์ประหลาด รถยนต์ รถมอเตอร์ไซด์ ยานอวกาศ สัตว์ รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์ เป็นความคิดและฝีมือการประดิษฐ์ที่น่าทึ่งมาก ๆ
.
ที่ตั้ง: 41/2 หมู่ 6 ตำบลตลาดกรวด อำเภอเมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง
พิกัด: https://goo.gl/maps/hhvXzsxyqLwcNJ9p9

เปิดทุกวัน เวลา 09.00-17.00 น.
โทร. 08 1339 3345

พิพิธภัณฑ์ตำนานเมืองอ่างทอง

ถ้าอยากรู้จักอ่างทองให้มากขึ้น แอดขอแนะนำพิพิธภัณฑ์ตำนานเมืองอ่างทองค่ะ เป็นทางลัดที่จะทำความรู้จักได้ในเวลาแสนสั้น พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะบอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ ตำนานในแง่มุมต่าง ๆ ประวัติบุคคลสำคัญของจังหวัด ศิลปวัฒนธรรม เทศกาลงานประเพณี และอาหารการกินของเมืองอ่างทอง
.

ที่ตั้ง: ถ.อยุธยา-อ่างทอง ต.บางแก้ว อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง
พิกัด: https://goo.gl/maps/95YP6oU2TyQV4GP86
เปิดวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-16.30 น.
โทร. 0 3561 1484

จากอำเภอเมืองอ่างทอง เราไปเที่ยวต่อกันที่อำเภอวิเศษชัยชาญ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที
.
วัดม่วง เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่ นามว่า พระพุทธมหานวมินทร์ศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า หลวงพ่อใหญ่ ซึ่งถือเป็นพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตามความเชื่อ ถ้าใครอยากประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ให้มาขอพรและสัมผัสที่ปลายพระหัตถ์หลวงพ่อใหญ่

สักการะหลวงพ่อใหญ่แล้ว อย่าลืมชมความสวยงามส่วนอื่น ๆ ของวัด เช่น อุโบสถที่ล้อมรอบไปด้วยกลีบดอกบัวปูนปั้นขนาดยักษ์ วิหารแก้วที่ประดิษฐาน “หลวงพ่อเงิน” พระพุทธรูปปางมารวิชัยที่สร้างด้วยเนื้อเงินแท้ และสวนรูปปั้นที่จำลองภาพของนรกภูมิ เป็นต้น
.
ที่ตั้ง: ต.หัวตะพาน อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง
พิกัด: https://goo.gl/maps/U2zrBfGxTG7DqQJK7

ไปหาของกินอร่อย ๆ กันดีกว่า มาถึงอำเภอวิเศษชัยชาญทั้งที ต้องไปเดินตลาดเก่าวิเศษชัยชาญ หรือที่เรียกกันติดปากว่า ตลาดศาลเจ้าโรงทอง ตั้งอยู่ริมแม่น้ำน้อย ที่นี่เป็นชุมชนชาวไทยเชื้อสายจีน ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 100 ปี ตลาดแห่งนี้เป็นแหล่งรวมอาหารคาวหวานที่สายกินต้องถูกใจอย่างแน่นอน
.
แอดขอพาไปชิมขนมไทยกันก่อน ที่นี่มีร้านขายขนมเยอะมาก เมื่อมาถึงตลาดนี้ ต้องมาชิมขนมเกสรลำเจียก ขนมขึ้นชื่อของจังหวัดอ่างทอง นอกจากนี้ยังมีขนมบ้าบิ่น ขนมลูกเต๋า ขนมไข่ปลาโบราณ ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง และอีกสารพัดขนมที่แอดบรรยายได้ไม่หมด อยากให้เพื่อน ๆ ไปชิมด้วยตัวเองจะดีกว่า
.
ทางฝั่งของอาหารคาวก็ไม่น้อยหน้า มีร้านอาหารที่ต้องห้ามพลาดคือ ร้านป้าแสง ก๋วยเตี๋ยวโต๊ะเดียว เป็นร้านบะหมี่เกี๊ยวหมูแดงรสเด็ด ที่คนต่อแถวยาวววว และด้วยความที่ทั้งร้านมีโต๊ะเพียงโต๊ะเดียว ดังนั้นถ้าใครอยากลิ้มรสความอร่อย ต้องอดใจรอกันหน่อยนะคะ
.
ที่ตั้ง: ซ.วัดนางใน ต.ศาลเจ้าโรงทอง อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง
พิกัด: https://goo.gl/maps/YP8oeGvao3FGdaUQ6
เปิดทุกวัน เวลา 04.00-16.00 น.

เราเดินหน้าตามหาของกินกันต่อที่ อินทร์โตฟาร์ม ฟาร์มเมล่อนบรรยากาศสุดชิล มีแปลงเมล่อนญี่ปุ่นหลายสายพันธุ์กว่า 40 โรงเรือน มีสวนดอกไม้น่ารัก ๆ ให้ถ่ายรูป
.
ที่ตั้ง: 5/9 หมู่ 1ต.ศรีพราน อ.แสวงหา จ.อ่างทอง

พิกัด:  https://goo.gl/maps/HjhgUJ9DDQh4p5ZG7
เปิดทุกวัน เวลา 09.00-17.30 น.
โทร. 08 2649 7929

นอกจากบรรยากาศจะดีแล้ว อาหารก็อร่อยไม่แพ้กัน เกือบทุกเมนูจะมีเมล่อนเป็นส่วนประกอบ เช่น เค้กเมล่อน บิงซูเมล่อน ไอศกรีมเมล่อน สลัดกุ้งทอดเมล่อน และยำเมล่อน เป็นต้นขอบอกเลยว่าเมล่อนของที่นี่หอมหวานจนต้องหิ้วกลับบ้านไปทานต่อ สัก 2-3 ลูกเลยค่ะ
.
ขอบคุณรูปภาพจาก ร้านอินทร์โตฟาร์ม

หลังจากเที่ยวจังหวัดอ่างทองกันอย่างสนุกสนานแล้ว ก่อนจะไปเที่ยวต่อที่จังหวัดติด ๆ กันอย่างสิงห์บุรี เราจะมานอนพักค้างคืนกันก่อนที่ตัวเมืองสิงห์บุรี เพราะมีที่พักให้เลือกหลากหลาย ใช้เวลาเดินทางจากจังหวัดอ่างทองประมาณ 30 นาทีค่ะ

วันที่ 2

สวัสดีวันที่ 2 ที่สิงห์บุรีค่ะ กินอาหารเช้าแล้วก็ขอเอาใจคอกาแฟกันสักหน่อยด้วยการพาไปที่ร้าน Inkit Café Analog ร้านกาแฟเล็ก ๆ สไตล์วินเทจที่พิถีพิถันในการชงกาแฟ เมื่อเข้าไปในร้านเราจะได้กลิ่นหอมอบอวลของกาแฟ พร้อมเสียงเพลงย้อนยุคที่คลอเบา ๆ ทางร้านใช้กาแฟสายพันธุ์ไทยเป็นหลัก และมีหลายชนิดให้เลือก แถมเจ้าของร้านคั่วเองกับมือ เพื่อน ๆ อยากดื่มกาแฟดริป กาแฟ cold brew กาแฟคั่วอ่อน หรือคั่วกลาง ที่นี่มีให้ชิมแน่นอน
.
ที่ตั้ง: 255/7 ถ.ธรรมโชติ ต.บางพุทรา อ.เมืองสิงห์บุรี จ.สิงห์บุรี
พิกัด: https://goo.gl/maps/Rt5r3horpNGEb3DQ9
เปิดทุกวัน เวลา 10.00-16.00 น.
โทร. 08 9459 4009
.
ขอบคุณรูปภาพจาก ร้าน Inkit Café Analog

พูดถึงจังหวัดสิงห์บุรี เราก็นึกถึงชาวบ้านบางระจันขึ้นมาทันที

ในอดีต หมู่บ้านบางระจันเป็นเมืองหน้าด่านในสมัยสมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์ หรือพระเจ้าเอกทัศ กษัตริย์องค์สุดท้ายของกรุงศรีอยุธยา กองทัพพม่าต้องการตีหมู่บ้านบางระจันให้แตกเพื่อเดินทัพต่อไปยังเมืองหลวง แม้ชาวบ้านบางระจันจะมีอาวุธน้อยกว่า พวกเขาก็สามัคคีต่อสู้ร่วมกันอย่างกล้าหาญ ทำให้ฝ่ายพม่าต้องยกทัพมาตีหมู่บ้านถึง 8 ครั้ง ใช้เวลาประมาณ 5 เดือน ถึงจะเอาชนะชาวบ้านบางระจันได้จนวีรกรรมการสู้รบของพวกเขาเป็นที่ยกย่องมาจนถึงทุกวันนี้

แอดจะพาทุกคนไปย้อนอดีต ซึมซับเรื่องราวของวีรชนคนกล้าเหล่านี้ที่ อุทยานวีรชนค่ายบางระจัน

ภายในอุทยานประกอบไปด้วย 
– อนุสาวรีย์วีรชนค่ายบางระจัน เป็นรูปหล่อประติมากรรมของหัวหน้าค่ายบางระจัน 11 คนเพื่อให้คนรุ่นหลังได้ทราบถึงความยิ่งใหญ่ของชาวบ้านธรรมดาที่มีใจรักบ้านรักเมือง
– ค่ายบางระจันที่สร้างขึ้นโดยจำลองรูปแบบค่ายโบราณ
– อาคารศูนย์การศึกษาประวัติศาสตร์จัดแสดงชีวประวัติบุคคลสำคัญของค่ายบางระจัน เช่น พระอาจารย์ธรรมโชติ นายแท่น นายทองเหม็น นายจันหนวดเขี้ยว บันทึกหลักฐานทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการศึกที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านบางระจัน จัดแสดงเรื่องราวของสิงห์บุรีตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ จนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ การจำลองวิถีชีวิตริมฝั่งแม่น้ำของชาวสิงห์บุรีในสมัยก่อนนอกจากนี้ภายในอาคารศูนย์การศึกษาประวัติศาสตร์ ยังมีพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์วีรชนค่ายบางระจัน โดยมีส่วนจัดแสดงถึง 11 โซน 
.
ที่ตั้ง: ต.บางระจัน อ.ค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี
พิกัด: https://goo.gl/maps/PyYv72nXArNPCGYp9
เปิดทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.

ฝั่งตรงข้ามอุทยานค่ายบางระจันมีตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจันตั้งอยู่ภายในวัดโพธิ์เก้าต้นเป็นตลาดที่จำลองบรรยากาศค่ายบางระจันในอดีต เราจะได้เห็นพ่อค้าแม่ขายแต่งกายในชุดไทยสมัยบางระจัน และพูดคำว่า “เจ้าค่ะ” “ขอรับ” ทำให้รู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไปในสมัยบางระจันจริง ๆ แต่ถ้าอยากฟินให้เข้ากับบรรยากาศขั้นสุด แอดแนะนำให้แต่งชุดไทยไปเดินเที่ยวกันค่ะ ถ้าไม่มีชุดไทยก็ไม่เป็นไร เพราะที่นี่เค้ามีชุดไทยโบราณให้เช่าในราคาถูกด้วยนะเจ้าคะ

ได้เวลาตระเวนหาของกินอร่อยกันอีกแล้ว ที่นี่มีทั้งอาหารคาวและขนมหวานให้เลือกมากมาย เช่น
ขนมถุงทอง ขนมกง กล้วยปิ้ง ขนมตาล ขนมวง ขนมฝักบัว ขนมเบื้องญวน ผัดไทยโบราณ ข้าวห่อใบบัว และอีกหลายเมนูให้เดินชิมกันจนพุงกาง ที่สำคัญราคาก็แสนถูก 
.
ที่ตั้ง: ต.บางระจัน อ.ค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี
พิกัด: https://goo.gl/maps/UxUCrneZAmVKr9zY9
เปิดวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ที่ติดกับวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-16.30 น.

ก่อนกลับบ้าน แวะกราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดพิกุลทองหรือที่เรียกกันว่า วัดหลวงพ่อแพ เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ภายในวัดประดิษฐานพระพุทธสุวรรณมงคลมหามุนี พระพุทธรูปปางประทานพรศิลปะสุโขทัย ตกแต่งด้วยโมเสกทองคำจากประเทศอิตาลี ส่วนบริเวณด้านหลังวัดประดิษฐานพระพิฆเนศอยู่กลางน้ำ 
.
นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์หลวงพ่อแพ ที่จัดแสดงประวัติและเครื่องอัฐบริขารของหลวงพ่อแพ เขมังกโร อดีตเจ้าอาวาสวัด ซึ่งเป็นเกจิอาจารย์ชื่อดังที่ประชาชนศรัทธาและให้ความเคารพเป็นอย่างมาก เพราะท่านทำประโยชน์แก่พระพุทธศาสนาและชุมชนไว้มากมาย
.
ที่ตั้ง: ต.พิกุลทอง อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี

พิกัด: https://goo.gl/maps/9HDb3nmUxtYC876H6

Scroll to Top