ทริปพาเด็กดอยไปปล่อยเกาะ ภูเก็ต-ตาชัย ไม่ไปไม่ได้แล้ว !!!!!!!!!!!

พบกันอีกครั้งนะครับ วันนี้จะพาไปเที่ยว สถานที่สวยๆอีกเช่นเคยครับ โดยครั้งนี้เป็นการไปเที่ยวเกาะสองเกาะครับ คือ ภูเก็ต กับ เกาะตาชัย ดูว่าจะสวยสมคำร่ำลือหรือไม่ ตามมาเลยครับ

ทริปนี้ ผมบินด้วยโปร 0 บาทของหางแดง เช่นเคย และเป็นอีกครั้งที่ผมต้องบินสองตุ๊บ จากเชียงรายมาสุวรรณภูมิ ไฟล์ตเที่ยง แล้วก็ออกไปรับเด็ดดอยที่แอร์พอร์ตลิ้งค์ หัวหมาก (สาเหตุที่ไปรับเดาไม่ยากครับ เด็กดอยขึ้นรถไฟไม่เป็น) ก่อนอื่นต้องถ่ายรูปกับป้ายก่อนจะได้เอาไปลง FB อวดเพื่อนๆได้

ก็ต้องยืนรอกันสักพักนึงกว่ารถไฟจะมา แอร์พอร์ตลิ้งค์ นี่มีประโยชน์จริงๆสำหรับคนบ้านไกลแบบเด็กดอย ที่จะไปสุวรรณภูมิ ไม่งั้น ค่าแท๊กซี่ แพงกว่าค่าเครื่องบินอีก

ระหว่างรอเห็นวิวสวยๆเลยกดไปสักภาพก่อนจะไปขึ้นเครื่องไปภูเก็ต ไฟล์ต สามทุ่ม ก่อนมาทริปนี้ก็ไม่ได้เตรียมตัวอะไรมากเช่นเคย จองที่พักก่อนเดินทางแค่ สองวัน โปรแกรมเที่ยวไม่มี ไปหาเอาข้างหน้า เรียกว่าไปเพราะเสียดายตั๋วเครื่องบิน แต่เสียตังค์ เพราะที่พักและเที่ยวแพง แทน 55

เนื่องจากเลิกงาน 5 โมง แล้ว มาเลย ทำให้ลงเครื่องที่ภูเก็ต ก็ยืนหลับ รอรถตู้ไปส่งที่ โรงแรม ดูทำหน้า ง่วงนอนสุดๆ ไม่สมกับที่หลายๆคนรอคอย เด็กดอยมาตั้งนาน

ลงเครื่องเสร็จ โทรหา โรงแรมถามการเดินทางไปที่พัก ปรากฎว่าได้คำตอบว่า ให้นั่งรถตู้มาเลย นั่งแท๊กซี่แพง รถตู้ คนละ 150 แต่แท๊กซี่ 700 บาท พอขึ้นรถตู้ซึ่งมีผมและเด็กดอยเป็นคนไทยเพียงสองคน ก็จะถูกพาไปแวะที่ บริษัททัวร์ ก่อนประมาณ ครึ่งชั่วโมง ไม่รู้ว่า ฝรั่งพวกนั้นโดนฟันหัวแบะไปเท่าไหร่ ไอ่เราก็ไม่กล้าพูดมาก กลัวโดนฟันหัวแบะจริงๆ ไม่รู้ว่าเป็นแบบนี้ทุกคันหรือปล่าว

กว่าจะถึงที่พัก ปาเข้าไปเที่ยงคืน เหนื่อยมาก ไม่ขอถ่ายรูปอะไรทั้งสิ้น อาบน้ำนอน เพราะว่าตอนจองโรงแรม ได้ให้พนักงาน ซื้อทัวร์ วันเดย์เกาะตาชัยไว้ พนักงานแจ้งว่ารถมารับ 6.30 น เลยรีบนอนเรียกว่าสลบไปเลย ตื่นแต่เช้าออกเดินทางด้วยรถตู้จากภูเก็ตไปพังงา เพื่อไปขึ้นเรือ ใช้เวลาเดินทางประมาณ ชั่วโมงครึ่ง อยู่บ้านไม่เที่ยงไม่ตื่นมาเที่ยวนี่ตื่นได้ ดูเอาเช้าแค่ไหนพระอาทิตย์ พึ่งจะโผล่มาให้ยลโฉม

นั่งรถมาชั่วโมงครึ่ง ฟังการสรุปการเดินทางคร่าวๆแล้ว ก็ต้องนั่งเรืออีกชั่วโมงครึ่ง เรียกว่าเดินทาง ก็เหนื่อยแล้ว กว่าจะถึงที่หมาย ทริปนี้ มีเรือออกไปตาชัยสองลำ สิมิลันสองลำ ไม่มีคนไทยอีกเช่นเคย บักสีดาล้วนๆ

นั่งเรือมาสักพักก็เห็นเกาะตาชัย อยู่ริบๆ วันนี้แดดแรงมาก มีเมฆเล็กน้อย ถึงน้อยมาก

ก่อนขึ้นเกาะ จะเป็นจุดดำน้ำจุดแรก หน้าหาด

จากเมื่อก่อนเคยหลงไหลโลกใต้น้ำจนเกือบจะไปเรียนดำน้ำลึก แต่เดี๋ยวนี้หมดโอกาส เพราะกลับมาอยู่บนดอยแล้ว จะเรียนดำน้ำลึก ไปดำแม่น้ำหลังบ้านก็ใช่ที่ เตรียมอุปกรณ์ พร้อม ลุยยยยย

ผมใช้เวลาดำประมาณ ยี่สิบนาที ก็ขึ้นมาแล้ว เนื่องจาก ไม่ประทับใจมากนัก อาจเพราะ เห็นปะการังตาย ฟอกขาว ปลาเลยน้อยไปด้วย ก็ขึ้นมาบนเรือ จิบเบียร์ช้างฟรี กินขนมฟรี เก็บภาพไปเรื่อยๆดีกว่า

ขณะนั้นเวลา 11.00 น ก็มีเรือของอีกบริษัทพานักท่องเที่ยวมาอีกลำหนึ่ง

หลังจากปล่อยให้ดำน้ำ 40นาที พี่ไกคืก็เรียบักสีดา ทั้งหลายขึ้นเรือ สอบถามว่าใครเห็นปลาอะไรบ้าง ปรากฏว่า คุณลุงจาก เยอรมัน คนนึงเจอเต่าด้วย ดี๊ด๊า กันใหญ่ จากการสอบถามพี่ไกค์บอกว่า ที่สิมิลัน ก็พอๆกัน ปะการังฟอกขาวตาย ปลาน้อย ไม่รู้จะแก้ใขกันอย่างไร แล้ว

หลังจากนั้นเรือก็นำมาสู่เกาะตาชัย เกาะที่เป็นส่วนหนึ่งของ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน แต่จริงๆแล้วอยู่xxxงจากสิมิลันพอสมควร อยู่ระหว่างเกาะ สิมิลันและเกาะสุรินท์ ภาพแรกบนเกาะตาชัย

เกาะตาชัย ชื่อนี้ผมได้ยินครั้งแรกเมื่อสองปีก่อน แต่ก็ไม่ได้สนใจมากนัก จนกระทั้งมาเห็นกระทู้ใครสักคนใน พันทิป ดูรูปแล้วสวยมาก เลย หาข้อมูล แล้วจองตั๋วมาภูเก็ต ไว้ล่วงหน้า

เกาะตาชัย ขึ้นชื่อเรื่องหาดทรายที่ขาวละเอียด นุ่มเท้าเวลาเดิน เหมือนคอฟฟี่เมต

หาดทรายของเกาะตาชัย มีความยาวประมาณ 300 ร้อยเมตร

เกาะตาชัยเริ่มเป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติมากขึ้น ในเรื่องของความสวยงามและเงียบสงบ ไม่แพ้สิมิลัน จึงจะเห็นภาพแบบนี้อยู่ทั่วไป

นอกจากหาดทรายที่ขาวแล้ว เกาะตาชัยยังมี น้ำทะเลที่ใส มากๆ

น้ำที่ใสราวกระจก ยามเมื่อแสงแดดส่องลงมา ช่างสวยงามประทับใจจริงๆ

ขณะที่ พี่ๆทีมงานไกค์ กำลังเตรียมอาหารกลางวัน จึงปล่อยให้ลูกทัวร์เดินเก็บบรรยากาศ ของเกาะตาชัยไปเรื่อยๆก่อน

แดดร้อนมากเพราะ เกือบเที่ยงแล้ว ขอมาหลบแดดเก็บภาพสักหน่อย

เกาะสวย ทรายหาดขาว ร่มไม้ กับ ชิงช้า ย่อมเป้นของคู่กัน และสามารถพบเห็นเกือบทุกที่ แต่ก็ไม่เบื่อที่จะเก็บภาพมาอวดกัน

ทะเล กับก้อนหิน เป็นเป็นของคู่กัน

แต่หากทะเลกับก้อนหิน ไม่มีคลื่นซัด ก็เหมือนท้องฟ้าที่ไม่มีเมฆ มันจะดูเรียบๆเกินไป เหมือนชีวิตนั่นแหละ มันต้องโดนคลื่นซัดซะมั่งจะได้ไม่เบื่อหน่ายกับชีวิต แต่อย่าเผลอปลิวหายไปกับคลื่นเสียก็เท่านั้น

จะว่าโชคดี ที่วันนี้ฟ้าใส แต่ในใจก็อยากให้มีเมฆบ้าง เพราะฟ้าที่ว่าสวยๆก็เพราะมีเมฆ มีคนเคยบอกผมไว้แบบนี้

เดินเหยียบคลื่นกลับไปที่ทำการเกาะตาชัย

มองจากลานหน้าทำการเกาะตาชัยออกไปด้านทะเล

บนเกาะตาชัย ไม่มีรีสอร์ท ไม่มีบ้านพัก สำหรับนักท่องเที่ยว เคยมีให้กางเต้นท์แต่ไม่แน่ใจว่ายกเลิกไปแล้ว เพราะ ว่าบนเกาะ ไม่มีแหล่งน้ำจืด ทำให้ลำบากในการอยู่อาศัย จึงคงมีแต่เจ้าหน้าที่ และ ธงชาติ ที่คอยดูแลและต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเกาะนี้ ต่อไป

หลังจากทานอาหารเสร็จแล้ว ก็เดินไปสำรวจอีกด้านของหาด

มุมนี้ ที่ใครๆก็ถ่ายกัน เราก็ขอถ่ายบ้างแม้ไม่สวยเท่าคนอื่นเขา

แดดร้อนจัด ไม่เหมาะสำหรับคนกลัวดำนะครับ

นั่งพักสักแปบ ก็เริ่มมีเรือมารับ นักท่องเที่ยว ไปดำน้ำจุดที่สอง

ส่วนเรืองของเรายังไม่มา ยังมีเวลา แอบเก็บภาพคู่รักคู่นี้ (เค้าขอให้ผมถ่ายรูปคู่ให้เขาด้วย)เป็นภาพที่น่ารักมากคู่นี้ ประมาณว่าผู้หญิงก็บ้าถ่ายรูปส่วนแฟนก็เดินถ่ายให้ตลอด ไม่เหมือนผมกับเด็กดอย ที่เรียกว่าต้องบังคับถ่ายคนก่อน แล้วถึงจะภถ่ายวิวได้ 55

แล้วก็ต้องถึงเวลาที่ต้องลาจากเกาะตาชัย เก็บไปแต่ภาพสวยๆในกล้อง และความทรงจำดีดีก็พอ หลงเหลือไว้แต่รอยเท้า เพื่อให้คนอื่นๆได้มาเห็นความสวยงามของเกาะตาชัยแห่งนี้อีกนานเท่านาน

จุดนี้ผมไม่ได้ลงไปดำน้ำด้วยเนื่องจากไม่มีน้ำจืดให้อาบเพราะเรือไม่กลับไปที่เกาะแล้ว

เมื่อถึงเวล่ บ่ายสามโมง ก็ถึงเวลา กลับ ทุกคนอิ่มเอมกับความประทับใจของเกาะตาชัย และโลกใต้น้ำแล้ว บนเรือก็มีการเปิดไวน์กินเป็นการฉลอง ก่อนกลับ

กว่าจะกลับมาถึง โรงแรม ก็ เกือบสองทุ่ม หลังจากอาบน้ำแล้ว ก็พากันไปเดินเล่นที่ หน้าหาดป่าตอง ที่คราคร่ำไปด้วย นักท่องเที่ยวต่างชาติ

ก็เลยหาอะไรทานแบบ สตรีทฟู๊ดส์ ซึ่งวันนั้นเป็นวันมาฆบูชา เลยไม่มีเบียร์ขาย ทำให้ มีโต๊ะนั่งทาน

กลับมาดูที่พักของเราบ้างครับ ผมจองผ่าน agoda ก่อนเดินทางสองวัน โดยการเลือกดูรูปผ่านเว็ป ก็สะดุดตากลับโรงแรมเล็กๆที่ มีการตกแต่งโดดเด่นสะดุดตา ที่ ชื่อ The ODDY HIP Hotel ตั้งใจจะถ่ายป้าย แต่มีคนชอบถ่ายกับป้ายมาแจมด้วย เลยได้แต่หัวซะ

The ODDY เป็น โรงแรมที่อยู่ที่หาดป่าตอง แต่ไม่ติดหาด ตั้งอยู่ในซอยที่เรียกว่าไกล้ๆกับแยกซอยตัน

ที่ตั้งอยู่เกือบสุดซอย แต่ไม่น่ากลัว เพราะ ว่าในซอยเดียวกันนั้นมี โรงแรมขนาดเดียวกันตั้งอยู่เยอะแยะแต่ด้วยการตกแต่งที่ สะดุดตา จึงทำให้ The ODDY เห็นเด่นชัดกว่าใคร มีป้ายที่ไหน ก็ต้องมี เด็กดอย เป็น ธรรมดา

ด้านหน้า โรงแรม มีการเล่น แสงสี สวยงาม สะดุดตา

จุดเด่นอีกอันที่เห็นก็คงเป็นรถโบราณ คันนี้

เข้ามาด้านใน lobby กันบ้าง

โต๊ะทำจากถังน้ำมัน ประดับด้วยกระดุม และกระจก เก๋ไก๋

สิ่งเล็กๆน้อยๆที่คนอื่นทิ้ง อย่างฝาเบียร์ ก็นำมาประยุกต์ ตกแต่ง ได้เช่นกัน

แอบเก็บภาพ การตกแต่ง อยากให้ของตัวเองตกแต่งได้แบบนี้ บ้าง

ขึ้นบันใด ไปดู ข้างบนห้องกันครับ

ผมได้ ชั้นสองครับ มีทั้งหมด สี่ชั้น ไม่มีลิฟท์ ครับ

ประตูสีแดงตัดกับผนังปูนเปลือยที่ทาสีเทา แสบตาดีจัง

ดูภายในห้องกันครับ เตียงใบใหญ่กลางห้อง นุ่มพอประมาณ หมอนสองใบ น้อยไปหน่อย ห้องแคบไปนิด

ดูกันชัดๆว่าแคบแค่ใหน ดังนั้นห้องที่นี่ไม่เหมาะ สำหรับ กลุ่มที่ชอบกิจกรรมในห้องครับ (อย่าคิดไปไกลละ) แสงสว่างในห้องเป็นหลอดไฟสี่ดวง สามดวงเป็นแสงคลูไลท์ อีกดวงเป็นสีน้ำเงินไม่แน่ใจว่าหลอดเสียหามาเปลี่ยนไม่ได้ หรือตั้งใจกันแน่ครับ

ภาพรวมของห้อง ในราคา พันต้นๆ เพราะจองช่วงไฮ ล่วงหน้าแค่ สองวัน ผมถือว่าโอเค ครับ เพราะ อย่างน้อยผม ชอบในการบริการของพนักงานที่เป็นกันเองและคอยจัดการเรื่องต่างๆไม่ว่าจะเป้น เกาะตาชัย หรือ แม้กระทั้ง ผมลืม กล้องทิ้งไว้ข้างล่างที่ลอบบี้ ตอนไปส่งเด็กดอยขึ้นนอนพนักงานก็เก็บไว้ให้ครับ

ข้อเสีย ของโรงแรมคือ ไม่มีร้านอาหาร บริการในโรงแรม ทำให้ ลำบากเล็กน้อย แต่กับทำเลที่อยู่ไม่ไกล จังซีลอนมากนัก ก็พอรับได้

ภาพโรงแรมในตอนกลางวัน ตกแต่งสะดุดตาจริงๆ

โปรแกรมวันนี้ ไม่มีอะไรครับ เดินเที่ยวหาดป่าตอง ที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในตอน สายๆ

ที่หาดป่าตอง จะเห็นเก้าอี้นอนอาบแดดที่วางเรียงรายเป็นทางยาวสุดลูกหูลูกตา

และภาพที่พบเห็นจนชินตา

ท่าเดิม (ท่าไม้ตาย)แต่เปลี่ยนสถานที่ เป้นร้านขายรูปและรับสัก ของ ญาติที่อยู่ที่นั่น เพราะ วันนี้เพื่อนจะพาไปเที่ยว

หลังจากคุยถามสารทุกสุขดิบกันแล้ว ตอนเย็นก็พากันไปทานอาหารทะเล ที่หาดราไวย์ เพื่อรอเวลา ขึ้นไปจุกชมพระอาทิตย์ตกที่แหลพรมเทพ เป็นร้านอาหารที่อยู่ข้างทางเรียงราย เลือกร้านได้ตามสะดวก อาหารทะเลสดๆ จากเรือเลย ว่างั้น พามากิน ส้มตำ น้ำตก ที่ทะเล ซะ ถูกใจเด็กดอย เค้าหละ

เมื่อถึงเวลา ก็เดินทางไปที่จุดชมวิวแหลมพรมเทพ อันลือชื่อ คนเยอะมากๆ จนแทบจะเหยียบกันตายก็ว่าได้ ไม่ต่างอะไร กับภูชี้ฟ้าบ้านผมตอนสิ้นปี

ระหว่างรอเวลา ก็เหลือบไปเห็น คู่รัก มาถ่ายพรีเว็ดดิ้ง เลยแอบเก็บภาพมาเล็กน้อย

คนก็เยอะ ถ้าเป้นผมคงถ่ายไม่ไหว อายม้วนต้วนไปแน่ๆ

แต่ก็อย่างว่านะครับ ทีใครก็ทีมัน ครั้งเดียวในชีวิต จะมัวอายอยู่ก็ไม่ได้ เจ้าสาวตบตายแน่เลย หุหุ เห็นแล้วนึกถึงช่วงเวลาของตัวเองตอนนั้น

ไกล้ถึงเวลา ก็ไปจับจอง มุมสวยๆ ปลอดผู้คน ซะ หน่อย เพื่อเก็บภาพ พระอาทิตย์ ตกน้ำซะหน่อย

ก็คงต้องเดินลงไป บุกป่าฝ่าหนามเล็กน้อย

แสงสุดท้ายกับแหลมพรมเทพ สวยงามไม่น้อย เสียดายที่ มุมพระอาทิตย์ตก ไม่ตรงกับปลายแหลม ไม่งั้ยสวยสุดๆไปเลย

เมื่อสิ้นแสงตะวัน ก็หมายถึงหมดเวลาเที่ยวแล้วสำหรับคนบางคน ที่ต้องเตรียมตัวไปทำงานในวันพรุ่งนี้ แต่สำหรับเรายังมีเวาเที่ยวอีกนึงวันในภูเก็ต

กว่าจะลงมาจากแหลมพรมเทพได้ ใช้เวลาเกือบชั่วโมง เราก็เดินทางมาที่ร้านอาหารที่ชื่อครัวกันเอง เพื่อพาเด็กดอยมากิน อาหารทะเล สมใจอยาก

แน่นอนหนึ่งในเมนูนั้น ต้องมี หมึกไข่นึ่งมะนาว

และเมนูที่แนะนำให้ลองกันที่ร้านนี้คือ ปูนิ่มผัดผง อร่อยมากจานนี้ แม้จะแอบแพงไปนิด

หลังจากนั้นก็กลับที่พัก และแวะดื่มอะไรเล็กน้อยตามประสาคนนานๆเจอกันที่ ก่อนจะเข้านอนเพื่อ เตรียมตัวไปเที่ยว วันพรุ่งนี้ วันสุดท้าย โดยเพื่อนอีกคน จะพาทัวร์

ตื่นมาสายๆ เพราะ ต้องรอเพื่อน ที่ เลิกงานดึกเมื่อคืนนัดไว้ สิบโมง เลยบอกเพื่อนว่าอยากไปกินติ่มซำ ซะหน่อย จากการเช็คแล้ว เวลา เกือบเที่ยงแบบนั้น ร้านติ่มซำที่ภูเก็ต ปิดเกือบหมดแล้ว เลยเหลือร้านที่ยังขายอยู่คือ ร้านนี้ ภูเก็จ โภชนา ไม่แน่ใจว่าทำไมถึงต้องสะกดด้วย จ จาน

ร้านนี้ตกแต่งสวยดี ครับ ต่างจากร้านอื่นๆ ในภูเก็ต

มาดูติ่มซำกันบ้าง ฮะเก๋า แอนด์ ซาลาเปา รสชาดดี ไม่เหนียวติดปาก ซาลาเปาแป้งนุ่มดี ใส้ เยอะ

จีบกุ้ง แอนด์ แฮมพันหมู จีบกุ้ง ของโชคดีติ่มซำ อร่อยกว่าครับ เนื้อกุ้งเยอะกว่าเห็นๆ กรุบกรอบกว่า ของที่นี่

หลังจากอิ่มกันแล้ว ก็เดินทางไปชมในตัวเมืองภูเก็ต แถบเมืองเก่า

ที่นี่ จะเป็นอาคารที่มีสาปัตยกรรมที่เรียกว่า ชิโน-โปตุกีส เป็นการผสมผสานระหว่าง สถาปัตยกรรมแบบจีนและโปตุกีส

ที่ผสมผสานเข้ากันอย่างลงตัว

ฟ้าเป็นใจอีกแล้ว เมฆสวยๆ กับวิวตึกโบราณ สองข้างทาง

ที่ถนนนี้ ก็จะพบเห็น ตากล้อง นักวาดภาพ อยู่เยอะ เพราะความงดงามของอาคารที่คลาสสิกยิ่งนัก

ไม่แปลกที่ภูเก็ต เป็นเมืองที่คราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยว เพราะ มีทุกอย่างที่นักท่องเที่ยวต้องการ

มุมสวยๆอีกมุมนึง ที่ ถูกบดบังด้วยสายไฟของการไฟฟ้า และสายโทรศัพท์ ขององการโทรศัพท์ เห็นแบบนี้ อยากถอย 10-20 ออกมาสักตัว

มาภูเก็ต ก็ต้องไปไหว้พระที่ วัดฉลอง กันหน่อย

แวะสัการะหลวงพ่อแช่ม กันหน่อย เพื่อว่าให้รู้ว่ามาถึงแล้ว ก็ต้องถ่ายรูป

ออกจากวัดหลวงพ่อแช่ม ก็แวะวัดพระใหญ่ ที่ทำจากหินอ่อน อลังการงานสร้าง จริงๆ

หลังจากอิ่มบุญไปตามๆกัน ก็เตรียมตัวเดินทางกลับ กทม

สุดท้ายนี้ ขอบคุณเด็กดอยที่ยอมไปเหนื่อยด้วยกัน ขอบคุณหางแดงเพื่อนรักที่ทำให้มีโอกาสเที่ยวได้บ่อยๆ ขอบคุณ เพื่อนๆ ทุกคนที่ภูเก็ต ที่สละเวลาพาเที่ยว แม้งานจะยุ่ง ในช่วง ไฮซีซั่น ขอบคุณ ทุกเม้น ทุกปาด ทุก like และ ทุก share เพื่อเป็นกำลังใจในการรีวิวทุกๆครั้ง ลากันด้วยภาพนี้แล้วกันครับ หลับฝันดีทุกๆคน

น้ำใส ทรายสวยมาก

เป็นทะเลที่ฟ้าใส หาได้ยากมากๆในปีนี้

ขอบคุณครับ

ผมไปช่วง เดือน กพ ครับ

เยี่ยมเหมือนเดิมครับ

ขอบคุณ ที่แวะมาชมครับ

ภาพสวย อ่านเพลินเลย เดี๋ยวจะตามไปเกาะตาชัยบ้างนะคะ

น้ำใสกิ๊กเลยนะท่าน

ขอบคุณครับ ที่แวะมา

อ่านรีวิวนี้แล้วอยากไปเกาะตาชัยขึ้นมาเลย!! ขอบอกว่าไม่เคยรู้จักเกาะตาชัยมาก่อน ต้องขอบคุณคุณ tummeng ด้วยนะคะ ซักวันจะไปตามรอยบ้าง คิดถึงภูเก็ตขึ้นมาตะหงิดๆ อิอิ

ขอบคุณครับ ต้องไปดูด้วยตัวเอง

Scroll to Top
Send this to a friend