✨ ทองผาภูมิ…กรุ่นกลิ่นกาแฟ ล่องแพ ชมธรรมชาติ ✨

#กาญจนบุรี เป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายหลายประเภท วันนี้แอดจะชวนมาปักหมุดเส้นทางเที่ยว #ทองผาภูมิ ในหน้าฝนที่เต็มไปด้วยความชุ่มฉ่ำ ให้เพื่อน ๆ ได้ไปซึมซับกับธรรมชาติ กลิ่นอายสายฝน สายหมอก แถมยังเอาใจคอกาแฟอีกด้วย จะไปไหนกันบ้าง ไปดูกัน

เส้นทางท่องเที่ยวในอำเภอทองผาภูมิ เพื่อน ๆ สามารถเที่ยวได้ทั้งแบบ 2 วัน 1 คืน หรือหากมีเวลามากหน่อย ก็สามารถเที่ยวแบบชิล ๆ 3 วัน 2 คืนได้

  • 📍 1 ชม “บ้านสวนลุงยี” แหล่งปลูกกาแฟอาราบิก้าภาคกลาง (Ko-Yee Organic Farm)
  • 📍 2 ล่องแพ ชมวิว ที่ “เขื่อนวชิราลงกรณ”
  • 📍 3 ชมธรรมชาติ เที่ยวน้ำตก ที่ “อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ”
  • 📍 4 สัมผัสเมืองหมอก ณ “หมู่บ้านอีต่อง-ปิล็อก”
  • 📍 5 ชมวิวสุดเขตแดนสยาม บน “เนินเสาธง”
  • 📍 6 ชมวิวแบบ 360 องศา ที่ “เนินช้างศึก”

🚗 การเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังอำเภอทองผาภูมิ แนะนำให้เดินทางโดยรถส่วนตัวจะสะดวกที่สุด ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง หรือสามารถนั่งรถโดยสารสาธารณะได้ดังนี้

🚌 รถโดยสารปรับอากาศ
จากสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (สายใต้ใหม่) – กาญจนบุรี (อำเภอเมือง) สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ท่ากรุงเทพฯ 065 552 5145 ท่ากาญจนบุรี 034 514 572, 089 836 6463

🚐 รถตู้ รถมินิบัส
ขึ้นรถได้ที่สถานีขนส่งหมอชิต และขนส่งสายใต้ใหม่ สายกรุงเทพฯ – กาญจนบุรี (อำเภอเมือง) สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ หมอชิต โทร. 098 739 8034 สายใต้ใหม่ โทร. 086 311 1426 กาญจนบุรี โทร. 064 409 4706

🚂 รถไฟ
มีรถไฟเที่ยวพิเศษเส้นทาง กรุงเทพฯ (สถานีธนบุรี) – ผ่านอำเภอเมืองกาญจนบุรีแล้วสิ้นสุดที่สถานีน้ำตก ให้บริการทุกวันเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ทั้งขาไปและขากลับวันละ 1 เที่ยว สอบถามเพิ่มเติมได้ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. 1690

🚍 การเดินทางจากอำเภอเมือง ไปทองผาภูมิ สามารถต่อรถประจำทาง ที่ผ่านอำเภอทองผาภูมิ โดยลงที่หน้าตลาดอำเภอทองผาภูมิ มีทั้งรถตู้ และรถบัสพัดลมให้บริการดังนี้
– รถตู้และรถมินิบัส กาญจนบุรี – ด่านเจดีย์สามองค์
– รถบัสพัดลม (บัสแดง) สายกาญจนบุรี-สังขละบุรี (เบอร์รถ 8203)
เมื่อถึงหน้าตลาดทองผาภูมิแล้ว สามารถเช่ารถสองแถวเที่ยวภายในอำเภอได้ ราคาขึ้นอยู่กับระยะทางของเส้นทางท่องเที่ยว

บ้านสวนลุงยี ศูนย์เรียนรู้การปลูกกาแฟภาคกลาง ☕

เริ่มกันที่บ้านสวนลุงยี ในอำเภอทองผาภูมิ ไร่กาแฟภาคกลางที่หอมกรุ่นไปด้วยกลิ่นกาแฟคั่วใหม่ เจ้าของไร่วัยเกษียณเล่าว่า อดีตเคยทำธุรกิจในต่างประเทศ เมื่อตัดสินใจกลับมาใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างเรียบง่าย จึงมองหาสิ่งที่สนใจเมื่อกลับมาอยู่ไทย จนกระทั่งมีโอกาสได้เรียนรู้และศึกษาข้อมูลการปลูกกาแฟจนประสบความสำเร็จ

ที่นี่ปลูกกาแฟสายพันธุ์อะราบิกา ด้วยวิธีแบบเกษตรอินทรีย์ เพื่อให้กาแฟไร้สารเคมีปนเปื้อน ไม่เพียงแค่นั้น ที่นี่ยังคั่วและจำหน่ายเมล็ดกาแฟเองอีกด้วย เพื่อน ๆ จะได้ชิมกาแฟคั่วหอม ๆ จากแหล่งปลูกเลยล่ะ

บ้านสวนลุงยี เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมและทำกิจกรรมสนุก ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเก็บผัก ให้อาหารไก่ เพราะนอกจากจะเป็นไร่กาแฟแล้ว ที่นี่ยังทำเกษตรผสมผสานด้วย เรียกได้ว่า หาหยิบเก็บเอาจากในรั้วเลยล่ะ นอกจากนี้เพื่อน ๆ ยังจะได้ชิมขนมปังโฮมเมดที่อบใหม่จากฟาร์ม กินคู่กับกาแฟแล้วเข้ากันสุด ๆ 

หากสนใจพักค้าง ที่นี่ก็มีที่พักให้บริการ แถมตื่นเช้ามายังสามารถมาใส่บาตรให้อิ่มใจได้ด้วย หรือจะไปนั่งเล่นริมลำธารที่ติดกับสวนกาแฟก็ได้ เพื่อน ๆ ที่อยากหลีกหนีความวุ่นวายมาสัมผัสความสงบ บ้านสวนลุงยีตอบโจทย์มาก ๆ

แนะนำให้ติดต่อสอบถามรายละเอียดกิจกรรมและค่าบริการล่วงหน้า และที่ต้องแจ้งเพื่อน ๆ อีกเรื่องคือ ที่นี่จะมีสัญญาณโทรศัพท์ค่อนข้างอ่อน อาจทำให้การติดต่อมีติดขัดบ้าง

เขื่อนวชิราลงกรณ (เขื่อนเขาแหลม) ✨

วันที่สอง แอดจะพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวชมเขื่อนวชิราลงกรณกัน แนะนำให้มาเช้า ๆ นะ อากาศกำลังดี

เขื่อนวชิราลงกรณ เป็นเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำอเนกประสงค์ที่กั้นลำน้ำแควน้อย มีความสูงถึง 92 เมตร โอบล้อมด้วยขุนเขาที่ทอดยาวสุดสายตา อยู่ในความดูแลของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ขณะท่องเที่ยวในบริเวณเขื่อน อย่าลืมปฏิบัติตามคำแนะนำของสถานที่กันนะคะ 😉

จุดแรกคือ “เขาแหลม สกายวอล์ก” เป็นสะพานทางเดินกระจกใส ระยะทาง 34 เมตร มองเห็นวิวธรรมชาติได้อย่างกว้างขวาง แถมด้านข้างสกายวอล์กมีเนินสนามหญ้าและมีอุปกรณ์สไลเดอร์ให้เพื่อน ๆ ได้เล่นกันด้วย

หากรู้สึกหิว สามารถแวะรับประทานอาหารในร้านที่อยู่ติดกับสกายวอล์กได้ เปิดทุกวันตั้งแต่ 07.00-20.00 น. และในช่วงหยุดยาว ก็มักจะมีกิจกรรมออกร้านขายผลิตภัณฑ์จากเกษตรกรอีกด้วย

สุดขอบทางเดินสกายวอล์กมีม่านน้ำตกอันสวยงาม ถ้ามาที่นี่ในยามค่ำคืน เพื่อน ๆ ก็จะได้ชมไฟที่ประดับรอบ ๆ สกายวอล์กด้วย หากนึกภาพไม่ออก แอดมีภาพบรรยากาศตอนค่ำ ๆ มาให้ชมกัน 😍

ถัดมาแอดจะพาไปปั่นจักรยานเล่นที่สันเขื่อน ซึ่งอยู่ห่างจากสกายวอล์กไปประมาณ 3 กิโลเมตร ถนนสันเขื่อนนี้กว้างถึง 10 เมตร เพื่อน ๆ สามารถเช่าจักรยานของ กฟผ. ที่จัดไว้ให้มาปั่นเล่นกันได้ 🚲

นอกจากนี้ ภายในเขื่อนยังมีจุดเช็คอินอีกมาก หากเพื่อน ๆ มีเวลา ก็สามารถใช้เวลาที่นี่ได้ทั้งวันเลยล่ะ

  • 📍 444 หมู่ 1 ตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี
  • 📞 034 599 077, 088 777 7322
  • 🌐https://goo.gl/maps/XPZK97ZtFPoZsVEv9

อีกหนึ่งประสบการณ์ของคนที่มาเที่ยวเขื่อนก็คือ การเช่าเรือแพเที่ยวในทะเลสาบเหนือเขื่อน มีให้บริการทั้งแพพัก และแพล่อง จุดลงแพจะอยู่ใกล้ ๆ กับบริเวณทางเข้าเขื่อน มีให้บริการเช่ากันหลายเจ้าเลยนะ เพื่อน ๆ สะดวกแพไหน เลือกได้เลย 😊

มาเที่ยวเขื่อนทั้งที ทางเราไม่มีพลาดอยู่แล้ว ต้องขอล่องแพเสียหน่อย ได้กินอาหารอร่อย ๆ บนแพ พร้อมทั้งชมวิวรอบ ๆ นับว่าเป็นการมาเที่ยวที่คุ้มสุด ๆ 😍

อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ⛰️

ช่วงบ่ายแอดจะพาเพื่อน ๆ ไปเยี่ยมชมผืนป่าฝั่งตะวันตกที่มีความอุดมสมบูรณ์อย่างมาก เป็นถิ่นอาศัยของสัตว์ป่าที่หลากหลายที่สุดแห่งหนึ่ง มีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมมากกว่า 150 ชนิด นกมากกว่า 490 ชนิด มองไปทางไหนก็เห็นสีเขียวสบายตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหน้าฝนที่ยิ่งสวยชุ่มฉ่ำสดชื่นมาก

📍 ตำบลปิล๊อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี
📞 034 510 979, 098 252 0359
🌐https://goo.gl/maps/m6bncMajZKqBKTbt9

🏕️ บริเวณที่ทำการ มีลานกางเต็นท์ และบ้านพักให้บริการ หากเพื่อน ๆ ต้องการพักกับทางอุทยานฯ สามารถจองล่วงหน้าได้เลยนะ

แน่นอนว่าจุดพักแรมไม่ได้มีแค่ต้นไม้รายล้อม แต่ยังมีจุดชมวิวให้เพื่อน ๆ ได้ชม ตรงนี้เรียกว่า “เนินกูดดอย-ช้างเผือก” เพื่อน ๆ สามารถมองเห็นวิวของทะเลสาบเขื่อนวชิราลงกรณ และเขาช้างเผือกได้จากตรงนี้เลยล่ะ 😮

ใกล้จะหมดวันแล้ว แต่แอดยังมีอีกจุดหนึ่งที่จะพาเพื่อน ๆ ไปพักผ่อน เล่นน้ำเย็น ๆ นั่นคือ น้ำตกจ๊อกกะดิ่น

น้ำตกแห่งนี้อยู่ห่างจากอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิไปประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นน้ำตกชั้นเดียวที่มีน้ำตลอดทั้งปี ไหลจากผาสูงลงสู่พื้นที่มีลักษณะเป็นแอ่งน้ำ มองเห็นเป็นสีเขียวมรกต ดูสวยงาม น่าชม

หลังจากนำรถมาจอดที่จุดทางเข้าน้ำตกแล้ว จะต้องเดินเท้าอีก 2 กิโลเมตร เพื่อเข้าไปที่น้ำตก ถ้าได้มาในช่วงหน้าฝนแบบนี้ มีน้ำให้เล่นมากพอเลยล่ะ

นอกจากที่พักของอุทยานฯ แล้ว รอบ ๆ ยังมีสถานที่พักผ่อนและที่พักให้บริการหลายแห่ง รวมทั้ง “หมู่บ้านอีต่อง-ปิล๊อก” ซึ่งแอดก็จะไปพักที่นี่ด้วยเช่นกัน

หมู่บ้านอีต่อง-ปิล๊อก 🏡

หมู่บ้านอีต่อง เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่บนเขา มีอาณาเขตติดต่อกับเมียนมา ในอดีตมีการทำเหมืองแร่ดีบุก ก่อนจะปิดเหมืองเลิกทำไป ปัจจุบันหมู่บ้านและเหมืองเก่าของที่นี่ได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าดึงดูด เพราะนอกจากจะมีอากาศเย็นสบายแล้ว บรรยากาศของหมู่บ้านก็น่ารักมาก ๆ รวมทั้งถนนหนทางที่สะดวกขึ้น ก็ยิ่งทำให้นักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวกันมากขึ้น

อีกหนึ่งเหตุผลที่นักท่องเที่ยวหลายคนเลือกมาพักที่นี่ก็คือ การได้ตื่นเช้าขึ้นมาเห็นเมืองที่เต็มไปด้วยสายหมอก

หนึ่งในกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวนิยมเมื่อมาเที่ยวที่นี่ คือ การผูกป้ายชื่อไว้ที่สะพานของหมู่บ้านเพื่อเป็นที่ระลึกที่จุดเช็คอินของหมู่บ้านอีต่อง ซึ่งป้ายชื่อเหล่านี้ เพื่อน ๆ สามารถหาซื้อได้จากร้านค้าใกล้ ๆ 💕

นอกจากนี้ เพื่อน ๆ ยังสามารถเดินเล่นรอบหมู่บ้าน ใส่บาตร เที่ยวตลาดชิมอาหารอร่อย ๆ ยามเช้า หรือแวะชมธารน้ำตกเล็ก ๆ ที่อยู่ภายในหมู่บ้าน

📍 ตำบลปิล็อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี
🌐https://goo.gl/maps/fiAuQ8QCfAE6HWYB8

จุดชมวิวเนินเสาธง 🚩

ห่างจากหมู่บ้านไป 2 กิโลเมตร แอดจะพาเพื่อน ๆ ไปชมวิวสุดเขตแดนสยามที่ “เนินเสาธง” ยอดเขาที่มีธงระหว่างสองประเทศ ไทย-เมียนมา ตั้งเด่นอยู่ข้างกัน เรียกกันว่า “จุดประสานสัมพันธ์ไมตรีนิจนิรันดร์ ไทย-เมียนมา” เพื่อน ๆ สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้จากจุดนี้

📍 ตำบลปิล็อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี
🌐https://goo.gl/maps/bYn2Ka5CvsMZemEx5

จุดชมวิวเนินช้างศึก ⛰️

จุดเช็คอินสุดท้ายของทริปนี้ คือจุดชมวิวเนินช้างศึก หรือ ยอดดอยปิล็อก เป็นจุดชมวิวที่อยู่ในฐานปฏิบัติการช้างศึก ที่ตั้งฐานของตำรวจตระเวนชายแดนที่ 135
เป็นจุดชมวิวที่สวยงาม มองเห็นวิวได้ 360 องศา และมีลานกางเต็นท์ให้นักท่องเที่ยวที่ต้องการขึ้นมานอนค้างแรมบนนี้ เพราะที่นี่สามารถมองเห็นได้ทั้งพระอาทิตย์ขึ้น – ตก ยามกลางคืนก็มองเห็นดวงดาวชัด ตื่นเช้ามาชมทะเลหมอกที่ปกคลุมเขารอบ ๆ วิวที่เห็นนี้คือหมู่บ้านอีต่องนั่นเอง

Scroll to Top
Send this to a friend