![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/804/1606983406_50562843_2439345066137559_3321706249069789184_o.jpg)
สัมผัสเสน่ห์ย่านชุมชนเก่าแก่ ลัดเลาะไปตามตรอกซอกซอย แวะไหว้พระ เดินเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ ตามหาของอร่อยๆ ทานให้หนำใจ ที่ “ย่านวังหน้า – บางลำพู”
.
บอกเลยว่าเป็นเส้นทางที่เดินไม่เหนื่อย เข้าไปไหว้พระสงบจิตสงบใจ ถ้าใครกลัวแดดร้อนก็สามารถเข้าไปตากแอร์เย็นๆ ในพิพิธภัณฑ์ หรือจะหามุมนั่งเล่นพักผ่อนในร้านกาแฟก็ย่อมได้
สถานที่กิน ที่เที่ยว
– ร้านปาท่องโก๋ คาเฟ่
– วัดบวรนิเวศวิหาร
– ร้าน ณ บวร
– พิพิธบางลำพู
– ร้านพัวกี่ เย็นตาโฟ
– พิพิธภัณฑ์เหรียญ
– พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
– วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร
– นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
– ร้าน A pink rabbit + Bob
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/804/1606983493_49393988_2438947826177283_706930322473746432_o.jpg)
ก่อนเริ่มทริป เราไปเติมพลังกันที่ร้าน “ปาท่องโก๋ คาเฟ่” กันก่อน
ร้านเป็นตึกแถว 2 คูหา อยู่หัวมุมถนน ตรงข้ามวัดบวรนิเวศพอดี ภายในร้านไม่ได้มีแค่ปาท่องโก๋นะ แต่ยังมีเมนูหลากหลายให้เลือกทานเลย
ทั้งเมนูของคาวและของหวานที่ใช้ปาท่องโก๋มาประยุกต์ เช่น ปาท่องโก๋หน้าไก่ ปาท่องโก๋ยำทรงเครื่อง และอีกมากมาย
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/804/1606983519_50184531_2438947672843965_217470781360177152_o.jpg)
แอดทานแบบเบาๆ กับเมนูปาท่องโก๋ย่างพริกเผาหมูหยอง บอกเลยอร่อยมากๆ อิ่มกำลังพอดี ปาท่องโก๋ไม่อมน้ำมันด้วย
อีกเมนูก็คือ ปาท่องโก๋ไอศกรีมวานิลลา เมนูนี้ก็เก๋ไม่แพ้กัน เพราะเป็นปาท่องโก๋ที่โปะด้วยไอศกรีม 1 สกู๊ปอยู่ด้านบน ไอศกรีมเป็นแบบโฮมเมด มีหลายรสชาติทั้งชาไทย กาแฟ วานิลลา และลิ้นจี่ น่าลองทุกรสเลย
ปาท่องโก๋ คาเฟ่
ที่ตั้ง : 246 ถนนพระสุเมรุ แขวงตลาดยอด เขตพระนคร กรุงเทพฯ (อยู่ตรงหัวมุมถนนพระสุเมรุตัดกับถนนสิบสามห้าง ตรงข้ามวัดบวรนิเวศ)
เปิดทุกวัน เวลา 09.00-19.00 น.
โทร. 02 281 9754
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/804/1606983535_50673289_2438947616177304_7036357441142915072_o.jpg)
หลังจากอิ่มท้องกันแล้ว ก็เดินข้ามถนนมาที่ “วัดบวรนิเวศวิหาร”
วัดบวรนิเวศวิหารเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร สร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 ระหว่าง พ.ศ.2367-2375 โดยสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพเป็นแม่กองก่อสร้าง
ต่อมา พ.ศ.2379 รัชกาลที่ 3 ได้เชิญเสด็จเจ้าฟ้ามงกุฎซึ่งผนวชจำพรรษาอยู่ที่วัดราชาธิวาส มาจำพรรษาที่วัดนี้ โดยจัดขบวนแห่เหมือนอย่างพระมหาอุปราช แล้วพระราชทานนามวัดว่า “วัดบวรนิเวศวิหาร”
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/804/1606983556_50436374_2438947812843951_6452949192691154944_o.jpg)
พระอุโบสถ เป็นอาคารทรงตรีมุข หลังคามุงกระเบื้องเคลือบลูกฟูกแบบจีน หน้าบันประดับกระเบื้องเคลือบ ตรงกลางเป็นตราพระมหามงกุฏและพระแสงขรรค์ประดิษฐานเหนือพานแว่นฟ้า มีใบเสมาศิลาติดอยู่ที่ผนังด้านหน้า
ภายในมีจิตรกรรมฝาผนังฝีมือขรัวอินโข่ง ซึ่งรัชกาลที่ 4 มีพระราชดำริให้เขียนขึ้นตั้งแต่เมื่อครั้งยังทรงผนวช
ภายในประดิษฐานพระประธาน 2 องค์
องค์หน้าคือ “พระพุทธชินสีห์” อัญเชิญมาจากวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก
องค์หลังคือ “พระสุวรรณเขต” หรือ หลวงพ่อโต อัญเชิญมาจากวัดสระตะพาน จ.เพชรบุรี
ที่ฐานพุทธบัลลังก์ของพระพุทธชินสีห์ยังเป็นที่บรรจุพระบรมราชสรีรางคารของพระมหากษัตริย์ถึง 2 พระองค์ คือ รัชกาลที่ 6 และรัชกาลที่ 9 ด้วย
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/804/1606983572_50826228_2438947856177280_8360133844296269824_o.jpg)
เจดีย์ประธานของวัดสร้างสมัยรัชกาลที่ 4 มีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงระฆังขนาดใหญ่ หุ้มกระเบื้องสีทอง ภายในประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ
บนฐานทักษิณชั้นบน ด้านทิศตะวันออกของเจดีย์ มีซุ้มปรางค์ประดิษฐานพระบรมรูปรัชกาลที่ 4 องค์จำลอง ซึ่งหล่อขึ้นเมื่อ พ.ศ.2508 (ส่วนองค์จริงทำจากปูนปลาสเตอร์ ประดิษฐานอยู่ภายในตำหนักเพ็ชร)
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/804/1606983591_50218095_2438948002843932_4003695370038149120_o.jpg)
เดินไปอีกนิดจะพบ “วิหารพระศาสดา” ซึ่งรัชกาลที่ 4 โปรดฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2402 แล้วเสร็จในสมัยรัชกาลที่ 5 ภายในวิหารแบ่งเป็น 2 ตอน
ทิศตะวันออกประดิษฐาน “พระศาสดา” พระพุทธรูปสำริดปางมารวิชัย สมัยสุโขทัย เดิมประดิษฐานอยู่ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก
ทิศตะวันตกประดิษฐาน “พระไสยา” พระพุทธรูปสำริดลงรักปิดทองปางไสยาสน์ สมัยสุโขทัย ที่ฐานบรรจุพระอัฐิของสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ซึ่งทรงเป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร และสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 10 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/804/1606983612_49342047_2438948032843929_8800167511652827136_o.jpg)
ภายในวัดยังมีตำหนัก วิหาร และอาคารต่างๆ ที่สวยงามและน่าชมอยู่อีกมากเลยล่ะ
วัดบวรนิเวศวิหาร ราชวรวิหาร
ที่ตั้ง : ถนนพระสุเมรุ แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพฯ
เปิดทุกวัน เวลา 08.00-21.00 น.
พิกัด : https://goo.gl/maps/mKqHQMqkr7n
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/804/1606983625_49834027_2438948109510588_7662574586411614208_o.jpg)
หลังจากไว้พระ เดินชมวัดเรียบร้อยแล้ว แอดก็มานั่งพัก หาอะไรดื่มกันที่ร้าน “ณ บวร”
ร้านกาแฟโมเดิร์นคลาสสิกประยุกต์ ตั้งอยู่ในตึกแถวโบราณ ริมถนนพระสุเมรุ ตรงข้ามวัดบวรนิเวศวิหาร
คำว่า “ณ บวร” มีความหมายตามหลักภาษาไทย ดังนี้
“ณ” หมายถึง ที่นี่
“บวร” หมายถึง ประเสริฐ เลิศล้ำ
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/804/1606983637_50255239_2438948132843919_9132116170931961856_o.jpg)
แต่สำหรับร้านนี้ คำว่า “ณ บวร” ยังซ่อนความหมายและเจตนารมย์ของร้านเอาไว้ในตัวอักษรด้วย นั่นก็คือ
“บ” คือ บ้าน สถานที่อบอุ่นผ่อนคลาย
“ว” คือ วัด เขตของความสุข สงบ สบาย
“ร” คือ ร้านกาแฟ อันหมายถึงศูนย์กลางเล็กๆ ของชุมชนที่พร้อมบริการเครื่องดื่ม ขนม และบริการที่ผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดี
ภายในร้านตกแต่งอย่างเรียบง่ายและร่วมสมัย น่านั่งมากๆ
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/804/1606983778_50019039_2438948036177262_6159482126124187648_o.jpg)
เนื่องจากตอนนี้ยังเช้าอยู่ ร่างกายต้องการคาเฟอีน แอดเลยสั่ง คาราเมล แมคเคียโต้เย็น (Iced Caramel Macchiato) รสชาติเข้มข้น หอมคาราเมล ไม่หวานเกินไป ชอบมากกก
อีกเมนูคือ ช็อกโกแลตร้อน (Hot Chocolate) เข้มข้นถึงใจมากๆ ฟองนมละมุนลิ้น ฟินนน
ณ บวร Na Bowon
ที่ตั้ง : ถนนพระสุเมรุ แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพฯ
เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) เวลา 09.00-18.00 น.
โทร. 02 003 5361
พิกัด : https://goo.gl/maps/MWcV5ikj2YK2
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/804/1606983793_49898534_2438948196177246_1961358427024261120_o.jpg)
หลังจากนั่งพักจนหายเหนื่อยแล้ว ก็เดินกันไปต่อที่ “พิพิธบางลำพู”
กรมธนารักษ์ได้บูรณะซ่อมแซมอาคารโรงพิมพ์คุรุสภาและปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์สมัยใหม่ ภายในจัดแสดงวัตถุโบราณและเรื่องเล่าทางประวัติศาสตร์ ผสมผสานกับการแสดงวิถีชุมชนบางลำพูในอดีต
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/804/1606983808_50240825_2438948256177240_3072786862469808128_o.jpg)
ภายในมี 2 อาคารหลักๆ อาคารแรกที่เราจะได้เข้าชมคืออาคารปูน
เป็นนิทรรศการถาวรเกี่ยวกับความเป็นมาและบทบาทหน้าที่ของกรมธนารักษ์ แสดงขั้นตอนการผลิตเหรียญกษาปณ์ รวมไปถึงการจัดสรรดูแลที่ราชพัสดุ ซึ่งจะมีวิทยากรนำชมตามจุดต่างๆ
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/804/1606983823_49998271_2438948279510571_598090263440654336_o.jpg)
จากนั้นเราก็เดินผ่านทางเชื่อม เพื่อไปยังอาคารไม้
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/804/1606983840_50253097_2438948312843901_3001679117629259776_o.jpg)
ภายในอาคารไม้ ช้นบนแบ่งห้องจัดแสดงออกเป็น 4 ส่วน ประกอบด้วย
– สีสันบางลำพู บอกเล่าประวัติศาสตร์ความเป็นมาของชุมชนหลากหลายเชื้อชาติในยุคต้นกรุงรัตนโกสินทร์
– พระนครเซ็นเตอร์ จำลองวิถีชีวิตของชาวบางลำพูในอดีต มีทั้งโรงภาพยนตร์บุศยพรรณ โรงลิเกหอมหวน และห้าง ต.เง็กชวน
– ถิ่นคนดีศรีบางลำพู จัดแสดงประวัติของบุคคลที่มีชื่อเสียงและสร้างคุณูปการให้แก่สังคม
ชั้นล่าง จัดเป็น “ห้องสมุดชุมชนบางลำพู” เป็นแหล่งรวบรวมหนังสือหายากและข้อมูลเกี่ยวกับประวัติศาสตร์บางลำพูที่เยอะที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/804/1606983865_50418369_2438948479510551_6129662361461587968_o.jpg)
อาคารแห่งนี้ตั้งอยู่บนถนนพระอาทิตย์ ริมคลองบางลำพู ใกล้กับป้อมพระสุเมรุ
พิพิธบางลำพู
ที่ตั้ง : ถนนพระสุเมรุ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ
เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) เวลา 10.00-18.00 น.
เข้าชมฟรี
โทร. 02 281 0345-51 ต่อ 1223, 1224
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/804/1606983881_50739485_2438948402843892_2388939120173907968_o.jpg)
หลังจากชมพิพิธบางลำพูเสร็จ แอดก็วิ่งข้ามถนนมาที่ “ร้านพัวกี่ เย็นตาโฟ”
ร้านพัวกี่ เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวสูตรดั้งเดิมสุดอร่อยในย่านพระนคร มีทั้งก๋วยเตี๋ยว ต้มยำ เย็นตาโฟ เเห้งน้ำ ครบเครื่อง รสชาติถึงรสถึงใจ
แอดสั่งตามเมนูแนะนำเลย นั่นก็คือ “ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำน้ำข้น” เพิ่มเกี๊ยวกุ้งด้วย
อยากจะบอกว่า รสชาติเข้มข้นมากกกก มากๆๆๆๆๆๆๆ ถึงเครื่องสุดๆ อร่อย กลมกล่อม ไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่มเลย อยากจะได้ข้าวสวยร้อนๆ อีกซักจาน เพราะน้ำซุปเข้มข้นมากจริงๆ
ร้านพัวกี่
ที่ตั้ง : ถนนพระสุเมรุ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ
เปิดวันจันทร์-เสาร์ (ปิดวันอาทิตย์) เวลา 08.30-17.00 น.
โทร. 02 281 4673
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/804/1606983920_50574217_2438948539510545_1537666354314739712_o.jpg)
เติมพลังจนเต็มท้องแล้ว ก็เดินยาวๆ ไปต่อกันที่ “พิพิธภัณฑ์เหรียญ”
กรมธนารักษ์ได้ดำเนินการปรับเปลี่ยนอาคารสำนักบริหารเงินตราให้เป็น “พิพิธภัณฑ์เหรียญ” เพื่อเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ประวัติศาสตร์เกี่ยวกับเงินตราของแผ่นดิน
โดยต้องการให้คนไทยได้ตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของเหรียญกษาปณ์ไทย และเพื่อใช้เป็นบันทึกทางประวติศาสตร์บอกเล่าเรื่องในอดีตที่เกี่ยวกับวิถีชีวิต สังคม เศรษฐกิจ และศิลปวัฒนธรรมไทย
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/804/1606983963_50275199_2438948632843869_7845018028277235712_o.jpg)
ภายในพิพิธภัณฑ์ มีทั้งโซนที่จัดแสดงนิทรรศการ โซนห้องสมุด รวมทั้งห้องกิจกรรมการเรียนรู้เกี่ยวกับเหรียญ นับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ควรค่าแก่การเข้าชมจริงๆ
การเข้าชมจะแบ่งเป็นรอบทุกๆ 20 นาที โดยรอบแรกเริ่มเวลา 10.00 น. และรอบสุดท้ายเวลา 17.00 น. แต่ละรอบจะมีวิทยากรบรรยายนำชมและให้ความรู้
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/804/1606983976_50288922_2438948586177207_1797976453745213440_o.jpg)
เนื้อหาของนิทรรศการนำเสนอที่มาที่ไปของเงินตราก่อนการกำเนิดของเหรียญ โดยเริ่มต้นเล่าจากภาพรวมทั่วโลก ก่อนจะขยับแคบลงเพื่อตามหาที่มาของเงินตราจากแต่ละทวีป และเจาะลึกที่เงินตราของประเทศไทย
ภายในพิพิธภัณฑ์มีอักษรเบรลล์ สำหรับผู้พิการทางสายตาอีกด้วยนะ
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/804/1606983998_50099078_2438948696177196_751837349469487104_o.jpg)
ก่อนจบการบรรยายจะมีมุมกิจกรรมประทับตราเล็กๆ น่ารักๆ ให้เราได้ลองทำและนำกลับไปเป็นของที่ระลึกด้วย
พิพิธภัณฑ์เหรียญ
ที่ตั้ง : ถนนจักรพงษ์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ
เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์ วันปีใหม่ และสงกรานต์) เวลา 10.00-18.00 น.
เข้าชมฟรี
โทร. 02 282 0818
พิกัด : https://goo.gl/maps/58Joi3KiYu42
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/804/1606984041_50309842_2438948869510512_1780285238639853568_o.jpg)
เดินลัดเลาะมาเรื่อยๆ จนถึง “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร”
เดิมพื้นที่นี้คือวังหน้า หรือ พระราชวังบวรสถานมงคล มีพระที่นั่งที่สำคัญ ได้แก่ พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย เป็นต้น
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจัดแสดงโบราณวัตถุต่างๆ มากมาย อันเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของไทยและเพื่อนบ้าน นับเป็นพิพิธภัณฑสถานสำหรับประชาชนแห่งแรกของไทย สร้างขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.2402
แต่น่าเสียดาย แอดมาวันอังคารซึ่งเป็นวันที่พิพิธภัณฑ์ปิดพอดี เลยไม่ได้เข้าไปชมข้างใน
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
ที่ตั้ง : ถนนหน้าพระธาตุ แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ
เปิดวันพุธ-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์-อังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์) เวลา 09.00-16.00 น.
อัตราค่าเข้าชม
– ชาวไทย 30 บาท ชาวต่างประเทศ 200 บาท
– นักเรียน นักศึกษา ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป พระภิกษุ สามเณร และนักบวชทุกศาสนา เข้าชมฟรี
โทร. 02 224 1370
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/804/1606984063_50120397_2438948719510527_7243818586471399424_o.jpg)
เดินต่อมาไม่นานก็ถึง “วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร”
เป็นวัดเก่าแก่สร้างในสมัยอยุธยา เดิมชื่อว่า วัดสลัก ในสมัยรัชกาลที่ 1 สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาทได้ทรงปฏิสังขรณ์และสร้างถาวรวัตถุขึ้นมาใหม่ พร้อมกับการก่อสร้างพระราชวังบวรสถานมงคล ได้รับพระราชทานนามว่า “วัดนิพพานาราม”
ต่อมาเมื่อมีการสังคายนาพระไตรปิฎกที่วัดนี้ รัชกาลที่ 1 จึงโปรดฯ ให้เปลี่ยนนามวัดเป็น “วัดพระศรีสรรเพชญ์”
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/804/1606984087_50713230_2438948762843856_3756099275746967552_o.jpg)
และได้รับพระราชทานนามวัดใหม่อีกครั้งว่า “วัดมหาธาตุ” ตามอย่างวัดในกรุงศรีอยุธยาที่เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราช
ในสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฏราชกุมารสวรรคต รัชกาลที่ 5 ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ เพื่อใช้ในการปฎิสังขรณ์วัด จึงโปรดฯ ให้เพิ่มสร้อยนามพระอารามเพื่อเฉลิมพระเกียรติแด่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ว่า “วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์”
วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร
ที่ตั้ง : แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ
เปิดทุกวัน เวลา 07.00-18.00 น.
เข้าชมฟรี
โทร. 02 221 5999
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/804/1606984124_50051925_2438948799510519_1039389305472024576_o.jpg)
เดินออกมาจากวัด เราก็จะเห็นตึกถาวรวัตถุ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ “นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว”
รัชกาลที่ 5 โปรดฯ ให้สร้างอาคารหลังนี้เพื่อเตรียมไว้เป็นที่ประดิษฐานพระบรมศพของพระองค์เองแทนการสร้างพระเมรุมาศซึ่งเป็นการสิ้นเปลือง และเมื่อเสร็จงานพระบรมศพแล้วจะพระราชอุทิศถวายเป็นสถานที่เล่าเรียนของสงฆ์ แต่ยังไม่แล้วเสร็จก็เสด็จสวรรคตเสียก่อน
ในสมัยรัชกาลที่ 6 ได้ใช้ที่นี่เป็นที่ตั้งของหอพระสมุดวชิรญาณสำหรับพระนคร และใช้เป็นหอสมุดเรื่อยมา จนมาในสมัยรัชกาลที่ 9 ภายหลังจากที่ได้ย้ายหนังสือทั้งหมดไปไว้ที่หอสมุดแห่งชาติ ท่าวาสุกรีแล้ว อาคารหลังนี้ก็ได้ใช้เป็นที่ทำการของหน่วยงานต่างๆ ของกรมศิลปากร
ในปัจจุบันเป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาส 100 ปีแห่งการสวรรคต
ซึ่งวันที่แอดมา ก็เป็นวันที่เค้าก็ปิดทำการอีกแล้ว เลยอดเข้าชมข้างในเลย
อาคารนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมกล้าเจ้าอยู่หัว (ตึกถาวรวัตถุ)
ที่ตั้ง : ถนนหน้าพระธาตุ แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
เปิดวันพุธ-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์-อังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์) เวลา 09.00-16.00 น.
เข้าชมฟรี
โทร. 02 222 4867
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/804/1606984141_49948608_2438949216177144_6354073187201843200_o.jpg)
ปิดท้ายทริปกันที่ร้าน “A pink rabbit + Bob”
ร้าน A pink rabbit + Bob เป็นร้านที่โดดเด่นในเรื่องขนมเค้ก เพราะในแต่ละวันจะมีเค้กแบบต่างๆ มาให้เลือกทานอย่างหลากหลาย
การตกแต่งร้านก็สวยงามสะดุดตาด้วยเฟอร์นิเจอร์สไตล์วินเทจ โต๊ะกลมแบบจีน โซฟาแบบตะวันตก และโคมไฟนีออน ที่มองรวมๆ แล้วมีเสน่ห์มากๆ
แอดสั่ง New York Cheese Cake มาทาน มีกลิ่นชีสและกลิ่นเลมอนบางๆ แป้งเค้กนุ่มกำลังดี มี Texture ของครัมเบิ้ลด้านล่างให้เคี้ยวกรุบๆ รสชาติเปรี้ยวอมหวานกำลังดี
![](https://archived.tatcontactcenter.com/assets/data/blog/804/1606984167_50051922_2438948879510511_476994781516398592_o.jpg)
ส่วนเครื่องดื่ม Ovation Volcano (โอวัลตินภูเขาไฟ) รสชาติเข้มข้น ไม่หวานมาก ผงโอวัลตินให้เยอะมากๆ
อีกเมนูคือ Strawberry Pineapple Smoothie (สตรอว์เบอร์รีสับปะรดสมูตตี้) รสชาติมีความเปรี้ยวของสตรอว์เบอร์รีกับสับปะรด ดื่มแล้วสดชื่นมากๆ
A pink rabbit + Bob
ที่ตั้ง : ถนนมหาราช แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ
เปิดทุกวัน เวลา 08.00-20.00 น.
โทร. 062 639 8880
เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 18 มกราคม 2562