สระบุรี – ลพบุรี ทริปดีๆ ไม่ไกลกรุง

วันนี้แอดมีตัวอย่างเส้นทาง “2 วัน 1 คืน สระบุรี – ลพบุรี ทริปดีๆ ไม่ไกลกรุง” มาฝาก

เป็นเส้นทางท่องเที่ยวสั้นๆ เหมาะสำหรับไปกับครอบครัว ซึ่งสถานที่ที่เลือกมาส่วนใหญ่เป็นสถานที่เปิด มีพื้นที่กว้างขวาง อากาศถ่ายเทสะดวก

แต่ก็ต้องอย่าลืมที่จะ social distancing เว้นระยะห่างทางสังคม ปฏิบัติตัวตามวิถี New Normal ให้ชิน เพื่อเป็นการรักษาสุขอนามัยที่ดีของตนเองและผู้อื่นด้วย

วันที่ 1
– วัดพระพุทธฉาย จ.สระบุรี
– วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร จ.สระบุรี
– ศาลพระกาฬ จ.ลพบุรี
– พระปรางค์สามยอด จ.ลพบุรี
– วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.ลพบุรี

วันที่ 2
– พระนารายณ์ราชนิเวศน์ จ.ลพบุรี
– พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์ จ.ลพบุรี
– บ้านเจ้าพระยาวิชาเยนทร์ จ.ลพบุรี
– ร้านกระเพรา & coffee จ.ลพบุรี

เริ่มกันที่ วัดพระพุทธฉาย ตั้งอยู่ที่เชิงเขาปถวี (ปฐวี) ต.หนองปลาไหล อ.เมือง จ.สระบุรี

ตามประวัติไม่ปรากฏแต่ชัดว่าสร้างขึ้นเมื่อใด แต่สันนิษฐานว่าราว พ.ศ.2163-2171 ภายหลังจากที่มีการค้นพบรอยพระพุทธบาทที่ อ.พระพุทธบาท แล้ว พระเจ้าทรงธรรมก็ได้มีรับสั่งให้ค้นหารอยพระพุทธบาทตามภูเขาทุกแห่ง และได้พบพระพุทธฉาย ณ ที่แห่งนี้

ในสมัยพระเจ้าเสือมีการสร้างมณฑปครอบรอยพระพุทธฉายเอาไว้ ซึ่งได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์เรื่อยมา

พระพุทธฉาย หรือรอยพระพุทธรูป มีลักษณะเป็นภาพสีแดงคล้ายพระพุทธเจ้าที่มีรัศมีรอบพระวรกาย อยู่บริเวณเชิงเขาปถวี

พระมหากษัตริย์และเชื้อพระวงศ์หลายพระองค์ ตั้งแต่สมัยอยุธยาจนถึงปัจจุบัน ได้เคยเสด็จมานมัสการพระพุทธฉายแห่งนี้

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้เสด็จมาที่นี่ และทรงจารึกพระปรมาภิไธยย่อ จปร. ณ บริเวณผาด้านทิศตะวันตกของมณฑปพระพุทธฉาย นอกจากนี้ยังมีพระนามาภิไธยของพระบรมวงศานุวงศ์อีกหลายพระองค์ ซึ่งยังคงปรากฏชัดเจนจนถึงปัจจุบันนี้

นอกจากนั้นด้านบนยอดเขายังเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทเบื้องขวาของพระพุทธเจ้า และเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นได้ 360 องศาเลย

วัดพระพุทธฉาย
ที่ตั้ง ต.หนองปลาไหล อ.เมือง จ.สระบุรี
เปิดทุกวัน
วันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่ 08.00-17.00 น.
วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่ 08.00-18.00 น
พิกัด https://goo.gl/maps/fxRaGQCJEtLKNiVGA

สถานที่ต่อมาคือ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ที่ ต.ขุนโขลน อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี

สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2167 หลังจากที่ได้มีการค้นพบ “รอยพระพุทธบาทบนแผ่นดินเหนือไหล่เขาสุวรรณบรรพต หรือเขาสัจจพันธคีรี” ซึ่งพระเจ้าทรงธรรมทรงเห็นว่าเป็นรอยพระพุทธบาทที่มีลวดลายมงคล 108 ประการ จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างมณฑปครอบรอยพระพุทธบาทไว้

หลังจากนั้นก็ได้เสด็จมานมัสการเรื่อยมาจนกลายเป็นประเพณี และวัดพระพุทธบาทก็ได้รับการทำนุบำรุงตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาจนถึงปัจจุบัน

ตามคติโบราณกล่าวไว้ว่า หากได้มานมัสการรอยพระพุทธบาทแห่งนี้ครบ 7 ครั้ง จะได้ไปจุติยังสรวงสวรรค์ และแม้แต่ในชาติภพนี้ อานิสงส์ผลบุญก็จะส่งให้ชีวิตมีแต่ความสำเร็จสมหวังทุกประการ

เทศกาลประเพณี
– งานนมัสการรอยพระพุทธบาท จัดขึ้นปีละ 2 ครั้ง คือ ระหว่างวันขึ้น 8 ค่ำ – แรม 1 ค่ำ เดือน 3 และระหว่างวันขึ้น 8 ค่ำ – แรม 1 ค่ำ เดือน 4

– งานตักบาตรดอกไม้ จัดขึ้นในวันเข้าพรรษาของทุกปี ตรงกับวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8

วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร
ที่ตั้ง เขาสุวรรณบรรพต อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี
เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 06.00-18.00 น.
พิกัด https://goo.gl/maps/DccHGR5T2nhuNDiW7
 

จากนั้นก็เข้าเมืองลพบุรีกัน มาลพบุรีทั้งทีถ้าไม่แวะไปศาลพระกาฬถือว่ามาไม่ถึงถิ่น เพราะที่แห่งนี้เปรียบเสมือนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองลพบุรี

ศาลพระกาฬ เป็นเทวสถานขอมเก่าแก่ที่สร้างด้วยศิลาแลง ตั้งอยู่บนฐานสูง ผู้คนจึงเรียกกันว่า “ศาลสูง”

ภายในเป็นที่ประดิษฐานเจ้าพ่อพระกาฬ ซึ่งมีลักษณะเป็นเทวรูปประทับยืน ทำด้วยศิลา สันนิษฐานว่าเป็นเทวรูปพระนารายณ์ นอกจากนี้ยังมีศิลาจารึกแปดเหลี่ยมอักษรมอญโบราณอีกด้วย

บริเวณโดยรอบศาลพระกาฬ เป็นที่อยู่อาศัยของเหล่าฝูงลิงน้อยใหญ่ ที่จะคอยเข้ามาทักทายและขออาหารจากนักท่องเที่ยวอยู่เป็นประจำ

ศาลพระกาฬ
ที่ตั้ง ต.ท่าหิน อ.เมือง จ.ลพบุรี
เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 05.30-18.00 น.
พิกัด : https://goo.gl/maps/SdxeVMFywrF2

ไปต่อกันที่ พระปรางค์สามยอด ซึ่งถือเป็นแลนด์มาร์กของจังหวัดเลยก็ว่าได้

มีลักษณะเป็นปราสาทศิลาแลงเรียงต่อกัน 3 องค์ ศิลปะขอมแบบบายน ด้านหน้าทางทิศตะวันออกมีวิหารที่สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปศิลาขนาดใหญ่ปางสมาธิ

พระปรางค์สามยอดถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดลพบุรี

พระปรางค์สามยอด
ที่ตั้ง ต.ท่าหิน อ.เมือง จ.ลพบุรี
เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 08.00-18.00 น.
ค่าเข้าชม ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 50 บาท
พิกัด https://goo.gl/maps/TGwHQS4nrBz

ปิดท้ายวันแรกกันที่ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ต.ท่าหิน อ.เมือง จ.ลพบุรี

วัดนี้ไม่มีประวัติการสร้างแน่ชัด แต่นักวิชาการสันนิษฐานกันว่าสร้างขึ้นก่อนการสถาปนากรุงศรีอยุธยา

สิ่งที่น่าสนใจภายในวัดคือ “ปรางค์ประธาน” ซึ่งนับเป็นปรางค์รุ่นแรกที่พัฒนามาจากปราสาทแบบขอม และยังเป็นปรางค์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในลพบุรีอีกด้วย

“วิหารหลวง” สร้างในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นวิหารขนาดใหญ่ที่ผสมผสานศิลปะแบบไทยและตะวันตกเข้าด้วยกัน สังเกตได้จากหน้าต่างที่มีลักษณะโค้งแหลมแบบศิลปะโกธิค

นอกจากนี้ภายในวัดยังมีเจดีย์และปรางค์หลากหลายรูปแบบซึ่งยังคงสภาพดีหลงเหลือให้ชมอยู่

ปรางค์ประธานองค์นี้ ยังได้รับการยกย่องจากสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ให้เป็น 1 ใน “8 จอมเจดีย์แห่งสยาม” อีกด้วย

วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ
ที่ตั้ง ต.ท่าหิน อ.เมือง จ.ลพบุรี
เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 08.30-16.00 น.
ค่าเข้าชม ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 50 บาท
พิกัด https://goo.gl/maps/yu7cFNdweaE1eb3f6

วันที่ 2 เริ่มต้นกันที่ พระนารายณ์ราชนิเวศน์ ช่วงที่ละครบุพเพสันนิวาสกำลังมาแรงนั้น มีคนเดินทางมาตามรอยละครที่นี่กันเป็นจำนวนมาก

สมเด็จพระนารายณ์มหาราช โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชวังแห่งนี้ขึ้นเมื่อ พ.ศ.2207 ต่อมาได้รับการบูรณะและสร้างเพิ่มเติมในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 และพระราชทานนามว่า “พระนารายณ์ราชนิเวศน์“

ปัจจุบัน พระที่นั่งพิมานมงกุฎ พระที่นั่งจันทรพิศาล และหมู่ตึกพระประเทียบบางหลังใช้เป็นอาคารจัดแสดงของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์

ภายในพระนารายณ์ราชนิเวศน์ ประกอบด้วยโบราณสถานสำคัญ ได้แก่ พระที่นั่งดุสิตสวรรค์ธัญญมหาปราสาท ตึกพระเจ้าเหา อาคารสิบสองท้องพระคลัง ฯลฯ สามารถเข้าไปศึกษาและถ่ายภาพสวยๆ กันได้

แต่ที่สำคัญต้องสำรวม และไม่แสดงกริยาไม่เหมาะสมนะทุกคน

พระนารายณ์ราชนิเวศน์
ที่ตั้ง ต.ท่าหิน อ.เมือง จ.ลพบุรี
เปิดวันพุธ-อาทิตย์ ตั้งแต่ 08.30-16.30 น. (ปิดวันจันทร์-อังคาร วันหยุดนักขัตฤกษ์ และวันหยุดชดเชย)
ค่าเข้าชม ชาวไทย 30 บาท ชาวต่างชาติ 150 บาท
พระภิกษุ สามเณร นักเรียน-นักศึกษาในเครื่องแบบและผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ไม่เสียค่าเข้าชม
พิกัด https://goo.gl/maps/hWpxDLK4MZA5hX2a6

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์

ก่อตั้งขึ้นโดยสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ และสมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ซึ่งได้ทรงรวบรวมโบราณวัตถุที่พบใน จ.ลพบุรี มาจัดแสดงไว้ เปิดให้เข้าชมครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.2467 และประกาศเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเมื่อ พ.ศ.2504

ภายในแบ่งเป็น 3 ส่วนได้แก่

1. พระที่นั่งจันทรพิศาล จัดแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนารายณ์มหาราชเรื่อง “ประวัติศาสตร์ไทยครั้งรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช” แสดงภาพประวัติศาสตร์ เหตุการณ์สำคัญและโบราณวัตถุที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช

นอกจากนี้ยังจัดแสดงงานประณีตศิลป์สมัยกรุงศรีอยุธยาและกรุงรัตนโกสินทร์อีกด้วย

2. พระที่นั่งพิมานมงกุฎ เป็นอาคาร 3 ชั้น จัดแสดงเรื่องเกี่ยวกับพัฒนาการเมืองลพบุรี ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์จนถึงปัจจุบัน

ชั้น 1 จัดแสดงลำดับพัฒนาการทางประวัติศาสตร์เมืองลพบุรี ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ จนถึงสมัยทวารวดี

ชั้น 2 จัดแสดงลำดับพัฒนาการเมืองลพบุรีต่อเนื่องจากชั้นที่ 1 เข้าสู่ช่วงอิทธิพลศิลปะเขมรในประเทศไทย ต่อเนื่องมาจนถึงสมัยอยุธยาและรัตนโกสินทร์

ชั้น 3 ห้องประวัติศาสตร์ การเมือง สังคม วัฒนธรรม และพระราชประวัติของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 โดยจัดแสดงร่วมกับภาพพระบรมสาทิสลักษณ์ ฉลองพระองค์ เครื่องใช้ พระแท่นบรรทม เหรียญทอง และจานชามตกแต่งด้วยรูปมงกุฎซึ่งเป็นพระราชลัญจกรประจำพระองค์ เป็นต้น

3. หมู่ตึกพระประเทียบ จัดแสดงวิถีชีวิตพื้นบ้านของชาวลพบุรีในแง่มุมต่างๆ เช่น การดำรงชีวิต ที่อยู่อาศัย สิ่งของเครื่องใช้พื้นบ้าน เครื่องมือประกอบอาชีพ ฯลฯ

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์
ที่ตั้ง อยู่ภายในพระนารายณ์ราชนิเวศน์ ต.ท่าหิน อ.เมือง จ.ลพบุรี
เปิดวันพุธ-อาทิตย์ ตั้งแต่ 08.30-16.00 น. (หยุดวันจันทร์-อังคาร วันหยุดนักขัตฤกษ์ และวันหยุดชดเชย)

เที่ยวต่อที่บ้านวิชาเยนทร์ หรือบ้านหลวงรับราชทูต

บ้านหลังนี้สร้างขึ้นเพื่อใช้ต้อนรับคณะทูตจากฝรั่งเศสชุดแรกที่เข้ามายังกรุงศรีอยุธยา เมื่อ พ.ศ.2228 ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช และเป็นเรือนหอของท้าวทองกีบม้ากับเจ้าพระยาวิชาเยนทร์ (คอนสแตนติน ฟอลคอน) สมุหนายกชาวกรีก

คอนสแตนติน ฟอลคอน เข้ามารับราชการในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ภายหลังได้รับการแต่งตั้งให้เป็น “เจ้าพระยาวิชาเยนทร์” และได้รับพระราชทานที่พักอาศัยให้อยู่ทางด้านทิศตะวันตกของบ้านหลวงรับราชทูต

ปัจจุบันบ้านวิชาเยนทร์เหลือเพียงซากปรักหักพัง ภายในยังมองเห็นโครงสร้างที่แบ่งได้เป็นสามส่วนคือ ส่วนทิศตะวันตก ส่วนกลาง และส่วนทางทิศตะวันออก

ส่วนทิศตะวันตก สันนิษฐานว่าเป็นบ้านพักของเจ้าพระยาวิชาเยนทร์และท้าวทองกีบม้า

ส่วนกลาง สันนิษฐานว่าเป็นหอระฆังและโบสถ์ในศาสนาคริสต์ ซึ่งถือเป็นโบสถ์หลังแรกของโลกที่ตกแต่งในแบบศาสนาพุทธ ผสมผสานกับสถาปัตยกรรมยุโรปยุคเรอเนซองส์

ส่วนทิศตะวันออก สันนิษฐานว่าเป็นบ้านพักรับรองเหล่าคณะทูต

บ้านวิชาเยนทร์
ที่ตั้ง ต.ท่าหิน อ.เมือง จ.ลพบุรี
เปิดวันพุธ-อาทิตย์ ตั้งแต่ 08.30-17.00 น. (ปิด วันจันทร์-อังคาร)
ค่าเข้าชม ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 50 บาท
พิกัด https://goo.gl/maps/RuNwoq99ezLs9grJ6

ปิดท้ายทริปที่ ร้านกระเพรา & coffee ร้านอาหารและร้านกาแฟที่มีฉากหลังเป็นเขาจีนแล จังหวัดลพบุรี

ไฮไลท์อยู่บริเวณด้านหลังของร้าน เพื่อนๆ จะพบกับสะพานไม้ที่ทอดยาวออกไปกลางทุ่งดอกคอสมอส และมีเขาจีนแล ภูเขาหินปูนที่มีรูปร่างแปลกตาสวยงามเป็นฉากหลัง

“คอสมอส” หรือ “ดาวกระจาย” เป็นพืชดอกที่ปลูกง่าย เลี้ยงง่าย โตเร็ว และเติบโตได้ในทุกที่ที่มีแดดจัด หาชมได้ตลอดทั้งปีเลย

นอกจากวิวจะสวยแล้ว อาหารที่แอดสั่งมาหน้าตาดีอยู่นะ รสชาติก็อร่อยใช้ได้เลย

มีทั้งอาหารไทยที่เป็นซิกเนเจอร์อย่างข้าวกะเพราไก่ไข่ดาว เมนูยอดฮิตที่มาแล้วต้องสั่ง อาหารฝรั่งอย่างสเต็กก็มีทั้งหมู ไก่ และเนื้อให้เลือกตามความชอบ ส่วนเมนูสำหรับคนรักสุขภาพอย่างสลัดก็สดอร่อยเช่นกัน

กระเพรา & Coffee
ที่ตั้ง 9/6 หมู่ 6 ต.นิคมสร้างตนเอง อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี
เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 08.00-17.30 น.
โทร. 081 901 7495
พิกัด : https://goo.gl/maps/AwT1EDYyFtE2

Scroll to Top
Send this to a friend