Samui Plus sandbox

SAMUI PLUS SANDBOX คืออะไร?

“สมุย พลัส แซนด์บ็อกซ์” เป็นการปรับรูปแบบการท่องเที่ยวจากเดิมโครงการ “สมุย พลัส โมเดล” ตั้งแต่ วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2564 ซึ่งเป็นการเปิดพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากต่างประเทศและได้รับวัคซีนครบโดส เดินทางเข้าเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า โดยไม่ต้องกักตัว หลังจากอยู่ในพื้นที่ครบ 7 วัน และตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19 จะสามารถเดินทางไปยังพื้นที่อื่น ๆ ในประเทศไทยได้

วิดีโอที่น่าสนใจ

Samui Plus Sandbox

พร้อมไปพบกับความสวยงามของ เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า เกาะนางยวน และอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง แล้วหรือยัง ?

Samui Plus Sandbox 44 Secs.

มาชมความสวยงามของ เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า เกาะนางยวน และอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง ใน 44 วินาทีกัน!

SHA Plus....

ขั้นตอนการรับนักท่องเที่ยวของสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ

บทความ

Wetland ดินแดนมหัศจรรย์

Wetland ดินแดนมหัศจรรย์ : 14 พื้นที่ชุ่มน้ำที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นแรมซาร์ไซต์ (Ramsar Site) 1 พื้นที่ชุ่มน้ำพรุควนขี้เสียน.พื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศแห่งแรกของประเทศไทย มีลักษณะเป็นพื้นที่พรุไม้เสม็ดขาว มีกก หญ้ากระจูด กระจูดหนู ขึ้นอยู่หนาแน่น ตั้งอยู่ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของทะเลสาบสงขลา .ที่ตั้ง: เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย จังหวัดพัทลุง 2 พื้นที่ชุ่มน้ำเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ.เป็นบึงน้ำจืดที่มีลักษณะแคบยาว เกิดจากลำห้วยหลายสายไหลมารวมกัน โดยน้ำในบึงจะไหลลงสู่แม่น้ำสงคราม ก่อนไหลออกแม่น้ำโขง ในพื้นที่มีเกาะกลางบึง ได้แก่ ดอนแก้ว ดอนสวรรค์ ดอนโพธิ์ ดอนน่อง และนอกจากนี้บนเกาะยังมีป่าดิบแล้งที่ค่อนข้างสมบูรณ์อีกด้วย.ที่ตั้ง: อยู่ในพื้นที่ตำบลบ้านต้อง ตำบลโสกก่าม อำเภอเซกา และตำบลบึงโขงหลง ตำบลโพธิ์หมากแข้ง อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ  3 พื้นที่ชุ่มน้ำเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหนองบงคาย จังหวัดเชียงราย.เป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของทะเลสาบเชียงแสน มีการสำรวจพบพันธุ์ไม้ในพื้นที่กว่า 185 ชนิด เช่น ผักบุ้ง บอน หญ้าไซ บัวหลวง กก เป็นต้น เป็นพืชต่างถิ่น 15 ชนิด เช่น กระถินยักษ์ หญ้าชน บัวบก และมะระขี้นก เป็นต้น.ที่ตั้ง: ตำบลโยนก และตำบลป่าสัก อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย 4 พื้นที่ชุ่มน้ำอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม-เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง-ปากน้ำตรัง จังหวัดตรัง .บริเวณนี้มีระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพสูงมาก โดยสังคมพืชในพื้นที่ประกอบด้วย ป่าดิบชื้น ป่าชายหาด ป่าชายเลน และจัดเป็นแหล่งที่มีความอุดมสมบรูณ์ของหญ้าทะเลมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งหากินของพะยูน ซึ่งถือเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ของประเทศไทยอีกด้วย.ที่ตั้ง: ตำบลนาเกลือ ตำบลลิบง ตำบลหาดสำราญ อำเภอสิเกา อำเภอปะเหลียน และอำเภอกันตัง จังหวัดตรัง 5 พื้นที่ชุ่มน้ำกุดทิง จังหวัดบึงกาฬ .กุดทิงเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของปลาน้ำจืดขนาดเล็กที่สำคัญหลายชนิด และยังพบปลาที่อยู่ในสถานะที่เสี่ยงต่อการถูกคุกคาม เช่น ปลายี่สก หรือปลาเอิน ฯลฯ นอกจากนี้กุดทิงยังเป็นที่อยู่อาศัยของกุ้งน้ำจืด 3 ชนิด คือ กุ้งฝอยเล็ก กุ้งฝอยใหญ่ และกุ้งฝอยแดงด้วย .ที่ตั้ง : อำเภอเมือง จังหวัดบึงกาฬ 6 หมู่เกาะระ–เกาะพระทอง ...
อ่านเพิ่มเติม

9 จุด ถ่ายรูปกับ เขา

1. เขาโปกโล้น ร่องเขานครชุม จ.พิษณุโลก เขาโปกโล้น ตั้งอยู่ที่ตำบลนครชุม อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก เป็นจุดชมวิวธรรมชาติและทะเลหมอก ระยะทางเดินขึ้นไปประมาณ 1-2 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 30-40 นาที ถ้าโชคดีในช่วงเช้าเราจะเห็นทะเลหมอก ซึ่งในฤดูหนาวจะมีทะเลหมอกทุกวันเลยนะ แต่ถ้าไม่มีหมอก เราก็ถ่ายรูปกับเขาก็ได้ สวยเหมือนกัน ฮ่าๆ และตามเส้นทางเดินยังมีจุดสำคัญให้ศึกษา ไม่ว่าจะเป็นบ่อเสือตก น้ำบ่อศักดิ์สิทธิ์ และถ้ำผาปอง เป็นต้น  สำหรับที่พัก แอดแนะนำให้พักที่โฮมสเตย์ในอำเภอนครชุม เพราะเราจะต้องตื่นเช้า ประมาณ 05.00 น. เพื่อเดินขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามที่เขาโปกโล้นกัน ราคาโฮมสเตย์ 450 บาท/คน มีอาหารให้ 2 มื้อ คือมื้อเย็นและมื้อเช้า  ถ้าหากพร้อมแล้วและสนใจพิชิตทะเลหมอกติดต่อ อบต.นครชุม โทร 055 009 808 การเดินทาง ไปตามเส้นทางพิษณุโลก-นครไทย จากนั้นขับรถไปที่ตำบลนครชุม ประมาณ 28 กิโลเมตร ซึ่งห่างจากตัวเมืองพิษณุโลกประมาณ 100 กิโลเมตรพิกัด : https://goo.gl/maps/qfZa5MPvr8Q2 2.จุดชมวิวบ้านจ่าโบ่ จ.แม่ฮ่องสอน เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินถ่ายรูป ที่ไม่ว่าใครก็ต้องมานั่งกินก๋วยเตี๋ยวห้อยขา ท่ามกลางหุบเขาและวิวทะเลหมอกแบบนี้  นั่งถ่ายรูปสวยๆ กินบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความเขียวชอุ่มและอากาศบริสุทธิ์ เติมพลังกันให้เต็มที่ไปเลย บ้านจ่าโบ่ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากอำเภอปายมากนัก ใช้เวลาเดินทางจากอำเภอปายประมาณ 1 ชั่วโมง ถ้าใครที่ไปเที่ยวปาย ก็อย่าลืมแวะไปด้วยนะครับผม การเดินทางจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนวิ่งตามทางหลวงหมายเลข 1095 ไปทางอำเภอปางมะผ้า จนถึงแยกจุดตรวจแม่ละนา ให้เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 1226 อีก 3.5 กิโลเมตร จะถึงจุดชมวิวบ้านจ่าโบ่พิกัด : https://goo.gl/maps/yvUfLiyGYex 3.เขื่อนรัชชประภา จ.สุราษฎร์ธานี หรือที่ใครๆ รู้จักกันดีว่า “เขื่อนเชี่ยวหลาน” อันเป็นชื่อดั้งเดิม ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเขื่อนรัชชประภาในปัจจุบัน สำหรับเขื่อนรัชชประภานั้น มีจุดเด่นอยู่ตรงที่ภายในทะเลสาบเหนือเขื่อนเต็มไปด้วยภูเขาหินปูนธรรมชาติที่มีรูปร่างต่างๆ แปลกตา สวยงามลงตัวราวกับบรรจงสร้างมาให้เราเข้าไปชมเลยล่ะ  ไปยืนถ่ายรูปที่หัวเรือ โพสท่าเก๋ๆ คู่กับภูเขาหินปูน เอามาไว้โพสต์อวดเพื่อนๆ ในโซเชียล กิจกรรมที่น่าสนใจ– นอนเล่นกลางแพชมวิวทะเลสาบ อ่านหนังสือเล่มโปรด ...
อ่านเพิ่มเติม

มหัศจรรย์ยามน้ำลด…UNSEEN THAILAND

1. เกาะนางยวน สุราษฎร์ธานี ที่อยู่ : เกาะนางยวน ตำบลเกาะเต่า อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี 2. เกาะไก่ เกาะหม้อ เกาะทับ เกาะปอดะ จังหวัดกระบี่ 3.เกาะมันใน ระยอง ที่ตั้ง : ตำบลกร่ำ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง 4.หาดมังกร หรือสันหลังมังกร เกาะกวาง เกาะปูเลาอูบี และเกาะปูเลาตีกอ  ที่ตั้ง: เกาะกวาง หมู่ 1 ตำบลตันหยงโป อำเภอเมือง จังหวัดสตูล 5.หาดแม่หาด เกาะพะงัน  ที่ตั้ง : บ้านโฉลกหลำ ตำบลเกาะพะงัน อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
อ่านเพิ่มเติม

10 สถานที่ชมพระอาทิตย์ขึ้น-พระอาทิตย์ตก สุดแจ่ม!

1.หาดทรายรี เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี เกาะสวรรค์สำหรับนักดำน้ำ ไม่ต้องพูดถึงน้ำทะเลและปะการัง เพราะสวยงามมากมายเคยติดอันดับโลกมาแล้ว ทีเด็ดอีกอย่างคือการรอชมพระอาทิตย์ตกกลางทะเลบริเวณหาดทรายรี วันไหนฟ้าเปิด เมฆน้อยๆรับรองจะได้เห็นไข่แดงกลมโตตกกลางทะเลให้ได้ถ่ายภาพสวยๆกันอย่างแน่นอน ช่วงเวลาที่น่าเที่ยวเกาะเต่าตั้งแต่เมษายน-ตุลาคมของทุกๆปี 2.สะพานแขวนสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี จ.ตาก ถือว่าเป็นจุดชมวิวริมแม่น้ำปิงที่สวยงามที่สุดของ จ.ตาก เลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะช่วงเวลาพระอาทิตย์ตก บริเวณโดยรอบสะพานยังมีสวนเฉลิมพระเกียรติ มีทั้งสวนสุขภาพ สนามกีฬาหลากหลายชนิดทอดขนานไปกับลำน้ำปิง รวมทั้งอาคารกิตติคุณสำหรับจัดกิจกรรมต่างๆ ในปัจจุบันสะพานแขวนและสวนเฉลิมพระเกียรติฯ แห่งนี้คือสถานที่ที่จังหวัดตากใช้จัดงานประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีปพันดวง ซึ่งเป็นงานประเพณีประจำท้องถิ่นของจังหวัดตากที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร 3.ปากน้ำโพ จ.นครสวรรค์ บรรยากาศยามเย็นที่นี่ดูดีไม่น้อย ชมวิถีชีวิตของชาวนครสวรรค์ริมสายน้ำแหล่งต้นกำเนิดแม่น้ำเจ้าพระยา นั่งกินลมชมวิวหรือรับประทานอาหารเย็นอร่อยๆกับร้านอาหารริมแม่น้ำหลากหลายร้าน 4 ชั่วโมงจากรุงเทพฯ ว่างๆลองมาสัมผัสสักครั้งไม่ผิดหวังแน่นอน 4.อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย เมืองเก่าโบราณของประเทศไทย จะนั่งรถราง หรือปั่นจักรยานชมรอบๆอุทยานฯก็ได้ โดยเฉพาะช่วงเวลาที่พระอาทิตย์กำลังจะตก บรรยากาศช่างสวยงามน่าหลงใหล ยิ่งถ้าเจอมุมดีๆ รับรองได้ภาพสวยๆไปอวดเพื่อนๆในโซเชี่ยลอย่างแน่นอน 5.อ่างเก็บน้ำห้วยเสนง จ.สุรินทร์ ใครว่าอีสานแห้งแล้ง ปัจจุบันบ่แม่นแล้วเด้ออ โดยเฉพาะเมืองสุรินทร์ถิ่นช้างใหญ่ มีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย หนึ่งในนั้นคืออ่างเก็บน้ำห้วยเสนง แนะนำมาตอนเช้าๆ รอชมพระอาทิตย์ขึ้นเหนืออ่างเก็บน้ำอันกว้างใหญ่ วันไหนท้องฟ้าสดใส อากาศเป็นใจ จะได้เจอพระอาทิตย์ดวงโตๆ แสงสะท้อนน้ำสีทองอร่าม รับรองว่าได้กดซัตเตอร์กันแบบรัวๆเลยแหล่ะ 6.ริมแม่น้ำโขง อ.เชียงคาน จ.เลย บรรยากาศยามเย็นที่นี่บอกเลยว่า ฟิน!! สองฝั่งโขงไทย-ลาว เทือกเขาสุดสายตา หลังพระอาทิตย์ตกเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนโปรดปราน เดินเล่น ถ่ายรูป เสร็จแล้วไปหาของกินอร่อยๆที่ถนนคนเดินเชียงคาน โดยเฉพาะช่วงวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ จะคึกคักเป็นพิเศษ พี่พัก ร้านอาหาร ริมฝั่งโขง เก๋ๆเพียบ หน้าร้อนมานอนรับลมเล่นริมโขงสักวันวองวัน ก็ไม่เลวทีเดียว 7.สถานตากอากาศบางปู จ.สุทรปราการ แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมใกล้กรุงเทพฯ ใครๆก็มาดูนกนางนวลที่นี่โดยเฉพาะช่วงเดือนพฤศจิกายน-เมษายน ของทุกๆปี นกนางนวลจะบินอพยบหนีหนาวมาจำนวนมาก ช่วงเวลาพระอาทิตย์กำลังจะตกหลายคนตั้งตารอชมแสงสีทองสะท้อนน้ำทะเล พระอาทิตย์ดวงกลมโต พร้อมกับฝูงนกนางนวลโบยบินกลับรัง ชมวิวเสร็จสามารถไปทานอาหารเย็นต่อได้ที่ร้านอาหารศาลาสุขใจ นั่งทานข้าวชมวิวเพลินๆ แล้วถ้าอยากนอนค้างสักคืนต่อ ปัจจุบันมีรีสอร์ทเปิดบริการแล้วหลายที่บริเวณใกล้เคียงสถานตากอากาศบางปู 8.อ่าวประจวบ จ.ประจวบคีรีขันธ์ แสงเช้าที่อ่าวประจวบ..ใครตื่นเช้าออกมารับลมทะเลเย็นๆรอชมพระอาทิตย์ขึ้นที่นี่ไม่ผิดหวังแน่นอน ช่วงนี้หน้าร้อนท้องฟ้าเปิด ยามเช้านี่แหล่ะตอบโจทย์ที่สุด บรรยากาศสวย อากาศไม่ร้อนมาก สายๆไปเล่นน้ำทะเลที่อ่าวมะนาว บริเวณอ่าวประจวบมีที่พัก ร้านอาหาร พร้อมบริการเพียบ 4 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ น่าสนใจมากๆกับอีกหนึ่งตัวเลือกการท่องเที่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์ ...
อ่านเพิ่มเติม

Feel fresh with DAM – 7 เขื่อนต้องไปเยือน

Feel fresh with DAM – 7 เขื่อนต้องไปเยือน เขื่อนภูมิพล จ.ตาก เขื่อนภูมิพล เดิมชื่อเขื่อนยันฮี ตั้งอยู่ที่ อ.สามเงา เป็นเขื่อนอเนกประสงค์แห่งแรกที่สร้างด้วยคอนกรีตรูปโค้งขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและเอเชียอาคเนย์ สร้างกั้นลำน้ำปิงที่บริเวณเขาแก้วเพื่อผลิตไฟฟ้าและใช้ในการชลประทาน นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำจืด และเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจอีกด้วย การเดินทางใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ถึงบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 463-464 ให้เลี้ยวซ้ายแล้วตรงไป 17 กิโลเมตร สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเขื่อนภูมิพล โทร. 055 549 509 ต่อ 4002, 4003พิกัด : https://goo.gl/maps/vwED7Z9a8Tv เขื่อนวชิราลงกรณ จ.กาญจนบุรี  เขื่อนวชิราลงกรณ เดิมชื่อเขื่อนเขาแหลม ตั้งอยู่ที่ ต.ท่าขนุน เป็นเขื่อนหินทิ้งดาดหน้าด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก สร้างกั้นลำน้ำแควน้อย เป็นเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำอเนกประสงค์ สามารถนั่งเรือหรือล่องแพชมทิวทัศน์ที่สวยงามบริเวณเหนือเขื่อนได้ การเดินทางจากตัวเมืองกาญจนบุรี ใช้ทางหลวงหมายเลข 323 (กาญจนบุรี-ทองผาภูมิ) ถึง อ.ทองผาภูมิ และจาก อ.ทองผาภุูมิไปยังเขื่อนอีก 20 กิโลเมตร รวมระยะทางประมาณ 130 กิโลเมตร  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมอำเภอทองผาภูมิ (บริการบ้านพักและเรือเช่า)โทร. 034 599 077 ต่อ 2502, 2506การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยโทร. 02 436 6046-8พิกัด : https://goo.gl/maps/UDGWBvYrGrw เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี เขื่อนป่าสักฯ ตั้งอยู่ที่บ้านแก่งเสือเต้น ต.หนองบัว อ.พัฒนานิคม เป็นเขื่อนดินที่ยาวที่สุดในประเทศไทย มีจุดชมวิวบริเวณสันเขื่อนและพิพิธภัณฑ์ลุ่มน้ำป่าสักให้ได้ชมกันด้วย  สำหรับผู้ที่อยากชมทัศนียภาพรอบเขื่อน ที่นี่ก็มีบริการรถรางด้วย โดยจะแล่นไปตามสันเขื่อน ใช้เวลาไป-กลับประมาณรอบละ 50 นาที เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 08.00 – 17.00 น.ค่าบริการ ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 10 บาท  การเดินทางโดยรถยนต์– จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ผ่าน จ.สระบุรี จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 21 (สระบุรี-หล่มสัก) ...
อ่านเพิ่มเติม
Scroll to Top