กรุงเทพมหานคร

กรุงเทพมหานคร

Hop On Hop Off Chao Phraya Tourist Boat

วันนี้บัดดี้มาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว เดินทางง่าย ๆ ด้วยเรือธงฟ้า Chao Phraya Tourist Boat Chao Phraya Tourist Boat เป็นเรือท่องเที่ยวที่ให้บริการในรูปแบบ Hop On Hop Off แห่งแรกในแม่น้ำเจ้าพระยา โดยบริษัท เจ้าพระยาทัวร์ริสท์โบ๊ท จำกัด ให้บริการระหว่าง 10 ท่าเรือ ได้แก่ ท่าเรือสาทร ท่าเรือไอคอนสยาม ท่าเรือราชวงศ์ ท่าเรือยอดพิมาน ท่าเรือวัดอรุณราชวราราม ท่าช้าง ท่ามหาราช ท่าพรานนก และท่าพระอาทิตย์ ช่วงเย็นขยายการเข้าจอดรับ-ส่งไปถึงท่าเรือเอเชียทีค ให้บริการทุกวัน เรือออกทุก 30 นาที จากท่าพระอาทิตย์ 08.30-18.30 น. จากท่าสาทร 09.00-19.15 น.  ราคาบัตรโดยสาร ไม่จำกัดเที่ยว 150 บาท เที่ยวเดียว 30 บาท 0 2024 1342https://www.chaophrayatouristboat.com Facebook : Chao Phraya Tourist Boat Line : @ctbblueflag เรือลำนี้จะพาเพื่อน ๆ เดินทางผ่านแหล่งท่องเที่ยวจุดสำคัญของกรุงเทพฯ หลายสถานที่ ซึ่งสามารถแวะเที่ยว ขึ้น-ลงได้ไม่จำกัดรอบ ระหว่างทางยังสามารถรับชมวิวที่งดงามและถ่ายภาพที่น่าประทับใจได้ตลอดเส้นทางอีกด้วย จะมีที่ไหนบ้างนั้น ตามไปอ่านกันค่ะ แหล่งท่องเที่ยวใกล้ท่าเรือพระอาทิตย์ ป้อมพระสุเมรุและสวนสันติชัยปราการ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณถนนพระอาทิตย์ ห่างจากท่าเรือพระอาทิตย์ประมาณ 100 เมตร บรรยากาศร่มรื่นเหมาะสำหรับการมานั่งพักผ่อน สามารถมองเห็นทิวทัศน์แม่น้ำเจ้าพระยาและสะพานพระราม 8 พิกัด : https://maps.app.goo.gl/uvzZjd9DjGXVsF9T9 ถนนข้าวสาร ตั้งอยู่ใกล้ย่านบางลำพูและถนนราชดำเนินกลาง อยู่ห่างจากท่าเรือพระอาทิตย์ประมาณ 800 เมตร เป็นจุดนัดพบของนักเดินทางจากทั่วโลก เสน่ห์ของถนนข้าวสารที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจก็คือ ในยามค่ำคืน ถนนข้าวสารจะเป็นศูนย์รวมของร้านอาหารนานาชาติ ทั้งร้านประจำและร้านที่ขายริมถนน (Bangkok Street food) หากเพื่อน ๆ มาท่องเที่ยวที่นี่ช่วงเย็น ขากลับจะต้องเดินทางด้วยรถสาธารณะอื่น ๆ เนื่องจากท่าเรือพระอาทิตย์ให้บริการถึง 18.30 น. พิกัด : https://maps.app.goo.gl/DqQ5umXi3eZ23y1VA ท่ามหาราช เป็นท่าเรือยอดนิยม ที่นี่มีทั้งร้านอาหารและร้านขายสินค้าต่าง ๆ ให้เลือกซื้อ ซึ่งนักท่องเที่ยวหลายท่านที่มามักจะเลือกเช่าชุดไทยจากร้านแถวนี้ ใส่ไปเที่ยวชมและถ่ายรูปที่พระบรมมหาราชวังและวัดพระแก้ว เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น. แหล่งท่องเที่ยวใกล้ท่าเรือมหาราช พระบรมมหาราชวัง เป็นแลนด์มาร์คสำคัญของกรุงเทพฯ อยู่ห่างจากท่าเรือมหาราช 500 เมตร เป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 จนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 5 วัดพระแก้ว เป็นพระอารามหลวงอยู่ตรงมุมด้านตะวันออกเฉียงเหนือของพระบรมมหาราชวัง เป็นที่ประดิษฐานพระมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของไทย พระบรมมหาราชวังและวัดพระแก้ว เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.30-16.30 น. เปิดจำหน่ายบัตรตั้งแต่เวลา 08.30-15.30 น. ค่าเข้าชม ชาวไทยไม่เสียค่าเข้าชม ชาวต่างชาติ 500 บาท พิกัด : https://maps.app.goo.gl/LvYFiDfCpyB1FCFF8 ท่าเรือวัดอรุณราชวราราม วัดอรุณราชวราราม ชมความงดงามของพระปรางค์วัดอรุณฯ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งธนบุรี ตรงข้ามกับวัดโพธิ์ เป็นวัดที่มีมาตั้งแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) ที่อัญเชิญมาจากเวียงจันทน์ และมาถ่ายรูปกับ ยักษ์วัดแจ้ง ที่เป็นเอกลักษณ์ของวัดอรุณฯ อยู่ตรงซุ้มทางเข้าพระอุโบสถ เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น. ค่าเข้าชม คนไทยไม่เสียค่าเข้าชม ชาวต่างชาติ 100 บาท (ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567 เป็นต้นไป ชาวต่างชาติปรับเป็น 200 บาท) พิกัด : https://maps.app.goo.gl/jKySKEuGGShMzwK36 ท่าเรือไอคอนสยาม ไอคอนสยาม ศูนย์การค้าริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่รวบรวมสินค้าจากไทยและแบรนด์ดังจากทั่วโลก มีร้านอาหารชื่อดังหลายร้านให้ได้มาลิ้มลอง และช่วงเย็นยังมีการแสดงระบำสายน้ำที่มีความยาวถึง 400 เมตร ให้ชมกันทุกวันในเวลา 18.30, 20.00 และ 21.00 น. เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น. พิกัด : https://maps.app.goo.gl/8BUkLLWut4wsERPu7

Hop On Hop Off Chao Phraya Tourist Boat อ่านเพิ่มเติม

 เส้นทางเบญจภาคีไหว้พระ 5 วัด

ใครกำลังหาที่ทำบุญไหว้พระ บัดดี้จะพาไปไหว้พระใกล้กรุง 5 องค์ 5 จังหวัด หรือที่เรียกกันว่า “เส้นทางเบญจภาคีวารีปาฏิหารย์” เชื่อกันว่า พระพุทธรูปทั้ง 5 องค์ เป็นพี่น้องกัน จากตำนานหลากหลายเรื่องราวที่เล่าต่อ ๆ กันมา แต่ไม่ว่าจะตำนานไหน ปัจจุบันเส้นทางนี้ก็เป็นที่นิยมที่ผู้ศรัทธาเดินทางมากราบไหว้ แม้มีโอกาสได้กราบไหว้บูชาเพียงครั้งหนึ่ง ย่อมถือว่าเป็นการสร้างบุญมงคล บารมี อันจะนำความสุขความเจริญครั้งยิ่งใหญ่มาสู่ชีวิต บัดดี้ขอแนะนำทริป 2 วัน 1 คืน ในการตามรอยเส้นทางนี้ ได้ไหว้พระมากกว่า 5 วัดอีกนะ ได้กินอาหารอร่อย ๆ ตามบัดดี้มาเลย วันที่ 1 กรุงเทพฯ-เพชรบุรี-สมุทรสงคราม-นครปฐม เดินทางไปจังหวัดเพชรบุรี รับประทานอาหารเช้าตามเส้นทางสมุทรสงคราม-เพชรบุรี ไหว้พระหลวงพ่อทอง วัดเขาตะเครา อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี เป็นพระพุทธรูปประทับนั่ง ปางมารวิชัย สุนทรภู่ได้กล่าวไว้ในนิราศเมืองเพชรมีใจความว่า ไปครู่หนึ่งถึงเขาตะคริวสวาท มีอาวาสวัดวามหาเถรมะพร้าวรอบขอบเขตที่บริเวณ พอจวนเพลพักร้อนผ่อนสำราญกับหนูพัดจัดธูปเทียนดอกไม้ ขึ้นไปไหว้พระสำฤทธิ์พิษฐานเขานับถือลือมาแต่บุราณ ใครบนบานพระก็รับช่วยดับร้อนฯ มีความศักดิ์สิทธิ์ในเรื่องโชคลาภ ช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก ผู้ที่สมัครเรียน สมัครงาน ฯลฯ จากนั้น เดินทางไปไหว้พระหลวงพ่อบ้านแหลม วัดเพชรสมุทรวรวิหาร (วัดบ้านแหลม) ตำบลแม่กลอง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวสมุทรสงคราม หล่อด้วยทองเหลือง แสดงอิริยาบถประทับยืน ปางอุ้มบาตร ส่วนใหญ่ขอพรในเรื่องความก้าวหน้าเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน แคล้วคลาด ปลอดภัย สุขภาพแข็งแรง แล้วไปเดินเล่นตลาดร่มหุบ แวะรับประทานอาหารกลางวันบริเวณริมทางรถไฟสถานีแม่กลองได้ รถไฟจะเข้าสถานีเวลา 8.30 น. 11.10 น. 14.30 น. 17.40 น. ออกจากสถานีเวลา 06.20 น. 9.00 น. 11.30 น. 15.30 น. จากนั้น เดินทางไปไหว้พระปฐมเจดีย์และเดินเล่นตลาดโต้รุ่งองค์พระปฐมเจดีย์ รับประทานอาหารเย็นในตลาดโต้รุ่ง หรือร้านใกล้เคียง นอนที่จังหวัดนครปฐม 1 คืน มีที่พักให้เลือกหลายรูปแบบ วันที่ 2 นครปฐม-ฉะเชิงเทรา-สมุทรปราการ-กรุงเทพฯ รับประทานอาหารเช้าที่จังหวัดนครปฐม แล้วเดินทางไปไหว้พระหลวงพ่อวัดไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม หลวงพ่อจะช่วยทำให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุข ดับความร้อนคลายความทุกข์ให้หมดไป เดินทางต่อไปยังจังหวัดฉะเชิงเทรา รับประทานอาหารกลางวัน แล้วเดินทางไปวัดหลวงพ่อโสธรวรารามวรวิหาร อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา ขอพรเรื่องการมีบุตร โชคลาภ ธุรกิจ การรักษาพยาบาลและอื่น ๆ ปิดท้ายด้วยไหว้หลวงพ่อโต วัดบางพลีใหญ่ใน อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ขอพรเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ เพราะเชื่อว่าท่านสามารถขจัดปัดเป่าโรคภัยไข้เจ็บให้หายในเร็ววัน และสามารถคุ้มครองให้ผู้ไปกราบไหว้แคล้วคลาดปลอดภัยจากภยันตราย ชมวิวที่หอชมเมืองสมุทรปราการได้ถึง 17.00 น. รับประทานอาหารเย็น บรรยากาศดีดี แถวปากน้ำ-บางปู และเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

 เส้นทางเบญจภาคีไหว้พระ 5 วัด อ่านเพิ่มเติม

ตลาดเช้าบ้านญวน สามเสน

วันนี้บัดดี้จะมาแนะนำตลาดเช้า วันเสาร์-อาทิตย์ ที่ตั้งอยู่ในชุมชนชาวเวียดนามเก่าแก่ที่อพยพมาอยู่สยามกว่า 200 ปีแล้ว บรรยากาศและอาหารจะเป็นยังไง ตามมาดูกันได้เลย ตลาดเช้าบ้านญวน เป็นตลาดของชุมชนชาวไทยเชื้อสายเวียดนาม ตั้งอยู่ในซอยสามเสน 13 ที่จะคึกคักมากในช่วงเช้าของวันหยุดสุดสัปดาห์ ท่ามกลางตึกเก่าทรงเสน่ห์และอาหารเวียดนามขนานแท้ บัดดี้มาในวันอาทิตย์ ประมาณ 07.30 น. บรรยากาศครึกครื้น ผู้คนบ้างก็ออกมาจับจ่ายหาของกินตอนเช้า บ้างก็ไปรวมตัวกันที่โบสถ์นักบุญฟรังซีสเซเวียร์ตามวิถีชาวโรมันคาทอลิก ซึ่งอันที่จริงพ่อค้าแม่ขายเขาจะขายของกันตั้งแต่ 06.00 น. แล้วล่ะ ตลาดเช้านี้จะวายตอน 09.00 น. นะ ใครอยากมาต้องดูเวลากันดี ๆ ด้วย ปากหม้อญวน คงเป็นอาหารญวนจานโปรดของใครหลายคน ในบริเวณตลาดมีขายอยู่ 2-3 ร้าน บัดดี้เลือกอุดหนุนร้านเล็ก ๆ ของคุณป้าหน้าโรงเรียนโยนออฟอาร์ค คุณป้าบอกขายมา 45 ปีแล้วตั้งแต่ยังสาว แป้งนุ่ม ไส้เยอะ กลมกล่อมมาก ใกล้ ๆ กันจะมีร้านโชห่วยรถเข็น ที่ขายเครื่องปรุง อาหารแปรรูปและวัตถุดิบทำอาหารที่หลากหลาย เช่น หมูยอ กุนเชียง แผ่นปอเปี๊ยะ แหนมเนือง เส้นก๋วยจั๊บ ก๋วยจั๊บญวณกึ่งสำเร็จรูป กาแฟ ซอสพริก เครื่องปรุงต่าง ๆ มีทั้งที่นำเข้ามาจากเวียดนามและรับมาจากภาคอีสาน แอบกระซิบว่าหมูยอร้านนี้อร่อยมาก มีทั้งแบบธรรมดา ใส่หนังหมู แบบใส่พริกและแบบที่ใส่ผักชีลาวซึ่งบัดดี้ชอบแบบนี้เป็นพิเศษ ข้าง ๆ มีร้านหมูทอด “เมตตา” บัดดี้ซื้อกลับมากินเพราะทนกลิ่นหอมไม่ไหว เอากลับมาอุ่นกินที่บ้านก็ยังอร่อยทุกอย่าง ทั้งหมูทอด เนื้อทอด ตับทอด แม่ฝ้ายอาหารเวียดนามนครพนม เป็นร้านถัดมาที่บัดดี้แวะ ร้านนี้เป็นร้านรถเข็นที่ขายอาหารเวียดนามทำเอง มีหลากหลายเมนูราคาเริ่มที่ 30 บาท บัดดี้เหลือบไปเห็นหม้อต้มที่มีไส้กรอกสีคล้ำ ๆ อยู่ในหม้อ ป้าเลยบอกว่านี่คือ “โย่ย” เป็นไส้กรอกเลือดเวียดนาม ข้างในมีส่วนผสมของเลือดหมู แล้วนำมาต้มกับสมุนไพร บัดดี้สั่งมา 1 ชิ้น พอได้กินแอบนึกเสียดายที่สั่งมาแค่ชิ้นเดียว เพราะรสชาติอร่อย หอมสมุนไพรอย่างผักแพว ตะไคร้ รสชาติเค็มนิด ๆ มัน ๆ นวล ๆ นุ้มลิ้น เหมือนกินตับอร่อย ๆ จิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดและกินกับผักแนมคือ The Best มาก ข้าวต้มมัดใต้ เป็นอีกเมนูที่บัดดี้สั่งมาลอง เป็นข้าวต้มมัดแน่น ๆ ไส้ถั่วเขียวบด มีกลิ่นพริกไทยอ่อน ๆ และเนื้อหมู ท้ายซอย เป็นที่ตั้งของร้านปลากริมปลาป้าสายใจ ที่มีลักษณะคล้ายก๋วยจั๊บอุบลแต่ใส่เนื้อปลาแทน ทางร้านจะใช้ปลาช่อนเนื้อเด้งหวาน มาเป็นส่วนประกอบหลักของจานนี้ น้ำซุปรสกลมกล่อม เส้นนุ่มเหนียว หอม คล่องคอ ไม่ต้องปรุงเพิ่มก็ซดได้หมดถ้วย แต่หากใครไม่กินปลา ทางร้านก็มีเกาเหลาน้ำใสรสชาติกลมกล่อม เครื่องแน่น ๆ ทั้งกระดูกอ่อน หมูก้อนและหมูยอ ร้านสุดท้าย เป็นอีกหนึ่งร้านเจ้าดังของที่นี่ นั่นก็คือ ร้านป้าเก๋แหนมเนือง เปิดขายมาแล้วกว่า 70 ปี เป็นร้านเล็ก ๆ ที่มีเพียง 4 โต๊ะ บรรยากาศเป็นกันเอง สงสัยหรืออยากรู้อะไรเกี่ยวกับอาหารเวียดนาม ก็ถามได้เลย เมนูแรกที่บัดดี้สั่งมาคือชุดแหนมเนือง ที่คุณลุงเจ้าของร้านจะมาแนะนำวิธีห่อแหนมเนืองให้พอดีคำและแป้งไม่ขาดแบบง่าย ๆ ให้ด้วย รสชาติอร่อย ผักสด น้ำจิ้มดี อีกเมนูที่บัดดี้สั่งมาลองคือ หมี่กะทิเวียดนาม เส้นเหนียวนุ่มมาก เคี้ยวเพลิน น้ำราดรสชาติคล้ายขนมจีนน้ำพริกที่มีความเผ็ดนิด ๆ และหอมพริกแทรกขึ้นมา อร่อยมาก ๆ ใครอยากมาตามรอยร้านอร่อยแบบบัดดี้ ตรงมากันได้เลยที่ ตลาดเช้าบ้านญวน สามเสน 13 ซอยสามเสน 13 (ซอยพระอรรถ) ถนนสามเสน แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร เปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 06.00-09.00 น.https://maps.app.goo.gl/dB8CvvfPB1mZD37G8

ตลาดเช้าบ้านญวน สามเสน อ่านเพิ่มเติม

ไหว้พระ 3 วัดใหญ่ในกรุงเทพฯ เสริมสิริมงคล

“กรุงเทพมหานคร” เมืองที่นักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในปี 2566 มีประวัติความเป็นมาอันยาวนานและเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมทางศาสนารวมทั้งประวัติศาสตร์ บัดดี้ขอแนะนำนักท่องเที่ยวสายบุญ สายประวัติศาสตร์ สายคอนเทนต์ และทุก ๆ สาย มาเยือน มาทำบุญที่วัดใหญ่ในกรุงเทพฯ ได้แก่ เพื่อเสริมสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว เดินทางสะดวกมาได้ทั้งรถ เรือ รถไฟฟ้า ใครกำลังวางแผนเที่ยวตามบัดดี้มาได้เลย ใครเคยไปแล้ว ไปได้อีกนะ กรุณาแต่งกายสุภาพเรียบร้อย สำรวมกาย วาจา ในขณะที่เข้าชมศาสนสถาน 1. วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (พระแก้ว) เป็นวัดที่มีความสำคัญทางทางศาสนาและวัฒนธรรม จุดเด่นของวัดคือองค์พระเจดีย์ 3 องค์ที่โดดเด่นเห็นได้แต่ไกล สีทองคือพระศรีรัตนเจดีย์ ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ถัดมาคือพระมณฑป รูปแบบสถาปัตยกรรมทรงไทย ประดิษฐานพระไตรปิฏกฉบับทองใหญ่ และปราสาทพระเทพบิดร รูปแบบหลังคายกยอดปราสาทแบบปรางค์ ประดิษฐานพระบรมรูปหล่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 1 ถึงรัชกาลที่ 9 เปิดถวายบังคมพระบรมรูปเป็นประจำทุกปี ในวันสำคัญต่าง ๆ ได้แก่ 6 เมษายน (วันจักรี) 13-15 เมษายน (วันสงกรานต์) 4 พฤษภาคม (วันฉัตรมงคล) 28 กรกฎาคม (วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว) 13 ตุลาคม (วันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร) 23 ตุลาคม (วันปิยมหาราช) 5 ธันวาคม (วันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร) ภายในพระอุโบสถ ประดิษฐานพระมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) เปรียบดังตัวแทนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระคู่บ้านคู่เมืองของประเทศไทย ผู้คนนิยมมาขอพรเรื่องความเจริญรุ่งเรือง ความก้าวหน้าในชีวิตและการงาน ความสุขกายสบายใจ นอกจากนี้ยังมีสถานที่สำคัญอื่น ๆ ได้แก่ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท สามารถเดินชมด้านนอกได้ก่อนถึงบริเวณทางออก เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.30-15.30 น. ชาวไทยไม่เสียค่าเข้าชม ชาวต่างชาติ 500 บาท มีบริการให้เช่าเครื่องแปลภาษา 7 ภาษา ได้แก่ ภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน สเปน รัสเซีย ญี่ปุ่น จีนกลางและไทย ราคา 200 บาท เว็บไซต์ www.royalgrandpalace.th https://maps.app.goo.gl/KiWCZrvKZBrBLx56A การเดินทาง MRT : สถานีสนามไชย รถเมล์ : 3, 32, 47, 59, 65, 70, 503 เรือ : นั่งเรือด่วนเจ้าพระยาธงเขียวเหลือง ธงเหลือง ธงส้ม เรือ Hop On Hop Off ลงท่าน้ำ N9 ท่าช้าง 2. วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือวัดโพธิ์  วัดประจำรัชกาลที่ 1 ที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อให้พระภิกษุสงฆ์ได้เล่าเรียนพระปริยัติธรรม และยังเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของไทย ตั้งอยู่ถัดจากพระบรมหาราชวัง พระวิหาร ประดิษฐานพระพุทธไสยาสองค์ใหญ่ สร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 ก่ออิฐถือปูนปิดทองทั้งองค์ ยาว 46 เมตร สูง 15 เมตร ที่ฝ่าพระบาทแต่ละข้างมีลวดลายประดับมุกเป็นภาพมงคล 108 ประการ อันเป็นลักษณะอย่างหนึ่งของมหาบุรุษตามคติของอินเดีย ผู้คนนิยมมาขอพรในเรื่องความรัก ด้านข้างพระวิหาร มีพระมหาเจดีย์สี่รัชกาล ประกอบด้วย พระมหาเจดีย์ศรีสรรเพชดาญาณ (องค์กระเบื้องเคลือบสีเขียว) สร้างในสมัยรัชกาลที่ 1 ภายในบรรจุพระบรมธาตุ พระมหาเจดีย์ดิลกธรรมกรกนิทาน (องค์กระเบื้องเคลือบสีขาว) สร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 ทรงพระราชอุทิศถวายแด่พระบรมราชชนก คือรัชกาลที่ 2 พระมหาเจดีย์มุนีบัตบริขาร (องค์กระเบื้องเคลือบสีเหลือง) สร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 ทรงพระราชถวายอุทิศถวายเป็นพุทธบูชา และ พระมหาเจดีย์ทรงพระศรีสุริโยทัย (องค์กระเบื้องเคลือบสีน้ำเงินเข้ม) รัชกาลที่ 4 ทรงสร้างขึ้นตามแบบพระเจดีย์ศรีสุริโยทัย ทรงพระราชถวายอุทิศถวายเป็นพุทธบูชา เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.30-17.30 น. ชาวไทยไม่เสียค่าเข้าชม ชาวต่างชาติ 300 บาท เว็บไซต์ www.watpho.com https://maps.app.goo.gl/mr9DAmZanZYV9Ak79 การเดินทาง MRT : สถานีสนามไชย รถเมล์ : 1, 3, 6, 9, 12, 25, 32, 44, 47, 48, 53, 82 เรือ : นั่งเรือด่วนเจ้าพระยาธงเขียวเหลือง ธงเหลือง ธงส้ม เรือ Hop On Hop Off ลงท่าน้ำ N9 ท่าช้างหรือขึ้นเรือข้ามฟากจากท่าน้ำวัดอรุณ มาที่ท่าเตียน 3. วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร (วัดแจ้ง)  แลนด์มาร์กที่สำคัญในงานสำคัญหลาย ๆ งาน โดยเฉพาะงานเคานต์ดาวน์วัดอรุณที่ถูกเผยแพร่ภาพความสวยงามออกไปสู่สายตาคนทั่วโลก ทำให้ที่นี่เป็น 1 ในแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวต้องมาเยือนให้ได้ วัดแจ้งตั้งอยู่ทางฝั่งตรงข้ามกับวัดโพธิ์ บนถนนอรุณอัมรินทร์ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งธนบุรี เป็นวัดที่มีมาตั้งแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อว่าวัดแจ้ง เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) ที่อัญเชิญมาจากเวียงจันทน์ วัดนี้ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ในสมัยรัชกาลที่ 2 จึงถือเป็นวัดประจำรัชกาล เมื่อบูรณะแล้วเสร็จได้พระราชทานนามว่าวัดอรุณราชธาราม ในสมัยรัชกาลที่

ไหว้พระ 3 วัดใหญ่ในกรุงเทพฯ เสริมสิริมงคล อ่านเพิ่มเติม

 ๑๐ วัด ๑ พิพิธภัณฑ์ ไหว้พระ เสริมสิริมงคล ตลอดปี ๒๕๖๗

เหล่านักแสวงบุญเตรียมแผนในการเดินทางเยี่ยมชม สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดวาอาราม และสถานที่สำคัญ ๆ กันแล้วหรือยัง? ปีนี้ กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม ได้แนะนำเส้นทางไหว้พระในกรุงเทพฯ ทั้งหมด 10 วัด และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร จะมีที่ไหนบ้าง ไปชมกันเลย 1. วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยภายนอกมีลักษณะเป็นสถาปัตยกรรมไทย ส่วนภายในตกแต่งอย่างตะวันตก เป็นวัดที่มีเสมาขนาดใหญ่ เรียกว่า “มหาสีมา” ตั้งอยู่ที่กำแพงวัดทั้ง 8 ทิศ เช่นเดียวกับวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม จึงได้นามว่าวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ถนนราชบพิธ แขวงวัดราชบพิธ เขตพระนคร กรุงเทพมหานครhttps://maps.app.goo.gl/S8AecJBNejWmU2gw6 2. วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) เป็นวัดเก่าแก่สมัยอยุธยา ซึ่งรัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาขึ้นใหม่ และให้อัญเชิญพระพุทธรูปจากหัวเมืองต่าง ๆ มาประดิษฐานไว้ ในสมัยรัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯ ให้บูรณะวัดโพธิ์ใหม่ทั้งหมด มีการนำศิลปะจีนมาผสมผสานในการสร้างพระอารามครั้งนี้ด้วย ถนนสนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานครhttps://maps.app.goo.gl/Y65deqJ8vHxUBJ228 3. วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร สร้างขึ้นตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 เมื่อ พ.ศ. 2350 เพื่อให้เป็นวัดใจกลางกรุงรัตนโกสินทร์ ใช้เวลาในการก่อสร้างรวม 40 ปี จนแล้วเสร็จในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 และยังเป็นวัดประจำรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 อีกด้วย ภายในวิหารหลวง “พระศรีศากยมุนี (หลวงพ่อโต)” ที่ถูกอัญเชิญมาจากพระวิหารหลวง วัดมหาธาตุ จังหวัดสุโขทัย มีจิตรกรรมฝาผนังที่งดงาม ทั้งต้นแบบสัตว์หิมพานต์หลายแบบ รวมไปถึงจิตรกรรมฝาผนัง “เปรตวัดสุทัศน์” ที่โด่งดังอีกด้วย พระอุโบสถของวัดแห่งนี้ ถูกจัดว่าเป็นพระอุโบสถที่ยาวที่สุดในประเทศไทย สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ภายในเป็นภาพเขียนจิตรกรรมฝาผนังพุทธประวัติ มีพระพุทธตรีโลกเชษฐ์ พระพุทธรูปปางมารวิชัยประดิษฐานอยู่ ด้านหลังพระอุโบสถ เป็นที่ประดิษฐานของพระกริ่งใหญ่และท้าวเวสสุวรรณ มีนักท่องเที่ยวให้ความศรัทธา เดินทางมาขอพรอย่างไม่ขาดสาย ถนนบำรุงเมือง แขวงวัดราชบพิตร เขตพระนคร กรุงเทพมหานครhttps://goo.gl/maps/hJTz7fU7oJm 4. วัดราชนัดดารามวรวิหาร (โลหะปราสาท) หรือที่เรียกกันติดปากว่า โลหะปราสาท ถือเป็นโลหะปราสาทแห่งแรกและแห่งเดียวของไทย สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 เพื่อเป็นสถานปฏิบัติธรรมของพระภิกษุ โดยกรมศิลปากรฯ ได้ประกาศขึ้นทะเบียน โลหะปราสาท เป็นโบราณสถานที่สำคัญของชาติ เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2492 โลหะปราสาทของไทยนับเป็นโลหะปราสาทแห่งที่สามของโลก โดยแห่งแรกอยู่ที่อินเดีย แห่งที่สองอยู่ที่ศรีลังกา ซึ่งปัจจุบันไม่เหลืออยู่แล้ว ที่นี่จึงเป็นโลหะปราสาทแห่งเดียวที่เหลืออยู่ในโลก 70 ถนนมหาไชย แขวงวัดบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพมหานครhttps://maps.app.goo.gl/kvsVFtr7ANZTrNS66 5. วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร มีชื่อเดิมว่า ‘วัดสามจีนใต้’ เป็นวัดโบราณ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของสถานีรถไฟหัวลำโพง สามารถเดินได้ ประมาณ 5-10 นาที เข้ามาด้านในพระมหามณฑปเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เป็นมณฑป 4 ชั้น นมัสการ ‘พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร’ หรือที่เรียกกันว่า ‘พระสุโขทัยไตรมิตร’ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะสุโขทัย ทำจากทองคำแท้ และมีขนาดองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ถนนเจริญกรุง แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานครhttps://goo.gl/maps/VMkZCQTBzT52 6. วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร เดิมมีชื่อว่า วัดแหลม หรือ วัดไทรทอง ภายหลังได้รับพระราชทานนามจาก พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ใหม่ว่า วัดเบญจบพิตร ซึ่งหมายถึง วัดของเจ้านาย 5 พระองค์ที่ทรงร่วมกันปฏิสังขรณ์วัดแห่งนี้ ภายหลัง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงสร้าง สวนดุสิตและสถาปนาวัดด้วยศิลปะสถาปัตยกรรมไทยโบราณ วางแปลนแยกสัดส่วนเป็นเขตพุทธาวาส สังฆาวาสและที่ธรณีสงฆ์ พร้อมพระราชทานนามว่า “วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม” ซึ่งหมายถึง “วัดของพระเจ้าแผ่นดินรัชกาลที่ 5” วัดนี้ถือเป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมแบบศิลปะไทยที่สมบูรณ์ ภายในมีสถานที่สำคัญและน่าสนใจ เช่น ศาลาสี่สมเด็จ พระที่นั่งทรงธรรม หอระฆังบวรวงศ์ พระอุโบสถ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ ถนนนครปฐม แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร https://goo.gl/maps/3hdPCro947D2 7. วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร หลายคนนิยมเรียกกันว่า “วัดมหาธาตุท่าพระจันทร์” เดิมมีชื่อว่า “วัดสลัก” สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา ในปี พ.ศ. 2326 รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช มีการบูรณปฏิสังขรณ์วัดสลักพร้อมกับการก่อสร้างพระราชวังบวรสถานมงคล และสถาปนาวัดนี้ขึ้นเป็น “พระอารามหลวงแห่งแรก” ในยุคกรุงรัตนโกสินทร์ จากนั้นทรงเปลี่ยนชื่อวัดจากวัดสลักเป็น “วัดนิพพานาราม” ในปี พ.ศ. 2331 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ ให้ใช้วัดนิพพานารามเป็นสถานที่ทำสังคายนา และได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามวัดใหม่ว่า “วัดพระศรีสรรเพชญ์” ต่อมาในปี พ.ศ. 2346 พระราชทานนามวัดนี้ใหม่อีกครั้งว่า “วัดพระศรีรัตนมหาธาตุราชวรมหาวิหาร” ตามชื่อวัดในกรุงศรีอยุธยาที่เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราช เมื่อ พ.ศ.2346 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงโปรดให้เรียกวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ราชวรมหาวิหารว่า “วัดมหาธาตุ” เนื่องจากวัดที่มีชื่อว่า มหาธาตุ จะมีอยู่ในทุกเมืองของประเทศ เมืองหลวงก็ควรมีด้วย ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เมื่อสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานพระราชทรัพย์อันเป็นส่วนของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เพื่อปฎิสังขรณ์วัดมหาธาตุ จึงโปรดให้เพิ่มสร้อยนามพระอาราม เฉลิมพระเกียรติยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชว่า “วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์” 3 ถนนท่าพระจันทร์ แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานครhttps://maps.app.goo.gl/nwdivDuLUaj9joAy5 8.

 ๑๐ วัด ๑ พิพิธภัณฑ์ ไหว้พระ เสริมสิริมงคล ตลอดปี ๒๕๖๗ อ่านเพิ่มเติม

River City Bangkok รวมงานนิทรรศการช่วงเดือนเมษายน

หน้าร้อนนี้ บัดดี้จะพาเพื่อน ๆ ไปเสพศิลป์ในงานนิทรรศการศิลปะสุด cute! ที่ River City Bangkok ศูนย์รวมศิลปะและนิทรรศการหมุนเวียนที่น่าสนใจในย่านเจริญกรุง ตลอดเดือนเมษายน 2567 นี้ จะมีนิทรรศการอะไรบ้าง ไปชมกัน และถ้าหากมีนิทรรศการใหม่ ๆ มาเพิ่มเติม บัดดี้ก็จะนำมาอัปเดตให้เพื่อน ๆ อีก กดติดตามไว้ได้เลยนะ ที่สำคัญ แนะนำให้เยี่ยมชมผลงานกันอย่างระมัดระวังด้วยนะ  การเดินทางMRT : มาที่สถานีหัวลำโพง ใช้ทางออก 1 แล้วต่อวินมอเตอร์ไซค์ คนละ 20 บาท มาลงที่ River City Bangkok หรือจะเดินจาก MRT มาก็ได้ ใช้เวลาเดินปะมาณ 15 นาที เรือ : สามารถนั่งเรือด่วนเจ้าพระยาธงส้มและธงเขียว มาลงที่ท่าเรือสี่พระยา จากนั้น เดินไปยังปลายทาง ระยะทางประมาณ 300 เมตร เยี่ยมชมปราสาทของราชินีชาล็อตตัวน้อย ในนิทรรศการ CHALOTTE’S CASTLE ซึ่งเป็นนิทรรศการครั้งล่าสุดของ Mackcha ที่ครั้งนี้ ได้เนรมิตนิทรรศการให้กลายเป็นปราสาทดินแดนใต้ท้องทะเลสุดมหัศจรรย์ พาเพื่อน ๆ มาร่วมสัมผัสจินตนาการ ชมผลงานอันเป็นสมบัติล้ำค่า ที่เรียกว่าเป็นทั้งความสัมพันธ์ และความทรงจำของศิลปิน ซ่อนอยู่ในผลงานแต่ละชิ้น นอกจากความเพลิดเพลินที่ได้รับชมภายในงานแล้ว เพื่อน ๆ ยังสามารถสนุกกันต่อกับแก๊งเพื่อนที่โฟโต้บูทสุดเก๋ที่หน้างานนิทรรศการ หรือชอปสินค้าภายในนิทรรศการได้อีกด้วย จัดนิทรรศการถึงวันที่ 28 เมษายน 2567 RCB Galleria 2 ชั้น 2 ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก เดินทางเข้าสู่จักรวาลสีหวานอมเศร้า ไปสัมผัสกับโลกกึ่งจริง กึ่งฝัน กึ่งสุข กึ่งเศร้า มีเพียงเราเท่านั้นที่รู้สึก ‘ที่เพียงเรารู้’ นิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกของ Art of Hongtae ศิลปินผู้ลากพู่กัน ลงสีสันบนผลงาน 66 ภาพในนิทรรศการภายใต้ชื่อ SOMEWHERE ONLY WE KNOW ที่จะมาถ่ายทอดหลากหลายความรู้สึกแก่ผู้ชม ผ่านตัวตนของ ‘คนหัวเมฆ’ ผู้ที่ไม่เคยเปิดเผยใบหน้าให้ใครรับรู้ และไม่อาจรับรู้ได้ว่าเขารู้สึกอย่างไร ความมหัศจรรย์ที่บัดดี้ได้ชมในหนึ่ง ๆ ภาพนั้น เราสามารถเห็นได้หลายอารมณ์ ตามการตีความของภาพนั้น ๆ และรับรู้ได้ว่าศิลปะมีอิสระมากกว่าที่เราคิด จึงอยากชวนเพื่อน ๆ มาชมศิลปะอย่างลึกซึ้งด้วยกัน จัดนิทรรศการถึงวันที่ 21 เมษายน 2567 RCB Galleria 4 ชั้น 2 ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ผจญภัยไปยังจักรวาลใบใหม่ของเหล่ามอนสเตอร์ขนฟูสุดน่ารัก ภายในนิทรรศการ TIMELESS MUSE ซึ่งเป็นนิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกของ MRKREME ที่จะพาเพื่อน ๆ ท่องโลก KOOKY WORLD ในโลกที่เต็มไปด้วยมอนสเตอร์ขนฟูมากมาย ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากยุค 70s และ 80s อีกทั้ง ชวนเพื่อน ๆ มาไขปริศนา คำนิยามของคำว่า ‘เวลา’ ที่แต่ละคนอาจจะมีไม่เท่ากันแม้ว่ากฎแห่งเวลาจะถูกตั้งไว้อย่างเท่า ๆ กัน ถ่ายทอดเรื่องราวต่าง ๆ ผ่านนิทรรศการผลงานศิลปะภาพวาด ประติมากรรม งานพ่น อาร์ตทอย รวมไปถึงมุมถ่ายรูปสุดชิคอีกหลายจุด บอกเลยว่าสนุกและเพลิดเพลินกันอย่างแน่นอน จัดนิทรรศการถึงวันที่ 28 เมษายน 2567 RCB Photographers’ Gallery ชั้น 2 ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก

River City Bangkok รวมงานนิทรรศการช่วงเดือนเมษายน อ่านเพิ่มเติม

Da Vinci Alive Bangkok นิทรรศการใหม่ของบิดาแห่งโลกศิลปะ

ภาพวาดที่มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จัก และอาจจะเคยผ่านตาเพื่อน ๆ อย่างเช่นภาพวาด Mona Lisa สตรีชั้นสูงชาวอิตาเลียนที่ซ่อนความลับมากมายไว้ในภาพ หรือ The Last Supper อาหารค่ำมื้อสุดท้ายของพระเยซูกับอัครทูตก่อนจะนำไปถูกตรึงไม้กางเขน ภาพเหล่านี้เป็นผลงานของศิลปินชื่อดัง คือ Leonado Da Vinci (เลโอนาร์โด ดา วินชี) อัจฉริยะนักคิด การออกแบบ สิ่งประดิษฐ์ ทั้งนี้ ผลงานของเขายังเป็นที่ประจักษ์และทรงอิทธิพลต่อหลากหลายแขนงวิชา ถ้าหากว่าเพื่อน ๆ รู้จัก หรือเป็นแฟนคลับชายมากฝีมือผู้นี้ บัดดี้จะพาไปเปิดประสบการณ์ ไขความลับภาพวาดระดับโลก ในงาน Da Vinci Alive Bangkok ที่ ICONSIAM นิทรรศการแสดงผลงานศิลปะ Digital Immersive ระดับโลก งานนี้ ถือเป็นครั้งแรกในไทย โดยความร่วมมือกับพิพิธภัณฑ์เลโอนาร์โด ดา วินชี (Museo Leonardo da Vinci) ในกรุงโรม และผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงจากอิตาลีและฝรั่งเศส ที่จะพาเพื่อน ๆ ก้าวสู่โลกแห่งจิตนาการ ชวนหลงใหลไปกับผลงานมากมายในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance) บอกเลยว่าเพื่อน ๆ จะได้ตื่นตาตื่นใจกับศิลปะที่ได้รับชมตรงหน้าได้อย่างครอบคลุมและรู้จักฝีมือของเลโอนาร์โด ดา วินชี มากยิ่งขึ้น ตามมาดูกันว่าภายในงานมีจุดที่น่าสนใจอย่างไรบ้าง ไปชมกัน จัดแสดงถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2567เข้าชมได้ทุกวัน 10.30-21.00 น. (รอบสุดท้าย 20:30 น.)Attraction Hall ชั้น 6 ไอคอนสยาม ค่าเข้าชมVIP 1,580 บาท บัตรทั่วไป 1,080 บาท บัตรนักเรียน/นักศึกษา 480 บาท ช่องทางการซื้อบัตรเข้าชม : 1. https://www.liveimpact-event.com/davinci/2.https://www.thaiticketmajor.com/davinci-alive/

Da Vinci Alive Bangkok นิทรรศการใหม่ของบิดาแห่งโลกศิลปะ อ่านเพิ่มเติม

ร้านในตำนาน บางโพ-เตาปูน

สวัสดีทุกคน วันนี้บัดดี้จะพาเพื่อน ๆ มาเที่ยวตะลุยกินร้านเก่าแก่ย่านบางโพและเตาปูน ซึ่งแต่ละร้านที่บัดดี้พามายังคงคุณภาพและรสชาติของอาหารไว้ได้เป็นอย่างดี หากว่าวันหยุดนี้เพื่อน ๆ ว่างแล้วอยากหาอะไรอร่อย ๆ กินร้านที่บัดดี้นำมาเสนอวันนี้ ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่ควรไปไม่น้อยเลยล่ะ บัดดี้เดินทางด้วย MRT โดยเริ่มจากสถานีบางโพก่อนตะลุยกินจนไปจบที่ MRT สถานีเตาปูน โดยร้านที่บัดดี้จะพาไปชิมวันนี้คือ แป๊ะโจ๊กหม้อทองเหลือง 38 ปี เจ๊กใหม่ ชวาลินไอศกรีม & เค้ก โตเป็ดย่าง ผัดไทยประทุมทิพย์ ทิพย์รส อ ประทิน ไอศครีม ตลาดเตาปูน ร้านแป๊ะโจ๊กหม้อทองเหลือง 38 ปีร้านอาหารที่ได้รับรางวัลบิบ กูร์มองด์ จากคู่มือ “มิชลิน ไกด์” ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2564 ตั้งอยู่ห่างจาก MRT สถานีบางโพทางออก 2B เพียง 100 กว่าเมตรเท่านั้น ร้านนี้เปิดมาตั้งแต่ปี 2505 โดยเลข 38 ไม่ได้หมายถึงอายุของร้าน แต่เป็นเลขนำโชคของผู้ก่อตั้งร้านนั่นเอง ปัจจุบันดำเนินกิจการโดยทายาทรุ่นที่ 3 แล้ว.ด้วยความอร่อยและคุณภาพของอาหารทำให้ร้านนี้กลายเป็นหนึ่งในร้านดังของย่านบางโพ ที่มีลูกค้าแวะเวียนมาไม่ขาดสายตั้งแต่ร้านเปิดตอนเช้าเลยล่ะ โจ๊กของทางร้านเป็นสูตรแต้จิ๋วที่มีการแช่ข้าวและต้มไว้ตั้งแต่ตอนกลางคืน ก่อนจะนำมาต้มใหม่แบบหม้อต่อหม้อตามที่ลูกค้าสั่งด้วยหม้อทองเหลือง ที่มีคุณสมบัติทนไฟ ไม่ไหม้ติดก้นหม้อและร้อนนาน.วันนี้บัดดี้สั่งโจ๊ก ฮ่อยจ๊อปูและกระเพาะปลามากิน โจ๊กรสชาติอ่อนกินเพลิน เนื้อเนียนนุ่ม เครื่องเยอะ ส่วนฮ่อยจ๊อปูทอด กรอบ หอม อร่อย เนื้อปูเยอะมาก กระเพาะปลาน้ำซุปเหนียวข้น รสชาติดี. 320 ถนนประชาราษฎร์สาย 1 เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร เปิดทุกวันเวลา 06.00-21.00 น. 0 2586 8852https://maps.app.goo.gl/M6CEkFposY7AJCmC6 ร้านเจ๊กใหม่ตั้งอยู่ถัดจากร้านแป๊ะโจ๊กหม้อทองเหลือง 38 ปี ในระยะไม่เกิน 10 ก้าวเดิน เปิดมาตั้งแต่ปี 2500 ขายกาแฟโบราณที่คั่วเอง ขาหมูและปอเปี๊ยะสด บรรยากาศของร้าน จะเป็นแนวสภากาแฟ เครื่องดื่มจะเป็นแบบเดิมโบราณ มีหลากหลายให้เลือกสั่ง ทั้งโอเลี้ยง โอยั๊วะ กาแฟเย็น ชาดำเย็น ชาเย็น หรือแม้กระทั่ง ไข่ลวก และใช้วิธีการชงในถุงทีละแก้วแบบดั้งเดิม. 314 ถนนประชาราษฎร์สาย 1 เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร เปิดทุกวันเวลา จันทร์-ศุกร์ 05.00-17.00 น. / เสาร์ 05.00-15.00 น./ อาทิตย์ 05.00-13.00 น. 08 3789 1566https://maps.app.goo.gl/QDWpzFqifuUSoWNw7 ชวาลินไอศกรีม & เค้กอีกร้านเก่าแก่ที่เปิดมาตั้งแต่ปี 2498 เป็นร้านของหวานสไตล์โฮมเมด เริ่มจากการทำไอศกรีมแท่งและไอศกรีมน้ำกะทิสด ปัจจุบันร้านรีโนเวทใหม่ ดูทันสมัยสวยงาม บรรยากาศอบอุ่นชวนนั่ง ตอนนี้ดำเนินกิจการด้วยทายาทรุ่นที่ 3 เมนูเด่นของทางร้านคือไอศกรีมและขนมเค้ก บัดดี้ประทับใจมาก อย่างไอศกรีมรสมะม่วงที่รสชาติเหมือนมะม่วงสดหวานฉ่ำสดชื่นจริง ๆ เลยล่ะ.นอกจากไอศกรีมแล้ว ทางร้านมีอีกหลายอย่าง ทั้งเครื่องดื่มจำพวกกาแฟสด ขนมอบกรอบ เนื้อสัตว์แปรรูปอย่างหมูหย็องเตาถ่าน หมูเส้น หมูสวรรค์ น้ำพริก แยมผลไม้ คุกกี้ต่าง ๆ ขนมเปี๊ยะ ขนมปัง ไปจนถึงเมนูที่หลายคนชอบอย่างฮันนี่โทสต์ ถือว่าเป็นร้านที่พาคนรัก ครอบครัว เพื่อน หรือแม้แต่ใครที่อยากหาซื้อของฝากก็แวะมาได้เลยล่ะ. 300-302 ถนนประชาราษฎร์สาย 1 เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร เปิดทุกวันเวลา 07.00-20.30 น. 0 2585 7621https://maps.app.goo.gl/hDHrhAA7VEoTztGL8 โตเป็ดย่างร้านเป็ดย่างเจ้าดังของบางโพ เปิดมาตั้งแต่ปี 2524 ที่มีเป็ดย่างสูตรลับแสนอร่อย ได้รับรางวัลการันตีความอร่อย ออกรายการทีวีและหนังสือพิมพ์มาแล้วมากมาย มีลูกค้าแวะเวียนมาไม่ขาดสาย แถมยังมีไรเดอร์มารอรับอาหารอีกหลายคน ถือเป็นเครื่องการันตีความอร่อยของร้านนี้ได้เลย  นอกจากเป็ดย่างแล้ว ทางร้านยังมี หมูแดง หมูกรอบ อาหารจานเดียวและของหวาน ให้บริการ วันนี้บัดดี้เลือกสั่งเป็ดและหมูกรอบมาชิม เป็ดรสชาติดี หอม หนังบางเนื้อนุ่ม หมูกรอบก็อร่อย หนังกรอบเคี้ยวสนุก สั่งมากินได้ทั้งกับข้าวและหมี่หยก. ถนนประชาราษฎร์สาย 1 ซอย 20 เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร เปิดทุกวันเวลา 06.00-19.00 น. 0 2912 6395https://maps.app.goo.gl/UTLntN8dzH5YsbaK8 ผัดไทยประทุมทิพย์ร้านผัดไทยเก่าแก่ของย่านบางโพ เปิดมาแล้วกว่า 30 ปี ขายทั้งผัดไทย หอยทอดและอาหารตามสั่ง อยู่เยื้องมาทาง MRT สถานีเตาปูน ตัวร้านจะเป็นตึกแถว 2 คูหา อยู่ติดถนนใหญ่ คนจะแน่นมากโดยเฉพาะตอนเที่ยงวัน ร้านนี้ให้ปริมาณค่อนข้างเยอะ รสชาติจะเป็นแบบเบา ๆ ทานง่าย ไม่หวานเกิน ไม่เค็มเกิน หากใครชอบความจัดจ้านก็ปรุงได้ตามใจชอบ.อีกจุดเด่นของร้านนี้ก็คือ ผัดไทยมีให้เลือกใส่เนื้อสัตว์หลายแบบมาก ทั้งหมู ตับ ไก่ ปลาหมึก กุ้ง อย่างบัดดี้เลือกสั่งผัดไทยกุ้งเล็กมา กุ้งสด เนื้อแน่น อร่อยเลยทีเดียว. 166/29-30 ถนนประชาราษฎร์สาย 2 เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร เปิดทุกวันเวลา 10.30-19.30 น. (หยุดวันอาทิตย์) 0 2912 8904https://maps.app.goo.gl/MP3tAyzmyKzrJFoq7 ไอศกรีมทิพย์รส สาขาเตาปูนร้านนี้เปิดมาตั้งแต่ปี 2513 โดดเด่นที่รสชาติมีเอกลักษณ์แบบดั้งเดิมและเป็นไอศกรีมแบบโฮมเมด ไม่ใส่วัตถุหรือสารกันเสียและสารคงตัว แม้จะเก็บได้ไม่นาน ละลายไวกว่าปกตินิดหน่อย แต่มั่นใจได้ในความสดใหม่และปลอดภัยในทุกคำที่กิน  ไอศกรีมแนะนำของที่นี่คือ “ทิพย์รสไข่แข็ง ๒๕๑๓” ที่ทางร้านจะเสิร์ฟถ้วยแก้วที่มีซุปข้าวโพดและวางไอศกรีมกะทิพร้อมไข่แดงเต็มฟองวางด้านบนสุด อร่อยใช้ได้เลย.อีกเมนูที่บัดดี้สั่งมาคือ เค้กกล้วยหอมโบราณที่เสิร์ฟมาคู่กับไอศกรีมวานิลลาชิพและโฟมกะทิ อร่อย หอม หวานมัน ถูกใจบัดดี้มาก  ปัจจุบันทางร้านมีไอศกรีมเกือบ 20 รสชาติ อย่างเช่น กะทิรวมมิตร เผือก กะทิแมงลัก สตรอว์เบอร์รี วานิลลา นมสด ข้าวโพด ชาเย็น ชาเขียว

ร้านในตำนาน บางโพ-เตาปูน อ่านเพิ่มเติม

🎇🚌เที่ยวรอบกรุง ขึ้นรถบัส Hop-On hop-off🚌🎇

ใครเคยเห็นรถสีแดงสองชั้นเปิดประทุนด้านบนรับอากาศ สายลมและแสงแดดในเมืองกรุงบ้างคะ รถที่เห็นนั่นคือ รถบัส นำเที่ยวแบบ Hop-On Hop-Off โดยบริษัท บริษัท เอเลเฟ่นท์ โกโก จำกัด ร่วมกับ City Sightseeing ซึ่งเปิดบริการมากว่า 6 ปีแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นรถ ลงรถ ได้ตามจุดไฮไลต์ของแหล่งท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ ได้ถึง 16 จุด ได้แก่ สยามพารากอน มาบุญครอง สามย่านมิตรทาวน์ วัดไตรมิตร เยาวราช โรงแรมแกรนด์ ไชนา ทาวน์ โลหะปราสาท ถนนข้าวสาร เสาชิงช้า วัดโพธิ์ สนามหลวง วัดอรุณฯ ไอคอนสยาม ตึกมหานคร ตลาดพัฒน์พงศ์และเซ็นทรัลเวิร์ล โดยสามารถติดตามรถได้จากเว็บไซต์ของบริษัทได้ตลอดเวลาทำการ มีบริการที่นั่ง 40 ที่ นั่งได้ทั้งด้านล่างชั้นเดียวกับคนขับ หรือด้านบน โซนห้องแอร์ และโซนโอเพนแอร์ได้ การบริการตอบโจทย์นักท่องเที่ยวทุกวัยที่มีเวลาทั้งจำกัดและไม่จำกัด หากมีเวลาเพียงครึ่งวัน สามารถนั่งรถชมเมืองพร้อมกับฟังการบรรยายตามแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญต่าง ๆ มีทั้งหมด 7 ภาษา ได้แก่ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษาเกาหลี ภาษาฝรั่งเศส ภาษาเยอรมัน ภาษาสเปน รถวิ่ง 1 รอบใช้เวลาประมาณ 2.30-3 ชั่วโมง หรือหากมีเวลามากขึ้นสามารถแวะไหว้พระ แวะย่านเยาวราช หรือห้างสรรพสินค้าได้ เพราะมีบัตรโดยสารแบบรายวัน แบบสองวัน และสามวัน Elephant Bus Tours : Bangkok📍 จุดขึ้นรถที่ 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ชั้น G ฝั่งติดกับวัดปทุมวนารามราชวรวิหาร⏰ เปิดทุกวัน รถรอบแรกออกเวลา 09.00 น. รอบสุดท้ายออกเวลา 16.00 น. อัตราค่าบริการ💵 ชาวไทย 400 บาท/1 วัน💵 ชาวต่างชาติมี 3 ราคา ได้แก่– 800 บาท/1 วัน– 900 บาท/2 วัน– 1,000 บาท/3 วัน 📞 06 4181 1234📲 Facebook Elephant Bus Tours📲 Line id : @elephantbustours🌐 เว็บไซต์ www.elephantbustours.com🌐 พิกัด https://maps.app.goo.gl/YpdRDQ4eL8Fuex1f8

🎇🚌เที่ยวรอบกรุง ขึ้นรถบัส Hop-On hop-off🚌🎇 อ่านเพิ่มเติม

🌷หอฝัน ถนนพาดสาย เยาวราช✨

Hor Fun (หอฝัน) ร้านอาหารจีนสไตล์ Home Cook Fusion ภายในร้านมีการตกแต่งในสไตล์ Chinese Modern สวยงาม คำว่า “Hor Fun” มาจากภาษาจีนกวางตุ้ง แปลว่า เส้นใหญ่ ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักที่อยู่ในเมนู ก๋วยเตี๋ยวหลอด ที่เป็นเมนู Signature ของทางร้าน เป็นสูตรดั้งเดิมของตระกูลที่ถูกถ่ายทอดมารุ่นสู่รุ่น เป็นระยะเวลากว่า 60 ปี โดยได้นำมาดัดแปลงให้มีความ Modern แต่ยังคงความอร่อยแบบรสชาติต้นตำรับ ตามไปอ่านกันต่อได้ที่ภาพในโพสต์ 📍ร้านตั้งอยู่บนถนนพาดสาย เยาวราช (มีลานจอดรถ เลยร้านไป 20 เมตร)⏰ร้านเปิดทุกวัน เวลา 11.00 – 22.00 น.🌐https://goo.gl/maps/rQ1z4taZjjMny53n7🚗การเดินทางโดยรถสาธารณะ : MRT สถานีวัดมังกร แล้วเดินต่อไปอีก 400 เมตร เมนูที่อยากแนะนำให้ได้ลองกันเริ่มต้นจานแรกด้วยเมนู Appitizer ชื่อว่า “Caprese Ganachai” เมนูนี้มีทั้งชีส มะเขือเทศ น้ำมันมะกอก และยังใช้วัตถุดิบขึ้นชื่อในย่านเยาวราช นั่นก็คือ กานาฉ่าย เป็นเมนูที่ไม่เคยกินมาก่อน รู้สึกแปลกดี ลองครั้งแรกคือชอบมาก ให้ความรู้สึกสดชื่นนิด ๆ ต่อด้วยจานหลัก “ก๋วยเตี๋ยวหลอด” ซึ่งมีหลายหน้าให้เลือก เช่น หมู กุ้ง แซลมอน เส้นใหญ่มีความนุ่มนวล ปรุงรสด้วยการบีบมะนาวลงไป เติมน้ำตาลและพริกลงไปนิดหน่อย อร่อยมากกก อีกหนึ่งเมนูที่เป็นไฮไลต์ คือ Hor Fun Pizza พิซซ่าเส้นใหญ่กรอบหน้าเป็ดรมควัน เสิร์ฟคู่กับผักดองรสชาติจัดจ้าน เป็นพิซซ่าที่ทำจากเส้นใหญ่นำไปทอดให้กรอบ มีความกรอบนอกนุ่มใน หอมอร่อย ต้องลองและยังมีเมนู Why not Fried ติ่มซำทอด ทานคู่กับซอสกำเจือง เป็นซอสสูตรพิเศษของทางร้าน ที่พลาดไม่ได้เลย ขอแนะนำ French Fried Mala เฟรนช์ฟรายส์หมาล่าโรยด้วยกุนเชียงทอด เสิร์ฟให้ทานคู่กับทรัฟเฟิลมาโยหากใครมาเดินเที่ยวย่านนี้บอกเลยว่าห้ามพลาด

🌷หอฝัน ถนนพาดสาย เยาวราช✨ อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top