เพชรบุรี

เพชรบุรี

✨เที่ยวเมืองเพชร ชม 7 วัดงาม✨

วันนี้ แอดจะพาทุกท่านไปเที่ยวชมวัดงามๆ ในจังหวัดเพชรบุรี ที่ว่างามเพราะศิลปะปูนปั้นฝีมือสกุลช่างเมืองเพชร ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ลวดลายมีความพลิ้วไหว แฝงด้วยปรัชญาและแนวความคิดที่เกี่ยวกับพุทธศาสนาของช่างปั้น รวมทั้งมีเรื่องราวในเชิงประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจมากมายเลยครับ ว่ากันว่าเมืองเพชรบุรีได้รับการขนานนามว่าเป็นอยุธยาที่มีชีวิต เพราะวัดส่วนใหญ่สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา และมีความเรืองรองของงานศิลปกรรมหลายแขนงที่มีศูนย์รวมอยู่ในวัดหลายๆ วัด ตามที่แอดจะพาไปชม 7 วัดงามในเมืองเพชรบุรี ไปชมกันเลยครับ วัดมหาธาตุวรวิหาร  เริ่มต้นชมวัดแรกที่วัดมหาธาตุวรวิหาร ภาพที่เห็นเด่นชัดถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของวัดนี้ คือ พระปรางค์ 5 ยอดสีขาว มีอายุราว 1,000 กว่าปี ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ จุดที่น่าสนใจก็คือ พระวิหารหลวง ที่สร้างในสมัยอยุธยาตอนปลาย มีหน้าบันที่มีลวดลายปูนปั้นงดงามสะดุดตามาก เมื่อเข้าไปในพระวิหารหลวง จะเห็นภาพจิตรกรรมฝาผนังที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และภาพชุมนุมเทวดาที่มีลีลาอ่อนช้อยงดงาม ข้อมูล วัดมหาธาตุวรวิหาร เพชรบุรี  : 3/1 ถนนโพธิ์การ้อง ตำบลคลองกระแซง อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี  : https://goo.gl/maps/yGnpAKwpVmPqqpbp8  : เปิดให้เข้าชมเวลา 06.00-17.00 น. วัดพลับพลาชัย  เดินจากวัดมหาธาตุไปนิดเดียวก็จะถึงวัดพลับพลาชัย วัดแห่งนี้ เป็นแหล่งรวมงานศิลปะในสกุลช่างเมืองเพชร ความโดดเด่นอยู่ที่ศิลปะปูนปั้นที่ยังคงมีความสมบูรณ์อยู่มาก โดยเฉพาะที่หน้าบัน จะเห็นปูนปั้นลายก้านขด รูปสัตว์ในป่าหิมพานต์ ที่ลีลาพลิ้วไหวเหมือนจะกระโจนออกมาจากหน้าบันให้ได้ ส่วนภายในพระวิหาร ยังจัดเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงหนังใหญ่ที่มีอายุกว่า 100 ปี ข้อมูล วัดพลับพลาชัย เพชรบุรี : 106 ถนนดำเนินเกษม ตำบลคลองกระแซง อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี : https://goo.gl/maps/Y8fi1hmTqpkwE6919 วัดเกาะแก้วสุทธาราม  คนทั่วไปเรียกวัดเกาะแก้วสุทธารามสั้นๆ ว่าวัดเกาะ เพราะเดิมทีมีสายน้ำไหลผ่านรอบด้านทำให้อาณาเขตของวัดมีสภาพเป็นเกาะ สิ่งที่เห็นสะดุดตาคือ พระอุโบสถเก่าแก่ที่มีสถาปัตยกรรมในสมัยอยุธยาชัดเจน คือ มีประตูด้านละ 2 ช่อง ไม่มีการเจาะช่องหน้าต่าง โดยสถาปัตยกรรมของโบสถ์จะมีลักษณะคล้ายเรือสำเภา หรือแบบตกท้องช้าง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของโบสถ์ของวัดที่สร้างในสมัยอยุธยาที่หาชมได้ยาก เมื่อเข้าไปในโบสถ์ มีภาพจิตรกรรมฝาผนังอายุกว่า 200 ปี เขียนด้วยสีฝุ่นผสมกาวที่จัดวางภาพในแนวตั้ง ดูแปลกตา ส่วนใหญ่เป็นเรื่องราวพุทธประวัติ และวิถีชีวิตของคนในยุคนั้น แอดขอแนะนำว่าอย่าใช้มือสัมผัสภาพจิตรกรรมนะครับ กลัวภาพจะลบเลือนไปมากกว่านี้ เสียดายครับ ข้อมูล วัดเกาะแก้วสุทธาราม : ตำบลท่าราบ อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี : 032 425 102https://goo.gl/maps/a2vTq4w8MKjUD6QY8 : เปิดให้เข้าชมเวลา 08.00-17.00 น. วัดพระพุทธไสยาสน์ (วัดพระนอน) วัดพระพุทธไสยาสน์ แห่งนี้ สันนิษฐานว่ามีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา แต่ครั้งเมื่อเสียกรุงแล้ว วัดนี้ถูกปล่อยทิ้งร้าง และได้รับการบูรณะในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 และรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 พระนอนที่วัดนี้ เป็นพระนอนที่มีความยาวเป็นอันดับที่ 4 ของประเทศไทย คือ มีความยาว 43 เมตร อายุประมาณ 400 กว่าปี สิ่งที่แตกต่างจากพระนอนองค์อื่นจะอยู่ที่เศียรขององค์พระ จะมีหมอนรูปดอกบัวรองพระเศียรอยู่ วันนี้ได้เห็นองค์จริงแล้วเป็นบุญตามากครับ ข้อมูลวัดพระพุทธไสยาสน์ (วัดพระนอน)  : ถนนคีรีรัฐยา ตำบลคลองกระแชง อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี  : 032 471 005-6  : https://goo.gl/maps/VaFXGMhFoZnwJnLa6  : เปิดให้เข้าชมเวลา 07.00 – 17.00 น. วัดสระบัว วัดสระบัวเป็นวัดที่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลาย พระอุโบสถมีขนาดเล็กหลังคาซ้อน 2 ชั้น ฐานโค้งแบบท้องเรือสำเภา จากสภาพที่เห็น วัดยังสมบูรณ์อยู่มาก โดยเฉพาะลวดลายปูนปั้นที่เห็นได้จากทั้งหน้าบัน หรือฐานเสมารอบโบสถ์เรียกว่า “ใบเสมานั่งแท่น” ลักษณะทำเป็นฐานเสมาซ้อนกัน 2 ชั้น มีบัวรองรับใบเสมา ที่ฐานชั้นต่างๆ จะมีปูนปั้นเป็นรูปยักษ์ ครุฑ นรสิงห์แบกใบเสมาอยู่ในแต่ละชั้น แอดอยากให้มาชมวัดกันนะครับ เพราะศิลปะปูนปั้นที่นี่ ถือว่าเป็นศิลปะชั้นเลิศ ถึงกับมีคนกล่าวไว้ว่าหากต้องการชมงานปูนปั้นสมัยอยุธยาต้องมาชมที่วัดสระบัวเลยทีเดียว ข้อมูล วัดสระบัว  : 3/1 ถนน โพธิ์การ้อง ตำบล คลองกระแซง อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี 76000  : 089 885 0210  : https://goo.gl/maps/Q78M8MbrWcUv4bu2A วัดใหญ่สุวรรณารามวรวิหาร วัดนี้ใหญ่โตสมชื่อ ด้วยมีเนื้อที่กว้างขวางมาก พระอุโบสถจะเป็นสถาปัตยกรรมทรงไทยสมัยอยุธยา มีหน้าบันประดับกระจกสี ประกอบลวดลายปูนปั้นที่งดงามตามสไตล์ศิลปะสกุลช่างเมืองเพชร เมื่อเดินสำรวจรอบโบสถ์จะเห็นฐานเสมามีดอกบัวรองรับ แอดสังเกตว่า หลายๆ วัดในเพชรบุรี เสมารอบโบสถ์จะเป็นเสมาคู่ หรือเสมาซ้อนกัน สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เสมาคู่จะเป็นวัดหลวง เช่น วัดพระศรีรัตนศาสดาราม วัดพระเชตุพน ส่วนเสมาเดี่ยวหมายถึงวัดราษฎร์ เดินต่อไปอีกไม่กี่ก้าว จะพบพระตำหนักไม้สักหลังงาม เดิมเป็นพระตำหนักในเขตพระราชฐานชั้นในพระราชวังกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระเจ้าเสือทรงรื้อมาถวายสมเด็จเจ้าแตงโม ซึ่งทรงเป็นพระสังฆราชชาวเพชรบุรีในขณะนั้น เพื่อให้ใช้เป็นศาลาการเปรียญ ข้อมูล วัดใหญ่สุวรรณาราม  : ถนนพงษ์สุริยา ตำบลท่าราบ อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี 76000  : 083 566 0149  : https://goo.gl/maps/jzkgA6ttdA8FCZ4b8  : เปิดให้เข้าชมเวลา 08.00-18.00 น.  วัดกำแพงแลง เดินทอดน่องชมวัดในเมืองเพชรมา 6 วัดแล้ว ล้วนเป็นวัดที่สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยอยุธยาทั้งนั้น แอดจะพาไปชมวัดเก่าแก่อีกแห่งที่ถือเป็นวัดแห่งเดียวของจังหวัดเพชรบุรีที่มีโบราณสถานที่สร้างในยุคขอมเรืองอำนาจ สมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 นั่นคือ วัดกำแพงแลง สันนิษฐานว่าเดิมคงเป็นเทวสถานที่สร้างขึ้นในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เมื่อลัทธิพราหมณ์เสื่อมถอยจึงกลายเป็นวัดในพุทธศาสนา วัดนี้ได้รับการบูรณะในสมัยกรุงศรีอยุธยา แต่ยังทิ้งร่องรอยอารยธรรมขอมมาจนถึงทุกวันนี้ ข้อมูล วัดกำแพงแลง  : ถนนพระทรง ตำบลท่าราบ อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี  : https://goo.gl/maps/kBrBSzpjQBuS2hop7  : เปิดให้เข้าชมเวลา […]

✨เที่ยวเมืองเพชร ชม 7 วัดงาม✨ อ่านเพิ่มเติม

เทศกาลชมผีเสื้อ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน 🦋

ไม่ได้ชวนไปดูผีเสื้อที่ห้องเราหรอกนะ แต่จะชวนไปดูที่บ้านกร่างแคมป์ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ช่วงนี้เป็นโค้งสุดท้ายแล้วด้วย เพราะช่วงเทศกาลดูผีเสื้อของที่นี่ จะเริ่มในช่วงเดือนมีนาคมไปจนถึงต้นเดือนมิถุนายน โดยจะมีผีเสื้อมากกว่า 200 สายพันธุ์ ยิ่งในวันที่มีแดดก็จะมีผีเสื้อมากเป็นพิเศษ นอกจากน้ำหวานในเกสรดอกไม้แล้ว เพื่อน ๆ เคยสงสัยหรือไม่ว่าผีเสื้อกินอะไรได้อีก คำตอบก็คือ น้องจะกินเกลือแร่บริเวณดินที่มีความชื้น เช่นใกล้ลำธาร นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เรามักจะเห็นผีเสื้อเกาะอยู่ตามพื้นดินอยู่บ่อย ๆ หรือแม้แต่บนร่างกายเราที่มีเหงื่อ ผีเสื้อก็อาจจะมาเกาะเพื่อกินเกลือแร่จากเหงื่อเราก็ได้เช่นกัน สำหรับเพื่อน ๆ ที่ตัดสินใจแล้วว่าจะไปดูผีเสื้อ ก็อย่าลืมนะคะ โปรดขับช้า ๆ ระวังเหยียบผีเสื้อ ! อัตราค่าเข้าอุทยานฯ ชาวไทย : ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 40 บาท ชาวต่างประเทศ: ผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 200 บาท **อัพเดตค่าบริการตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป** ชาวไทย ผู้ใหญ่ 60 บาท เด็ก 30 บาท ชาวต่างประเทศ ผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 150 บาท อัตราค่าบริการสำหรับยานพาหนะ รถจักรยานยนต์ 20 บาท รถยนต์ 4 ล้อ 30 บาท สอบถามเพิ่มเติม โทร : 032 772 311 : https://goo.gl/maps/QQNb5DoxGV1dp7AF6

เทศกาลชมผีเสื้อ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน 🦋 อ่านเพิ่มเติม

10 ที่เที่ยวเพชรบุรี ดีต่อใจ 💛

สวัสดีแบบตะโกนทุกคน วันนี้แอดมินมีที่เที่ยวใกล้กรุงเทพ มานำเสนอให้เพื่อน ๆ อีกเเล้ว นั่นก็คือ จังหวัดเพชรบุรีนั่นเอง จังหวัดนี้เขาไม่ได้มีดีแค่ทะเลนะ จะบอกว่ามีที่เที่ยวที่ทำคอนเทนท์เยอะมาก อาหารก็อร่อย คาเฟ่ก็น่ารัก ถ้าไม่เชื่อ ก็ตามแอดมินมาได้เลย เริ่ม! จุดชมวิวบางเเก้ว  จุดชมวิวสุดน่ารัก สุดเก๋ วิวทะเลแบบ 180 องศา มีประติมากรรมปูนปั้นที่เหลือทิ้งไว้จากงานเกลือหวานเป็นพร็อบให้ถ่ายรูปท่ามกลางทุ่งหญ้า ตัดกับฉากหลังที่เป็นท้องฟ้าสีคราม บอกเลยว่าที่สุด พิกัด: https://goo.gl/maps/nRqckXgYWRP8tG2L7 สวนตาลลุงถนอม  แหล่งเรียนรู้การปลูกต้นตาล พร้อมทั้งการแปรรูปเพื่อนำไปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ มีมุมถ่ายรูปเป็นดงตาลสวย ๆ หรือจะแอบงีบบนเปลก็ได้นะ ด้านหน้ามีคาเฟ่น่ารัก ๆ ซึ่งมีเมนูซิกเนอเจอร์ก็คือ กาแฟน้ำตาลโตนด ใครมาสวนคุณลุง ต้องลองมาชิมกันนะ พิกัด: https://goo.gl/maps/XpqfwX6DaifDU5Am9 จุดชมวิวบางเเก้ว จุดชมวิวสุดน่ารัก สุดเก๋ วิวทะเลแบบ 180 องศา มีประติมากรรมปูนปั้นที่เหลือทิ้งไว้จากงานเกลือหวานเป็นพร็อบให้ถ่ายรูป ท่ามกลางทุ่งหญ้า ตัดกับฉากหลังที่เป็นท้องฟ้าสีคราม บอกเลยว่าที่สุด พิกัด: https://goo.gl/maps/nRqckXgYWRP8tG2L7 ตลาดน้ำกวางโจว ตลาดน้ำกลางป่าเเละน้ำตก ตั้งอยู่ที่น้ำตกกวางโจว มีให้บริการอาหารถิ่นเเละเครื่องดื่มที่หลากหลายอีกทั้งราคาก็ยังถูกมากด้วย เมนูเด็ดก็คือ ผัดไทมอญ พิซซ่าเตาถ่านและส้มตำ 1 เมตร บรรยากาศร่มรื่นมีแพให้นั่งฟรีสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชม ค่าเข้าชมเพียงคนละ 25 บาทเท่านั้น ดี เธอต้องมา พิกัด: https://g.page/kwangchowwaterfall?share นาเกลือสีชมพู  ตั้งอยู่ที่บ้านร่องใหญ่ มีนาเกลืออยู่กระจัดกระจายเต็มไปหมดที่เรียกว่านาเกลือสีชมพู เพราะเราจะได้เห็นสีของนาเกลือที่สะท้อนกับแสงแดดจัดๆเป็นสีชมพู ซึ่งเกิดจากการทำปฏิกิริยาระหว่างเกลือและน้ำทะเล ห้ามพลาดชมเลยล่ะ พิกัด: https://goo.gl/maps/6N7CZ9h44tvzHv3UA วัดนอกปากทะเล  วัดสุดเก๋ริมทะเลเพชรบุรี ที่มีการออกแบบพระอุโบสถเป็นรูปเรือใบ ภายในมีภาพเขียนที่สวยงามมาก และยังมีโบสถ์โบราณ อายุเก่าแก่กว่า 100 ปี ที่เรียกว่าโบสถ์มหาอุตม์ สร้างด้วยไม้สักทั้งหลังอีกด้วย พิกัด: https://goo.gl/maps/iMuXBUYfRS3mw4EPA จุดชมวิวดงตาลและทุ่งนา มาเพชรบุรี ไม่ได้มาดูพระอาทิตย์ตกดินกับวิวต้นตาลถือว่ามาไม่ถึงนะ ขอบอกเลยว่าบรรยากาศโรแมนติกมาก ๆ หวานฉ่ำ ยิ่งถ้าไปช่วงอากาศเย็น ๆ จะดีมากอีกหนึ่งจุดเช็คอินที่ห้ามพลาดเลยนะจะบอกให้ พิกัด: https://goo.gl/maps/RiXdJoTeQRKY7T259 บ่อน้ำพุร้อนหนองหญ้าปล้อง เป็นน้ำพุร้อนธรรมชาติที่ผุดขึ้นมาในป่า สามารถเดินขึ้นไปชมบ่อน้ำพุร้อนที่อยู่ด้านบน และแช่เท้าผ่อนคลายได้ ค่าบริการเพียง 20 บาทเท่านั้น หรือจะใช้บริการอาบน้ำร้อนได้ที่ด้านล่าง มีห้องอาบน้ำส่วนตัวให้บริการด้วย พิกัด: https://goo.gl/maps/xqJfEKZYDygMTu8F7 ข้าวต้มเครื่อง ข้าวแห้ง  ร้านข้าวต้มในดวงใจเลย อร่อยมาก ไม่ได้เว่อนะ ทางร้านมีทั้งข้าวต้มทรงเครื่องเเละข้าวต้มแห้ง ที่เสิร์ฟพร้อมน้ำซุปร้อน ๆ ท็อปปิ้งก็มีให้เลือกหลากหลายมาก ทั้งหมู หมึก กุ้ง ปลา ไก่ คือดี ใครมาเที่ยวเพชรต้องเเวะมาให้ได้เลยนะ ร้านเปิดเวลา 06.00-09.00 และ 16.00-21.00 น. พิกัด: https://goo.gl/maps/G9iJcnZQQPg3utdS6 จันทร์จ้าว Cafe & Restaurant คาเฟ่สุดมินิมอลริมหาดเจ้าสำราญ ตกแต่งด้วยโทนสีขาว คลีน ๆ บริเวณกลางร้านมีดวงจันทร์จำลองขนาดใหญ่ไว้ให้เพื่อน ๆ ได้ถ่ายรูปเล่น ทางร้านมีให้บริการอาหารและเครื่องดื่ม จะบอกว่าพิซซ่าคือหอมมากและเมนูจันทร์จ้าว คอฟฟี่เกรน อร่อยมาก เมนูนี้ให้เต็ม 10 10 10 พิกัด: https://goo.gl/maps/fYyhFDXx1CXXECii9 ดาด-ฟ้า โฮม แอนด์ คาเฟ่  คาเฟ่ใจกลางเมืองเพชรบุรี ตั้งอยู่บริเวณถนนเพชรเกษม จุดเด่นของที่นี่คือเราจะได้ดื่มกาแฟ พร้อมชมวิวเขาวังและเมืองเพชรบุรี อีกทั้งยังมีให้บริการห้องพักอีกด้วย พิกัด: https://goo.gl/maps/Lo6HmkUEWH6Ha4Cb6

10 ที่เที่ยวเพชรบุรี ดีต่อใจ 💛 อ่านเพิ่มเติม

🐋 วาฬบรูด้า พี่ใหญ่แห่งท้องทะเลไทย 🐋

วาฬบรูด้า สัตว์ใหญ่แห่งท้องทะเลที่เรามักเรียกติดปากว่า ปลาวาฬ แท้จริงแล้วเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่เคยอาศัยอยู่บนบกและมีวิวัฒนการจนสามารถอาศัยอยู่ในท้องทะเลได้ วาฬบรูด้าเป็นวาฬที่ไม่มีฟัน อาศัยและหากินอยู่ใกล้ชายฝั่ง รูปร่างเพียวยาวกว่า 15 เมตร ตัวสีเทาเข้มออกดำอมน้ำเงิน มักจะกินปลาเล็กจำนวนมากเป็นอาหาร วาฬบรูด้ากระจายตัวอาศัยอยู่ทั่วโลกรวมทั้งน่านน้ำอ่าวไทย โดยมักจะมาเผยโฉมอันมหึมาให้เราได้ชมเป็นระยะ ๆ จากข้อมูลของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งระบุว่า ช่วงเวลาที่พบบ่อยคือช่วงเดือนเมษายนจนถึงกันยายนของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีปลากะตักและกุ้งเคยอุดมสมบูรณ์ และเป็นอาหารมื้อใหญ่ของวาฬบรูด้านั่นเอง ช่วงที่ไม่เหมาะจะออกไปชมวาฬบรูด้ากลางทะเลก็คือช่วงมรสุม ดังนั้น หากเพื่อน ๆ อยากไปชม แนะนำให้โทรสอบถามกับศูนย์บริการนักท่องเที่ยวและศูนย์นำเที่ยวชมวาฬบรูด้าก่อน พิกัดจุดล่องเรือทะเลอ่าวไทยชมวาฬบรูด้า  ปากแม่น้ำบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา โทร. 081 488 8618 คลองประมง จังหวัดสมุทรสาคร โทร. 098 589 2550 (ร้านครัวบ้านประมง), 098 7954563 (ร้านเจ๋ง ครัวชายทะเล) บ้านบางตะบูน จังหวัดเพชรบุรี โทร. 032 581 233, 089 796 5506, 082 499 9993 (บางตะบูนเบย์) ชมรมวาฬบรูด้าแหลมผักเบี้ย จังหวัดเพชรบุรี โทร. 081 865 4939

🐋 วาฬบรูด้า พี่ใหญ่แห่งท้องทะเลไทย 🐋 อ่านเพิ่มเติม

ชมผีเสื้อ ณ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน🦋

ผีเสื้อมายึดบ้านกร่างแล้วววววว 🦋CF ชุดสวยแล้วมาถ่ายรูปกันได้เลย 📸 ฤดูกาลชมผีเสื้อ 1 ปีมีครั้งเดียวเท่านั้นนนน! ✨ ผีเสื้อตอนนี้ปังมาก ต้องรีบมาแล้ว! เรียกว่าช่วงนี้เป็นเทศกาลชมผีเสื้อเลยทีเดียว เพราะช่วงเดือนมีนาคม – เดือนพฤษภาคมของทุกปีจะมีเจ้าผีเสื้อตัวน้อยมาโบยบินอยู่ในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน บริเวณบ้านกร่างแคมป์และเขาพะเนินทุ่งนับพันตัว มากกว่า 200 สายพันธุ์เลยนะ มองไปทางไหนก็มีแต่เจ้าผีเสื้อตัวเล็กตัวน้อยเต็มไปหมด เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยมาก ๆ ห้ามพลาดเลยนะทุกคนนน! ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการไปชมผีเสื้อคือช่วงเช้า เพราะอากาศไม่ค่อยร้อน ซึ่งบริเวณที่จะพบผีเสื้อได้มาก ก็คือตามมูลสัตว์ ซากผลไม้ ริมลำธาร ดินโป่ง เพราะน้อง ๆ ออกมากินแร่ธาตุ สามารถเข้ามาถ่ายรูปให้ผีเสื้อบินรายล้อมกันได้เลย แต่ต้องระวังเหยียบผีเสื้อ และรีบมากันน้าเพราะน้องจะอยู่แค่ช่วงหน้าร้อนเท่านั้น ค่าเข้าอุทยานแห่งชาติ ชาวไทย : ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 40 บาท ชาวต่างชาติ : ผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 200 บาท พิกัด : อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี Facebook : อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน – Kaeng Krachan National Park โทร. 0 3277 2311

ชมผีเสื้อ ณ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน🦋 อ่านเพิ่มเติม

✨ ข้าวแช่…อาหารคลายร้อน ✨

เข้าหน้าร้อนแบบนี้ มีใครคิดแบบแอดบ้าง ที่นึกอยากจะกินข้าวแช่ขึ้นมาทุกครั้งไป ในฐานะคนชอบกินข้าวแช่ เลยอยากจะนำเกร็ดความรู้เกี่ยวกับข้าวแช่ พร้อมแนะนำพิกัดร้านข้าวแช่แสนอร่อยมาฝากกัน ข้าวแช่แต่เดิมเป็นอาหารของชาวมอญ ในอดีตการหุงข้าวแช่เป็นพิธีกรรมในการบูชาเทวดาอย่างหนึ่ง นิยมทำในวันสงกรานต์ ซึ่งถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ชาวมอญ เป็นโอกาสที่ญาติมิตรที่อยู่ห่างไกล ได้กลับมารวมตัวกันที่บ้านเพื่อทำข้าวแช่ไปทำบุญและตั้งศาลของบ้านขึ้นมาเพื่อเซ่นไหว้เทวดา และถือโอกาสนำข้าวแช่ไปให้ญาติผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือและกราบไหว้ขอพร การทำข้าวแช่แบบมอญนั้น มีพิธีและขั้นตอนการทำมากมาย เริ่มตั้งแต่คัดข้าวสารเม็ดสวย มาซาวน้ำ 7 ครั้ง ให้สะอาด หุงโดยตั้งเตาไฟบนลานโล่ง ส่วนน้ำที่จะกินร่วมกับข้าวแช่ ต้องเป็นน้ำสะอาดต้มสุก เทลงหม้อดินเผาใบใหญ่ อบควันเทียนและดอกไม้หอม เช่น มะลิ กุหลาบมอญ กระดังงา ทิ้งไว้หนึ่งคืน เครื่องเคียงข้าวแช่หลัก ๆ มี 5 ชนิด ได้แก่ ปลาแห้งป่น เนื้อเค็มฉีกฝอย หัวไชโป๊เค็มผัดไข่ ไข่เค็ม และกระเทียมดอง ต่อมาข้าวแช่เป็นที่นิยมแพร่หลายในหมู่คนไทย เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เสด็จแปรพระราชฐานไปประทับแรม ณ พระนครคีรี ทรงโปรดปรานข้าวแช่สูตรเมืองเพชรเป็นพิเศษ ซึ่งจะมีเครื่องเคียงเพียง 3 อย่างเท่านั้น คือ ลูกกะปิ ปลากระเบนผัดหวาน และผักกาดเค็มผัดหวาน ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้มีการจัดทำข้าวแช่ เป็นข้าวแช่เสวยขึ้นถวาย ซึ่งมีการปรับสูตรเครื่องเคียงเป็นลูกกะปิทอด พริกหยวกสอดไส้ เนื้อเค็มฝอยผัดหวาน ผักกาดเค็มผัดหวาน ปลาแห้งผัดหวาน รวมถึงผักสดแกะสลัก ร้อนนี้ ลองแวะไปหาข้าวแช่รับประทานกัน แอดมีพิกัดแนะนำหลายแห่ง เช่น เกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ถือเป็นแหล่งรวมข้าวแช่ขึ้นชื่อหลายร้าน เช่น ร้านข้าวแช่คุณแดง (เปิดขายช่วงสงกรานต์) ร้านข้าวแช่ป้าสุดจิตร สูตรชาววัง ร้านข้าวแช่ลุงแดง เป็นต้น จังหวัดเพชรบุรี มีร้านข้าวแช่ชื่อดังหลายร้าน เช่น ข้าวแช่ป้าเอื้อน ที่เปิดขายมานานกว่า 60 ปี อยู่ตรงข้ามสถานีกาชาดที่ 8 อำเภอเมือง ร้านข้าวแช่แม่เล็ก สะกิดใจ อำเภอท่ายาง ในบริเวนเกาะรัตนโกสินทร์ มีข้าวแช่แม่ศิริ บางลำพู ข้าวแช่บ้านวรรณโกวิท ถนนตะนาวนอกจากนี้ยังมีร้านอาหารไทยอีกหลายร้านในกรุงเทพฯที่มีเมนูข้าวแช่ขายในช่วงหน้าร้อน ดูพิกัดของร้านแล้ว ล้วนเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจทั้งนั้น ไปร้านข้าวแช่อย่างเดียวคงไม่พอ คงต้องเตรียมตัวไปเที่ยวด้วยแล้วล่ะ

✨ ข้าวแช่…อาหารคลายร้อน ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ เที่ยววิถีชุมชน ยลเมืองเพชร ✨

เวลานึกถึงเพชรบุรี ถ้าไม่ใช่ทะเล เพื่อน ๆ คิดออกไหมว่าจะไปไหนดี หากยังไม่มีไอเดีย แอดมินจะขอพาไปสัมผัสกับแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและสนุกกับกิจกรรมในชุมชนเล็ก ๆ ที่น่ารักในจังหวัดเพชรบุรีกันค่ะ  วันที่ 1 1 ชมพระรามราชนิเวศน์ (วังบ้านปืน) 2 เช็คอินกินขนมอร่อยที่ สวนตาลลุงถนอม 3 ผ่อนคลายสบายผิว ที่ กังหันทอง  วันที่ 2 4 ชมธนาคารต้นไม้ และกิจกรรมมากมาย ที่ ชุมชนบ้านถ้ำเสือ การเดินทาง  รถยนต์ส่วนตัว จากกรุงเทพฯใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง หรือรถตู้ประจำทาง สามารถขึ้นได้ทั้งที่สถานีขนส่งหมอชิตและสายใต้  วันที่ 1 พระรามราชนิเวศน์ (วังบ้านปืน)  “พระรามราชนิเวศน์” หรือที่รู้จักในชื่อ “พระราชวังบ้านปืน” สถานที่ประทับแปรพระราชฐานที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้า ฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อเสด็จประพาสจังหวัดเพชรบุรี พระราชวังบ้านปืนเป็นอาคารสีขาว 2 ชั้น สร้างตามแบบสถาปัตยกรรมยุโรปโดยสถาปนิกชาวเยอรมัน ด้านหน้าอาคารมีพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 ชั้นล่างเป็นท้องพระโรงกลาง ห้องเสวยและห้องครื่อง ส่วนชั้นบนเป็นห้องบรรทมและห้องทรงพระอักษร  ปัจจุบันเปิดให้เข้าชมฟรี ใครยังไม่เคยมาชม แอดแนะนำเลยค่ะ สวยงามมาก ๆ  ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปภายใน  ตำบลบ้านปืน อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี  เปิดทุกวัน เวลา 08.00-16.00 น.  0 3242 8506-10 ต่อ 259 https://goo.gl/maps/ypgnYY1yDCmQo3wMA สวนตาลลุงถนอม  เพชรบุรี ได้ชื่อว่ามีต้นตาลและสวนตาลจำนวนมาก แน่นอนว่าเราก็ต้องไม่พลาด แอดจะพาเพื่อน ๆ ไปชมและเรียนรู้เรื่องตาลที่ “สวนตาลลุงถนอม” ผู้ตั้งใจที่จะอนุรักษ์ต้นตาลไว้เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของเพชรบุรี ที่สวนตาลแห่งนี้ปลูกต้นตาลไว้กว่า 400 ต้น ไม่เพียงเป็นสวนเกษตรแต่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องตาลที่มีชื่อเสียงอีกด้วย สัมผัสแรกที่ได้เห็นก็คือ แนวต้นตาลที่ปลูกเรียงเป็นแถวอย่างสวยงาม บรรยากาศร่มรื่นมาก ๆ  ที่นี่มีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย เช่น การชมการขึ้นตาล การทำขนมตาล เคี่ยวน้ำตาล ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่ได้เป็นการสาธิตให้นักท่องเที่ยวชมเท่านั้น แต่ยังเป็นวิถีชีวิตและอาชีพที่ชาวสวนตาลตัวจริงเสียงจริงสืบทอดจากบรรพบุรุษมาจนปัจจุบัน  หลังชมกิจกรรมแล้วก็อย่าพลาดการลองชิมน้ำตาลสด และน้ำตาลโตนดแสนอร่อย รวมทั้งขนมตาลหอม ๆ ที่เพิ่งออกจากเตากันนะ  ตำบลถ้ำรงค์ อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี  เปิดทุกวัน 09.00-17.00 น.  08 7800 7716 https://goo.gl/maps/C3uHrEJxNLV3S8P47 สปาเกลือกังหันทอง ในวันที่ร่างกายเหนื่อยล้า หลายคนเลือกผ่อนคลายด้วยการไปสปา แอดจะพาไป “กังหันทอง”แหล่งผลิตเกลือสปาที่มีชื่อเสียงของเพชรบุรี ซึ่งเลือกสรรสุดยอดเม็ดเกลือก็คือดอกเกลือบริสุทธิ์มาผสมผสานกับสมุนไพรต่าง ๆ เพื่อให้เป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่เปี่ยมคุณภาพ ชื่อ “กังหันทอง” มีที่มาจากวิธีการทำนาเกลือในอดีตที่ใช้กังหันลมผันน้ำเข้าสู่นาเกลือ ส่วนดอกเกลือบริสุทธิ์ที่ได้ก็เปรียบเสมือนทองคำบนผืนนาเกลือนั่นเอง ที่นี่มีกิจกรรมหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นการฟังบรรยาย ชมสาธิตการทำเกลือสปา หรือผ่อนคลายด้วยการทำสปาเท้าแช่น้ำดอกเกลือ รวมไปถึงการนวดบำบัดความเครียด โดยปกติแล้วการนวดจะให้บริการเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ หากเพื่อน ๆ ต้องการไปในวันธรรมดา ต้องติดต่อล่วงหน้า 1 วันเพื่อเตรียมสถานที่ นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีผลิตภัณฑ์จากดอกเกลือให้เพื่อน ๆ ได้เลือกช้อปปิ้ง น่าใช้ไปหมดเลยค่ะ   ตำบลบางแก้ว อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี  เปิดทุกวัน เวลา 09.00 – 16.00 น.  086 544 4473 https://goo.gl/maps/ePeU1nbHMtEycTxK9 ตะวันใกล้ลับฟ้า หากเพื่อน ๆ ยังไม่มีแผนเรื่องที่พัก แอดขอแนะนำ โฮมสเตย์ บ้านถ้ำเสือ ชุมชนท่องเที่ยวที่แอดจะพาเพื่อน ๆ ไปทำกิจกรรมในวันถัดไปนั่นเอง มีทั้งแบบบ้านพัก หรือจะกางเต็นท์ก็น่าสนใจไม่น้อย สามารถสอบถามราคากับทางชุมชนได้โดยตรง   วันที่ 2 ชุมชนบ้านถ้ำเสือ  ชุมชนบ้านถ้ำเสือเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ท่ามกลางขุนเขา นอกจากจะมีความร่มรื่นน่าไปเยี่ยมชมแล้ว ที่นี่ถือเป็นชุมชนต้นแบบในการอนุรักษ์ธรรมชาติ เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านเกษตรอินทรีย์ เกษตรผสมผสาน มีโครงการธนาคารต้นไม้ สนับสนุนโดย ธ.ก.ส. ซึ่งเป็นโครงการที่ส่งเสริมให้คนในชุมชนหันมาปลูกต้นไม้ และเห็นคุณค่าต้นไม้ในเชิงเศรษฐกิจ  ในชุมชนมีกิจกรรมให้เรียนรู้และลงมือทำหลายอย่าง เพื่อน ๆ สามารถเลือกได้เลยค่ะ แต่มาแล้วทั้งที แอดขอเลือกกิจกรรมแบบเต็มวันให้จุใจไปเลยแล้วกัน เริ่มจากเยี่ยมชมธนาคารต้นไม้ ยิงกระสุนเมล็ดพันธุ์ปลูกป่า ทำไข่เค็มดินสอพองอัญชัน ทำทองม้วนตาลโตนด และกิจกรรมล่องเรือยางสะพานสองพี่น้อง โดยทั้งหมดนี้มีค่ากิจกรรมอยู่ที่ 650 บาท/คน คุ้มมาก ๆ สำหรับเพื่อน ๆ ที่สนใจ แนะนำให้จองล่วงหน้าอย่างน้อย 3-5 วัน และอย่างน้อย 5 คนขึ้นไป เพื่อให้ทางสถานที่ได้เตรียมการต้อนรับ มื้อเที่ยงก็ไม่ต้องกังวลนะคะ เพราะทางชุมชนจะจัดอาหารให้ด้วย เมนูแนะนำได้แก่ น้ำพริกกะปิกุ้งสด ปลาตะเพียนทอดกรอบ ยำผักกรูด ซึ่งแต่ละเมนูก็ใช้วัตถุดิบที่เป็นผลผลิตของชุมชนนี่เอง  สำหรับผู้ที่ไม่ได้มาพักหรือมาทำกิจกรรมที่นี่ ก็ยังสามารถมารับประทานอาหารอร่อย ๆ ได้ที่โซนร้านอาหารของชุมชน แต่แนะนำว่าให้ติดต่อกับทางชุมชนล่วงหน้า ขอบคุณรูปภาพสวย ๆ จาก เพจ โฮมสเตย์ บ้านถ้ำเสือ อ.แก่งกระจาน  เลขที่ 8 ตำบลแก่งกระจาน อำเภอแก่งกระจาน เพชรบุรี  เปิดทุกวัน เวลา 07.00-20.00 น. (เปิดให้เข้ามากางเต็นท์ได้ตั้งแต่ 09.00-21.00 น.)  0811303835 https://goo.gl/maps/ePeU1nbHMtEycTxK9

✨ เที่ยววิถีชุมชน ยลเมืองเพชร ✨ อ่านเพิ่มเติม

ภูมิปัญญาไทยในการทำ “น้ำตาลปึก”

เมื่อร่างกายต้องการความหวาน จะมี “น้ำตาล” ชนิดไหนบ้างมาช่วยเติมความอร่อยลงในอาหารแต่ละมื้อของเรา ในบ้านเรามีกระบวนการนำน้ำหวานจากธรรมชาติมาทำเป็นวัตถุดิบเพื่อใช้ปรุงอาหารในรูปแบบต่าง ๆ หนึ่งในนั้นก็คือ “น้ำตาลปึก” เป็นการนำน้ำหวานจากธรรมชาติมาเคี่ยวให้เหนียวและข้นจนเป็นสีเหลือง-น้ำตาลอ่อน ๆ จับให้เป็นก้อน แล้วพักไว้ให้เย็น เป็นภูมิปัญญาเรื่องอาหารที่ส่งทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ปัจจุบันก็ยังมีการใช้น้ำตาลปึกในการปรุงอาหาร นอกจากนี้ ยังมีการส่งเสริมการทำน้ำตาลปึกให้มีคุณภาพเพื่อจำหน่าย และช่วยให้เกิดอาชีพในชุมชน น้ำตาลจากภูมิปัญญาในแต่ละท้องถิ่นจะผลิตจากวัตถุดิบใดบ้าง ไปดูกัน อ้อย พืชเศรษฐกิจหลักที่สร้างรายได้ให้ชุมชน สามารถนำไปผลิตเป็นน้ำตาลได้หลายรูปแบบ รวมถึงน้ำตาลปึก โดยคั้นเอาน้ำจากลำตัน นำไปเคี่ยวจนเหนียวหนึบ แล้วนำมาหยอดเป็นก้อนกลม ปัจจุบันมีเหลือเพียงไม่กี่ที่ที่ยังผลิตน้ำตาลอ้อยแบบโบราณกันอยู่ หาซื้อได้ที่ นครสวรรค์ และกาญจนบุรี เป็นต้น วิสาหกิจชุมชนเกษตรกรสรรพสิ่งบ้านนากลาง ตำบลนากลาง อำเภอโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค์ 086 351 2633 วิสาหกิจชุมชนน้ำตาลทรายแดง บ้านวังหิน หมู่ที่ 1 ตำบลเลาขวัญ อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี 081 008 3965 มะพร้าว พืชตระกูลเดียวกับปาล์ม สามารถเก็บน้ำตาลได้จากช่อดอกมะพร้าว โดยการตัดปลายช่อออก แล้วนำกระบอกมารองน้ำตาลที่จะไหลออกมา ทิ้งไว้ข้ามคืน ก็จะได้น้ำตาลจากมะพร้าวเต็มกระบอก เพื่อน ๆ สามารถหาชมการทำน้ำตาลปึกจากมะพร้าวได้ในบริเวณจังหวัดราชบุรี สมุทรสงคราม เป็นต้น กลุ่มน้ำตาลมะพร้าวตาหลวง หมู่ 6 ตำบลตาหลวง อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี 081 014 8345, 083 026 3005, 090 437 8831, 085 393 9499 บ้านเตาไทยเดิม หมู่ 4 ตำบลบางกระบือ อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม 087 321 1288, 089 770 7541 ตาลโตนด การเก็บน้ำหวานจากตาลโตนด มีวิธีการคล้ายกับการเก็บน้ำตาลมะพร้าว แต่จะนิยมเก็บน้ำตาลจากต้นตัวผู้ เนื่องจากทำง่ายกว่า ใช้ “ไม้คาบ” อุปกรณ์สำหรับการนวดจั่นตาล (งวงดอกตาล) นวดวันละ 1 ครั้งไป 3-4 วัน จากนั้นตัดปลายจั่นแล้วเอากระบอกรองเก็บน้ำตาล ก็จะได้น้ำตาลจากตาลโตนด สามารถกินเป็นน้ำตาลสด หรือเอาไปทำน้ำตาลปึกได้ ตาลโตนดที่ขึ้นชื่ออยู่ที่เพชรบุรี นอกจากนี้ก็ยังมีที่อื่น ๆ ได้แก่ นครสวรรค์ สุโขทัย พิษณุโลก เป็นต้น สวนตาลลุงถนอม ตำบลถ้ำรงค์ อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี 087 800 7716 วิสาหกิจชุมชนบ้านปากคลองเกยไชย ตำบลเกยไชย อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ 084 657 7227, 098 549 9974 ต้นจาก อีกหนึ่งภูมิปัญญาที่เกือบสูญหาย คือการทำน้ำตาลจากต้นจาก พืชตระกูลปาล์มอีกหนึ่งชนิดที่สามารถนำไปทำน้ำตาลปึกได้ การเก็บน้ำตาล ทำโดยการตัดเอาจาก “งวงจาก” คือส่วนก้านของผลจากที่มี 30 ผลขึ้นไป ลอกกาบออก ตัดปลายงวงที่มีทะลายจากออก ทำซ้ำเป็นเวลา 3 วัน แล้ววันที่ 4 จึงสามารถเก็บเกี่ยวน้ำหวานได้ นำกระบอกที่เจาะรูด้านข้างไว้เพื่อเสียบงวงจากได้ ทิ้งไว้ 1 คืนก็จะได้น้ำตาล ส่วนมากทำกันในแถบภาคใต้ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีการปลูกต้นจากจำนวนมาก ได้แก่ นครศรีธรรมราช ตรัง เป็นต้น วิสาหกิจแปรรูปน้ำตาลจาก “ขนาบนาก” หมู่ 5 ตำบลขนาบนาก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช 095 682 4343 วิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่จากอำเภอกันตัง หมู่ที่ 4 ตำบลบางหมาก อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง 083 088 4978

ภูมิปัญญาไทยในการทำ “น้ำตาลปึก” อ่านเพิ่มเติม

✨ อ่างเก็บน้ำแก่งกระจาน ✨

สุดสัปดาห์นี้แอดจะชวนไปเที่ยว “อ่างเก็บน้ำแก่งกระจาน” สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตสำหรับชาวแคมป์ปิ้ง อยู่ใกล้กรุงเทพฯ เหมาะกับการพักผ่อนทริปสั้น ๆ นอกจากนี้ แอดยังมีอัปเดตมาตรการ New Normal มาฝากด้วย อย่าลืมเช็คมาตรการในการเดินทางเข้าจังหวัดเพชรบุรี ได้ที่ https://www.facebook.com/phetburihealth/สำหรับใครที่ยังไม่พร้อมหรือยังไม่สะดวกเดินทาง สามารถอ่าน eBook จังหวัดเพชรบุรีได้ที่ https://www.amazingthailandebook.com/issue/33 หรือสามารถดาวน์โหลดในรูปแบบ Application : Amazing Thailand eBook ได้ทั้งระบบ iOS และ Android https://mobile.amazingthailandebook.com/redirect/ อ่างเก็บน้ำแก่งกระจาน ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ซึ่งเป็นอุทยานที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ที่สุดของไทย อีกทั้งยังเป็นป่าต้นน้ำลำธารของแม่น้ำเพชรบุรี และแม่น้ำปราณบุรี มีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสลับซับซ้อนอยู่ในแนวทิวเขาตะนาวศรี อ่างเก็บน้ำแก่งกระจาน เกิดจากการสร้างเขื่อนดินปิด 3 ช่องทางระหว่างหุบเขา ทำให้น้ำเอ่อล้นท่วมแก่งน้ำเดิม กลายเป็นผืนน้ำขนาดกว้างใหญ่ กลางอ่างเก็บน้ำมีเกาะแก่งโผล่พ้นน้ำกระจายตัวอยู่หลายจุด ทำให้เกิดทิวทัศน์ที่สวยงาม นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานฯ อีกด้วย  มาเที่ยวอ่างเก็บน้ำแก่งกระจาน ทำกิจกรรมอะไรได้บ้าง กางเต็นท์ ถือเป็นกิจกรรมไฮไลต์สำหรับนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เลยทีเดียว ในช่วงหน้าฝนนี้ อากาศเริ่มเย็นลง หากไปจังหวะดี ๆ อาจจะได้เห็นหมอกบาง ๆ  ค่าธรรมเนียมกางเต็นท์ 30 บาท/หลัง/คืนแต่ถ้าอยากพักในบ้านพัก ที่นี่ก็มีบ้านพักให้บริการ มีทั้งหมด 15 หลัง ราคาประมาณ 800-3,000 บาท  สามารถจองบ้านพัก ลานกางเต็นท์ ผ่านเว็บไซต์ของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ที่ https://nps.dnp.go.th/ ดูนก อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานได้ชื่อว่าเป็นแหล่งดูนกที่มีชื่อเสียงมาก ด้วยสภาพธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้มีนกหลากหลายชนิด จุดยอดนิยมจุดหนึ่งก็คือบริเวณริมอ่างเก็บน้ำ ซึ่งมีนกหลายชนิดอาศัยอยู่ แม้จะเป็นมือใหม่หัดดูนก ก็สามารถเห็นนกได้ไม่ยาก หากเพื่อน ๆ ตั้งใจจะมาดูนกด้วย แอดก็มีข้อมูลเล็ก ๆ เกี่ยวกับข้อปฏิบัติและเทคนิคในการดูนกแบบง่าย ๆ จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มาฝากค่ะhttp://portal.dnp.go.th/Content/nationalpark?contentId=1146 ขอบคุณรูปภาพสวย ๆ จาก ชมรมภาพถ่ายเพชรบุรี ล่องเรือชมวิวอ่างเก็บน้ำแก่งกระจาน เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ แถมคนที่ชื่นชอบการตกปลาก็สามารถมาตกปลาที่นี่ได้นะสามารถติดต่อเช่าเรือได้ที่ร้านอาหารหรือชมรมเรือที่อยู่บริเวณที่ทำการอุทยานฯ ราคาประมาณ 500-700 บาท ขึ้นอยู่กับระยะทาง ชมพระอาทิตย์ตกดินตรงบริเวณสันเขาตะนาวศรี ถ้ามากางเต็นท์ค้างแรมที่นี่ไม่ควรพลาดกิจกรรมนี้ รับรองวิวสวยประทับใจ และมีรูปสวย ๆ กลับบ้านเป็นที่ระลึกแน่นอน **สะพานแขวนปิดปรับปรุง** สิ่งอำนวยความสะดวก– ร้านค้าสวัสดิการ (ร้านอาหาร) ให้บริการทุกวัน วันอาทิตย์-ศุกร์ เวลา 08.00-18.00 น. / วันเสาร์ เวลา 08.00-19.00 น.– Wi-fi– ตู้ ATM– ห้องน้ำในเขตอุทยานฯ– เต็นท์ให้เช่า (ขนาดพัก 2-4 คน) ราคา 120-250 บาท/คืน มาตรการในการเข้าพื้นที่อุทยานฯ  ค่าธรรมเนียมเข้าพื้นที่อุทยานฯ ผู้ใหญ่ 100 บาท / เด็ก 40 บาท ค่าธรรมเนียมสำหรับพาหนะ รถจักรยานไม่เสียค่าบริการ/ รถจักรยานยนต์ 20 บาท / รถยนต์ 30 บาท ลงทะเบียนจองเข้าอุทยานล่วงหน้า ผ่านแอพพลิเคชัน QueQ ควรมาถึงก่อนเวลาอย่างน้อย 10 นาที แสดงตัวตนต่อเจ้าหน้าที่ด้วยรหัสการจองและเอกสารยืนยันตัวตน กรณีไม่ได้จองล่วงหน้า สามารถ Walk-in ได้ แต่จะให้สิทธิ์ผู้จองล่วงหน้าก่อน หากจำนวนนักท่องเที่ยวในช่วงเวลานั้นไม่เกินจำนวนที่รองรับได้ จึงจะให้สิทธิ์นักท่องเที่ยวที่ไม่ได้ทำการจอง มีการตรวจวัดอุณหภูมิที่บริเวณด่านทางเข้า นักท่องเที่ยวต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า หมั่นล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ และเว้นระยะห่าง Check-in และ Check-out ผ่านแอพพลิเคชัน ไทยชนะ  ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน 032 772 311 หรือ inbox Facebook : https://www.facebook.com/Kaengkrachannationalparkofficial/

✨ อ่างเก็บน้ำแก่งกระจาน ✨ อ่านเพิ่มเติม

เพชรบุรี จังหวัดเดียวเที่ยวได้ 3 วัง

วันนี้แอดจะพาเพื่อนๆ ไปชมความงดงามของพระราชวังทั้ง 3 แห่งในจังหวัดเพชรบุรีกัน– พระรามราชนิเวศน์ หรือ พระราชวังบ้านปืน– พระนครคีรี (เขาวัง)– พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน พระรามราชนิเวศน์ หรือ พระราชวังบ้านปืน ที่ตั้ง : ถนนราชดำริห์ ตำบลคลองกระแชง อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรีเปิดทุกวัน เวลา 08.00-16.00 น.ค่าเข้าชม : ชาวไทย 20 บาท ชาวต่างชาติ 50 บาทโทร. 032 242 8506-10 ต่อ 259.พระรามราชนิเวศน์ หรือ พระราชวังบ้านปืน เป็นพระราชวังที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชประสงค์ให้สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับแรมในฤดูฝน ออกแบบโดยนายคาร์ล ดอห์ริง ชาวเยอรมัน แต่สร้างยังไม่แล้วเสร็จ ก็เสด็จสวรรคตเสียก่อน พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างต่อจนแล้วเสร็จใน พ.ศ.2459 ในสมัยรัชกาลที่ 7 ที่นี่เคยใช้เป็นที่ต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง เป็นที่ตั้งโรงเรียนผู้กำกับลูกเสือ โรงเรียนฝึกหัดครูเกษตรกรรม และโรงเรียนประชาบาลประจำตำบลด้วย มีลักษณะเป็นสถาปัตยกรรมแบบยุโรป 2 ชั้น หลังคาด้านเหนือเป็นทรงโดม ส่วนยอดตรงกลางคล้ายหอคอย มีสนาม (court) อยู่ภายใน ซึ่งเดิมเป็นสนามแบดมินตัน แต่ภายหลังได้ปรับปรุงให้เป็นสวนหย่อมที่มีน้ำพุอยู่ตรงกลาง ภายในประกอบด้วยห้องต่างๆ รวม 44 ห้อง ได้แก่ ท้องพระโรงกลาง ห้องเสวย ห้องบรรทมพระเจ้าอยู่หัว ห้องบรรทมพระราชินี และห้องทรงพระอักษร เป็นต้น อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี (เขาวัง) ที่ตั้ง : ถนนคีรีรัถยา ตำบลคลองกระแชง อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรีเปิดทุกวัน เวลา 08.30-16.30 น.ค่าเข้าชม : ชาวไทย 20 บาท ชาวต่างชาติ 150 บาทนักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้น หรือโดยสารรถรางไฟฟ้า ค่าบริการไป-กลับ ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก (อายุไม่เกิน 12 ปี) 15 บาทโทร. 032 425 600, 032 428 539.พระนครคีรี หรือ เขาวัง เป็นโบราณสถานเก่าแก่คู่เมืองเพชรบุรี ตั้งอยู่บนยอดเขา 3 ยอด ที่เดิมชาวบ้านเรียกกันว่า “เขาสมน” ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชวังสำหรับเสด็จแปรพระราชฐานขึ้นบนภูเขาแห่งนี้ แล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ.2403 พระราชทานนามว่า “พระนครคีรี” แต่ชาวบ้านนิยมเรียกกันว่า “เขาวัง” พระนครคีรี ประกอบด้วยพระที่นั่ง พระตำหนัก วัด และกลุ่มอาคารต่างๆ มากมาย ส่วนใหญ่เป็นสถาปัตยกรรมตะวันตกแบบนีโอคลาสสิคผสมกับสถาปัตยกรรมจีน สถานที่ที่น่าสนใจ ได้แก่ – วัดมหาสมณาราม ตั้งอยู่บริเวณไหล่เขาด้านทิศตะวันออก เป็นวัดเก่าแก่สมัยอยุธยาที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงบูรณะขึ้นใหม่ ภายในอุโบสถมีจิตรกรรมฝาผนังฝีมือขรัวอินโข่ง จิตรกรเอกในสมัยนั้น – วัดพระแก้วน้อย เป็นวัดประจำพระราชวังพระนครคีรี ตั้งอยู่บนยอดเขาด้านทิศตะวันออก ภายในมีสิ่งก่อสร้างต่างๆ ได้แก่ อุโบสถขนาดเล็กประดับด้วยหินอ่อน พระสุทธเสลเจดีย์ เจดีย์หินอ่อนสีเทาอมเขียว และพระปรางค์แดง ปรางค์ที่ตั้งแต่ชั้นเรือนธาตุขึ้นไปมีลักษณะโปร่ง ต่างจากปรางค์ทั่วไป – พระธาตุจอมเพชร ตั้งอยู่บนเขายอดกลาง เป็นเจดีย์ทรงระฆังสีขาวขนาดใหญ่ ภายในประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ – พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนครคีรี ตั้งอยู่บนยอดเขาด้านทิศตะวันตก บริเวณพระที่นั่งเพชรภูมิไพโรจน์ และพระที่นั่งปราโมทย์มไหสวรรย์ ภายในเก็บรักษาโบราณวัตถุต่างๆ ได้แก่ เครื่องราชูปโภคของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี จะจัดงาน “พระนครคีรี-เมืองเพชร” ในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี โดยจะมีการประดับไฟสวยงามตามสถานที่ต่างๆ บนพระนครคีรี มีการแสดงทางศิลปวัฒนธรรมและการแสดงพื้นบ้าน มีการออกร้านจำหน่ายสินค้าหลากหลายชนิด รวมทั้งสลากกาชาด และที่พลาดไม่ได้คือ การแสดงพลุสุดยิ่งใหญ่ทุกค่ำคืน พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ที่ตั้ง : ค่ายพระรามหก ถนนเพชรเกษม ตำบลห้วยทรายเหนือ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรีเปิดวันพฤหัสบดี-วันอังคาร (ปิดวันพุธ) เวลา 08.30-16.00 น.ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 15 บาท (ชมได้เฉพาะด้านนอก เนื่องจากอาคารกำลังอยู่ระหว่างบูรณะ)โทร. 032 508 444-5.พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน อยู่ในบริเวณค่ายพระรามหก เป็นพระราชวังที่ประทับริมทะเลซึ่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้รื้อพระตำหนักที่หาดเจ้าสำราญมาปลูกขึ้นใหม่ใน พ.ศ.2466 ที่นี่ได้รับการขนานนามว่า “พระราชนิเวศน์แห่งความรักและความหวัง”  พระราชวังแห่งนี้มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมเป็นแบบไทยผสมยุโรป คือเป็นเรือนไม้ใต้ถุนสูง สร้างด้วยไม้สักทอง เน้นความเรียบง่ายและโปร่งโล่ง เพื่อให้เข้ากับสภาพธรรมชาติและภูมิอากาศของชายทะเล ประกอบด้วยหมู่พระที่นั่ง 3 หมู่ ได้แก่ หมู่พระที่นั่งสโมสรเสวกามาตย์ หมู่พระที่นั่งสมุทพิมาน และหมู่พระที่นั่งพิศาลสาคร รวมทั้งหมด 16 หลัง เชื่อมต่อกันด้วยระเบียงทางเดินมีหลังคา นอกจากนี้ ในบริเวณพระราชนิเวศน์มฤคทายวันยังมีสวนที่สร้างขึ้นโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากบทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้แก่ สวนเวนิสวานิช สวนศกุนตลา สวนมัทนะพาธา และสวนวิวาห์พระสมุทร อีกด้วย เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 22 มิถุนายน 2562

เพชรบุรี จังหวัดเดียวเที่ยวได้ 3 วัง อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top