ม่วนซื่น…อุดรธานี

ฮัลโหลลล แฟนเพจทุกคน แอดมีข่าวดีมาบอก ในปี พ.ศ. 2569 นี้ จังหวัดอุดรธานีถูกเลือกเป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกค่ะ ใครที่ยังไม่ค่อยรู้จักจังหวัดอุดรธานี เริ่มได้เลยจะว่าไปแล้ว อุดรธานีนั้นมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจในทุกมิติ ทั้งประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ธรรมชาติ รวมถึงอาหารอร่อย ๆวันนี้แอดเลยมีเส้นทางท่องเที่ยวมาให้อ่านกันเพลิน ๆ จะมีที่ไหนบ้าง ไปดูกันเลย

  • วันที่ 1
    • สัมผัสผ้าทอโบราณ ย้อมสีจากดอกบัวธรรมชาติ ณ ชุมชนบ้านโนนกอก
    • ชมเรื่องราวความเป็นมาของอุดรธานี ณ พิพิธภัณฑ์อุดรธานี
    • ชมบรรยากาศยามเย็นที่ หนองประจักษ์
  • วันที่ 2
    • ชมก้อนหินรูป เรือสำเภาและสักการะพญานาคสีทองที่ วัดภูตะเภาทอง
    • อร่อยกับอาหารหลากวัฒนธรรมที่ร้าน มาดามพาเท่ห์

ชุมชนบ้านโนนกอก

บ้านโนนกอก กลุ่มทอผ้าโบราณที่เรากำลังจะไปเยี่ยมชมในวันนี้ เดิมนั้นก็มีอาชีพทอผ้ากันอยู่แล้ว แต่ได้ต่อยอดด้วยการนำวัตถุดิบธรรมชาติที่มีมากในท้องถิ่นคือดอกบัวมาใช้เป็นสีย้อมจนประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงมาก

นอกจากนี้ เรายังจะได้ชมการทอผ้าทอลายขิดที่มีลวดลายสวยงามเป็นเอกลักษณ์และเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นของจังหวัดอุดรธานีอีกด้วย ซึ่งกรรมวิธีการทอก็จะเป็นแบบดั้งเดิมคือการใช้กี่ทอผ้าแบบโบราณ โดยไม่ใช้เครื่องจักร

ส่วนกิจกรรมในชุมชนก็น่าสนใจไม่น้อยค่ะ เพราะเราจะได้ทำผ้ามัดย้อม ออกแบบลวดลายกันได้เองเลยนะ โดยจะใช้สีย้อมจากดอกบัวและดาวเรืองนั่นเองค่ะ

อย่างที่กล่าวไป เอกลักษณ์ของที่นี่คือการนำดอกบัวแดงที่ขึ้นเยอะในพื้นที่มาใช้เป็นวัตถุดิบย้อมสี ย้อมเส้นฝ้าย และเส้นไหม ซึ่งแต่ละส่วนของดอกบัวก็จะให้สีที่แตกต่างกัน ส่วนดอกบัวตากแห้งจะให้สีน้ำตาลทอง สายบัวให้สีเทาเงิน กลีบบัวให้สีชมพู เพื่อทำให้ได้สีหลากหลาย จึงมีการนำส่วนผสมอื่น ๆ เข้าใช้ร่วม เช่น หากใช้น้ำปูนกับน้ำมะขามเปียกผสมจะได้สีเขียวขี้ม้า เป็นต้น แต่ที่นิยมมากในตอนนี้ก็คือนำมาหมักโคลน

นอกจากนำดอกบัวมาเป็นวัตถุดิบย้อมแล้ว ที่นี่ยังใช้ดอกดาวเรืองตากแห้งอีกด้วย ซึ่งสีที่ได้คือสีเหลือง

ใครอยากได้ผ้าสวย ๆ ก็สามารถเลือกซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านกันได้

  • 📌 ชุมชนบ้านโนนกอก 63 หมู่ที่ 18 ตำบลหนองนาคำ อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี
  • ⏰ เปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 17.00 น.
  • 📞 โทร. 06 1942 8808
  • 🌐https://goo.gl/maps/iVM5tbY3rh4g8Lfs5

พิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี

อีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่ต้องห้ามพลาดนั่นคือ พิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี อาคารสีเหลืองสวยงามเห็นมาแต่ไกล สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 6 เดิมใช้เป็นโรงเรียนสตรี ก่อนจะปรับเปลี่ยนไปใช้เป็นสถานที่ทำการของหน่วยงานราชการต่าง ๆ จนปัจจุบันกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ ซึ่งในการบูรณะใหญ่ครั้งล่าสุดนั้น ได้มีการเปิดผิวปูนอาคารบางส่วน และทิ้งไว้ให้ประชาชนได้เห็นรายละเอียดภายในเพื่อเป็นประโยชน์ด้านการศึกษา

อาคารพิพิธภัณฑ์มี 2 ชั้น จัดแสดงเรื่องราวของอุดรธานี ตั้งแต่การตั้งถิ่นฐานในยุคก่อนประวัติศาสตร์ เรื่อยมาถึงการกำเนิดเมือง และเรื่องราวของพลตรี พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม พ่อเมืองคนแรก จนถึงยุคสงครามเย็นที่สหรัฐฯเคยใช้อุดรธานีเป็นฐานทัพ นอกจากนี้ยังมีห้องที่รวบรวมเรื่องราวของบุคคลสำคัญในจังหวัดอีกด้วย

  • 📌 ถนนโพศรี ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี
  • ⏰ เปิดทุกวัน เวลา 09.00-16.00 น. (ปิดวันจันทร์)
  • 📞 โทร. 0 4224 5976
  • 🌐https://goo.gl/maps/bWzJBZKgqvpjEUuh6

หลังจากเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์เมืองอุดรกันแล้ว ขอแนะนำให้ไปเดินเล่นรับลมชิลล์ ๆ กันที่หนองประจักษ์ ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลกัน ยามเย็นจะเห็นผู้คนมาออกกำลังกาย เดินเล่นชมบรรยากาศกันเยอะเลยล่ะ

ที่นี่เป็นสวนสาธารณะใจกลางเมือง มีหลายมุมให้เราได้ถ่ายรูปสวย ๆ รวมถึงไฮไลท์ที่ไม่ว่าใครได้มาหนองประจักษ์ก็ต้องเจอ น้องเป็ดเหลืองริมบึงน้ำนั่นเอง

  • 📌 5-7 ถนนเทศา ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี
  • 🌐https://goo.gl/maps/BL6vNihT28qs2z5M9

วัดภูตะเภาทอง

วัดภูตะเภาทองเป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาภูพาน พื้นที่โดยรอบของวัดส่วนใหญ่เป็นลานหิน และก้อนหินขนาดใหญ่มากกว่า 30 ลูก แต่ไฮไลท์คือ หินก้อนใหญ่ที่มีรูปร่างคล้ายกับ “เรือสำเภา” ซึ่งเป็นที่มาของชื่อวัด ชาวบ้านเชื่อกันว่า ถ้าหากได้มาลอดใต้ท้องหินจะเป็นสิริมงคล เจริญในหน้าที่การงาน ประสบโชคดี

หากสังเกตดี ๆ จะเห็น “รอยฝ่ามือแดง” ปรากฏให้เห็นตรงหินก้อนใหญ่ สำหรับรอยฝ่ามือแดงนี้ ทางกรมศิลปากรได้เข้าไปตรวจสอบและมีผลยืนยันแล้วว่ามีอายุประมาณ 2,500 ปี โดยมีอายุใกล้เคียงกับผาแต้มที่จังหวัดอุบลราชธานีทีเดียว

จุดเด่นอีกจุดของที่นี่คือ “พญานาคราชสีทอง” ชื่อมุจลินท์ ซึ่งหลวงพ่อเจ้าอาวาสได้สร้างขึ้นตามนิมิต มีประชาชนไปสักการะเพื่อสิริมงคลกันไม่ขาดสาย แอดบอกเลยว่าสายบุญไม่ควรพลาดค่ะ

มาดามพาเท่ห์2515

เติมพลังกันที่ร้านมาดามพาเท่ห์2515 เดิมร้านนี้ชื่อ คอฟฟี่ ปัตเต้ เป็นร้านกาแฟและขายอาหารเช้า ปัจจุบันได้ต่อยอดให้เป็นร้านอาหารเต็มรูปแบบ สำหรับ 2515 ก็ยังมีความหมายอีกด้วย เพราะเป็นช่วงปีที่มีชาวลาว ชาวเวียดนาม รวมถึงชาวจีนทยอยย้ายถิ่นฐานเข้ามามาก จนเกิดวัฒนธรรมอาหารที่หลากหลาย

  • มาดามพาเท่ห์มี 2 สาขา
    • 👉 สาขา 1 ถนนตำรวจ
    • 📞 โทร. 0 4224 1991
    • 👉 สาขา 2 ถนนประจักษ์ศิลปาคม
    • 📞 โทร. 0 4211 9669

เมนูในร้านส่วนใหญ่จึงเป็นเมนูฟิวชั่นที่ผสมผสานกันของอาหารไทย ลาว จีน เวียดนาม ฝรั่งเศส เลือกสั่งเลือกอร่อยกันได้เลยค่ะ

Scroll to Top
Send this to a friend