อาหารท้องถิ่น

เพชรบุรี : One Day Trip

หากอยากลองออกเดินทางเพื่อหาประสบการณ์ใหม่ ๆ แต่อาจจะมีเวลาไม่มากนัก เราอยากให้ลองมองเมืองน่ารักที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ที่ไม่ว่าจะขับรถมาเอง นั่งรถไฟ หรือใช้บริการรถสาธารณะ ก็สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวแบบ One Day Trip ได้แบบง่าย ๆ กันที่จังหวัดเพชรบุรี เมืองสวย ร่ำรวยวัฒนธรรม และที่สำคัญคือมีอาหารการกินที่น่าสนใจรอให้ไปชิมอยู่มากมาย และวันนี้เราจะขอแนะนำทริปท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบุรีใน 1 วันกัน สำหรับสถานที่แรกของทริปนี้เราอยู่กันที่ “อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี” หรือที่รู้จักในชื่อ “พระนครคีรี” และ “เขาวัง” ที่ตั้งอยู่บนภูเขากลางเมืองเพชรบุรี ที่นี่สร้างขึ้นในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เพื่อใช้เป็นพระราชวังฤดูร้อน กลุ่มอาคารที่ประกอบด้วยวัง อาคารพระที่นั่ง ศาสนสถาน ป้อมปราการ และสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดล้วนถูกสร้างขึ้นโดยผสมผสานศิลปกรรมแบบไทย จีน และตะวันตกเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน นอกจากนี้ยังเป็นจุดชมวิวที่มองเห็นทิวทัศน์ของเมืองเพชรบุรีได้อย่างงดงาม นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปเที่ยวชมได้ทั้งการเดินขึ้นบันไดหรือใช้บริการรถรางก็สามารถทำได้ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี เปิดให้เข้าชมทุกวันเวลา 08.30-16.30 น. พิกัด (ทางเข้าที่จอดรถ) https://goo.gl/maps/XkN8Vz45smBkpVRv8 ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเพชรบุรี ใจกลางตัวเมือง “วัดมหาธาตุวรวิหาร” มีอาคารสถาปัตยกรรมที่สวยงามมากมาย ทั้ง พระวิหารหลวง พระปรางค์ 5 ยอดสีขาวขนาดใหญ่ที่เป็นศิลปะผสมผสานระหว่างยุคอยุธยาตอนปลายและรัตนโกสินทร์ตอนต้น โดยองค์ประธานมีความสูงถึง 55 เมตร และพระพุทธรูปฝีมือของช่างสกุลเพชรบุรีที่เป็นเอกลักษณ์และประณีตงดงามหลายองค์ วัดมหาธาตุวรวิหาร เปิดให้เข้าชมทุกวัน พิกัด https://goo.gl/maps/nrifiVEESY3ySLeX6 นอกจากนี้ ในบริเวณตัวเมืองไม่ไกลจากวัดยังเป็นแหล่งรวบรวมร้านอาหารถิ่นอร่อย ๆ จำนวนมาก ทั้งข้าวแช่ และของหวาน  หรือจะเดินถ่ายรูปสตรีตอาร์ตสวย ๆ ก็เป็นไอเดียที่ดีไม่น้อย หรือจะเลือกท่องเที่ยวรอบเมืองด้วยรถจักรยานก็เป็นวิธีเดินทางที่น่าสนใจไม่น้อย  “วัดใหญ่สุวรรณารามวรวิหาร” อีกหนึ่งสถานที่สำคัญคู่บ้านคู่เมืองเพชรบุรีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ชาวบ้านในพื้นที่นิยมเรียกว่า “วัดใหญ่” และยังเป็นสถานที่รวบรวมผลงานเชิงช่างของชาวเพชรบุรีไว้มากมาย ทั้งยังมีกลุ่มสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นหลายอาคาร ทั้งอุโบสถทรงสำเภาที่งดงามทั้งภายนอกและภายใน รวมถึงศาลาการเปรียญ วัดใหญ่สุวรรณารามวรวิหาร เปิดให้เข้าชมทุกวัน พิกัด https://goo.gl/maps/Tm59sHtP76LSSbb97 ถ้าเอ่ยถึงสัญลักษณ์ของจังหวัดเพชรบุรี หลายคนน่าจะนึกถึงต้นตาลที่ขึ้นอยู่เป็นจำนวนมากทั่วจังหวัด และชาวเพชรบุรีเรียนรู้ที่จะใช้ประโยชน์จากพืชชนิดนี้มาตั้งแต่อดีตกาล โดยเฉพาะในเรื่องอาหารการกิน และเมื่อเป็นเช่นนั้น เมื่อเดินทางมาถึงเพชรบุรีแล้ว ก็ไม่ควรพลาดที่จะไปเรียนรู้กรรมวิธีการทำสวนตาลลุงถนอม แหล่งเรียนรู้เรื่องตาลแบบครบวงจรที่เกิดขึ้นจากแรงบันดาลใจที่จะอนุรักษ์ต้นตาลเอาไว้ให้คนรุ่นหลัง ลุงถนอมจึงเริ่มปลูกต้นตาลในพื้นที่สวนของตนจำนวนหลายร้อยต้น และเปิดเป็นศูนย์เรียนรู้กระบวนการทำตาลตั้งแต่การเก็บ การแปรรูปเป็นสินค้าประเภทต่าง ๆ  ที่นี่ยังเป็นที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ตาลแปรรูปที่น่าสนใจทั้งขนม น้ำตาลโตนด หรือน้ำตาลสดรสชาติดีให้ซื้อหาเป็นของฝากกลับบ้านกันได้เลย พิกัด https://goo.gl/maps/mzUp8n9PnL9jawFM7

เพชรบุรี : One Day Trip อ่านเพิ่มเติม

✨ ฟาร์มฝันพรหมคีรี นครศรีธรรมราช ✨

พรหมคีรี อำเภอหนึ่งในนครศรีธรรมราช ที่บัดดี้พึ่งมีโอกาสได้ไปเที่ยวเมื่อไม่นานมานี้ เป็นอำเภอที่มีทั้งน้ำตก ป่าผืนใหญ่ ภูเขาสลับซับซ้อน วัดเก่า สวนสมรมของคนในพื้นที่ ฟาร์มและกิจการของคนรุ่นใหม่ ที่วาดฝันอยากพัฒนาบ้านเกิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่อิงอยู่กับธรรมชาติได้อย่างยั่งยืนและมีคุณภาพ ลองตามมาอ่านเนื้อหาดู แล้วจะรู้ว่าทำไมบัดดี้ถึงอยากแนะนำ 1. ชมรมการท่องเที่ยวโดยชุมชนพรหมโลก พรหมโลก เป็นชื่อตำบลในอำเภอพรหมคีรี ตั้งอยู่ใกล้เขาหลวง (ทิวเขานครศรีธรรมราช) พื้นที่แห่งชีวิตที่เต็มไปด้วยพืชพันธุ์นานาชนิด ที่มอบอาหารและรายได้ให้คนในพื้นที่มาเนิ่นนาน การท่องเที่ยวชุมชน เป็นสิ่งที่บัดดี้อยากแนะนำ เพราะเป็นการปูพื้นฐานให้ได้รู้จักพรหมโลกอย่างแท้จริง บัดดี้ติดต่อกับ “พี่สาว” หนึ่งในคนที่ผลักดันให้เกิดชมรมการท่องเที่ยวโดยชุมชนพรหมโลก และมีโอกาสได้นั่งคุยกันถึงแรงบันดาลใจ ความเป็นมา วัฒนธรรมและแหล่งท่องเที่ยวในชุมชน พรหมโลกเป็นสถานที่ที่ฝนตกบ่อยมาก วันที่บัดดี้ไปก็ฝนตกปรอย ๆ ทำให้มีกิจกรรมไม่มากนักให้เลือกทำได้ บัดดี้เลือก “ร้อยลูกปัดมโนราห์” สามารถทำเป็นแหวน สร้อยแขนหรือสร้อยคอได้ตามใจอยาก โดยลูกปัดจะมีสีสันสวยงามเหมือนชุดมโนราห์ มีไม้มงคลที่ผ่านการปลุกเสกด้วยนะ ใครสายมูห้ามพลาดเลยล่ะ อีกหนึ่งสิ่งที่ใครมาเป็นต้องติดใจ นั่นคือการกินอาหารถิ่น ที่ทางชมรมฯ เตรียมไว้ให้ อร่อยทุกเมนู (ย้ำว่าอร่อยทุกเมนูจริง ๆ) ทั้งแกงส้ม ยำผักกูด แกงเนื้อ ปลาใส่อวน (ปลาส้ม) ซึ่งหากใครมีเวลามากพอ สามารถร่วมทำอาหารถิ่นได้ด้วยนะ เพื่อน ๆ สามารถเรียนรู้และซึมซับวิถีชีวิตของคนในท้องถิ่นผ่านกิจกรรมอื่น ๆ ได้อีกมากมาย เช่น เที่ยวสวนสมรม (สวนผลไม้แบบผสมผสาน) การทำผ้าบาติก ปั่นจักรยานชมธรรมชาติ เรียนรู้ศิลปะการแสดงพื้นถิ่นมโนราห์ เดินป่าศึกษาธรรมชาติ ณ อุทยานเขาหลวง ไปจนถึงนอนบ้านพักโฮมสเตย์ในชุมชน โดยเพื่อน ๆ สามารถสอบถามรายละเอียดของกิจกรรมต่าง ๆ ได้ที่ https://www.facebook.com/CBTPromlok  ตำบลบ้านเกาะ อำเภอพรหมคีรี นครศรีธรรมราช เปิดบริการทุกวัน (กรุณาติดต่อล่วงหน้า) 08 1081 9150 พี่สาว​https://maps.app.goo.gl/JYsxTP4BJ8oo4Qe8A?g_st=ic 2. น้ำตกพรหมโลก หลังจากร้อยลูกปัดมโนราห์ เสร็จแล้ว บัดดี้จะพาเพื่อน ๆ มาชมน้ำตกพรหมโลก น้ำตกขนาดใหญ่ที่มีลานหินกว้าง ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาหลวง น้ำตกพรหมโลกมีต้นกำเนิดจากทิวเขานครศรีธรรมราช ไหลผ่านโขดหินลดหลั่นกันมาเป็นชั้น ๆ มีทั้งหมด 50 ชั้น เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้เพียง 4 ชั้นเท่านั้น ได้แก่ชั้นที่ 1 – หนานวังบ่อน้ำวนชั้นที่ 2 – หนานวังไม้ปักชั้นที่ 3 – หนานวังหัวบัวชั้นที่ 4 – หนานวังอ้ายเล บัดดี้แนะนำให้ติดต่อล่วงหน้า จะได้มีเจ้าหน้าที่ของอุทยานพาชมน้ำตกในแต่ละชั้น พร้อมให้ความรู้ไปตลอดเส้นทางชมน้ำตก  เพื่อน ๆ ทุกคนสามารถเดินไปชมน้ำตกแต่ละชั้นได้ด้วยทางเดินป่า มีทั้งส่วนที่เทปูนและทางดิน เดินได้ไม่ยากนัก  ไฮไลต์อยู่ตรงบริเวณหน้าผาน้ำตกชั้นที่ 1 มีลายพระหัตถ์ พระปรมาภิไธยย่อของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (ภปร.) และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง (สก.) บริเวณหน้าผา อย่างที่บัดดี้บอกว่าวันที่ไปฝนตก น้ำค่อนข้างเยอะ ทำให้ไม่สามารถมองเห็นได้  หากใครมาในช่วงหน้าร้อน ด้านล่างน้ำตกมีจุดเล่นน้ำ มีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัย สบายใจหายห่วง แต่หากใครมาช่วงที่ฝนตกแบบบัดดี้ ก็สามารถเดินชมเฉย ๆ ได้ อากาศเย็น สวยไปอีกแบบ ข้อควรระวัง– เนื่องจากน้ำตกพรหมโลกอยู่ที่พื้นที่ป่าดิบชื้น ควรสวมรองเท้าเดินป่า รองเท้าผ้าใบและกางเกงขายาว เพื่อป้องกันทากดูดเลือด– ควรเล่นน้ำเฉพาะจุดที่กำหนดให้เล่น เนื่องจากมีบ่อน้ำวนหลายจุด  อัตราค่าบริการอุทยานแห่งชาติเขาหลวง– คนไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท– ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท  ตำบลบ้านเกาะ อำเภอพรหมคีรี นครศรีธรรมราช เปิดบริการทุกวันเวลา 08.00-16.00 น. 07 5300 494https://goo.gl/maps/t3yHVmNmnBAJKjba8 นอกจากน้ำตกพรหมโลกแล้ว ที่นี่ยังมีอีกสถานที่เล่นน้ำที่เรียกว่า “วังปลาแงะ“ ฝายน้ำล้น ที่มีถนนตัดผ่าน อีกหนึ่งสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของคนพรหมโลก   ตำบลบ้านเกาะ อำเภอพรหมคีรี นครศรีธรรมราช เปิดบริการทุกวันเวลา 06.00-21.00 น.https://goo.gl/maps/ZsTjJKRPwPSew5fUA 3. AG Café (Aston Gilbert Cafe) สถานที่ต่อมา คือคาเฟกลางสวนยาง ที่เกิดขึ้นจากความตั้งใจของคุณแชมป์-ภวัต สุวรรณมาศ ที่เปลี่ยนส่วนหนึ่งของสวนยางพาราของครอบครัว ให้กลายมาเป็นอาคารทรงโมเดิร์นติดกระจก พร้อมเครื่องดื่มและขนมที่อร่อย ใครได้มาลองเป็นต้องถูกใจ  ตัวอาคารมี 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นห้องกระจก มองเห็นวิวสวนยางภายนอกสวยสบายตา ชั้นสองเป็นพื้นที่ Out door รับลมได้เพลิน ๆ โดยวิวสวนยางที่เห็น จะดูสวยแตกต่างกันไปแต่ละฤดู แม้จะเป็นสวนยางสวนเดิมก็ตาม  เอาล่ะ…ขอบัดดี้ขายเครื่องดื่มและขนมหน่อย ที่ AG Café ถือได้เลยว่าเป็นการนำวัตถุดิบความเป็น Local ในแต่ละช่วงของปี เมนูจะเปลี่ยนไปตามวัตถุดิบของแต่ละฤดู ทั้งการนำน้ำมังคุดคัดคีรีวงมาผสมกาแฟ โกโก้ที่ปลูกในท้องถิ่นมาทำเป็นช็อกโกแลตผสมในขนม หรือหากเพื่อน ๆ ไม่รู้ว่าสั่งเมนูอะไรดี สอบถามพนักงานได้เลย พี่ ๆ พร้อมอธิบายข้อมูลขนมและเครื่องดื่มให้ฟังเต็มที่  อีกหนึ่งจุดที่บัดดี้ประทับใจคือ หากเพื่อน ๆ ต้องการถ่ายรูปหรือไม่รู้จะถ่ายจุดไหนดี สามารถแจ้งพนักงานในร้านได้เลย เพราะทางคุณแชมป์ได้เทรนเรื่องการถ่ายรูปให้พี่ ๆ พนักงานในแล้วรียบร้อย รับรองช่วยถ่ายเพื่อน ๆ ได้ตึกตรง ไม่เบี้ยวแน่นอน  13 ตำบลบ้านเกาะ อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดบริการทุกวันเวลา 9.00-17.00 น. 09 3728 6468, 09 4586 9519https://goo.gl/maps/AWyeNKxDXLj1YzCB8Facebook https://www.facebook.com/AstonGilbertt 4. เพาะรัก 2

✨ ฟาร์มฝันพรหมคีรี นครศรีธรรมราช ✨ อ่านเพิ่มเติม

เขาใหญ่ ปราจีนบุรี เส้นทางนี้ธรรมชาติดี๊ดี 🌿

จังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดปราจีนบุรี นับว่าเป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ทั้งป่าเขา น้ำตกที่เป็นธรรมชาติค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ และมีสถานที่ทางประวัติศาสตร์น่าชมอีกด้วย เส้นทางวันนี้หากเพื่อน ๆ มีเวลา 2-3 วัน บัดดี้ว่ากำลังดีที่เราจะได้หาวันพักผ่อนชิล ๆ จะมีที่ไหนบ้าง ไปชมกันเลย ใครเคยไปเที่ยวกันมาแล้ว อย่าลืมเอารูปภาพสวย ๆ มาอวดบัดดี้บ้างนะคะ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่  หนึ่งในพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติ (World Heritage Site) ครอบคลุมพื้นที่ 4 จังหวัด เป็นพื้นที่อนุรักษ์ที่มีสัตว์ป่าชุกชุมมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย แถมยังมีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปีและในช่วงฤดูฝนที่ใกล้จะมาถึงนี้ เพื่อน ๆ จะได้สัมผัสความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าเขาใหญ่และได้สูดอากาศบริสุทธิ์เต็มปอดเลยล่ะ  อุทยานฯ มีกิจกรรมให้ทำมากมาย อย่างภาพนี้เป็นกิจกรรมขึ้นหอดูสัตว์หนองผักชี หอดูสัตว์จะสร้างใกล้ ๆ โป่ง เนื่องจากสัตว์จะลงมากินดินโป่ง ส่วนใหญ่จะได้เห็นกวาง ช้างป่า หากโชคดีจะได้เห็นกระทิงลงมากินดินโป่งด้วยนะ ซึ่งหาชมได้ยากมาก อุทยานฯ มีบริการที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว สามารถจองที่พักได้ด้วยตนเองที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว (กรณีห้องพักไม่เต็มจำนวนการจอง) หรือ ลงทะเบียนจองบ้านพักล่วงหน้าผ่านระบบออนไลน์ได้ที่ https://nps.dnp.go.th//reservation.php?option=home/ หากใครเป็นสายลุย อุทยานฯ มีเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติทั้งระยะใกล้-ไกล หรือประเภทค้างแรมในป่าก็มี ผู้สนใจสามารถติดต่อเดินป่าได้ที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติใกล้เคียงและที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่โดยตรงค่ะ นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมส่องนก ซึ่งมีนกหลากหลายชนิด สามารถถ่ายรูปเป็นที่ระลึกสำหรับนักดูนก เพียงมีกล้องส่องทางไกลหรือเลนส์กล้องระยะซูมไกล ๆ นอกจากความเพลิดเพลินแล้วยังได้มีโอกาสชมนกสวย ๆ และหาดูได้ยากในปัจจุบัน สำหรับใครที่เข้าไปเที่ยว อย่าลืมปฏิบัติตามระเบียบของอุทยานฯ อย่างเคร่งครัดและช่วยกันรักษาไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมนะคะ  ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ตู้ปณ. 9 ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เปิดทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น. โทร. 08 6092 6527, 08 6092 6529 เว็บไซต์ https://www.khaoyainationalpark.com/contact-ushttps://goo.gl/maps/dcTRLwZSHneUtm2S6 ไร่องุ่น PB Valley  ที่นี่มีพื้นที่ปลูกองุ่นกว่า 500 ไร่ ถือเป็นโรงงานผลิตไวน์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เรียกว่าเป็นสวรรค์ของคนรักไวน์เลยก็ว่าได้ ภายในมีกิจกรรมต่าง ๆ ให้ทำมากมายอีกด้วยกิจกรรมไวน์ทัวร์ ราคาคนละ 350 บาทนั่งรถรางชมไร่ รับฟังการบรรยายเรื่องการปลูกองุ่น กระบวนการผลิตไวน์จากผู้เชี่ยวชาญ พร้อมชิมไวน์แบบสด ๆกิจกรรมตัดองุ่น ราคาคนละ 400 บาทนั่งรถรางชมไร่ พร้อมกิจกรรมตัดองุ่น ซึ่งเราจะได้องุ่นกลับบ้านไปได้เลย นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีร้านอาหาร ที่พัก จักรยานให้เช่า และร้านขายของที่ระลึก จำหน่ายผลิตภัณฑ์จากองุ่นหลายอย่าง เช่น ไวน์ องุ่นสด แยม และขนมต่าง ๆ เป็นต้น  เปิดทุกวัน เวลา 07.30-16.30 น. โทร. 081 733 8783, 085 481 1741https://goo.gl/maps/fR1bLxNGqfcDCyQL8  พิพิธภัณฑ์การแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร  ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร อาคารสีเหลืองสดใสสไตล์บาร็อกริมแม่น้ำปราจีนบุรีแห่งนี้ ตั้งอยู่ภายในโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เป็นตึกที่เจ้าพระยาอภัยภูเบศรสร้างขึ้นด้วยทรัพย์สินส่วนตัว เคยใช้เป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งเสด็จฯ เยือนมณฑลปราจีน และเคยใช้เป็นตึกอำนวยการรักษาผู้ป่วย หลังจากตึกอำนวยการหลังใหม่สร้างเสร็จ กรมศิลปากรก็ได้ขึ้นทะเบียนตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศรเป็นโบราณสถาน พ.ศ. 2539 ภายในตึกได้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์การแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร จัดแสดงประวัติความเป็นมาของตึก รวบรวมและอนุรักษ์ตำรายาไทย การแพทย์แผนไทย และการแพทย์พื้นบ้านของจังหวัดปราจีนบุรี นอกจากนี้ยังมีสินค้าสมุนไพรของอภัยภูเบศรจำหน่ายด้วย ใครชอบผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร อย่าลืมแวะซื้อกันได้นะคะ อภัยภูเบศร เดย์ สปา นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมสปา สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการนวดผ่อนคลาย หรือมีปัญหาปวดเมื่อยเนื้อตัว ที่นี่มีการนวดหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นการกดจุด นวดด้วยสารสกัดจากสมุนไพรเข้มข้นหลากหลายชนิด ให้รู้สึกผ่อนคลาย สบายตัวจากอภัยภูเบศร เดย์ สปา ต้องลองมากันค่ะ 32/7 หมู่ที่ 12 ตำบลท่างาม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี เปิดทุกวัน เวลา 08.30 – 16.30 น. 0 3721 7127, 0 3721 1088 ต่อ 3123, 2149, 2133https://goo.gl/maps/f741531vS9v3pTQH9

เขาใหญ่ ปราจีนบุรี เส้นทางนี้ธรรมชาติดี๊ดี 🌿 อ่านเพิ่มเติม

✨ อัมพวา-บางคนที : สมุทรสงคราม ✨

เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไป มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย ทั้งสายมู สายรักธรรมชาติ ชอบแบบสโลว์ไลฟ์ หรือจะชอบแบบครึกครื้น ก็มีให้เลือกได้ไม่อั้น แถมอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ใช้เวลาเดินทางไม่นาน ไปเที่ยววันเดียวก็ไปได้ บัดดี้มีเส้นทางท่องเที่ยวในอำเภอบางคนที และอำเภออัมพวา มาแนะนำเพื่อน ๆ ด้วย ไปชมกันเลย จากกรุงเทพฯ ใช้เวลาเดินทางมายังจังหวัดสมุทรสงคราม ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง  หรือถ้าหากใครมาโดยรถโดยสารสาธารณะ สามารถใช้บริการรถตู้และรถมินิบัส ขึ้นได้ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารสายใต้ มาลงที่ตลาดน้ำอัมพวา หรือใครจะไปขึ้นรถไฟ  ก็สามารถขึ้นได้ที่สถานีวงเวียนใหญ่มาลงที่สถานีมหาชัย จากนั้นนั่งเรือข้ามฟากไปต่อรถไฟที่สถานีบ้านแหลม ลงปลายทางที่สถานีแม่กลอง สอบถามตารางเดินรถ โทร. 1690 หรือเว็บไซต์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย www.railway.co.th การเดินทางท่องเที่ยวในภายในพื้นที่ สามารถเดินทางได้โดยรถตุ๊กตุ๊ก หรือสอบถามการเดินทางเพิ่มเติมได้ที่ ททท.สำนักงานสมุทรสงคราม สักการะวัดดังอำเภอบางคนที ขอพรเสริมสิริมงคล  เรียนรู้การทำเครื่องเบญจรงค์ หัตถศิลป์อันงดงามจังหวัดสมุทรสงคราม  ชิมอาหารจาก “ใบชะคราม” ผักท้องถิ่นริมนาเกลือในจังหวัดสมุทรสงคราม  พาเพื่อน ๆ มาทำกิจกรรมแบบชิล ๆ ในบรรยากาศยามเช้าที่ “ชุมชนบ้านบางพลับ” เป็นศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบและแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรกรรมที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกวัน มีกิจกรรมให้เราได้เรียนรู้และร่วมทำกิจกรรมกันอย่างสนุกสนาน  ภายในชุมชน มีเนื้อที่กว่า 15 ไร่ มีทั้งสวนมะพร้าวและสวนส้มโอ เป็นผลไม้ขึ้นชื่อในจังหวัดสมุทรสงคราม อีกทั้งฐานกิจกรรมต่าง ๆ ที่เราสามารถเข้าไปเยี่ยมชมและทดลองทำร่วมกับชาวบ้านได้ ได้แก่  การเคี่ยวน้ำตาลมะพร้าว โดยเก็บน้ำหวานจากช่อดอกมะพร้าว นำมาเคี่ยว แปรรูปเป็นน้ำตาลปึก ชมสวนส้มโอ สวนเกษตรอินทรีย์ การแช่อิ่มผักผลไม้ โดยเฉพาะผักรสขมที่นำมาแช่อิ่มจนมีรสหวาน รับประทานง่าย การทำถ่านจากผลไม้ หากกลายเป็นขยะไปก็คงใช้เวลาย่อยสลายนาน เอามาทำเป็นถ่านให้ใช้งานต่อไปได้ หากเพื่อน ๆ อยากมาทำกิจกรรม แนะนำให้ติดต่อแจ้งทางชุมชนไว้ล่วงหน้า  บรรยากาศภายในชุมชนบ้านบางพลับ มีต้นไม้ร่มรื่นตลอดสองข้างทาง เพื่อน ๆ สามารถเช่าจักรยานปั่นเที่ยวในชุมชนได้  ค่าเช่าจักรยาน 30 บาท/คน  ตำบลบางพรม อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม เปิดทุกวันเวลา 09.00-17.00 น. 08 1274 4433https://goo.gl/maps/gozEEVX4ufF2 ออกเดินทางมายังอีกฝั่งของแม่น้ำแม่กลอง พาเพื่อน ๆ ไปไหว้พระพุทธรูปที่ “วัดบางกุ้ง” ✨ กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก ได้ชื่อว่าเป็นโบสถ์พลิกชีวิต จากร้ายกลายเป็นดี มีผู้คนเดินทางไปกราบไหว้เป็นจำนวนมาก ในอดีต คือ “ค่ายบางกุ้ง” ที่สมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์โปรดเกล้าฯ ให้ยกกองทัพเรือมาตั้งค่าย โดยมีวัดแห่งนี้อยู่ตรงกลาง เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของเหล่าทหาร จุดเด่นของวัดบางกุ้งคือโบสถ์เก่าแก่สมัยกรุงศรีอยุธยา มีต้นไม้ปกคลุมบนโบสถ์ถึง 4 ชนิด นั่นคือ ต้นโพธิ์ ต้นไทร ต้นไกร และต้นกร่าง มีความเก่าแก่ อายุหลายร้อยปี 🌳 ภายในโบสถ์ ประดิษฐาน “หลวงพ่อนิลมณี” พระพุทธรูปปางมารวิชัย มีพุทธลักษณะแบบศิลปะอยุธยาตอนปลาย ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก นิยมมากราบไหว้ขอพรและโชคลาภ หากใครเดินทางมาที่วัดบางกุ้งในช่วงนี้ อาจจะต้องวางแผนเผื่อเวลากันสักนิด เพราะมีผู้คนหลั่งไหลกันไปกราบไหว้กันตลอดทั้งวันทั้งคืน  หมู่ 4 ตำบลบางกุ้ง อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม เปิดทุกวันเวลา 08.00-18.00 น.https://goo.gl/maps/Rzp2yhQuEEbQS3eQ7 พักเที่ยวมากินของอร่อยที่ “ร้านข้าวใหม่ปลามัน”  ใช้เวลาเดินทางมาจากวัดบางกุ้งราว ๆ 30 นาที  เดินเข้ามาก็ต้องรู้สึกว้าวกับบรรยากาศภายในร้านมาก ๆ เพราะตัวร้านใช้วัสดุในการก่อสร้างด้วยไม้ไผ่แบบพื้นบ้าน  แต่ตกแต่งร้านสไตล์โมเดิร์นจนสวยงาม ดีไซน์จากอัตลักษณ์ความเป็นแม่กลองได้อย่างลงตัว  ที่นี่เสิร์ฟอาหารพื้นบ้านแบบไทย ๆ แถมยังตั้งอยู่ในแหล่งวัตถุดิบชั้นดี เพราะว่าสมุทรสงครามนั้น ขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเล ผักพื้นบ้านหายาก ผลไม้น้ำดี บอกเลยว่ามื้อนี้ได้กินอาหารแบบสดใหม่กันอย่างจุใจแน่นอน  ร้านข้าวใหม่ปลามัน  ตำบลแพรกหนามแดง อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม เปิดทุกวันเวลา 10.00-21.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์ที่ 2 ของเดือน) 06 3824 9996https://maps.app.goo.gl/GELqtkkSLGYyQNrC7 อิ่มอร่อยกันแล้ว พาไปชมต่อที่ “ปิ่นสุวรรณเบญจรงค์”  ที่นี่เป็นแหล่งผลิตเครื่องเบญจรงค์แบบโบราณในจังหวัดสมุทรสงคราม มีลวดลายอ่อนช้อย สีสันสดใส สวยงามมาก ที่สำคัญ ยังมีขั้นตอนการผลิตที่ต้องใช้ความพิถีพิถันอย่างมาก จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมเครื่องเบญจรงค์เหล่านี้จึงมีคุณค่ามาก  ปิ่นสุวรรณเบญจรงค์ ก่อตั้งโดยคุณครูวิรัตน์ ปิ่นสุวรรณ ซึ่งมีความสนใจในศิลปะโบราณวัตถุ และมีความชำนาญจากการซ่อมเครื่องปั้นดินเผาโบราณ จึงได้ริเริ่มศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและพัฒนาการทำเครื่องปั้นดินเผา การเคลือบ และการเขียนลายลงสีตามแบบวิธีดั้งเดิม จนกลายเป็นเครื่องเบญจรงค์ที่งดงาม เป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญระดับประเทศ ไม่เพียงแค่นั้นคุณครูวิรัตน์ ยังถ่ายทอดแก่ผู้คนในชุมชนให้มีฝีมือเพื่อสร้างอาชีพอีกด้วย  ปิ่นสุวรรณเบญจรงค์ มีกิจกรรม Workshop สาธิตการเขียนลายแก้วเซรามิก วันจันทร์-เสาร์ หากเพื่อน ๆ สนใจ บัดดี้แนะนำให้ติดต่อล่วงหน้าด้วยนะคะ  นอกจากเครื่องถ้วยชามแล้ว ที่ปิ่นสุวรรณเบญจรงค์ ยังมีการนำมาทำเป็นเครื่องประดับและสิ่งของอื่น ๆ ได้อีกด้วย  32/1 หมู่ที่ 7 ตำบลบางช้าง อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม เปิดทุกวันเวลา 08.00-17.00 น. Workshop สาธิตการเขียนลายแก้วเซรามิก เปิดวันจันทร์-เสาร์ (แนะนำให้ติดต่อล่วงหน้า) 0 3475 1322, 08 9136 6059https://goo.gl/maps/6GxWwgJM5gEUREsy6 ก่อนเดินทางกลับ หากเพื่อน ๆ เริ่มหิว หรืออยากแวะซื้อของอร่อยไปฝากคนที่บ้าน แนะนำให้มาที่ ”ตลาดน้ำอัมพวา”  ตลาดน้ำยามเย็นที่มีคลองอัมพวาตัดผ่ากลาง มีบ้านเรือนและร้านค้าขนาบข้างทั้งสองฝั่ง พ่อค้าแม่ค้าพายเรือขายของกันในคลองอย่างคึกคัก ในอดีต อัมพวาถือว่าเป็นศูนย์กลางการคมนาคมทางน้ำที่สำคัญของจังหวัดสมุทรสงคราม มีตลาดน้ำขนาดใหญ่และชุมชนริมน้ำที่เป็นศูนย์กลางด้านพาณิชยกรรม แม้ที่นี่จะเคยได้รับผลกระทบจากการพัฒนาการคมนาคมทางบก จนทำให้ตลาดน้ำอัมพวาเริ่มถูกลดความสำคัญลง แต่ก็ได้หน่วยงานรัฐบาลและความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่ ช่วยกันฟื้นฟูตลาดน้ำอัมพวาขึ้นมาอีกครั้ง ในปี พ.ศ. 2547 เพื่อเป็นการอนุรักษ์ความเป็นอยู่ของชุมชนริมน้ำ และกลับมาเป็นตลาดน้ำที่มีชีวิตเรื่อยมาถึงปัจจุบัน  ที่ตลาดน้ำอัมพวา มีร้านอาหารและของกินเล่นมากมาย ทั้งคาวและหวาน มีวางขายในร้านบนฝั่ง และพายเรือขายตามแบบวิถีดั้งเดิม นอกจากนี้ก็ยังมีวัตถุดิบพื้นบ้าน ผักและผลไม้ที่ชาวบ้านในละแวกนี้นำผลผลิตจากสวนมาขาย  ใครมองหาของที่ระลึกและข้าวของเครื่องใช้ ก็มีให้เลือกซื้อตลอดแนว  ตลาดน้ำอัมพวา  ตำบลอัมพวา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม เปิดวันศุกร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00-21.00 น. 08 3433 5613https://goo.gl/maps/R5Sw6sFRZ7KNsD5JA

✨ อัมพวา-บางคนที : สมุทรสงคราม ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ แอ่วม่วน กิ๋นลำ ณ เวียงเชียงใหม่ ✨

วันนี้บัดดี้จะพาเพื่อน ๆ ขึ้นเหนือมาแอ่วเวียงเจียงใหม่ พร้อมแนะนำร้านอาหารเหนือและสถานที่เที่ยวในตัวเมืองที่มีกลิ่นอายของวัฒนธรรมล้านนามานำเสนอ ที่พิเศษสุด ๆ คือในเส้นทางท่องเที่ยววันนี้ บัดดี้จะไปชมความน่ารักของช้างด้วย ลองมาตามอ่านคอนเทนต์วันนี้ดู รับรองว่าต้องถูกใจ แอ่วม่วน กิ๋นลำ ณ เวียงเชียงใหม่🥰 ตลาดจริงใจ ตลาดจริงใจ เป็นตลาดขายผักปลอดสารและเกษตรอินทรีย์แห่งแรกของกลุ่มเซ็นทรัล ที่จัดจำหน่ายพืชผักผลไม้ปลอดสารเคมีจากเกษตรกรถึงผู้บริโภคโดยตรง เพื่อสนับสนุนการสร้างรายได้ของเกษตรกรและส่งเสริมการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ ตลาดจริงใจ เป็นตลาดเช้าที่ขายเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ แบ่งออกเป็น 3 โซน คือ1. จริงใจ Farmers Market (ทุกวันเสาร์ – อาทิตย์ 6.00-13.00 น.)โซนแผงขายผักผลไม้ ที่เกษตรกรผู้ปลูกนำมาขายด้วยตัวเอง โดยพืชผักผลไม้ที่นำมาขาย ในโซนนี้จะมีอาหารเหนือปรุงสุกขายด้วย2. Pure Organic Hall หรือ หออินทรีย์ (ทุกวันอาทิตย์ 6.00-13.00 น.)ศาลาไม้หลังสวยที่ด้านในขายผัก ผลไม้ ทั้งแบบของสดและของที่สุกพร้อมทาน สินค้าที่ขายภายในจะเป็นสินค้า Organic 100% ไม่มีการใช้สารเคมีในการปลูก3. Hobby market/Rustic market (ทุกวันเสาร์ – อาทิตย์ 7.00-13.00 น.)ไฮไลต์ของตลาดจริงใจ มีสินค้าน่าซื้อหลายอย่าง มีนักดนตรีร้องเพลงให้ฟังบนเวที บรรยากาศ คึกคักบัดดี้แนะนำให้มาตลาดนี้ไม่เกิน 8 โมงเช้า เพราะอากาศกำลังดี แดดไม่ร้อนมาก เดินดูเดินชมได้สบาย ตลาดจริงใจมีบริการส่งของจากไปรษณีย์ไทย ณ ซุ้มประชาสัมพันธ์ บริเวณทางเข้าถึง 12.00 น.  ตำบลป่าตัน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เปิดวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 06.00-13.00 น. 06 3525 8028https://goo.gl/maps/gyh8DFnhoVjjCWaR7 ข้าวซอยลุงประกิจกาดก้อม มาเชียงใหม่ทั้งที คงจะพลาดข้าวซอยไม่ได้ บัดดี้แนะนำร้านข้าวซอยเล็ก ๆ ร้านหนึ่งที่เปิดมานานกว่า 40 ปี ปัจจุบันเป็นที่รู้จักในชื่อ “ข้าวซอย Netflix” ซึ่งเกิดจากที่ “เชฟเอียน” เชฟชื่อดังและเป็นกรรมการในรายการ MasterChef Thailand ได้พา “ฟิล โรเชนธาล” ผู้กำกับชาวอเมริกันมาลองกินข้าวซอยร้านนี้ และถ่ายข้าวซอยร้านนี้ใส่เข้าไปใน “Somebody Feed Phil” ซีรีส์กึ่งสารคดีที่ฉายอยู่ใน Netflix ทำให้ปัจจุบันร้านนี้มีทั้งนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติตามมาทานข้าวซอยร้านนี้กันไม่ขาดสาย เมนูแนะนำร้านนี้คือ ข้าวซอยไก่และข้าวซอยเนื้อ น้ำข้าวซอยรสจัด เข้มข้น โรยด้วยเส้นข้าวซอยทอดกรอบ เสิร์ฟพร้อม ผักกาดดอง หอมแดงและน้ำพริกเผา อร่อยสมคำร่ำลือ ไม่แปลกใจที่ปัจจุบัน ร้านนี้เป็นร้านที่ได้รางวัล Michelin Bib Gourmand ใน Michelin Guide 2022  53 ถนน สุริยวงศ์ 5 เชียงใหม่ (ติดร้านตือคาโคกาดก้อม) เปิดทุกวันเวลาเปิด-ปิด 09.30-16.30 น. 08 3209 9441 https://goo.gl/maps/BrNNQhxAfe1AM7Fh7 ปางช้างภัทร ปางช้างภัทร อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 30 กิโลเมตร ตั้งขึ้นเพื่อเพิ่มจำนวนช้างในประเทศไทย รวมทั้งสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการดำรงชีวิตของช้าง เป็นสถานที่ที่จะพาเพื่อน ๆ มาสัมผัสกับประสบการณ์การเป็นเจ้าของช้าง 1 วัน โดยที่นี่จะจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามา และจะมีช้างให้ทุกคนได้ดูแลคนละ 1 เชือก  กิจกรรมดูแลช้างของที่นี่ เป็นโปรแกรมพิเศษที่จะมอบประสบการณ์ให้คนที่มาได้เรียนรู้และมีปฏิสัมพันธ์กับช้างอย่างที่เจ้าของช้างทำ ทั้งการฝึกเข้าใกล้ช้าง การรู้จักอารมณ์ของช้าง การให้อาหารและตรวจสุขภาพของช้าง นอกจากนี้ ยังมีการอาบน้ำและแปรงขนช้างในแม่น้ำ การขี่คอและการสื่อสารผ่านคำสั่งเสียงต่าง ๆ รวมไปถึงการขี่ช้างหลังเปล่าไปชมป่า น้ำตกและวัดในท้องถิ่น อีกด้วย  เหตุผลที่บัดดี้อยากเชิญชวนให้ทุกคนลองมาที่นี่ เพราะนอกจากจะได้ชมธรรมชาติรอบตัวและได้เล่นกับช้างแล้ว ที่นี่จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มอบความรู้เกี่ยวกับช้างให้คนที่มามากกว่าที่เคยรู้มาก่อนแน่นอน สามารถดูรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/pataraelephantfarmchiangmai/?locale=th_TH  ตำบลบ้านปง อำเภอหางดง เชียงใหม่ 50230เปิดทุกวันเวลา 08.00-18.00 น.09 8549 3644https://goo.gl/maps/2EN5NMqjfrEGuYKLA เหตุผลที่บัดดี้อยากเชิญชวนให้ทุกคนลองมาที่นี่ เพราะนอกจากจะได้ชมธรรมชาติรอบตัวและได้เล่นกับช้างแล้ว ที่นี่จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มอบความรู้เกี่ยวกับช้างให้คนที่มามากกว่าที่เคยรู้มาก่อนแน่นอน สามารถดูรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/pataraelephantfarmchiangmai/?locale=th_TH  ตำบลบ้านปง อำเภอหางดง เชียงใหม่ 50230เปิดทุกวันเวลา 08.00-18.00 น.09 8549 3644https://goo.gl/maps/2EN5NMqjfrEGuYKLA Kalm Village คือพื้นที่แบ่งปันความรู้และแรงบันดาลใจผ่านงานศิลปะ หัตถกรรมและวัฒนธรรม ที่อยากเชิญชวนให้ทุกคนที่ย่างเท้าเข้ามาที่นี่ สามารถชื่นชมและได้ใช้เวลาไปกับงานศิลปะแบบเต็มที่ หมู่บ้านคราฟต์สีครามแห่งนี้จึงถูกออกแบบมาให้มีความรู้สึกคล้ายกับ Community ที่มี Casual Space ที่รอบด้านแฝงด้วยงานศิลปะ ให้ผู้คนค่อย ๆ ซึมซับไปแบบไม่รู้ตัวนั่นเอง  Kalm Village ประกอบด้วยอาคาร 8 หลัง เชื่อมโยงกันด้วยลานส่วนกลาง ตึกแต่ละหลังมีรูปแบบสถาปัตยกรรมเหมือนบ้านไทยโบราณ ซึ่งอาคารแต่ละหลังมีการให้บริการต่างกัน อย่างเช่น Kalm Kitchen ที่ให้บริการอาหารไทยที่เป็นสูตรของคุณยายของเจ้าของโครงการ ชั้นบนมีกิจกรรมเวิร์กชอปทำอาหาร Kalm Coffee House ให้บริการกาแฟและชา รวมถึงจำหน่ายสินค้าท้องถิ่นจากหลายจังหวัด ชั้นบนเป็นห้องสมุด สามารถนั่งทำงานพร้อมกับจิบเครื่องดื่มไปด้วย Kalm Gallery จัดแสดงงานศิลปะหมุนเวียน ออกแบบหลังคาด้วยโครงสร้างไม้ โดยใช้ภูมิปัญญาการเข้าไม้แบบโบราณ   14 ซอย 4 ถนนพระปกเกล้า อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50200 09.30-18.30 น. หยุดทุกวันพุธ 02 115 2956, 062 445 4276 Website : www.kalmvillage.com Facebook : kalmvillagechiangmai Instagram: kalm_village Email: info@kalmvillage.com 5. วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ตั้งอยู่บนดอยสุเทพ เป็นวัดที่มีความสำคัญมากที่สุดแห่งหนึ่งของเชียงใหม่ สร้างขึ้นเมื่อต้นพุทธศตวรรษที่ 19 ในสมัยพระเจ้ากือนาธรรมิกราช

✨ แอ่วม่วน กิ๋นลำ ณ เวียงเชียงใหม่ ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ท่าน้ำนนท์ : ลัดเลาะริมน้ำ ตะลุยกินของอร่อยเมืองนนท์✨

👉ท่าน้ำนนท์ หรือ ท่าน้ำนนทบุรี อาจจะคุ้นชื่อกันดี เป็นจุดหมายปลายทางของเส้นทางเรือสุดสายที่มีผู้คนสัญจรไปมามากมาย นับว่าเป็นแลนด์มาร์กที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดนนทบุรี และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย นอกจากแหล่งท่องเที่ยวแล้ว ย่านนี้เรียกได้ว่าเป็นย่านที่มีร้านอร่อยต้องมาลองมากกว่า 10 ร้าน รับประกันความอร่อยแบบจัดหนักจัดเต็มแน่นอนค่ะ วันนี้เราจะไปลัดเลาะสถานที่ท่องเที่ยวริมน้ำ และกินร้านเด็ดร้านไหนบ้าง ตามไปดูกันเลย 😘 ✨หอนาฬิกา✨ หอนาฬิกาท่าน้ำนนท์แห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2500 โดยกระทรวงมหาดไทย ได้จัดตั้งหอนาฬิกาสาธารณะขึ้นในเขตเทศบาลเมืองนนทบุรี เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ดูเวลาเมื่อเดินทางสัญจรไปมานั่นเองค่ะ จนตอนนี้ได้เป็นเอกลักษณ์สำคัญของชาวนนทบุรีไปแล้ว นับว่าเป็นจุดศูนย์กลางการค้าขายของชาวนนทบุรีตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน หอนาฬิกานี้มีความสูง 17 เมตร มีหน้าปัดนาฬิกา 4 ด้าน บนสุดของหอนาฬิกามีรูปปั้นไก่อยู่ข้างบน ถ้าเห็นแบบนี้ก็ถือว่ามาถึงแล้วนะ 😊 🌐 https://goo.gl/maps/tnXhQDVT4yihwE5B8 ✨พิพิธภัณฑ์จังหวัดนนทบุรี ✨ ตั้งอยู่บริเวณท่าน้ำนนท์ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งตะวันออกเดิมเป็นอาคารศาลากลางจังหวัดนนทบุรี มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม เรือนไม้เป็นไม้สักสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 6 ถือว่าเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์เลยทีเดียว พิพิธภัณฑ์ฯ ได้แบ่งการจัดแสดงออกเป็น 2 ส่วน ชั้นล่างจะแนะนำเกี่ยวกับจังหวัดนนทบุรีและประวัติของศาลากลางจังหวัดหลังเก่า ส่วนชั้นบนจะจัดแสดงเกี่ยวกับเครื่องปั้นดินเผา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดนนทบุรีด้วย สำหรับใครที่สนใจมาชมกันได้ 👉 ภายในพิพิธภัณฑ์ ห้ามถ่ายรูปนะคะ ⏰ วันอังคาร-ศุกร์ เวลา 09.00-17.00 น.⏰ วันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00-18.00 น.🌐 https://goo.gl/maps/C5bW49JrndxWphAr9 ✨ศาลเจ้าปึงเถ่ากงม่า เจ้าแม่ทับทิม (ท่าน้ำนนท์ )✨ ไม่ไกลกันมากนัก เราเดินผ่านศาลากลางหลังเก่าไปจนสุดทาง คือ ศาลเจ้าพ่อปึงเถ่ากงม่าเจ้าแม่ทับทิม ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณปากคลองวัดบางขวาง มีอายุราว 100 ปี ภายในมีรูปปั้น เจ้าแม่ทับทิม ซึ่งเป็นเทพธิดาที่ได้ความเคารพนับถือจากชาวเรือและชาวประมง มีความเชื่อว่าผู้ที่ศรัทธาและเข้ามาสักการะ อธิษฐานที่ศาลแห่งนี้จะสมความปรารถนาในเรื่องของการทำมาค้าขายนั่นเอง 📌ตำบลสวนใหญ่ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี⏰เปิดวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 10.00 – 16.00 น. (ปิดวันเสาร์และอาทิตย์)🌐 https://goo.gl/maps/Km8obNLWhoyvRTR88 Cook and Coff เรือนจำบางขวาง  พูดถึงร้านอาหารหรืออยากหาอะไรกินมื้อกลางวัน ทีนี่นับว่าเป็นอีกร้านที่น่าสนใจอย่างมากเลยค่ะ หากได้ยินแค่ชื่อร้านอาจจะน่าตื่นเต้นหน่อย ๆ แต่จริง ๆ แล้วชื่อของร้านคือคำว่า cook ซึ่งพ้องเสียงกับคำว่า “คุก“ ในภาษาไทย นั่นเพราะอยู่ในพื้นที่ของเรือนจำบางขวาง ของกรมราชทัณฑ์นั่นเองค่ะ ติดกับริมแม่น้ำเจ้าพระยาเลย บรรยากาศดีมาก ลมพัดเย็นสบาย ภายในร้านมีพื้นที่กว้างขวาง มีโซนห้องแอร์และ Open air ริมน้ำให้เลือกนั่ง Cook and Coff เรือนจำบางขวาง  เมนูอาหารของทางร้านมีหลากหลายให้เลือกสั่ง ทั้งอาหารคาว เครื่องดื่ม ของหวานที่ต้องลองคือ กล้วยทอดและขนมถ้วย รสชาติใช้ได้เลยล่ะ พนักงานที่คอยให้บริการเป็นผู้ต้องขังที่ปฏิบัติดี ใส่ใจและดูแลดีด้วยค่ะ ทำหน้าที่บริการลูกค้าทุก ๆ ส่วน ทั้งพ่อครัวทำอาหาร เสิร์ฟ รวมถึงมีร้องเพลง เล่นดนตรีสดให้ลูกค้าที่เข้ามาฟังได้อย่างเพลิดเพลิน  นอกจากโซนอาหารแล้ว ภายในบริเวณ out door ได้จัดซุ้มกิจกรรมให้ลูกค้าได้มาร่วมสนุกด้วย อย่างกิจกรรมปาลูกโป่ง ยิงปืนแลกของรางวัลค่ะ 22 หมู่ 3 ถนนนนทบุรี 1 ตำบลสวนใหญ่ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรีเปิดทุกวัน เวลา 09.00 – 17.00 น.https://goo.gl/maps/5FFTZ9PJRbeVp1kf9 ขนมฝรั่งแม่ไน้ ขนมฝรั่งแม่ไน้ ร้านขนมไข่อบเปิดให้บริการมายาวนานกว่า 40 ปี ใครชอบกินขนมต้องมาลอง ด้วยรสชาติของขนมที่หวานกลมกล่อมกำลังดี แถมยังกรอบนอกนุ่มใน และทำสดใหม่ทุกวัน จึงทำให้ร้านนี้กลายเป็นร้านขนมขึ้นชื่อที่ไม่ว่าใครก็รู้จักและอยากลิ้มลอง เพื่อนๆ สามารถซื้อกลับบ้านไปกินคู่กับกาแฟได้นะคะ รับรองอร่อยแน่นอน  ตลาดสดเทศบาลนครนนทบุรี ถนนประชาราษฎร์ ตำบลสวนใหญ่ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี เปิดทุกวัน เวลา 09.00 – 16.00 น.https://goo.gl/maps/y86iBN72f2mWbY9E7 นนท์ เบเกอรี  นนท์เบเกอรี่ เป็นร้านขายขนมที่มีชื่อเสียงที่สุดอีกแห่งหนึ่งของท่าน้ำนนท์ เพราะมีขนมให้เลือกซื้อมากมาย แถมพนักงานยังยิ้มแย้มเป็นกันเอง น่ารักสุดๆ  สำหรับขนมที่ห้ามพลาดและอยากให้ลองก็คือ เอแคลร์ ขอบอกเลยว่า ต้องไปให้ทันเพราะหมดไวมาก ขนมปังหน้าหมูสับไข่เค็ม และคุกกี้งาดำก็อร่อยไม่แพ้กัน  ริมถนนประชาราษฎร์ ตำบลสวนใหญ่ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี เปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 22.00 น.https://goo.gl/maps/aHafUmCGQkrbpNTQ6 ทะเลทอดซีฟู้ด สายทอดกรอบมาทางนี้ ร้านทะเลทอดซีฟู้ดนับว่าเป็นอีกร้านเด็ดต้องห้ามพลาด อาหารทะเลชุบแป้งทอด กรอบ ๆ สดใหม่ทุกวัน มีทั้งกุ้งทอด ปลาไข่ทอด หมึกทอดมาพร้อมกับน้ำจิ้มแซ่บ ๆ กินตอนยังร้อนบอกเลยเกินต้านมากค่ะ สำหรับใครที่อยากลอง รีบไปกันตั้งแต่ร้านเปิดเลยนะ เพราะคิวยาวมาก ราคายังเป็นกันเองอีกด้วย เริ่มต้นที่ 10 บาท ริมเขื่อนหอนาฬิกา ท่าน้ำนนท์ ตำบลสวนใหญ่ อำเภอเมืองนนทบุรี นนทบุรีเปิดทุกวัน เวลา 15.30 – 18.00 น.โทร. 09 5273 2391https://goo.gl/maps/MCqWd7t9Nf9FUofG6 ข้าวผัดโบราณป้าอ้วน ร้านข้าวผัดโบราณที่ทำเอาลูกค้าติดอกติดใจ ด้วยความอร่อยที่ยาวนานถึง 60 ปี ตั้งแต่รุ่นแม่ตกทอดสู่รุ่นลูก ทำให้ลูกค้าก็ยังเหนียวแน่นจนถึงปัจจุบัน ข้าวผัดโบราณร้านนี้เป็นสูตรดั้งเดิม เพราะเป็นการผัดข้าวใส่ซีอิ๊ว ไม่มีเนื้อหมูหรือกุ้ง แต่จะกินคู่กับเครื่องเคียงอย่างทอดมัน ไข่ดาว กุนเชียง มีผักคะน้าและหอมใหญ่ รสชาติกลมกล่อม หวาน เค็มและเปรี้ยวกำลังพอดีในแต่ละวันที่ร้านเปิด ต่างมีลูกค้ามารอซื้อข้าวผัดกันเต็มเลยล่ะ เพราะอร่อยจริงแถมราคาน่ารักอีกด้วย ข้าวผัดราคา 35

✨ท่าน้ำนนท์ : ลัดเลาะริมน้ำ ตะลุยกินของอร่อยเมืองนนท์✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ บางรัก ย่านสถาปัตยกรรมดี อาหารอร่อย ✨

วันนี้บัดดี้จะพาเพื่อนๆ มาเดินชิมอาหารและชมตึกเก่าในย่านบางรัก ย่านเก่าแก่ที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารอร่อยและมีตึกสวย ๆ ให้มองอยู่ตามข้างทางหลายตึก แถมยังเดินทางง่ายด้วยขนส่งสาธารณะ หากวันหยุดนี้ ใครที่ยังไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนหรือจะกินอะไรดี ลองมาตามรอยที่บัดดี้นำเสนอในวันนี้ได้เลย วิธีเดินทางมาย่านบางรัก สามารถเดินทางได้ง่าย ๆ โดยการใช้บริการ BTS ลงสถานีสะพานตากสิน ทางออกที่ 3 เดินมาทางถนนเจริญกรุงประมาณ 200 เมตร ซึ่งสถานที่ที่บัดดี้จะมานำเสนอวันนี้ได้แก่ 1. ขาหมูตรอกซุง2. ประจักษ์เป็ดย่าง3. โจ๊กปริ้นซ์ บางรัก4. อาสนวิหารอัสสัมชัญ5. ตรอกกัปตันบุช (ซอยเจริญกรุง 30)6. Thai Bus Food Tour 1. ขาหมูตรอกซุง ร้านขาหมูขึ้นชื่อที่อยู่คู่บางรักมานานกว่า 40 ปี ข้าวขาหมูร้านนี้ น้ำราดรสชาติไม่จัดจ้านจนเกินไป กลมกล่อมกำลังดี กินคู่กับผักกาดดองและพริกน้ำส้มที่เผ็ดนิด ๆ อร่อยเข้ากัน สามารถสั่งไข่พะโล้หรือไส้หมูมาเพิ่มได้ด้วย นอกจากขาหมู ทางร้านยังมีซุปให้สั่งมาซดให้คล่องคอแก้เลี่ยนได้ โดยในวันจันทร์และวันพุธจะมีแกงจืดมะระ ส่วนวันอังคารและวันพฤหัสบดีจะมีแกงจืดไชเท้า  106/5 ถนนเจริญเวียง แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร (ซอยตรงข้ามโรบินสันบางรัก)เปิดวันจันทร์-เสาร์ เวลา 10.30-19.00 น. (ปิดวันอาทิตย์)0 2235 4930https://goo.gl/maps/9MUwNbEFKsN2 2. ประจักษ์เป็ดย่าง อีกหนึ่งร้านเก่าแก่ของย่านบางรัก ที่เปิดมาตั้งแต่ พ.ศ. 2452 จนถึงตอนนี้ก็เป็นเวลา 110 ปีแล้ว ปัจจุบันดำเนินกิจการโดยทายาทรุ่นที่ 4 ตัวร้านตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามโรบินสัน สาขาบางรัก มีสองชั้น นั่งได้เยอะพอสมควร เป็ดย่างของทางร้าน นุ่ม หอม น้ำราดอร่อย จะลองสั่งข้าวหน้าเป็ดหรือบะหมี่หน้าเป็ดก็อร่อยไม่แพ้กัน 1415 ถนนเจริญกรุง แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานครเปิดทุกวัน เวลา 10.30-19.00 น. 0 2234 3755https://goo.gl/maps/HMfEFKeWwD92 3. โจ๊กปริ้นซ์ บางรัก หากใครคิดว่าสองร้านที่แนะนำไปก่อนหน้าหนักไปสำหรับมื้อเช้า สามารถมาแวะที่ร้านโจ๊กร้านนี้ ที่เรียกได้ว่าเป็นตำนานความอร่อยในย่านนี้เลยก็ว่าได้ เพราะร้านเค้าเปิดมากว่า 60 ปีแล้ว การันตีได้จากลูกค้าและไรเดอร์รับส่งอาหารที่ต่อคิวรอโจ๊กกันเป็นแถวยาว โจ๊กของทางร้านจะใช้หมูสับปรุงรสแล้วนำมาปั้นเป็นก้อนกลม ๆ ต้มไปพร้อมกับโจ๊กเนื้อเนียน หอมกลิ่นไหม้นิด ๆ เป็นเอกลักษณ์ สามารถสั่งไข่เยี่ยวม้าและปาท่องโก๋ตัวเล็กมากินคู่กันเพิ่มความอร่อยได้ 1391 ถนนเจริญกรุง แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานครเปิดทุกวัน เวลา 06.00-12.00 น. และ 16.30-22.00 น.08 1916 4390https://goo.gl/maps/yyQrHipsdaMb6Vdx6 4. อาสนวิหารอัสสัมชัญ อาสนวิหารอัสสัมชัญ สร้างขึ้นสมัยรัชกาลที่ 2 เป็นอาสนวิหาร สถานที่ที่พระสังฆราช (บิชอป) ประทับอยู่แห่งแรกของประเทศไทย เดิมโบสถ์อัสสัมชัญเป็นโบสถ์แบบกอธิค แต่ในช่วงรัชกาลที่ 6 มีการบูรณะโบสถ์ใหม่ให้เป็นทรงโรมาเนสก์แบบที่เห็นในปัจจุบัน ถือเป็น 1 ในอาสนวิหารที่สวยที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในไทย  ตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมแบบเรอเนสซองส์ มีความสูงของหอระฆังตั้งแต่พื้นจนถึงยอดหอคอย 32 เมตร ผนังด้านในและเพดานเป็นจิตรกรรมแบบเฟรสโก (จิตรกรรมฝาผนังปูนเปียก) ตกแต่งด้วยกระจกสีและประติมากรรมปูนปั้นแสดงเรื่องราวและความเชื่อทางศาสนาคริสต์ หากต้องการเข้าชม ต้องแต่งกายสุภาพ ห้ามสวมใส่กางเกงขาสั้น กระโปรงสั้น เสื้อแขนกุด คอกว้างหรือถ่ายภาพภายในโบสถ์**หากต้องการถ่ายภาพภายในโบสถ์ ต้องติดต่อสำนักงานวัด โดยกรอกเอกสาร(ดาวน์โหลดในเว็บไซต์) และแนบสำเนาบัตรประชาชน ห้ามถ่ายภาพเชิงพาณิชย์ ห้ามถ่ายวิดีโอ** 23 ซอยเจริญกรุง 40 (ตรอกโอเรียนเต็ล) ถนนเจริญกรุง แขวงบางรัก กรุงเทพมหานครเปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 16.00-18.30 น.0 2234 8556https://goo.gl/maps/GdjSCBtWEZ9719UA6 5. ซอยกัปตันบุช (ซอยเจริญกรุง 30) เป็นซอยแยกจากถนนเจริญกรุงในพื้นที่แขวงสี่พระยา โดยที่มาของชื่อซอยกัปตันบุช มาจาก จอห์น บุช พ่อค้าและนักเดินเรือชาวอังกฤษ ผู้เข้ามาอาศัยและรับราชการในรัชสมัยรัชกาลที่ 5 จนมีตำแหน่งเป็นอธิบดีกรมเจ้าท่าและได้รับบรรดาศักดิ์เป็นพระยาวิสูตรสาครดิฐ ซึ่งเคยมีบ้านพำนักอยู่บริเวณแถบนี้ เมื่อเข้ามาเพื่อน ๆ จะเจองานกราฟฟิตี้ ของ ศิลปินชื่อดังชาวโปรตุเกส Vhils จากโครงการ Scratching the Surface Project ที่เกิดจากเทคนิคการเจาะกำแพง  หลายจุดในซอยละแวกนี้ จะมีภาพกราฟฟิตี้ ให้ผู้มาเยือนได้ถ่ายรูปเล่น ซึ่งส่วนมากจะเป็นผลงานของศิลปินไทยชั้นแนวหน้าของประเทศ เช่น Alex face, Kult, Bonus , LOLAY  อีกหนึ่งสถานที่น่าสนใจภายในซอยเจริญกรุง 30 ก็คือ ATT 19 แกลอรีที่มีแนวคิดที่อยากให้คนรักงานศิลปะรุ่นใหม่สามารถเสพงานศิลป์ได้อย่างเพลิดเพลิน โดยตัวตึกดัดแปลงมาจากตึกสอนภาษาจีน 2 ชั้น อายุกว่า 120 ปี  ภายในจะแบ่งเป็น 2 โซนคือ 1. โซนนิทรรศการศิลปะ จะมี 2 ชั้นด้วยกัน ชั้นแรกจะจัดแสดงเครื่องใช้ เซรามิก เสื้อผ้า ของตกแต่งบ้าน ฯลฯ เพื่อน ๆ สามารถซื้อชิ้นที่ถูกใจกลับไปได้ ส่วนชั้นที่สอง จะจัดแสดงนิทรรศการหมุนเวียน โดยจะจัดแสดงนิทรรศการละ 1-2 เดือน มีทั้งผลงานของศิลปินอาชีพ นิสิตนักศึกษา รวมถึงนิทรรศการที่ทาง ATT 19 จัดขึ้นเอง  2. โซนคาเฟ่ มีโซน In door ตากแอร์เย็นฉ่ำ และ Out door ใกล้ชิดธรรมชาติ ให้เลือกนั่งได้ตามชอบ

✨ บางรัก ย่านสถาปัตยกรรมดี อาหารอร่อย ✨ อ่านเพิ่มเติม

🌟 เดินชมงานศิลป์ Check in ตลาดน้อย 🌟

ตลาดน้อยเป็นย่านชุมชนชาวจีนเก่าแก่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ที่นี่มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน อีกทั้งมีการผสมผสานวัฒนธรรมไทย-จีนได้อย่างลงตัว ซึ่งจะสัมผัสได้จากวิถีชีวิตท้องถิ่นและบ้านเรือนเก่าแก่ที่เรียงรายในชุมชน ตอนนี้ยังมีความเก๋ของภาพสตรีทอาร์ตที่ซ่อนอยู่มากมาย ยิ่งใครชอบถ่ายภาพหรือชอบถ่ายรูปแนว Street Art ล่ะก็ รับรองต้องถูกใจแน่นอน ที่สำคัญเดินทางง่ายด้วย! หากเพื่อน ๆ คนไหนมีจุดถ่ายรูปสวย ๆ เก๋ ๆ นอกเหนือจากที่แนะนำไป มาเม้นบอกกันได้นะ เผื่อจะตามไปถ่ายบ้าง เริ่มกันที่ ตรอกศาลเจ้าโรงเกือก ในตรอกนี้มีมุมสวย ๆ ให้ถ่ายรูปเยอะมาก ไม่ใช่แค่งานที่จัดแสดงให้ดูนะที่สวย แสงและเงาตามกำแพงก็สวยไม่แพ้กัน แนะนำเลยว่าห้ามพลาด : https://goo.gl/maps/ziDBrH3Wwe4mQaxK9 เห็นตรอกเล็ก ๆ แบบนี้ แต่ข้างในอัดแน่นไปด้วย Street Art สวย ๆ ตั้งแต่ต้นซอยยาวไปจนสุดเลยล่ะ ส่วนหนึ่งเป็นภาพวาดตามกำแพงจากร่องรอยของงาน “Urban Arts Festival 2016” นอกจากนี้อีกฝั่งของกำแพงยังมีนิทรรศการภาพถ่าย Portrait of Charoenkrung ที่มาจากงาน “Bangkok Design Week 2020” จัดแสดงอีกด้วย แค่จุดแรกก็ถ่ายรูปได้แบบจุก ๆ ไปเลย แวะสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ ศาลเจ้าโรงเกือก เดินจนสุดทางก็จะเจอศาลเจ้าโรงเกือก (ศาลเจ้าพ่อฮ้อนหว่องกุง) ที่นี่อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่มีมาแต่สมัยรัชกาลที่ 5 จากคำบอกเล่าของผู้ดูแลสถานที่ บอกว่าศาลเจ้าแห่งนี้เริ่มจากพ่อค้าชาวจีนฮากกา (จีนแคะ) ได้เชิญองค์เจ้าพ่อฮ้อนหว่องกุงจากเมืองจีนมาประดิษฐานไว้เมื่อกว่า 100 ปีที่แล้ว ก่อนที่จะสร้างเป็นศาลเจ้าอย่างที่เห็นในปัจจุบัน ยิ่งในช่วงเทศกาลตรุษจีนจะคึกคักเป็นพิเศษ จะมีการตั้งโต๊ะไหว้เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ยะ (เทพเจ้าแห่งโชคลาภ) ใครสนใจจะมาไหว้ก็ซื้อของไหว้รวมไปถึงเครื่องกระดาษต่าง ๆ มาไหว้ได้เลย : https://goo.gl/maps/gYh6KLuWLwQ6y5Ar6: 7.00 – 17.00 น. เดินถัดมาถ่ายรูปอีกซอยไม่ไกลกัน ที่ซอยเจ้าสัวสอน มี Street Art ข้างตึกใหญ่โตสุด ๆ สายถ่ายรูปจะพลาดได้ไง 📍: https://goo.gl/maps/Ruy7AMLv2j9bEoX26 แวะโซวเฮงไถ่ คฤหาสน์จีนโบราณในย่านตลาดน้อย เดินตามทางมาไม่ไกล ก็จะเจอกับบ้านโซวเฮงไถ่ (บ้านนี้มีชื่อเรียกหลายชื่อ คนแถวนี้เรียก บ้านดวงตะวัน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักเรียกว่าบ้านจีนโบราณ บ้านเก๋งโบราณ) ที่นี่จะเป็นบ้านจีนสไตล์โบราณ มีผังเป็นรูปตัวยู ถ้าพูดด้วยภาษาปัจจุบันก็คือ จะมีคอร์ตยาร์ต (COURTYARD) กลางบ้านเป็นสระ เอาไว้ดำน้ำ (ลูกชายเจ้าของบ้านชอบดำน้ำมาก จึงสร้างสระว่ายน้ำไว้กลางบ้าน และเปิดเป็นโรงเรียนสอนดำน้ำ) แล้วเก๋งจีนที่นี่ก็มีอายุเก่าแก่กว่า 200 ปีเลย สวยข้ามกาลเวลาจริง ๆ หลังจากสั่งเครื่องดื่มแล้ว เพื่อน ๆ สามารถขึ้นไปเดินชมบนตัวบ้านได้เลย บัดดี้อดรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้ เพราะข้าวของทุกอย่างเป็นของเก่าจริง ๆ และสวยมาก ๆ เหมือนฉากในหนังเลยล่ะ ที่สำคัญคือ ควรเดินด้วยความระมัดระวังและสำรวมกันด้วยนะ เพราะที่นี่ยังคงเป็นบ้านที่อยู่อาศัยของเจ้าของบ้าน บริเวณไหนเป็นพื้นที่ส่วนตัวหรือห้ามเข้า ก็ปฏิบัติตามกันกฏด้วยน้าาา : https://goo.gl/maps/Xf3SnYgko8bfdd8B8: 9.00-17.00น. (หยุดวันจันทร์์) ถัดจากบ้านโซวเฮงไถ่เล็กน้อยก็จะเจอจุดมหาชนนิยมถ่ายรูปอีกแล้ว นั่นก็คือ รถเต่าสีส้มนั่นเอง จุดถ่ายรูปสุดฮิตของตลาดน้อยเลย!! รถคันนี้ จอดอยู่ริมกำแพงอิฐเก่าเกือบสุดซอย แอบอยากรู้เหมือนกันนะว่าใครกันที่เป็นคนขับรถเต่าสีส้มแบบนี้บนท้องถนนในอดีต ต้องเป็นคนจ๊าบแน่เลย…ว่าไหม? ระหว่างทางก็เจอกับบ้านไม้หลังใหญ่ เลยอดไม่ได้ที่จะแวะถ่ายรูปเก๋ ๆ : https://goo.gl/maps/mQRUJBQpuXhEWfTT8 แวะเติมความสดชื่นระหว่างวันที่ ร้าน Naam 1608 (น้ำหนึ่งหกศูนย์แปด) ร้าน Naam 1608 เป็นร้านอาหารบรรยากาศสุดชิล ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เหมาะกับการแวะพักเติมพลังมาก ๆ ที่ร้าน Naam 1608 มีเมนูอาหารให้เลือกชิมเยอะมาก ๆ ทั้งอาหารคาว อาหารหวาน หรือจะเป็นเครื่องดื่มแบบต่าง ๆ : https://goo.gl/maps/MgtixwdfymaHJrqr7 : 091 936 1632 (โทรสำรองที่นั่งล่วงหน้า) สถานที่สุดท้ายที่จะแนะนำก็คือ วัดแม่พระลูกประคำ (โบสถ์กาลหว่าร์) โบสถ์กาลหว่าร์เป็นโบสถ์คริสต์เก่าแก่ที่มีความสวยงาม ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา สถาปัตยกรรมเป็นแบบนีโอโกธิค ภายในโบสถ์รวบรวมจิตรกรรมภาพกระจกสีที่บันทึกเรื่องราวเหตุการณ์สำคัญตามคริสต์คัมภีร์และจารึกรูปนักบุญชื่อดังไว้ด้วย : https://goo.gl/maps/c9aBuC9BF2BAnLxZA: เปิดทุกวัน 09.00 – 17.30 น

🌟 เดินชมงานศิลป์ Check in ตลาดน้อย 🌟 อ่านเพิ่มเติม

พระนคร Walking 🚶‍♀️

พระนคร Walking ส่องตึกเก่าย่านสามแพร่ง เดินเลาะเลียบถนนตะนาว ✨ สามแพร่ง ย่านชุมชนเก่าแก่บริเวณถนนตะนาว ในเขตพระนคร กรุงเทพฯ ในอดีต เป็นกลุ่มวังที่ประทับของเจ้านายในสมัยรัชกาลที่ 4 ได้แก่ วังกรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ วังกรมหมื่นภูธเรศธำรงศักดิ์ และวังกรมหลวงสรรพสาตรศุภกิจ จนกระทั่งสมัยรัชกาลที่ 5 มีการตัดทางผ่านกลางพื้นที่กลุ่มวังนี้ เพื่อเชื่อมถนนอัษฎางค์กับถนนตะนาว จนเกิดเป็นทางสามแพร่ง และตั้งชื่อถนนในย่านนี้ตามพระนามเจ้าของวัง คือ ถนนแพร่งสรรพศาสตร์ ถนนแพร่งนรา และถนนแพร่งภูธร เลียบถนนตะนาว เลาะไปตามซอยต่าง ๆ มีตึกรามบ้านช่องมากมาย เป็นทั้งแหล่งทำมาค้าขาย ที่พักอาศัย และที่ดินทรัพย์สินของเชื้อพระวงศ์ในสมัยนั้น วันเวลาผ่านไป อาคารเหล่านี้ก็เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย และยังคงมีอาคารดั้งเดิมที่ซ่อนตัวท่ามกลางชุมชน วันนี้ จะพาเพื่อน ๆ ไปเดินชมตึกเก่า ชี้พิกัดร้านอาหาร เพราะในย่านนี้ ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งรวมร้านอร่อยอีกย่านหนึ่งในพระนครเลยล่ะ 😋  เส้นทางเดินเที่ยวลัดเลาะในทริปนี้ บัดดี้จะพาเพื่อน ๆ เดินทางโดยขนส่งสาธารณะแบบง่าย ๆ โดยรถไฟใต้ดิน MRT มาที่สถานีสามยอด  จากนั้นเดินเท้า มุ่งหน้าไปทางแยกสี่กั๊กพระยาศรี เลี้ยวขวาเข้าถนนเฟื่องนคร เดินตรงไปเรื่อย ๆ ก็จะมาถึงแยกสี่กั๊กเสาชิงช้า ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของถนนตะนาว หากมาตามแผนที่ที่แนะนำไว้ เพื่อน ๆ จะถึงที่แพร่งภูธรเป็นจุดแรก สามารถเดินเข้าได้ 2 ทางคือทางเข้าฝั่งถนนตะนาว และทางเข้าฝั่งถนนบำรุงเมือง เราจะพาเพื่อน ๆ มาเดินเข้าฝั่งถนนบำรุงเมืองเพื่อชม เดอะไนท์เฮ้าส์ (The Knight House)  อาคารสีเหลืองหลังคาจั่ว ลายฉลุแบบเรือนขนมปังขิง ผสมผสานศิลปะแบบโคโลเนียลเข้าด้วยกัน ในอดีตบนที่ดินผืนนี้เป็นตึกแถวของเจ้าจอมมารดาชุ่ม ในรัชกาลที่ 5 จากนั้นก็เปลี่ยนผู้ถือครองและเปิดเป็นร้าน “ไนท์ บาร์เบอร์” ที่อยู่คู่แพร่งภูธรมาราว ๆ 30 ปี ก่อนจะกลายมาเป็นเดอะไนท์เฮ้าส์ ซึ่งเป็นอาคารที่สร้างขึ้นใหม่และมีความสวยอย่างมาก ที่นี่เปิดให้บริการที่พักและคาเฟ่ หากเพื่อน ๆ มาเที่ยวชมแถวนี้ อย่าลืมแวะมาที่นี่กันนะ ฝั่งขวามือที่เรากำลังจะเดินเข้าไปในซอย มีป้ายชื่อถนนแพร่งภูธร ตัดกับอาคารสีเหลือง เหมาะจะเป็นมุมเช็กอินถ่ายรูปปัง ๆ แพร่งภูธร หรือในอดีตคือ “วังสะพานช้างโรงสี” ซึ่งเจ้านายพระองค์สุดท้ายที่ประทับที่วัง คือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นภูธเรศธำรงศักดิ์ ซึ่งต่อมาเมื่อกรมหมื่นภูธเรศฯ สิ้นพระชนม์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 จึงโปรดเกล้าฯ ให้แบ่งพื้นที่ทำเป็นตึกแถว และยังคงรักษาสถาปัตยกรรมแบบเดิมไว้ เดินจากปากซอยตรงเข้ามาเพียงแค่นิดเดียว มองเห็น อาคารสีเหลือง 2 ชั้น ครอบด้วยหลังคาสีแดงดูสะดุดตา ที่นี่คือ “สุขุมาลอนามัย” สถานีกาชาดที่ 2 ที่ตั้งอยู่กลางแพร่งภูธร สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2471 เพื่อเป็นอนุสาวรีย์เชิดชูพระเกียรติคุณสมเด็จพระปิตุจฉาเจ้าสุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี เดิมที อาคารสุขุมาลอนามัยเป็นตึกสีขาว ภายหลังมีการซ่อมแซมและทาสีใหม่จนเป็นที่โดดเด่นท่ามกลางตึกแถวในย่านนี้ เพื่อน ๆ บางคน โดยเฉพาะเพื่อน ๆ สายซีรีส์เกาหลีอาจจะคุ้น ๆ มุมภาพนี้ จริง ๆ แล้วตรงนี้เคยเป็นจุดที่มีถ่ายทำซีรีส์เกาหลีแนวคอมเมดี้ ฉายเมื่อปี ค.ศ. 2016 ซึ่งเป็นฉากที่พระเอก นางเอก และพระรอง กางร่มท่ามกลางสายฝนนั่นเอง  ตึกแถวในบริเวณนี้ รวมทั้งตึกแถวในซอยแพร่งนราจะมีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปผสมจีนตั้งเรียงยาวทั้ง 2 ฝั่ง ตรงหน้านี้คือ 1905 เฮอริเทจ คอร์นเนอร์ (1905 Heritage Corner)  เป็นลักซูรี่เกสต์เฮาส์ขนาด 3 ห้อง ที่รีโนเวทมาจากตึกเก่าอย่างประณีต อยู่ใกล้ ๆ กับสุขุมาลอนามัยเพียงไม่กี่สิบก้าว จากการสืบค้นประวัติศาสตร์ เจ้าของเกสต์เฮาส์พบว่าที่นี่เคยเป็นโรงน้ำชามาก่อน จึงรีโนเวทและตกแต่งที่พักแห่งนี้ในคอนเซ็ปต์โรงน้ำชา มีกลิ่นอายความเป็นจีนผสมกับความเป็นโคโลเนียลตามยุคสมัยรัชกาลที่ 5 อย่างลงตัว นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีร้านกาแฟและร้านขายงานคราฟต์ท้องถิ่นให้เราได้ไปชอปปิงเพลิน ๆ อีกด้วย เดินมาจนสุดทางแพร่งภูธร บรรจบกับถนนตะนาว ฝั่งตรงข้ามเป็นตึกเก่าเช่นกัน แม้ว่าจะดูหน้าตาคล้าย ๆ กัน แต่ก็มีลวดลายที่แตกต่างกันไป 2 คูหาในตึกแถวหลังนี้ คือที่ตั้งของร้านข้าวเหนียวมะม่วงเจ้าดังในย่านพระนคร “ก.พานิช”  ที่เปิดขายมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2485 แถมยังได้รับรางวัลการันตีความอร่อยมามากมาย รวมทั้งรางวัลบิบ กรูมองต์ ของมิชลิน รวมถึงในปีนี้ด้วย แค่เห็นหน้าตาข้าวเหนียวมะม่วงกล่องนี้ ก็เดาได้เลยว่าต้องอร่อย หวานฉ่ำแน่ ๆ ใครมาย่านนี้ อย่าลืมมาแวะซื้อที่ ก.พานิช กันนะ เดินชมกันต่อที่แพร่งนรา นอกจากอาคารตึกแถวสีเหลืองที่ตั้งเรียงทั้งสองฝั่งแล้ว ยังมีอาคารเก่าที่มีรูปแบบสวยงามไม่แพ้กัน ที่นี่คือ “โรงเรียนตะละภัฏศึกษา”  ในอดีตคือ “วังวรวรรณ” ที่ประทับของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ ผู้ทรงปรีชาสามารถมากในด้านการประพันธ์ ทรงเป็นผู้นิพนธ์บทละครร้อง และสร้างโรงละครปรีดาลัยซึ่งเป็นโรงละครร้องแห่งแรกของไทยขึ้นภายในวังของพระองค์ท่าน ลักษณะอาคารเป็นกึ่งปูนกึ่งไม้ มีระเบียงไม้ฉลุลายอย่างสวยงาม โรงเรียนแห่งนี้ปิดทำการไปเมื่อปี พ.ศ. 2538 แม้ปัจจุบันจะชมได้แค่ภายนอกเท่านั้น แต่ก็คุ้มค่าแก่การมาชม เพลิดเพลินกับศิลปะผ่านสถาปัตยกรรมกันมาพอสมควรแล้ว บัดดี้ขอปักหมุดร้านอร่อยในย่านนี้ให้เพื่อน ๆ ได้ลิสต์ไว้ มีทั้งคาวหวาน คาเฟ่น่านั่ง และอื่น ๆ อีกมากมาย ใครมีร้านเด็ดในย่านนี้ คอมเมนต์มาบอกได้เลยนะ  เดินเลียบถนนตะนาวมาจนถึงแพร่งสรรพศาสตร์ มองเห็นซุ้มประตูตั้งอยู่ด้านหน้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ “วังสรรพสาตรศุภกิจ” ซึ่งเดิมเคยเป็นที่ประทับของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสรรพสาตรศุภกิจ ซุ้มประตูนี้มีรูปแบบสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรป หน้าบันเจาะเป็นวงกลม มีประติมากรรมรูปผู้หญิงในท่ายืนถือคบไฟ รอบ ๆ ประดับกระจกสี ต่อมาภายหลังได้เกิดเหตุเพลิงไหม้เสียหายจนหมด เหลือเพียงซุ้มประตูวังเก่าที่ยังคงความสวยงามให้คนรุ่นหลังได้ชม และเปรียบเสมือนเป็นสัญลักษณ์ของย่านสามแพร่ง เดินถัดจากซุ้มประตูไปไม่ไกล คือ “ศาลเจ้าพ่อเสือ”  มาถึงย่านนี้ สายมูห้ามพลาด ศาลเจ้าพ่อเสือ หรือที่ชาวจีนเรียกว่า “ตั่วเหล่าเอี้ย”

พระนคร Walking 🚶‍♀️ อ่านเพิ่มเติม

✨ รวมร้านเที่ยว-กิน ย่านท่าดินแดง ✨

วันนี้บัดดี้มีรูทเดินเที่ยวสั้น ๆ สำหรับคนที่มีเวลาน้อยและต้องการการเดินทางที่สะดวกมานำเสนอ ซึ่งรูทนี้จะเน้นที่กินเป็นหลัก ใครหาไอเดียเที่ยวง่าย ๆ ในเมืองกรุงแล้วยังไม่รู้จะไปที่ไหน ตามไปอ่านรายละเอียดกันได้ โดยวันนี้จะมีทั้งหมด 15 พิกัด การเดินทางรถประจำทาง สาย 6,42,43รถส่วนตัว จอดได้บริเวณวัดใกล้เคียง (วัดอนงคาราม,วัดทองนพคุณ) ทางเรือ1. เรือด่วนเจ้าพระยา ลงท่าราชวงศ์ จากนั้นโดยสารเรือข้ามฟากไปยังท่าดินแดง ราคา 4 บาท2. เรือบริการฟรี จากท่าไอคอนสยาม จอดส่งท่าดินแดง และท่าศาลเจ้ากวนอู รถไฟฟ้า BTS1. สายสีเขียวอ่อน(สีลม) ลงสถานีสะพานตากสิน ลงเรือด่วนเจ้าพระยา 15 บาท มาขึ้นที่ท่าราชวงศ์ จากนั้นโดยสารเรือข้ามฟากไปยังท่าดินแดง2. สายสีทอง ลงสถานีคลองสานแล้วเดินต่อไปทางถนนท่าดินแดง 1. ตรอกดิลกจันทร์ สถานที่แรกที่บัดดี้จะพาเพื่อน ๆ มาก็คือ ตรอกดิลกจันทร์ หรืออีกชื่อหนึ่งคือ ชุมชนสมเด็จย่า ในอดีตเป็นย่านธุรกิจที่คึกคักมาก มีกิจการขนาดใหญ่มากมาย ทั้งโรงสีข้าว โรงงานน้ำปลา โรงเกลือ โรงทำชันยาเรือ โรงงานทอผ้า ฯลฯ ก่อนจะซบเซาไป หลายกิจการปิดตัว หลายกิจการย้ายออก แต่ก็ยังมีตึกเก่าสวยคลาสสิคจากสมัยนั้นหลงเหลือให้ได้เห็นกันอยู่ นอกจากนี้ ที่นี่ยังเป็นชุมชนที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม เห็นได้จากที่มีทั้งวัดไทย ศาลเจ้าจีน และมัสยิดอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน บ้านเรือนในชุมชนส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์ บรรยากาศไม่พลุกพล่าน มีร้านอาหาร ร้านรถเข็นให้เห็นหลายร้าน หลังจากเดินเล่นเรื่อยไปจนถึงกลาง ๆ ซอย เราก็ได้เจอกับ “ร้านขาหมูเจ๊นง” เป็นร้านรถเข็นเล็ก ๆ เจ้าของร้านอัธยาศัยดีเยี่ยม ยิ้มแย้มทักทายมาแต่ไกลเลยทีเดียว บัดดี้สั่งข้าวขาหมู และข้าวหมูแดงหมูกรอบมาลองชิม รสชาติอร่อยมาก ขาหมูไม่หวานจนเลี่ยน หมูกรอบเนื้อแน่น กรอบอร่อย หมูแดงเนื้อนุ่มหอมกลิ่นควันที่ใช้ย่าง สมกับที่เป็นเจ้าเก่าเปิดมากว่า 32 ปี ระหว่างที่กิน เจ๊นงก็ชวนคุยและเล่าความเป็นมารวมถึงแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในแถบนี้ให้ฟังซะเพลินเลย เจ๊นงบอกว่า มาย่านนี้ต้องไปไหว้ศาลเจ้าให้ครบ 2 แห่ง บัดดี้เลยมุ่งหน้าไปสักการะศาลเจ้าแห่งแรกก่อน นั่นคือ ศาลเจ้าพ่อเสือ(คลองสาน) ที่เดินจากร้านเจ๊นงไปไม่ถึง 10 นาที ศาลเจ้าแห่งนี้ แต่เดิมเป็นศาลไม้ ก่อนจะมีการบูรณะเพิ่มเติมในช่วงเวลาต่าง ๆ เช่น ยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ช่วงเหตุการณ์น้ำท่วม ช่วงเหตุการณ์ไฟไหม้ จนเป็นอย่างที่เห็นในปัจจุบัน ศาลเจ้าพ่อเสือที่นี่เป็นศาลเก่าแก่ที่ชาวชุมชนให้ความเคารพมาก มีผู้ศรัทธาเข้ามากราบไหว้อยู่เสมอ คนที่ไม่รู้ว่าขั้นตอนไหว้เป็นยังไงไม่ต้องห่วง จะมีคนดูแลศาลเจ้าท่าทางใจดีคอยให้คำแนะนำ  ตรอกสะพานยาว แขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร เปิดบริการทุกวันเวลา 06.00-21.00 น.https://goo.gl/maps/Dgu7hXqVK4orXEGU7 ศาลเจ้าแห่งที่ 2 ที่เจ๊นงแนะนำ คือ ศาลเจ้ากวนอู เป็นศาลเจ้าริมน้ำที่ผ่านกาลเวลาและรวมความศรัทธาของคนในพื้นที่มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2279 ระหว่างทางจะมีกราฟิตี้สวย ๆ ตามผนังตึกให้ดูเป็นระยะ ใครอยากถ่ายรูปลงโซเชียล ก็จัดเต็มได้เลยนะ บริเวณริมน้ำด้านหน้าศาล เพื่อน ๆ จะพบรูปปั้นสักการะสมเด็จพระเจ้าตากสิน หันหน้าออกไปทางแม่น้ำเจ้าพระยา ว่ากันว่า สมเด็จพระเจ้าตากสินเคยเสด็จมาสักการะเทพเจ้ากวนอูที่ศาลเจ้าแห่งนี้ก่อนจะกรีธาทัพไปทำสงคราม นี่จึงเป็นที่มาของรูปปั้นสักการะดังกล่าว  ซอยสมเด็จเจ้าพระยา 3 เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร เปิดบริการทุกวันเวลา 07.00-17.00 น. 0 2439 6309https://goo.gl/maps/itjqC4BCfJn4JVaK9 2. My Grandparent’s House บ้านอากงอาม่า ติดกับศาลเจ้ากวนอู จะมีคาเฟ่ริมน้ำที่ดัดแปลงมาจากบ้านไม้ อายุกว่า 90 ปี จุดเด่นของที่นี่ก็คือ บรรยากาศ ที่มีความชิลระดับ 100 เต็ม 10 ทั้งตัวบ้านไม้ที่มีความย้อนยุคและขนม เครื่องดื่ม สูตรอาม่าเจ้าของร้าน ที่รอเพื่อน ๆ ไปชิม ด้านหน้าของร้านบ้านอากงอาม่า จะมีบ้านคหบดีจีนโบราณอายุประมาณสองร้อยกว่าปี และเป็นที่ตั้งของโรงน้ำปลาทั่งง่วนฮะ ธุรกิจที่ถูกส่งต่อจากบรรพบุรุษชาวจีน สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นช่วงปลายสมัยรัชกาลที่ 2 โดยได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมของจีนทางตอนใต้ โดยจะเรียกบ้านในรูปทรงนี้เรียกว่าบ้านล้อมลาน เพราะจุดเด่นของบ้านที่มีลานโล่งอยู่ตรงกลางล้อมรอบด้วยอาคารที่อยู่อาศัย ซึ่งในปัจจุบันสถาปัตยกรรมในรูปแบบนี้แทบหาดูไม่ได้แล้ว  ไหน ๆ ก็มาถึงโรงน้ำปลาแล้ว บัดดี้เลยถือโอกาสซื้อติดไม้ติดมือกลับไปด้วย เพื่อน ๆ คนไหนอยากลองชิมน้ำปลาสูตรโบราณ ๆ ก็ลองซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านได้นะ  253 ซอยสมเด็จเจ้าพระยา 3 แขวง สมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร เปิดบริการทุกวันเวลา 10.00-18.00 น. 0 2437 5183https://goo.gl/maps/c3wy8g6bEiR9nT6w6 3. Deep Root Café สถานที่ต่อมาเป็นคาเฟ่ที่มีความ ดิบ เท่ ที่ในอดีต บริเวณนี้เป็นทางผ่านและขนส่งสินค้าแห้ง เพื่อลำเลียงไปยังท่าเรือเมื่อ 100 กว่าปีก่อน ผ่านการปรับเปลี่ยนโดยเจ้าของปัจจุบันจนกลายเป็นร้านกาแฟที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น โดดเด่นด้วยภาพวาดสีสันฉูดฉาด ต้นไม้ใหญ่ และเครื่องดื่มสุดพิถีพิถันอร่อยในราคาย่อมเยา แถมยังจะได้ฟังเรื่องเล่าในอดีตของชุมชนแห่งนี้อีกด้วย  255/2 ซอยสมเด็จเจ้าพระยา 3 ถนนสมเด็จเจ้าพระยา แขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน กรุงเทพฯ 08 5150 4512 เปิดบริการทุกวันเวลา 10.00-20.00 น. (ปิดวันอังคาร)https://goo.gl/maps/bPMbQHzFhMP17NEG6 4. ข้าวพระรามลงสรง (ซาแต๊ปึ่ง) เดินผ่านสีแยกท่าดินแดงไปไม่ถึง 5 นาที ก็จะเจออีกหนึ่งร้านที่บัดดี้อยากแนะนำเพื่อน ๆ ตั้งอยู่ด้านขวามือ อยู่เยื้อง ๆ กับซอยท่าดินแดง 6 ข้าวพระรามลงสรงหรือชื่อในภาษาแต้จิ๋วว่า “ซาแต๊ปึ่ง” เป็นอาหารจีนชนิดหนึ่ง ที่ประกอบด้วยข้าวสวย ผักบุ้งลวกและเนื้อหมู ราดด้วยน้ำราดที่ทีลักษณะข้นคล้ายน้ำจิ้มสะเต๊ะ รสชาติออกหวานกินพร้อมกับน้ำพริกเผาอร่อยเข้ากันมาก ปัจจุบันหารับประทานได้ยาก ซึ่งร้านนี้มีทั้งแบบราดข้าวและราดเส้นหมี่ให้เลือก  61 ถนนท่าดินแดง แขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร

✨ รวมร้านเที่ยว-กิน ย่านท่าดินแดง ✨ อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top