กรุงเทพมหานคร

กรุงเทพมหานคร

Kid Mai Death Cafe : มรณานุสติ คาเฟ่

คิดใหม่ คาเฟ่แห่งความตาย ซอยอารีย์ เมื่อเดินเข้าซอยมา เราจะพบกับอุโมงค์สีดำที่มีไฟสลัวๆ ตลอดทางเดินมีลักษณะเหมือนนิทรรศการขนาดย่อมที่ตั้งคำถามให้เราได้ขบคิดถึงการใช้ชีวิตของตัวเองที่ผ่านมา มีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ผ่านพ้นอุโมงค์ออกมา ก็จะเข้าสู่บริเวณร้าน ซึ่งออกแบบให้เหมือนกับอยู่ภายในวัดที่มีต้นไม้ร่มรื่น มีศาลาสวดพระอภิธรรมศพที่ตกแต่งในโทนสีขาวดำ อย่างกับอยู่ในงานศพจริงๆ เลย เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศของความตาย เราจึงเห็นโครงกระดูกมนุษย์นั่งบ้างนอนบ้างอยู่ตามที่ต่างๆ ภายในร้าน ไว้คอยเตือนใจให้ผู้มาเยือนได้คิดและทำสิ่งดีๆ ก่อนจะไม่มีโอกาสได้ทำ (แอบขนลุกเบาๆ นะเนี่ย ^^) เครื่องดื่มซิกเนเจอร์ของร้านมีอยู่ 4 อย่าง ซึ่งนำเอาหลักสัจธรรม “เกิด-แก่-เจ็บ-ตาย” มาสอดแทรกเป็นกิมมิคเก๋ๆ ตามคอนเซ็ปต์ของร้าน เมนูซิกเนเจอร์ทั้ง 4 เรียงจากซ้ายไปขวา ได้แก่Born – เกิด “ยากเพียงใดกว่ามนุษย์จะได้เกิดมาและมีลมหายใจ จงใช้ชีวิต”สตรอว์เบอร์รีโซดาสีสวยสดใสที่เข้มข้นจากด้านล่าง ขึ้นไปสู่ฟองอากาศด้านบนอันเป็นตัวแทนของลมหายใจที่หอมหวาน เจือด้วยอุปสรรคที่ขอบแก้วเป็นสีสันของชีวิต  Elder – แก่ “เมื่อการดำเนินชีวิตมาถึงช่วงเวลาหนึ่ง อวัยวะทั้งหลายของเราย่อมเสื่อมไปตามธรรมชาติ แต่ช่วงเวลาที่ผ่านมาสร้างให้เราสุขุม รอบคอบ มีสติและรู้จักคุณค่าของชีวิต”ช็อคโกแลตร้อนที่เข้มข้นจนถึงก้นแก้ว สื่อถึงสังขารที่ร่วงโรยและการปล่อยวาง Painful – เจ็บ “เครื่องดื่มนี้แทนเส้นทางการใช้ชีวิตที่ผ่านมา ที่ผ่านขวากหนามและอุปสรรคต่างๆ จนบางบาดแผลทิ้งร่องร่อยให้เป็นประสบการณ์ชีวิต”ซอสสตรอว์เบอร์รีเปรียบเสมือนเลือดที่เกิดจากบาดแผล ไหลไปตามวิปครีมที่แทนร่างกาย ลึกลงไปสู่จิตใจที่ก้นแก้ว Death – ตาย โกโก้ปั่นเข้มข้น สื่อถึงวาระสุดท้ายที่ร่างกายต้องสลายไปในที่สุด “ทดลองตาย ก่อนตาย”  การนำโลงศพมาตั้งแบบนี้เป็นกิจกรรมหนึ่งของร้าน ที่ให้เราลงไปนอนในโลงเพื่อให้ได้คิดพิจารณาถึงสิ่งต่างๆ ที่เคยทำลงไปและสิ่งที่อยากจะทำในอนาคต หลังออกมาจากโลงก็จะมีสมุดให้เขียน “ความตั้งใจที่จะทำหลังขึ้นมาจากโลงศพ” ซึ่งทั้งหมดนี้ใช้เวลาประมาณ 3 นาที มีเจ้าหน้าที่ของร้านเป็นคนเปิด-ปิดฝาโลงให้  สำหรับผู้กล้าที่ทดลองนอนในโลงศพจะได้ส่วนลดเครื่องดื่ม 5 บาทด้วย นอกจากการทดลองนอนในโลงศพแล้ว ยังมีกิจกรรมให้ผู้ที่มาเยือนได้ทำก่อนตาย เช่น เขียนพินัยกรรม และเขียนจดหมายถึงตัวเอง ซึ่งผู้ร่วมกิจกรรมก็จะได้ลดราคาเครื่องดื่ม 5 บาทเช่นกันค่ะ

Kid Mai Death Cafe : มรณานุสติ คาเฟ่ อ่านเพิ่มเติม

D.E.D Thailand ร้านนี้มีแต่ทีเด็ด

คำว่า D.E.D มีที่มานะจ๊ะ เป็นตัวย่อมาจาก Delicious Extraordinary Dough ซึ่งหมายถึงแป้งขนมปังลูกครึ่ง ที่มีส่วนผสมของขนมปังบริยอช กับครัวซองต์ ความพิเศษที่มีเฉพาะที่นี่เท่านั้น ภายในร้านโปร่งโล่ง ตกแต่งแบบสบายๆ มีภาพวาดการ์ตูนน่ารักๆ อยู่ด้วย ที่นั่งมีให้เลือกหลายโซน แต่โซนที่แอดเห็นแล้วต้องรีบเข้าไปจับจองทันทีคือ โซนที่นั่งหมอนสามเหลี่ยม แม้จะนั่งลำบากเพราะใส่กระโปรง แต่แอดก็สู้ เพราะไม่อยากตกเทรนด์กระแส thainess ที่กำลังมาแรงในช่วงนี้ โซนที่นั่งริมหน้าต่างก็มีนะ ใครอยากไปนั่งสวยๆ เหม่อๆ ดูเหงาๆ ก็นั่งได้เลย มุมนี้ถ่ายรูปออกมาสวยไม่เบาเลยล่ะ มาถึงอาหารของเรา เมนูเด็ดของที่ร้าน ก็ต้องไม่พลาดแป้งพายที่เป็นลูกผสมระหว่างขนมปังบริยอชกับขนมปังครัวซองต์ เหมือนที่บอกไปตอนแรก ตัวแป้งทำออกมาในลักษณะของพิซซ่า เมนูแนะนำคือ “เด็ด ผักโขมอบชีส” และ “เด็ด มาซะหมั่น แห้งติดเกาะ” ส่วนเครื่องดื่มจะเป็นอิตาเลียนโซดา ที่มีชื่อเก๋ๆ อย่าง “กลีบกุหลาบแห่งฤดูกาล” (รสกุหลาบ) และ “สีสันแห่งฤดูร้อน” (รสมะม่วง) ซึ่งทำออกมาได้อร่อยชื่นใจ เมนูเด็ดของร้าน อร่อยกลมกล่อม แป้งพายกรอบนอกนุ่มใน เข้ากันได้ดีกับเครื่องโรยหน้าสไตล์ไทยๆ ปิดท้ายกันที่ของหวานแอดบอกเลยว่าไปถึงแล้วห้ามพลาดเมนู “สังขยาซ่อนแอบ”ขนมปังยัดไส้สังขยา ใส่ไส้มาให้เยอะมาก แต่ไม่หวานเลี่ยน อร่อยกำลังพอดี แป้งขนมปังก็นุ่ม อีกเมนูคือ “ซิ้ลกี้ แมงโก้

D.E.D Thailand ร้านนี้มีแต่ทีเด็ด อ่านเพิ่มเติม

Riverside Vibe: 6 ที่เที่ยวเดินเล่นชิล ถ่ายรูปสวย ติดแม่น้ำเจ้าพระยา

6 ที่เที่ยวเดินชิล ถ่ายรูปสวยติดแม่น้ำเจ้าพระยา– – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – มาเริ่มที่แรกกันเลย Asiatique The Riverfrontคอมมูนิตี้มอลล์ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และเรื่องราวในอดีต จากที่เคยเป็นท่าเรือของบริษัท อีสต์เอเซียติก บริษัทต่างชาติที่ทำธุรกิจส่งออกไม้สักตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ปัจจุบันถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นแหล่งพบปะสังสรรค์ของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ  ลักษณะเด่นของที่นี่อย่างหนึ่งก็คืออาคารโกดังเก่าหลังคาโค้งเรียงต่อกันหลายหลัง อายุกว่า 100 ปี ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นโครงสร้างเดิมที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ โดยได้ปรับปรุงและเสริมความแข็งแรง เพื่อใช้เป็นร้านอาหารและร้านขายสินค้าต่างๆ เอเชียทีคเป็นสถานที่รวมแหล่งชอปปิ้ง ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวเด่นๆ และกิจกรรมต่างๆ เอาไว้ อีกหนึ่งไฮไลท์ของที่นี่คือ ชิงช้าสวรรค์ขนาดยักษ์ที่จะทำให้เราสามารถมองเห็นวิวกรุงเทพฯ และแม่น้ำเจ้าพระยาได้แบบ 360 อาศา ยิ่งเป็นช่วงเย็นๆ ก็จะได้บรรยากาศพระอาทิตย์ตกสวยๆ ด้วย ล้ง 1919 สมัยก่อนที่นี่เป็นท่าเรือกลไฟและโกดังสินค้าของตระกูลหวั่งหลี ตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมแบบจีนโบราณ มีจิตรกรรมฝาผนังฝีมือช่างชาวจีนแต้จิ๋ว ปัจจุบันได้รับการบูรณะให้เป็นแหล่งรวมร้านค้าร้านอาหารขนาดย่อม ให้นักท่องเที่ยวได้มาจับจ่ายใช้สอย ถ่ายรูป และทำกิจกรรมต่างๆ รวมไปถึงเรียนรู้เรื่องราวของชาวจีนผ่านสถาปัตยกรรมเก่าแก่อีกด้วย นอกจากนี้ ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าแม่หม่าโจ้ว ที่มีอายุมากกว่า167 ปี ศูนย์รวมจิตใจของชาวจีนที่โล้สำเภาเข้ามาค้าขายยังแผ่นดินไทย ให้เราได้กราบไหว้กันด้วย ล้ง 1919 Warehouse 30ครีเอทีฟ คอมมูนิตี้ คอมเพล็กซ์ ที่ตั้งอยู่ในซอยเจริญกรุง 30 ถูกแปลงโฉมจากโกดังเก่าให้กลายมาเป็นแหล่งแฮงก์เอาท์สุดฮิป ที่รวบรวมร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านขายสินค้าไอเดียเก๋ๆ หลากหลายประเภท ไปจนถึงโรงฉายหนัง และยังมีพื้นที่ Co-Working Space ให้ทุกคนได้มาเดินชอป นั่งชิล หรือร่วมสนุกกับกิจกรรมต่างๆ ได้ทุกวัน The Jam Factoryสถานที่แห่งนี้เกิดขึ้นโดยคุณด้วง ดวงฤทธิ์ บุนนาค สถาปนิกชื่อดัง (ผู้ทำโครงการ Warehouse 30) ที่ได้ปรับพื้นที่โกดังเก่าบริเวณท่าเรือคลองสาน ซึ่งเคยเป็นโรงงานถ่านไฟฉายตรากบ โรงงานน้ำแข็ง และโรงงานทำยา เนื้อที่กว่า 4 ไร่ ให้กลายเป็นสถานที่ชิลเอ้าท์ โดยรักษาโครงสร้างอาคารเดิมเอาไว้ให้มากที่สุด ภายในโครงการเป็นเหมือนศูนย์รวมความอาร์ตและความคิดสร้างสรรค์ เพราะได้รวบรวมทั้งร้านขายเฟอร์นิเจอร์สุดเก๋ ร้านหนังสือ ร้านกาแฟ art gallery มารวมไว้ในที่เดียวกัน และยังมีพื้นที่สำหรับจัดงานต่างๆ เช่น ตลาดศิลปะ หรืองานคอนเสิร์ตเล็กๆ ใครที่ชอบบรรยากาศชิลๆ หรืออยากมานั่งหาแรงบันดาลใจ ขอบอกเลยว่า The Jam Factory เป็นอะไรที่ตอบโจทย์มากๆ ยอดพิมาน ริเวอร์วอล์คคอมมูนิตี้มอลล์สไตล์โคโลเนียล ที่เรียกได้ว่าอยู่ในทำเลที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะเมื่อมองออกไปยังแม่น้ำ เราจะได้เห็นวิวคุ้งน้ำเจ้าพระยาที่มีวัดอรุณราชวรารามเป็นฉากหลัง  ที่นี่เหมาะสำหรับการเดินชิม ชอป เพราะมีทั้งร้านค้าและร้านอาหารบรรยากาศดีหลายร้านให้เลือก ท่ามหาราชเดิมเป็นท่าเรือข้ามฟากเล็กๆ ที่ไม่คึกคักเท่าไรนัก ตั้งอยู่ระหว่างท่าช้างและท่าพระจันทร์ กาลเวลาผันเปลี่ยนไป ในที่สุดพื้นที่แห่งนี้ได้ถูกเปลี่ยนเป็น open-air shopping & lifestyle market ที่เข้ากับวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ แต่ยังคงมีกลิ่นอายของวิถีชีวิตชุมชนบนเกาะรัตนโกสินทร์ ท่ามหาราช เป็นแหล่งรวมศิลปะและวัฒนธรรม มีร้านค้า ร้านอาหารมากมาย รวมทั้งศูนย์พระเครื่องและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เปรียบเสมือนรากเหง้าของผู้คนในชุมชน เอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของที่นี่ก็คือเหล่า food truck ที่มีให้เลือกหลากหลาย

Riverside Vibe: 6 ที่เที่ยวเดินเล่นชิล ถ่ายรูปสวย ติดแม่น้ำเจ้าพระยา อ่านเพิ่มเติม

ธรรม(ดา) พาทัวร์ ตอน เข้าวัดทำบุญ หนุนนำโชคลาภ

บ่อยครั้งที่เราเห็นผู้คนทำบุญด้วยความมุ่งหวังพร้อมกับการกราบไหว้บูชา เพื่อให้สมความปราถนา หรือพบกับโชคลาภ ความเจริญรุ่งเรือง และความสำเร็จในทุกๆประการ อันเป็นการเติมเต็มให้ชีวิตกลับมามีความหวัง มีกำลังใจ พร้อมที่จะก้าวต่อไปข้างหน้าอย่างมั่นคงอีกครั้ง วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมือง จ.พิษณุโลก.ความเชื่อ ประชาชนทั่วทุกสารทิศเดินทางมาสักการะหลวงพ่อใหญ่หรือองค์พระพุทธชินราชด้วยความศรัทธา โดยนับถือกันในด้านความศักดิ์สิทธิ์ และถือกันว่าเป็นมงคลสูงสุดหากได้มากราบชมความงามของหลวงพ่อใหญ่สักครั้งในชีวิต นอกจากนี้ยังนิยมพากันไปไหว้พระเหลือในวิหารเล็ก ด้วยเกร็ดความเชื่อที่มีกันอย่างแพร่หลายว่าจะช่วยส่งเสริมด้านโชคลาภ จะได้มีทรัพย์สินเงินทอง เหลือกินเหลือใช้.วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือชื่อที่เรียกกันทั่วไปว่า “วัดใหญ่” เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชินราช พระพุทธรูปซึ่งได้รับการยกย่องว่าสวยงามที่สุดในประเทศไทย เป็นวัดที่มีประวัติยาวนานคู่บ้านคู่เมืองพิษณุโลกมาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย นับเป็นศาสนสถานที่สำคัญยิ่ง ทั้งของจังหวัดพิษณุโลกและประเทศไทย .นอกจากนี้ยังมีวิหารพระเหลือ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐาน “พระเหลือ” ซึ่งตามประวัตินั้นกล่าวว่าพระยาลิไททรงรับสั่งให้ช่างนำเศษทองสัมฤทธิ์ที่เหลือจากการสร้างพระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์และพระศรีศาสดา มารวมกันแล้วหล่อไว้เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดเล็กและพระสาวกอีก 2 องค์ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) กรุงเทพมหานคร.ความเชื่อ เชื่อในหมู่พ่อค้า คหบดี และประชาชนว่า หากมาสักการะพระแก้วมรกตด้วยดอกบัวคู่และธูปเทียนแล้ว ชีวิตจะมีแต่ความรุ่งเรืองมั่งคั่งด้วยทรัพย์สมบัติ เงินทองไหลมาเทมา.วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) เป็นพระอารามประจำพระบรมหาราชวังที่สร้างขึ้นตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นวัดหลวงที่ไม่มีพระจำพรรษา และยังเป็นศาสนสถานที่สำคัญที่พระมหากษัตรย์และพระบรมวงศานุวงศ์ทรงเสด็จมาประกอบพระราชพิธีสำคัญ และบำเพ็ญพระราชกุศลตามพระราชประเพณีนับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน.ภายในพระอุโบสถประดิษฐาน พระพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรหรือพระแก้วมรกต พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของไทย นอกจากพระแก้วมรกตแล้ว ภายในวัดยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกมากมายที่ทรงคุณค่าความงดงามทั้งทางสถาปัตยกรรม ศิลปกรรม และภาพจิตรกรรมฝาผนัง ให้เราได้เข้าไปสักการะบูชา และชื่นชมในฝีมือของครูแห่งช่างโบราณที่อุทิศผลงานไว้เพื่อเป็นพุทธบูชาสืบทอดกันมาเป็นมรดกแห่งแผ่นดิน.วันและเวลาเปิด-ปิดเปิดให้สักการะทุกวัน ตั้งแต่ 8.00 – 16.00 น. ผู้ที่จะเข้าไปยังวัด ผู้ชายต้องแต่งกายสุภาพห้ามใส่เสื้อไม่มีแขนและงดใส่กางเกงขาสั้นเหนือเข่า ผู้หญิง ให้ใส่กางเกงหรือกระโปรงทรงสุภาพ กระโปรงต้องยาวคลุมเข่า งดเสื้อแขนกุด วัดลาดขาม (หลวงพ่อแสนเหรีญ) ต.พนมทวน อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี.ความเชื่อ กล่าวกันว่า เมื่อได้มากราบไว้อธิษฐานหลวงพ่อแสนเหรียญซึ่งสร้างจากเงินเหรียญที่เป็นมงคล เหมือนกับได้อธิษฐานขอพรแห่งโชคลาภ ความมั่งคั่ง ร่ำรวยสืบไปพระพุทธเบญจนวมงคลกาญจน์แห่งวัดลาดขามนั้น เป็นพระพุทธรูปที่เลื่องลือในด้านของความศักดิ์สิทธิ์และความแปลกมหัศจรรย์ เนื่องจากองค์พระปฏิมากรนี้ได้ถูกรังสรรค์ขึ้นมาจากเหรียญเงินตราต่างๆ จำนวนนับแสนเหรีญ ชาวบ้านจึงพากันเรียกท่านว่า “หลวงพ่อแสนเหรียญ” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่กับ อ.พนมทวน และเป็นที่นับถือศรัทธาของพุทธศาสนิกชนทั่วไปอย่างกว้างขวางในปัจจุบัน.วัดลาดขาม เป็นวัดที่ก่อสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา มีอายุนับร้อยปี หลังจากกรุงศรีอยุธยาแตก วัดลาดขามก็กลายเป็นวัดร้างยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนวัด ต่อมาพระครูปลัดเพลิน เตชธมโม ได้จัดตั้งเป็นสำนักสงฆ์ และลงมือบูรณะปฏิสังขรณ์วัดแห่งนี้ขึ้นมาด้วยแรงสนับสนุนจากผู้มีศรัทธาและชาวบ้านจนกลับมาเป็นศูนย์รวมแห่งพุทธศาสนิกชนใน อ.พนมทวนอีกครั้ง พระราหู วัดศีรษะทอง ต.ห้วยตะโก อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม.ความเชื่อ เชื่อว่าการกราบไหว้ขอพรพระราหูนั้น เป็นการขอพรให้พ้นเคราะห์ต่างๆ และยังดลบันกาลให้เกิดโชคลาภ ช่วยให้การงานเจริญก้าวหน้า และเชื่อว่าพระราหูยังเป็นเทพบูชาประจำตัวเพื่อเสริมบารมีของคนที่เกิดวันพุธกลางคืนอีกด้วย สามารถไหว้พระราหูได้ทุกวัน ยกเว้นวันพระ.นับว่าเป็นวัดเก่าแก่แห่งหนึ่งในอำเภอนครชัยศรี และวัดแห่งนี้ถือเป็นศูนย์รวมของชาวลาวเวียงจันทน์และชุมชนใกล้เคียง เดิมเป็นป่ารกร้าง ต่อมาได้มีชาวลาวจากเวียงจันทร์อพยพมาตั้งถิ่นฐาน แล้วจึงสร้างวัด และได้พบเศียรพระพุทธรูปทองจมดินอยู่ จึงตั้งชื่อว่า “วัดหัวทอง” ภายหลังมีการขุดคลองเจดีย์บูชา ไปยังองค์พระปฐมเจดีย์ ชาวบ้านจึงย้ายมาอยู่ริมคลองเจดีย์บูชา ในการนี้ได้ย้ายวัดมาด้วยเพื่อสะดวกต่อการสัญจร และเปลี่ยนชื่อเป็น “วัดศีรษะทอง” จนถึงปัจจุบัน .วัดศีรษะทองได้พัฒนาและมีความรุ่งเรืองขึ้นเป็นอย่างมากในสมัยของหลวงพ่อน้อย นาวารัตน์ อดีตเจ้าอาวาส ท่านเป็นที่รู้จักเพราะเป็นต้นตำรับของการสร้างพระราหูอมจันทร์จากกะลาตาเดียว เครื่องลางที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง และได้สร้างชื่อเสียงให้วัดศรีษะทองจนถึงทุกวันนี้.ปัจจุบันวัดศีรษะทองได้จัดสร้างพระราหูขนาดใหญ่ไว้ให้ประชาชนได้มาสักการะบูชาตามความเชื่อและความศรัทธาส่วนบุคคล ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ต.อาเนาะรู อ.เมือง จ.ปัตตานี.ความเชื่อ เชื่อกันว่าเจ้าแม่นั้นมีอิทธิฤทธิ์และความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่พึ่งของคนทั้งหลาย ดวงวิญญาณของเจ้าแม่จะช่วยดลบันดาลให้การค้าขายนั้น มีอต่ความร่ำรวยละเจริญรุ่งเรือง มีโชคมีลาภ ทำให้มีบรรดาพ่อค้า นักธุรกิจและประชาชนทั่วไปนิยมมาบวงสรวงเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว.เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว หรือที่เรียกว่าศาลเจ้าเล่งจูเกียง ในตัวเมืองปัตตานี เป็นที่ประดิษฐานรูปแกะสลักของเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ซึ่งเป็นที่สักการะไม่แต่ชาวปัตตานี รวมถึงชาวจังหวัดใกล้เคียง เช่น สงขลา-ยะลา-นราธิวาส ก็มีความศรัทธาในองค์เจ้าแม่อย่างมาก เนื่องจากมีผู้มาขอพรให้มีโชคลาภก็ได้ผลหรือแม้แต่เรื่องการค้าขายที่ซบเซาหรือขาดทุนก็กลับรุ่งเรืองขึ้น จนทำให้เกิดความนับถือศรัทธาอย่างมาก 

ธรรม(ดา) พาทัวร์ ตอน เข้าวัดทำบุญ หนุนนำโชคลาภ อ่านเพิ่มเติม

The oqposite โอเอซิสแห่งใหม่ย่านนางเลิ้ง

The oqposite ดิ อ๊อพโพสิทโอเอซิสแห่งใหม่ที่จะมาเติมเต็มความสุขให้กับทุกคน บรรยากาศเก๋ๆ หน้าร้าน ตัวร้านมี 2 ชั้น ตกแต่งเรียบง่าย ผสมผสานสไตล์ loft เท่ๆ บริเวณชั้น 2 มีที่นั่ง outdoor ให้นั่งตากลมชิวๆ เมนูอาหารของทางร้านมีทั้งไทยและเทศ เมนูแนะนำ เช่น ข้าวมันกุ้ง สูตรคุณย่า ข้าวเป็ดรมควันพริกเกลือ แต่แอดขอเทใจไปทางอาหารฝรั่งสักนิด เพราะเห็นเมนูชีสแล้วอดใจไม่ได้ที่จะต้องสั่ง โรตีผักโขมอบชีส (180 บาท) แป้งโรตีหอม กรอบ ชีสยืดสะใจ คนรักชีสต้องห้ามพลาด เมนู The oqposite special สปาเกตตี้ผัดพริกกระเทียมเบคอน ( 220 บาท)  สปาเกตตี้สูตรของทางร้าน หอมกลิ่นกระเทียมและพริกไทยใช้เบคอนอย่างดี ชิ้นหนาสุดกรอบ และเพิ่มรสหวานนิดๆด้วยมะเขือเทศอบแห้ง ครื่องดื่มของร้านก็มีความโดดเด่นไม่แพ้กัน มีทั้งเมนูกาแฟและชา เมนู Honey Matcha (155 บาท)ชาเขียวมัทฉะเข้มข้น ผสมกับน้ำผึ้งมะนาว ได้รสขมอมเปรี้ยว เป็นการผสมผสานที่ลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ เมนู Iced Chocolate (125 บาท)ช็อกโกแลตเข้มกำลังดี ไม่หวานและไม่ขมจนเกินไป เมนู The oqposite berry (155 บาท)มีส่วนผสมของชา mixed berry และ กาแฟ cold-brew ที่ผสมออกมาได้อย่างลงตัว รสชาติกลมกล่อม ตบท้ายด้วยเมนูขนมหวานสุดฟิน เมนู Caramel Pudding (140 บาท)เมนูน่ารักที่มีน้องมดตัวน้อยแบกขนมมาเสิร์ฟถึงที่ ตัวเค้กนุ่ม ซอสที่ราดก็หอมหวานคาราเมล อร่อยมากๆ แอดคอนเฟิร์ม

The oqposite โอเอซิสแห่งใหม่ย่านนางเลิ้ง อ่านเพิ่มเติม

“ท่องเที่ยวอิ่มบุญ…สัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่น”

ฤดูฝนเป็นฤดูแห่งการทำนา ในระหว่างเข้าพรรษาพระภิกษุสงฆ์จะต้องจำพรรษาเป็นเวลา 3 เดือน เพื่อไม่ให้ไปเดินเหยียบย่ำข้าวกล้าของชาวนาเสียหาย และเนื่องจากสมัยก่อนไม่มีไฟฟ้าใช้ ชาวบ้านจึงหล่อเทียนขนาดใหญ่ขึ้นมาเพื่อถวายให้พระภิกษุสงฆ์ได้ใช้ในการปฏิบัติกิจวัตรต่างๆ ยามค่ำคืนตลอดช่วงเวลาของการเข้าพรรษา การนำเทียนไปถวายนั้น จะให้เดินไปถวายแบบปกติมันก็จะธรรมดาไป โลกไม่จำค่ะ ชาวบ้านจึงจัดขบวนแห่กันอย่างเอิกเกริกสนุกสนาน และปฏิบัติสืบทอดกันมาจนกลายเป็นประเพณีอย่างที่เราเห็นกันทุกวันนี้ค่ะ ถ้าพูดถึงประเพณีแห่เทียนพรรษาแล้ว จังหวัดแรกที่นึกถึงคงหนีไม่พ้น จ.อุบลราชธานี เพราะที่นี่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในเรื่องการแกะสลักเทียนเป็นรูปต่างๆ อย่างวิจิตรงดงาม ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ในวรรณคดี บุคคลสำคัญในช่วงเวลานั้นๆ และอื่นๆ อีกมากมาย  งาน “ฮีตศรัทธาราชธานีแห่งแสงเทียน” จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 – 28 กรกฎาคม 2561 ภายในงานจะมีกิจกรรมการแสดง แสง สี เสียงสุดอลังการ โดยขบวนแห่จะมีทั้งกลางวันและกลางคืน – แห่เทียนกลางคืน ในช่วงค่ำของวันที่ 27 – 28 กรกฎาคม 2561 จะมีขบวนแห่เทียนและการแสดงประกอบแสงเสียง เรื่อง “เกิดแต่อุบล” บริเวณหน้าวัดศรีอุบลรัตนาราม โดยวันที่ 27 กรกฎาคม ตั้งแต่เวลา 19.00-20.30 น. ส่วนวันที่ 28 กรกฎาคม เริ่มประมาณ 18.00 น. – แห่เทียนกลางวัน วันที่ 28 กรกฎาคม 2561 จุดเริ่มต้นขบวนจะอยู่บริเวณหน้าวัดศรีอุบลรัตนาราม เริ่มตั้งแต่ 08.00 น. เป็นต้นไปค่ะ “มหกรรมแห่เทียนพรรษาและตักบาตรบนหลังช้าง” ถือเป็นอีกหนึ่งประเพณีที่ชาวสุรินทร์ภาคภูมิใจ เพราะเป็นวัฒนธรรมการแห่เทียนที่ยิ่งใหญ่และไม่เหมือนใคร ตักบาตรบนหลังช้างทำยังไง? ทำได้ด้วยเหรอ? ถ้าอยากรู้ ต้องลองไปสัมผัสด้วยตัวเองนะคะ^^  งานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26-27 กรกฎาคม 2561 กิจกรรมภายในงานมีดังนี้ วันที่ 26 กรกฎาคม 2561 เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป ชมริ้วขบวนแห่เทียนพรรษา ขบวนฟ้อนรำศิลปวัฒนธรรมจังหวัดสุรินทร์ พร้อมกับขบวนแห่ช้างกว่า 80 เชือก  วันที่ 27 กรกฎาคม 2561 เวลา 07.00 น. จะมีกิจกรรมทำบุญตักบาตรบนหลังช้าง บริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวางค่ะ โคราช เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีการจัดงานแห่เทียนเข้าพรรษาที่มีความสวยงามและอลังการไม่แพ้ที่อื่นๆ เลยค่ะ โดยมีการจัดงานทั้งหมด 3 ที่ ได้แก่ วันที่ 26 กรกฎาคม 2561 จะมีการแห่เทียนพรรษาของอำเภอโชคชัยและอำเภอพิมายค่ะ (เริ่มแห่ตั้งแต่ประมาณ 13.00 น. เป็นต้นไป) โดยจะเป็นการประกวดต้นเทียนพรรษา เมื่อได้ผู้ชนะของแต่ละอำเภอแล้วทั้งหมดก็จะไปรวมตัวกันบริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีค่ะ  งานแห่เทียนพรรษาที่อำเภอโชคชัย ใช้ชื่องานว่า “เทศกาลกินหมี่ ประเพณีแห่เทียนพรรษา อำเภอโชคชัย” ส่วนที่อำเภอพิมายใช้ชื่องานว่า “ประเพณีแห่เทียนพรรษา อำเภอพิมาย” ภายในงานของทั้ง 2 อำเภอจะมีมหรสพการแสดง และกิจกรรมต่างๆ มากมายค่ะ วันที่ 27 – 28 กรกฎาคม 2561 จะมีการจัด “งานแห่เทียนพรรษาโคราช” ณ บริเวณอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี เป็นการแห่เทียนพรรษาสุดยิ่งใหญ่ของชาวโคราชค่ะ (ขบวนแห่เริ่มวันที่ 28 กรกฎาคม 2561 เวลา 09.00 น.) โดยจะนำต้นเทียนพรรษาที่ชนะจากทั้ง 2 อำเภอมาแห่ และจัดแสดงให้ชมกันค่ะ  นอกจากนี้ภายในงานยังมีการแสดง แสง สี เสียง รวมทั้งมีผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ของดีเมืองโคราช สินค้าโอท็อปต่างๆ มาให้เพื่อนๆ ได้เลือกชอปเลือกชิมกันตลอดงานเลยค่ะ “ประเพณียายดอกไม้” ครั้งแรกที่แอดได้ยิน็ถึงกับงงเลยทีเดียว ว่านี่คือประเพณีอะไร? ประเพณียายดอกไม้เป็นประเพณีท้องถิ่นของชาวเวียงจันทน์ที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานที่จังหวัดสิงห์บุรีค่ะ คำว่า “ยาย” นั้นเพี้ยนมาจาก คำว่า “หย่าย” ในภาษาลาว แปลว่า การแจกจ่ายหรือการให้ คำว่า “ยายดอกไม้” จึงหมายถึงการให้ หรือถวายดอกไม้แด่พระสงฆ์ เพื่อนำไปบูชาพระพุทธเจ้านั่นเองค่ะ  และในปีนี้ชาวจังหวัดสิงห์บุรีก็ได้จัดงานนี้ขึ้น ภายใต้ธีม “ตักบาตรยายดอกไม้ นุ่งซิ่นไทย-ลาวเวียง” ณ วัดจินดามณี จังหวัดสิงห์บุรี ระหว่างวันที่ 27-28 กรกฎาคม 2561 เวลา 07.00 น.  ภายในงานมีกิจกรรมมากมายไม่ว่าจะเป็น การทอดผ้าป่าดอกไม้ ถวายเทียนพรรษา ชิมอาหารถิ่นสิงห์บุรี ชมการแสดงเต้นบาสโลป และอื่นๆ อีกมากมาย แอดอยากเชิญชวนเพื่อนๆ ไปสัมผัสกับบรรยากาศวัฒนธรรมท้องถิ่นของที่นี่ดูนะคะ ว่าจะมีความงดงามแตกต่างจากวัฒนธรรมที่เพื่อนๆ คุ้นเคยมากน้อยแค่ไหนค่ะ ^^ สำหรับใครที่คิดว่าการแห่เทียนพรรษาทางบกธรรมดาไป ต้องมางานนี้เลยค่ะ “ประเพณีแห่เทียนพรรษาทางน้ำ” ณ คลองลาดชะโด อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา ประเพณีแห่เทียนพรรษาทางน้ำเอกลักษณ์หนึ่งเดียวในอยุธยา  งานจัดขึ้นในวันที่ 27 กรกฎาคม 2561 โดยจะเริ่มแห่ประมาณ 11.00 น. กิจกรรมภายในงานจะมีการประกวดบ้านสวนริมคลอง การแข่งขันกีฬาพื้นบ้านลาดชะโด การจัดแสดงภาพถ่ายวิถีชีวิตชาวลาดชะโด การจำลองบรรยากาศตลาดน้ำย้อนยุค และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้เพื่อนๆ ยังจะได้สัมผัสวิถีชีวิตบ้านริมน้ำอีกด้วยนะคะ “ประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษา” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 – 28 กรกฎาคม 2561 ณ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหารจ.สระบุรี ซึ่งเป็นประเพณีที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากของ จ.สระบุรี นับเป็นประเพณีที่แปลกไม่เหมือนใคร และมีเพียงแห่งเดียวอีกด้วย  โดยในยามเช้าพระสงฆ์จะเดินรับบิณฑบาตรจากพุทธศาสนิกชน ซึ่งจะนำดอกไม้ชนิดหนึ่งมาใส่บาตร ดอกไม้ชนิดนี้จะบานในช่วงเข้าพรรษาพอดี จึงได้ชื่อว่า “ดอกเข้าพรรษา” ค่ะ เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนอาจจะไม่รู้จักดอกไม้ชนิดนี้ และแอบไปเสิร์ชหารูปจากอินเตอร์เน็ตดู แต่เชื่อเถอะค่ะว่ายังไงก็ไม่สวยเท่าไปเห็นด้วยตาตัวเองหรอกนะคะ ต้องลองไปสัมผัสดูค่ะ สำหรับเพื่อนๆ ที่ไม่อยากเดินทางไปต่างจังหวัด วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามก็เป็นอีกหนึ่งวัดที่จัดกิจกรรมเข้าพรรษาค่ะ

“ท่องเที่ยวอิ่มบุญ…สัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่น” อ่านเพิ่มเติม

ธรรม(ดา) พาทัวร์ ตอน สถานที่ทำบุญ หนุนนำความรัก

“ลพบุรีน่ะมีแต่ลิง แต่ถ้าคนรักจริงคงจะมีแต่เรา” “รักชาติให้ยืนตรง ถ้าอยากรักมั่นคงให้มายืนข้างๆ กัน” “อยากรวยต้องลงทุน อยากสร้างอนาคตกับคุณต้องทำไง” อ่ะ โพสแคปชั่นอ่อยก็แล้ว ลงรูปให้ดูว่าโสดก็แล้ว ยังนก!!! ได้!! ในเมื่อไม่ได้ด้วยเล่ห์ ก็เอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ ก็เอาด้วยคาถา!!!  ใครสายนกมาทางนี้ วันนี้แอดมินมีวัดที่เชื่อกันว่า หากไปไหว้บูชาขอพร แล้วอานิสงส์จะช่วยส่งไปหนุนนำความรักให้สมหวังดังใจ แต่เดี๋ยวก่อนคนที่มีแฟน หรือเป็นคู่รักก็ไปไหว้บูชาขอพรได้เหมือนกันนะ อานิสงส์จะยิ่งทำให้คู่ของคุณนั้นยืนยาวและมั่นคงต่อๆไป ใครที่เคยไปที่ไหนแล้วสมหวังดังใจ มาบอกต่อได้เลยนะ แบ่งปันกัน เพื่อนๆคนอื่นจะได้สมดังใจบ้าง  ศาลท่านท้าวมหาพรหม กรุงเทพมหานคร เชื่อกันว่า ท่านท้าวมหาพรหมเป็นเทพเจ้าที่ทรงมีเมตตา สามารถบันดาลให้ผู้ที่มาขอพรนั้นสมปรารถนา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความรัก ชีวิต การงาน โดยผู้ที่มาขอพรพระพรหมนั้นมักจะบนบานด้วยการถวายพวงมาลัยดอกไม้เจ็ดสี เจ็ดศอก ช้างไม้ หรือละครรำ ยังมีกิตติศัพท์เลื่องลือกันในหมู่ของผู้ไม่มีบุตรด้วยว่า หากได้มาอธิฐานขอพรจากท่านมักจะสมหวัง แม้แต่ชาวต่างชาติบางคนถึงกับข้ามน้ำข้ามทะเลมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ การสักการะนั้นให้ใช้ ธูป 12 ดอก เทียน 1 เล่ม และพวงมาลัย 4 พวง โดยเริ่มไหว้พระพรหมด้านที่ตรงกับประตูทางเข้าเป็นด้านแรก แล้วเดินเวียนขวาจนครบทั้งสี่ด้าน (ใช้ธูป พระพักตร์ละ 3 ดอก พวงมาลัย 1 พวง) บทบูชานะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ (3 จบ) บทสวดหลัก (นิยมใช้มากที่สุด)โอม อาฮัม พรหมมา อัสมิ  ในวันที่ 9 พฤศจิกายนของทุกปี จะมีการจัดงานบวงสรวง เนื่องจากเป็นวันครบรอบการตั้งศาล พระตรีมูรติ กรุงเทพมหานคร หากผู้ใดที่ยังไร้คู่หรืออับโชควาสนาในด้านความรัก ถ้าได้มาบูชาพระตรีมูรติและตั้งจิตใจอธิฐานขอพรให้พบกับเนื้อคู่หรือรักแท้แล้ว ก็มักจะได้สมดังปรารถนา ซึ่งรวมทั้งเรื่องของชีวิต และการงานอีกด้วย เชื่อกันว่าเวลาที่ดีที่สุดในการสักการะ คือ ทุกคืนวันพฤหัสฯ เวลา 21.30 น. บูชาท่านด้วยธูปแดง 9 ดอก เทียนแดง ดอกกุหลาบแดง และผลไม้ พร้อมกล่าวชื่อ นามสกุล รวมทั้งที่อยู่ของตนเองไปด้วย คำสวดบูชาพระตรีมูรติ คือ คำว่าโอม แค่เพียงเอ่ยว่า โอม ก็เหมือนการเอ่ยนามของเทพเจ้าทั้งสาม ซึ่งโอม มาจาก โอมะ(พระพรหม) อะ(พระวิษณุ) อุ(พระศิวะ) ถือเป็นเทพเจ้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในศาสนาพราหมณ์ เป็นการรวมกันของมหาเทพ 3 องค์ คือ พระพรหม พระวิษณุ(พระนารายณ์) และพระศิวะ(พระอิศวร) ที่ถือเป็นผู้สร้าง ผู้รักษา และผู้ทำลาย การรวมอานุภาพของมหาเทพทั้ง 3 ไว้ในองค์เดียวกัน ผู้บูชาย่อมบังเกิดความเป็นสิริมงคล และความสมบูรณ์พูนสุขในชีวิต ดุจดังพลานุภาพของเทพทั้ง 3  วันบวงสรวง ตรงกับวันที่ 2 ธันวาคม ของทุกปี เวลาที่ดีที่สุดที่จะขอพรคือ วันพฤหัสบดี เวลา 21.30 น.เชื่อว่าเป็นเวลาที่เทพจะลงมายังโลกมนุษย์ เพื่อรับคำและประทานพรให้แก่ผู้ขอ วัดศาลาลอย อ.เมือง จ.นครราชสีมา ชาวโคราชและประชาชนทั่วไปนิยมเดินทางมาสักการะรูปปั้นและเจดีย์บรรจุอัฐิย่าโมที่วัดศาลาลอยนี้ เพื่อบนบานขอพรย่าโมให้ปกป้องคุ้มครอง โดยเฉพาะในเรื่องของความรักและคู่ครอง มีความเชื่อว่าย่าโมจะสามารถดลบันดาลให้สมหวังได้ในที่สุด และเมื่อได้รับความสำเร็จดังอธิษฐานแล้ว ก็มักจะแก้บนด้วยเพลงโคราชที่มีทั้งนักร้องและนักรำแต่งตัวสวยงาม เพราะเชื่อว่าย่าโมนั้นชอบฟังเพลงโคราชเป็นชีวิตจิตใจ วัดศาลาลอย เป็นวัดเก่าแก่ที่ท้าวสุรนารีสร้างขึ้นภายหลังจากรบชนะกองทัพของเจ้าอนุวงศ์ เมื่อปี พ.ศ. 2370 ซึ่งได้มีการสร้างอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี และอนุสรณ์สถานเจดีย์บรรจุอัฐิท้าวสุรนารีขึ้นภายในวัด ภายหลังที่ท่านได้ถึงแก่อสัญกรรมแล้ว พระธาตุศรีสองรัก อ.ด่านซ้าย จ.เลย เชื่อกันว่า หากผู้ใดได้มาบนบานศาลกล่าว แล้วแก้บนด้วยต้นผึ้งนั้น จะได้ตามปรารถนาทุกประการ และถ้ามาขอพรในด้านที่เกี่ยวกับความรักและมิตรภาพ สัมพันธภาพนั้นก็จะยั่งยืนสืบไป ข้อปฏิบัติที่ควรทราบ คือไม่ควรแต่งกายชุดสีแดง รวมทั้งงดนำสิ่งของหรือดอกไม้สีแดงขึ้นไปบูชา เพราะสีแดงเป็นสัญลักษณ์ของเลือดและความรุนแรง และไม่ควรกางร่ม สวมหมวกและรองเท้าขึ้นไปบนพระธาตุ สร้างเมื่อ พ.ศ.2103 แล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2106 ในสมัยแผ่นดินสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ์แห่งกรุงศรีอยุธยาเพื่อเป็นสักขีพยานแสดงความสัมพันธ์อันดีงามระหว่างกัน กับพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชแห่งกรุงศรีสัตนาคนหุต(เวียงจันทร์) ศาลเจ้าแม่สามมุข ใกล้หาดบางแสน อ.เมือง จ.ชลบุรี ด้วยตำนานรักที่อมตะ เจ้าแม่สามมุขจึงเป็นที่พึ่งทางใจของหนุ่มสาวที่พากันเดินทางมาอธิษฐาน ขอพรให้สมหวังในความรักและคู่ครองอยู่เสมอ เชื่อกันว่าหากคู่รักที่มีความมั่นคงและซื่อสัตย์ต่อกัน หากนำว่าวที่เขียนชื่อตนเองกับคนรักมาไหว้เจ้าแม่ แล้วนำไปแขวนบริเวณศาลนั้น เจ้าแม่จะอวยพรให้มีความสุขสมหวัง และฝ่าฟันอุปสรรคไปได้ในที่สุด นอกจากนี้แล้วชาวประมงที่ให้ความเคารพนับถือ จะมาสักการะด้วยการจุดประทัดถวายทุกครั้งก่อนออกเรือ เพื่อให้เดินทางปลอดภัยและจับปลาได้มาก ตำนานเล่าว่า ศาลแห่งนี้สร้าง เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งรักแท้ของสาวมุก และนายแสน ที่กระโดดหน้าผาและตายไปตามกัน เพื่อยืนยันคำมั่นสัญญาว่าจุอุทิศชีวิตให้ ชาวบ้านจึงตั้งชื่อหน้าผาว่า สามมุข และตั้งชื่อชายหาดริมทะเลที่อยู่เบื้องล่างว่า บางแสน และได้มีการสร้างศาล เจ้าแม่สามมุข ขึ้นที่บริเวณเชิงผา ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (วัดลุ่มหาชัยชุมพล) อ.เมือง จ.ระยอง ความเชื่อ เชื่อกันว่าพระบารมีของพระองค์จะช่วยปกป้องคุ้มครองให้มีแต่ความสุขเป็นสิริมงคล มีชีวิตความเป็นอยู่อย่างร่มเย็นและยังเชื่อกันว่าสามีภรรยาที่มีบุตรยาก หากมาขอพรจากศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชแห่งนี้แล้ว มักจะสมดังใจปรารถนา ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช แห่งวัดลุ่มมหาชัยชุมพล เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญแห่งหนึ่งใน จ.ระยอง ซึ่งมีผู้คนเดินทางมาสักการะเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ในการกอบกู้เอกราชให้ผืนแผ่นดินไทยอยู่เสมอ มีการจัดงานสมโภชศาลแห่งนี้เป็นประจำในช่วงเทศกาลตรุษจีน และทุกวันที่ 28 ธันวาคมของทุกปี จะมีการทำบุญตักบาตร ถวายพวงมาลาและเครื่องสักการะ เพราะเป็นคล้ายวันเสด็จขึ้นครองราชย์ของพระองค์ วัดโสธรราชวรารามวรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา ผู้ที่นับถือในหลวงพ่อโสธรเชื่อว่าเมื่อได้มาสักการะแล้ว จะมีแต่ความสุข เป็นสวัสดิมงคลในชีวิตนอกจากนี้ในหมู่ผู้ที่มีบุตรยากยังเดินทางมาพร้อมความหวัง เพราะเชื่อกันว่า หากได้มาสักการะขอพรหลวงพ่อแล้วมักจะได้ลูกชายและเมื่อสมดังใจอธิษฐาน จะนิยมถวายหลวงพ่อโสธรด้วย ละครชาตรี ไข่ต้ม ผลไม้ และพวงมาลัย บทบูชา(ท่องนะโม 3 จบ) กาเยนะ วาจายะ เจตสา วา โสธะรัง นามะ อิทธิปะฏิหาริกะรัง พุทธะรูปัง อะหัง วันทามิ สัพพะโสฯ เดิมชื่อว่า วัดหงส์ สร้างในสมัยอยุธยาตอนปลาย เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อพุทธโสธร พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดฉะเชิงเทรา

ธรรม(ดา) พาทัวร์ ตอน สถานที่ทำบุญ หนุนนำความรัก อ่านเพิ่มเติม

อร่อยเด็ดรอบกรุง กวยจั๊บ-ต้มเลือดหมูสามย่าน เจ้าเก่า

เช้าๆแบบนี้ได้ทานกวยจั๊บร้อนๆ สักชามคงจะฟินน่าดู ซอยแถวนี้อาจจะเรียงเลขแบบแปลกๆ ไปซักหน่อย แต่การเดินทางมาที่ร้านไม่ยากอย่างที่คิด โดยเริ่มจากถนนพระราม 4 ฝั่งขาเข้า ให้เลี้ยวเข้าซอยจุฬา 11 (ซอยที่มีอันนาเค้ก) ตรงมาสักพัก เจอแยกทางขวามือ เห็นป้ายซอยจุฬา 50 ก็เลี้ยวเข้าไปเลย ตรงไปเรื่อยๆ จะเจอกับร้านที่เราตามหา เป็นร้านห้องแถวอยู่ขวามือ ตรงข้ามร้าน Tokyo Sweet บรรยากาศภายในร้าน เป็นร้านเล็กๆ แต่คนแน่นแบบนี้รู้เลยว่าต้องอร่อยแน่นอน เครื่องต่างๆ ที่สด สะอาด พร้อมรอลงชามให้เราทานแล้ว กวยจั๊บสูตรดั้งเดิมที่แอดขอบอกเลยว่า มันดีมาก น้ำซุปกลมกล่อม เครื่องในปรุงสะอาด ไม่มีกลิ่นเหม็น หรือใครชอบต้มเลือดหมูก็สั่งได้นะ อร่อยไม่แพ้กัน.กวยจั๊บ-ต้มเลือดหมู ธรรมดา ราคาชามละ 50 บาท พิเศษ/เพิ่มสาหร่าย ราคา 60 บาท อีกหนึ่งเมนูเด็ด นั้นก็คือ หมูกรอบ ส่วนตัวแอดเป็นคนชอบทานหมูกรอบมาก พอได้ลองชิมหมูกรอบของที่นี่ก็พบว่า ความอร่อยมันมีอยู่จริง หนังกรอบ เนื้อนุ่มกำลังดี อยากสั่งมาทานให้เพลิดเพลินสัก 10 จาน หมูกรอบราคา 80 บาท ถ้าใครอยากไปพิสูจน์ความอร่อยก็ไปกันได้ที่ร้านกวยจั๊บ-ต้มเลือดหมูสามย่าน เจ้าเก่า จะได้รู้ว่าแอดไม่ได้โกหกนะคะ

อร่อยเด็ดรอบกรุง กวยจั๊บ-ต้มเลือดหมูสามย่าน เจ้าเก่า อ่านเพิ่มเติม

สวง อยู่ที่วังหลัง

ร้านสวง อยู่ที่วังหลัง  พิกัด : 156/12 อรุณอัมรินทร์22 หรือซอยวังหลัง 3 ชุมชนต้นโพธิ์ แขวงศิริราช บางกอกน้อยเปิดตั้งแต่เวลา 10.30 – 19.30 น.โทร.097 030 0142 ร้านคาเฟ่ๆเล็กๆ 2 ชั้นที่มีการรวบรวมของตกแต่งของสะสมเก่าๆ สมัยแอดเด็กๆก็มี อยู่ที่นี่แล้วผสมผสานได้อย่างลงตัว อยากให้เข้าไปชม นั่งฟังเพลงชิลๆ บรรยากาศวินเทจได้หมดทั้งสายฮิป สายเท่ เลือกนั่งด้านในร้านก็แอร์เย็นๆค่ะ หรือจะนั่งส่วนตัวกับกลุ่มเพื่อนก็ได้ค่ะ  บริเวณทางเข้าหน้าร้านใครอยากส่วนตัวด้านนอกก็ย่อมได้ เข้าไปกันเลย ภายในร้านก็มีเคาน์เตอร์สั่งเมนูต่างๆ แบ่งเป็นทางเดินเล็กๆขึ้นชั้น2 เน้นสีสันโดดเด่นผสมๆกับไม้ควรแก่การถ่ายรูปยิ่งนัก…ไม่รีรอ สั่งอะไรกินดีกว่าจ้า อ่าา… สั่งชาเย็นมาฟาด ก็มันๆกลิ่นชาขึ้นคอดีค่ะ แต่ แต่ แต่ มีหลายเมนูนะคะของเขาเด็ดตรงที่ไม่มีไขมันทรานส์ และมีเมนูHealthy สลัดผักออแกนิคปลอดสารเคมีด้วยจ้า อ่ะ..ขึ้นมาชมบรรยากาศร้านชั้นบนกันบ้างเต็มไปด้วยของสะสมที่อยากจะเอากลับบ้านไม่ใช่จะขโมยนะคะ แต่มันน่ารักมากกกเฉกเช่นจักรยานเก่าที่อยู่บนนั้น และ..รหัสไวไฟร้านนี้เก๋เด้อออ แต่ละโต๊ะจะมีชื่อโต๊ะที่ต่างกันไป เช่น โต๊ะทีวี โต๊ะเก้าอี้หวาย ฯลฯ ปิ่นโตยันขวดโค้กสมัยเก่าก็มีโชว์ให้เห็น นั่งชิลๆมีเพลงยุค 90’s เปิดคลอๆ จะวินเทจหรือฮิปสเตอร์มาต้องโดนใจร้านนี้ สตาร์วอร์สก็มาอยากได้เลยค่ะ ฮ่าๆๆ

สวง อยู่ที่วังหลัง อ่านเพิ่มเติม

ตามรอย 5 ร้านหมูสร่ง เมนูโปรดคุณพี่หมื่น

วันนี้แอดมินจะพาไปดูว่าร้านไหนมีหมูสร่งอร่อยๆให้ทานกันบ้าง…อ่านจบโพสต์นี้เมื่อไหร่ รีบไปตามรอยกันเลยนะเจ้าคะ ขอบคุณภาพจาก ไทยทีวีสีช่อง 3 ร้านต้นเครื่อง ร้านอาหารไทยที่เปิดมายาวนานกว่า 30 ปี ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องรสชาติอาหารอร่อยกลมกล่อม ตามสูตรอาหารไทยแท้ นอกจากเมนูหมูสร่งแล้ว ยังมีเมนูอาหารไทยหาทานยากให้ได้ลองอีกหลายเมนู ร้านต้นเครื่องตั้งอยู่ที่ ซอยสุขุมวิท 49/13 ถนนสุขุมวิท เปิดทุกวัน 11.00 – 22.30 น. โทร. 081 449 1926, 02 185 3072-3 รูปภาพจาก BKKMENU.com เทพบาร์ เห็นเป็นผับบาร์แบบนี้ แต่เมนูอาหารไทยๆก็มีเหมือนกัน เพราะที่นี่เป็นบาร์แบบไทยประยุกต์ ชื่อเมนูหลานเมนูนำมาจากตัวละครในวรรณคดีส่วนหมูสร่งของร้านนี้ เนื้อแน่น กลมกล่อม จัดมาในจานสไตล์ไทยๆเข้ากับบรรยากาศมาก เทพบาร์ ตั้งอยู่ในซอยนานา ย่านเยาวราช เปิดทุกวัน (ยกเว้นวันจันทร์) เวลา 17.00 – 24.00 น. ภาพจาก sistacafe.com ร้านอรรถรส (At-ta-rote) ร้านอาหารไทยโบราณตำรับชาววัง ที่พิถีพิถันในการปรุงอาหาร รสชาติแต่ละเมนูอร่อยถึงเครื่อง  ร้านอรรถรส ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 39 ใกล้บีทีเอสพร้อมพงษ์ เปิด 11.30 – 22.00 น. โทร. 064 249 4244 ภาพจาก sistacafe.com ร้านนายห้าง ล้ง1919 ร้านตกแต่งสไตล์จีนคลาสสิค ซึ่งเมนูหมูสร่งของทางร้านกำลังมาแรง ขายวันแรกลูกค้าก็ติดใจแล้ว แสดงว่ามีความอร่อยจริง ต้องไปลองชิมซะแล้ว  ร้านนายห้างตั้งอยู่ในโครงการล้ง 1919 เปิดทุกวัน 11.00 – 22.00 น. โทร. 02 408 4710 ภาพจาก เพจร้านนายห้าง ร้านอาหารพื้นเมืองนายต้อ จ.ระยอง ร้านอาหารไทยพื้นบ้าน ที่นำเมนูหมูสร่งกลับมาทำอีกครั้ง เพราะลูกค้ามาที่ร้านทีไรก็ถามหาแต่เมนูนี้ หมูสร่งของร้านอร่อยเด็ดจนชาวโซเชียลกระหน่ำแชร์พิกัดร้านกันรัวๆ แบบนี้ต้องลองไปชิมกันซะแล้ว ร้านนายต้อ ตั้งอยู่ในอำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง เปิดทุกวัน 11.00 -22.00 น. โทร.082 650 5464 ภาพจาก เพจร้านนายต้อ อาหารพื้นเมืองระยอง

ตามรอย 5 ร้านหมูสร่ง เมนูโปรดคุณพี่หมื่น อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top