ไฮไลท์ของการมาเที่ยวอุทยานแห่งชาติผาแต้ม ก็คือการชมพระอาทิตย์ขึ้นก่อนใครในประเทศไทย ณ จุดชมวิวผาแต้ม และ ผาชะนะได (ตอนนี้ในโซนของ ผาชะนะได ยังคงปิดให้บริการอยู่นะ)
.
จากจุดนี้เพื่อน ๆ สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของแม่น้ำโขง ที่กั้นพรมแดนระหว่างประเทศไทยและประเทศลาว แสงสีส้มยามเช้าสะท้อนบนแม่น้ำโขงเป็นภาพที่เห็นแล้วต้องหยิบกล้องมาถ่ายรัว ๆ
ก่อนถึงจุดชมวิวผาแต้มไม่กี่กิโลเมตร เพื่อน ๆ จะเห็นแท่นหินสูงใหญ่รูปร่างแปลกตาคล้ายดอกเห็ด ที่เรียกว่า “เสาเฉลียง” ตั้งเรียงราย เสาเฉลียงเหล่านี้เป็นเสาหินธรรมชาติที่เกิดจากการกัดกร่อนของลมและน้ำนับล้านปี โดยแต่ละเสาสูงถึง 20 – 30 เมตรเลยล่ะ และสิ่งที่ทำให้รูปร่างของแต่ละส่วนต่างของเสาเฉลียงนี้แตกต่างกันก็เพราะว่าส่วนประกอบของหินในแต่ละชั้นต่างกันนั่นเอง
.
Cr. ภาพประกอบ อุทยานแห่งชาติผาแต้ม Phataem National Park https://www.facebook.com/pt074/
ผาแต้ม ยังเป็นเหมือนห้องเรียนประวัติศาสตร์ทางธรรมชาติ เพราะที่นี่เพื่อน ๆ จะได้เห็นภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์ ที่มีอายุไม่ต่ำกว่าสามพันถึงสี่พันปี เป็นภาพเขียนสีที่ยาวที่สุดในประเทศไทย โดยจะเป็นภาพเขียน สัตว์ เครื่องมือเครื่องใช้ สัญลักษณ์ และคน ถือว่าเป็นภาพเขียนสีที่ค่อนข้างสมบูรณ์เลยทีเดียว
ผาโสก คำว่า “โสก” หมายถึง ร่องยาวที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำ บริเวณนี้เลยมีอ่างน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ที่ซ่อนตัวอยู่ในอุทยานแห่งชาติผาแต้ม หรือที่นักท่องเที่ยวมักเรียกกันเล่น ๆ ว่า จากุชชี่ลอยฟ้า บรรยากาศการแช่น้ำ พร้อมชมวิวแม่น้ำโขง วิวดี ๆ แบบนี้มีที่นี่ที่เดียว
.
Cr. ภาพประกอบ อุทยานแห่งชาติผาแต้ม Phataem National Park https://www.facebook.com/pt074/
นอกจากผาแต้มจะเป็นสถานที่ชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดแล้ว ที่นี่ยังเป็นที่แรกที่เห็นพระอาทิตย์ตกก่อนที่อื่น ๆ ในประเทศไทยอีกด้วย เรียกได้ว่ามาเที่ยวผาแต้มที่เดียว ได้ชมธรรมชาติสวยงามตั้งแต่ตอนตื่น จนไปถึงตอนจะนอนเลยจริง ๆ
.
Cr. ภาพประกอบ อุทยานแห่งชาติผาแต้ม Phataem National Park https://www.facebook.com/pt074/
