กรุงเทพมหานคร

กรุงเทพมหานคร

🌿 กาลิเลโอเอซิส : GalileOasis 🌿

หากวันหยุดเพียงระยะเวลาสั้น ๆ อาจไม่เป็นใจให้ใครหลาย ๆ คนออกเดินทางไปพักผ่อนในต่างจังหวัด…อยากลองเปลี่ยนบรรยากาศมาพักผ่อนในเมืองกรุงฯ กันดูไหม เพราะในกรุงเทพฯ เมืองที่เต็มไปด้วยอาคารมากมายกระจายตัวอยู่ทั่วเมือง ยังมีมุมลับสีเขียวที่หลบซ่อนอยู่ในซอยเล็ก ๆ ย่านบรรทัดทอง กาลิเลโอเอซิส เป็นอาร์ตสเปซขนาดย่อม ตั้งอยู่ในซอยเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยความแออัดและทรุดโทรมอย่างมากก่อนจะทำการรีโนเวทใหม่ให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ปัจจุบันได้กลายเป็นแหล่งรวมร้านอาหาร คาเฟ่ ที่พัก ร้านเสื้อผ้าแฟชั่น แต่งแต้มสีสันภายในโครงการฯ ด้วยศิลปะจากอาร์ตแกลเลอรี่ นิทรรศการหมุนเวียน และโรงละคร หากพร้อมแล้ว จะพาไปชมบรรยากาศภายในโครงการกัน กาลิเลโอเอซิส ตั้งอยู่ในซอยโรงเรียนกิ่งเพชร ที่นี่ไม่มีที่จอดรถ  แนะนำการเดินทางโดยรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีราชเทวี ทางออก 1 ปักหมุดกาลิเลโอเอซิส เดินเข้าซอยพญานาคไปเรื่อย ๆ จนถึงแยกซอยโรงเรียนกิ่งเพชร เดินเข้าซอยไปเพียงนิดเดียวก็จะเห็นป้ายโครงการฯ ระยะทางรวม 800 เมตร  ซอยโรงเรียนกิ่งเพชร ถนนบรรทัดทอง แขวงถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กรุงเทพมหานครhttps://goo.gl/maps/3dBgDVdzoLoYzjXZ7 เมื่อเดินมาถึง มองเห็น  Piccolo Vicolo Café (พิคโคโล่ วิโคโล่ คาเฟ่) ตั้งเด่นอยู่หน้าโครงการฯ จนต้องเดินเข้าไปทันที ภายในร้านตกแต่งสไตล์วินเทจ ติดกระจกรอบด้าน ทำให้รู้สึกโปร่งสบาย ไม่อึดอัด  เช้า ๆ แบบนี้ ไม่ว่าจะวันไหน ๆ แค่ได้กลิ่นกาแฟก็หอมชื่นใจ ไม่รีรอที่จะสั่งเครื่องดื่มสักแก้ว  หลาย ๆ คนที่มา มักจะแนะนำเมนู “กาแฟมะพร้าว” เพราะเป็นกาแฟที่ใช้ความหวานจากน้ำมะพร้าวแท้ ทำให้กาแฟมีรสหวาน กลิ่นหอมสดชื่น  นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่มอีกหลายชนิดให้ลอง สั่งกาแฟแล้วก็ไม่พลาดที่จะสั่งขนมหวานมาลองชิมคู่กัน  เมนูนี้คือ Flourless Chocolate Cake หรือเค้กช็อกโกแลตไร้แป้ง สายคนรักสุขภาพไม่พลาดแน่นอน รสชาติเข้มข้น หวานน้อย ราดซอสราสป์เบอร์รีฉ่ำ ๆ  บรรยากาศภายร้านแต่ละมุมก็น่านั่งไปหมด เหมาะแก่การมานั่งชิล ๆ ในช่วงวันหยุดสั้น ๆ จิบกาแฟเพลิน ๆ แค่คิดก็ฟินน่าดู  Piccolo Vicolo Café บอกก่อนว่าที่นี่ยังมีมุมลับ ๆ อยู่อีก เดี๋ยวจะพาขึ้นไปชมที่ชั้น 2 กัน บริเวณชั้นที่ 2 ของร้าน Piccolo Vicolo Cafe’ เป็นอาร์ตแกลเลอรี่แบบหมุนเวียน แถมยังได้รับความนิยมไม่น้อย ในภาพนี้คือนิทรรศการ “ดิน นํ้า ลม ไฟ กับใจสองดวง” ที่รวบรวมผลงาน ของ คุณอรพินท์ กุศลรุ่งรัตน์ และ คุณอรพรรณ ลีทเกนฮอสท์ งานเซรามิกที่โดดเด่นด้วยลวดลายจากธรรมชาติ สู่กระบวนการปั้นและเผาจนเกิดเป็นเซรามิกที่สวยงาม แม้ว่างานจะจบลงไปแล้ว แต่เพื่อน ๆ ยังสามารถติดตามงานต่อ ๆ ไปรวมถึงอัปเดตกิจกรรมกันได้ที่https://www.facebook.com/GalileOasis-106387081866312/ ภายในโครงการกาลิเลโอเอซิส มีที่นั่งด้านนอกให้เพื่อน ๆ ได้นั่งพักผ่อนชิล ๆ กันด้วย ไม่ต้องกลัวว่าจะร้อน เพราะที่นี่มีบรรยากาศร่มรื่นมาก ๆ เลยล่ะ

🌿 กาลิเลโอเอซิส : GalileOasis 🌿 อ่านเพิ่มเติม

ปักหมุดเที่ยวตลาดน้ำย่านตลิ่งชัน

เสาร์อาทิตย์นี้เพื่อน ๆ มีแพลนหรือยัง?? หากใครยังไม่รู้ว่าวันหยุดนี้จะไปเที่ยวไหน หรืออยากเที่ยวใน #กรุงเทพฯ แบบชิล ๆ เดินทางสะดวกรวดเร็ว มาปักหมุดเที่ยวตลาดน้ำย่านตลิ่งชัน 4 แห่ง ในกรุงเทพฯ กัน ตลาดน้ำ เป็นแหล่งรวมซื้อ-ขายสินค้าหลากหลายตามวิถีชีวิตของชุมชนที่อยู่ติดริมแม่น้ำลำคลอง มักจะนิยมพายเรือขายของกันทางน้ำ และยังดำเนินวิถีชีวิตอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน แม้ตลาดน้ำในปัจจุบันจะแตกต่างจากในอดีตไปบ้างเล็กน้อย แต่ความต้องการอนุรักษ์ไว้ ทำให้ตลาดน้ำเหล่านี้ยังมีชีวิต วันนี้ จะชวนเพื่อน ๆ ไปชิม ชอป ชมตลาดน้ำย่าน #ตลิ่งชัน ตามพิกัดดังนี้📍 ตลาดน้ำสองคลองวัดตลิ่งชัน📍 ตลาดน้ำตลิ่งชัน📍 ตลาดน้ำคลองลัดมะยม📍 ตลาดน้ำวัดสะพาน เส้นทางเดินรถบัสฟรีเที่ยว 4 ตลาดน้ำย่านตลิ่งชัน  จะเดินรถแบบวนรอบเมืองไปยังตลาดน้ำแต่ละจุด เริ่มต้นเส้นทางที่ MRT บางขุนนนท์ มุ่งหน้าไปตลาดน้ำสองคลองวัดตลิ่งชัน และตลาดน้ำตลิ่งชัน จากนั้น รถจะเข้าไปรับ-ส่ง ผู้โดยสารที่สายใต้ใหม่ แล้วเดินรถต่อไปยังตลาดน้ำคลองลัดมะยม และตลาดน้ำวัดสะพาน  ให้บริการในวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 09.00-16.45 น. (รอบละ 15-20 นาที ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรในช่วงนั้น)  การเดินทางไปตลาดน้ำแต่ละแห่งในลิสต์นั้น เพื่อน ๆ สามารถเดินทางได้ง่าย ๆ เพราะตอนนี้ กทม. จัดโครงการดี ๆ พานักท่องเที่ยวไปเที่ยวตลาดน้ำด้วยรถบัสไฟฟ้าฟรี  จุดที่ให้บริการรับ-ส่ง นักท่องเที่ยวจุดแรกอยู่ที่ MRT บางขุนนนท์ เพื่อน ๆ ที่มารถไฟฟ้าหรือรถโดยสารธารณะที่ตนสะดวก ให้มาลงที่บริเวณทางออกประตูที่ 2 หรือ 3 (ฝั่งทางเข้าตลาดบางขุนนนท์) เมื่อลงมาใต้สถานี ก็จะเจอจุดคอยรถบัส  รถบัสจะให้บริการเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 09.00-16.45 น. ให้บริการรอบละ 15-20 นาที ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรด้วย  ใครกลัวว่าจะคอยนาน ไม่ต้องกังวลไป เพราะเพื่อน ๆ สามารถเช็ครถบัสที่ให้บริการในขณะนั้นได้ว่ารถอยู่ที่ไหน ผ่านแอปพลิเคชั่นเวียบัส (Via Bus) โดยการสแกน QR Code ที่ป้ายจุดจอดรถ เท่านี้ก็จะสามารถติดตามรถบัสจาก GPS บนรถแต่ละคันได้  รถบัสจะวิ่งไปตลาดน้ำแต่ละแห่งตามลำดับของเส้นทาง จุดแรก มาเที่ยวที่ “ตลาดน้ำสองคลองวัดตลิ่งชัน”  รถจะจอดด้านหน้าวัด เพื่อน ๆ สามารถเดินผ่านวัดเข้ามายังตลาดน้ำได้เลย ตลาดน้ำสองคลองวัดตลิ่งชัน  เป็นตลาดน้ำที่อยู่ระหว่าง 2 คลอง ได้แก่ คลองชักพระและคลองวัดตลิ่งชัน เป็นตลาดที่ร่มรื่น ลมพัดเย็นสบาย แบ่งออกเป็นโซน ๆ ให้เดินซื้อของได้สะดวก มีที่นั่งรับประทานอาหารอยู่ริมคลอง  ของขายส่วนใหญ่ พ่อค้าแม่ค้าจะตั้งแผงกันด้านบนพื้นที่ริมคลอง และก็จะมีเรือขายของมาเทียบท่าด้วยเช่นกัน ขอบอกเลยว่าอาหารแต่ละร้านเด็ด ๆ ทั้งนั้น เช่น ก๋วยจั๊บญวน ก๋วยเตี๋ยวต้มยำสูตรโบราณ ขนมเบื้อง หมูสะเต๊ะ ขนมครกเตาถ่าน กาแฟสดหอม ๆ และผักผลไม้จากชาวบ้านอีกเพียบ นอกจากนี้ยังมีดนตรีสดโดยชาวบ้านในพื้นที่มานั่งร้องเพลงเปิดหมวกให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกันด้วย และในแต่ละวัน ทางตลาดน้ำยังมีกิจกรรม Work Shop ให้กับเพื่อน ๆ ที่สนใจมาร่วมสนุกกันได้ สามารถติดตามข่าวสารทางเพจ ตลาดน้ำ2คลอง วัดตลิ่งชัน  ตลาดน้ำสองคลองวัดตลิ่งชัน  ถนนชักพระ แขวงคลองชักพระ เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร เปิดวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 07.00-17.00 น. 08 9205 7532 Facebook: ตลาดน้ำ2คลอง วัดตลิ่งชันhttps://goo.gl/maps/e9173RGiQgKg3qgk8 มาแวะเที่ยวชมกันต่อที่ “ตลาดน้ำตลิ่งชัน”  ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตลาดน้ำสองคลองวัดตลิ่งชันมากนัก สามารถเดินถึงกันได้ ใช้เวลาประมาณ 5-10 นาที หรือใครไม่สะดวกเดิน ก็สามารถรอรถที่จุดจอดรถจากหน้าวัดตลิ่งชัน แล้วนั่งมาลงที่นี่ได้เช่นกัน ชื่อตลาดอาจจะฟังดูคล้ายกัน เพื่อน ๆ อย่าสับสนกันนะ ตลาดน้ำตลิ่งชัน  ตั้งอยู่ติดกับสำนักงานเขตตลิ่งชัน บรรยากาศที่ตลาดน้ำแห่งนี้ค่อนข้างคึกคัก มีของขายมากมาย ตั้งแต่ต้นไม้ อาหารคาวหวานที่ละลานตา ผักผลไม้สด ๆ ที่ชาวบ้านในละแวกนี้เก็บมาขาย บางชนิดหารับประทานได้ยาก ตั้งเรียงตั้งแต่ทางเข้าตลาดไปจนถึงริมคลองด้านใน มีพ่อค้าแม่ค้าพายเรือนำผลผลิตผักสดผลไม้ที่ปลูกเองมาขาย บางลำก็ขายอาหารคาว ขนมหวาน รวมทั้งสินค้าหัตถกรรมต่าง ๆ ส่วนบนแพก็ยังมีร้านค้าอีกคับคั่ง  ช่วงกลางวัน ประมาณ 11.00-14.00 น. ในตลาดยังมีการแสดงดนตรีไทย รวมทั้งมีคาราโอเกะในสวนให้เพื่อน ๆ ได้ไปร้องเพลง หรือฟังเพลงกันอย่างเพลิดเพลินอีกด้วย  ที่ตลาดน้ำตลิ่งชัน มีเรือนำเที่ยวให้บริการสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการล่องเรือเที่ยวชมคลอง ตามเส้นทางที่ทางเรือจัดไว้ให้ มีทั้งให้บริการเป็นรอบ ๆ และแบบเหมาลำ สามารถไปติดต่อสอบถามที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ที่บริเวณทางเข้าด้านในริมคลอง   ตลาดน้ำตลิ่งชัน  ติดกับสำนักเขตตลิ่งชัน แขวงคลองชักพระ เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร เปิดวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 08.00-17.00 น. 08 7694 3219https://goo.gl/maps/WN38FEuCfQWtKBFz5 ออกมาขึ้นรถบัสที่หน้าสำนักงานเขตตลิ่งชัน แล้วมาต่อกันที่ “ตลาดน้ำคลองลัดมะยม”  ตลาดน้ำยอดฮิตที่มีนักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวที่นี่จำนวนมาก เพราะเป็นตลาดน้ำขนาดใหญ่ มีสินค้ามากมาย และมีกิจกรรมให้เพื่อน ๆ ได้ร่วมสนุกกัน  ระหว่างทางก่อนมาที่นี่ รถบัสจะเข้าไปรับ-ส่ง ผู้โดยสารที่ขนส่งสายใต้ใหม่ด้วยนะ หากเพื่อน ๆ สะดวกไปขึ้นหรือลงรถที่นั่น ก็สามารถไปได้เช่นกัน ประเดิมที่ของกินกันก่อน  ภายในตลาดน้ำคลองลัดมะยมมีร้านค้าร้านอาหารจำนวนมาก เดินไปโซนไหนก็น่าซื้อไปหมด ไม่ว่าจะเป็น หมี่กะทิ ขนมเบื้องโบราณ ขนมจีนน้ำยาปู ก๋วยเตี๋ยวชามกะลา ผัดไท ทะเลเผา ขนมไทยหลากชนิด และอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากของกินแล้วก็ยังมีของใช้ของประดับต่าง ๆ ทั้งเสื้อผ้า ของเล่น เครื่องปั้นดินเผา ของเก่าน่าสะสม และร้านต้นไม้  ที่นี่ยังมีร้านให้บริการนวดแผนไทยด้วยนะ ใครปวดเมื่อยตัวก็มาแวะก่อนได้ เดินเลียบริมคลอง ก็จะเห็นพ่อค้าแม่ค้าบรรทุกสินค้าในเรือมาจอดเลียบคลองขายของกันตลอดทาง

ปักหมุดเที่ยวตลาดน้ำย่านตลิ่งชัน อ่านเพิ่มเติม

✨เสพศิลป์ กินอร่อย @ย่านทรงวาด ✨

ทรงวาด ถนนเส้นเล็ก ๆ ขนานกับถนนเยาวราชที่มีระยะทางไม่ถึง 2 กิโลเมตร เป็นย่านเก่าแก่ที่ยังมีอาคารสวย ๆ อายุหลักร้อยปีหลงเหลือให้ได้เห็นจนถึงปัจจุบัน แม้ถนนทรงวาดจะไม่คึกคักเหมือนถนนเยาวราช แต่เสน่ห์ของที่นี่คือความร่องรอยความเก่า ที่สวยงามแบบไม่ได้ตั้งใจ ที่แฝงอยู่ในร้านอาหารใหม่ ๆ แกลเลอรี่และร้านกาแฟเก๋ ๆ โฮสเทลดีไซน์สวยงามตามแบบสมัยนิยม รวมไปถึงศาลเจ้า วัดและมัสยิดเก่าแก่ ที่แทรกอยู่ในหลืบซอยให้ชาวชุมชนได้ยึดเหนี่ยวจิตใจ หากเพื่อน ๆ มีเวลาว่างสัก 1 วัน อยากให้ลองอ่านคอนเทนต์นี้แล้วตามรอยดู เชื่อว่าเสน่ห์ทรงวาดจะทำให้เพื่อน ๆ ประทับใจได้แน่นอน ถนนทรงวาดตั้งอยู่ติดริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ในอดีตเป็นศูนย์กลางการค้านำเข้า-ส่งออกสินค้านานาชนิด โดยมีที่มาของชื่อจาก จากการที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นผู้วาดแนวถนนเส้นนี้ลงบนแผนที่ เพื่อลดความแออัดของพื้นที่ในย่านสำเพ็งหลังจากเกิดเพลิงไหม้ครั้งใหญ่เมื่อปี พ.ศ. 2449 แม้ว่าถนนทรงวาดในปัจจุบันจะไม่คึกคักเท่าแต่ก่อน แต่ร่องรอยของความรุ่งเรืองยังคงปรากฏให้เห็นจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเส้นทางท่องเที่ยวที่จะนำมาเสนอวันนี้คือ1. ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง เซี้ยอึ้งกง2. ก๋วยจั๊บถังไม้ ตรอกอาเนียเก็ง3. ร้าน F.V4. PLAY art house5. Naam1608 หนึ่งในตึกสวยของหัวมุมถนนทรงวาด คือตึกเก่าทรงสวยที่เรียกกันว่าตึกแขก เดิมเป็นที่ตั้งของห้าง เอ.ที.อี. มัสกาตี (A.T.E Maskati) บริษัทนำเข้าสินค้าโดยพ่อค้าชาวอินเดียจากเมืองอาร์เมดาบัด เพื่อนำมาขายในเมืองไทยและประเทศต่าง ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซุ้มหน้าต่างของตัวตึกมีทรงโค้ง ประกอบแผ่นไม้ฉลุเป็นลายลูกไม้ มีลักษณะสถาปัตยกรรมแบบเดียวกับที่พบในอินเดียตะวันตก เมืองสุรัตและในเมืองมุมไบ ที่ได้รับอิทธิพลแบบอิสลามจากในช่วงที่ปกครองโดยสุลต่าน ใครมาเที่ยวเล่นแถวทรงวาด ต่างต้องมาถ่ายรูปไว้เสมอ ถือเป็นอีกหนึ่งซิกเนเจอร์ของถนนทรงวาดเลยล่ะ 1. ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเซี้ยอึ้งกง เริ่มเที่ยวกันที่ ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเซี้ยอึ้งกง ที่สร้างโดยเจ้าสัวติก จากการขอพระราชทานที่ดินจากรัชกาลที่ 5 เพื่อสร้างตึกแถวภายในตรอกแตง และแบ่งที่ดินส่วนหนึ่งสร้างเป็นศาลเจ้าขนาดเล็กเพื่อประดิษฐานเทพเจ้าหลักเมืองหรือเซี้ยอึ้งกง ที่อัญเชิญมาจากเมืองจีน ภายในศาลเจ้ามีระฆังโบราณ ที่มีข้อความระบุไว้ว่า “ปีที่ 22 แห่งรัชสมัยพระเจ้าเต้ากวง” หรือเทียบได้กับปี พ.ศ. 2385 ในสมัยรัชกาลที่ 3 ในหมู่ศาลเจ้าจีนบริเวณย่านทรงวาดและสำเพ็ง ศาลเจ้าเซี้ยอึ้งกงหรือศาลเจ้าหลักเมืองแห่งนี้ ถือว่าเป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่มีความเก่าแก่และมีคติความเชื่อที่น่าสนใจแตกต่างจากศาลเจ้าอื่น ๆ ในย่านนั้น เนื่องจากเทพเจ้าเซี้ยอึ้งกง ซึ่งเป็นประธานของศาลเจ้าแห่งนี้ คือเทพหลักเมืองตามความเชื่อของคนจีน ซึ่งจะมีการตั้งศาลเจ้าหลักเมืองที่ข้างกำแพงเมืองหรือคูเมือง ที่เป็นทางเข้าออก ซึ่งทุกคนจะต้องผ่านศาลนี้เพื่อเป็นการขออนุญาต และยังเชื่อว่าเทพเจ้าหลักเมืองมีหน้าที่ควบคุมการเข้าออกของดวงวิญญาณ หากมีผู้เสียชีวิตจะต้องมาไหว้เพื่อแจ้งเทพหลักเมืองให้ทราบก่อนที่จะเคลื่อนย้ายหรือนำศพไปฝังอีกด้วย นอกจากคติความเชื่อเกี่ยวกับความตายของศาลเจ้าแห่งนี้แล้ว ชาวชุมชนในพื้นที่ยังนิยมมาไหว้ขอพรเกี่ยวกับด้านธุรกิจการค้า ให้ราบรื่น สำเร็จลุล่วง แถมในศาลเจ้าแห่งนี้ยังมีพระพุทธชินราชที่สามารถมาไหว้ขอพรเรื่องโชคลาภและเรื่องโรคภัยไข้เจ็บได้อีกด้วย 2. ก๋วยจั๊บถังไม้ ตรอกอาเนียเก็ง ร้านก๋วยจั๊บน้ำใสเก่าแก่ระดับตำนาน ที่เปิดมานานกว่า 60 ปี เด่นที่ทางร้านจะนำเส้นก๋วยจั๊บแช่ไว้ในถังไม้ เพื่อกักเก็บความร้อน เลยเป็นที่มาของชื่อร้าน แถมน้ำซุปใสมีรสชาติกลมกล่อม หอมพริกไทย เครื่องในสดใหม่ไร้กลิ่นคาว เครื่องแน่นทุกชาม ยิ่งใครชอบหมูกรอบรับรองเลยว่าต้องติดใจ แม้จะเป็นร้านเล็ก ๆ ตั้งอยู่ในตรอก แต่ลูกค้าทยอยมากันไม่ขาดสาย แม้ว่าเวลาปิดร้านจริงคือบ่าย 2 โมง แต่ใครมาหลังบ่ายโมงก็อาจต้องลุ้นว่าจะอดกิน เพราะร้านนี้ของหมดไวมาก หากใครชอบตึกสวย ๆ สามารถแวะไปชมความสวยงามของโรงเรียนเผยอิง ที่ปัจจุบันตั้งอยู่ด้านหลังศาลเจ้าเล่าปูนเถ้ากงได้ ซึ่งโรงเรียนแห่งนี้ผ่านกาลเวลามากว่าร้อยปีแล้ว ผ่านช่วงสงครามโลก ช่วงเปลี่ยนแปลงการปกครองในจีน ผ่านวิกฤตทางเศรษฐกิจมากมาย แต่อาคารแห่งนี้ยังอยู่ในสภาพดี เป็นตึกสวยหลังศาลที่ยังอยู่คู่ถนนทรงวาดต่อไปดังที่เคยเป็นมา แต่หากเพื่อน ๆ ต้องการถ่ายภาพตึกแล้วเผยแพร่ ต้องทำหนังสือขอล่วงหน้าด้วยนะ เพราะทางโรงเรียนอนุญาตให้ชมได้ด้วยตาเท่านั้น  3. ร้าน F.V F.V ย่อมาจาก Fruit & Vegetables เป็นร้านรวมของดี ที่ตัวร้านเป็นอาคารปูนเก่าที่ภายในตกแต่งแบบจัดเต็ม มีการสร้างยุ้งฉางจำลองที่สามารถขึ้นไปนั่งกินนั่งดื่มได้ ตามกำแพงแขวนรูปภาพที่ดูทันสมัย เฟอร์นิเจอร์ที่ทางร้านเลือกใช้ก็มีทั้งแนววินเทจและโมเดิร์น ผลลัพธ์ที่ออกมาสวยเก๋มีสไตล์สุด ๆ  เครื่องดื่มของทางร้าน ก็ค่อนข้างแปลกไปจากคาเฟ่อื่น ๆ อย่างเมนูชา ที่ทางร้านจะนำพืชที่หลายคนมักมองข้ามมาสกัดให้เป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เช่น ต้นไมยราบ ตำลึง ลางสาด หรือวัชพืชที่ขึ้นรกอยู่ตามรั้วบ้าน แถมยังมีเมนูที่ทำจากวัตถุดิบตามฤดูกาลเวียนไปเรื่อย ๆ จนทำให้ร้านนี้เป็นหนึ่งในร้านที่มีลูกค้าแวะเวียนกลับมาอุดหนุนอยู่เป็นประจำ อีกหนึ่งสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นของถนนทรงวาด คือมัสยิดหลวงโกชา อิศหาก มัสยิดแห่งเดียวในย่านชุมชนจีน ที่ตัวอาคารเป็นอาคารสีเหลืองสไตล์นีโอคลาสสิก ปัจจุบันมัสยิดแห่งนี้เป็นสถานที่ส่วนบุคคล มีลูกหลานหลวงโกชาฯ เป็นผู้ดูแล แต่เปิดให้ชาวมุสลิมโดยรอบสามารถเข้ามาละหมาดได้ 4. PLAY art house PLAY art house เป็นแกลเลอรีงานศิลปะร่วมสมัยแห่งแรกบนถนนทรงวาด ตัวอาคารมี 3 คูหา เหนือประตูแขวนป้ายทรงกลม พร้อมโลโก้รูปหัวเสาแบบไอออนิก (Ionic Order) หนึ่งในสามแบบเสาคลาสสิกของกรีกและโรมันโบราณ พร้อมด้วยผนังสีน้ำเงินเด่นตัดด้วยสีดำของหน้าต่าง ประตู ที่เจ้าหน้าที่มักจะกล่าวเชิญชวนให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมาแวะเข้ามาภายในด้วยสีหน้ายิ้มแย้มอยู่เสมอ ๆ แม้ในอดีตที่นี่จะเป็นโกดังรองเท้า แต่ปัจจุบันเจ้าของตึกได้เปลี่ยนเป็นแกลลอรี่ ที่จัดแสดงภาพถ่ายและงานศิลปะแบบหมุนเวียน ซึ่งบ่อยครั้ง ผลงานที่จัดแสดงจะสะท้อนมุมมองของศิลปินที่มีต่อย่านทรงวาดในหลายแง่มุม ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่สามารถเรียนรู้ความเป็นทรงวาดได้ดีทีเดียว 5. Naam 1608 ปิดวันกันที่ร้านอาหารไทยพื้นถิ่นฟิวชั่นติดริมแม่น้ำ ที่เหมาะกับการมานั่งหย่อนอารมณ์ ชมวิวพระทิตย์ตกดินพร้อมกับกินของอร่อย นอกจากวิวแล้ว วัตถุดิบ เมนูอาหารและการบริการของทางร้านก็ดีไม่แพ้กัน แม้รสชาติอาจจะปรุงมากลาง ๆ เพราะลูกค้าที่มาอุดหนุนมีหลายเชื้อชาติ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าอร่อยเลยล่ะ แต่แนะนำให้โทรศัพท์จองล่วงหน้า เพราะหากใครไปโดยไม่จอง มีโอกาสสูงมากที่จะไม่ได้โต๊ะ

✨เสพศิลป์ กินอร่อย @ย่านทรงวาด ✨ อ่านเพิ่มเติม

🌸 ชมพูพันธุ์ทิพย์บานแล้ววว 🌸

ดอกไม้หน้าร้อนที่สวยไม่แพ้ใครอย่างชมพูพันธุ์ทิพย์ ที่จะออกดอกบานสะพรั่งปีละครั้งก็เริ่มทยอยบานแล้ว สวยหวานได้ฟีลเหมือนต่างประเทศเลยล่ะ วันนี้มีเกร็ดความรู้ของต้นชมพูพันธุ์ทิพย์มาให้อ่านกันเพลิน ๆ ค่ะ ชมพูพันธุ์ทิพย์ หรือชมพูอินเดีย หรือตาเบบูย่าสีชมพู เป็นไม้ยืนต้นที่มีต้นกำเนิดจากเขตร้อนของทวีปอเมริกาใต้ มีการนำมาปลูกกันอย่างแพร่หลาย เป็นไม้ประดับตกแต่งและให้ร่มเงาในสวนสาธารณะหรือตามถนนหนทาง กิ่งเปราะ ดอกร่วงหล่นง่าย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศด้วยค่ะ ชมพูพันธุ์ทิพย์จะผลัดใบในช่วงเดือนพฤศจิกายน-มกราคม และจะออกดอกช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน ซึ่งช่วงออกดอกบานเต็มต้นประมาณ 2-3 สัปดาห์เท่านั้น จากนั้นดอกจะค่อย ๆ ร่วงแล้วแตกใบใหม่ รู้แบบนี้ต้องรีบมาชมกันแล้วนะ สำหรับใครที่อยากไปชมดอกชมพูพันธุ์ทิพย์บานสะพรั่ง เรามีพิกัดใกล้กรุงเทพฯ มาฝาก แนะนำให้ไปช่วงเช้า ๆ หรือบ่ายแก่ ๆ เพราะอากาศไม่ร้อนมาก และอยากให้ช่วยกันรักษาบรรยากาศในการชื่นชมดอกไม้ด้วยนะคะ ไม่ป่ายปีน โน้มกิ่ง หักกิ่ง เด็ดดอกไม้เล่นและไม่ทิ้งขยะในบริเวณพื้นที่นั้น ๆ กันนะคะ จะมีที่ไหนบ้างมาดูกันเลย สวนจตุจักร กรุงเทพฯ บานแล้ว ถนนกำแพงเพชร 3 แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ https://goo.gl/maps/CjZDiwKn3khXb9he9 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน คาดว่าจะบานเต็มที่ช่วงต้นเดือนมีนาคม ตำบลกำแพงแสน อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม https://goo.gl/maps/CQMXUNDP7jnj9dAAA สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) บานแล้ว ถนนกำแพงเพชร 3 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ https://goo.gl/maps/X73ZPX3mTwfoWrvA7 สวนสาธารณะใต้สะพานพระราม 7 บานแล้ว แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ https://goo.gl/maps/ELWveU2xz84xrRmN6

🌸 ชมพูพันธุ์ทิพย์บานแล้ววว 🌸 อ่านเพิ่มเติม

✨ TAKE YOUR TIME ✨

สุดสัปดาห์นี้ถ้าใครไม่อยากอยู่บ้าน เรามีนิทรรศการศิลปะแห่งห้วงเวลาของศิลปินชื่อดังอย่างคุณ #SUNTUR หรือ ซันเต๋อ-ยศนันท์ วุฒิกรสมบัติ ที่บอกเล่าเรื่องราวการเดินทาง ความทรงจำและสิ่งที่เขาพบเจอ ในระยะเวลา 33 ปี ออกมาเป็น 33 ภาพวาด โดยใช้ชื่อนิทรรศการนี้ว่า TAKE YOUR TIME ที่ตัวศิลปินจะมาแบ่งปันห้วงเวลาและประสบการณ์ของเขาให้ผู้ที่มาชมได้เรียนรู้เรื่องราวสุขและทุกข์ให้เป็นเหมือนเรื่องราวธรรมดา ๆ ของชีวิตที่ทุกคนต่างต้องเจอ ผ่านภาพวาดแสนเรียบง่าย หากเพื่อน ๆ พร้อมจะใช้เวลาส่วนตัวมาเรียนรู้เรื่องราวผ่านภาพวาดแล้ว ลองตามมาดูกัน นิทรรศการ Take Your Time เกิดขึ้นจากการที่คุณ SUNTUR และ Trendy Gallery ร่วมมือกันจัดงานขึ้นที่ River City Bangkok หนึ่งในสถานที่จัดนิทรรศการสุดฮิตย่านเจริญกรุง เมื่อเดินทางมาถึง เพื่อน ๆ จะเจอทางเข้างานที่มีลักษณะเป็นซุ้มอุโมงค์ยาว นำทางไปสู่ห้องจัดแสดงนิทรรศการ ภายในอุโมงค์จะเป็นเหมือนพื้นที่ปรับอารมณ์ให้สงบลงก่อนเดินชมภาพจริง มีแสง สี เสียงหลาย Mood ที่เปลี่ยนไปทุก ๆ 10 นาที เป็นจุด มหาชนที่หลายคนชอบมาถ่ายรูป บริเวณทางเข้า จะมี QR Code ที่ภายในมีเพลงที่แต่งขึ้นมาเฉพาะสำหรับนิทรรศการนี้ให้สแกนฟัง สำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มอรรถรสในการชมให้มากขึ้นหรืออาจต้องการตัดขาดจากโลกภายนอกระหว่างชมนิทรรศการ เพื่อน ๆ สามารถสแกนแล้วใส่หูฟังได้เลย ซึ่งเพลงที่จะได้ฟังมีชื่อว่า Day 1 to End เป็นเพลงบรรเลงยาว 9:23 นาที ที่มอบจินตนาการทั้งสุขและเศร้าผ่านโสตประสาท ระหว่างที่เราชมภาพในนิทรรศการ “หยิบออกจนคงเหลือเพียงสิ่งสำคัญ” คือนิยามการทำงานศิลปะของคุณ SUNTUR ที่งานแต่ละชิ้นล้วนต้องผ่านการคิด การทบทวนซ้ำแล้วซ้ำอีก ทั้งการสื่อสารผ่านภาพวาด การตั้งชื่อภาพ ที่ต่อให้แม้ทั้งแคนวาสจะเต็มไปด้วยพื้นที่ว่าง แต่ก็ไม่ยากที่จะพบความหมายที่แฝงไว้กลางภาพวาดผืนนั้น จุดเด่นของนิทรรศการนี้คือการบอกเล่าเรื่องของเวลา ว่าควรใช้เวลาให้มีความสุขและคุ้มค่ามากแค่ไหน ถึงแม้ว่าจะมีเรื่องเศร้าผ่านมาให้ต้องเจอบ้าง แต่มันก็คือเรื่องธรรมดาที่เราต้องเจอ Happiness won’t last long ความสุขสนุกสนาน เหมือนว่าวที่ลอยอยู่ในอากาศ ลอยตัวได้จากลม แต่ถ้าลมหยุดก็ต้องหล่นลงมา หากยังมีเวลาสนุก จงสนุกให้เต็มที่กันล่ะ Take your time ภาพวาดชื่อเดียวกับนิทรรศการ คนเรามีมุมสนุกและมองหาความสุขในตัวอยู่เสมอ อย่าลืมใช้เวลาให้คุ้มค่ากันล่ะ หรือต่อให้เราผ่านช่วงเวลาที่เคยสนุกที่สุดมาแล้ว ก็อย่าเสียใจไป อย่างน้อยเราก็เคยมีช่วงเวลานั้นที่เป็นความทรงจำดี ๆ ของเรา Don’t worry mom, I’m fine ภาพวาดสำหรับคนเหงาที่อยู่ไกลบ้านในยุคสมัยคุยโทรศัพท์ผ่านตู้ การได้คุยโทรศัพท์สั้น ๆ กับครอบครัวอาจเป็นช่วงเวลามอบแสงสว่างให้คลายเหงา คำว่า “สบายดี ไม่ต้องเป็นห่วง” อาจเป็นคำพูดคลายกังวลให้คนที่บ้านรับรู้และอุ่นใจได้เช่นกัน See you soon ภาพที่กล่าวถึงคุณตาคุณยายหรือคนที่ออกเดินทางไกลไปก่อนเรา หากวันหนึ่งกาลเวลานำพาเราให้ได้เจอกันอีกครั้ง เราก็คงไม่ต่างกับเด็กน้อยของพวกเขาอย่างเช่นที่เคยเป็นมา Low happiness cost บางครั้งความสุขคือการแค่ได้นั่งทอดใจกับใครสักคน ยังมีภาพอีกมากมายให้เพื่อน ๆ ได้ใช้เวลากับการแชร์ประสบการณ์ร่วมกับภาพนั้น แต่อีกจุดที่อยากให้เพื่อน ๆ ได้ชมคือ การนำบทกลอนสอนใจ ซึ่งแต่งโดยคุณพ่อของคุณ SUNTUR มาร่วมจัดแสดงไว้ภายในงานนี้ด้วย ภายในงาน มีจุดให้เลือกชมเลือกซื้อสินค้า อย่างเช่น โปสการ์ด แก้วกาแฟ ปลอกหมอน เสื้อยืดสกรีนลายภาพวาด ถุงผ้าและเก้าอี้ดีไซน์เก๋ ๆ ที่ปัจจุบันของเหล่านี้แทบจะกลายเป็นของสะสมแทนของไปใช้แล้ว หลังจากชมนิทรรศการนี้เสร็จแล้ว เชื่อว่าหลายคนที่มาคงตกผลึกความรู้สึกบางอย่างของตัวเองจากการเชื่อมโยงประสบการณ์ผ่านภาพวาดของคุณ SUNTUR และรับรู้ได้ว่า จะสุขแสนหวาน ทุกข์แสนขม การพบเจอแสนพิเศษหรือการจากลาที่ไม่มีใครอยากพบเจอ ล้วนเป็นสิ่งธรรมดาที่เราต้องเรียนรู้และยอมรับมัน หากใครยังไม่เคยมางานชมงานศิลป์บนผืนผ้าแคนวาส หรือมองว่านิทรรศการแบบนี้เข้าถึงยาก อยากให้ลองมา Take Your Time รับรองว่าพื้นที่เหนือกาลเวลาที่จัดเพียงชั่วคราวแห่งนี้ จะตอบแทนการมาด้วยอะไรที่เป็นมากกว่าการชมภาพนิ่งแน่นอน หากเพื่อน ๆ สนใจ สามารถร่วมชมนิทรรศการศิลปะเดี่ยวครั้งที่ 3 TAKE YOUR TIME ของศิลปิน SUNTUR ได้ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์-23 เมษายน พ.ศ. 2566 ที่ River City Bangkok ชั้น 2 ที่ห้อง RCB Galleria 2  เข้าชมฟรี  : 23 ซอย เจริญกรุง 24 แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร 10100: เปิดทุกวัน 10.00-20.00 น.: 09-0312-0910: https://goo.gl/maps/SvAeJfVs49Bqcrfa8 : Bts ลงที่สถานีสะพานตากสิน ใช้ทางออก 1 หรือ 2 และนั่งเรือด่วนเจ้าพระยา (ธงเหลือง ธงส้ม และธงเขียว) ลงที่ท่าเรือสี่พระยาMRT ลงสถานีหัวลำโพง ใช้ทางออก 1 แล้วนั่งรถวินมอเตอร์ไซต์ ราคา 20 บาท

✨ TAKE YOUR TIME ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ กินขนม ชมดอกไม้ มองวิว ย่านพระนคร – คลองสาน ✨

หลายคนอาจกำลังมองหาที่เที่ยวในวันหยุดที่มีทั้งที่เที่ยว ที่กิน จุดถ่ายรูปและการเดินทางที่สะดวก หากใครมีเวลาว่าง 1 วันแล้วรู้สึกเบื่อ ๆ อยากออกมาเดินเที่ยวข้างนอก แต่ไม่รู้จะไปที่ไหน ลองมาอ่านเป็นไอเดียและตามรอยคอนเทนต์นี้ดู อาจเปลี่ยนวันหยุดที่ว่างเป็นวันหยุดที่ว้าว และสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้เพื่อน ๆ ประทับใจในวันหยุดก็ได้ 1. The Old Siam Plaza เริ่มกันที่ ดิโอลด์สยาม พลาซ่า ศูนย์การค้าใจกลางเกาะรัตนโกสินทร์ โดดเด่นด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบคลาสสิก แหล่งรวมผ้าไหม ขนม อาหารไทย และมุมถ่ายภาพให้นักเที่ยวสายสะพายกล้องมาเก็บภาพกันได้หลายมุม เนื่องจากในอดีตที่นี่เป็นที่ตั้งของ ตลาดมิ่งเมือง ภายในอาคารแห่งนี้จึงมีการจำลองบรรยากาศร้านค้าของตลาดมิ่งเมืองในอดีตเอาไว้ โดยเฉพาะร้านขายผ้าชิ้น และชุดตัดสำเร็จหลากสีหลายแบบมากกว่า 10 ร้าน แถมยังมีร้านขายเครื่องประดับสวยงามอย่าง เพชร พลอย ทองรูปพรรณ ให้แก่ผู้หลงใหลในความงามของงานฝีมือและอัญมณีนับสิบร้าน นอกจากนี้ ยังมีร้านขายปืน ซุ้มพระเครื่อง ศูนย์ขายอุปกรณ์และศูนย์ซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าอีกด้วย ลานเฟื่องนคร จุดรวมร้านขนมไทยและอาหารไทยหลายร้าน อยากให้ลองแวะมาชิม ทำสด ๆ วันต่อวัน รสชาติอร่อยถูกใจ หลายคนผ่านมาแถวนี้ทีไรต้องแวะเข้าไปซื้อซ้ำอยู่บ่อย ๆ เลยทีเดียว 2. มิวเซียมสยาม (Museum Siam) หลังจากกินและถ่ายรูปที่ ดิโอลด์สยาม พลาซ่า ก็ถึงเวลามุ่งหน้าสู่สถานที่ถัดไป “มิวเซียมสยาม” พิพิธภัณฑ์ที่เหมาะกับคนทุก Gen มีเรื่องราวแบบไทย ๆ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันในหลายแง่มุม ไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ความเชื่อ วิถีชีวิต ฯลฯ โดยจัดแสดงผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่ จับต้องได้ เข้าใจและเข้าถึงง่าย ซึ่งใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 10 นาทีเท่านั้น มิวเซียมสยาม ดูแลโดยสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ เริ่มเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2551 เป็นอาคาร 3 ชั้น มีห้องจัดแสดงนิทรรศการถาวร และร้านค้าของที่ระลึก มีทางเข้าออกบริการผู้พิการและผู้สูงอายุ ด้านหน้าอาคารแบ่งพื้นที่บางส่วนเพื่อใช้เป็นทางขึ้น-ลงรถไฟฟ้าสถานีสนามไชย ทางออกที่ 1 เริ่มเปิดบริการในปี พ.ศ. 2562 ที่ผ่านมา ภายในพิพิธภัณฑ์ เพื่อน ๆ สามารถถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอเก็บเป็นความรู้ ประสบการณ์ความประทับใจได้ทุกห้อง มีการจัดแสดงนิทรรศการถาวรชุด “ถอดรหัสไทย” (DECODING THAINESS) ที่จะพาทุกคนไปเรียนรู้พัฒนาการของ “อัตลักษณ์ความเป็นไทย” ที่ดูเหมือนจะมีความชัด แต่กลับคลุมเครือจากการหลอมรวมวัฒนธรรมที่หลากหลาย ผ่านเรื่องราวของความเป็นไทยในมิติต่าง ๆ อย่าง ประวัติศาสตร์ของไทย สถาปัตยกรรม วัฒนธรรม ประเพณีต่าง ๆ อาหารการกินและเครื่องแต่งกาย อยากรู้เป็นยังไง ลองมาหาคำตอบให้ตัวเองกันได้ที่นี่เลย : 4 ถนนสนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ: เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 10.00-18.00 น. (ปิดวันจันทร์): โทร. 0 2225 2777: https://g.page/museumofsiam?share 3. พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช จุดหมายถัดไปหลังจากเดินชมประวัติศาสตร์ของไทยในมิวเซียมสยามแล้ว คือการมาเดินชม “ปากคลองตลาด” ก่อนถึงปากคลองตลาดเพื่อน ๆ จะเจอกับ “พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช” ตั้งประดิษฐานอย่างโดดเด่น ณ เชิงสะพานปฐมบรมราชานุสรณ์หรือสะพานพุทธฯ ฝั่งพระนคร  พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สร้างขึ้นตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อให้เป็นอนุสรณ์ของปฐมกษัตริย์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อครั้งเฉลิมฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ครบ 150 ปี ในปี พ.ศ. 2475 โดยมีการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อเชื่อมฝั่งพระนครกับฝั่งธนบุรีด้วยในคราวเดียวกัน โดยมีศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี เป็นผู้ปั้นแบบและหล่อพระบรมราชานุสาวรีย์ด้วยทองสำริด มีความสูงตั้งแต่ฐานจนถึงยอด 4.60 เมตร (ต่อมาได้เสริมแท่นให้สูงขึ้นอีกประมาณ 1 เมตร) 4. ปากคลองตลาด ห่างจาก “พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช” ประมาณ 200 เมตร ก็ถึง “ปากคลองตลาด” ตลาดดอกไม้ที่มีชื่อเสียงและมีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ที่ขายดอกไม้กันมานานนับร้อยปีแล้ว มีขายทั้งปลีกและส่ง มีดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์ทั้งของไทยและต่างประเทศ ดอกไม้แห้ง ดอกไม้สดก็มีหมด แถมเปิดตลอด 24 ชั่วโมง ใครอยากได้ดอกไม้สวย ๆ ไม่ว่าในโอกาสอะไร ที่นี่ตอบโจทย์สุด ๆ  ดอกไม้มีให้เลือกหลากหลาย เดินดูกันได้เพลินเลยล่ะ  นอกจากดอกไม้แล้ว ที่นี่ก็มีร้านอาหารและคาเฟ่ ให้สามารถฝากท้องและนั่งพักได้หลายร้านเลยล่ะ 5. พระปกเกล้าสกายปาร์ค (สวนลอยฟ้าเจ้าพระยา) ก่อนหมดวัน อีกหนึ่งสถานที่ที่อยากแนะนำก็คือ สวนลอยฟ้าเจ้าพระยา ซึ่งแต่เดิมบริเวณนี้เคยเป็นโครงสร้างของรางรถไฟฟ้าลาวาลินที่ถูกปล่อยทิ้งร้างเอาไว้ไม่ได้ใช้ประโยชน์ ทางกรุงเทพมหานครจึงเข้ามาปรับภูมิทัศน์ให้กลายเป็นสวนสาธารณะลอยฟ้าเหนือผิวน้ำบนสะพานพระปกเกล้า สามารถมองเห็นวิวโดยรอบได้ถึง 360 องศา ทีเดียวเชียว  สวนสาธารณะแห่งนี้ ถูกออกแบบให้มีทั้งทางเดินเท้าและเลนจักรยาน มีการปลูกต้นไม้ให้ร่มเงา มีโต๊ะนั่งพักผ่อน ชมวิว สามารถมาเดินออกกำลังกายเบา ๆ ได้เพลินเลยล่ะ ยิ่งช่วงเย็น ๆ บรรยากาศจะดีเป็นพิเศษ อากาศไม่ร้อนเกินไป มีลมพัดเย็น ๆ พร้อมวิวพระอาทิตย์ตก ถือเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดอีกแห่งในกรุงเทพฯ เลยล่ะ

✨ กินขนม ชมดอกไม้ มองวิว ย่านพระนคร – คลองสาน ✨ อ่านเพิ่มเติม

Airport to City ลงเครื่องแล้วจะเข้าเมืองได้อย่างไร?

ช่วงนี้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาพักผ่อนที่ประเทศไทยกันค่อนข้างมาก และเราเชื่อว่าไม่ได้มีแค่นักท่องเที่ยวต่างชาติเท่านั้นที่หาข้อมูลสำหรับการเดินทางเข้าเมือง เมื่อลงเครื่องที่สนามบินในกรุงเทพมหานคร นักท่องเที่ยวชาวไทยที่อาศัยอยู่ต่างจังหวัดอีกหลายท่าน ที่มีแพลนเข้ามาท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ แล้วต้องการข้อมูลการเดินทางเข้าเมือง เซฟโพสต์นี้เก็บไว้ได้เลยค่ะ เพราะเพื่อนร่วมทาง อย่างเรา มัดรวมวิธีเดินทางเข้าเมืองไว้ให้คุณแล้ว ทั้งจากสนามบินสุวรรณภูมิเข้าเมือง และจากสนามบินดอนเมืองเข้าเมือง บอกเลยว่าทริปพักผ่อนที่กรุงเทพฯ รอบนี้ สบายใจเรื่องการเดินทางแน่นอนค่ะ จากสนามบินสุวรรณภูมิ สามารถเดินทางเข้าเมืองได้ถึง 4 วิธี1. รถไฟฟ้า Airport Rail Link >> ให้บริการระหว่างสถานีท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (A1) – พญาไท (A8) และสามารถเดินทางต่อได้เพียงเปลี่ยนสายไปยังรถไฟฟ้า BTS หรือรถเมล์ โดยรถไฟฟ้า Airport Rail Link เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 05.30-24.00 น. ของทุกวัน ค่าบริการอยู่ที่ 45 บาท (หากใครต้องเดินทางต่อโดยใช้รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT แนะนำให้ลงที่สถานีมักกะสัน (A6) แล้วเปลี่ยนสายไปยังรถไฟฟ้า MRT ได้เลยค่ะ) 2.รถตู้สาธารณะ >> เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าเมืองรอบนอก เช่น มีนบุรี, อ่อนนุช, ปากน้ำ, ดอนเมือง, ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ค่าบริการอยู่ที่ 27-60 บาท549 ทสภ.-มีนบุรี >> ให้บริการตั้งแต่ 05.00-22.00 น.552 ทสภ.-สถานีรถไฟฟ้าอ่อนนุช >> ให้บริการตั้งแต่ 05.00-22.00 น.552A ทสภ.-ปากน้ำ >> ให้บริการตั้งแต่ 05.00-22.00 น.555 ทสภ.-ดอนเมือง >> ให้บริการตั้งแต่ 05.00-22.00 น. และ 06.00-23.00 น.559 ทสภ.-ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต >> ให้บริการตั้งแต่ 06.00-23.00 น. 3. รถโดยสารสาธารณะ บขส. >> มีให้บริการทั้งเข้าเมืองในกทม. และเดินทางต่อไปยังต่างจังหวัด>> เข้าเมืองในกทม.สาย S1 สนามหลวง >> ให้บริการตั้งแต่ 06.00-17.00 น.สาย 555 รังสิต (ทางด่วนพระรามเก้า) >> ให้บริการตั้งแต่ 04.30-21.00 น.สาย 554 รังสิต (ถนนรามอินทรา) >> ให้บริการตั้งแต่ 04.30-18.40 น.สาย 558 เซ็นทรัลพระราม 2 >> ให้บริการตั้งแต่ 05.30-19.00 น.>> เดินทางไปยังต่างจังหวัด (บริเวณอาคารผู้โดยสารชั้น 1 ประตู พัทยา (จอมเทียน) >> ให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.หัวหิน >> ให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00-19.30 น.เกาะช้าง >> ให้บริการเวลา 07.00 น. และ 11.00 น.เกาะกูด >> ให้บริการเวลา 07.00 น. 4. Taxi บริเวณชั้น 1 ประตู 4 และประตู 7 จากท่าอากาศยานนดอนเมือง สามารถเดินทางเข้าเมืองได้ถึง 3 วิธี 1. รถไฟฟ้าสายสีแดง >> ให้บริการเส้นทางบางซื่อ-รังสิต เดินทางจากสถานีกลางบางซื่อ (RW01/RN01) ไปยังสถานีดอนเมือง (RN08) ค่าบริการอยู่ที่ 33 บาท เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 05.30-24.00 น. ของทุกวัน 2. รถเมล์ปรับอากาศ >> รถเมล์ปรับอากาศเข้าเมือง จากดอนเมืองไปยังจุดต่าง ๆ มีทั้งหมด 4 สาย จอดรับผู้โดยสารที่อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ชั้น 1 ประตู 6 และอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ชั้น 1 ประตู 12 ค่าบริการอยู่ที่ 30-50 บาท ตลอดสาย สาย A1 สนามบินดอนเมือง – BTS จตุจักร-สถานีขนส่งหมอชิต 2 >> ให้บริการตั้งแต่ 06.50-24.00 น.สาย A2 สนามบินดอนเมือง – BTS จตุจักร-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ >> ให้บริการตั้งแต่ 05.00-23.00 น.สาย A3 สนามบินดอนเมือง-ประตูน้ำ-ราชประสงค์-สวนลุมพินี >> ให้บริการตั้งแต่ 07.00-23.00 น.สาย A4 สนามบินดอนเมือง-อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย-ถนนข้าวสาร-สนามหลวง >> ให้บริการตั้งแต่ 07.00-23.00 น. สำหรับใครที่มีต่อเครื่อง/เปลี่ยนสายการบิน ระหว่างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ-ท่าอากาศยานดอนเมือง ก็มีบริการ Airport Shuttle Bus รับส่งระหว่างสนามบินฟรีด้วยนะคะ โดยจำเป็นจะต้องมีตั๋วเครื่องบินแสดงให้กับเจ้าหน้าที่ก่อนใช้บริการ ให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00-20.00 น. ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ให้บริการบริเวณอาคารผู้โดยสารชั้น 2 ประตู 3ท่าอากาศยานดอนเมือง ให้บริการบริเวณอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ อาคาร 1 ชั้น 1 ประตู 6

Airport to City ลงเครื่องแล้วจะเข้าเมืองได้อย่างไร? อ่านเพิ่มเติม

💕 5 สถานที่เดทในกรุงเทพฯ 💕

กุมภา…กุมมือคนรักไปเที่ยวกัน 🫶💕 💕ใกล้ช่วงวาเลนไทน์แบบนี้ไปไหนดีนะ คนมีแฟนคงกำลังก้มหน้าหาลิสต์ชวนกันไปเดทอยู่แน่ ๆ ส่วนคนโสดก็ไม่ต้องเสียใจไป ชวนแก๊งเพื่อนไปเที่ยวก็ได้ ไปกันหลายคนรับรองไม่เหงาใจแน่นอน 🥰 วันนี้มีไอเดียแหล่งท่องเที่ยวเดทกับหวานใจมาฝากกันค่ะ ไปดูกันเลย สะพานเขียว สวนลุมพินี สถานที่เดทที่ดีต่อใจ ก็ต้องที่นี่เลยค่ะ #สะพานเขียว เป็นสกายวอล์กเชื่อมระหว่างสวนลุมพินีและสวนเบญจกิติ สวนสาธารณะใจกลางเมือง ที่มาที่ไปของสะพานเขียว มาจากสะพานเส้นนี้ทาถนนเป็นสีเขียวตลอดเส้นเลยล่ะ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ญี่ปุ่นเหมือนกันนะคะ เรียกได้ว่าพาหวานใจมาถ่ายรูป แฮปปี้แน่นอน ถนนสารสิน แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯเปิดทุกวัน เวลา 06.00 – 21.00 น.MRT : สถานีลุมพินี ทางออก 3https://goo.gl/maps/4DWiiPmvEDHnpxeA8 ท่ามหาราช คอมมิวนิตีริมแม่น้ำเจ้าพระยา บรรยากาศสุดโรแมนติก ที่มีทั้งร้านอาหาร จุดถ่ายรูปเก๋ ๆ พาหวานใจมาดื่มด่ำกับวิวสวย ๆ ทั้งเช้าจนค่ำ หรือจะพาชอปเพลิน ๆ ก็ได้เช่นกัน ประทับใจแน่นอน  #ท่ามหาราช อยู่ไม่ไกลจากพระบรมมหาราชวัง เพื่อน ๆ สามารถเดินไปไหว้พระกันได้ หรือจะนั่งเรือข้ามฟากไปเที่ยวตลาดวังหลัง วัดระฆังโฆษิตารามวรมหาวิหารได้อีกด้วย  1/11 ตรอกเสถียร แขวงบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯเปิดทุกวัน เวลา 10.00 – 21.00 น.MRT : สถานีสนามไชย ทางออก 5https://goo.gl/maps/j7sAE5jBcHqgfcxe8 มหานครสกายวอล์ก จุดชมวิวชั้นดาดฟ้าที่สูงที่สุดในประเทศไทย สามารถเดินเล่นชมวิวบนพื้นกระจกทั้งน่าตื่นเต้นและหวาดเสียวกันเลยทีเดียว แถมยังรอชมแสงพระอาทิตย์ตกสวย ๆ ได้เช่นกัน รวมถึงยังมีรูฟท็อปบาร์ จิบเครื่องดื่มชิล ๆ ท่ามกลางบรรยากาศวิวเมืองในตอนกลางคืนอีกด้วย 114 ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ เเขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯเปิดทุกวัน เวลา 10.00 – 24.00 น. (เปิดให้เข้าชมรอบสุดท้ายเวลา 23.00 น.)BTS ช่องนนทรี ทางออก 3https://goo.gl/maps/LkMJhgHrFSCBbzhp7 สวนเบญจกิติ สวนเบญจกิติ เป็นสวนสาธารณะใจกลางกรุงเทพฯ ตั้งอยู่ข้างศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สามารถเดินทางมาได้ง่าย ๆ ทั้ง MRT และ BTS ปัจจุบันเป็นทั้งสถานที่พักผ่อนและออกกำลังกาย หากใครได้ไปเที่ยวในช่วงนี้ #สวนเบญจกิติ ได้เปิดเต็มรูปแบบมีทั้งสวนป่า สวนน้ำ เส้นทางเดิน เส้นทางวิ่ง เส้นทางจักรยาน และเส้นทางสกายวอล์กด้วย ลองชวนคู่เดตไปเดินเล่นถ่ายรูปสวย ๆ บนสกายวอล์กก็โรแมนติก   ถนนรัชดาภิเษก แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯเปิดทุกวัน เวลา 05.00 – 21.00 น.MRT : สถานีศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์BTS : สถานีอโศกhttps://goo.gl/maps/rRQDNYDSDjtD2rza6 Asiatique The Riverfront (เอเชียทีค เดอะริเวอร์ ฟร้อนท์) อีกหนึ่งจุดเช็กอินที่ต้องห้ามพลาด #เอเชียทีค สถานที่รวมแหล่งชอปปิง ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวเด่น ๆ และกิจกรรมต่าง ๆ เอาไว้ อีกหนึ่งไฮไลท์ของที่นี่คือ ชิงช้าสวรรค์ขนาดยักษ์ที่จะทำให้เราสามารถมองเห็นวิวกรุงเทพฯ และแม่น้ำเจ้าพระยาได้แบบ 360 อาศา ยิ่งเป็นช่วงเย็น ๆ ก็จะได้บรรยากาศพระอาทิตย์ตกสวย ๆ ด้วย 2194 ถนนเจริญกรุง แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯเปิดทุกวัน เวลา 16.00 – 22.00 น.BTS : สถานีสะพานตากสิน ทางออก 2 และไปที่ท่าเรือสาทร ใช้บริการเรือข้ามไปเอเชียทีคhttps://goo.gl/maps/EQC8pREsL8oq1hE79

💕 5 สถานที่เดทในกรุงเทพฯ 💕 อ่านเพิ่มเติม

ปฏิทินท่องเที่ยวเดือนกุมภาพันธ์ 🗓️

💕 เดือนกุมภาพันธ์ อบอวลด้วยความรักและเทศกาลพิเศษที่หลาย ๆ คนมีแผนจะเดินทางท่องเที่ยวเพื่อมอบความพิเศษให้กับคนรัก ไม่ว่าจะเป็นคนรู้ใจ ครอบครัว และเพื่อน ๆ ในเดือนกุมภาพันธ์นี้มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งที่เหมาะจะเดินทางอย่างมาก เนื่องจากสภาพอากาศยังมีช่วงที่อากาศเย็นสบาย ทะเลภาคใต้ฝั่งอันดามันปลอดมรสุม และที่สำคัญยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีระยะเวลาจำกัดอีกด้วย  Bangkok Design Week 2023 กรุงเทพฯ เตรียมตัวให้พร้อม เพราะเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ หรือ Bangkok Design Week (BKKDW) เทศกาลงานออกแบบที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง ซึ่งปีนี้ ก็มีคอนเซ็ปต์ที่น่าสนใจไม่น้อย ในธีม “urban‘NICE’zation เมือง – มิตร – ดี” ที่จะสร้างสรรค์กรุงเทพฯ ในแต่ละย่านให้กลายเป็นเมืองที่น่ารัก เป็นมิตร ด้วยศิลปะและงานกิจกรรมต่าง ๆ ให้แก่ผู้ที่สนใจได้เข้าไปสัมผัสได้อย่างเต็มที่ BKKDW จะจัดขึ้นในวันที่ 4-12 กุมภาพันธ์ 2566 ในย่านหลัก ๆ ได้แก่ โซนพระนคร ปากคลองตลาด เจริญกรุง-ตลาดน้อย เยาวราช สามย่าน-สยามอารีย์-ประดิพัทธ์ วงเวียนใหญ่-ตลาดพลู คลองสาน บางโพ พร้อมพงษ์ และ ม.เกษตรฯ เพื่อน ๆ ที่สนใจเข้าร่วมงาน หรืออยากจะดูว่ามีกิจกรรมที่ไหนบ้าง สามารถเข้ามาดูรายละเอียดได้ที่ https://www.bangkokdesignweek.com/bkkdw2023/program  เบญจมาศบานในม่านหมอก ประจำปี 2566 จ.นครราชสีมา ชวนคนรักไปสูดอากาศบริสุทธิ์กลางทุ่งดอกไม้ใน งานเทศกาลเบญจมาศบานในม่านหมอก 2566  เนรมิตพื้นที่กว้างขวางและบรรยากาศขุนเขาให้กลายเป็นทุ่งดอกเบญจมาศหลากสีหลายสายพันธุ์ และยังมีกิจกรรมการออกร้าน จำหน่ายสินค้า OTOP จำหน่ายผักปลอดสาร และชมนิทรรศการของส่วนต่าง ๆ ในปีนี้ เพื่อน ๆ สามารถชมได้ตั้งแต่ วันที่ 5-25 กุมภาพันธ์ 2566  อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ ถ้าถามว่า ทะเลกระบี่สวยที่สุดช่วงไหน ก็คงตอบได้เลยว่าช่วงต้นปีนี่แหละเป็นช่วงที่อากาศดีสุด ๆ ท้องฟ้าปลอดโปร่ง อากาศเย็นสบาย และมักจะได้รับผลกระทบจากมรสุมน้อยที่สุดเลยก็ว่าได้ หากใครที่มากระบี่ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี  ก็เป็นจุดหมายทางที่น่าสนใจไม่น้อยเลย ภายในอุทยานฯ มีชายหาดสวยงาม หมู่เกาะน้อยใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น เกาะไม้ไผ่ เกาะพีพีเล เกาะพีพีดอนถ้ำไวกิ้ง อ่าวต่าง ๆ เช่น อ่าวโล๊ะซามะ อ่าวมาหยาอ่าวปิเละ เป็นต้น และยังมีกิจกรรมทางทะเล ได้แก่ ล่องเรือชมเกาะต่าง ๆ ดำน้ำชมโลกใต้ทะเล ปีนผาชมวิวมุมสูงที่อ่าวไร่เลย์ ชมทะเลแหวกอัตราค่าบริการท่องเที่ยว ขึ้นอยู่กับโปรแกรมของแต่ละบริษัท หรือแล้วแต่ตกลงกับทางผู้นำเที่ยวว่าต้องการจะไปที่ไหนบ้าง และหากใครที่อยากนอนพักบนเกาะ สามารถไปพักได้ที่เกาะพีพีดอน ซึ่งมีที่พักเปิดให้บริการหลายแห่ง  79 หมู่ 5 ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ 0 7566 1145 Facebook อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพีhttps://goo.gl/maps/3s19gU2bBwJ81s6E8  เกาะพยาม จ.ระนอง  เกาะพยาม  เป็นเกาะที่มีชื่อเสียงและมีความงดงามทางธรรมชาติอย่างมากแห่งหนึ่ง ซึ่งในช่วงนี้ก็เหมาะอย่างมากที่จะเดินทางไปเที่ยว บนเกาะมีอ่าวอยู่หลายแห่ง มีหาดทรายขาวละเอียดและน้ำทะเลใสสะอาด ซึ่งแต่ละอ่าวตั้งอยู่ไม่ไกลกันมากนัก ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีก็ถึง บนเกาะ มีกิจกรรมให้เพื่อน ๆ ได้สนุกสนานเพลิดเพลินหลายอย่าง เช่น ชมพระอาทิตย์ตกบน “อ่าวใหญ่” ชมพระอาทิตย์ขึ้นบน “อ่าวแม่หม้าย” พายเรือคายักชม “ป่าโกงกาง” กลางเกาะ สัมผัสวิถีชีวิตของคนใน “หมู่บ้านมอแกน” เป็นต้น  การเดินทางมายังเกาะพยาม ต้องนั่งเรือจากท่าเรือเทศบาลตำบลปากน้ำ ซึ่งอยู่ห่างจากอำเภอเมืองระนองประมาณ 15 นาที เรือมี 2 แบบ ได้แก่ เรือธรรมดาและเรือสปีดโบต มีหลายบริษัทและผู้ให้บริการหลายเจ้า ราคาประมาณ 250-400 บาท  ตำบลเกาะพยาม อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนองโทร. 09 3582 4507 (อบต.เกาะพยาม)​https://goo.gl/maps/eqFYfNNiNaS2  อุทยานแห่งชาติดอยภูคา จ.น่าน ทางภาคเหนือ ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลต์อย่าง อุทยานแห่งชาติดอยภูคา  ที่หากใครมีโอกาส อยากจะลองไปชมสักครั้ง ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้เหมาะมาก ๆ มีจุดที่น่าสนใจหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและตกบนจุดชมทิวทัศน์ 1715 ชมวิวสันเขาและหมอกหนาบนยอดดอยภูแว นอนดูดาว กางเต็นท์พักแรม นอกจากบรรยากาศจะดีมากแล้ว ยังจะได้ชมพืชพรรณต่าง ๆ ของอุทยานฯ อย่างเช่น ก่วมแดง ที่มีในลักษณะคล้ายเมเปิ้ล ชมดอกนางพญาเสือโคร่ง ที่กำลังบานเต็มที่ เตรียมต้อนรับฤดูที่เบ่งบานของดอกชมพูภูคา พันธุ์ไม้หิมาลัยที่ปัจจุบันในไทยพบเพียงที่ดอยภูคาเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ในปี พ.ศ. 2566 นี้ ดอกชมพูภูคาจะบานช้ากว่าปกติเล็กน้อย ใครที่วางแผนจะไปชมดอกชมพูภูคา สามารถติดตาม อัปเดตทางหน้าเพจอุทยานฯ ได้โดยตรง สิ่งอำนวยความสะดวกภายในอุทยานฯ ร้านค้าสวัสดิการ เปิดทุกวัน เวลา 07.30-18.30 น. บ้านพักและลานกางเต็นท์ จองได้ที่เว็บไซต์ของอุทยานฯ  ตำบลภูคา อำเภอปัว จังหวัดน่าน อัตราค่าบริการชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท 08 2194 1349 Facebook อุทยานแห่งชาติดอยภูคา – Doi Phu Kha National Parkhttps://goo.gl/maps/aUL4NDdrfu9K3PqS7

ปฏิทินท่องเที่ยวเดือนกุมภาพันธ์ 🗓️ อ่านเพิ่มเติม

✨ แก้ปีชง 2566 ✨

เมื่อก้าวเข้าสู่ช่วงเวลาขึ้นปีใหม่ของชาวจีนกับเทศกาลตรุษจีนที่ถือเป็นการเริ่มต้นปีและงานฉลองรวมญาติครั้งใหญ่ สิ่งหนึ่งที่จะขาดเสียไม่ได้คือธรรมเนียมการแก้ชงเสริมดวงให้ปีนี้เป็นปีที่ดี เพื่อปัดเป่าเรื่องเลวร้ายที่อาจเข้ามาและเกิดขึ้นในชีวิตให้ผ่านพ้นไปได้ หลายคนคงเคยได้ยินคำว่าปีชงและการไหว้แก้ชงมาช้านาน แต่บางคนอาจไม่ทราบว่าปีชงมีที่มาอย่างไร ทำไมดวงชะตาของคนเราจึงไปตกอยู่บนปีชงได้ แล้วมีวิธีแก้ชงอย่างไรจะช่วยเสริมดวง ให้แคล้วคลาด โชคดี ดวงเฮงตลอดปี และจะแก้ชงที่ไหนดี วันนี้เราได้รวบรวม 5 สถานที่แก้ชงในกรุงเทพฯ ให้ใครที่ชงในปีนี้รีบไปไหว้ขอพร สะเดาะเคราะห์แก้ชง เสริมดวงปีนี้ จะมีที่ไหนบ้าง ตามไปดูกันเลย  ปีชงคืออะไร  ปีชง เป็นเรื่องความเชื่อทางโหราศาสตร์จีน ที่เกี่ยวพันกับการดำเนินชีวิตของชาวจีนมานับพันปี คำว่า “ชง” ในภาษาจีนหมายถึง “การปะทะ” หรือ “ชน” ดังนั้นคำว่า “ปีชง” จึงหมายถึงปีที่อาจมีการปะทะเกิดขึ้น มีการเปลี่ยนแปลงเข้ามามากขึ้น อธิบายง่าย ๆ คือ ปีชง ก็เหมือนกับปีที่เราดวงตก หากปีนี้เป็นปีชงของปีนักษัตรไหน ไม่ว่าจะทำอะไรก็จะเกิดอุปสรรค เกิดปัญหาติดขัด ไม่ราบรื่น อาจทำให้เกิดสิ่งไม่ดีกับบุคคลนั้น ดังนั้นจึงมีการเสริมดวงชะตาด้วยการ “แก้ชง” เพื่อปัดเป่าเคราะห์กรรม เสริมดวง ให้ก้าวผ่านอุปสรรคต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น และให้เหตุการณ์อันไม่พึงประสงค์ทั้งหลายนั้นคลี่คลายไปในทางที่ดี ซึ่งความเชื่อเรื่องปีชงนี้ เกี่ยวข้องกับ “องค์เทพไท้ส่วยเอี๊ย” หรือที่รู้จักกันดีในนาม “เทพเจ้าผู้คุ้มครองดวงชะตา” ของมนุษย์ ซึ่งชาวจีนเชื่อว่าเป็นเทพที่ทรงอิทธิฤทธิ์และมีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตของผู้คนเป็นอย่างมากในแต่ละปี โดยหากในปีนั้น เทพไท้ส่วยเอี๊ยเคลื่อนเข้าทับดวงดาวของปีนักษัตรใด จะทำให้ปีนั้นเป็นปีที่ได้รับผลไม่ดี หรือที่เราเรียกว่า “ปีชง” และจะส่งผลต่อดวงชะตาของผู้ที่เกิดในปีดังกล่าว ดังนั้น จึงมีการบูชาเทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ยเมื่อเริ่มขึ้นปีใหม่ของชาวจีน โดยการไหว้ขอพรเพื่อให้ช่วยปัดเป่าความทุกข์ เคราะห์กรรมของเจ้าชะตาในปีนั้น ๆ และคุ้มครองผู้กราบไหว้ให้มีความสุข แคล้วคลาด ปลอดภัย รอดพ้นจากภัยอันตรายทั้งปวงตลอดทั้งปี ควบคู่กับธรรมเนียมการไปแก้ชงคือการฝากดวงชะตาไว้กับเทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ย เพื่อบรรเทาเคราะห์กรรมหรือผลกระทบต่าง ๆ ให้เบาบางลง เป็นการนำสิ่งเลวร้ายออกไปและเสริมสิริมงคลให้แก่ชีวิต  ปีชง 2566 มีปีไหนชงบ้าง  สำหรับปีชงในปี 2566 ได้แก่ ปีนักษัตรระกา ซึ่งถือเป็นปีชงตรง หรือชง 100% คือ ปีที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด หรือคนที่เกิดตรงกับปี พ.ศ. 2476, 2488, 2500, 2512, 2524, 2536, 2548, 2560 ซึ่งปีระกาจะเจอแรงปะทะจากปีชงไปเต็ม ๆ คือ จะต้องระมัดระวังมากที่สุด อาจมีเรื่องอะไรที่ทำให้มีอุปสรรค หรือเกิดการเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลันครั้งใหญ่ในด้านลบ นอกจากนี้ยังมี ปีชงร่วม ซึ่งจะได้รับผลกระทบน้อยกว่า เหมือนเป็นปีที่อยู่ในองศาที่ถือว่า โดนลูกหลง ซึ่งแบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ปีคัก คือ ปีนักษัตรที่ชงกับตัวเอง หมายถึงปีนักษัตรเดียวกับปีนั้น ๆ จะทำอะไรอาจมีเรื่องที่เป็นอุปสรรคต่าง ๆ เข้ามา มีปัญหาติดขัด ไม่ราบรื่น สำหรับปี 2566 นี้ ได้แก่ ปีเถาะ หรือคนที่เกิดตรงกับปี พ.ศ. 2482, 2494, 2506, 2518, 2530, 2542 และ 2554 ปีเฮ้ง คือ ปีนักษัตรที่ได้รับผลกระทบในเรื่องเคราะห์กรรม ปัญหาอุปสรรค คดีความต่าง ๆ สำหรับปี 2566 นี้ ได้แก่ ปีชวด หรือคนที่เกิดตรงกับปี พ.ศ. 2479, 2491, 2503, 2515, 2527, 2539 และ 2551 ปีผั่ว คือ ปีนักษัตรที่ได้รับผลกระทบในเรื่องสุขภาพ การงาน ความรัก ครอบครัว อาจมีเรื่องขัดแย้ง ไม่ราบรื่น สำหรับปี 2566 นี้ ได้แก่ ปีมะเมีย หรือคนที่เกิดตรงกับปี พ.ศ. 2485, 2497, 2509, 2521, 2533, 2545 และ 2557 มาถึงตรงนี้ก็คงทราบกันแล้วว่าปีเกิดของตัวเองนั้นเป็น ปีชง ในปี 2566 หรือไม่ และคงอยากจะไปแก้ปีชงกันแล้ว ซึ่งจังหวะเวลาการแก้ชงจะนิยมกระทำในช่วงหลังตรุษจีนเพราะถือเป็นช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านปี ในวันนี้ จะขอแนะนำสถานที่แก้ปีชงที่ได้รับความนิยมในกรุงเทพฯ ซึ่งมีผู้ศรัทธาเดินทางกันไปเป็นจำนวนมาก จะมีสถานที่ไหนบ้าง เรามีตัวอย่างมาฝากกัน  แก้ปีชงที่ไหนดี 2566  1.วัดมังกรกมลาวาส หรือ วัดเล่งเน่ยยี่เมื่อพูดถึงการ “แก้ชง” สถานที่ที่คนมักจะนึกถึงเป็นอันดับแรก ๆ ก็คือ วัดมังกรกมลาวาส หรือ วัดเล่งเน่ยยี่ ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ชื่อดังอายุกว่าร้อยปี ตั้งอยู่ย่านเยาวราชและเป็นวัดยอดนิยมของคนไทยเชื้อสายจีน คนไทยส่วนใหญ่นิยมมาแก้ชงกันที่วัดแห่งนี้ โดยเฉพาะในช่วงตรุษจีนที่วัดแห่งนี้จะมีความคึกคักเป็นพิเศษ คนส่วนใหญ่จะนิยมมากราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ สะเดาะเคราะห์ ขอพรเสริมดวงชะตา โชคลาภ และแก้ปีชงกันเป็นจำนวนมาก เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งวัดที่ต้องห้ามพลาดกันเลยทีเดียว ภายในวัดมีลักษณะสถาปัตยกรรมเป็นแบบทางจีนตอนใต้ของสกุลช่างแต้จิ๋ว โดยวางแปลนตามแบบวัดหลวง คือ มีวิหารท้าวจตุโลกบาลเป็นวิหารแรก ตรงกลางเป็นพระอุโบสถ เป็นที่ประดิษฐานของพระประธานของวัด คือ พระโคตมพุทธเจ้า พระอมิตาภพุทธะ พระไภษัชยคุรุพุทธะ ทั้งหมด 3 องค์ หรือ “ซำป้อหุกโจ้ว” พร้อมพระอรหันต์อีก 18 องค์ หรือที่เรียกว่า “จับโป๊ยหล่อหั่ง” ส่วนข้างหลังพระอุโบสถเป็นวิหารเทพเจ้า การสร้างใช้ไม้และอิฐเป็นวัสดุสำคัญ นอกจากนี้ ยังเป็นที่ประดิษฐานของพระโพธิสัตว์ ตลอดจนเทพเจ้ารวมทั้งหมด 58 องค์ ไม่ว่าจะเป็น เทพเจ้าคุ้มครองดวงชะตา หรือ ไท้ส่วยเอี๊ย เทพเจ้าแห่งยา หรือหมอเทวดา “หั่วท้อเซียงซือกง” เทพเจ้าแห่งโชคลาภ “ไฉ่ซิ้งเอี๊ยะ” ที่ผู้คนส่วนใหญ่มักจะไปไหว้

✨ แก้ปีชง 2566 ✨ อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top