ชุมพร

ชุมพร

 4 พระบรมธาตุ…เมืองปักษ์ใต้

สำหรับผู้ที่เป็นพุทธศาสนิกชนนั้น ย่อมเป็นโอกาสอันดีในการเข้าวัด ไหว้พระ ทำบุญ สักการะขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต และถือเป็นการเอาฤกษ์เอาชัย สร้างขวัญกำลังใจให้ตนเองและครอบครัว TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง ขอนำเสนอพิกัดไหว้พระขอพร “4 พระบรมธาตุเมืองปักษ์ใต้” ที่สักครั้งหนึ่งในชีวิตควรหาโอกาสเดินทางไปสักการะ 1. พระบรมธาตุเมืองนคร ที่ตั้ง: วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ถนนราชดำเนิน ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช พิกัด: https://maps.app.goo.gl/etjaiqTv8V2uMZC28 เป็นปูชนียสถานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้และประเทศไทย เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวนครศรีธรรมราชและพุทธศาสนิกชนทั่วไป มีความเชื่อกันว่าหากผู้ใดได้มากราบสักการะพระบรมธาตุเมืองนคร จะถือเป็นมงคลชีวิตแก่ตนเองและครอบครัว พระบรมธาตุเจดีย์ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช ซึ่งเป็นผู้สร้างเมืองนครศรีธรรมราช ลักษณะเป็นเจดีย์ทรงลังกา มีความสูง 55.78 เมตร ปลียอดองค์พระบรมธาตุเจดีย์หุ้มด้วยทองคำ ภายในประดิษฐานพระทันตธาตุของพระพุทธเจ้าและของมีค่ามากมาย ที่พุทธศาสนิกชนต่างนำมาถวายเพื่อเป็นการสักการบูชาแด่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเพื่อให้ตนได้ถึงซึ่งนิพพาน ในวันมาฆบูชา (ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3) และวันวิสาขบูชา (ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6) ของทุกปี จะมีการจัดงาน “ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุเมืองนคร” ซึ่งถือเป็นประเพณีเก่าแก่ตั้งแต่สมัยพระเจ้าศรีธรรมโศกราช มีความเชื่อกันว่าพระบรมธาตุเมืองนครเปรียบเสมือนเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า พิธีแห่ผ้าขึ้นธาตุจึงเป็นการบูชาองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างใกล้ชิด โดยจะมีการจัดขบวนแห่ผ้าพระบฏและผ้าพระบฏนานาชาติจากประเทศต่าง ๆ ที่นับถือพระพุทธศาสนา ซึ่งนิยมเป็นผ้าสีขาว ผ้าสีเหลือง และผ้าสีแดง เมื่อแห่แล้วจะนำไปห่มรอบองค์พระบรมธาตุเจดีย์เพื่อความเป็นสิริมงคล อันจะนำมาซึ่งความสำเร็จในการดำรงชีพทุก ๆ ด้าน 2. พระบรมธาตุสวี ที่ตั้ง : วัดพระบรมธาตุสวี ริมแม่น้ำสวี ตำบลสวี อำเภอสวี จังหวัดชุมพร พิกัด : https://goo.gl/maps/FrGyz9rm12xbra39A พระบรมธาตุสวี ลักษณะเป็นเจดีย์สีทองทรงระฆังคว่ำ มีความสูงประมาณ 70 เมตร ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2544 ด้านหน้าทางเข้าไปสักการะพระบรมธาตุติดกับแม่น้ำสวี มี “ศาลพระเสื้อเมือง” ซึ่งภายในมีรูปปั้นคนนั่ง ขนาดเท่าคนจริงเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้าน โดยเชื่อกันว่าเป็นทหารในกองทัพสมัยพระเจ้าศรีธรรมาโศกราชที่ได้รับหน้าที่ให้เฝ้าดูแลพระบรมธาตุแห่งนี้ นอกจากนี้บริเวณด้านหน้าวัด ยังเป็นที่ตั้งของ “พิพิธภัณฑ์วัดพระบรมธาตุสวี” เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 09.00-17.00 น. 3. พระบรมธาตุไชยา ที่ตั้ง : วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร ตำบลเวียง อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี พิกัด : https://maps.app.goo.gl/SrZj1QxCphqHGVj28 พระบรมธาตุไชยาเป็นโบราณสถานที่สร้างขึ้นตามแบบลัทธิมหายานตั้งแต่ครั้งอาณาจักรศรีวิชัยรุ่งเรือง ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า รอบองค์พระบรมธาตุมีเจดีย์เล็ก ๆ 4 ทิศ ล้อมรอบด้วยวิหารคด ซึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปเก่าแก่ทั้ง 4 ด้าน เป็นพุทธสถานเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยที่ยังคงรักษาความเป็นเอกลักษณ์ของศิลปกรรมสมัยศรีวิชัยได้อย่างสมบูรณ์แบบ จังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ใช้ภาพองค์พระบรมธาตุไชยาเป็นสัญลักษณ์ในดวงตราประจำจังหวัด และกล่าวกันว่าหากใครไม่ได้ไปสักการะพระบรมธาตุไชยาจะถือว่ายังไปไม่ถึงสุราษฎร์ธานี นอกจากนี้ภายในบริเวณวัดยังเป็นที่ตั้งของ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติไชยา จัดแสดงประติมากรรมศิลาและสัมฤทธิ์ที่ค้นพบในเมืองไชยาเก่า ได้แก่ เทวรูปพระนารายณ์ พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร และจัดแสดงนิทรรศการหมุนเวียนต่าง ๆ ส่วนอาคารที่สองจัดแสดงหลักฐานสมัยก่อนประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยทวารวดี ศรีวิชัย ลพบุรี สุโขทัย อยุธยา และยังจัดแสดงงานประณีตศิลป์ต่าง ๆ อีกมากมาย เปิดให้เข้าชมทุกวันพุธ-วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. (หยุดวันจันทร์ วันอังคาร และวันนักขัตฤกษ์) ค่าเข้าชม ชาวไทย 20 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาท สอบถามข้อมูล โทร. 0 7743 1066 4. พระบรมธาตุเจดีย์ เขียนบางแก้ว ที่ตั้ง : วัดเขียนบางแก้ว บ้านบางแก้วใต้ ตำบลจองถนน อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง พิกัด : https://maps.app.goo.gl/ZbFkKmBqrn8jyjLW6 เป็นวัดเก่าแก่ที่สุดของจังหวัดพัทลุง สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอาณาจักรศรีวิชัย และบริเวณวัดน่าจะเคยเป็นที่ตั้งเมืองพัทลุงมาก่อน เนื่องจากมีการค้นพบซากปรักหักพังของศิลาแลงและพระพุทธรูปเก่าแก่มากมาย พระบรมธาตุเจดีย์บางแก้ว เป็นเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยม ก่อด้วยอิฐสูง 22 เมตร ภายในประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากลังกา มีฐานะเสมอเหมือนพระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช และพระบรมธาตุไชยา ภายในวัดยังมีพิพิธภัณฑ์ ซึ่งเป็นสถานที่เก็บรวบรวมและจัดแสดงพระพุทธรูปเก่าแก่ รวมทั้งข้าวของเครื่องใช้ในสมัยโบราณ โดยผู้สนใจเข้าชมต้องติดต่อขอรับกุญแจจากเจ้าอาวาสวัด ขอให้ทุกท่านเดินทางท่องเที่ยวและเดินสายทำบุญไหว้พระโดยสวัสดิภาพค่ะ

 4 พระบรมธาตุ…เมืองปักษ์ใต้ อ่านเพิ่มเติม

🔸 เขามัทรี : ชุมพร🔸

จุดชมทิวทัศน์ที่ตั้งบนยอดเขาไม่ไกลจากตัวเมืองชุมพร สามารถชมทัศนียภาพได้โดยรอบ 360 องศา ทั้งชมพระอาทิตย์ขึ้นจากฝั่งทะเลทางทิศตะวันออก ซึ่งมองเห็นชายทะเลปากน้ำชุมพรและหาดภราดรภาพ ชมพระอาทิตย์ตกลับหลังทิวเขาจากฝั่งตะวันตก ซึ่งมองเห็นตัวเมืองชุมพร ท่าเทียบเรือประมง ชุมชนปากน้ำชุมพร และทางทิศเหนือมองเห็นปากน้ำชุมพร ซึ่งเป็นจุดที่คลองท่าตะเภาไหลออกสู่ทะเล นอกจากนี้บนเขามัทรียังมีรูปปั้นพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรปางมหาราชลีลาตั้งอยู่เป็นศูนย์กลางของลานชมทิวทัศน์ มีร้านจำหน่ายของว่าง ร้านกาแฟ และห้องน้ำให้บริการนักท่องเที่ยว ⏰ เขามัทรีเปิดให้ท่องเที่ยวทุกวัน ระหว่างเวลา 06.00-19.00 น. ไม่เสียค่าเข้าชม ช่วงเวลาที่แนะนำในการท่องเที่ยว คือ ช่วงเวลาเย็นจนถึงพลบค่ำ เพราะนอกจากจะได้ชมพระอาทิตย์ตกลับทิวเขาแล้ว หลังจากท้องฟ้าเริ่มมืดจะได้เห็นแสงไฟจากชุมชนที่อยู่เบื้องล่าง รวมทั้งแสงไฟจากเรือประมงขนาดเล็กจำนวนมากที่ออกหาปลาและลอยลำอยู่ในทะเลแถบปากน้ำชุมพร เป็นทัศนียภาพที่สวยงามทีเดียว 🚙 การเดินทาง : จากตัวเมืองชุมพร ใช้ทางหลวงหมายเลข 4001 (ชุมพร-ปากน้ำ) ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 4119 จนถึงสามแยกตำบลปากน้ำ ให้เลี้ยวขวาเข้าใช้ทางหลวงหมายเลข 4098 ตรงไปประมาณ 1.5 กิโลเมตร จะพบทางขึ้นเขามัทรีอยู่ริมถนนทางซ้ายมือ รถยนต์เล็กทุกชนิดสามารถขับขึ้นไปบนยอดเขาซึ่งเป็นจุดชมทิวทัศน์ได้ เส้นทางค่อนข้างชันและโค้งหักศอกในบางช่วง ควรใช้ความระมัดระวัง พิกัด : https://goo.gl/maps/jZmgM4f4L4paDpbu8

🔸 เขามัทรี : ชุมพร🔸 อ่านเพิ่มเติม

🏝 ‘เกาะกุลา’ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร จังหวัดชุมพร 🏝

เกาะขนาดเล็กซึ่งกำลังเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว อยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร บนเกาะยังเป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานที่ มพ.2 มีเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ประจำการคอยดูแลความเรียบร้อยรอบเกาะมีชายหาด 3 แห่ง น้ำทะเลสะอาดใส ทรายละเอียดนุ่มเท้า สามารถเดินเล่นชมธรรมชาติบนเกาะ ดำน้ำตื้น หรือพายเรือคายักรอบเกาะก็ได้ ภาพถ่ายมุมสูงจากโดรน จะเห็นว่าเกาะกุลานั้น ตั้งอยู่ไม่ไกลจากชายฝั่งแผ่นดินใหญ่ ที่เห็นเป็นแนวเขาด้านบนของภาพนั้น คือบริเวณบ้านอ่าวคราม ตำบลด่านสวี อำเภอสวี จังหวัดชุมพร นอกจากนี้บนเกาะยังมีทั้งบ้านพัก จุดกางเต็นท์ และห้องน้ำให้บริการ หากต้องการพักค้างแรมบนเกาะ แนะนำให้สำรองที่พักล่วงหน้ากับทางอุทยานฯ 📞 สอบถามข้อมูลได้ที่ หัวหน้าหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ เกาะกุลา โทร. 08 9970 0504 ที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร โทร. 0 7755 8144 ค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานฯ ชาวไทย : ผู้ใหญ่ 40 บ. เด็ก 20 บ. ชาวต่างชาติ : ผู้ใหญ่ 200 บ. เด็ก 100 บ. ⛵️ การเดินทางไปยังเกาะกุลา : ที่สะดวกและใช้เวลาน้อยที่สุด แนะนำให้ลงเรือที่บ้านอ่าวคราม ตำบลด่านสวี อำเภอสวี จังหวัดชุมพร ใช้เวลานั่งเรือยนต์จากบ้านอ่าวครามไปยังเกาะกุลาเพียง 15-20 นาที มีผู้ประกอบการโฮมสเตย์ ณ บ้านอ่าวคราม ให้บริการเรือยนต์พาเที่ยวเกาะกุลา ค่าเรือแบบเหมาลำ นั่งได้ไม่เกิน 10 คน ลำละ 1,200-1,500 บ. สามารถหารค่าเรือกับนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นที่จะลงเรือรอบเดียวกันนั้นได้ 📞 สอบถามข้อมูลได้ที่ : แดนโดม โฮมสเตย์ โทร. 09 0703 0446 อ่าวคราม โฮมสเตย์ โทร. 08 4745 5278

🏝 ‘เกาะกุลา’ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร จังหวัดชุมพร 🏝 อ่านเพิ่มเติม

✨ ประตูมหาสมุทร ✨ จุดเช็กอิน ✅ แห่งใหม่ @ ชุมพร

✨ ประตูมหาสมุทร ✨ เป็นประตูหินที่เกิดขึ้นจากการกัดกร่อนของลมและน้ำทะเลตามธรรมชาติ สามารถเดินลอดผ่านซุ้มโค้งประตูไปรับลมชมวิวทะเล เป็นอีกหนึ่งมุมสวยที่น่าถ่ายรูปเช็กอินมาก ๆ ที่นี่ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก ทั้งยังมองเห็นบ้านท้องโตนด บ้านอ่าวคราม เกาะกุลา และเกาะต่าง ๆ ใกล้เคียงอีกด้วย นอกจากนี้ หากมีเวลาอยากแนะนำให้เดินเล่นในชุมชนบ้านบ่อคา ซึ่งเป็นชุมชนชาวประมงเก่าแก่ขนาดเล็กที่เงียบสงบ อาคารบ้านเรือนหลายหลังยังคงโครงสร้างเดิมไว้ให้เห็นคือสร้างด้วยไม้เคี่ยมโบราณ ดูมีเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์ชวนให้อยากทำความรู้จักชุมชนริมทะเลแห่งนี้มากขึ้น 🚙 การเดินทาง : จากทางหลวงหมายเลข 41 สามแยกตัวอำเภอสวี เข้าใช้ทางหลวงหมายเลข 4003 (สวี-บ้านบ่อคา) ระยะทางประมาณ 13 กิโลเมตร ทางหลวงสายนี้จะไปสิ้นสุดบริเวณท่าเทียบเรือประมงบ้านบ่อคา สามารถจอดรถได้บริเวณใกล้เคียง และเดินเท้าไปยังชายหาดบ่อคาอีกประมาณ 100 เมตร จะพบ ‘ประตูมหาสมุทร’ หรือ ‘ประตูหินบ้านบ่อคา’ ตั้งอยู่ริมทะเล 📍บ้านบ่อคา ตำบลด่านสวี อำเภอสวี จังหวัดชุมพรพิกัด : https://goo.gl/maps/QPYEK3ftFw8gT7J99

✨ ประตูมหาสมุทร ✨ จุดเช็กอิน ✅ แห่งใหม่ @ ชุมพร อ่านเพิ่มเติม

ชุมพร…ต้องลองไป🌿

จังหวัดชุมพร ขึ้นชื่อว่าเป็นประตูสู่ภาคใต้ แต่แน่นอนว่าชุมพรไม่ใช่แค่ทางผ่าน และไม่ได้มีแต่เฉพาะทะเลเท่านั้น ที่นี่มีพร้อม ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติสวย ๆ หรือแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าสนใจ พร้อมรู้จักชุมพรมากขึ้นหรือยัง มาค่ะ…แอดมีเส้นทางท่องเที่ยวชุมพร ที่ไม่ได้มีแค่ทะเลมาฝาก🥰 ทริปนี้แอดแนะนำว่าควรมีเวลาอย่างน้อย 2 คืน เพราะจากกรุงเทพฯถึงอำเภอสวีจะใช้เวลาขับรถ เวลาประมาณ 6-7 ชั่วโมงทีเดียว แต่หากมีเวลาจำกัดแค่ 1 คืน แอดแนะนำให้เที่ยวชมในอำเภอปะทิวหรืออำเภอเมืองค่ะ นอกจากรถยนต์ เพื่อน ๆ สามารถเลือกเดินทางโดยเครื่องบินได้ โดยบินตรงมาที่สนามบินชุมพร อำเภอปะทิวค่ะ ชุมพร…ต้องลองไป สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองชุมพร พระบรมธาตุสวี สัมผัสทะเลหมอกยามเช้าบน ดอยตาปัง ไหว้ขอพร “เสด็จเตี่ย” ศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ชิมกาแฟโรบัสต้าที่ Horse Mountain Roaster ชมวิวชิลล์ ๆ ริมหาดทุ่งวัวแล่น พระบรมธาตุสวี พระบรมธาตุสวี ที่ประดิษฐานอยู่ในวัดพระบรมธาตุสวี ถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองชุมพร และเป็น 1 ในจตุธรรมธาตุทั้ง 4 ในดินแดนทางใต้ที่ชาวบ้านในพื้นที่ให้ความเคารพนับถือ โดยพระบรมธาตุสวีมีสถาปัตยกรรมลักษณะเดียวกับพระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช คือเป็นเจดีย์ทรงระฆังสีทอง ซึ่งสันนิษฐานว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ในวันอาสาฬหบูชา ที่วัดพระบรมธาตุสวีจะมีประเพณีแห่ผ้าห่มพระบรมธาตุสวีเป็นประจำทุกปี ในคืนแรก หลังจากเดินทางมายาวนานหลายชั่วโมง แอดแนะนำให้พักที่อำเภอสวี เพื่อพรุ่งนี้เช้าจะได้ขึ้นไปชมหมอกที่ดอยตาปังอย่างสดชื่น หมู่ 1 ตำบลสวี อำเภอสวี จังหวัดชุมพร เปิดทุกวัน เวลา 08.00-16.00 น. https://goo.gl/maps/giqCEAC2VoTWUgXM8 ดอยตาปัง เช้าตรู่ แอดจะพาทุกคนขึ้นไปที่ ดอยตาปัง ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ของเขาทะลุ มีความสูงประมาณ 450 เมตร เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกสุดฟินแห่งภาคใต้อีกแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะมีหมอกตลอดทั้งปี ซึ่งที่นี่เป็นดอยที่ชาวบ้านในชุมชนช่วยกันผลักดันจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของชุมพร ไฮไลท์ที่ห้ามพลาดของที่นี่!! จากจุดชมวิวเราจะมองเห็นทะเลหมอกทอดผ่านทิวเขายามเช้า และเป็นจุดที่เหมาะกับการชมพระอาทิตย์ขึ้นอีกด้วย จากดอยตาปังเราสามารถเห็นเขาทะลุได้อีกด้วย  สำหรับใครอยากจะค้างคืน ด้านบนมีลานกางเต็นท์ด้วยนะค่าบำรุงสถานที่ ราคา 150 บาท/เต็นท์เช่าเต็นท์ ราคา 300 บาท/เต็นท์ การเดินทางขึ้นไปยังจุดชมวิว ต้องใช้รถโฟร์วีลล์ของชาวบ้าน เพราะว่าเส้นทางเป็นทางชันดินลูกรัง ต้องใช้ความระมัดระวังมาก ๆ จุดบริการนักท่องเที่ยวดอยตาปัง รถบริการขึ้น-ลง เที่ยวละ 600 บาท (ไป-กลับ) นั่งได้ 10 คน โทร. 09 8821 9831 (ผู้ใหญ่ประเสริฐ) 📌 ตำบลเขาทะลุ ของอำเภอสวี จังหวัดชุมพร 🌐 https://goo.gl/maps/46PemzPsqAYjyt739 ศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ว่ากันว่ามาถึงชุมพรก็ต้องมาสักการะ ศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์กัน จากดอยตาปัง อำเภอสวี ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เราก็มาถึงบริเวณหาดทรายรี อันเป็นที่ตั้งอนุสรณ์สถานของพลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ บิดาของทหารเรือไทย หรือที่ผู้คนเรียกกันว่า “เสด็จเตี่ย” ผู้ซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาของเหล่าทหารเรือ รวมทั้งประชาชนทั่วไป  ด้านบนศาลมีลานกว้าง เป็นจุดชมวิวสามารถมองเห็นวิวสวยงามของหาดทรายรีได้อีกด้วย  ตำบลหาดทรายรี อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร https://goo.gl/maps/2F397nJ8QitVWsUY9 Horse Mountain Roaster ชุมพรถือเป็นจังหวัดที่ปลูกกาแฟพันธุ์โรบัสต้ามากที่สุดในประเทศไทย แอดเลยจะพาไปชิมกาแฟกันที่ Horse Mountain Roaster ที่นี่เป็นร้านกาแฟสไตล์วินเทจ ตกแต่งได้เท่มาก ซึ่งนอกจากจะเสิร์ฟกาแฟรสชาติดีแล้ว ที่นี่ยังเป็นโรงคั่วกาแฟอีกด้วย Horse Mountain Roaster  32/10 ม.11 ถนนชุมพร-ระนอง ตำบลวังไผ่ อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร  เปิดทุกวัน เวลา 08.30-17.00 น.  09 2656 2264 https://g.page/horse-mountain-roaster?share หาดทุ่งวัวแล่น มาถึงชุมพรทั้งทีก็ต้องมาที่ “หาดทุ่งวัวแล่น” ชายหาดที่ได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดของจังหวัด หากใครไปชุมพรแล้วไม่ได้มาเที่ยวที่นี่ ถือว่ามาไม่ถึง : ) หาดทุ่งวัวแล่นอยู่ที่อำเภอปะทิว ขับรถจากอำเภอเมืองเพลิน ๆ ประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงแล้วค่ะ ที่มาของชื่อหาดทุ่งวัวแล่นนั้น เล่ากันว่า แต่ก่อนหาดทุ่งวัวแล่นมีสัตว์ป่าอยู่เป็นจำนวนมาก วันหนึ่ง นายพรานมาล่าสัตว์ ยิงวัวป่าล้มลง แต่วัวป่ากลับฟื้นและวิ่งหนีหายไป จึงเป็นที่มาของชื่อหาดทุ่งวัวแล่น หาดทรายที่นี่มีเม็ดทรายสีขาวนวลละเอียด ทอดตัวยาวไปสุดลูกหูลูกตา และยังเป็นหาดที่มีความลาดเอียงน้อย น้ำทะเลสวยใสเหมาะแก่การเล่นน้ำมาก ๆ หากเพื่อน ๆ ต้องการที่พัก สามารถหาที่พักในอำเภอปะทิวได้เลยค่ะ มีที่พักค่อนข้างเยอะทั้งโรงแรมและรีสอร์ท  ตำบลสะพลี อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร https://goo.gl/maps/n3hKEzmaNLQaCodcA

ชุมพร…ต้องลองไป🌿 อ่านเพิ่มเติม

⛅ Unseen 12 จุดชมหมอกเมืองไทย ⛅

อลังการความงามของธรรมชาติทั้งปี หมอกสวย วิวอลัง การเดินทางสุดมันส์ บรรยากาศเหล่านี้จะกลับมาอีกครั้ง เริ่ม !! ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปี 2565 ด้วยพิกัดเที่ยว “ตามล่าหาทะเลหมอก” ช่วงนี้อากาศกำลังเย็นสบาย เราขอแนะนำที่เที่ยว ชวนไปสัมผัสอากาศหนาวกันบ้าง พาไปชมทะเลหมอกขาว ท่ามกลางธรรมชาติ ดูแสงแรกยามเช้า รับอากาศบริสุทธิ์ ซึ่งแต่ละสถานที่นั้น สวยไม่แพ้กันเลย เอาใจสายรักหมอกมาก ๆ เพราะธรรมชาติเมืองไทย มีให้เราไปเจอได้แบบไม่สิ้นสุด แถมยังเที่ยวได้ทั้งปีอีกด้วย คุณลองหลับตา และจินตนาการถึงสายหมอก สายลมเย็นเหนือขุนเขาที่พัดผ่านผิวกาย สองเท้าย่ำไปบนผืนดิน สูดรับออกซิเจนบริสุทธิ์เข้าปอด และมองดูความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าที่เติบโตเพิ่มขึ้น แล้วความสุขของการท่องเที่ยวและพักผ่อน บรรยากาศดี ๆ เหล่านั้นจะกลับมา และช่วงเวลาแบบนี้ เราถือโอกาสบอกต่อสิ่งดี ๆ ให้คุณ สำหรับใครที่กำลังมองหาภาพปฏิทินสวย ๆ พร้อมแนะนำที่เที่ยว หรือดาวน์โหลดปฏิทิน ทำ E-Card ด้วยตัวเอง เพื่อส่งต่อความสุขให้กับคนที่เรารักและห่วงใย สามารถคลิกที่นี่ได้เลย https://tatcalendar.com/ สำหรับการทำ E-Card ด้วยตัวเองก็ง่ายมาก เราขอชวนคุณมาร่วมทำไปด้วยกัน เพียง.. คลิกเลือก E-card แบบรูปภาพหรือวิดีโอ ใช้คำอวยพรเดิมที่มีให้ หรือพิมพ์ข้อความใหม่ ความยาวไม่เกิน 30 ตัวอักษร ลงในช่องกรอกข้อความ คลิก เปลี่ยนข้อความ คลิกขวาเพื่อบันทึกรูปภาพพร้อมข้อความ สำหรับ PC หรือแตะที่รูปค้างไว้แล้วเลือก บันทึกรูปภาพ สำหรับโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต นำภาพหรือวิดีโอที่บันทึกไว้ ส่งผ่านช่องทางต่างๆ ได้แก่ Social Media, E-mail เป็นต้น นอกจากมีเว็บไซต์แล้ว ยังมีแอพพลิเคชัน TAT CALENDAR ด้วยนะ สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานกันแบบง่าย ๆ ได้แล้ววันนี้ ทั้งระบบ Android และ iOS ดาวน์โหลดผ่านระบบ Android คลิก : https://bit.ly/3oU23br ดาวน์โหลดผ่านระบบ iOS คลิก : https://apple.co/3GHsjfq ม่อนหมอกตะวันจังหวัดตาก “ม่อนหมอกตะวัน” ตั้งอยู่ที่บ้านป่าหวาย ธรรมชาติแห่งขุนเขายามเช้า ท่ามกลางสายหมอกพริ้วไหว และดอกเสี้ยนฝรั่งสีบานเย็นสลับขาวที่ผลิดอกสะพรั่งบานเต็มทั่วทิวเขา เป็นความงดงามที่เพิ่งถูกค้นพบและกลายเป็นจุดชมวิวแห่งใหม่ของจังหวัดตาก ที่นี่ มีบริการลานกางเต็นท์ บ้านพัก ให้ตื่นมาพร้อมชมพระอาทิตย์ขึ้น กับทะเลหมอก รวมทั้งดอกไม้ที่สวยงามตระการตา กับบรรยากาศที่รับรองว่าไม่เหมือนใคร ทางขึ้นของที่นี่ค่อนข้างชัน เป็นถนนแบบคอนกรีตผสมลูกรัง ขับรถระวัง ๆ กันด้วยนะ พิกัด : บ้านป่าหวาย อ.พบพระ จ. ตากGPS : https://goo.gl/maps/vqKcH9SVkRxJNrDD6 ดอยผาตั้งจังหวัดเชียงราย จุดชมวิวบนดอยผาตั้ง เป็นอีกหนึ่งสถานที่ห้ามพลาดในช่วงหน้าหนาว เพราะนอกจากอากาศที่หนาวสะท้านไปถึงกระดูกแล้ว ยังได้ไปชมพระอาทิตย์ขึ้นกลางทะเลหมอกขาวโพลนอีกด้วย บรรยากาศดีมาก ซึ่งจุดชมวิวที่เป็นไฮไลท์บนดอยแห่งนี้ มีอยู่หลายจุด ไม่ว่าจะเป็น ‘ป่าหินยูนนาน’ แนวโขดหินริมหน้าผา ไปนั่งเท่ ๆ ถ่ายภาพคู่กับวิวทะเลหมอกได้ หรือจุดชมวิว ‘ช่องเขาขาด’ เป็น landscape ที่โดดเด่น มีช่องเขาที่มองเห็นทะเลหมอกกับวิวภูเขาฝั่ง สปป.ลาวเป็น background ‘เนิน102’ อยู่ถัดจากช่องเขาขาดไปเล็กน้อย เดินขึ้นง่ายไม่เหนื่อย เป็นจุดที่มองเห็นวิวโดยรอบได้ 360 องศา ด้านหนึ่งจะเห็นยอดเขาแหลมฝั่งลาวที่สวยงามมาก นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวอื่น ๆ ใกล้เคียงอีกด้วย แต่ว่าต้องเดินไกลหน่อย รวมไปถึงมีที่พักไว้บริการด้วยนะ พิกัด : ดอยผาตั้ง อ. เวียงแก่น จ. เชียงรายGPS : ‭https://goo.gl/maps/nHvzsZDLD7z ดอยตาปังจังหวัดชุมพร “ดอยตาปัง” อยู่ในพื้นที่ของเขาทะลุ เป็นจุดชมวิวทะเลหมอก สุดฟินแห่งภาคใต้ เพราะมีหมอกตลอดทั้งปี ซึ่งที่นี่เป็นดอยที่ชาวบ้านในชุมชนช่วยกันผลักดันจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของชุมพร ที่นี่จะมองเห็นทะเลหมอกทอดผ่านแนวทิวเขาสวยงามไม่แพ้ทางเหนือ เหมาะกับการชมพระอาทิตย์ขึ้น มีลานกางเต็นท์ให้บริการ การเดินทางจะต้องใช้รถที่ขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้น เนื่องจากข้างบนเป็นพื้นที่แคบ แนะนำให้ใช้การบริการรถจากชาวบ้านซึ่งเป็นผู้ชำนาญเรื่องถนนหนทางพาขึ้นไปดีกว่านะ พิกัด : ดอยตาปัง อ.สวี จ.ชุมพรGPS : https://goo.gl/maps/21FgYFpJorMSBPhq9 และช่วงเวลาแบบนี้ เราถือโอกาสบอกต่อสิ่งดี ๆ ให้คุณด้วย สำหรับใครที่กำลังมองหาภาพปฏิทินสวย ๆ พร้อมคำแนะนำงานประเพณี กิจกรรมดีดี หรือดาวน์โหลดปฏิทิน ทำ E-Card ด้วยตัวเอง เพื่อส่งต่อความสุขให้กับคนที่เรารักและห่วงใย สามารถคลิกที่นี่ https://tatcalendar.com/ หรือสแกน QR Code ในภาพได้เลย นอกจากเว็บไซต์แล้ว ยังมีแอพพลิเคชัน TAT CALENDAR ด้วยนะ สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานกันแบบง่าย ๆ ได้แล้ววันนี้ ทั้งระบบ Android และ iOS ดาวน์โหลดผ่านระบบ Android คลิก : https://bit.ly/3oU23brดาวน์โหลดผ่านระบบ iOS คลิก : https://apple.co/3GHsjfq  และนี่ก็คือตัวอย่าง E-Card ที่เราทำ ซึ่งสามารถใช้คำอวยพรเดิมที่มีให้ หรือเปลี่ยนข้อความเป็นคำอวยพรในสไตล์ของตัวเองได้เลย สำหรับการทำ E-Card ด้วยตัวเองก็ง่ายมาก เราขอชวนคุณมาร่วมทำไปด้วยกัน เพียง..1. คลิกเลือก E-card แบบรูปภาพหรือวิดีโอ2. ใช้คำอวยพรเดิมที่มีให้ หรือพิมพ์ข้อความใหม่ ความยาวไม่เกิน 30 ตัวอักษร ลงในช่องกรอกข้อความ3. คลิก เปลี่ยนข้อความ4. คลิกขวาเพื่อบันทึกรูปภาพพร้อมข้อความ สำหรับ PC หรือแตะที่รูปค้างไว้แล้วเลือก บันทึกรูปภาพ สำหรับโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต5. นำภาพหรือวิดีโอที่บันทึกไว้ ส่งผ่านช่องทางต่าง ๆ

⛅ Unseen 12 จุดชมหมอกเมืองไทย ⛅ อ่านเพิ่มเติม

หุบเหววังบาดาล ถ้ำธารน้ำลอด แลนด์มาร์กแห่งใหม่ของชุมพร

เวลานึกถึงแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดชุมพร เพื่อน ๆ น่าจะนึกถึงชายหาดสวย ๆ และกิจกรรมดำน้ำตามเกาะต่าง ๆ แต่นอกจากทะเลแล้ว ชุมพรก็ยังมีจุดชมวิวด้วยเช่นกัน อย่างดอยตาปังและเขาออง แต่วันนี้แอดจะพาไปชมความสวยงามของแลนด์มาร์กแห่งใหม่ นั่นคือ หุบเหววังบาดาล หรือ “ประตูสวรรค์แห่งชุมพร” ที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดที่คนรักทะเลหมอกไม่ควรพลาด รวมทั้งยังเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวจากแคมเปญ 25 UNSEEN New Series อีกด้วย แม้ว่าตอนนี้ หุบเหววังบาดาล ถ้ำธารน้ำลอด ยังคงปิดให้บริการเนื่องจากสถานการณ์โควิด 19 และกำลังปรับปรุงเส้นทางชมวิว แต่ถ้าที่นี่เปิดให้ท่องเที่ยวแล้ว แอดจะรีบมาอัพเดทข่าวให้เพื่อน ๆ ทราบอย่างแน่นอน หุบเหววังบาดาลตั้งอยู่ในพื้นที่ของสำนักสงฆ์ถ้ำธารน้ำลอด อำเภอสวี จังหวัดชุมพร เป็นหุบเขาสูง ด้านบนสามารถมองเห็นวิวของอำเภอสวี เห็นพระอาทิตย์ขึ้น และทะเลหมอกได้ จนได้รับฉายาว่า “ประตูสวรรค์แห่งชุมพร” ที่นี่สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยช่วงฤดูฝนและฤดูหนาวจะเห็นทะเลหมอกได้ชัดเจน  ขอบคุณรูปภาพจาก นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดชุมพร #ตามสบายรีสอร์ท การขึ้นไปยังจุดชมวิวด้านบน นักท่องเที่ยวต้องเดินขึ้นบันได ซึ่งเป็นบันไดที่ชาวบ้านร่วมแรงร่วมใจสร้างขึ้นมา ใช้เวลาในการสร้างหลายปี เพราะสร้างเฉพาะวันพระเท่านั้น บางจุดบันไดชันเกือบ 90 องศา ดังนั้นต้องเดินอย่างระมัดระวัง และเตรียมร่างกายมาให้พร้อม เพราะงานนี้มีหอบแน่นอน  ขอบคุณรูปภาพจาก ททท.สำนักงานชุมพร หลังจากขึ้นบันไดไปประมาณ 700 ขั้น จะพบกับลานองค์พระใหญ่ “พระพุทธมงคลคีรีศรีนาคราช” เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะมากที่สุด สามารถชมทะเลหมอกได้ตลอดทั้งปี วิวทะเลหมอกบริเวณลานองค์พระใหญ่ ด้านบนอากาศเย็นสบาย เดินขึ้นไปอีกประมาณ 200 เมตร จะพบหุบเขาที่มีช่องเขาเป็นรูลักษณะคล้ายประตู เป็นที่มาของชื่อ “ประตูสวรรค์แห่งชุมพร” ใครที่อยากชมความสวยงามของ “ประตูสวรรค์แห่งชุมพร” ควรมาตั้งแต่ 05.30-06.00 น. จะได้ไม่พลาดชมพระอาทิตย์ขึ้นอีกด้วย  ขอบคุณรูปภาพจาก นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดชุมพร #ตามสบายรีสอร์ท นอกจากจุดชมวิวบนเขาแล้ว ยังมีถ้ำธารน้ำลอด ซึ่งเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของสำนักสงฆ์ ภายในเป็นโถงยาวประมาณ 2 กิโลเมตร มีหินงอกหินย้อย มีธารน้ำไหลผ่าน สถานที่แห่งนี้ชาวบ้านเคยใช้ในการสัญจรข้ามระหว่างเทือกเขา เพราะปากถ้ำด้านหนึ่งอยู่ฝั่งตำบลเขาทะลุ อีกด้านอยู่เขตตำบลนาสัก  สำนักสงฆ์ถ้ำธารน้ำลอด “ประตูสวรรค์แห่งชุมพร” อ.สวี จ.ชุมพร  เปิดทุกวัน เวลา 05.30 – 18.00 น. https://goo.gl/maps/2qp4yYuQbiEdcjSY7

หุบเหววังบาดาล ถ้ำธารน้ำลอด แลนด์มาร์กแห่งใหม่ของชุมพร อ่านเพิ่มเติม

ชุมพร 2 วัน 1 คืน @ อ.ปะทิว

ทะเลที่แอดพาไปเที่ยวนี้คราวนี้อยู่ที่จังหวัดชุมพร แอดเลือกเดินทางด้วยเครื่องบิน ซึ่งสนามบินก็อยู่ที่ อ.ปะทิวนี่แหละ จากนั้นใช้บริการเช่ารถยนต์จากสนามบินไปท่าเรือ (ช่วงที่แอดไป มีเคาน์เตอร์ให้บริการอยู่ 2-3 เจ้า) ใช้เวลาเดินทางไปท่าเรือประมาณ 15 นาทีเท่านั้นเอง.แต่ถ้าไม่เดินทางด้วยเครื่องบิน เราก็สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ รถประจำทาง และรถไฟได้นะ.รถยนต์ จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางพุทธมณฑล นครปฐม-เพชรบุรี หรือ เส้นทางสายธนบุรี-ปากท่อ ผ่านจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ จนถึงสี่แยกปฐมพร จากนั้นแยกซ้ายเข้าตัวเมืองชุมพร.รถประจำทางมีทั้งรถโดยสารธรรมดาและรถโดยสารปรับอากาศของบริษัท ขนส่ง จำกัด และของเอกชน สายกรุงเทพฯ-ชุมพร ออกจากสถานีขนส่งสายใต้ ถนนบรมราชชนนี ทุกวัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง (แนะนำให้จองตั๋วออนไลน์ล่วงหน้า) สอบถามรายละเอียดเที่ยวรถได้ที่บริษัท ขนส่ง จำกัด โทร.1490 (เนื่องจากเที่ยวรถอาจมีการเปลี่ยนแปลงจากสถานการณ์โควิด-19).รถไฟ มีรถไฟออกจากสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ทั้งรถเร็วและรถด่วนไปจังหวัดชุมพรทุกวัน สอบถามรายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) โทร. 1690 วันที่ 1 1. เกาะร้านเป็ด-เกาะร้านไก่2. วัดแก้วประเสริฐ.วันที่ 2 3. เขาดินสอ4. บ้านไม้ชายคลอง โฮมสเตย์ วันที่ 1.เริ่มทริปกันที่เกาะร้านเป็ด-เกาะร้านไก่ .ซึ่งมีชื่อเสียงเรื่องการดำน้ำตื้นอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย เกาะร้านเป็ด-เกาะร้านไก่ เป็นเกาะที่อยู่ห่างกันนิดเดียว (นั่งเรือประมาณ 10 นาที) ทั้ง 2 เกาะมีระบบนิเวศใต้ทะเลที่จัดว่าสมบูรณ์มาก แต่ไม่มีที่พักนะ ใครอยากดำน้ำต้องจองแพ็กเกจทัวร์ จะมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก ให้ความรู้ เตรียมอาหาร อุปกรณ์ดำน้ำ รวมถึงดูแลความปลอดภัยให้ด้วย การเดินทางไปเกาะ ต้องนั่งเรือสปีดโบ๊ทจากท่าเรือบ้านปากคลอง ใช้เวลาประมาณ 40-60 นาทีแล้วแต่สภาพอากาศ (บางบริษัททัวร์อาจจะนัดจุดขึ้นเรืออื่น อย่าลืมสอบถามจุดขึ้นเรือให้ดี).ว่ากันว่า คนชิคต้องไปชมทุ่งดอกไม้ แต่ถ้าอยากชิคกว่า…จะรออะไร ลงไปชมทุ่งดอกไม้ทะเลหลากสีใต้น้ำกัน … Let’s Dive Right In!!!!  ตู้ม!!! ข้ามผิวน้ำปุ๊บ เหมือนข้ามประตูมิติมาที่โลกอีกใบเลยล่ะ ทุกอย่างสวยงามแบบไม่มีทางได้เห็นในชีวิตประจำวัน เพื่อน ๆ จะเห็นภาพลำแสงของแดดใต้น้ำ ภาพสีสันของสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล แม้แต่ฟองอากาศจากตัวเรา หรือสีเข้มอ่อนของน้ำทะเลรอบตัวก็ดูสวยไปหมด หากใครโชคดี อาจได้เจอยักษ์ใหญ่ใจดีลายจุด ฉลามวาฬตัวใหญ่ หรือบางวันก็อาจได้เจอกระเบนราหูที่ว่ายน้ำมาอวดโฉมทักทาย แต่อย่าไปแตะตัวเขานะ พึงระลึกไว้เสมอว่าเราอาจนำเชื้อโรคไปแพร่ให้สัตว์น้ำได้ทุกเวลา ดูแต่ตาแล้วเก็บไว้เป็นความทรงจำก็พอเนอะ แต่ถ้าไม่เจอ 2 เซเลปใต้ทะเลก็ไม่ต้องเสียใจ เพื่อน ๆ สามารถชมถ้ำลอดบริเวณเกาะร้านเป็ด หรือชมถ้ำใต้น้ำรูปหัวใจที่เกาะร้านไก่ที่สวยงามและสร้างความฟินได้ไม่แพ้กัน โลกใต้น้ำหลากสีของทั้งเกาะร้านเป็ด-เกาะร้านไก่ สวยงามน่าประทับใจชนิดกินกันไม่ลง อย่างที่บอกไปแล้วว่าที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นจุดดำน้ำตื้นที่สวยงามอันดับต้น ๆ แต่สำหรับเพื่อน ๆ ที่มีทักษะการดำน้ำแบบฟรีไดฟ์ แอดก็แนะนำให้ดำแบบฟรีไดฟ์นะ เพราะใต้ทะเลที่นี่สวยงามมากจริง ๆ.หลังจากดำน้ำเสร็จ (โดยทั่วไป จะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง) ก็ถึงเวลากิน!! มื้ออร่อยของเราคือ กินปูห้อยขาที่ธนาคารปูเกาะยอ ซึ่งใช้เวลานั่งเรือไปประมาณ 15-20 นาที กินปูห้อยขาที่ว่านี้ก็คือ มื้ออร่อยที่จัดมาบนโต๊ะกระจกบนกระชังกลางทะเล มองลงไปเห็นทะเลใส ๆ ข้างล่าง ส่วนตรงม้านั่งมีเจาะช่องบนพื้นให้ห้อยขาลงไปได้ กินปูสด ๆ ไป ชมวิวทะเลไป อร่อยเพิ่มขึ้นไม่รู้กี่เท่าทีเดียว.ปัจจุบัน บนเกาะยอ นอกจากจะเป็นจุดแวะกินปูห้อยขา ที่นี่ยังมีส่วนวิจัยค้นคว้า และเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ โดย สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง วิทยาเขตชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ รวมทั้งธนาคารปูเกาะยอของชาวบ้าน ที่ได้รับการสนับสนุนจาก สจล ที่ใช้แนวทางการอนุรักษ์ธรรมชาติมากกว่าเดิม ไม่จับปูม้าด้วยอวนลากทราย แถมส่งเสริมให้มีการปล่อยปูสู่ทะเล เพื่อที่ชาวบ้านจะมีปูมาขายตลอดทั้งปีอีกด้วย อาหารมาแล้ว ต้องรีบกินให้สมกับพลังงานที่เสียไป แอดบอกไว้เลยว่าปูสดและตัวใหญ่มาก ถูกใจสุด ๆ หลังจากกินอิ่มแล้ว สามารถเดินเที่ยวชมวิวรอบเกาะยอเพื่อย่อยอาหารและถ่ายรูปสวย ๆ ได้ * ส่วนใหญ่ โปรแกรมดำน้ำจะเริ่มเวลาประมาณ 8.00-14.00 น. หากเพื่อน ๆ มาจาก อ.เมือง จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ในการเดินทางมาท่าเรือ อย่าลืมเผื่อเวลากันด้วยนะ ** หากเป็นทริปพาผู้ใหญ่มาเที่ยว ไม่สะดวกดำน้ำ สามารถซื้อแพ็กเกจทัวร์ไปกินปูห้อยขาที่เกาะยอ และชมธนาคารปูได้ โปรแกรมนี้ขึ้นเรือจากชายหาดบ้านเกาะเตียบมายังเกาะยอได้โดยตรง *** สำหรับเพื่อน ๆ สายดำน้ำที่ใช้ครีมกันแดด แอดอยากขอให้ลองดูฉลากกันสักนิดว่าครีมกันแดดที่ใช้มีส่วนผสมของ Oxybenzone ไหม ถ้ามี ขอแนะนำให้หลีกเลี่ยง เพราะสารตัวนี้สามารถละลายในน้ำทะเล และมีผลทำให้แนวปะการังเสื่อมโทรม ขอแนะนำให้เลือกใช้ครีมกันแดดที่ปลอดภัยต่อแนวปะการัง (Reef Safe) หรือครีมกันแดดที่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ (Biodegradable) ซึ่งปัจจุบันมีอยู่หลายแบรนด์ให้เลือกใช้ **** แอดโทรสอบถามข้อมูลเบื้องต้นของทริปกับทาง ททท.สำนักงานชุมพร-ระนอง ได้คำแนะนำดี ๆ เยอะเลย หากเพื่อน ๆ สนใจ ติดต่อไปโลดดดด.ที่ตั้ง : ตำบลปากคลอง, อำเภอปะทิว,จังหวัดชุมพร 86210โทร. : 0 7750 2775 (ททท.สำนักงานชุมพร-ระนอง) วัดแก้วประเสริฐ .หลังจากดำน้ำแล้ว ยังเหลือเวลาอยู่ แอดตัดสินใจไปเที่ยวต่อที่วัด ….ใช่แล้ว เพื่อน ๆ อ่านไม่ผิดหรอก ไปวัด!!.วัดที่ว่านี้ก็คือ “วัดแก้วประเสริฐ” ซึ่งอยู่ห่างจากท่าเรือบ้านปากคลองประมาณ 30 นาที เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างไทย-จีน ตั้งอยู่บนเนินเขา สามารถมองเห็นอ่าวทุ่งมหา แหลมสน และหมู่เกาะต่าง ๆ ในทะเลชุมพร เช่น เกาะเวียง เกาะพระ และเกาะรังนก ที่อยู่เบื้องหน้าได้อย่างจุใจ วัดแก้วประเสริฐเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นขนาดใหญ่ คือ “พระพุทธมหารัตนมณีเศวตพิสุทธิ์” หรือ “หลวงพ่อองค์ขาว” พระพิฆเนศ รูปหล่อกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และไฮไลท์สำคัญของวัดก็คือ

ชุมพร 2 วัน 1 คืน @ อ.ปะทิว อ่านเพิ่มเติม

5 แหล่งดำน้ำดูปะการังน้ำตื้น

คิดถึงทะเลกันไหม… แอดนั้นคิดถึงทะเลที่สุด คิดถึงน้ำทะเลใสๆ คิดถึงความสวยงามของแนวปะการัง คิดถึงฝูงปลาตัวเล็กตัวน้อยที่ว่ายล้อไปกับดอกไม้ทะเล ถ้าเพื่อน ๆ คิดถึงทะเล คิดถึงการดำน้ำตื้นเหมือนกัน แอดมีลิสต์ 5 แหล่งดำน้ำดูปะการังน้ำตื้นมาฝาก 1.อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์.หากพูดถึงปะการัง การดำน้ำตื้น และโลกใต้ทะเลที่สวยงามอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย ต้องยกให้ “อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์” เป็นหนึ่งในลิสต์ เราสามารถไปเที่ยวแบบ One day trip เพื่อดำน้ำดูปะการังได้ แต่หากใครอยากใช้เวลาชิลล์ ๆ แบบไม่รีบร้อน ก็ค้างคืนได้ค่ะ บนอุทยานฯ มีศูนย์บริการสำหรับนักท่องเที่ยวและบ้านพัก.นักท่องเที่ยวขึ้นเรือได้ที่ท่าเรือคุระบุรี ใช้ระยะเวลาประมาณ 1.15 ชั่วโมง.เดือนน่าเที่ยว : เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายน.ฤดูการท่องเที่ยวปิดเตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน – 15 พฤษภาคม ของทุกปี.อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงาโทร. 0 7647 2145 2.อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน.เกาะสิมิลันหรือเกาะแปด เป็นเกาะขนาดใหญ่ที่สุดของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ขึ้นชื่อว่า มีน้ำทะเลที่ใสราวกระจกและหาดทรายขาวละเอียดที่สุดของเมืองไทย.สายดำน้ำห้ามพลาด เพราะที่นี่นับเป็นสวรรค์ของนักดำน้ำอีกแห่งเลยทีเดียว เพื่อน ๆ จะได้พบกับฝูงปลาหลากสีแวะเวียนว่ายมาทักทาย ปะการังที่สวยงาม และสัตวน้ำนานาชนิด เป็นหมู่เกาะที่อุดมสมบูรณ์มาก ๆ เลยทีเดียว.คำว่า “สิมิลัน” เป็นภาษายาวี แปลว่า เก้า ซึ่งหมายถึงเกาะทั้งเก้า ประกอบด้วย เกาะหูยง เกาะปายัง เกาะปาหยัน เกาะเมียง เกาะห้า เกาะปายู เกาะหัวกะโหลก(เกาะบอน) เกาะสิมิลัน(เกาะแปด) และเกาะบางู.นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นเรือได้ที่ท่าเรือทับละมุ ใช้ระยะเวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง.เดือนน่าเที่ยว : ช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนพฤษภาคมในช่วง 1 พฤษภาคม – 31 ตุลาคมของทุกปี หมู่เกาะสิมิลันจะปิดเกาะเพื่อฟื้นฟูธรรมชาติ.บ้านทับละมุ ถนนเพชรเกษม ตำบลลำแก่น อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงาอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน โทร. 0 7642 1365 3.หมู่เกาะง่าม จังหวัดชุมพร.หมู่เกาะง่ามอยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร เป็นจุดที่สามารถดำได้ทั้งน้ำลึกและน้ำตื้น มีธรรมชาติที่สมบูรณ์มาก ทั้งปะการัง ดอกไม้ทะเล และฝูงปลามากมาย จุดไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาดำน้ำกันคือที่เกาะง่ามน้อย เดือนน่าเที่ยว : เดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม ซึ่งในช่วงนี้หากโชคดีอาจได้พบกับฉลามวาฬด้วยนะ.ตำบลหาดทรายรี อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพรอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร โทร. 0 7755 8144 4.เกาะหวาย จังหวัดตราด.ทะเลภาคตะวันออกก็สวยไม่แพ้ภาคใต้นะคะ เกาะหวาย ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง เป็นเกาะที่มีเเนวปะการังน้ำตื้นให้ดำดูได้อย่างเพลิดเพลิน และสวยงามไม่แพ้ที่ไหน ๆ รวมถึงมีสัตว์น้ำทะเลหายากต่าง ๆ ซึ่งไฮไลท์ที่ห้ามพลาด ก็คือปะการังสีน้ำเงินที่หายากนั่นเอง.สามารถขึ้นเรือได้ที่ท่าเทียบเรือบ้านบางเบ้า ใช้ระยะเวลาประมาณ 40 นาที.เดือนน่าเที่ยว : ช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงปลายเดือนเมษายน.ตำบลเกาะช้างใต้ อำเภอเกาะช้าง จังหวัดตราดททท. สำนักงานตราด โทร. 0 3959 7259-60 5.เกาะแสมสาร จังหวัดชลบุรี.หากจะบอกว่า ทะเลสวย น้ำใส ปะการังดีก็ต้องไม่พลาดที่นี่ แถมใกล้กรุงเทพฯ ขับรถประมาณ 2 ชั่วโมงเราก็ได้ดำน้ำดูปะการังแล้ว.เกาะแสมสารอยู่ในการกำกับดูแลของพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติเกาะและทะเลไทย สามารถเที่ยวได้แบบ One day trip เท่านั้นไม่สามารถพักค้างได้ แต่แน่นอนว่าความอุดมสมบูรณ์ใต้ท้องทะเลก็สวยไม่แพ้ภาคใต้เลย นับว่าเป็นอีกแห่งที่เที่ยวงบหลักร้อย แต่ได้วิวหลักล้าน.สามารถขึ้นเรือที่ท่าเรือเขาหมาจอ ซื้อตั๋วได้ที่อาคารต้อนรับพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย (ไม่มีบริการจองตั๋วล่วงหน้า) ใช้เวลาเดินทางจากฝั่งไปยังเกาะแสมสารประมาณ 30 นาที.เดือนน่าเที่ยว : เที่ยวได้ทั้งปี.ตำบลช่องแสมสาร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรีโทร. 038 432 475, 038 432 473

5 แหล่งดำน้ำดูปะการังน้ำตื้น อ่านเพิ่มเติม

ศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ จ.ชุมพร

ศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ตั้งอยู่บริเวณหาดทรายรี สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานของพลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ องค์บิดาของทหารเรือไทย หรือที่ผู้คนเรียกกันว่า “เสด็จเตี่ย” ผู้ซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาของเหล่าทหารเรือ รวมทั้งประชาชนทั่วไป.อนุสรณ์สถานประกอบด้วยศาลหลังเก่าอยู่ทางด้านล่าง ใกล้กับเรือรบหลวงชุมพร ซึ่งเป็นที่ตั้งของพระตำหนักที่พระองค์สิ้นพระชนม์ และศาลหลังใหม่ที่สร้างขึ้นบนเนินเขา โดยจำลองให้เป็นเรือรบหลวงพระร่วงและมีศาลตั้งอยู่บนเรือ บริเวณนี้เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของหาดทรายรีที่เป็นเวิ้งสวยงาม พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวกับเจ้าจอมมารดาโหมด ประสูติเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2423 เป็นเจ้านายพระองค์แรกที่ได้เสด็จไปทรงศึกษาวิชาการทหารเรือยังต่างประเทศ โดยหลังจากสำเร็จการศึกษาจากประเทศอังกฤษแล้ว ได้ทรงกลับมาวางรากฐานและพัฒนาปรับปรุงกิจการทหารเรือสยามให้เจริญก้าวหน้า.ในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวนั้น ได้ทรงศึกษาวิชาแพทย์แผนโบราณอย่างจริงจัง จนสามารถรักษาโรคได้ จึงทรงรับรักษาผู้ป่วยในนาม “หมอพร” โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ.ภายหลังได้ทรงกลับเข้ารับราชการอีกครั้ง และทรงเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานเรื่อยมา จนได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงทหารเรือ แต่หลังจากกราบบังคมลาเพื่อมาประทับรักษาพระองค์ ณ หาดทรายรี พระองค์ก็ประชวรด้วยพระโรคไข้หวัดใหญ่และสิ้นพระชนม์ที่พระตำหนักบริเวณหาดทรายรี เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2466  สำหรับวันนี้แอดจะพาเพื่อน ๆ ไปชมศาลหลังใหม่กัน ซึ่งศาลหลังนี้ดูเผิน ๆ ก็เหมือนตั้งอยู่บนพื้นดินธรรมดา แต่ที่จริงแล้วบริเวณนี้คือเรือรบหลวงพระร่วงจำลอง โดยหัวเรือจะอยู่ด้านหน้าของศาล มีการสร้างปืนใหญ่และเสากระโดงเรือไว้ด้วย.ซึ่งจากสถานการณ์ไวรัสโควิด 19 ในปัจจุบัน ก่อนที่นักท่องเที่ยวจะเข้ามาสักการะภายในศาลก็ต้องผ่านการลงทะเบียนและตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายที่เต็นท์ด้านหน้าก่อน  หลังจากผ่านการตรวจเรียบร้อยแล้ว เราก็เข้ามาด้านในกัน โดยก่อนที่จะเข้าไปสักการะพระรูปของกรมหลวงชุมพรฯ ด้านในศาล ทางด้านหน้าก็จะเป็นจุดให้เรานำเครื่องสักการะมาถวาย ซึ่งมีทั้งดอกกุหลาบแดง พวงมาลัยดอกมะลิ หมากพลู และยังสามารถจุดประทัดถวายได้ด้วย ซึ่งตอนแอดไป ก็ได้ยินเสียงจุดประทัดแก้บนอยู่ตลอดเวลาเลย  ซึ่งช่วงนี้ทางศาลฯ ไม่อนุญาตให้เรานำดอกกุหลาบมาสักการะเอง เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการสัมผัส โดยนักท่องเที่ยวสามารถซื้อพานกุหลาบที่ทางศาลฯ จำหน่ายมาถวายได้ ราคาพานละ 50 บาท  บริเวณหัวเรือซึ่งหันหน้าออกสู่ทะเล เป็นจุดที่เราสามารถชมทิวทัศน์ของหาดทรายรีได้อย่างสวยงาม ถึงแม้แดดจะแรงไปนิด แต่ก็มีลมเย็น ๆ ช่วยคลายร้อนอยู่ตลอดเวลาเลย . ศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หาดทรายรี ตำบลหาดทรายรี อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพรเปิดทุกวัน เวลา 06.30-19.00 น.

ศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ จ.ชุมพร อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top