นครสวรรค์

นครสวรรค์

นครสวรรค์…สวรรค์ความอร่อย

ถ้าเอ่ยถึงของอร่อยนครสวรรค์ ใคร ๆ คงนึกถึงขนมโมจิ แต่ที่จริงแล้ว นครสวรรค์มีของอร่อยขึ้นชื่อให้ลิ้มลองมากมายกว่านั้น ไปดูกันว่าแอดเลือกอะไรมาฝาก . แต่เชื่อเถอะ แม้ว่าเมนูเหล่านี้จะมีให้กินทั่วไทย แต่จะฟินเท่ากับไปกินถึงถิ่นได้ยังไงกัน จริงไหม ลูกชิ้นปลากราย.เรียกว่าเป็นเมนูขึ้นชื่อแห่งปากน้ำโพเลยก็ว่าได้ ด้วยภูมิประเทศที่มีลำน้ำสี่สาย ปิง วัง ยม น่าน ไหลมาบรรจบกัน เป็นแม่น้ำเจ้าพระยา อันเป็นแหล่งรวมปลาน้ำจืดที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดของไทย โดยเฉพาะปลากรายที่มีอยู่ชุกชุม ประกอบกับภูมิปัญญาท้องถิ่นและการประกอบอาหารของคนไทยเชื้อสายจีนแห่งเมืองปากน้ำโพ จึงได้นำเอาเนื้อปลากรายมาแปรรูปเป็นลูกชิ้นปลากราย.จุดเด่นลูกชิ้นปลากรายที่นี่ คือใช้เนื้อปลากรายแท้ 100% เพื่อความเหนียวนุ่ม และอร่อยน่ากิน แกงนอกหม้อ.เมนูนี้เป็นอาหารถิ่นที่ชาวนครสวรรค์คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี แต่คนต่างถิ่นอย่างเรา ๆ คงสงสัยกันอยู่ว่า ทำไมถึงชื่อแกงนอกหม้อ แล้วเขาทำกันยังไง.แกงนอกหม้อของนครสวรรค์โดดเด่นไม่เหมือนแกงอื่น เพราะเป็นแกงกะทิที่ใส่เครื่องเทศ เครื่องเทศที่ใช้ก็คือ ลูกจันทน์เทศ ลูกกระวาน โป๊ยกั้ก ยี่หร่า และเม็ดผักชี นำมาคั่วแล้วโขลกรวมกับหอม กระเทียม และพริกแห้ง เวลาผัดเครื่องแกง กลิ่นเครื่องเทศจะหอมฟุ้งเป็นเอกลักษณ์.ขั้นตอนการทำก็ต่างจากแกงทั่วไป หลังจากทำเครื่องแกงแล้ว ก็จะรวนเนื้อหมู หรือเนื้อไก่ให้สุกแล้วตักขึ้นพัก จากนั้นก็ตั้งไฟเคี่ยวกะทิให้แตกมันแล้วพักไว้ ตอนปรุงจะเริ่มจากผัดเครื่องแกงกับเนื้อที่รวนไว้จนสุก แล้วค่อยเทกะทิที่เคี่ยวไว้ลงไป ปรุงรสให้กลมกล่อมด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำกระเทียมดอง เป็นอันเสร็จ.คำว่า “แกงนอกหม้อ” หมายถึงการแยกปรุงส่วนเนื้อและเครื่องแกงให้สุกไปทีละอย่าง แล้วค่อยนำทุกอย่างที่สุกแล้วมาแกงรวมกันอีกทีนั่นเอง ขอบคุณรูปภาพจาก Steve Cafe & Cuisine Dhevet Branch https://www.facebook.com/stevecafeandcuisine/ .แอบบอกใบ้ให้นิดนึง ร้านนี้เป็นร้านในกรุงเทพฯ ที่มีทั้งหมด 3 สาขา ได้แก่ สาขาเทเวศร์ สาขาพระรามหกและสาขาผ่านฟ้า ใครอดใจไม่ไหวก็ไปทานที่ร้านนี้กันได้เลย เมนูไหลบัว.นอกจากอาหารถิ่นอย่างแกงนอกหม้อและลูกชิ้นปลากรายแล้ว ยังมีวัตถุดิบท้องถิ่นอีกอย่างหนึ่งที่นิยมนำมาประกอบอาหาร นั่นคือ “ไหลบัว”.“ไหลบัว” คือหน่ออ่อนของบัวหลวง ในบึงบอระเพ็ดซึ่งเป็นบึงน้ำจืดที่อุดมสมบูรณ์ด้วยไม้น้ำต่าง ๆ รวมทั้งบัวหลวง ชาวบ้านจึงนำวัตถุดิบที่มีอยู่แล้วและเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติมาใช้ให้เกิดประโยชน์ สร้างมูลค่า และเป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชน.เมนูที่นิยมนำไหลบัวมาทำอาหารถิ่นของนครสวรรค์ได้แก่ ยำไหลบัว ก๋วยเตี๋ยวไหลบัว ขนมโมจินครสวรรค์.ขนมขึ้นชื่อของนครสวรรค์ที่บอกเลยว่า ใครไปเที่ยวก็ต้องได้ติดไม้ติดมือกลับมาบ้างล่ะ.แท้จริงแล้วเป็นขนมเปี๊ยะที่มีการดัดแปลงตามแบบขนมโมจิ และปรับรสชาติให้ถูกปากคนไทย นับว่าเป็นต้นตำรับโมจิแห่งแรกของไทยเลยทีเดียว.โมจิของญี่ปุ่น คือขนมที่ทำจากข้าวเป็นส่วนผสมหลัก โดยผ่านกรรมวิธีการตำให้เหนียวนุ่ม มีรูปแบบและรสชาติที่หลากหลายกันไป ส่วนของขนมโมจินครสวรรค์จะมีหน้าตาและรสชาติคล้าย ๆ กับขนมเปี๊ยะนมข้น ที่มีรสหวาน มีไส้หลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น ไส้ถั่ว ไส้มะพร้าว ไข่เค็ม เป็นต้น.ขอบคุณรูปภาพจาก  โมจิวัฒนพร ของฝากนครสวรรค์ ขนมข้าวโปง.ขนมข้าวโปงเป็นขนมไทยโบราณที่น้อยคนจะรู้จัก เดิมทีเป็นขนมที่ชาวนานิยมทำในประเพณีรับขวัญข้าว ทำจากแป้งข้าวเหนียว นำมานึ่ง เนื้อสัมผัสเหนียว นุ่ม กลิ่นหอม มีรสหวานนำ เค็มนิด ๆ นำมาห่อไส้ถั่วแล้วคลุกงาดำป่นหยาบ.ฟังดูแล้วก็ดูเหมือนขนมไทยทั่วไป แต่ในปัจจุบันนับว่าเป็นขนมที่หากินได้ยากมาก ๆ ถ้ามีโอกาสได้ไปนครสวรรค์ แอดขอแนะนำให้ไปลองสักครั้ง

นครสวรรค์…สวรรค์ความอร่อย อ่านเพิ่มเติม

วัดคีรีวงศ์ @นครสวรรค์

เจดีย์องค์นี้มีชื่อว่า “พระจุฬามณีเจดีย์” ตั้งอยู่บนยอดเขาดาวดึงส์ ซึ่งอยู่ภายในเขตวัดคีรีวงศ์ค่ะ.พระจุฬามณีเจดีย์ สร้างโดยพระราชพรหมาจารย์ (หลวงพ่อมหาบุญรอด) อดีตเจ้าอาวาสวัดคีรีวงศ์ ซึ่งใช้เวลาก่อสร้างยาวนานถึง 17 ปี ตั้งแต่ พ.ศ.2533-2550 โดยสร้างบนฐานของเจดีย์เก่าแก่สมัยสุโขทัยนั่นเองค่ะ เจดีย์องค์นี้มีความสูง 4 ชั้น.ชั้นที่ 1 มีเจดีย์องค์เล็กประดับอยู่ 4 มุม และมีพระพุทธรูปปางต่างๆ รวมทั้งเทพเจ้าประดิษฐานอยู่หลายองค์ชั้นที่ 2 เป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง 12 ราศีชั้นที่ 3 ประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่างๆ ไว้ให้ประชาชนได้กราบไหว้ แต่ไม่อนุญาตให้ปิดทองค่ะ ต่อมาเป็นชั้นที่ 4 ซึ่งเป็นชั้นบนสุดค่ะ ตรงกลางมีเจดีย์ทรงระฆังองค์เล็กที่ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุซึ่งนำมาจากประเทศศรีลังกา.และเมื่อแหงนมองขึ้นไปด้านบนเพื่อนๆ จะพบกับเพดานที่มีลักษณะเป็นโดม โดยจะมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเกี่ยวกับพุทธประวัติค่ะ  นอกจากนี้ด้านนอกของชั้นที่ 4 ยังเป็นจุดชมวิวที่สามารถชมทิวทัศน์ของเมืองนครสวรรค์ได้อีกด้วยค่ะ  ตอนกลางคืนเพื่อนๆ ก็ยังสามารถมองเห็นองค์พระเจดีย์องค์นี้ได้นะคะ เพราะตัวองค์พระเจดีย์จะถูกประดับตกแต่งด้วยไฟที่สวยงามค่ะ . วัดคีรีวงศ์ ถ.มาตุลี ต.ปากน้ำโพ อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์เปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น. ใกล้กับพระจุฬามณีเจดีย์ เพื่อนๆ จะพบกับหอชมเมืองสูงที่มีขนาดสูงถึง 10 ชั้น ซึ่งเพื่อนๆ สามารถขึ้นไปชมทิวทัศน์รอบตัวเมืองนครสวรรค์ได้ 360 องศาเลยทีเดียวค่ะ และไม่ต้องกลัวเมื่อยนะคะ เพราะเค้ามีลิฟต์ไว้คอยให้บริการด้วยค่ะ.หอชมเมืองเปิดให้บริการทุกวัน วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 10.00-16.30 น. วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00-19.00 น.ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 25 กรกฎาคม 2562

วัดคีรีวงศ์ @นครสวรรค์ อ่านเพิ่มเติม

เที่ยวตาคลี จ.นครสวรรค์

ตาคลีแม้จะเป็นเพียงอำเภอเล็กๆ แต่บอกเลยว่า “ตาคลี” มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ทั้งทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และโบราณคดี ว่าแต่จะมีอะไรบ้าง เราไปดูกันเลยค่า แอดขอเริ่มที่แรกกันที่ “วัดหนองโพ” ค่ะ วัดนี้มีนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาทำบุญ และกราบไหว้ขอพรกันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นวัดที่พระครูนิวาสธรรมขันธ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองโพเคยจำพรรษาอยู่นั่นเอง.พระครูนิวาสธรรมขันธ์ หรือที่หลายๆ คนรู้จักกันในชื่อ “หลวงพ่อเดิม” คือเกจิอาจารย์ชื่อดังที่มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย เชื่อกันว่าเครื่องรางของขลังที่ท่านปลุกเสก มีพุทธคุณด้านอยู่ยงคงกระพันและมหาอุดค่ะ มาวัดหนองโพทั้งที ก็ต้องไม่พลาดชม “พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อเดิม” ที่สร้างขึ้นเพื่อบอกเล่าถึงเรื่องราวคุณงามความดีของท่านเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู ภายในพิพิธภัณฑ์แบ่งการจัดแสดงออกเป็น 4 ห้องด้วยกัน คือ 1.ห้องมาตุภูมิบ้านหนองโพ 2.ห้องพุทธสโร หลวงพ่อเดิม 3.ห้องเพิ่มพูนศรัทธา และ 4.ห้องกถาคัมภีร์ ค่ะ แต่ละห้องตกแต่งได้อย่างน่าสนใจมากๆ เลย.วัดหนองโพ ต.หนองโพ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์โทร. 085 050 7207เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 09.00 – 17.00 น. **เดือนเมษายนเปิดทุกวัน** ไปต่อกันที่ “พิพิธภัณฑ์จันเสน” ซึ่งตั้งอยู่ในพระมหาธาตุเจดีย์จันเสน ภายในวัดจันเสนค่ะ.พระมหาธาตุเจดีย์จันเสน ก่อตั้งขึ้นจากดำริของพระครูนิสัยจริยคุณ หรือหลวงพ่อโอด เพื่อเป็นศูนย์กลางชุมชน ออกแบบโดยพัฒนาจากรูปแบบสันนิษฐานของเจดีย์สมัยทวารวดี.ภายในประกอบด้วยส่วนต่างๆ ดังนี้ ชั้นล่างสุดเป็น “พิพิธภัณฑ์เมืองจันเสน” เหนือขึ้นไปเป็นส่วนเรือนธาตุ ประดิษฐาน “หลวงพ่อนาค” พระพุทธรูปปางนาคปรก และส่วนยอดของเจดีย์เป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุค่ะ จากการศึกษาพบว่าในอดีตบริเวณนี้เป็นที่ตั้งของ “เมืองจันเสน” ซึ่งเป็นเมืองโบราณตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลายจนถึงสมัยทวารวดี หรือประมาณ 1500 ปีมาแล้ว.ทำให้มีการขุดค้นพบโบราณวัตถุมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโครงกระดูก ตราประทับ พระพิมพ์ ขวานหินขัด และเครื่องประดับ เป็นต้น ซึ่งภายในพิพิธภัณฑ์จันเสนได้รวบรวมโบราณวัตถุต่างๆ ที่ขุดพบมาจัดแสดงไว้ พร้อมทั้งให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของเมืองโบราณจันเสน พัฒนาการของเมืองในสมัยต่างๆ วิถีชีวิตของผู้คน การขุดค้นทางโบราณคดี รวมไปถึงประวัติของหลวงพ่อโอดผู้ริเริ่มก่อตั้งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้อีกด้วยค่ะ.พิพิธภัณฑ์จันเสน ต.จันเสน อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์เปิดวันพุธ-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 09.00 – 16.00 น. ปิดท้ายกับ “วนอุทยานถ้ำเพชร-ถ้ำทอง” ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดนครสวรรค์ที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก เพราะที่นี่เป็นถ้ำที่มีหินงอกหินย้อยสวยงามมากค่ะ.จากการสำรวจพบว่าที่นี่มีถ้ำทั้งหมดประมาณ 70 ถ้ำ โดยปัจจุบันเปิดให้เข้าชม 9 ถ้ำค่ะ ซึ่งแต่ละถ้ำก็มีความมหัศจรรย์แตกต่างกันไป นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติอีกด้วย.วนอุทยานถ้ำเพชร-ถ้ำทอง ต.ตาคลี อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์โทร. 056 221 140, 056 231 416เปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 17.00 น. เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 8 เมษายน 2562

เที่ยวตาคลี จ.นครสวรรค์ อ่านเพิ่มเติม

Street Art…art on wall EP.2

Street Art คืออะไร Street Art คือศิลปะที่สร้างสรรค์บนผนังตึกหรือกำแพงในพื้นที่สาธารณะ โดยใช้เทคนิคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการขีดเขียน การพ่นสี หรือการวาด Street Art ทำให้ศิลปะที่เคยเป็นเรื่องไกลตัวกลับกลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตผู้คน เราสามารถพบเห็นศิลปะได้ในทุกที่ โดยไม่จำเป็นต้องเดินเข้าหอศิลป์ ปัจจุบัน Street Art จึงได้รับความนิยมและเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางเลยทีเดียว เชียงใหม่.ในภาคเหนือนี้ เราจะเริ่มต้นกันที่เชียงใหม่ ค่ะ เพราะเป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามมากมาย ทั้งทางธรรมชาติและวัฒนธรรม รวมไปถึง Street Art เก๋ๆ ด้วยค่ะ Street Art ของเชียงใหม่ มีให้เลือกชมอยู่หลายที่ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณลานจอดรถกาดสวนแก้ว ถนนนิมมานเหมินท์ ซอย 5 และ 17 ถนนมูลเมือง ซอย 6-7 ถนนราชวิถี ซอย 1 และกำแพงทัณฑสถานหญิงเก่า ซึ่งแต่ละที่ก็มีความอาร์ตที่แตกต่างกันไปค่ะ แม่ฮ่องสอน.ด้วยความที่แม่ฮ่องสอนเป็นจังหวัดเล็กๆ ที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ของวัฒนธรรม และวิถีชีวิตของผู้คนที่เรียบง่าย Street Art ของที่นี่จึงสะท้อนภาพความเป็นอยู่ของชุมชนออกมาได้อย่างน่ารักมากๆ เลยละค่ะ ผลงาน Street Art ของแม่ฮ่องสอน อยู่บริเวณถนนคนเดินแหล่จอมกั๋น ถนนขุนลุมประพาสซอย 3 หลังที่ทำการไปรษณีย์แม่ฮ่องสอน.ซึ่งผลงานเหล่านี้เกิดจากศิลปินและจิตอาสาจากหลากหลายสถาบัน ที่มาร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานสุดประทับใจให้เราได้ชมกันค่ะ ลำปาง.ลำปาง ปลายทางฝัน บอกเลยว่า Street Art ของที่นี่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวสุดๆ เพราะเค้าได้นำสัญลักษณ์เด่นๆ อย่างเช่น ไก่ขาว และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ ของเมืองลำปางมาวาดเป็นผลงานศิลปะที่สวยงาม Street Art ของลำปาง ส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณริมแม่น้ำวัง ฝั่งกาดกองต้า ตั้งแต่เชิงสะพานรัษฎาภิเศก เรื่อยไปจนถึงสะพานรัตนโกสินทร์ 200 ปี และบริเวณริมแม่น้ำวัง ฝั่งหลังจวนผู้ว่าฯ นอกจากนี้ยังมีผลงานอีกมากมายที่แทรกตัวอยู่ตามตรอกซอกซอยเล็กๆ ในกาดกองต้าอีกด้วยค่ะ.ซึ่งถ้าเพื่อนๆ ไปเดินชม Street Art ในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ ตอนเย็นๆ ก็สามารถไปเดินเที่ยวถนนคนเดินกาดกองต้ากันได้นะคะ มีสินค้าพื้นเมืองและของกินเยอะมากเลย นครสวรรค์.มาต่อกันที่ จ.นครสวรรค์ ประตูสู่ภาคเหนือกันเลยค่ะ ที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มี Street Art ที่สวยงามไม่แพ้ใคร เพื่อนๆ สามารถไปชมผลงาน Street Art ของนครสวรรค์ ได้ที่บริเวณโรงปรับปรุงคุณภาพน้ำเทศบาลนครนครสวรรค์ค่ะ บอกเลยว่ามาที่นี่คุ้มเกินคุ้ม เพราะนอกจากจะได้ชื่นชมงานศิลปะแล้ว ยังจะได้ชมบรรยากาศสวยๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วยนะคะ กาฬสินธุ์.ชม Street Art ภาคเหนือกันมาแล้ว ก็มาชม Street Art ภาคอีสานกันบ้างดีกว่า ที่นี่นอกจากส้มตำปลาร้านัวๆ แล้ว เค้าก็ยังมีศิลปะสวยๆ ให้เราได้ชมกันด้วยนะคะ.อย่างเช่นที่กาฬสินธุ์ Street Art ของที่นี่มีความสวยงามโดดเด่นไม่เหมือนใคร เพราะนำเอาวิถีชีวิตและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์มาบอกเล่าผ่านผลงานศิลปะบนฝาผนัง โดยเน้นสีสันสดใสเพื่อให้รู้สึกสนุกสนานนั่นเองค่ะ  ที่นี่มี Street Art ให้เลือกชมหลายจุดเลย ไม่ว่าจะเป็นบริเวณกำแพงอิฐตรงวงเวียนไดโนเสาร์ กำแพงโรงหนังร้าง กำแพงหัวมุมทางเลี้ยวไปบ้านนายกฯ และกำแพงตรงข้ามโรงงานไส้กรอกปลา ถ้าเพื่อนๆ มีโอกาสมาเที่ยวกาฬสินธุ์ ก็อย่าลืมแวะชม Street Art สวยๆ เหล่านี้นะคะ ร้อยเอ็ด.สำหรับ Street Art ของร้อยเอ็ดนั้น แอดบอกเลยว่าไม่ควรพลาด เพราะถือเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของ จ.ร้อยเอ็ด เลยทีเดียว และยังเป็นการรวมตัวครั้งยิ่งใหญ่ของศิลปินมากฝีมือกว่า 50 ชีวิตจากทั่วทุกภูมิภาคของไทย ที่มาร่วมกันรังสรรค์ผลงานไว้ให้เราได้ชมกันค่ะ.หากเพื่อนๆ คนไหนอยากมาถ่ายรูปเช็คอิน ก็สามารถมาได้ที่บริเวณถนนแจ้งสนิท ตรงคูเมืองด้านทิศตะวันตกนะคะ อุบลราชธานี.Street Art ของที่นี่ขอบอกเลยว่าไม่ธรรมดา เพราะเป็นการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะลงบนผนังอาคารในย่านเมืองเก่าที่มีสภาพทรุดโทรม ให้มีสีสันขึ้นมาใหม่ด้วยผลงานศิลปะแนว Graffiti นั่นเองค่ะ และแล้วย่านเมืองเก่าแห่งนี้ก็ถูกปลุกขึ้นมาให้มีชีวิตชีวาอีกครั้ง หากเพื่อนๆ สนใจก็สามารถไปชมได้ที่ บริเวณทางเข้าตลาดใหญ่ โรงแรมศรีอิสาณ ถนนข้างวัดหลวง ร้านชัยวิตร์เภสัช ซอยข้างร้านเจริญสิน และซอยฝั่งตรงข้ามค่ะ จันทบุรี.เรามาชม Street Art ทางฝั่งภาคตะวันออกกันบ้างดีกว่า ที่ชุมชนหนองบัวหรือชุมชนขนมแปลก จ.จันทบุรี นั่นเองค่ะ ที่นี่เค้าไม่ได้มีดีแค่ขนมแปลกนะคะ แต่ยังแอบซ่อนงานศิลปะแนว Graffiti และ Street Art ไว้ทุกมุมในชุมชนเลยล่ะค่ะ.และที่สำคัญชุมชนหนองบัวยังมีบ้านเก่าแก่อายุนับร้อยปี ที่ยังคงอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีอีกด้วยค่ะ ซึ่งนับว่าเป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะแบบเก่าและใหม่ให้เข้ากันได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 9 มีนาคม 2562

Street Art…art on wall EP.2 อ่านเพิ่มเติม

พาสาน : สัญลักษณ์ต้นแม่น้ำเจ้าพระยา

หลายคนอาจสงสัยว่า คำว่า “พาสาน” แปลว่าอะไร? คำนี้ที่จริงไม่มีความหมายหรอกค่ะ แต่เป็นคำที่คิดขึ้นมาใหม่ โดยแผลงมาจากคำว่า “ผสาน” ซึ่งหมายถึง ทำให้เข้ากันสนิท หรือเชื่อมต่อกัน คำว่า “พาสาน” ในที่นี้จึงมีความหมายว่า การพาคนเข้ามาเชื่อมต่อกับสถานที่และสภาพแวดล้อมโดยรอบ เพื่อให้เกิดการผสมผสานกันอย่างลงตัว เช่นเดียวกับการรวมตัวกันของแม่น้ำสายหลัก จนเกิดเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา ณ ที่แห่งนี้ แม่น้ำเจ้าพระยาเป็นแม่น้ำสายใหญ่ ที่เกิดจากการรวมกันของแม่น้ำ 4 สาย คือ ปิง วัง ยม น่าน (โดยแม่น้ำวังจะไหลมารวมกับแม่น้ำปิง และแม่น้ำยมไหลมารวมกับแม่น้ำน่าน) เมื่อถึงจังหวัดนครสวรรค์ บริเวณปากน้ำโพแห่งนี้ แม่น้ำปิงและแม่น้ำน่านก็จะไหลมาบรรจบกัน กลายเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าเป็น “ต้นแม่น้ำเจ้าพระยา” นั่นเอง แม่น้ำปิงจะมีสีค่อนข้างเขียว ส่วนแม่น้ำน่านสีจะออกแดง เมื่อไหลมารวมกัน จึงทำให้เกิดปรากฎการณ์แม่น้ำสองสีขึ้นอย่างชัดเจน และเนื่องจากตั้งอยู่บริเวณต้นแม่น้ำเจ้าพระยา “อาคารพาสาน” จึงสร้างขึ้นโดยสะท้อนเอกลักษณ์ของแม่น้ำเจ้าพระยาออกมา ในรูปแบบของอาคารที่มีโครงสร้างโค้งและลื่นไหล มองดูราวกับสายน้ำที่กำลังเคลื่อนไหว สื่อถึงการรวมตัวกันของแม่น้ำสายหลักทั้ง 4 สาย ที่ผสานกันเป็น 2 สาย และรวมเป็นหนึ่งในที่สุด  ในช่วงน้ำขึ้น เราสามารถพายเรือลอดใต้อาคารพาสานเพื่อชมความงดงามของสถาปัตยกรรมได้ด้วยค่ะ อาคารแบ่งเป็น 2 ชั้นด้วยกัน คือ ชั้นที่อยู่ภายในตัวอาคาร และชั้นดาดฟ้า หากใครสนใจจะไปชม แอดแนะนำให้ไปตอนเย็นนะคะ เพราะเพื่อนๆ จะได้ชมไฮไลท์ของที่นี่ ซึ่งก็คือการชมพระอาทิตย์ตกนั่นเองค่ะ บอกเลยว่าบรรยากาศโรแมนติกสุดๆ บริเวณใต้อาคารเป็นสนามหญ้าและสวนขนาดเล็ก เหมาะสำหรับมานั่งเล่นพักผ่อนหย่อนใจมากๆ เลย  การเดินทางไปยังอาคารสัญลักษณ์ต้นแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งนี้สามารถไปได้ทั้งทางบกและทางน้ำเลยนะคะ  แต่แอดอยากจะแนะนำให้ไปทางน้ำค่ะ เพราะเพื่อนๆ จะได้สัมผัสกับความงดงามของต้นแม่น้ำเจ้าพระยา และวิถีชีวิตของผู้คนริมนํ้าได้อย่างใกล้ชิด ค่าเรือไป-กลับคนละ 30 บาทเท่านั้นเอง อย่าลืมไปเที่ยวกันเยอะๆ นะคะ

พาสาน : สัญลักษณ์ต้นแม่น้ำเจ้าพระยา อ่านเพิ่มเติม

อุทยานแห่งชาติแม่วงก์

อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ มีพื้นที่ครอบคลุมอำเภอปางศิลาทอง จังหวัดกำแพงเพชร อำเภอแม่วงก์ และอำเภอแม่เปิน จังหวัดนครสวรรค์ มีเนื้อที่ประมาณ 558,750 ไร่ เป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำลำธารต่างๆ และยังมีแหล่งท่องเที่ยวมากมายภายในอุทยานฯ อีกด้วย  ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ โทร.090 457 9291 ค่าเข้าชม : ชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาทชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท น้ำตกแม่รีวา หรือ น้ำตกแม่เรวา  อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 21 กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่สวยงาม และมีถึง 5 ชั้นด้วยกัน หากเพื่อนๆ อยากจะชมความงามกลางป่านี้ จะต้องเดินเท้าเข้าไป ใช้เวลาเดินทางไป-กลับ 3-4 วัน น้ำตกแม่กระสา หรือ น้ำตกแม่กาสา เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มี 9 ชั้น อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 18 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้าไป-กลับ 3-4 วัน แก่งผานางคอย  เป็นน้ำตกเล็กๆ มี 4 ชั้น อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 1,400 เมตร เป็นแก่งหินลำห้วยคลองขลุง จากบริเวณแก่งหินเดินขึ้นไปประมาณ 350 เมตรจะถึงน้ำตก และบริเวณใกล้น้ำตกยังสามารถกางเต็นท์พักแรมได้อีกด้วย สามารถจองที่พักและสอบถามเกี่ยวกับการกางเต็นท์ได้ที่ : http://nps.dnp.go.th/ เส้นเดินทางศึกษาธรรมชาติ  เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบดูนก ในภาพนี้คือนกเงือกคอแดงค่ะ นอกจากนกเงือกแล้ว ยังมีนกกระเต็นขาวดำใหญ่ นกภูหงอนพม่า และยังมีนกที่ถูกบันทึกไว้ว่าเจอที่นี่อีกประมาณ 300 ชนิดเชียวนะคะ ว้าววว เยอะมากๆ เลย ช่องเย็น  จุดชมพระอาทิตย์ตกของอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ และยังเป็นจุดชมทะเลหมอกอีกด้วย เนื่องจากมีลมพัดผ่านตลอด และมีอุณภูมิเฉลี่ยตลอดทั้งปีประมาณ 20 องศาเซลเซียส จึงเป็นที่มาของชื่อ “ช่องเย็น” นั่นเองค่ะ เนื่องจากช่องเย็นเป็นทางเลียบหน้าผาที่แคบ รถไม่สามารถสวนกันได้ ทางอุทยานฯ จึงได้กำหนดเวลาขึ้น-ลงดังนี้ เวลาขึ้น : 05.00 – 06.00 น. / 09.00 -10.00 น. / 13.00 – 14.00 น.เวลาลง : 07.00 – 08.00 น. / 11.00 – 12.00 น. / 15.00 – 16.00 น.  ทะเลหมอกช่องเย็น มันก็จะหนาๆ แบบนี้เลย ยอดเขาโมโกจู  เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในอุทยานฯ อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 38 กิโลเมตร เหมาะสำหรับนักผจญภัยที่ชอบเดินป่า ปีนเขา เพราะการเดินทางไปถึงยอดเขานี้ ต้องใช้เวลาไป-กลับ 5 วันเลยทีเดียว และต้องติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อนำทางด้วย เพราะฉะนั้นหากเพื่อนๆ สนใจจะไปพิชิตยอดเขานี้ละก็ อย่าลืมเตรียมความพร้อมของร่างกายด้วยนะคะ

อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ อ่านเพิ่มเติม

เขาหน่อ เขาแก้ว จ.นครสวรรค์

เขาหน่อ เขาแก้ว ตั้งอยู่ในบริเวณวัดเขาหน่อ ตำบลบ้านแดน อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ ห่างจากตัวเมืองนครสวรรค์ประมาณ 45 กิโลเมตร เป็นเขาหินปูนที่สวยงามแปลกตา ในส่วนของเขาหน่อจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ เขานางพันธุรัต และเขาพระพุทธบาทหรือเขาหน่อ มาเริ่มที่แรกกันที่เขานางพันธุรัต เป็นเขาลูกเล็ก อยู่ห่างจากเขาพระพุทธบาทประมาณ 300 เมตร ด้านบนเป็นที่ประดิษฐานพระนอนขนาดใหญ่และยังมีถ้ำที่ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นถ้ำพญานาค มีทางเข้าออกเพียงทางเดียว หากสนใจจะเข้าไปชมควรพกไฟฉายไปด้วย หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ให้พาเข้าไปนะคะ พระนอนขนาดใหญ่บนเขานางพันธุรัต มาต่อกันที่เขาพระพุทธบาท ที่เรียกว่าเขาพระพุทธบาทก็เพราะที่นี่มีรอยพระพุทธบาทจำลองอยู่ด้านบน แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่เรียกกันติดปากว่า เขาหน่อค่ะ… และก็มาถึงช่วงทดสอบกำลังกายและกำลังใจแล้ว ช่วงแรกๆ ทางขึ้นเขาหน่อจะเป็นบันไดปูนนะคะ แต่พอช่วงหลังๆ จะเป็นบันไดลิงแบบในภาพนี้เลยค่ะ ทั้งสูงทั้งชัน แอดเคยได้ยินแต่ยิ่งสูงยิ่งหนาว แต่นี่..ยิ่งสูงยิ่งเหนื่อยค่ะ และไม่แน่ใจว่าที่ขาสั่นเพราะเหนื่อยหรือว่าแอดตื่นเต้นกันแน่ แฟนเพจอย่าลืมพกน้ำดื่ม ยาดม ยาหอมกันมาด้วยนะคะ เดี๋ยวจะหาว่าแอดไม่เตือน ! พอขึ้นถึงจุดชมวิวแล้ว ก็รู้สึกคุ้มที่ปีนขึ้นมาเลย มันเป็นความเจ็บปวดที่งดงามมากๆ ค่ะ ฮ่าๆๆ มองเห็นทุ่งนาและสวนของชาวบ้านในบริเวณรอบๆ มองไปทางไหนก็มีแต่สีเขียวสวยงามมากๆ เลยค่ะ นั่งพักให้หายเหนื่อยสักครู่ แล้วเดินมาสักการะรอยพระพุทธบาทจำลองบนเขาหน่อแห่งนี้เพื่อความเป็นสิริมงคลของชีวิตนะคะ แอดไม่ได้พาวาร์ปมาลพบุรีนะคะ เรายังอยู่กันที่เขาหน่อนี่แหละค่ะ เจ้าถิ่นของที่นี่อยู่กันเป็นครอบครัว เป็นฝูง เป็นนิคมเลยก็ว่าได้ บางตัวก็เป็นมิตรน่ารักทักทายได้ แต่บางตัวก็แสบซนตามประสาลิง เพราะฉะนั้นแฟนเพจต้องระวังด้วยนะคะ ส่วนเขาแก้วนั้นเป็นที่ตั้งของถ้ำหลายถ้ำ ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของค้างคาวนับหมื่นตัว ในช่วงเย็นๆ โพล้เพล้ๆ จะมีฝูงค้างคาวจำนวนมากบินออกมาจากเขาแก้ว จนดูเหมือนเส้นริบบิ้นสีดำตัดกับสีของท้องฟ้าสวยงามมากค่ะ เขาหน่อ เขาแก้ว เปิดทุกวัน เวลา 08.00-16.00 การเดินทาง : จากตัวเมืองนครสวรรค์ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ไปทางเส้นนครสวรรค์-กำแพงเพชร เขาจะอยู่ด้านขวามือ ให้สังเกตป้ายวัดเขาหน่อค่ะ

เขาหน่อ เขาแก้ว จ.นครสวรรค์ อ่านเพิ่มเติม

นครสวรรค์ in heaven … กราบไหว้องค์พระ สักการะเทพเจ้า

นครสวรรค์ หรือเมืองปากน้ำโพ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่มีความผสมผสานกันอย่างลงตัวทั้งวิถีชีวิตชาวไทย และพี่น้องเชื้อสายจีน ดังจะเห็นได้จากประเพณีแห่เจ้าที่ยิ่งใหญ่ของจังหวัด เริ่มต้นสายบุญกันที่ “วัดคีรีวงศ์” ด้วยพื้นที่กว่า 280 ไร่ ตั้งอยู่บนเขาดาวดึงส์ อำเภอเมือง โดดเด่นด้วยพระจุฬามหาเจดีย์สีทองอร่าม ภายในฐานพระเจดีย์ชั้น 4 มีพระพุทธรูปจำลองที่สำคัญของไทยไว้ให้สักการะบูชา ทั้งพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร(พระแก้วมรกต) พระพุทธชินราชจำลอง พระพุทธโสธรจำลอง และพระพุทธรูปหล่อหลวงพ่อวัดไร่ขิง จากจุดดังกล่าวสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองนครสวรรค์ได้ในระยะไกล ไม่ว่าจะเป็นเขากบ บึงบอระเพ็ด ตลาดปากน้ำโพ อุทยานสวรรค์ ต้นแม่น้ำเจ้าพระยา หรือแม้แต่ภูเขาน้อยใหญ่ทางทิศตะวันตกที่ทอดตัวตระหง่าน ยิ่งยามเย็นเมื่อตะวันลับเหลี่ยมยอดเขาหลวง ทำให้รู้สึกว่าสวรรค์นั้นอยู่ไม่ไกล วัดศรีอุทุมพร หรือ วัดวังเดื่อ อยู่ที่ตำบลหนองกรด อำเภอเมือง เป็นวัดที่ชาวนครสวรรค์ให้ความเคารพศรัทธา โดยเฉพาะหลวงพ่อจ้อย จนฺทสุวณฺโณ อดีดเจ้าอาวาส ผู้ได้รับสมญานามว่าเป็นเทพเจ้าแห่งเมืองปากน้ำโพ เนื่องจากเป็นพระนักพัฒนาผู้เปี่ยมไปด้วยเมตตา ภายในวัดตกแต่งด้วยศิลปกรรมปูนปั้นที่อ่อนช้อยสวยงาม เป็นรูปช้างสามเศียร พญานาค และพญายักษ์อยู่ระหว่างประตูทางเข้า ภายในพระอุโบสถประดิษฐานองค์หลวงพ่อพระประธานและพระสรีรสังขารของหลวงพ่อจ้อยที่ไม่เน่าเปื่อยให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้สักการบูชา พระพุทธชินสีห์ วัดศรีอุทุมพร วัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ หรือวัดพระพี่นาง เป็นวัดในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ตั้งอยู่ที่ตำบลทำนบ อำเภอท่าตะโก โดดเด่นด้วยเจดีย์ศรีพุทธคยาอันเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ โดยจำลองแบบสถาปัตยกรรมและงานพุทธศิลป์มาจากเจดีย์พุทธคยา เมืองคยา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย และสถาปัตยกรรมต่างๆ ที่แฝงแนวความคิดไว้ด้วยปริศนาธรรม และธรรมคติให้เป็นแหล่งเรียนรู้แก่เยาวชนและสาธุชนทั้งหลาย  เจดีย์ศรีพุทธคยา เฉลิมพระเกียรติ ศาลเจ้าพ่อเทพารักษ์- เจ้าแม่ทับทิม หรือศาลเจ้าพ่อแควใหญ่ ถือเป็นศูนย์รวมศรัทธาไทย-จีน ที่สร้างขึ้นมาอย่างยาวนาน และเป็นต้นกำเนิดของงานประเพณีแห่เจ้าที่เลื่องชื่อของชาวปากน้ำโพ ตัวศาลเจ้าตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงข้ามตลาดปากน้ำโพ เป็นอาคารตึกครึ่งไม้สีแดงรูปทรงมีลักษณะเป็นเก๋งจีน หลังคาประดับด้วยมังกรคู่ชูลูกแก้วปลายสันหลังคาที่ทอดยาวลงมาสร้างเป็นหัวมังกร ภายในประดิษฐานองค์เทพเจ้าปึงเถ่ากง ด้านขวาเป็นเทพเจ้ากวนอู ด้านซ้ายประดิษฐานเจ้าแม่ทับทิม ชาวนครสวรรค์มักแวะเวียนมากราบไหว้ขอพรบารมีจากเจ้าแม่ให้คุ้มครอง และขอให้มีโชคลาภตลอดทั้งปี เทพเจ้ากวนอู ศาลเจ้าพ่อเทพารักษ์- เจ้าแม่ทับทิม ปิดท้ายการทำบุญไหว้พระด้วยการถ่ายภาพร่วมกับรูปปั้นมังกรขนาดใหญ่ ทอดตัวยาวตัดกับท้องฟ้าสีสดดูน่าเกรงขาม สัญลักษณ์แห่งเมืองนครสวรรค์ที่สวนสาธารณะ “หนองสมบุญ” หรือที่รู้จักกันในนาม “อุทยานสวรรค์” เพื่อเป็นสิ่งให้ระลึกนึกถึง ว่าครั้งหนึ่งเคยได้แวะมาเมืองแห่งสวรรค์แห่งนี้ … “นครสวรรค์”

นครสวรรค์ in heaven … กราบไหว้องค์พระ สักการะเทพเจ้า อ่านเพิ่มเติม

ขึ้นเขาดาวดึงส์ สักการะพระจุฬามณีเจดีย์

“ขึ้นเขาดาวดึงส์ สักการะพระจุฬามณีเจดีย์ วัดคีรีวงศ์ จ.นครสวรรค์” พระจุฬามณีเจดีย์ เป็นเจดีย์ขนาดใหญ่ มีทั้งหมด 4 ชั้น สร้างโดยพระราชพรหมาจารย์ (หลวงพ่อมหาบุญรอด) อดีตเจ้าอาวาสวัดคีรีวงศ์ ใช้เวลาก่อสร้างยาวนานถึง 17 ปี ตั้งแต่ พ.ศ.2533-2550 โดยสร้างบนฐานของเจดีย์เก่าแก่สมัยสุโขทัย ด้านหน้าพระจุฬามณีเจดีย์ มีศาลาไหว้พระจุฬามณีเจดีย์ภายในมีพระพุทธรูปต่างๆ มากมาย เราสามารถจุดธูปไหว้พระกันได้ที่หน้าศาลานี้ เมื่อเดินผ่านศาลาไปจะพบกับฐานชั้นที่ 1 ของเจดีย์ ซึ่งมีเจดีย์องค์เล็กประดับอยู่ 4 มุม และมีพระพุทธรูปปางต่างๆ รวมทั้งเทพเจ้าประดิษฐานอยู่หลายองค์ และมีทางขึ้นสู่ชั้นบนของเจดีย์ บนชั้นที่ 2 มีรูปหล่อขนาดเท่าองค์จริงของพระเกจิอาจารย์ชื่อดังหลายองค์ เช่น หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค จ.พระนครศรีอยุธยา และหลวงปู่สด วัดปากน้ำ กรุงเทพมหานคร เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูป และรอยพระพุทธบาท 12 ราศี สามารถจุดธูปเทียนบูชาและปิดทองกันได้ ชั้นที่ 3 ประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่างๆ ไว้ให้ประชาชนได้กราบไหว้ แต่ไม่อนุญาตให้ปิดทอง  นอกจากนี้ยังมีให้ร่วมทำบุญด้วยการซื้อระฆังคู่ เชื่อกันว่าการทำบุญด้วยระฆังจะทำให้มีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นสิริมงคลแก่ชีวิต เปรียบเหมือนเสียงแห่งสวรรค์ค่ะ ชั้นที่ 4 ซึ่งเป็นชั้นบนสุด เป็นส่วนขององค์ระฆัง ตรงกลางมีเจดีย์ทรงระฆังองค์เล็กที่ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุซึ่งนำมาจากประเทศศรีลังกา บนเพดานโดมมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องพุทธประวัติที่สวยงามให้ได้ชมกันแบบต่อเนื่องเลย ที่ผนังของเจดีย์มีซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูปซึ่งจำลองมาจากพระพุทธรูปที่สำคัญของไทยอยู่ทั้ง 4 ทิศ ได้แก่– พระพุทธชินราช ทิศเหนือ – พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือพระแก้วมรกต ทิศใต้– พระพุทธโสธร ทิศตะวันออก – พระพุทธรูปหลวงพ่อวัดไร่ขิง ทิศตะวันตก บริเวณชั้น 4 เป็นจุดชมวิวที่สามารถชมทิวทัศน์เมืองนครสวรรค์ได้ไกลถึง 10 กิโลเมตร และยังชมได้รอบทิศทาง อย่างในภาพนี้จะเห็นองค์พระใหญ่ และหนองน้ำขนาดใหญ่ของอุทยานสวรรค์ด้วย สวยมากๆ เลยค่ะ นอกจากนี้บนชั้น 4 ยังมีเจดีย์องค์เล็กประดิษฐานอยู่ทั้ง 4 มุม มีพระพุทธรูปปางประทานพรทั้ง 4 ทิศ และยังมีรูปเหมือนของหลวงพ่อมหาบุญรอด ผู้สร้างเจดีย์แห่งนี้ไว้ให้ระลึกถึงด้วยค่ะ ใกล้กับพระจุฬามณีเจดีย์ ยังมีหอชมเมืองสูง 10 ชั้น ที่สามารถขึ้นไปชมทิวทัศน์รอบตัวเมืองนครสวรรค์ได้ 360 องศาเลยทีเดียว  หอชมเมือง เปิดให้บริการทุกวัน วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 10.00-16.30 น. วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00-19.00 น. ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท บรรยากาศพระจุฬามณีเจดีย์ในยามค่ำคืน ประดับไฟระยิบระยับสวยงาม ดูมีมนต์ขลัง ราวกับพระจุฬามณีเจดีย์บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เลยทีเดียว วัดคีรีวงศ์ เปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น. การเดินทาง : จากสะพานเดชาติวงศ์ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 117 ถึงสี่แยกพหลโยธินเลี้ยวขวาเข้าถนนมาตุลี ตรงไปจนถึงสี่แยกที่ตัดกับถนนดาวดึงส์ ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยมาตุลี 18 ขับรถขึ้นเขาไปอีก 2 กิโลเมตร จะถึงพระจุฬามณีเจดีย์

ขึ้นเขาดาวดึงส์ สักการะพระจุฬามณีเจดีย์ อ่านเพิ่มเติม

ร้านเด็ดปากน้ำโพ

ร้านเด็ดปากน้ำโพ จ.นครสวรรค์ มาดูกันค่ะวันนี้แอดพาไปชิมร้านอร่อยๆ รับรองว่าเด็ดจริงๆ ขอบอก…

ร้านเด็ดปากน้ำโพ อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top