มืองแห่งขุนเขา-เชียงราย

“ลัดเลาะเมืองแห่งขุนเขา เที่ยวเชียงราย 2 วัน 1 คืน”

วันที่ 1
สวนแม่ฟ้าหลวง อำเภอแม่ฟ้าหลวง
ดอยช้างมูบ อำเภอแม่สาย
หมู่บ้านผาฮี้ อำเภอแม่สาย
หมู่บ้านผาหมี อำเภอแม่สาย
.
วันที่ 2
ไร่ชาฉุยฟง อำเภอแม่จัน
วัดร่องเสือเต้น อำเภอเมือง
วัดพระแก้วเชียงราย อำเภอเมือง

จุดแรกที่เราจะไปก็คือ สวนแม่ฟ้าหลวง พระตำหนักดอยตุง อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงรายออกไปประมาณ 50 กิโลเมตร
.
“ดอยตุง” ตั้งอยู่ในอำเภอแม่ฟ้าหลวง มีภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน ในอดีตเคยเป็นพื้นที่แห้งแล้ง เนื่องจากชาวบ้านถางป่าเพื่อขยายพื้นที่ทำกินและปลูกฝิ่น จนสมเด็จย่าทรงรับสั่งให้ปลูกป่า จึงทำให้ดอยตุงกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
.
สถานที่ท่องเที่ยวบนดอยตุง แบ่งเป็น 4 จุดหลักๆ คือ พระตำหนักดอยตุง หอแห่งแรงบันดาลใจ สวนแม่ฟ้าหลวง และสวนรุกขชาติแม่ฟ้าหลวง ดอยช้างมูบ ซึ่งคราวนี้ เราจะไปเที่ยวที่สวนแม่ฟ้าหลวงกัน

สวนแม่ฟ้าหลวง เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาดอยตุง มีพื้นที่ประมาณ 30 ไร่ ภายในเป็นสวนดอกไม้นานาชนิด อาทิ ดอกซัลเวีย พิทูเนีย บีโกเนีย กุหลาบ ดอกลำโพง ไม้มงคลต่าง ๆ ไม้ยืนต้น และซุ้มไม้เลี้อยมากกว่า 70 ชนิด

สำหรับคนที่ชื่นชอบกล้วยไม้ต้องถูกใจแน่ ๆ เพราะที่นี่จัดพื้นที่ให้กล้วยไม้รองเท้านารีเป็นพิเศษ เป็นรองเท้านารีพันธุ์หายากที่หน่วยเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อของทางสวนเพาะขึ้นเพื่อขยายพันธุ์ สวยงามน่าตื่นตาตื่นใจ หลายพันธุ์ได้รางวัลระดับประเทศมาแล้ว

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมใหม่น่าสนุกที่อยากให้เพื่อน ๆ ได้ลองสัมผัส นั่นคือ Doi Tung Tree Top Walk ทางเดินเรือนยอดไม้ ยาว 295 เมตร และสูงกว่า 30 เมตร ที่อยู่ท่ามกลางป่าอันแสนร่มรื่น แต่ไม่ต้องกลัว เพราะที่นี่มีอุปกรณ์เซฟตี้ให้นักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี
.
สวนแม่ฟ้าหลวง
ตำบลแม่ฟ้าหลวง อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย
เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 06.30-18.00 น.
โทร. 053 767 015-7

จากนั้นเราไปต่อกันที่ ฐานปฏิบัติการดอยช้างมูบ ห่างจากสวนแม่ฟ้าหลวง ประมาณ 9 กิโลเมตร ตั้งอยู่ในพื้นที่กองร้อยทหารม้าที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 ตำบลโป่งงาม อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย

ฐานปฏิบัติการดอยช้างมูบ ตั้งอยู่บนแนวสันเขาแบ่งเขตแดนไทย-เมียนมา มีหน่วยกองกำลังป้องกันชายแดนไทย-เมียนมาประจำการอยู่ตลอด ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่นี่จะเป็นผู้คอยดูแลและให้คำแนะนำนักท่องเที่ยวอย่างใกล้ชิด

ดอยช้างมูบแห่งนี้ เป็นจุดชมทิวทัศน์และพระอาทิตย์ตกที่สวยงามแห่งหนึ่งในเชียงราย เพราะจากจุดนี้สามารถมองเห็นหมู่บ้านในฝั่งเมียนมาที่ตั้งอยู่ท่ามกลางทิวเขาน้อยใหญ่

ฐานปฏิบัติการดอยช้างมูบ มีจุดกางเต็นท์ พร้อมห้องน้ำและห้องสุขาให้บริการ สามารถมาได้เลยโดยไม่ต้องโทรจองล่วงหน้า แต่ต้องนำเต็นท์และอุปกรณ์ต่างๆ มาเอง
.
นอกจากนี้ยังอนุญาตให้นำอุปกรณ์ขึ้นมาประกอบอาหารด้านบนได้ด้วย เพราะที่นี่ไม่มีร้านอาหาร มีเพียงร้านค้าสวัสดิการเล็กๆ เท่านั้น
.
เนื่องจากบริเวณนี้อยู่ในเขตทหาร แอดแนะนำว่าให้พกบัตรประจำตัวประชาชนไปด้วย เพื่อสามารถแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้เมื่อมีการเรียกตรวจ
.
ฐานปฏิบัติการดอยช้างมูบ
ตำบลโป่งงาม อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 06.00-18.00 น.

ชมวิวเสร็จแล้วไปต่อกันที่ดอยผาฮี้ ห่างจากฐานปฏิบัติการดอยช้างมูบประมาณ 2.5 กิโลเมตร ซึ่งเส้นทางนี้ค่อนข้างคดเคี้ยว โปรดใช้ความระมัดระวังในการขับขี่
.
ดอยผาฮี้ หรือหมู่บ้านผาฮี้ตั้งอยู่ใน อำเภอแม่สาย ในอดีตพื้นที่บริเวณนี้เป็นแหล่งปลูกฝิ่นและทำไร่เลื่อนลอย จนใน พ.ศ.2531 โครงการพัฒนาดอยตุงได้เข้ามาให้ความรู้และส่งเสริมให้ชาวบ้านหันมาปลูกกาแฟแทนการปลูกฝิ่น
.
ปัจจุบัน ดอยผาฮี้กลายเป็นแหล่งปลูกกาแฟที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย สายพันธุ์ที่ปลูกกันที่นี่และมีชื่อเสียงไปทั่วโลกก็คือ กาแฟพันธุ์อาราบิก้า
.
ชาวบ้านบนดอยผาฮี้ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยภูเขาเผ่าอาข่า มูเซอแดง และมูเซอดำ ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ปลูกชาและกาแฟเป็นหลัก

จุดที่ดีที่สุดในการชมวิวของที่นี่ก็คือ”ลานโล้ชิงช้า” ที่ตั้งชิงช้าเผ่าอาข่าประจำหมู่บ้านนี่เอง
.
ในช่วงปลายสิงหาคม – ต้นกันยายนของทุกปี ลานนี้จะกลายเป็นสถานที่จัดงานโล้ชิงช้า ซึ่งเป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองต้อนรับฤดูเก็บเกี่ยวที่มาถึง ในงานหญิงชาวอาข่าจะแต่งกายด้วยชุดประจำเผ่าและเครื่องประดับต่างๆ อย่างสวยงาม

ภายในหมู่บ้านเต็มไปด้วยเมล็ดกาแฟและใบชาที่ชาวบ้านนำมาตากแดดให้แห้งเพื่อรอนำไปคั่ว สมกับเป็นหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงในเรื่องของการปลูกกาแฟจริงๆ

ร้านที่แอดไปใช้บริการก็คือ ร้านกาแฟผาฮี้ จุดเด่นอยู่ที่ร่มสีแดงนี่แหละ และหากใครเริ่มหิวทางร้านก็มีบริการอาหารตามสั่ง เพื่อน ๆ สามารถสั่งอาหารมาทานพร้อมกับนั่งชมวิวสวย ๆ แบบนี้ได้เลย
.
ในเมื่อดอยผาฮี้ขึ้นชื่อเรื่องกาแฟ แน่นอนว่าจะต้องมีร้านกาแฟให้เราได้นั่งชิลและลองลิ้มชิมรสกาแฟแท้ๆ จากต้นกำเนิดแหล่งเพาะปลูก
.
กาแฟดอยผาฮี้ มีความโดดเด่นกว่ากาแฟที่อื่นตรงที่มีกลิ่นหอมติดหวานคล้ายผลไม้ แต่รสเข้มกลมกล่อม
.
ร้านกาแฟผาฮี้ มีโฮมสเตย์ให้บริการด้วยนะ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 089 431 7479
.
หมู่บ้านผาฮี้
ตำบลโป่งงาม อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย

จากนั้นไปต่อกันที่ ดอยผาหมี ห่างจากดอยผาฮี้ประมาณ 8 กิโลเมตร ซึ่งเส้นทางนี้ค่อนข้างคดเคี้ยว โปรดใช้ความระมัดระวังในการขับขี่
.
ดอยผาหมี เป็นหมู่บ้านที่มีทิวทัศน์สวยงาม ล้อมรอบด้วยภูเขาน้อยใหญ่ ในอดีตหมู่บ้านแห่งนี้เคยเป็นแหล่งปลูกฝิ่นและเป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติด
.
แต่หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จฯ มายังหมู่บ้าน และมีพระราชดำรัสให้ชาวบ้านเปลี่ยนมาปลูกกาแฟแทนฝิ่น ดอยผาหมีจึงค่อย ๆ กลายเป็นแหล่งปลูกกาแฟสำคัญของประเทศไทย

ที่หมู่บ้านผาหมีมีร้านอาหารและร้านกาแฟหลายร้านทีเดียวที่เรียกได้ว่า เป็นร้านกาแฟหลักร้อยวิวหลักล้าน ถ้าไปเที่ยวที่นี่แล้วไม่ควรพลาด ถึงไม่สั่งอาหาร ไปนั่งพักจิบกาแฟสักครู่ก็รื่นรมย์แล้ว

นอกจากนี้ ยังมีที่พักแบบโฮมสเตย์ให้บริการหลายที่ ราคาไม่แพง และเป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชนอีกด้วย สามารถสอบถามข้อมูลรายชื่อที่พักได้ที่ ททท.สำนักงานเชียงราย โทร. 053 717 433
.
หมู่บ้านผาหมี
ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย

เริ่มวันที่ 2 กันที่ไร่ชาฉุยฟง อำเภอแม่จัน ห่างจากดอยผาหมีประมาณ 35 กิโลเมตร
.
ไร่ชาฉุยฟง เป็นไร่ชาชื่อดังของเชียงรายที่มีมานานกว่า 40 ปี ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ เป็นแหล่งปลูกชาชั้นดี และยังเป็นผู้ผลิตชารายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงรายอีกด้วย

ในไร่ชาฉุยฟง เราจะเห็นแปลงชาที่ปลูกเรียงรายไปตามไหล่เขาอย่างเป็นระเบียบ ระหว่างทางจะมีมุมถ่ายรูปสวยๆ ให้เราได้แวะจอดรถลงไปถ่ายรูปกันตลอดทาง

ภายในไร่ชามีร้าน “ฉุยฟง ที คาเฟ่” ที่มีเมนูขนมและเครื่องดื่มให้ได้เลือกซื้อเลือกทานกัน สามารถนั่งชิลได้ทั้งโซนเปิดโล่ง (Open air) โซนห้องแอร์ และดาดฟ้า ซึ่งเราสามารถขึ้นไปชมวิวไร่ชาและถ่ายภาพสวยๆ ได้
.
ไร่ชาฉุยฟง
ตำบลแม่จัน อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย
โทร. 053 771 563
เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 08.00-17.30 น.

จากไร่ชาฉุยฟง เดินทางต่อไปอีก 39 กิโลเมตร มุ่งหน้าเข้าเมืองเพื่อไปชมความสวยงามของวัดร่องเสือเต้นกันต่อ
.
วัดร่องเสือเต้น ตั้งอยู่ที่ ตำบลริมกก อำเภอเมือง ในอดีตวัดนี้เป็นวัดร้าง มีสัตว์ป่ามาอาศัย โดยเฉพาะเสือ ที่มีอยู่มาก และชอบกระโดดข้ามร่องน้ำไปมา ชาวบ้านจึงเรียกบริเวณนี้ว่า ร่องเสือเต้น ภายหลังชาวบ้านได้ร่วมกันบูรณะวัดขึ้นมา จึงเรียกชื่อวัดว่า “วัดร่องเสือเต้น”

สิ่งที่โดดเด่นที่สุดในวัดนี้ก็คือ วิหารสีน้ำเงิน ซึ่งรังสรรค์โดย “สล่านก” หรือ นายพุทธา กาบแก้ว ศิลปินท้องถิ่นชาวเชียงราย ลูกศิษย์ของ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ โดยเริ่มก่อสร้างเมื่อ พ.ศ.2548 แล้วเสร็จ พ.ศ.2559 รวมระยะเวลาถึง 11 ปีด้วยกัน
.
ลักษณะสถาปัตยกรรมและการประดับตกแต่งส่วนต่าง ๆ ของวิหาร จึงดูคล้ายคลึงกับผลงานของ อ.เฉลิมชัย รวมไปถึง อ.ถวัลย์ ดัชนี ซึ่งเป็นสองศิลปินแห่งชาติชาวเชียงรายนั่นเอง
.
ภายในวิหารประดิษฐาน “พระพุทธรัชมงคลบดีตรีโลกนาถ” พระประธานสีขาวปางมารวิชัย ศิลปะเชียงแสน ซึ่งภายในพระเศียรบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานให้

ด้านหลังวิหารเป็นที่ตั้งของเจดีย์ทรงระฆัง สูง 20 เมตร นามว่า “พระธาตุเกศแก้วจุฬามณีห้าพระองค์” บนยอดเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ได้รับประทานจาก สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ถือเป็นอีกจุดหนึ่งที่ไม่ควรพลาด
.
วัดร่องเสือเต้น
ตำบลริมกก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 07.00-17.00 น.

ปิดท้ายทริปกันที่ วัดพระแก้ว เชียงราย ห่างจากวัดร่องเสือเต้นประมาณ 3 กิโลเมตร
.
วัดพระแก้ว เชียงราย เดิมชื่อว่า “วัดป่าเยียะ” (ป่าไผ่) เนื่องจากบริเวณนี้มีไม้ไผ่พันธุ์พื้นเมืองขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก ต่อมาเมื่อมีการค้นพบพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรหรือพระแก้วมรกต จึงเปลี่ยนชื่อเป็น “วัดพระแก้ว”
.
ปัจจุบันวัดแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐาน “พระพุทธรัตนากร นวุติสานุสรณ์มงคล” หรือ “พระหยกเชียงราย” ซึ่งทางวัดได้สร้างขึ้นและอัญเชิญมาประดิษฐานเมื่อ พ.ศ.2534

การค้นพบพระแก้วมรกตที่วัดแห่งนี้นั้น มีประวัติเล่าว่า ได้เกิดฟ้าผ่าลงที่เจดีย์และได้พบพระพุทธรูปลงรักปิดทองอยู่ภายใน จึงได้อัญเชิญไปประดิษฐานไว้ในวิหาร ต่อมาปูนที่พอกไว้เกิดกระเทาะออก เผยให้เห็นพระพุทธรูปเนื้อหยกสีเขียวมรกตอยู่ด้านใน
.
และตำนานเส้นทางประวัติศาสตร์แห่งองค์พระแก้วมรกตก็ได้เริ่มต้นขึ้น จากศรัทธาของเมืองต่างๆ ที่ได้อัญเชิญพระแก้วมรกตไปประดิษฐานเพื่อสักการะบูชา
.
นับตั้งแต่เชียงราย ลำปาง เชียงใหม่ เวียงจันทน์ และในที่สุดก็ได้มาประดิษฐานอยู่ ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม กรุงเทพฯ จวบจนปัจจุบัน

นอกจากนี้ ภายในวัดยังมีพระอุโบสถทรงเชียงแสนที่งดงาม ลักษณะเด่นก็คือ มีฐานเตี้ย หลังคาลาดต่ำ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2433

ภายในประดิษฐานพระประธานคือ “พระเจ้าล้านทอง” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปสำริดปางมารวิชัยขนาดใหญ่ที่งดงาม เป็นที่เคารพเลื่อมใส ชาวเชียงรายต่างแวะเวียนมาสักการะกันอยู่เสมอ
.
สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งที่ควรเยี่ยมชม คือ พิพิธภัณฑ์โฮงหลวงแสงแก้ว พิพิธภัณฑ์สมัยใหม่ที่จัดแสดงพระพุทธรูปและศิลปวัฒนธรรมอันเกี่ยวเนื่องกับพระพุทธศาสนาในรูปแบบที่ทันสมัย
.
วัดพระแก้วเชียงราย
ตำบลเวียง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
โทร. 053 711 385, 082 026 5667
เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 07.00-18.00 น.

เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 4 พฤศจิกายน 2563

Scroll to Top
Send this to a friend