เที่ยวเมือง “ชา ละ วัน” ใน 1 วัน

การเดินทางครั้งนี้มีเวลาไม่มาก แต่อยากจะแอ่วเหนือกับเขาบ้าง อย่าเพิ่งไปไกลนะคะ แค่เหนือภาคกลางเท่านั้นเอง^^ พิจิตร 1 ใน 55 เมืองรอง ที่ทุกคนคงเคยคิดว่า พิจิตรเป็นแค่จังหวัดทางผ่าน ไม่น่าจะมีอะไรเที่ยว???

เมื่อพูดถึงก็จะนึกได้ว่ามี “ชาละวัน” แต่นอกเหนือจากนั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวให้เราได้ไปเพิ่มพลังบวกได้อีกแอดมินจะพาไปเที่ยวพิจิตรใน 1 วันตามสไตล์คนมีเวลาน้อยจัดแบบเรา หรือใครอยู่จังหวัดใกล้ๆแต่ยังไม่มีโอกาสได้ไปก็ลองแวะเข้าไปเที่ยวเชื่อว่ามีอะไรมากกว่าทางผ่านแน่นอนค่ะ

พิจิตร จุดเชื่อมต่อระหว่างภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบน เราจะใช้เส้นทางนี้ที่จะขึ้นภาคเหนือ ใน 1 วันที่พิจิตรเราก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปเยือนสถานที่ท่องเที่ยว สิ่งที่น่าสนใจมีอะไรให้เที่ยวกัน นอกจากเรื่องกินแล้วแอดมินก็สายบุญนะคะ แอ่วเหนือภาคกลางนิดเดียว ไม่ไกลเลยเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมงกว่าๆจากกรุงเทพโดยรถยนต์ หรือเพื่อนๆอยู่จังหวัดไม่ไกลแต่ยังไม่ได้เข้าไปเยือน ลองเเวะเข้าไปนะคะ มีอะไรให้เที่ยวมากกว่าเป็นทางผ่านอีก

เช้ามืดนี้เราเดินทางออกจากกรุงเทพฯ เราแวะกันที่แรกสักการะหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน หรือ วัดหิรัญญาราม เดิมชื่อ วัดวังตะโก ริมแม่น้ำน่าน อยู่ที่อำเภอโพทะเล 

หลวงพ่อเงินท่านมีชื่อเสียงโด่งดังมากและขึ้นชื่อวัตถุมงคลของชาวพิจิตรเลื่องลือทางด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย เป็นที่นิยมของเหล่าเซียนพระมากมายที่ต้องหามาบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล จุดที่น่าสนใจภายในวัดนี้คือ พิพิธภัณฑ์นครไชยบวร 

พิพิธภัณฑ์นครไชยบวร เป็นมณฑป 2 ชั้น ชั้นบนได้ประดิษฐานรูปหล่อเท่าองค์จริงหลวงพ่อเงิน เกจิอาจารย์ที่ประชาชนเคารพนับถือเป็นอย่างยิ่ง และท่านเคยจำพรรษาอยู่ที่วัดนี้ ส่วนชั้นล่าง จะจัดแสดงโบราณวัตถุต่างๆ เช่น พระพุทธรูป เครื่องปั้นดินเผา สามารถมาเที่ยวชมได้ทุกวันเปิดตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น.

เราเดินทางเข้าสู่อ.เมืองจึงพลาดไม่ได้ที่จะเเวะ วัดท่าหลวง อำเภอเมืองพิจิตร อยู่ริมฝั่งแม่น้ำน่านฝั่งตะวันตก ใกล้ศาลากลางจังหวัด สร้างขึ้นสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อประมาณ พ.ศ.2388 ภายในอุโบสถประดิษฐานหลวงพ่อเพชร

หลวงพ่อเพชร วัดท่าหลวง เรามาพิจิตรต้องไม่พลาดที่จะมากราบหลวงพ่อเพชร สวยงามอะไรเบอร์นี้คะถือว่าเป็นวัดสำคัญของเมืองพิจิตร งดงามมากค่ะ พระอุโบสถเปิดให้เข้านมัสการหลวงพ่อเพชรได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00 – 16.00 น.

ออกมาไม่ไกลกันมากก็เดินทางมาที่ บึงสีไฟ อยู่ที่ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิจิตร เป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่อันดับสามของประเทศและยังเป็นบึงที่เพาะพันธุ์ปลาน้ำจืด โดยปกติประชาชนทั่วไปชาวพิจิตรหรือนักท่องเที่ยวต่างจังหวัดก็มาชมพระอาทิตย์ตกกันที่นี่ ถือว่าเป็นสถานที่พักผ่อน นั่งที่ศาลาริมน้ำชมสีของน้ำที่สะท้อนกับแสงพระอาทิตย์กำลังจะตกประหนึ่งว่าเป็นสีของไฟ สวยงามตามท้องเรื่องเลยค่ะเพื่อนๆ

ส่วนของด้านหน้าบึงสีไฟนั้น เพื่อนๆก็จะเห็นรูปปั้นพญาชาละวันยักษ์ใหญ่ของที่นี่ อ้าปากให้เรามาแต่ไกล มาถึงแล้วก็ต้องแชะภาพคู่ด้วยกันหน่อยค่ะ เดี๋ยวหาว่าไม่ถึง

บริเวณโดยรอบจะจัดทำเป็นสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ฯ พิจิตร สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เนื่องในวโรกาสพระชนมายุครบ 80 พรรษา

วัดโพธิ์ประทับช้าง อำเภอโพธิ์ประทับช้าง วัดนี้แค่เห็นก็สะดุดตามากค่ะเป็นโบราณสถานเก่าแก่ที่ได้ขึ้นทะเบียนโดยกรมศิลปากรแล้ว สร้างสมัยสมเด็จพระสุริเยนทราธิบดี หรือพระพุทธเจ้าเสือ พระนามเดิมคือขุนหลวงสรศักดิ์ แห่งกรุงศรีอยุธยา คุณพระ! 300 ปีมาแล้ว พระเจ้าเสือทรงโปรดให้สร้าง เป็นอนุสรณ์ระลึกสถานที่พระองค์ประสูติ ณ สถานที่แห่งนี้

สิ่งที่ได้เห็นนั้น ขนาดของวัดนั้นค่อนข้างใหญ่ ซุ้มประตูวัดมีขนาดสูงใหญ่ มีกำแพงล้อมรอบ 2 ชั้นซึ่งเป็นศิลปะสมัยอยุธยา

ภายในอุโบสถมีพระพุทธรูปเป็นพระประธานประจำอุโบสถวัดโพธิ์ประทับช้างเรียกกันว่า “หลวงพ่อโต”

ก่อนกลับแวะซื้อของฝากจากกลุ่มแม่บ้านเกษตรสามัคคีโพธิ์ประทับช้างได้เลยค่ะ ของเด็ดเมืองพิจิตร ส้มโอท่าข่อย หรือมีผลิตภัณฑ์แปรรูปเป็นส้มโอแก้วสี่รสเปรี้ยวปาก ฟินเฟ่อ!

Scroll to Top
Send this to a friend